ห่างหายจากเรื่องนี้ไปพักใหญ่เพราะไอเดียหมด
ตอนนี้กลับมาลุยต่อแล้ว แต่จะขอเปิดแบบเบา ๆ ก่อน เรียกน้ำย่อยก่อนนะครับ
ตอนนี้เขียนเป็นปลายเปิดไว้หลาย ๆ เหตุการณ์ ถ้าใครมีไอเดียอยากเห็นหรืออยากให้เป็นอย่างไรเสนอกันมาได้ เพราะยังไม่ได้เขียนตอนต่อไปเลย
บทที่ ๑๕ พิสูจน์
พาทีขับรถออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังสำนักงานตามเวลาปกติวันนี้เขารู้สึกอารมณ์ดีกระปรี้กระเปร่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนพาทีพารถขึ้นทางด่วนไปถนนหนทางที่ปกติติดขัดอยู่เสมอในทุกเช้าที่เขาเดินทางวันนี้กลับคล่องตัวขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อเพราะทุกอย่างมันดีไปหมดหนุ่มใหญ่จึงเอื้อมมือไปเปิดเพลงฟังเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดียิ่งขึ้นตอนนั้นเองที่หางตาของเขาเหลือบไปสะดุดกับอะไรบางอย่างที่คุ้นตาข้างทาง
ป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ที่เขาขับรถผ่านมันโชว์รูปเขาที่อยู่ในชุดชั้นในผู้หญิงอยู่พาทีไม่แน่ใจว่าเขาตาฝาดไปหรือเปล่าแต่ตอนนี้เขาขับรถผ่านมันมาแล้วไม่สามารถย้อนกลับไปดูได้อีกใจของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่เต้นแรงขึ้น ความวิตกกังวลเริ่มครอบงำจิตใจเขาทั้งที่เมื่อครู่ทุกอย่างมันยังดีมาก ๆ อยู่เลย
หนุ่มใหญ่พยายามคิดว่าเขาน่าจะตาฝาดไปนิตยสาร Gent ไม่น่าจะลงทุนกับหนังสือที่วางแผงแค่เดือนเดียวขนาดนี้ แต่ยังไม่ทันที่ความกังวลจะคลายลงสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นที่ป้ายบิลบอร์ดจอ LED ขนาดใหญ่ปรากฏภาพของเขาที่กำลังถูกถอดชุดชั้นในผู้หญิงออกและแวดล้อมรอบตัวด้วยทีมแผนกครีเอทีฟ พาทีตกใจกับภาพที่เห็น ใจของเขายิ่งเต้นแรงเหงื่อผุดเต็มตัวไปหมด
ตอนนั้นเองที่เขาสะดุ้งตื่น!!
หนุ่ใหญ่หอบหายใจแรงตัวยังนอนราบอยู่ที่เตียงนอน เขารู้แล้วว่าตัวเองฝันไปและกำลังเรียกสติกลับคืนมา
สิ่งที่เกิดขึ้นหลาย ๆเหตุการณ์ก่อนหน้านี้จนถึงเมื่อเย็นวานคงทำให้เขากังวล จนเก็บทุกอย่างไปฝัน เมื่อสติกลับคืนมาพาทีหยิงนาฬิกาขึ้นมาดู มันบอกเวลาใกล้รุ่งแล้ว เขาจึงตัดสินใจพาตัวเองลุกจากที่นอนเขาเดินออกจาห้องลงไปชั้นล่างของบ้านทั้งชุดนอน พยายามสลัดความรู้สึกแย่ ๆที่มีตอนนิออกไปและเริ่มต้นกิจวัตรประจำวัน
กว่าจะพาตัวเองออกจากที่พักได้ก็เป็นช่วงสายของวันแล้วเขายังไม่พร้อมจะเจอกับใครที่ออฟฟิศเลยเลือกที่เข้าทำงานสายกว่าปกติระหว่างการเดินทางสายตาของเขาจับจ้องที่สองข้างทางตลอดเวลาเพราะใจยังระแวงถึงสิ่งที่ฝันเมื่อช่วงรุ่งสาง
เมื่อถึงสำนักงานหนุ่มใหญ่ตรงไปที่ห้องทำงานของเขาทันทีพอถึงห้องเขาทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง เวลาที่ต้องการกำลังใจพาทีนึกถึงภรรยาขึ้นมาทันทีเขาหยิบมือถือขึ้นมาต่อไปหาภรรยาทันทีโดยไม่สนใจว่าที่ปลายสายตอนนี้จะเป็นเวลาเท่าไร
หลังสื่อสังคมออนไลน์ของนิตยสารGent เผยแพร่ภาพของพาทีเพื่อโปรโมทนิตยสารที่กำลังจะวางแผงทำให้เกิดกระแสฮือฮาเป็นอย่างมากจากภาพที่แสดงให้เห็นร่างกายด้านหลังแบบเต็ม ๆของหนุ่มใหญ่ที่กำลังโพสต์ท่าเบ่งกล้ามโชว์ความแข็งแกร่งของร่างกายในขณะที่ทั้งร่างสวมใส่ชุดชั้นในสตรีซีทรูติดกายเพียงแค่สองชิ้นเท่านั้น
