แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Peaze เมื่อ 2024-8-29 17:46
คืนนั้นผมตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะรู้สึกปวดท้องหนัก ปวดเมื่อยตัวนิดหน่อย ขยับตัวลุกออกมาจากเตียงถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองล่อนจ้อนอยู่ หันขวับไปมองที่เตียงพี่ทีนปรากฏว่าว่างเปล่า
รู้สึกเหนียวตัวจึงหยิบผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวเดินออกมาจากห้อง ผ่านห้องนั่งเล่น แสงจากทีวีวูบวาบผมจึงเดินไปดูด้วยความสงสัย คิดในใจว่าพี่ทีนมาแอบดูหนังโป๊อีกรึเปล่า
พี่ทีนนั่งอยู่หนังอยู่บนเก้าอี้จริง ๆ แต่หนังที่ฉายทางทีวีเป็นหนังผี ผมเดินย่องไปยืนด้านหลังพี่ทีนเอานิ้วสะกิดไหล่มันเบาๆ
“เชี้ย!!!” พี่ทีนหันมาเห็นผมแล้วร้องตกใจ “ทำเชี้ยอะไรเงียบ ๆ ตกใจหมด!” ผมหัวเราะออกมาก่อนจะวิ่งหนีไปห้องน้ำ
หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินกลับเข้าไปในครัว อุ่นข้าวต้มกุ้งที่เหลือก้นหม้อแล้วตักออกมานั่งกินข้าง ๆ พี่ทีน มันเหลือบตามองผมครู่นึงก่อนจะหันกลับไปดูหนังต่อ
พอกินข้าวเสร็จผมวางถ้วยลงข้าง ๆ ตัว จดจ่อภาพบนจอด้วยใจระทึก จนกระทั่งถึงซีนหนึ่งที่มีผีนั่งห้อยขาอยู่บนขื่อกลางบ้าน ผมเริ่มกลัวจนทนไม่ไหว หยิบถ้วยไปเก็บในครัว แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน กำลังจะแง้มประตูห้องนอนเข้าไปก็พบเพียงความมืดกับแสงจันทร์สลัวที่ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้น ปกติผมไม่ค่อยนึกถึงเรื่องผีเลยด้วยซ้ำแต่การดูหนังแบบนั้นก่อนนอนมันหลอนประสาทเด็ก 15 อย่างผมได้อยู่หมัด ผมจึงต้องเดินกลับมานั่งข้างพี่ทีนเหมือนเดิม
“พี่ทีน...ผมง่วงแล้ว”
“มึงก็ไปนอนสิ”
“กลัว…”
มันหันมามองผมสายตารำคาญ ก่อนจะหันกลับไปดูหนังต่อ
ผมจำใจต้องกลับไปนั่งดูหนังต่อ สะดุ้งทุกครั้งตอนที่มีผีโผล่มาบนจอ หดขากลับขึ้นมากอดเข่าเอาไว้เพราะระแวง พยายามกลั้นใจดูเพื่อรอให้หนังจบแล้วกลับไปห้องนอนพร้อมที่ทีน
ผมรู้สึกง่วงมากตาสะลึมสะลือ จนเริ่มดูหนังไม่รู้เรื่อง หนังตาหนักอึ้งจนผมหลับไปทั้งอย่างนั้น ตัวโงนเงนจนเกือบล้มถึงสะดุ้งตื่น พี่ทีนหันมาหัวเราะใส่
“พี่ทีน ไม่นอนเถอะ”
“มึงก็ไปสิ จะกลัวอะไร?”
