"ขุน ขุน ขุน ตื่นได้แล้ว กินข้าวแต่งตัวก่อน"เสียงพูดนุ่มนวลเข้ามาในหู พร้อมแรงผลักอ่อนโยนที่ไหล่ทำให้ขุนรู้สึกตัวตื่นขึ้น2 o- M8 p8 S3 w2 \( P$ l
ภาพแรกที่เห็นคือ ใบหน้าใสก้มมองมายังเขา อินก้มหน้าลงมาหอมหน้าผากของขุนแล้วบอกให้ขุนลุกไปแต่งตัวดี ๆ เขาจึงทำตาม ขณะเดียวกันนั้นเอง อินก็ลุกเก็บข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้ทำงานก่อนหน้าอย่างเป็นระเบียบ เสร็จก็ลุกจากโซฟาเดินไปยังโซนครัว พร้อมเปิดเตาไฟฟ้า ทำการอุ่นข้าวต้มกุ้งให้ร้อน พร้อมตักในถ้วยกระเบื้องสองที่ วางลงบนโต๊ะกินข้าว เมื่อร่างใหญ่แต่งตัวเสร็จก็เดินมาหย่อนก้นลงนั่งฝั่งตรงข้ามกัน ขุนนั่งยิ้มมองดูเมนูที่อีกฝ่ายทำ มันเป็นเมนูเรียบง่ายที่ทำให้หวนนึกถึงวันแรกที่คบกัน หลังจากคบกันและผ่านศึกบนเตียงด้วยกันเป็นครั้งแรก ขุนเกิดตื่นขึ้นกลางดึกเพราะความหิว อินเองก็เช่นกัน เมื่อเปิดตู้เย็นดูพบว่ามีแค่กุ้งที่แช่อยู่ในชั้นฟรีซ สองคนจึงช่วยกันทำเมนูรองท้อง ซึ่งก็คือข้าวต้มกุ้งนั่นเอง "ที่ร้านเป็นยังไงบ้าง"ขุนเอ่ยถามอิน ตามด้วยหยิบช้อนตักข้าวต้มเข้าปาก "ตอนนี้ออกแบบเสร็จเรียบร้อย กำลังทำเรื่องอนุมัติการก่อสร้าง ไม่เกินอาทิตย์หน้า น่าจะเริ่มสร้างแล้ว"อินตอบเขาจบก็ตักน้ำซุปขึ้นซด "แล้วขุนล่ะ"พอซดซุปจนโล่งคอ อินก็ยิ้มถามเขากลับบ้าง ขุนรีบเคี้ยวข้าวในปากกระดกลงคอแล้วตอบคำถามคนรัก "ผู้จัดการจะย้ายต้นเดือนหน้า ตอนนี้ก็เคลียร์งานเก่าหมดแล้ว เหลือโอนงานที่ข้างอยู่ให้ขุนนิดหน่อย ขุนกำลังเตรียมรับช่วงต่ออยู่"เขาอธิบายด้วยความดีใจ ก่อนหน้านี้ สองคนเคยคุยกันไว้ว่า อินจะดูแลเรื่องร้านตั้งแต่วางแบบจนสร้างเสร็จแล้วดูแลกิจการไปสักระะหนึ่ง หากกิจการเป็นไปด้วยดี ขุนก็จะลาออกจากงานมาช่วยดูแล แต่หากไม่เป็นตามที่คิด ก็ยังมีขุนที่ทำงานมีเงินเดือนพอถูไถได้บ้าง จนกว่าจะถึงวันนั้น แต่ผู้จัดการคนปัจจุบัน ดันถูกบริษัทอีกแห่งซื้อตัวไป ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร ทำให้ผู้ช่วยอย่างเขา ได้มีโอกาสเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นผู้จัดการต่อ "ว้าว งั้นก็ข่าวดีสิ"อินเงยหน้าพูดพร้อมรอยยิ้ม ขุนเองก็พยักหน้ารับ มันเป็นข่าวดีที่จะได้เลื่อนขั้น แต่ในใจขุนเองก็มีความกลัวอยู่เล็กน้อย การเลื่อนตำแหน่ง หมายความว่างานและความรับผิดชอบจะมากขึ้น แต่ก็ทำให้รายได้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แม้ขุนจะพยักหน้ายิ้มให้ แต่อินรู้ถึงความลำบากใจของขุน "มีอะไรหรือเปล่า? ขุนไม่อยากเลื่อนตำแหน่งหรอ"อินยกมือขึ้นมาจับมือของขุนแล้วถามข้อข้องใจ เมื่อสองคนสบตากัน ขุนเห็นความไม่สบายใจของอิน และก็รู้ด้วยว่า อินกำลังรู้สึกผิดและคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ "ไม่ต้องคิดมากนะ ขุนแค่คิดว่า ถ้าได้เลื่อนขั้น ขุนอาจจะไม่มีเวลาให้กับอิน…"เขาพูดเสียงอ่อยพร้อมบีบมือของอีกฝ่ายแน่น ใบหน้าของอินเปื้อนยิ้มอีกครั้ง พร้อมพูดอธิบายให้เขาสบายใจ "ไม่ต้องกังวล อินเข้าใจ ถ้าอะไร ๆ ลงตัว เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ช่วงนี้อาจจะลำบากกันหน่อยนะ"อินพูดจบขุนก็ยิ้มตอบ ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะรักคนตรงหน้า เพราะพลังใจที่อีกฝ่ายมอบให้เขา ทำให้ขุนมีแรงที่จะต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรคที่เผชิญ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรมา อินเป็นคนเดียวที่ยืนเคียงข้างและสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ตลอดมา "ขอบคุณนะ"ขุนบอกกับอินยิ้ม ๆ อินเองก็ยิ้มหวานตอบรับ สองคนกินข้าวต้นพร้อมรอยยิ้มจนหมดถ้วย อินอาสาที่จะเก็บถ้วยชามเอง ขุนเลยลุกไปเปิดทีวีดู แม้จะค่อนข้างดึกแล้วแต่ไม่อยากนอนเลยเนื่องจากพึ่งกินข้าวเสร็จ คิดหาอะไรทำให้อาหารย่อยเสียหน่อย เมื่ออินล้างถ้วยเสร็จก็เดินมานั่งดูรายการโทรทัศน์ที่ข้างขุน ก่อนจะเปิดบทสนทนาด้วยเรื่องของตน "เออ อินลืมเลยอะ"อินทำท่าตกใจแล้วหันหน้ามองมายังขุน ขุนเองคิดว่าอินจะมีเรื่องอะไรจึงหรี่เสียงโททรทัศน์เบาลงพร้อมหันหน้ารับฟัง "มีอะไรหรือเปล่า"เขาถามด้วยความสนใจ "ขุนจำพี่โอบได้ไหม"อินเอ่ยถามถึงพี่ชายของตน ขุนเคยได้ยินเรื่องของพี่ชายอินมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้อะไรมากมายนัก หลัก ๆ ก็คือคนที่คอยส่งเงินให้อินช้ตอนกำลังเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากจบอินก็ไม่รับเงินจากพี่ชายอีก "พี่โอบ พี่ชายของอินน่ะหรอ จำได้สิ มีอะไรหรือเปล่า"ขุนตอบด้วยความสนใจยิ่งขึ้นไปอีก อินพูดถึงพี่ชายของตนบ่อย ๆ แต่ไม่บ่อยที่จะมีท่าทีจริงจังแบบนี้ "คือ จะเป็นอะไรไหมถ้า…."