กระแสเสียงมีทั้งกลุ่มที่ชื่นชมที่พาทีเป็นแบบอย่างของหัวหน้างานที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายของคนในองค์กรแต่ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มที่เห็นเขาเป็นตัวตลกและเอารูปของเขาไปทำเป็นมีมเพื่อล้อเลียนต่างๆ นานา จนทำให้คนบางกลุ่มเริ่มตั้งคำถามและเริ่มสงสัยในรสนิยมทางเพศของเขาไปด้วยไม่เว้นแม้แต่คนใกล้ตัวพาทีต้องอธิบายให้ภรรยาของเขาได้เข้าใจในเจตนาที่เขาถ่ายภาพนั้นออกไปดีที่ภรรยาของเขาเป็นคนหัวสมัยใหม่ เธอเข้าใจและพร้อมยืนหยัดเคียงข้างสามีขณะที่ลูกชายก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อต้านอะไร นั่นเป็นสิ่งที่พาทีพอจะสบายใจไปได้เปลาะหนึ่ง
การต่อสายคุยกับภรรยาในเช้านี้ก็ช่วยฮีลใจของเขาให้ดีขึ้นมาในระดับหนึ่ง
ขณะที่แผนกครีเอทีฟ
ทีฆายุรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับคนในแผนกตั้งแต่เช้าเขาเห็นต้าร์ เอื้อ และบอม ซุบซิบอะไรกันอยู่ตลอดเวลาแต่เนื่องจากที่นั่งของเขานั้นห่างจากหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้จึงไม่เข้าใจเรื่องที่คนกลุ่มนี้คุยกันมากนักแต่พอจะจับใจความได้ว่าน่าจะเกี่ยวของกับพาทีแน่ ๆ
จนช่วงสายที่ย้งเดินทางมาถึงสิ่งแรกที่ทำคือเขาเดินตรงไปหาต้าร์แล้วเอ่ยถามขึ้นมาว่า
“เป็นไงบ้างเมื่อคืนประชุมแก้งานกันสนุกสนานดีไหม งานแก้เรียบร้อยหรือยัง”
ต้าร์ยังไม่ทันตอบกลับเป็นเอื้อที่เผลอหลุดเสียงหัวเราะออกมาก่อนจนย้งต้องหันไปหาต้นเสียงเอ่ยปากถามออกไป
“มีอะไรกันท่าทางดูมีพิรุธ”
“เสียดายที่พี่ย้งไม่อยู่ประชุมกับพวกเราด้วย”
“ก็พวกเอ็งบอกว่าอยากจะประชุมคุยกันเองนี่หว่าแล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
“ก็ผิดแผนนิดหน่อยครับแต่งานก็เสร็จเรียบร้อยดี ผมส่งไฟล์ให้พี่ในกลุ่มแล้ว”
“โอเค”ย้งยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำตอบนั้น กำลังจะผละเดินไปที่โต๊ะประจำตำแหน่งของตัวเองแต่ต้าร์ก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“พอดีคุณพาทีมาช่วยให้ความเห็นงานก็เลยลื่นปรื๊ดๆ เลย”
พูดจบทั้งสามหนุ่มก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน จนย้งรู้สึกงุนงงมองหน้าลูกน้องแต่ละคนด้วยความสงสัย
“มีพิรุธนะพวกเอ็งเกิดอะไรขึ้น”
“พี่ย้งต้องเห็นเองเมื่อคืนตอนประชุมกันพวกผมเรคคอร์ดเอาไว้ด้วย พี่ย้งลองเข้าไปดูใน ZOOM”
ย้งรีบเดินไปที่โต๊ะทำงานเปิดคอมพิวเตอร์ส่วนตัว แล้วเข้าโปรแกรม ZOOM เพื่อเปิดดูบันทึกการประชุมเมื่อคืนนี้ของทีมเขา สามหนุ่มที่เหลือเดินมาล้อมหลังที่นั่งของย้งเพื่อดูคลิปนั้นด้วยพวกเขาบอกให้ย้งเลื่อนคลิปไปเรื่อย ๆเพื่อให้ไปถึงช็อตที่เขาต้องการให้หัวหน้าแผนกเห็นโดยเร็ว จนมาถึงช็อตที่พาทีเดินเข้ามาในห้องแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ระหว่างพาทีกับต้าร์ก็ปรากฏต่อสายตาของทุกคนย้งเบิกตาโพลงไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เห็นจะเป็นเรื่องจริง
