นิสิตแพทย์ใช้ทุน 2 สองวันผ่านไปหลังจากเหตุการณ์กับยายเป้า ผมพยายามจมตัวอยู่กับงานเพื่อลืมความรู้สึกสับสนที่เกิดขึ้น แต่ก็อดนึกถึงความรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่นั้นไม่ได้
เช้าวันนั้น ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกอึดอัด ผมส่องกระจกมองตัวเอง เห็นใบหน้าคมเข้มแบบลูกครึ่งจีน-ไทย ผิวขาวเนียนไร้ที่ติ
"เฮ้อ... ทำไมคนหล่อๆ อย่างเราถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ" ผมพูดกับตัวเองในใจ
วันนั้นผมสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวพอดี กางเกงสแล็คสีดำ รองเท้าหนังอิตาลีคู่โปรด มุ่งหน้าไปโรงพยาบาล เสียงกรี๊ดของพยาบาลสาวๆ ดังขึ้นเมื่อผมเดินผ่าน แต่ผมแค่ยิ้มบางๆ ให้พวกเธอ ใจลอยนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
ขณะกำลังเดินไปตึกผู้ป่วยนอก ผมเห็นคุณลุงวัย 70 กว่าๆ คนหนึ่งกำลังพยายามยกถังน้ำหนักๆ ส่วนหนึ่งในใจผมอยากเดินผ่านไปเฉยๆ แต่อีกใจก็นึกสงสาร
"เฮ้อ... ช่วยดีกว่า" ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาคุณลุง
"ให้ผมช่วยนะครับ" ผมบอกพลางยื่นมือไปช่วยยกถัง
"โอ้ ขอบใจมากๆ เลยคุณหมอ" คุณลุงยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันหลอๆ "แก่แล้วยกของหนักๆ ไม่ค่อยไหว"
ขณะที่ผมกำลังช่วยยกถัง ผมสังเกตเห็นว่าคุณลุงมองมาที่ผมด้วยสายตาแปลกๆ คล้ายๆ กับที่ยายเป้าเคยมอง ผมรู้สึกอึดอัดแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่สังเกตเห็น
"เอาไปไว้ตรงไหนดีครับลุง?" ผมถามพลางพยายามรักษาระยะห่าง
"ตรงนั้นแหละ ข้างๆ บ้านลุงเลย" คุณลุงชี้ไปที่บ้านหลังเล็กๆ ข้างทาง
ผมวางถังลงตามที่คุณลุงบอก แล้วรีบเช็ดมือกับผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมในกระเป๋า รู้สึกสกปรกนิดหน่อย
"ขอบใจมากนะคุณหมอ" คุณลุงยิ้มกว้าง "หล่อแถมใจดีอีก คงมีแฟนแล้วใช่มั้ยล่ะ?"
"ครับ" ผมตอบสั้นๆ พยายามจะรีบไป นึกถึงน้องน้ำ แฟนสาวสวยลูกเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
"แหม ถ้าลุงอายุน้อยกว่านี้ซัก 40 ปีนะ..." คุณลุงพูดทิ้งท้ายพร้อมหัวเราะ
ผมรู้สึกเหมือนโดนลวนลาม แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วรีบเดินจากมา
ขณะที่เดินไป ผมรู้สึกสับสนกับตัวเอง ทำไมผมถึงรู้สึกตื่นเต้นกับคำพูดของคุณลุงด้วย? ทำไมผมถึงแอบนึกภาพว่าถ้าคุณลุงอายุน้อยลงจริงๆ จะเป็นยังไง? ผมส่ายหัวไล่ความคิดพวกนั้นออกไป พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่ถูกต้อง
"บ้าชิบ คิดอะไรของเราเนี่ย!" ผมสบถกับตัวเอง "เราน่ะนะ หมอหนุ่มไฟแรง ทำไมถึงมาคิดแบบนี้ได้"
ตลอดทั้งวันที่ทำงาน ผมพยายามทำตัวปกติ แต่ก็อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าไม่ได้ ผมรู้สึกสับสนและขัดแย้งในใจ ส่วนหนึ่งรู้สึกว่ามันผิด แต่อีกส่วนกลับรู้สึกตื่นเต้น ผมพยายามบอกตัวเองว่าต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดีไว้ ต้องเป็นหมอที่น่านับถือ แต่ลึกๆ แล้วกลับอยากปลดปล่อยความต้องการแปลกๆ นั้น
