แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DomQwQ เมื่อ 2024-7-9 12:37
บทที่สิบ ไกรกลืนน้ำลายดังอึก “โห ดูสิฝนทำท่าจะตกแล้ว นี่ถ้าน้องไม่เจอพี่นี่คงจะลำบากน่าดู” หนุ่มแท็กซี่พูดคุยกับผู้โดยสารของตนพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี นักมวยมองหนุ่มผิวกร้านแดดด้วยสายตาหวั่นไหว จะกล่าวว่าไกรมีอดีตกับชายตรงหน้าก็ไม่เชิง... เพราะไกรจำได้ว่าตนเพิ่ง...ใช้บริการชายคนนี้ไปอย่างสุขสมเมื่อวานนี้เอง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่กำลังกวนใจไกรในตอนนี้ มันไม่ใช่คนธรรมดาระวังด้วย คำกล่าวเตือนของกรก้องในหัวกรหมายความว่าชายคนนี้เป็น... ผู้มีพลังพิเศษอย่างนั้นหรือ!? หนุ่มแกร่งเฉลือบไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างตัว จ้าวชีวิตของตนมองหนุ่มแท็กซี่เขม็งสายตาที่มองช่างเย็นยะเยือกน่ากลัวยิ่งนัก ไม่ทันไรน้องชายสุดที่รักของไกรก็พูดออกมาเสียงเรียบ “มันแปลกดีนะครับ คุณอยู่ตอนพวกผมออกมาจากบ้านพอดีเลย” กรหรี่ตา “โชคร้ายจริงๆที่รถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทไม่ติด” ครืนๆ หยาดฝนตกจากฟ้าจากเพียงไม่กี่หยด กลายเป็นหยาดน้ำร่วงดั่งห่ากระสุนโชกพื้นถนนการสัญจรก็ต้องชะลออย่างช่วยไม่ได้
“โธ่น้องจะใช้คุณเคินอะไรกันกับพี่ เรียกพี่ว่าพี่นิวเถอะน้อง” นิวมองกรผ่านกระจกมองหลังด้วยรอยยิ้ม กรที่เห็นยิ่งทำหน้าเขม่น “ถ้าผมไม่อยากล่ะ?”กรมองหนุ่มแท็กซี่อย่างท้าทาย หนุ่มแท็กซี่ยิ้มบางไม่พูดอะไรต่อ หนุ่มนักมวยเห็นยกคู่นี้กำลังเครียดอึดอัดตัวเองก็ยิ่งกังวล ไกรที่เห็นสถานการณ์ชักจะไปกันใหญ่ก็ทำอย่างเดียวที่ตนนึกออก หนุ่มแกร่งเอื้อมไปกุมมือของน้องรักตนเอง กรหันมามองตนก่อนจะหลบตา ร่างผอมของหนุ่มน้อยกระเถิบเข้ามาใกล้พี่ชายตัวเอง มือนุ่มบีบมือสากของหนุ่มนักมวยแน่นหัวใจของไกรพองโต
เอี้ยดดดด ก่อนที่สองพี่น้องจะเกือบตัวโยนเพราะรถที่เหยียบเบรกกะทันหัน “คุณต้องการอะไรกันแน่!” กรร้องอย่างเหลืออด สายตาเต็มไปด้วยความดำมืดพร้อมจะปะทุได้ทุกเมื่อ “ขอโทษครับ...พี่เจอแมวตัดหน้ารถ” หนุ่มแท็กซี่พูดออกมาสีหน้าเรียบเฉย กรกัดฟันสายตามองหนุ่มแท็กซี่เขม่งบรรยากาศในรถกลับไปเคร่งเครียดตลอดทางจนไกรถึงกับปวดท้อง... “ถึงแล้วครับน้อง”หนุ่มแท็กซี่หันมายิ้มอบอุ่น ส่วนกรก็เปิดประตูออกไปทันทีแม้จะเปียกปอนเพราะฝนก็ตาม “เอ่อ.. นี่ครับ..กร! รอพี่ด้วย!” ไกรเห็นน้องตนเดินไปตัวเองก็รีบหยิบแบงค์พันให้โดยไม่รอเงินทอน แม้ไกรจะเดินออกมาแล้วแต่ตนก็ยังรู้สึกว่าสายตาของชายคนนั้นยังคงมองหลังตนแบบไม่ละสายตา “กร! กร!” ไกรว่าฝ่าฝนตามน้องรักจนเดินเข้ามาในตัวตึกไพฑูรย์เทวา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองสองหนุ่มเพียงแวบเดียวก็ละสายตา “กรเป็นอะไรไปทำไมถึงเป็นแบบนั้น!” ไกรถามพลางขยี้ผมที่เปียก “-ไม่ได้” “อะไรนะกร?”ไกรได้ยินน้องของตนพูดอะไรเบาๆก็ถามต่อ “กร...ใช้พลังกับมันไม่ได้เลย” น้องของตัวเองพูดพลางกัดฟัน “กรรู้สึกได้...ว่ามัน... สามารถฆ่าพวกเราได้ทุกเมื่อ...” แต่เมื่อกรทำท่าจะพูดต่อน้องรักของตนก็ขมวดคิ้วก่อนจะมองรอบตัว “นี่มัน...”กรพูดออกมาอย่างประหลาดใจ “...อะไรกัน?”