“ไอ้เชี่ยเอ๊ยนี่มันอะไรกันวะเนี่ย”
เสียงย้งอุทานดังลั่นห้องตามมาด้วยเสียงหัวเราะขบขันของสามหนุ่ม
“นี่เขารู้ตัวไหมว่าเขาถูกถ่ายคลิปเอาไว้”ย้งหันไปถามต้าร์ ต้าร์ส่ายหัวก่อนจะบอกว่า
“ตอนนั้นผมเปิดไฟล์งานค้างไว้ที่หน้าจออยู่คุณพาทีน่าจะไม่เห็นว่าผมเปิดโปรแกรม ZOOM คุยงานเอาไว้ด้วยจังหวะนั้นผมก็ปิดเสียงที่เครื่องคอมด้วย คุณพาทีก็เลยไม่ได้ยินเสียงจากอีกฝั่งผมเลยคิดว่าจนตอนนี้แกยังไม่รู้ตัวว่าทุกคนในแผนกเราเห็นการกระทำของแกเมื่อคืนนี้กันหมด”
ย้งยังคงดูภาพที่เกิดขึ้นต่อไปจนถึงตอนที่พาทีพ่นลาวาขาวข้นเจิ่งนองเต็มพื้นห้องเขาเบือนหน้าหนีทันควัน
“เหี้ยจริง ๆนี่มันมาพ่นน้ำในห้องเราอีกรอบแล้ว มิน่าตอนเข้ามากูได้กลิ่นคาว ๆ แปลก ๆ”
“ผมทำความสะอาดอย่างดีแล้วนะพี่ย้ง”
“ใช่ ๆ พี่ ไอ้ตาร์เอาลิ้นลงไปเลียจนหมดแล้วไม่น่ามีกลิ่นแล้วนะพี่”เอื้อเล่นมุกต่อทันที
“น้อย ๆ หน่อยไอ้เอื้อกูไม่เหมือนมึงหรอกที่ไปเลียจั๊กกะแร้เขาตรง ๆ แบบนั้น”
“พอกันทั้งคู่นั่นแหละพวกมึงหยุดเลยกลับไปทำงาน”
ย้งรีบห้ามทัพหยุดเหตุการณ์ก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะบานปลาย
“พี่ย้งอย่างลืมดูงานให้ผมด้วยนะอย่ามัวแต่วนดูคลิปล่ะ”
“หยุดเลยไอ้ต้าร์มึงนี่ลามปามกูนะ”
ต้าร์เห็นท่าไม่ดีรีบชิงหนีกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อยู่ในสายตาและการรับรู้ของทีฆายุหมดทุกอย่างมันสร้างความสงสัยใคร่รู้ให้กับเขาเป็นอย่างมาก เขาอยากรู้เหลือเกินว่ามีอะไรเกิดขึ้นในคลิปนั้นแต่ความที่เขาเป็นเด็กฝึกงานยังไม่มีรหัสผ่านที่จะเข้าไปใช้งาน ZOOM ของแผนกได้เขาจึงเป็นคนเดียวในห้องที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันคืออะไรย้งเห็นอะไรในคลิปนั้น เขารู้เพียงแต่ว่ามันไม่น่าใช่เรื่องที่ดีแน่ ๆเขาเริ่มกระสับกระส่ายคิดหาทางอย่างไรดีที่จะได้เห็นคลิปนั้น
ทีฆายุรอจนถึงตอนเที่ยงตอนที่กลุ่มคนในแผนกครีเอทีฟกำลังจะออกไปกินข้าวเที่ยงกันเขาบอกกับคนในแผนกว่าวันนี้เขาทำข้าวมากินเองและนัดน้อยโหน่งไว้แล้วว่าจะกินด้วยกันหนุ่ม ๆ ในแผนกจึงออกจากห้องไปโดยไม่ได้นึกสงสัยอะไรเด็กหนุ่มนักศึกษาฝึกงานรอสักพักจนเห็นว่าทั้งกลุ่มแผนกครีเอทีฟน่าจะออกจากออฟฟิศไปแล้วเขาจึงเดินไปที่โต๊ะของย้งภาวนาว่าย้งจะไม่ล็อกหน้าจอคอมของเขา
เมื่อทีฆายุลองขยับเมาท์หน้าจอคอมของย้งก็สว่างขึ้นมาทันทีใจของเด็กหนุ่มลิงโลด เขาภาวนาต่อขอให้ยังไม่ปิดโปรแกรม ZOOM แต่เมื่อคลิกเข้าไปดูก็พบว่าหัวหน้าแผนกนั้นล็อกเอ้าท์ออกจากโปรแกรมไปแล้ว เด็กหนุ่มเปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่แล้วคลิกไปที่การเข้าสู่ระบบแล้วโชคก็เข้าข้างเขาเมื่อทีฆายุพบว่าเขาสามารถคลิกเข้าสู่โปรแกรมได้อย่างง่ายดายเพราะเจ้าของเครื่องสั่งให้โปรแกรมจดจำรหัสผ่านเอาไว้
เด็กหนุ่มรีบเข้าไปหาคลิปที่เขาต้องการทันทีไม่นานเขาก็พบมัน ทีฆายุเลื่อนภาพให้เดินหน้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้เห็นสิ่งที่เขาสงสัยแล้วไม่นานเขาก็พบสิ่งที่เขาต้องการ ภาพของพาทีปรากฏขึ้นหน้าจอให้เห็นเด็กหนุ่มมองภาพหน้าจอด้วยความตื่นตะลึงไม่นึกว่าพาทีจะพาตัวเองมาไกลขนาดนี้