วันนั้นผ่านไปอย่างวุ่นวาย ผมรู้สึกเหมือนทุกสายตามองมาที่ผม แม้แต่คนไข้สูงอายุก็ดูจะสนใจผมมากขึ้น ผมรู้สึกทั้งอึดอัดและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน
พอถึงช่วงเย็น ผมกำลังจะกลับบ้าน แต่จู่ๆ ก็มีพยาบาลวิ่งมาบอกว่ามีคนไข้ฉุกเฉิน
"หมอคะ ยายเป้ามาอีกแล้วค่ะ บอกว่าเจ็บช่องคลอดมาก"
ผมรู้สึกใจเต้นแรง "ผมจะไปดูเองครับ"
ผมรีบเดินไปที่ห้องฉุกเฉิน เห็นยายเป้านอนอยู่บนเตียง หน้าตาเจ็บปวด
"ยายเป็นยังไงบ้างครับ?" ผมถามพลางเข้าไปตรวจ
"เจ็บมากเลยจ้ะหมอ" ยายเป้าครางเบาๆ "ช่วยตรวจให้หน่อยได้มั้ยจ๊ะ?"
ผมพยักหน้า "ได้ครับ ผมจะตรวจภายในนะครับ"
ผมสวมถุงมือแล้วเริ่มตรวจ แต่พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ผมรู้สึกแปลกใจ
"ยาย ผมไม่เห็นมีอะไรผิดปกตินะครับ"
ยายเป้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "จริงเหรอจ๊ะ? แต่ยายยังเจ็บอยู่เลย หมอช่วยตรวจละเอียดๆ อีกทีได้มั้ยจ๊ะ?"
ผมรู้สึกอึดอัด แต่ก็ต้องทำหน้าที่ "ได้ครับ ผมจะตรวจอีกครั้ง"
ขณะที่ผมกำลังตรวจ ยายเป้าจู่ๆ ก็คว้ามือผมไว้ "หมอจ๋า ยายคิดถึงหมอมากเลยนะ"
"ยายครับ อย่าทำแบบนี้นะครับ" ผมพยายามดึงมือออก แต่ยายเป้ากลับจับมือผมแน่นขึ้น
"ทำไมล่ะจ๊ะ? หมอไม่ชอบยายเหรอ?" ยายเป้าถามพลางมองผมด้วยสายตาคุกคาม
ผมรู้สึกกลัวและอึดอัด พยายามมองหาทางออก แต่ห้องตรวจก็เงียบสงัด ไม่มีใครอยู่แถวนี้
"ยายครับ เราไม่ควร..." ผมพูดเสียงสั่น แต่ยายเป้าดึงผมเข้าไปใกล้จนแทบจะล้มทับ
"หมอจ๋า ถ้าหมอไม่ยอม ยายจะตะโกนบอกทุกคนว่าหมอลวนลามยายนะ" ยายเป้าขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ผมตกใจสุดขีด "อย่านะครับยาย ผม... ผม..."
"งั้นก็ทำตามที่ยายบอก" ยายเป้ากระซิบ มือของแกเลื่อนลงไปที่เป้ากางเกงผม
ผมสะดุ้ง พยายามถอยห่าง แต่ยายเป้าจับแขนผมไว้แน่น "ถอดออกมาให้ยายดูหน่อย ไม่งั้นยายจะร้องให้คนมาดูว่าหมอทำอะไรยาย"
ด้วยความกลัวและสับสน ผมค่อยๆ ยกมือขึ้นปลดกระดุมกางเกง มือสั่นเทา น้ำตาเริ่มคลอ
"ยาย... อย่าบังคับผมเลยนะครับ" ผมพูดเสียงสั่น แต่ก็ยังคงทำตามที่ยายสั่ง
ยายเป้ายิ้มอย่างมีชัย "เร็วๆ สิจ๊ะ ยายอยากเห็นแล้ว"
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะค่อยๆ ดึงซิปลง เสียงซิปดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัด ผมรู้สึกอับอายและกลัว ไม่รู้ว่าสถานการณ์นี้จะจบลงอย่างไร… ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหมุนวน ขณะที่ค่อยๆ ดึงอวัยวะเพศออกมาตามคำสั่งของยายเป้า มือของผมสั่นเทา เหงื่อเย็นๆ ไหลลงมาตามแก้ม
"เอาล่ะ... พอใจรึยังครับยาย" ผมพูดเสียงสั่น พยายามไม่มองลงไปด้านล่าง
ยายเป้าจ้องมองอย่างตื่นตะลึง "โอ้โห... ใหญ่จังเลยนะจ๊ะหมอ ยาวตั้ง 7 นิ้วได้มั้ง?"