หลังจากที่ไอ้นิวมองสองคนนั้นออกนอกรถไป รอยยิ้มของหนุ่มผิวกร้านแดดก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย สายตายังคงจับจ้องทั้งสองคนอย่างไม่ลดละ เมื่อเห็นทั้งสองคนตื่นตระหนก ความสับสนแสดงอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั้น ไอ้นิวก็เผลอกระตุกยิ้มขึ้นมาชั่วครู่ก่อนที่รอยยิ้มมุมปากจะร่วงลงเหมือนเพียงภาพมายา
เมื่อหมดหน้าที่ของตน ไอ้นิวก็ขับรถไปหาที่จอดข้างทางก่อนที่ตนจะถอดรองเท้า ข้ามมาอยู่เบาะหลัง หนุ่มผิวกร้านแดดปลดซิปกางเกงออกมา เผยให้เห็นกระบอกกามที่ชูชันด้วยความกำหงัด ชายหนุ่มก้มลงสูดดม หน้าลูบเบาะที่นั่ง ลิ้นเลียไออุ่นที่ยังคงค้างคาอยู่ด้วยความรักใคร่ มือจับเอ็นของตนเองชักขึ้นชักลง ใบหน้าที่เรียบเฉยของไอ้นิวเริ่มแดงและแสดงอาการหอบเพราะกามอารมณ์ "ขอโทษนะคะ ไป... กรี้ดดดดด!" ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูออกมาก่อนจะร้องด้วยความตกใจ
หล่อนเห็นหนุ่มแท็กซี่ชักแท่งกามของตนอย่างเมามันจนปล่อยน้ำข้นกระฉูดราดเบาะหนังในรถต่อหน้าต่อตา
“ไอ้กิจ... ตื่นโว้ยๆ” เสียงใหญ่เข้ม ปลุกให้ตนตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ตนหลับไปนานแค่ไหนกันนะ? “อือ....” กิจพยายามลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ... ใช่แล้ว.. ประชุม.. กิจลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างยากลำบากหัวของตนปวดตุบๆ สายตาที่พร่ามัวมองเห็นโครงร่างของชายคนหนึ่งที่นุ่งแค่ผ้าขาวม้า ชายร่างใหญ่กล้ามเป็นมัดๆที่โกนหัวจนเกลี้ยงเป็นคนที่กิจคุ้นเคย..
“พ่อ?” กิจพูดออกมาอย่างยากลำบากความรู้สึกตื้นตันหลากหลายปะปนในหัวใจ ทำไม? “เอ็งจะนอนจนฟ้าสางเลยรึไงวะ? มาๆมาช่วยพ่อทำกับข้าวหน่อย” ชายกล้ามแน่นยิ้มร่าก่อนจะอุ้มร่างของกิจขึ้นมาเยี่ยงอุ้มเจ้าสาวเข้าห้องหอ “เห้ยพ่อ! เดี๋ยวสูทยับ!” กิจร้องอย่างตกใจพลางกอดบิดาตนแน่นกลัวตก ถึงแม้ว่าตนเองจะตัวโตกล้ามแน่นแล้ว แต่พ่อของกิจนั้น ต้องบอกว่าเป็นร่างกำยำของนักกล้ามโดยแท้จริง
“อื้อออ อ่า... ไม่ไหวว่ะไอ้กิจ! ฮ่าๆๆ เอ็งนี่โตจนควายเลียก้นไม่ถึงแล้วนะ!” ชายกล้ามใหญ่ยกลูกตัวไม่น้อยของตนได้ชั่วครู่ก็ต้องปล่อยลงเตียงก่อนจะสบัดมือที่เมื่อยล้าของตน กิจมองพ่อของตนก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดชายกล้ามใหญ่แน่น “อุก... ไหนว่าสูทยับไงวะ...” พ่อของกิจที่โดนกอดถึงกับจุก ปล่อยเสียงแหบ “...ช่างมันเถอะครับ...” กิจว่าแล้วก็กอดแน่นยิ่งขึ้น “กิจคิดถึงพ่อแก้วนะ...” พ่อของกิจหรือพ่อแก้วได้ยินก็ยิ้มสวมกอดคืนพลางลูบหัว “โอ๋ๆ ไอ้ลูกหมาเอ้ย มึงฝันร้ายรึไงฮะ?” พ่อแก้วยิ้มอบอุ่นก่อนจะยิ้มซน มือของนักธุรกิจหนุ่มบีบก้นแน่นของพ่อตัวเอง “โธ่ ไอ้ลูกหมา...” สองชายฉกรรจ์จูบอย่างดูดดื่ม
แต่ก่อนที่เกมกามจะดำเนินไปต่อ ชายกำยำก็ละตัวออกมาเสียก่อน “ฮึๆ ไม่ได้ ไอ้ลูกหมาเราต้องเตรียมอาหารให้นายท่านก่อน” กิจได้ยินก็ขมวดคิ้ว “นายท่าน? พ่อหมายถึงกั-” ทันใดนั้นกิจก็ต้องกุมหัวอย่างเจ็บปวด เสียงหวีดสูงดังกึกก้องไปมาในหูก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆทุเลาลง
...เมื่อครู่ตนคิดถึงใคร?
เหมือนคำที่ติดอยู่ในปาก นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก “จะใครที่ไหนอีกล่ะ ก็ท่านชัยที่เป็นเจ้าของพวกเราไง” พ่อแก้วยิ้มร่าก่อนจะกุมมือจูงลูกของตนออกจากห้องเก็บของ ...ห้องเก็บของ? กิจหันกลับไปดูห้องที่ตนออกมาก่อนจะหน้าเขม่น มันเป็นห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องออกกำลังกายและของใช้ทำความสะอาดต่างๆ ไม่ว่าจะไม้กวาด น้ำยาถูพื้นหรือน้ำยาล้างจาน ส่วน เตียง ที่ตนลุกมา ก็เป็นแค่ฟูกสกปรกๆวางไว้บนพื้นเท่านั้น