เขาไม่รอช้ารีบส่งออกข้อมูลนั้นไปยังอีเมล์ของตัวเองทันทีก่อนที่จะปิดโปรแกรมแล้วรีบเดินไปที่ประตูแต่ก่อนที่จะออกจากห้องเด็กหนุ่มหันกลับมายกมือถือถ่ายภาพห้องที่ปราศจากผู้คนเก็บเอาไว้
ในวงสนทนากลางโต๊ะอาหารเที่ยงของหนุ่มๆ แผนกครีเอทีฟ
“มันเกิดอะไรขึ้นวะเมื่อเย็นวานนี้”ย้งมองไปที่ต้าร์แล้วเอ่ยปากถามขึ้นมาเรื่องที่ยังคาใจเขาอยู่ตั้งแต่เช้า
“ก็อย่างที่พี่เห็นในคลิปนั่นแหล่ะเรากำลังนั่งประชุมงานกันอยู่ ผมก็แก้งานตามไอ้พวกนี้มันบอก แล้วอยู่ ๆคุณพาทีแกก็เปิดประตูเข้ามา แล้วมันก็เป็นอย่างที่เห็น”
“ปกติเขาไม่เคยมายุ่งอะไรในห้องทำงานเรานะทำไมเมื่อวานแกถึงเข้ามาได้”
“ก็อย่างที่แกว่าว่าเดินตรวจตราความเรียบร้อยก่อนกลับแล้วเห็นไฟในห้องยังเปิดอยู่ก็เลยเข้ามาดู”
“แล้วอะไรดลใจให้มึงไปทำอย่างนั้นกับคุณพาทีวะไอ้ต้าร์”เอื้อเป็นฝ่ายถามสิ่งที่คาใจเขาบ้าง
“กูยอมรับตรง ๆเลยนะว่ากูอารมณ์ค้างมาตั้งแต่ตอนประชุมช่วงเช้าแล้วพวกมึงเห็นอย่างที่กูเห็นกันไหม ตอนที่กูพรีเซนต์งานกูไปไม่เป็นเลยแกเล่นยืนอวดเป้าตู้ม ๆ ให้เห็นตอนที่กูจับคุณพาทีแก้ผ้าถึงได้รู้ว่าทำไมมันถึงตู้มได้ขนาดนั้น”
“เพราะเล่นไม่ใส่กางเกงชั้นใน”
“พี่ย้งว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณพาทีครับทำไมอยู่ ๆ แกกลายเป็นแบบนี้มันเกี่ยวอะไรกับตอนนี้ที่เมียกับลูกชายแกไปอยู่เมืองนอกไหมครับ”เอื้อยังไม่คลายสงสัย
“หรือคุณพาทีแกเป็นอีแอบเมียกับลูกรับไม่ได้เลยหนีไปเมืองนอก”บอมรีบนำเสนอทฤษฎีซึ่งต้าร์กับเอื้อก็เห็นดีตามนั้นมีเพียงย้งที่รู้จักพาทีมานานกว่าทุกคนที่ยังทำใจให้เชื่อไม่ได้
“เรามาลองพิสูจน์กันไหมครับพี่ย้งว่าคุณพาทีแกเป็นอีแอบจริงไหม”ย้งหันไหมองต้าร์ที่เป็นคนเปิดประเด็น สีหน้าเต็มไปด้วยคำถามจนต้าร์จับสังเกตได้
“ผมจะลองสานต่อจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ดูคืนนี้เลย”
ตั้งแต่ช่วงสายมาจนถึงบ่ายพาทีนั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวไม่ได้ออกไปไหนเหตุการณ์เมื่อเย็นวานนี้ทำให้เขาไม่กล้าสู้หน้าใครเพราะไม่รู้ว่าต้าร์จะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าให้ใครในออฟฟิศนี้ฟังบ้างพาทีว้าวุ่นใจจนที่สุดเขาก็นึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมาได้ เขาทักไลน์ส่วนตัวไปหาคน ๆนั้น เพียงไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แล้วก็เป็นทีฆายุที่เดินเข้ามาในห้อง
“คุณพาทีมีเรื่องอะไรให้ผมรับใช้ครับ”
“นั่งก่อนสิเป็นอย่างไรบ้างช่วงนี้เราไม่ได้คุยกันเลย”
“คาดว่าช่วงก่อนหน้านี้เหตุการณ์ในออฟฟิศเราคงสงบและเป็นปกติใช่ไหมครับคุณพาทีเลยไม่ได้เรียกผมให้เข้ามาพบ หรือว่าตอนนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”
“เปล่า ๆ” พาทีรีบชิงปฏิเสธท่าทีดูมีพิรุธ ก่อนจะละล่ำละลักต่อไปว่า “ทางผมไม่มีอะไรผมก็อยากถามทางคุณเหมือนกันว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นบ้างไหม โดยเฉพาะวันนี้”
ทีฆายุเลิกคิ้วด้วยความสงสัยคำพูดของอีกฝ่าย