“ก็มันน่ากลัวอ่ะ”
พี่ทีนไม่สนใจนั่งดูหนังต่อ ผมก็ทำได้แค่ต้องนั่งอยู่อย่างนั้น ผล็อยหลับไปจนสะดุ้งตัวโยนอีกครั้ง พี่ทีนคงรำคาญก็เลยจับตัวผมให้เอนนอนหนุนตักมัน ตอนแรกก็แอบดีใจแต่เพราะง่วงมากก็เลยหลับไปโดยไม่ได้คิดอะไร
รู้สึกตัวอีกทีตอนที่ยุงกัดแล้วเอื้อมมือไปเกาทั้งที่ยังหลับตา ผมไม่รู้ว่าตัวเองพลิกตัวหันหน้าเข้าหาพี่ทีนตั้งแต่เมื่อไหร่ จมูกผมมันซุกอยู่กับวัตถุบางอย่างที่แข็งนูนออกมาจนตุงกางเกง ผมแกล้งขยับหัวซุกหน้าลงไปแนบชิดกว่าเดิม หายใจสูดกลิ่นเบา ๆ ถึงได้แน่ใจว่ามันคือท่อนลำของพี่ทีนที่แข็งชูชัน ผมยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้นพ่นลมหายใจอุ่น ๆ ใส่ควยของพี่ทีนมันกระดกหงึก ๆ สองที
ในตอนนั้นเสียงทีวีเงียบไปแล้ว ผมรู้สึกได้ว่ามือของพี่ทีนลูบหัวผมเบา ๆ ก่อนจะไล่นิ้วไปบนคิ้วของผมอย่างช้า ๆ นั่นทำให้ผมโคตรรู้สึกดี
ผมทำเป็นขยับตัวยกมือขึ้นมาโอบเอวพี่ทีนไว้ เผยอปากเล็กน้อยให้ส่วนท่อนลำของพี่ทีนอยู่ตรงปากพอดี พี่ทีนหายใจแรงขึ้น ขยับเอวช้าๆ พลางกดหน้าผมเข้าหาควยตัวเองเบา ๆ ทำแบบนั้นอยู่เกือบนาทีจึงหยุด คงนึกขึ้นได้ว่าคนที่ตนกำลังเอาควยถูหน้าอยู่นั้นเป็นน้องชายตัวเอง
“ไอ้นิน…” พี่ทีนขยับหัวผมออกเล็กน้อยก่อนจะเขย่าตัวผมเพื่อปลุก
ผมแกล้งลืมตาทำเป็นงัวเงีย ลุกขึ้นจากตักที่ทีนอย่างช้า ๆ
“ไปนอนได้แล้วหนังจบแล้ว”
ผมลุกเดินไปที่ห้องนอน หันมองพี่ทีนที่เดินหลบไปอีกทาง
“พี่ทีน...”
“กูปวดท้อง เข้าห้องน้ำแป๊บ ถ้ากลัวมึงก็เปิดไฟไว้สิเดี๋ยวกูตามไป!”
ผมไม่คะยั้นคะยอเพราะไม่อยากถูกรำคาญ เอื้อมมือไปเปิดสวิตช์ไฟแล้วเดินดุ่มทิ้งตัวลงนอนบนเตียง คิดในใจว่าพี่ทีนจะต้องไปแอบชักว่าวแน่นอนเลย เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็มีความคิดในหัวอีกว่าอยากไปแอบดูพี่ทีนชักว่าว จึงรีบลุกพรวดวิ่งออกไปตรงประตูมองไปยังประตูห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัว มีแสงไฟส่องสว่างเล็ดลอดออกมาตามรูเล็ก ๆ กำลังจะก้าวเท้าออกไปแต่ความมืดรอบตัวก็ทำให้ผมหยุดกึก
บ้าเอ้ย! ผมไม่น่าดูหนังผีนั่นเลย!!