อินว่าไม่จบประโยคก็มีสีหน้าสลดลง ขุนที่ตั้งใจฟังก็งงที่อีกฝ่ายพูดไม่จบ "มีอะไรหรือเปล่า อินพูดได้เลย ไม่ต้องกลัว"ขุนบอกจริงจังทำให้อินเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาอีกครั้ง เมื่ออินเห็นว่าขุนตั้งใจฟัง ก็เม้มริมฝีปากไม่กล้าเอื้อนเอ่ย แต่สุดท้ายก็ยอมเผยความในใจ "พี่โอบบอกว่าจะกลับไทย จะเป็นอะไรไหมถ้าระหว่างนั้น อินจะให้พี่โอบมาพักกับเรา"อินพูดจบก็เงียบเสียงลงรอคำตอบด้วยความกังวล ขุนฟังจบก็แปลกใจ ที่แปลกใจไม่ใช่เพราะเรื่องที่อีกฝ่ายขอ แต่เป็นเรื่องท่าทีที่อินแสดงขณะนี้ต่างหาก "ได้สิ ขุนไม่มีปัญหาอะไร ดีเสียอีก จะได้เจอเสียที เห็นอินพูดถึงมานานแล้ว"ขุนตอบติดตลก อินที่ฟังก็เงยหน้าจ้องมองด้วยความแปลกใจ "จะ จริงหรอ ขุนไม่ว่าอะไรหรอ"อินพูดด้วยความโล่งใจ และแสดงท่าทีดีใจออกมา "อย่าบอกนะว่าที่ตัวสั่นเพราะกลัวขุนจะไม่รับปากน่ะ"อินไม่ตอบแต่พยักหน้าหงึก ๆ ขุนมองดูใบหน้าใสด้วยความเอ็นดู พร้อมดึงร่างอินเข้ามากอด "พี่ชายอินก็เหมือนพี่ชายขุน อีกอย่าง อินคือครอบครัวของขุนนะ"ขุนตอบด้วยความจริงใจ แฝงไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง "ว่าแต่ พี่โอบจะมาอยู่กี่วันหรอ?"ขุนถามข้อข้องใจ ไม่ใช่เรื่องกังวลอะไรมากมาย "อันนี้อินก็ไม่แน่ใจ ความจริงพี่โอบไม่ได้บอกหรอกว่าจะมาพักกับอิน พี่โอบแค่บอกว่าจะมาไทย แต่เราดีใจเลยชวนพี่โอบมาพักด้วย พี่โอบเองก็ยังไม่คอนเฟิร์มเลย"ขุนมองดูสีหน้าของอินที่ยิ้มเจื่อน เข้าใจในความรู้สึก การที่บนโลกนี้มีแค่พี่ชายคนเดียวที่เป็นญาติ แถมยังห่างหายกันไปนานหลายปี แค่อีกฝ่ายบอกจะมา ไม่ว่าจะมานานแค่ไหนก็ดีใจเป็นที่สุด อย่างน้อยได้เจอหน้ากันบ้างก็ยังดี สองคนกอดกันอยู่นานกว่าจะคลายแขนออก แล้วดูโทรทัศน์ด้วยกันต่ออีกครู่หนึ่ง พอเห็นเวลาสมควร สองคนรักก็พากันเข้าห้องน้ำแปรงฟันพร้อมกัน แล้วเข้าห้องนอน เมื่อนอนไปสักพัก ขุนที่ผลอยหลับไปก่อนหน้าก็นอนไม่หลับ จึงหันไปสะกิดคนรัก อินเองก็ยังนอนไม่หลับเช่นกัน "อิน อิน"ขุนพูดเรียกชื่ออีกฝ่ายเบา ๆ อินไม่ได้ขานตอบแต่พลิกตัวมาหาเขา เขานอนมองตาอีกฝ่ายพักหนึ่ง ก่อนที่จะเลื่อนหน้าเข้าหาอิน "ก่อนหน้านี้ตอนกินข้าวต้ม ทำให้ขุนนึกถึงวันนั้นเลย"ขุนพูดแล้วยิ้มกว้าง อินที่ฟังก็หน้าขึ้นสีเล็กน้อย "วันไหนหรอ"อินตอบแบบไร้เดียงสา แต่จริง ๆ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าขุนพูดถึงวันไหน "จำไม่ได้หรอ งั้นเรามา รำลึกความหลังกันหน่อยไหม"ขุนอมยิ้ม อินพยักหน้าเบา ๆ เป็นอันว่าทั้งสองคนเข้าใจตรงกัน 5 z. h& m C- N+ I" O' p/ w
- Y Z5 z9 Q; g8 o6 x1 T' J7 p
( i9 Q* R! p1 X9 W0 [9 P; m" A; M, _
|