“ทำไมวันนี้ต้องมีอะไรเหรอครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้วผมแค่อยากอัปเดตดูเท่านั้น คุณกลับไปทำงานเถอะ”
ทีฆายุลุกขึ้นยืนเขากล่าวลาฝ่ายตรงข้ามแล้วเดินไปที่ประตูห้อง จังหวะที่เขาเปิดประตูห้องนั้นเองย้งก็กำลังจะเคาะประตูขอเข้าพบพาทีพอดีพอพาทีเห็นก็เชิญให้หัวหน้าแผนกครีเอทีฟเข้ามาห้องของเขา
“ส่งงานที่ปรับแก้มาให้ดูแล้วครับ”
“อ้อเหรอ”พาทีรับคำก่อนจะเปิดไฟล์งานที่ย้งส่งงานขึ้นมาดูเขาใช้เวลาดูสักพักก็ตอบอีกฝ่ายกลับไปว่า
“โอเคนะปรับแก้ตามที่ผมให้คำแนะนำไปเมื่อเย็นวาน เยี่ยม”
“เมื่อเย็นวานเหรอครับ”ย้งเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
“ต้าร์ไม่ได้บอกคุณเหรอว่าเมื่อเย็นวานผมคอมเมนต์งานเขาไปนี่เขาก็ปรับมาตามที่ผมบอก”
“ต้าร์ไม่ได้บอกอะไรครับถ้าคุณพาทีโอเคแล้วผมจะได้ส่งงานต่อให้ทีมโปรดักชันเลย”ย้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างพาทีกับต้าร์เพราะอยากดูว่าเย็นวันนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม
“โอเคตามนั้นได้เลย”
พอย้งออกจากห้องไปพาทีก็พ่นลมหายใจออกมาทันที ทั้งย้งและทีฆายุไม่ได้มีอะไรผิดสังเกตแสดงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ยังเป็นความลับระหว่างเขากับต้าร์
พาทีรู้สึกดีขึ้นไม่นานก็ต้องอารมณ์ขุ่นมัวขึ้นมาอีกเพราะการมาถึงของประจักษ์ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของบริษัท
พอมาถึงประจักษ์ก็ล้งเล้งใส่พาทีทันที
“คุณไม่อายเหรอพาที ไปทำอะไรแบบนี้ให้คนทั้งประเทศเห็นที่แต่งชุดผู้หญิงมางานปาร์ตี้เดย์วันนั้นก็ว่าสุดจะทนแล้วนี่ยังหน้าด้านใส่ชุดชั้นในผู้หญิงโชว์อีก ผมไม่เข้าใจคุณจริง ๆอย่างนี้พวกลูกค้าเขาจะมององค์กรเราอย่างไร”
พาทีได้แต่ถอนหายใจเมื่อได้ฟังสิ่งที่ประจักษ์พ่นออกมาเขาพยายามทำใจเย็นตอบอีกฝ่ายกลับไปว่า
“ผมว่าถ้าลูกค้าดูที่เจตนาสิ่งที่ผมต้องการสื่อออกไปเขาน่าจะเข้าใจลูกค้าเรามีวุฒิภาวะกันทั้งนั้น”
“มีแต่คุณนั่นแหล่ะที่ตอนนี้ไม่มีวุฒิภาวะหวังว่าต่อจากนี้คุณจะไม่ทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้อีกแล้วนะคุณพาที”
พาทีไม่สบอารมณ์นักแต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไปคิดว่าความเงียบน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ประจักษ์เหมือนจะยังไม่จบความต้องการของเขา
“หรือเพราะเรายังไม่ได้ทำบุญออฟฟิศต้องใช่แน่ ๆ เราอยู่ที่มาเป็นเดือน ๆ แล้ว แต่เรากลับพลาดไม่ทำเรื่องสำคัญแบบนี้”
“เอ่อผมไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกัน”
ประจักษ์เงยหน้าขึ้นสบสายตาพาทีแล้วอยู่ๆ เขาก็แสดงสีหน้าตื่นตกใจ
“พาทีคุณรู้ตัวไหมหน้าคุณคล้ำมากเลยนะ ปกติหน้าคุณไม่เป็นแบบนี้นี่นาหรือว่าคุณโดนของใส่ ใช่แน่ ๆ ตั้งแต่ย้ายมาออฟฟิศที่นี่ก็มีแต่เรื่องแปลก ๆผมว่าไม่ได้การละ เดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องทำบุญออฟฟิศใหม่ให้แล้วกันแล้วคุณก็อาจจะต้องหาเวลาหยุดพักเสียบ้างแล้ว”
พาทีถอนหายใจหนักอีกครั้งเขารู้ว่าไม่สามารถห้ามปรามอะไรประจักษ์ได้ เขาได้แต่พยักหน้ารับบอกประจักษ์ออกไปว่า