ชายวัยดึกเห็นลูกรักตนเองมองข้างหลังก็ยิ้มร่า “ท่านชัยเขาเอ็นดูเราจริงๆ ดูสิ ถ้าข้ากับเอ็งนอนกอดกันแน่นๆหน่อย ฟูกที่ท่านมอบให้นี่ใหญ่พอให้พวกเรานอนเลยนะ เมื่อก่อน ข้าก็ต้องนอนกับพื้นปวดหลังชิบหาย” กิจขมวดคิ้วหันมามองร่างใหญ่ตรงหน้า “เรา? พ่อกับผมนอนใน... ห้องนั่นน่ะนะ?” “ก็ใช่น่ะสิ จะให้พวกเรานอนที่ไหนอีกวะ? เอ็งนี่พิลึกว่ะ...” กิจที่หมดคำพูดได้แต่ต้องยอมแรงของพ่อตนลากไปแต่โดยดี
บ้านที่ตนกับพ่อแก้วเคยอาศัยอยู่ด้วยกันก็ยังคงดูแล้วเหมือนเดิม เป็นเพียงบ้านสองชั้นที่อาจจะใหญ่กว่าบ้านคนอื่นเสียหน่อยแต่ไส้ในก็ไม่ได้จะแตกต่างกันไปมากนัก หากแต่ในตอนนี้ กิจแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง เครื่องเรือนไม้ธรรมดาตกแต่งบ้านทุกอย่างที่ตนเคยเห็นจนชิน ในตอนนี้ทุกอย่างกลับหายไปจนหมด ทุกหนทุกแห่งถูกแทนที่ด้วยเครื่องเรือนดูหรูหราฟุ่มเฟือย รสนิยมแตกต่างจากที่พ่อของตนชอบดั่งหน้ามือเป็นหลังมือ
พ่อแก้วเห็นลูกชายมองซ้ายมองขวาก็ยิ้ม “ตกใจล่ะสิ ท่านชัยขายพวกของเก่าๆทิ้งหมดแล้วล่ะ ของพวกนี้ก็ซื้อมาตามที่ท่านชัยต้องการ ช้าเช็ดถูดูแลอย่างดีเลยนะ” ชายหัวโล้นร่างกำยำมองเครื่องเรือนราคาแพงเหล่านี้ด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะหันมาเตือนกิจเสียงเข้ม “ใช่ ข้าเกือบลืม เอ็งอย่าเสือกไปนั่งหรือจับของพวกนี้ล่ะ มันเป็นของนายเรา เดี๋ยวมึงจะทำของนายเปื้อนเสียเปล่า” กิจขมวดคิ้ว “พวกเฟอร์นิเจอร์มันเป็นของพ่อไม่ใช่หรอ? แล้วนี่มันบ้านพ่อนะ?” ชายวัยดึกได้ยินก็จุปาก “เอ็งอย่าพูดให้ดังไป! นี่บ้านของท่านชัยที่ท่านอุส่าให้พวกเราอยู่อาศัยคอยบริการต่างหาก! ท่านชัยมีบุญคุณต่อพวกเรามากนะ! มึงจำไม่ได้รึไง!” กิจมองพ่อของตนด้วยความงงงัน
“ผมไม่เคยรู้จักท่านชัยอะไรนี่มาก่อนเลยนะพ่อ?” “ท่านชัยที่เข้ามาดูแลธุรกิจของข้าไง เอ็งจำไม่ได้หรอ?” กิจรู้สึกแปลกๆ ธุรกิจของพ่อ? “ธุรกิจก่อสร้างพ่อจะยกให้ผมดูแลไม่ใช่หรอครับ?” “เฮ้ย เลอะเทอะ! ท่านชัยเค้าช่วยข้าดีมากเลยนะ ไม่ว่าจะเรื่องดูแลเงินในบัญชีของข้าหรือเรื่องบริหารงานก่อสร้างต่างๆ ข้าก็ไม่ต้องคิดอะไรเลย รอท่านชัยเรียกใช้ก็พอ” ชายหัวโล้นร่างกำยำยิ้มเทิดทูน “ท่านชัยบอกว่าธุรกิจก่อสร้างนี่แหล่ะหาที่มาที่ไปยาก ทำให้รวยง่าย ข้าก็แค่ต้องเซ็นชื่อตอนโดนเรียก ส่วนเรื่องเงินอะไรเอ็งก็อย่าตีตนเสมอตัวล่ะ กว่าท่านชัยจะได้มา ท่านลำบากขนาดไหน”
พ่อแก้วที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทุจริตกลับพูดออกมาอย่างง่ายดาย และถ้าพ่อของตนเป็นคนลงลายมืออย่างนี้ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้น... คนที่โดนไฟลนก็คงไม่พ้นพ่อของตนเป็นแน่แท้ แต่ทันใดนั้น อาการมึนหัวก็กลับมาอีกครั้ง “ท่านชัยมีความคิดที่เหนือล้ำกว่าพวกเรามาก ข้าเชื่อว่าทุกอย่างที่ท่านชัยทำมีความหมาย เรื่องพวกนี้เอ็งไม่ต้องคิดเยอะหรอก ปล่อยให้ท่านชัยคิดแทนพวกเราก็พอ” ใช่... กิจจะกล้าดีไปคิดแทนท่านได้ยังไง
พ่อของกิจตบไหล่ลูกชายด้วยความรัก “เอ็งต้องทำให้ข้าภูมิใจที่มีเอ็งเป็นลูกนะ นายเขาจะสั่งอะไรก็อย่าท้อทำให้ข้าเสียหน้านะรู้มั้ย” เมื่อเห็นสายตาของบิตุรงค์จับจ้อง กิจก็ทำได้เพียงแต่พยักหน้าตอบรับ “เอาหน่า เอ็งอย่ากลัวไป ทุกอย่างที่เอ็งมีได้ก็เพราะท่านชัยนะ ท่านชัยน่ะเป็นคนประเสริฐ เอ็งโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดมารับใช้ท่านชัย” กิจได้ยินก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย นั่นสิ... มีบ้านให้อยู่ มีฟูกให้หลับ... ท่านชัยคนนั้น อาจจะเป็นคนดีกว่าที่ตนคิด...