ผมรู้สึกอับอายสุดๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากห้องนี้ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวว่ายายจะตะโกนให้คนอื่นได้ยิน
"ยายครับ... พอได้แล้วนะครับ" ผมพยายามขอร้อง
แต่ยายเป้ากลับยิ้มเจ้าเล่ห์ "ยังหรอกจ้ะ ยายอยากลองสัมผัสดูหน่อย หัวบานสีชมพูสวยจัง"
ก่อนที่ผมจะทันได้ห้าม มือเหี่ยวย่นของยายก็คว้าเอาไว้แน่น ผมสะดุ้งเฮือก รู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"อย่านะครับยาย!" ผมร้องออกมา แต่ก็ไม่กล้าดังมาก
ยายเป้าเริ่มลูบไล้ช้าๆ "เส้นเลือดนูนๆ พาดยาวไปตามลำ ดูแข็งแรงจังเลยนะจ๊ะ"
ผมพยายามดิ้นหนี แต่ก็ทำไม่ได้ ร่างกายกลับตอบสนองโดยอัตโนมัติ
"อืม... แข็งขึ้นมาแล้วสินะจ๊ะ" ยายเป้าพูดยิ้มๆ "หมอก็ชอบเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ"
"ไม่... ไม่ใช่นะครับ" ผมพยายามปฏิเสธ แต่เสียงกลับสั่นเครือ
ยายเป้าไม่สนใจคำพูดของผม แกเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น "แล้วนี่อะไรจ๊ะ? โอ้โห ลูกอัณฑะใหญ่จังเลย คงเก็บน้ำได้เยอะแน่ๆ"
ผมรู้สึกทั้งรังเกียจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน มันเป็นความรู้สึกที่สับสนและน่ากลัว
"ยาย... หยุดเถอะครับ" ผมครางออกมา น้ำตาเริ่มไหลออกมา
แต่ยายเป้ากลับยิ้มกว้างขึ้น "ไม่เป็นไรจ้ะ ยายจะทำให้หมอมีความสุข"
ผมพยายามต่อต้าน แต่ร่างกายกลับทรยศ ความรู้สึกสุขสมเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด...
"อ๊าาาา..." ผมครางออกมาเบาๆ ขณะที่ปลดปล่อยออกมา
ยายเป้ายิ้มอย่างพึงพอใจ "เห็นไหมจ๊ะ หมอก็ชอบ"
ผมยืนนิ่งงัน น้ำตาไหลอาบแก้ม รู้สึกทั้งอับอายและสับสน ไม่รู้ว่าชีวิตจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป...
ยายเป้าไม่สนใจคำขอร้องของผม มือของแกยังคงเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ "หมอจ๋า ยายจะทำให้หมอมีความสุขนะ"
ผมพยายามต่อต้าน แต่ร่างกายกลับทรยศ ความรู้สึกสุขสมเริ่มก่อตัวขึ้นในท้องน้อย "ยาย... อย่า... ผม..." ผมพูดไม่ออก หายใจหอบถี่
"ไม่ต้องอายนะจ๊ะ ปล่อยมาเลย" ยายเป้ากระซิบ มือยังคงเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ
ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถึงจุดสุดยอด พยายามกลั้นไว้ แต่ก็ไม่ไหว "อ๊าาา..." ผมครางออกมาเบาๆ ขณะที่ปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง
ของเหลวสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเป็นสาย กระเด็นเลอะมือยายเป้าและเสื้อผ้าของผมเอง
ยายเป้ายิ้มอย่างพึงพอใจ "โอ้โห เยอะจังเลยนะจ๊ะ คงอั้นมานานแล้วสินะ"
ผมยืนนิ่งงัน หน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย น้ำตาไหลอาบแก้ม รู้สึกทั้งสับสนและหวาดกลัว ไม่รู้ว่าชีวิตจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป...