“ดีเหมือนกันผมตั้งใจว่าถ้าเคลียร์งานที่ค้างอยู่ตอนนี้ได้เมื่อไรก็จะลางานไปเยี่ยมครอบครัวอยู่พอดี”
“ดี ๆ อันนี้ผมเห็นด้วยแต่ขอให้หลังจากที่เราทำบุญขึ้นออฟฟิศใหม่กันก่อนงานสำคัญแบบนี้ขาดคุณไม่ได้นะพาที”
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นปกติจนช่วงเย็นพนักงานเริ่มทยอยออกจากที่ทำงานกันไปทีละครสองคนแต่พาทียังคงปิดตัวอยู่ในห้องเหมือนเดิม
อยู่ ๆไลน์ของเขาก็มีข้อความเด้งขึ้นมาจากคนแปลกหน้า พาทีเริ่มระแวงเมื่อมีคนใหม่ ๆทักไลน์มาหา แต่ความอยากรู้ทำให้เขาคลิกเข้าไปดูข้อความที่ส่งมา
สิ่งที่เขาเห็นก่อนคือภาพสถานที่ที่คุ้นตาเป็นอย่างมาก
พออีกฝ่ายเห็นว่าเขาอ่านข้อความแล้วก็มีข้อความตามมาอีกทันที
‘แผนกครีเอทีฟปลอดคนแล้วนะครับคุณพาที เรามาสนุกกันต่อไหมครับ’
พาทีใจเต้นแรงเขารู้โดยไม่ต้องถามว่าคนที่ส่งทั้งภาพและข้อความมาคือใคร
ต้าร์
พาทีทำเป็นนิ่งไม่ตอบกลับอะไรแม้ใจจะเต้นแรง
ที่ห้องทำงานแผนกครีเอทีฟ เอื้อและบอมเดินมาซุบซิบอะไรบางอย่างกับต้าร์อยู่ตอนที่ทีฆายุเดินมาลาพี่ๆ ในแผนกแล้วออกจากห้องไปเงียบ ๆ เขารีบหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความทางไลน์ไปหาใครบางคน
ที่ห้องทำงานของพาที
‘ผมอยากให้คุณพาทีแก้ผ้าให้หมดทั้งตัวเอามือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย แล้วเดินมาหาผมที่ห้อง’
ข้อความล่าสุดถูกส่งมาหาพาทีอีกครั้งแม้เขาจะยังไม่ได้ตอบกลับข้อความอะไรไปสักข้อความเดียว
ที่ห้องทำงานแผนกครีเอทีฟ
“กูไม่มีแผนอะไรหรอกแค่จะนั่งทำงานรอเหมือนเมื่อวานนี้กูอยากรู้ว่าถ้าคุณพาทีเขาเห็นว่ากูยังทำงานอยู่ เขาจะทำอย่างไรพวกมึงก็คอยดูเหตุการณ์ผ่าน ZOOM เหมือนเดิมแล้วกัน”
“พี่ย้งไม่อยากให้มึงทำแบบนี้เลยนี่เขารีบกลับไปก่อนใครคงกลัวว่าเพื่อนรักที่ทำงานด้วยกันมานานจะทำให้เขารู้สึกผิดหวังแน่ ๆ”
“แล้วถ้าคุณพาทีเขามาจริง ๆวันนี้ มันจะเกิดอะไรขึ้นวะ”
“มึงรอดูแล้วกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ที่ห้องทำงานของพาที
ข้อความล่าสุดถูกส่งมาร่วม 10 นาทีแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับอะไรจากพาที ข้อความใหม่จึงถูกส่งตามมาทันที
‘ผมอยากเห็นคุณพาทีแบบนี้ และอยากเป็นคนเดียวที่ได้เห็นหวังว่าคุณพาทีจะเก็บภาพนี้ไว้ไม่ปล่อยให้มันหลุดออกไปนะครับ’
ภาพถูกส่งตามมาหลังข้อความไม่นาน
พาทีที่ยืนเปลือยกายกำลังสาวท่อนลำโดยมีต้าร์ปรากฏอยู่ในภาพด้วย
พาทีตกใจที่ได้เห็นทำไมสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องแฟนกครีเอทีฟมันถึงมีไฟล์ภาพปรากฏให้เห็นได้
ตามมาด้วยคลิปสั้น ๆตอนที่พาทีน้ำแตกปล่อยลาวาขาวข้นออกมาจากท่อนลำของเขาใบหน้าเหยเกด้วยความเสียวอย่างสุขสม
พาทีเหงื่อตกเขาลุกขึ้นยืนแล้วเริ่มถอดชุดที่สวมใส่ออกจากตัวทีละชิ้นจนร่างกายเปล่าเปลือย
ที่ห้องทำงานแผนกครีเอทีฟ
ในห้องมีเพียงต้าร์นั่งทำงานอยู่คนเดียวเขานั่งรอด้วยความกระวนกระวายเฝ้าดูเวลาก็เห็นว่ามันใกล้กับเวลาที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ชายหนุ่มชะเง้อคอมองไปที่ประตูห้อง แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นตอนนั้นเอง