จนเมื่อตนต้องทำอาหารให้นายท่านคนนั้น.... กิจมองชามอาหารสุนัขตรงหน้าพลางถามพ่อของตนอย่างไม่อยากจะเชื่อ “แตกในนี้จริงๆหรอพ่อ?” “ก็เออดิวะ เอ้า เร็วๆท่านชัยชอบเห็นพวกเราแดกน้ำควย” พ่อของกิจโยนผ้าขาวม้าทิ้งลงถังขยะไปแล้ว มือของหนุ่มวัยใหญ่ชักกระบองกามของตนอย่างเร็วระรัว อกของบิดาตนกระเพื่อมหอบแฮก มือข้างที่ว่างพลางเขี่ยเล่นหัวนมตนอย่างเมามัน รอยยิ้มของรุ่นดึกร่างกำยำแตกต่างจากที่ตนเคยเห็น มันมีความ... ยกย่องเลื่อมใสและศรัทธา มุมที่กิจไม่เคยเห็นมาก่อนมันทำให้ตนรู้สึก... ตื่นเต้น? กิจเม้มปาก ชายวัยกลางคนมองภาพตรงหน้าพลางรู้สึกแปลกๆ แล้วทำไมต้องเอาผ้าทิ้งลงถังขยะด้วย? แต่เพราะโดนพระบิดาของตนเร่ง กิจจึงปลดซิบกางเกงของตนออกมา กิจเห็นพยามังกรของตนผงาดแกร่งอย่างง่ายดายก็หน้าแดงเล็กน้อย แม้ตนจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจในสถานการณ์ตอนนี้ และเรื่องของนายท่านคนนั้นก็ดู...ผิดปกติ แต่ไม่ว่าตนจะพยายามนึกยังไง ก็ไม่สามารถนึกได้ว่ามันผิดแปลกตรงไหน
กิจคุ้นเคยกับอาการนี้ดี... มันเหมือนตอนที่คนนั้นควบคุมจิต... ใคร? แต่ไม่ทันได้คิดนานกิจก็โดนปลุกจากภวังค์ด้วยเสียงทักของพ่อตนเอง “เฮ้ย ไอ้กิจ มึงมัวชักช้าอะไรอยู่วะ? มา เดี๋ยวข้าชักให้” กิจเห็นพ่อของตนเดินเข้ามา มือสากจับพลองอุ่นแน่น สายตาของสองพ่อลูกจับจ้องกันก่อนที่พ่อของกิจจะชักกระบองกามระรัว
“อ่า... พ่อ.. อ่ะ.. ซี้ด...” กิจกัดฟันเพราะความเสียวกระสันที่ตนรู้สึก เอวของกิจโยกตามความอยากในกามของตัวเอง พ่อของกิจเห็นลูกชายตัวสั่นเพียงเพราะมือของตัวเองก็ยิ้ม ลากจูงลูกชายของตนด้วยมือที่จับแก่นกายมาจ่อชามอาหารสุนัข พ่อของกิจพลางเข้ามาเลียคอของกิจ สร้างความหฤหรรษ์ในกามให้แก่หนุ่มกล้ามแน่นเป็นอย่างยิ่ง
“อ่า... ฮืม.. กรอด.. ซี้ด...” กิจทั้งซี้ดเสียว ทั้งคราง ทั้งกัดฟัน เสียงทุ้มต่ำน่าฟังยิ่งทำให้พ่อของกิจชักเครื่องกามเร็วกว่าเดิมอย่างสนุกสนาน ลิ้นที่เลียคอของตน มือสากที่จับชักกระบองกามของตนแน่น ทุกสัมผัสที่ได้รับ ทำให้กิจสั่นทั้งตัว “แฮกๆๆ พ.. พ่อ.. พ่อ... ซี้ด... อ่ะ.. อ้าาา!” กิจร้องออกมาก่อนจะปล่อยน้ำเชื้อพุ่งทะลักราดทั่วชามอาหารสุนัข
“ดีมาก ลูกรักของพ่อ” พ่อของกิจเข้ามากระซิบก่อนจะเลียหูของกิจ นั่นทำเอากิจถึงกับคราง แก่นกายกระตุกปล่อยหยาดน้ำชีวิตไหลลงชามเป็นระยะๆ ชายวัยดึกเห็นลูกของตนสำเร็จงานแล้วก็หันมาจบงานฝั่งตัวเองเช่นกัน ชายร่างกำยำชักรูดอย่างรวดเร็ว สูดเสียงซี้ดซาดดูสาแก่ใจในกามมาก “แหย่.. รูเย็ดข้าหน่อย... ซี้ด..” พ่อของกิจเอ่ยปากร้องขอ ส่วนลูกชายก็ไม่ละโอกาสตอบแทนพระคุณผู้ให้กำเนิด กิจคุกเข่าลงไปแหวกภูเขากลมเต่งตึงสองลูกก่อนจะใช้ลิ้นแหย่รูรักของพ่อตัวเองอย่างว่าง่าย
กิจทั้งลิ้มรสและสูดกลิ่นกายของชายชาตรีด้วยความคิดถึง ส่วนชายวัยดึกก็หลับตาพริ้ม มือที่ว่างลูบไล้ร่างกายของตนเองตั้งแต่กล้ามท้องยันหน้าอกด้วยความภาคภูมิใจ มือที่ชักเอ็นอุ่นของตนยิ่งเร่งเครื่องมากขึ้นเรื่อยๆ หากท่านชัยคนนั้นเดินมา ก็คงได้ยินเสียงครางระงมดั่งสัตว์กำลังสืบพันธุ์แน่ๆ และหลังจากนั้นอีกไม่นานชายวัยดึกก็สำเร็จกามในที่สุด “อ่ะ.. อ่า... เสียวโว้ย... ข้าจะแตกแล้ว...ข้าจะแตกแล้ว.. ข้าจะแตกให้ท่านชัย... ท่าน.. อึก อ้า ท.. ท่านชัย!” ชายวัยดึกร้องออกมาพร้อมด้วยรอยยิ้มผาสุก เอ็นอุ่นของร่างกำยำปล่อยน้ำรักจำนวนมหาศาลเข้าชามเสียจนน้ำเมือกข้นกระฉอก
เมื่อเห็นว่าพ่อของตนปล่อยนมข้นออกมาแล้วกิจก็ลุกขึ้น ในหัวมีคำถามมากมายเกี่ยวกับท่านชัยคนนี้ ชายวัยดึกสูดลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเหลือบตาไปเห็นนาฬิกาข้างฝา “ท่านชัยน่าจะตื่นพอดีแล้ว เรารีบเอาอาหารขึ้นไปกันเถอะ เอ็งก็ถือชามน้ำควยอย่าให้หกนะ” ว่าแล้ว ชายหัวโล้นร่างกำยำก็นำอาหารขึ้นถาดก่อนจะเดินเปลือยถือถาดขึ้นบันไดไป