"ยาย... ผม... ขอโทษครับ" ผมพูดเสียงสั่น พยายามเช็ดทำความสะอาดอย่างลนลาน
"ไม่เป็นไรจ้ะ" ยายเป้าตอบยิ้มๆ "เป็นความลับของเราสองคนนะจ๊ะ"
ผมพยักหน้า รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งทำบางอย่างที่ไม่อาจย้อนกลับได้...
ผมยกมือไหว้ยายเป้าด้วยความอับอาย "ยายครับ ผมขอร้องละ อย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนะครับ"
ยายเป้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "โอ๊ย ไม่ต้องกลัวหรอกจ้ะหมอ ยายไม่บอกใครหรอก" แกพูดพลางเอานิ้วป้ายของเหลวสีขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนมือแก "แต่... ถ้าหมออยากให้ยายเงียบ หมอก็ต้องยอมให้ยายทำแบบนี้บ้างนะจ๊ะ"
ผมตกใจ รีบถอยหลังไปชนกับโต๊ะตรวจ "ยายครับ อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ"
"ทำไมล่ะจ๊ะ?" ยายเป้าถามพลางเลียนิ้วที่เปื้อนน้ำอสุจิของผม "อร่อยดีออกนะ หมอกินอะไรมาถึงได้หอมหวานขนาดนี้"
ผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว อยากจะวิ่งหนีออกจากห้องนี้ แต่ขาก็อ่อนแรงเหมือนวุ้น
"ยายครับ ผมขอร้องละ..." ผมพูดเสียงสั่น น้ำตาคลอ
ยายเป้าหัวเราะคิกคัก "ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ยายแค่ล้อเล่น แต่..." แกหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง "ถ้าหมออยากให้เรื่องนี้เป็นความลับ หมอก็ต้องมาหายายบ่อยๆ นะ"
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ รู้สึกเหมือนตกอยู่ในกับดัก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร… ผมรีบจัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย มือยังคงสั่นไม่หยุด "ผม... ผมต้องไปแล้วครับ" ผมพูดเสียงแผ่ว พยายามรวบรวมสติ
ยายเป้ายิ้มเจ้าเล่ห์ "ไปเถอะจ้ะ แต่อย่าลืมนะ... ยายรอหมอมาหาอีกนะ"
ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วรีบเดินออกจากห้องตรวจ ขาของผมยังคงอ่อนแรง แทบจะเดินไม่ตรงทาง
เมื่อออกมาถึงโถงทางเดิน ผมพบกับพยาบาลคนหนึ่ง
"คุณหมอคะ เป็นอะไรรึเปล่า? หน้าซีดมากเลย" เธอถามด้วยความเป็นห่วง
"ไม่... ไม่มีอะไรครับ" ผมตอบอ้ำๆ อึ้งๆ "ผมแค่... เหนื่อยนิดหน่อย"
ผมรีบเดินผ่านเธอไป หัวใจเต้นรัวด้วยความกลัวว่าเธอจะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ
กลับถึงบ้านพัก ผมรีบอาบน้ำ พยายามชำระล้างความรู้สึกสกปรกออกจากร่างกาย แต่ไม่ว่าจะถูสบู่แรงแค่ไหน ความรู้สึกผิดก็ยังคงฝังอยู่ในใจ
คืนนั้น ผมนอนไม่หลับ คิดวนเวียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวว่าจะมีใครรู้เรื่อง กลัวว่าชีวิตและอนาคตจะพังทลาย
"เราจะทำยังไงดี..." ผมพึมพำกับตัวเอง น้ำตาไหลอาบแก้ม
วันรุ่งขึ้น ผมต้องกลับไปทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกครั้งที่เห็นคนแก่ หรือได้ยินเสียงซุบซิบนินทา ผมก็รู้สึกหวาดผวา คิดว่าพวกเขารู้ความลับของผม
ผมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ แต่รู้ว่าชีวิตผมคงไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป...
(จบตอนที่ 2)
|