ต้าร์ลุกเดินไปที่ประตูเขาไม่รู้ว่าคนที่อยู่อีกฝั่งเป็นใคร แต่ก็หวังใจลึก ๆ ว่าจะเป็นเจ้านายของเขาเขาเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วเปิดมันออก ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มตกตะลึง
พาทีในสภาพร่างเปลือยเปล่าเอามือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย ท่อนลำแข็งตัวชูชันรออยู่แล้ว
ต้าร์กระพริบตาถี่ ๆเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้ตาฝาดไป
นี่มันเกินกว่าที่เขาคาดหมายว่าจะได้เจอ
“คุณอยากสนุกต่อจากเมื่อวานนี้ใช่ไหมอยากให้ผมทำอะไรอีก”
เสียงพาทีสั่นเครือแต่ต้าร์คงจับความรู้สึกนั้นไม่ได้เพราะจิตใจของเขาก็กระเจิดกระเจิงไปแล้วเช่นกัน
“เข้ามาสิครับคุณพาที”
ต้าร์เบี่ยงตัวหลีกทางให้อีกฝ่ายได้เดินเข้ามาในห้องพาที่เหมือนรู้งาน เขาเดินอาด ๆ ตรงไปยังจุดเดิมที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อวานซึ่งเป็นจุดที่กล้องจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของต้าร์สามารถเก็บภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้
‘โห เดินแก้ผ้าควยแข็งมาจากห้องเลยเหรอวะเนี่ย ไม่ธรรมดาจริง ๆบอสเรา’ ข้อความในไลน์กลุ่มแผนกครีเอทีฟเด้งขึ้นมาทันทีที่พาทีเดินเข้ามาอยู่ในรัศมีกล้อง
‘พี่ย้ง ไม่ดูสดด้วยกันเหรอครับ โคตรเสวเลยนะพี่’
ในที่เกิดเหตุต้าร์เดินตามพาทีเข้ามาหยุดยืนไม่ไกลจากตัวเจ้านายของเขามากนัก เขาหยุดยืนนิ่ง ๆมองสำรวจร่ายกายที่เปลือยเปล่าของพาทีอย่างพินิจพิจารณาพฤติกรรมนั้นทำให้พาทีรู้สึกขวยเขินขึ้นมาไม่น้อยแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้าร์เห็นเขาในสภาพนี้มันทำใท่อนลำของพาทียิ่งขยายความแข็งแกร่งขึ้นไปอีกมันกระดกหัวขึ้นลงหลายครั้งเหมือนจะทักทายคนที่กำลังจ้องมองดูมันอยู่ ทำให้ต้าร์เผลอหัวเราะออกมาโดยไม่ตั้งใจเขาคิดว่าตอนนี้พาทีน่าจะมีอารมณ์เงี่ยนอย่างเต็มที่ แต่เขาจะยังไม่เร่งเครื่องอะไรตอนนี้เพราะอยากให้พาทีเสียวให้เต็มที่ก่อนที่จะได้ปลดปล่อยความเงี่ยนออกมา
“วันนี้คุณพาทีแก้ผ้าเดินมาหาผมเอง แสดงว่ายินยอมให้ผมทำอะไรก็ได้ถูกต้องไหมครับ”
“ผมคงปฏิเสธอะไรไม่ได้แล้วนี่”
“งั้นก่อนอื่นผมขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกหน่อยละกันนะครับ”
ว่าแล้วต้าร์ก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดกล้องเก็บภาพพาทีแก้ผ้าทั้งตัวเอาไว้หลายภาพทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ภาพโคลสอัพใบหน้า และซูมไปที่ท่อนลำอันแผดผงาดเท่านั้นไม่พอต้าร์ยังเปลี่ยนโหมดเป็นกล้องหน้าแล้วเริ่มเข้าไปเซลฟี่กับร่างเปลือยของพาทีด้วย
“คุณพาทีเหงาใช่ไหมครับที่ตอนนี้ลูกเมียไปอยู่เสียไกลเลยอยากหาอะไรทำสนุก ๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะช่วยจัดให้นะครับ”
ต้าร์เอาจมูกเข้าไปถูไถที่แก้มของพาทีอยู่พักใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวเอาจมูกไปชนจมูกของพาที ซึ่งมันทำให้ปากของเขาเข้าประกบไปที่ปากของพาทีตอนแรกมันเป็นแค่การแตะ ๆ ปากกันธรรมดา แต่สักพักพออารณ์ของต้าร์เริ่มเตลิด เขาก็เอามือทั้งสองข้างจับไปข้างแก้มของพาทีแล้วเริ่มเอาปากประกบปากของพาทีอย่างดูดดื่มหื่นกระหาย ขณะที่ลิ้นของเขาก็เริ่มทำหน้าที่ทะลวงเพื่อที่จะเปิดปากของพาทีออกจากกัน