ทิ้งให้กิจอยู่กับชามอาหารสุนัขที่เต็มไปด้วยสายพันธุ์ชีวิตของตนกับพ่อแก้ว กิจปล่อยลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ มือเอื้อมไปหยิบชามตรงหน้าก่อนจะหยุดชะงัก กางเกงสูทราคาหรูของตนเปื้อนเศษอาหารตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กิจได้แต่ปล่อยฮึ่มอารมณ์เสีย มือปลดกระดุมถอดกางเกงของตนออกอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทำไมตนถึงต้องถอดกางเกงออก? กิจพลางรู้สึกมึนหัวอีกครั้ง ไม่สิ กางเกงหรูใส่ทำไม ถอดเสียแต่แรกก็จบแล้ว กิจที่หยุดคิดทำความเข้าใจสักครู่ก็ถอดเสื้อสูทราคาแพงของตัวเองตาม ในตอนนี้หนุ่มวัยกลางคนใส่แค่เนคไทกับกางเกงในเท่านั้น ร่างมีมัดกล้ามของตนดูผ่านๆแล้วก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าพ่อแก้วเลย มือที่ถือสูทไม่รู้จะวางตรงไหน ได้ยินเสียงเรียกของพ่อตนเองแว่วๆ จึงโยนลงถังขยะเหมือนผ้าขาวม้าของพ่อตนเอง ผ้ามันจะเปื้อนเพราะตนกับพ่อใส่ก็เป็นเรื่องปกติ.... หนุ่มวัยกลางคนถือชามน้ำชีวิตเดินขึ้นบันไดตามเสียงเรียกของพ่อตนเอง
เมื่อกิจเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้ว ตนก็เจอพ่อของตนยืนอยู่หน้าห้องนอน ท่อนเอ็นของชายร่างกำยำดูผงกหัวตื่นเต้นและบนหน้าของพ่อตนเต็มไปด้วยความสุขและความศรัทธายกย่อง พ่อของกิจหันมามองลูกชาย “พร้อมมั้ย? เอ็งจะได้เจอท่านชัยแล้วนะ อย่าทำให้ข้าต้องอายล่ะ” กิจพยักหน้าด้วยความประหม่า จากที่พ่อเล่ามาแล้วท่านชัยเป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านนี้ เป็นคนที่น่ายกย่อง... ชายวัยดึกถือถาดอย่างระมัดระวังก่อนจะค่อยๆเคาะประตูห้องนอน
“เข้ามา!” กิจขมวดคิ้วเพราะความมึนหัวกะทันหัน กิจรู้สึกว่าเสียงที่ดังออกมาจากห้องนอนใหญ่เป็นเสียงทุ้มน่าเกรงขาม กิจกลืนน้ำลายเมื่อพ่อของตนค่อยๆผลักประตูออก “อื้อ.. อื้อ.. อื้อ..” ภายในห้องเผยให้เห็นชายคนหนึ่งที่ดูแล้วหล่อเหลาเอาการ กำลังนั่งเทียนใช้รูรักของตนเองรับเอ็นอุ่นของคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างเมามัน “มึงกระเด้าควยกูให้ไวๆดิ ไอ้เหี้ย! ไอ้ขี้ข้ามาแล้ว!” ได้ยินดังนั้นหนุ่มหล่อเหลาก็ยิ่งเร่งตัวจนเหนื่อยหอบ แต่ก็ยังไม่สมใจชายที่นอนอยู่ “เดี๋ยวกูจัดมึงเองไอ้เหี้ย” ว่าแล้ว ชายคนที่นอนอยู่ก็ลุกขึ้น ผลักหนุ่มหล่อลงไปนอนแทนก่อนจะลงแรงกระแทกหนุ่มหล่ออย่างไร้ปราณี การที่ชายคนนั้นลุกขึ้นมา นั่นทำให้กิจเห็นหน้าของชายคนดังกล่าวในที่สุด
แต่ทันใดนั้น กิจก็รู้สึกมึนงงจนห้องหมุนอีกครั้ง นักธุรกิจหนุ่มจึงหลับตาแน่นก่อนจะลืมตาขึ้นมาใหม่ เมื่อเห็นภาพตรงหน้ากิจก็มองชายคนนั้นด้วยความตกตะลึง แม้ตนจะรู้สึกมองหน้าของชายคนนั้นไม่ชัด แต่ตนก็รู้สึกว่านี่คือชายที่มีใบหน้าหล่อเหลามากที่สุดที่ตนเคยเจอมา ถ้าต้องเทียบกับหนุ่มหล่อที่กำลังโดนตอกโดยชายคนนี้แล้ว หนุ่มหล่อก็ดูธรรมดาไปเลย
“อ่า... แม่ง...” ทันใดนั้นชายที่งดงามดั่งเทพเทวาก็กัดฟัน จากการที่ชายคนนั้นกระแทกเน้นย้ำแรงๆช้าๆใส่หนุ่มหล่อแล้ว ชายคนนั้นน่าจะกำลังหลั่งน้ำสวรรค์ใส่ตัวของหนุ่มหล่อเป็นแน่แท้ กิจรู้สึกอิจฉาหนุ่มหล่อตรงหน้าที่มีบุญมากกว่าตน “ฟู่ว.... แม่งเอ้ย เปิดซิงแล้วแม่งแน่นสะใจดีว่ะ” ชายคนนั้นยิ้มก่อนจะไล่หนุ่มหล่อ “ไปได้แล้ว ไอ้เหี้ย” หนุ่มหล่อได้ยินก็พยักหน้าก่อนจะรีบลุกไปหากองเสื้อผ้ายับๆบนพื้น
แต่ชายคนนั้นทำท่าเหมือนนึกอะไรออกก่อนออกคำสั่ง “เห้ย ไอ้เหี้ย กูนึกอะไรออกแล้ว มึงเอาโทรศัพท์มา” หนุ่มหล่อได้ยินก็หยุดใส่เสื้อผ้าก่อนจะรีบปลดล็อคโทรศัพท์แล้วยื่นให้ชายคนนั้น ชายคนนั้นรับมาก็พูดต่อ “กูจำได้ว่ามึงโสดสินะ? ดี...จะได้จัดการอะไรง่ายหน่อย” ชายคนนั้นยิ้มมองหนุ่มหล่อพลางโยนโทรศัพท์คืน