ผมกลัวเกินกว่าจะเดินออกไป ก็เลยถอดใจแล้วกลับมานอนที่เตียง คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ผมไม่ได้คิดไปเองที่พี่ทีนกดหัวผมแนบชิดกับควยแข็ง ๆ ของมัน แถมยังขยับเอวบดเบียดมันใส่ผมอีก ไหนจะเมื่อตอนกลางวันที่เล่นน้ำ พี่ทีนก็ทำควยแข็งดันก้นผมถึงแม้ความเป็นพี่น้องจะค้ำคออยู่ แต่ความอยากรู้อยากลองของเด็กวัยนี้กับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านก็ยากจะต้านทาน ผมอยากอมควยพี่ทีน…
เกือบ 10 นาที พี่ทีนกลับเข้ามาในห้อง กดปิดไฟแล้วไปนอนที่เตียงของตัวเองโดยไม่พูดอะไร ผมพลิกตัวหันนอนมองแผ่นหลังพี่ทีนที่นอนตะแคงไปอีกข้างนึกในใจว่าอยากกอดพี่ทีนจัง อยากโดนพี่ทีนกอดอีก แบบเมื่อตอนกลางวัน ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมคิดตอนนี้เป็นเรื่องผิดแต่ทำไมล่ะ ? พี่ทีนเลี้ยงผมมานะ ทำไมผมจะรักพี่ทีนไม่ได้
----------------------------------------------
เช้าวันอาทิตย์ผมตื่นขึ้นมา พี่ทีนนั่งดูการ์ตูนอยู่ที่เดิม โดยมีพ่อนั่งอยู่ด้วย ผมยังงอนพ่ออยู่ที่ตีผมเมื่อวานก็เลยทำเป็นเมินแล้วเดินเข้าไปในครัวกะว่าจะหาข้าวกิน แต่หม้อข้าวว่างเปล่า เปิดสำรับดูก็มีแค่ถ้วยน้ำปลา พอออกมาถึงเห็นว่าสองคนกินข้าวกล่องกันแล้ว
“พ่อ ข้าวอ่ะ?”
“หิวก็ออกไปซื้อ”
ผมยิ่งงอนเข้าไปใหญ่ที่ทั้งสองคนกินกันโดยไม่ซื้อมาเผื่อ ผมกลับเข้าห้องคว้าเอากระป๋องออมสินเปิดฝาหยิบเงินออกมาแล้วเดินสะบัดออกจากบ้านไป
ผมเดินมาจนถึงร้านขายข้าวปากซอยสั่งสุกี้ทะเล เมนูโปรดของผมแล้วนั่งกินที่ร้าน พอเห็นทองเอกปั่นจักรยานผ่านมาพอดีผมจึงตะโกนเรียก “ทองเอก!!” ทองเอกหยุดรถกึกหันมองหาผมแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะ
“จะไปไหนอ่ะ?”
“จะไปรดน้ำต้นไม้ที่โรงเรียน”
ที่โรงเรียนของเราจะมีสอนวิชาเกษตร ในแต่ละเทอมเด็กในชั้นเรียนทุกคนจะต้องแบ่งกลุ่มกันปลูกผักสวนครัวและต้องคอยดูแลจนผักโตและเก็บกินได้ พอดีช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวทองเอกก็เลยจะไปรดน้ำที่โรงเรียนเพราะกลัวต้นผักจะตาย
“รอด้วย จะไปด้วย”ผมบอกแล้วรีบตักสุกี้เข้าปากวุ้นเส้นร้อน ๆ จึงลวกลิ้นเกือบพอง ทองเอกนั่งมองผมแล้วหัวเราะก่อนจะเทน้ำให้
หลังกินเสร็จผมก็ซ้อนจักรยานทองเอกไปโรงเรียนโรงเรียนตอนนี้ค่อนข้างเงียบ มีครูเวรที่ทำหน้าที่เฝ้าโรงเรียนช่วงวันหยุดออกมาถามว่าพวกเรามาทำอะไร ผมกับทองเอกจึงตอบไปว่ามารดน้ำต้นไม้ ครูจึงไม่ได้สนใจอะไรเพราะปกติเด็กคนอื่น ๆ ก็มากันเป็นประจำอยู่แล้ว