ไม่นานพาทีก็ตอบสนองเขาเปิดปากออกเพื่อให้ลิ้นของต้าร์ทะลวงเข้ามาในปากเขา ลิ้นความลิ้นน้ำลายแลกน้ำลายกันจนชุ่มฉ่ำ ก่อนที่ต้าร์จะถอนปากออกมา ด้วยความสูงที่ไม่ต่างกันมากทำให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน ต้าร์ใช้สายตาจ้องมองดวงตาของพาที แล้วบอกกับอีกฝ่ายว่า
“ทำงานด้วยกันมานานไม่นึกเลยนะครับว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ สมกับที่บอสพยายามสร้าง Happy Workplace ตอนนี้ผมโคตรแฮปปี้เลยครับบอส”
แววตาของพาทีสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดแต่ต้าร์คงไม่สังเกตเห็น เพราะตอนนี้เขาผละจากไปเพื่อไปยกโต๊ะตัวหนึ่งขึ้นมาวางไว้ข้างๆ ตัวของพาที
“ผมอยากให้บอสขึ้นมาไปนั่งบนโต๊ะครับแล้วแหกขาออกให้เห็นทั้งควยทั้งรูตูดบอสแบบเต็ม ๆโชว์ให้คนที่กำลังดูหนังสดตอนนี้เขาเห็นกันให้หมดเลยนะครับ”
พาทีได้ยินอย่างนั้นหัวใจเข้าเต้นรัวด้วยความระทึก
แม้จะรู้อยู่แล้วจากภาพที่ส่งมาว่าเหตุการณ์ในวันนี้ก็น่าจะถูกบันทึกเอาไว้อีกเช่นกันแต่ที่เขาไม่คาดคิดคือกำลังมีคนที่ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ อยู่ในตอนนี้ด้วย
ใครกันที่กำลังดู
คนในแผนกครีเอทีฟ
เท่านั้น...ใช่ไหม
ใจของพาทีเต้นรัว
ตอนที่ต้าร์เดินไปคลิกให้หน้าจอคอมพิวเตอร์สว่างวาบขึ้นมา
พาทีมองยังใบหน้าของคนที่อยู่โปรแกรมถ่ายทอดสดตอนนี้
........ ที่คลับหรูกลางใจเมือง
ประจักษ์เดินตามพนักงานเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง มีคนรออยู่ในห้องนั้นแล้วหลายคน
“มาแล้วเหรอคะป๋าวันนี้มีอะไรนะถึงเรียกริมมี่ออกมาเจอได้”
สาวสวยออกอาการฉอเลาะทันทีที่เจออีกฝ่าย
“ก็คิดถึงหนูริมมี่กับเพื่อนๆ น่ะสิจ๊ะ”
ประจักษ์หยิกไปที่แก้มอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะหันไปทักทายเอกกับภูชิตเพื่อนสนิทของริมมี่ที่เจอกันมาแล้วหลายครั้งก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ชายแปลกหน้าอีกคนที่นั่งอยู่ในห้อง
“นี่พี่ตุ้ยค่ะแกเป็นนักบินสายการบินเดียวกับอีภู พอดีแกเหงา ๆ เลยชวนมาสนุกด้วยไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะป๋า”
“จะว่าอะไรริมมี่คนดีของป๋าได้ล่ะจ๊ะ”
“สวัสดีครับคุณประจักษ์ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมวรัฒน์ เรียกตุ้ยก็ได้ครับ จะได้เป็นกันเอง”
“ยินดีเช่นกัน แต่อย่าเรียกผมว่าป๋าตามพวกนี้แล้วกันมันกระดาก เรียกว่าประจักษ์ก็พอ”
“ยินดีครับ”
“จริง ๆที่ชวนพี่ตุ้ยมาวันนี้เพราะจะเล่าอะไรให้ป๋าฟังด้วย เรื่องที่ป๋ามาขอให้ริมมี่ช่วยเรื่องคนที่โดนของ พี่ตุ้ยเขามีประสบการณ์ตรงผ่านพิธีกรรมมาด้วยตัวเองเลยนะคะน่าจะช่วยเคสนี้ของป๋าได้”
ประจักษ์เบิกตาโพลงทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้เขาหันไปหานักบินหนุ่มใหญ่ทันที
“อาจารย์คงเดชน่าจะช่วยได้ครับ”
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
|