“มึงกลับไปถึงบ้านแล้วมึงก็โทรเบอร์นี้ซะ เค้าจะให้มึงทำอะไรมึงก็ทำ หน้าตาอย่างมึงน่าจะขายได้ราคาอยู่ ถือว่ากูมอบงานใหม่ชีวิตใหม่ให้มึงละกัน” ชายคนนั้นหัวเราะ ก่อนจะพูดต่อ “เออ รถมึงมันรถหรูนี่? มึงเอากุณแจรถมา คนขับรถกูต้องเอารถใหม่ของกูไปจอดที่อื่น” หนุ่มหล่อได้ยินดังนั้นก็ยื่นกุญแจรถให้ชายคนนั้นก่อนขอตัวออกมา กิจกับหนุ่มหล่อสบตากันชั่วครู่ก่อนที่หนุ่มหล่อจะเดินจากไปด้วยสภาพเสื้อยับเยินและกลิ่นตัวคลุ้งด้วยไอกาม กิจที่ได้มองสายตาของหนุ่มหล่อก็เห็นแต่ความเทิดทูนยินดีประดับบนหน้า
พ่อของกิจยิ้มร่าก่อนจะพูดออกมา “อาหารเช้ามาแล้วครับท่านชัย” ชายคนนั้น หรือก็คือท่านชัยยิ้มก่อนจะพูดออกมา “ดีมาก ไอ้เหี้ยแก้ว มึงเอาวางไว้นั่นแหล่ะ” พ่อของกิจเดินถือถาดข้าววางไว้บนโต๊ะคร่อมเตียงที่อยู่ข้างๆ ส่วนท่านชัยก็มองร่างกำยำที่เปล่าเปลือยด้วยสายตาแทะโลมก่อนจะกวักมือเรียกชายวัยดึกเข้ามา “มึงมาเลียควยกูให้สะอาดด้วยสิ” “ครับท่าน” สิ้นคำ พ่อแก้ว ชายที่กิจเคารพนับถือ ก็เข้าไปดูดเลียพวงเนื้อของท่านชัยอย่างนอบน้อมและรักใคร่
ท่านชัยหัวเราะชอบใจดึงท่อนกามตนฟาดหน้าพ่อแก้วจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อน หากแต่หน้าของชายร่างกำยำก็ยังคงประดับด้วยรอยยิ้มเทิดทูน “ไอ้โง่อย่างมึงได้มารับใช้กูก็บุญหัวแล้ว ถ้าเกิดพวกตำรวจมันมา มึงก็แค่ยิ้มรับหน้าแทนกูก็พอ เข้าใจใช่มั้ยไอ้สัตว์?” เสียงอันไพเราะสั่งให้พ่อแก้วทำตามอย่างเคร่งครัดหากแต่ชายวัยดึกยังไม่ทันรับคำ ท่านชัยก็จับชายหัวโล้นกระทุ้งปากอย่างไร้ปราณี “ซี้ด.. อ่า... ไอ้ควยเอ้ย มึงนี่เหมาะจะเป็นกะหรี่คู่ควยกูจริงๆ!” ท่านชัยจับหัวของพ่อแก้วแน่น “อะ.. ซี้ด... แล้วมึงใครวะ ไอ้เหี้ย?” ท่านชัยถามกิจที่กำลังยืนถือชามน้ำกามอยู่ตรงหน้าประตู
“สวัสดีครับ ผมกิจครับ... ลูกของพ่อแก้ว...” กิจพูดแนะนำตัว ไม่ว่ากิจจะพยายามยังไงตนก็ไม่สามารถมองชายตรงหน้าเป็นอย่างอื่นนอกจากความสมบูรณ์แบบได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความเมตตาที่ท่านชัยมอบให้แก่หนุ่มหล่อคนนั้น หรือการที่พ่อของตนเป็นผู้โชคดีที่ได้รับใช้ท่านชัย ทุกอย่างล้วนเหมือน ถูกแก้ใหม่ให้เป็นเรื่องดีอย่างไม่มีเหตุผล แม้ตนจะรู้ว่าเรื่องทุกอย่างนี้มันมีอะไรผิดพลาดก็ตาม แต่ตนก็รู้สึกคิดยากขึ้นเรื่อยๆ.... ท่านชัยได้ยินกิจพูดแนะนำตัวก็ยิ้ม “อ๋อ ลูกของไอ้เหี้ยนี่สินะ? พ่อของมึงแดกควยกูทุกวันจนน่าจะรู้จักควยกูมากกว่าหน้าคนงานของมันเสียอีก แต่มารยาทมึงอยู่ไหนล่ะ?” “ครับ?”
กิจถามด้วยความสงสัย ส่วนท่านชัยเห็นเช่นนั้นก็ตบหัวของชายร่างใหญ่เสียดังฉาด “เจอหน้ากู ยังไม่คิดจะทักทายอีกพ่อมึงไม่สั่งไม่สอนรึไงวะ” ท่านชัยถอนท่อนเอ็นออกมาก่อนจะถมน้ำลายใส่หน้าพ่อแก้ว “ข.. ขอโทษครับท่าน ไอ้กิจเพิ่งกลับบ้าน...” “หุบปากไอ้สัตว์” ว่าแล้วท่านชัยก็ยัดกระบองกามเข้าปากหนุ่มวัยดึกอีกครั้ง กิจหน้าซีดเผือดเพราะห่วงพ่อตนเองกลัวว่าชายหัวโล้นร่างกำยำจะถูกกระทำชำเราไปมากกว่านี้ กิจจะต้องหยุดชายคนนี้ให้ได้ตอนที่ตนยังมีสติก่อนที่กิจจะหมดโอกาศนี้ไป
กิจกัดฟันก่อนจะเดินเข้ามาหวังหยุดการสืบสม แต่ชามน้ำข้นขาวในมือที่เหมือนจะกระฉอกก็ทำให้ตัวเองตระหนักได้ พ่อของตนโดนเล่นเข้าเสียแล้ว... เพียงชายตรงหน้าสั่ง พ่อของตนคงจะทำตามอย่างไม่ต้องสงสัย... กิจขมวดคิ้ว หากท่านชัยสั่งให้พ่อแก้ว.... กิจปัดความคิดแสนน่ากลัวออกจากหัว แต่อารมณ์สิ้นหวังก็ยังคงขุ่นขลักในจิตใจ... หากแต่กิจจะยังจำความสิ้นหวังนี้ได้อีกนานแค่ไหนตนก็ไม่รู้... กิจรู้สึกขมขื่นเสียเหลือเกิน สุดท้ายแล้วตนจึงเปิดปากค่อยๆถามออกมาเหมือนกระอักเลือด “ผม... ต้อง... ทำยังไงครับ... ท่านชัย” ธุรกิจหนุ่มกล้ามแน่นหน้าเครียดถามท่านชัย กลัวเหลือเกินว่าตนจะทำให้นายตนผิดหวัง ท่านชัยยิ้มเยี่ยงผู้ชนะ “ขั้นแรก มึงก็ก้มกราบผู้มีพระคุณอย่างกูสิวะ”
“ควยเอ้ย!” ในห้องประชุมแห่งหนึ่ง มีเสียงสบทดังลั่น คนที่ปล่อยคำสบทออกมาคือชายร่างอ้วนล่อนจ้อนดูมีอายุคนหนึ่ง ชายคนนี้มองสิ่งที่อยู่บนโต๊ะประชุมด้วยความไม่พอใจ เพราะกรรมพันธุ์ ชายคนนี้จึงผมร่วงเสียจนหัวเป็นทุ่งหมาหลง อายุที่มากเข้า ประกอบกับอาชีพประจำเก้าอี้ ยิ่งทำให้ตนไม่สามารถควบคุมขนาดพุงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆของตนได้ นั่นทำให้ชายคนนี้ยิ่งรำคาญสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น ทั้งๆที่อายุก็พอๆกันแท้ๆ หากแต่สวรรค์หามีตาไม่
ทำไมมันช่างแตกต่างกันขนาดนี้ ชายพุงพลุ้ยได้แต่คิดพลางกัดฟัน สิ่งที่อยู่บนโต๊ะประชุมคือร่างของชายวัยกลางคนที่ดูงดงามสมส่วนดั่งหุ่นศิลปกรรม ชายรูปงามกำลังโป้เปลือยอ้าขาอ้าปาก ปล่อยให้เหล่าพนักงานชายต่างเข้ามาใช้งานระบายความใคร่จนกลิ่นกามคลุ้งทั่วห้อง ทั่วตัวของชายวัยกลางคนมีทั้งรอยคราบเหนียวคราบน้ำลาย และแม้แต่น้ำหมึกสีฟ้าเข้มย้อมเอ็นอุ่น หรือป้ายลูบทั่วตัวยิ่งทำให้รอยมัดกล้ามเห็นชัดเสียจนน่าหลงไหล
แม้ชายร่างอ้วนจะอิจฉาและเกลียดชายรูปงามตรงหน้าขนาดไหน แต่ตนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าแม้แต่ตัวชายร่างอ้วนเอง ก็ปล่อยนมข้นขาวป้อนปากของชายบนโต๊ะนี้หลายคราแล้วในสองวันนี้ เหล่าพนักงานทุกคนยังคงใส่ชุดพนักงานออฟฟิศ เพียงปลดซิบออกมาเพื่อกระหน่ำสืบสมกับชายบนโต๊ะเท่านั้น แต่สิ่งที่แปลกที่สุดคือสายตาของทุกคนยกเว้นชายร่างอ้วนดูเหม่อลอยไร้สติ
“พวกมึงออกไปได้แล้ว!” ชายร่างอ้วนกระเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจก่อนจะสั่งเหล่าพนักงาน เหล่าพนักงานที่ได้ยินอย่างนั้นก็เดินออกไปโดยไม่สนใจว่าอาวุธกามของพวกตนยังคงตั้งตระหง่านนอกกางเกง ชายร่างอ้วนหันกลับมามองชายบนโต๊ะด้วยสายตาชิงชัง
หน้าคมและร่างกายที่ดูงดงามดั่งฟ้าประทานนั้นตนรับได้ ผมที่ยังคงดำแซมเทาน่าเคารพไม่ร่วงจนหัวล้านแบบตนก็ยังถือว่าธรรมดา หรือแม้แต่ท่อนซุงที่สามารถเอาไปออกหนังต่างชาติได้แบบไม่น้อยหน้าตนก็แค่คิดว่าดูหนังโป้ แต่มีเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ตนยอมไม่ได้!!
ชัยเริ่มจากศูนย์ ทำงานตัวเป็นเกลียวทั้งชีวิต ยังจำได้ว่าตนดีใจจนน้ำตาไหลเมื่อได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย บริหารดูแลเยี่ยงลูกมาเป็นยี่สิบปี แต่จะต้องมาโดนฮุบโดยชายที่เกิดมาเพียบพร้อมทุกอย่างที่แม้แต่จุดเริ่มต้น ชายคนนี้ก็มีพ่อมอบธุรกิจก่อสร้างให้เป็นทุน ต่างจากชัยที่เป็นเพียงลูกไอ้ขี้เมา ชัยได้แต่กัดฟันกรอด ในเมื่อสวรรค์มอบพลังนี้ให้ตน ตนก็จะสร้างความยุติธรรมเอง!
มือของชายร่างอ้วนจับพยามังกรหนุ่มเข้มแน่น เอ็นกามที่เปื้อนหมึกสีน้ำเงินเข้มจนสะท้อนแสงวาว หยาดน้ำไหลจากหัวย้อมทั้งลำทำให้ดูแล้วเหมือนดั่งเคลือบน้ำตาล ชัยชักกระบองของชายชาตรีจนแข็งโป้ก ก่อนจะเริ่มยัดท่อนเอ็นอวบของตนเข้าตัวชายบนโต๊ะอีกครั้ง ชายชาตรีปล่อยเสียงครางอืออาสายตาเหม่อลอย ร่างกายของชายชาตรีบางส่วนมีหมึกสีน้ำเงินเข้มย้อมไว้ คาดว่าเป็นเพราะมือที่เปื้อนหมึกของพนักงานบางคนจับลูบตัวของชายชาตรีคนนี้
ทั้งบริเวณหัวนมที่ชูชัน หรือกล้ามท้องที่เป็นลอน ขาที่อ้ากว้างให้ชายอื่นเข้ามารุมเองก็ไม่เว้น กระบองที่เปื้อนหมึกก็โดนชักจนยืนตรง ปล่อยน้ำกระฉอกออกมาเป็นระลอก หากแต่หมึกก็ยังติดเนื้อไม่โดนล้าง ปากที่อ้าอยู่มีทั้งคราบน้ำลายและน้ำกามไหลเป็นทาง สิ่งที่ชายรูปงามได้ดื่มกินทั้งสองวันนี้ มีเพียงเมือกข้นของเหล่าพนักงานชายทั้งบริษัทกับตนเท่านั้น ยิ่งแต่ละคนที่เข้ามาป้อนให้ชายวัยกลางคนดื่มกิน เป็นเพียงพนักงานชั้นผู้น้อยที่แทบไม่มีโอกาศเห็นหน้าของชายคนนี้ นั่นยิ่งทำให้ชัยแสยะยิ้มอย่างสะใจ หากแต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ตนต้องการก็ยังไม่สมบูรณ์สักที
“ทำไมมึงยังไม่ยอมสักทีวะ ไอ้เหี้ยเอ้ย!” ชายร่างอ้วนกระแทกเข้าแรงจนหนุ่มแกร่งตัวโยน ความเสียวที่เกิดเพราะตนกระหน่ำกามใส่ตัวชายคนนี้ไม่สามารถลดความกังวลในจิตใจของตนได้ ขอแค่ชายบนโต๊ะตกอยู่ใต้อำนาจแห่งความฝันของตน ชายคนนี้ก็จะไม่ต่างไปจากคนโง่ที่พร้อมจะสละทุกอย่างเพียงชัยกระดิกนิ้ว ไม่มีวันตื่นจากภวังค์แห่งความฝันไปตลอดชีวิต
หากแต่โดนมาจะสองวันแล้ว ชายคนนี้ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตกเป็นทาสของตนเสียที เอกสารหนังสือสัญญาโอนหุ้นและเอกสารมอบอำนาจต่างๆที่ตนคิดว่าชายร่างแกร่งจะเซ็นอย่างว่าง่ายก็วางกองระเกะระกะบนพื้นตั้งแต่คืนแรกแล้ว ทั้งๆที่ตนต้องตาต้องใจกับชายตรงหน้ามาก อุส่าคิดว่าหลังจากที่ตนฮุบทุกอย่างของชายรูปงามแล้ว ตนจะยังเมตตาให้ชายคนนี้มาเป็น เลขาส่วนตัว ให้ชัยตลอดชีวิตแท้ๆ
ส่วนเลขาจริงๆก็คงต้องเอาอยู่ใต้ภวังค์ฝันเหมือนกับไอ้นี่ มันจะได้ไม่ปากมาก แต่ในเมื่อชายตรงหน้าบังอาจแข็งข้อกับตนขนาดนี้... ถ้ามันตกอยู่ในภวังค์เมื่อไหร่ ตนจะให้พวกพนักงานชายทุกคนรุมโทรมพลางถ่ายคลิปแล้วอัพโหลดขึ้นอินเตอร์เน็ต ภาพมันที่ยิ้มร่าพลางโดนตอกจากเหล่าพนักงานนับสิบจะประดับโปรไฟล์ของมันทุกช่องทาง เปลี่ยนจากอาชีพนักธุรกิจให้มันเป็นดาวรุ่งเว็ปโป้ไปเลย
หลังจากที่ชัยคั้นเงินกามจากมันได้สักหน่อย ก็ส่งขายให้ชายในดูไบสักคนเล่นต่อ เอามันไปพ้นๆหน้า การันตีให้มันต้องประทังชีวิตด้วยเครื่องกามของผู้ชายไปตลอดกาล ยังไงมันก็จะไม่ปริปากบอกสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว ชายร่างอ้วนตอกเข้าร่างของชายบนโต๊ะต่อ ภาวนาให้มันรีบๆตกเป็นทาสของตนเสียที
ในจิตใจส่วนลึกที่สุดของนักธุรกิจหนุ่ม
ชายร่างแกร่งก็กราบแทบเท้าของท่านชัยด้วยความเคารพ ข้างๆหัวของตนมีชามน้ำชีวิตที่พ่อแก้วเลียเข้าปากเยี่ยงสุนัขกระหาย ท่านชัยทานอาหารที่ตนกับพ่อทำให้อย่างมูมมามพลางถุยหรือโยนเศษอาหารร่วงลงชามน้ำข้นขาวอย่างดูแคลน ชายผู้ที่เป็นโลกทั้งใบของกิจเอาเท้าลูบหัวของกิจเหมือนเอ็นดู ก่อนจะพูดออกมาปนหัวเราะ เศษอาหารออกจากปากร่วงโดนตัวกิจ แต่ชายวัยกลางคนก็หาได้แสดงปฏิกิริยา “ไอ้เหี้ยเอ้ย กูยอมละเว้นโทษให้มึงละกัน มึงไปแดกข้าวกับพ่อมึงได้” ว่าแล้วชายรูปงามก็เหยาะเท้าจุ่มชามน้ำกามก่อนจะยกมาจ่อหน้าชายชาตรี กิจเลียเท้าที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มใจ
ผมมองเหล่าผู้คนที่เดินไปมาในตัวตึกหรูอย่างไม่อยากเชื่อสายตา มองผ่านๆแล้ว ทุกคนล้วนทำตัวตามปกติ พนักงานออฟฟิศหยิบโทรศัพท์พูดคุย พนักงานทำความสะอาด ล้างถูพื้นที่กาแฟหก พนักงานรักษาความปลอดภัยมองพวกตนอย่างสงสัยแต่เมื่อเห็นหน้าของพี่ไกร ก็ละสายตามองผ่านเปรย ทุกคนดูล้วนแล้วแต่ปกติเสียเหลือเกิน
แต่ในหัวของพวกเขามันเป็นภาพจินตนาการที่ฟุ้งซ่านมาก อัศวินกล้าผู้ยืนเฝ้าห้องโถงให้ราชาเปิดประตูให้เจ้าชาย ยักษ์ร่างมหึมากำจัดหมู่บ้านของพวกมนุษย์ไปทีละน้อย จนไม่เหลือซึ่งสิ่งสกปรกบนพื้นโลก ฮีโร่วีรบุรุษผู้เฉิดฉายในเงามืดสวมรอยเป็นคนธรรมดายามกลางวัน ผมหันไปมองพี่ไกรที่เริ่มขยี้ตาอย่างงัวเงียก่อนจะจับจ้องลึกขึ้นไปอีก
อย่าหลับ พี่ไกรสะดุ้งมองหันมองไปมองมาอย่างตกใจ “นั่นกรเอง” ผมพูดออกมาเสียงเครียด “พี่อย่าอยู่ห่างกรนะ” พี่ไกรได้ยินก็พยักหน้า เรื่องที่เกิดขึ้นสองสามวันนี้ช่างยุ่งวุ่นวายเสียจนผมอยากจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ... ผมได้แต่ข่มอารมณ์มืดของตัวเองลง ก่อนจะเดินจูงมือพี่ไกรเพื่อไปยังชั้นบนสุด
|