ผมกับทองเอกช่วยกันเติมน้ำใส่ฝักบัวรดน้ำแล้วไล่รถแปลงผักของเพื่อนในห้องทุกแปลง หลังจากรดน้ำเสร็จเรายังคงเดินเล่นกันอยู่ในโรงเรียนเพราะผมยังไม่อยากกลับ ในตอนนั้นมีเด็กคนอื่น ๆ มาเล่นกัน 4-5คน มี 2 คน ที่ผมรู้จักเพราะเรียนห้องเดียวกันชื่อ บอส กับ กล้า พวกนั้นชวนเราเล่นซ่อนหา หลังจากโอน้อยออก ทองเอกเป็นคนหาก่อนแล้วเริ่มนับเด็กทุกคนเริ่มวิ่งหาที่ซ่อน ตอนไปเอาบัวรดน้ำผมเห็นว่าห้องเก็บของไม่ได้ล็อกกุญแจ ผมกะว่าจะไปซ่อนในนั้นจึงวิ่งเข้าไปแอบ ลักษณะของห้องเก็บของคือห้องใต้ถุนอาคารเรียน ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ทั้งสี่ด้านเป็นตะแกรงเหล็กมีข้าวของเช่นพวกโต๊ะ เก้าอี้พัง ๆ กับพวกป้ายต่าง ๆ ถูกเอามาเก็บไว้เพื่อรอทิ้ง ผมซุกตัวลงข้าง ๆ ตู้เหล็กที่เอาไว้เก็บพวกจอบ เสียม ขยับถังขยะใบใหญ่มาบังตัวเองไว้อีกที
เมื่อทองเอกนับเสร็จก็เริ่มวิ่งหาคนที่ซ่อน ผมเห็นทองเอกวิ่งผ่านไปจึงรีบก้มหัวลงไม่ให้มันเห็น หัวเราะอย่างชอบใจที่หลบมันพ้น อย่างน้อยผมก็ไม่น่าจะเป็นคนแรกที่โดนเจอตัว
ผ่านไปเกือบห้านาทีผมเริ่มร้อนจึงขยับถังออก จังหวะนั้นได้ยินเสียงคนวิ่งมาพอดีจึงเลื่อนถังกลับมาที่เดิม
ไอ้บอส วิ่งเข้ามาเห็นผมหลบอยู่ข้างตู้มันจึงรีบวิ่งมานั่งข้างๆ ผม “เหลือแค่มึงกับกูแล้ว”มันบอก ก่อนจะกดหัวผมลงตอนทองเอกวิ่งผ่านไป
หน้าของผมกับมันอยู่ใกล้กันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่กำลังรดรินใบหู ผมขยับหัวออกตอนที่แน่ใจว่าทองเอกเดินไปไกลแล้ว
“มันจะรู้ป้ะว่ามึงอยู่นี่?”
“ไม่หรอกมั้ง”
“แล้วนี่พวกมึงเป็นแฟนกันจริงป้ะ?”
“เปล่า!”
“ถามจริง? กูเห็นวัน ๆ พวกมึงอยู่ด้วยกันตลอดตัวติดกันเป็นตังเม”ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ เริ่มรู้สึกร้อนจนอยากออกไปจากตรงนี้ “แล้วมึงเป็นตุ๊ดจริงป้ะ?” ผมหันไปขมวดคิ้วใส่ไอ้บอส
เอาจริง ๆ ตอนนั้นผมไม่ค่อยชอบที่ใคร ๆ ล้อว่าเป็นตุ๊ด ผมไม่ได้แสดงออก ไม่ได้ทำตัวตุ้งติ้ง ไม่เคยเล่นกับเด็กผู้หญิง ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก ผมแค่มีความชอบในตัวผู้ชาย ที่เป็นแบบนั้นอาจเป็นเพราะผมมองพี่ทีนเป็นฮีโร่มาโดยตลอดและผมรักพี่ทีน ซึ่งพี่ทีนก็เป็นผู้ชาย ผมก็เลยชอบผู้ชาย มั้ง…?ไม่รู้สิผมเดาเอาเอง แต่สมัยนั้นเด็กผู้ชายที่เรียบร้อยนิสัยดี ก็โดนล้อว่าเป็นตุ๊ดกันหมดนั่นแหละ
“เป็นป้ะ?”
“ไม่รู้!”
“แสดงว่าเป็น!”
ผมขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงก็เลยลุกขึ้น ตั้งใจจะไปหาที่ซ่อนใหม่ไอ้บอสคว้าแขนผมแล้วดึงกลับไป ก่อนจะหอมแก้มผมฟอดใหญ่ “อะไรของมึงเนี่ย!?” ผมตวาด รู้สึกอายนิดหน่อยจึงกระชากแขนออก “ก็ตัวมึงหอม” ผมตบหัวมันเบาๆ มันก็หัวเราะออกมาก่อนจะดึงมือผมไปวางไว้บนเป้าตัวเอง “ชอบป้ะ?” ผมนั่งนิ่ง ไอ้บอสวางมือไว้บนมือผมแล้วบีบมือตัวเองให้มือผมคลึงขยำเป้ามันผ่านกางเกงวอร์มจนควยไอ้บอสเริ่มแข็งตัว ผมตัวแข็งทื่อไม่คิดว่าไอ้บอสมันจะกล้าทำแบบนี้ “ชักว่าวให้กูหน่อย” มันบอกก่อนจะโน้มศีรษะผมเข้าไปหอมอีกครั้ง
แต่จังหวะนั้นทองเอกเดินเข้ามาพอดี “โป้งไอ้….!!!” ผมกับไอ้บอสผละตัวจากกันทันที ทองเอกหน้าเสีย “โป้งไอ้นิน! โป้งไอ้บอส!” มันพูดเสร็จแล้วเดินออกไปเลย
เราสองคนออกมาจากที่ซ่อน ผมมองหาทองเอกจึงเห็นว่ามันกำลังเดินไปที่จักรยานผมจึงรีบวิ่งตามไป ตะโกนเรียกมันก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ผมรีบเร่งฝีเท้าจนถึงตัวทองเอก มันหันมองผมด้วยหางตาก่อนจะขึ้นคร่อมจักรยานกำลังจะถีบไปผมจึงกระโดดซ้อนมันทันที
หัวใจสั่นหวิวแปลก ๆ มือกำเสื้อทองเอกแน่น“มึงโกรธกูหรอ?”ผมถามมันเบา ๆ แต่มันไม่ตอบ พอถึงบ้านมันทองเอกจอดรถให้ผมลงแล้วจูงจักรยานเข้าบ้านไปโดยไม่หันกลับมองผมเลย ตอนนั้นผมเสียใจมากมันไม่ใช่อาการอกหักแต่เพราะถูกเพื่อนสนิทที่มีเพียงคนเดียวเกลียด
ผมยืนเหม่ออยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งก่อนที่ทองเอกจะเดินกลับออกมา ผมมองหน้ามันน้ำตาคลอ “กูไม่ได้โกรธมึง” มันพูด “กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมกูถึงรู้สึกเสียใจ”
“กูขอโทษ” ผมเล่าสถานการณ์ตอนนั้นให้มันฟัง ทองเอกพยักหน้าหงึก ๆ แต่เหมือนยังเสียใจอยู่
“จะเข้าไปข้างในก่อนมั้ย?” ทองเอกถาม ผมตกลงทันทีเพราะผมไม่อยากกลับไปทั้งที่เรายังมีอารมณ์หน่วง ๆ ต่อกันอยู่
พอถึงห้อง ทองเอกล้มตัวลงบนที่นอน ผมไม่รู้จะทำอะไรก็เลยทำเป็นยืนเลือกหนังสือการ์ตูนบนชั้น หยิบออกมาเล่มนึงก่อนจะเกินไปนั่งมุมเตียง ทองเอกลุกขึ้นมาแล้วดึงตัวผมให้ไปนอนข้างมัน ตอนนั้นใจผมเต้นถี่อย่างกับกลอง ไม่รู้ว่ามันจะมาไม้ไหน
“นิน ถ้าเมื่อกี้กูไม่เข้าไปมึงจะทำให้มันมั้ย?”
“เอ่อ...กู...ไม่รู้”
“แปลว่ามึงจะทำ…”
“กูไม่รู้...จู่ ๆ มันก็จับมือกูไปจับของมัน กูยังไม่ทันทำอะไรเลย”
“กูไม่น่าเข้าไปก่อนเลยใช่มั้ยล่ะ?”
“มะ...ไม่! ดีแล้วแหละที่มึงเข้าไป กูไม่รู้ว่าถ้ากูทำให้มันไปแล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ…กูว่าอย่างมันคงเอาไปเล่าให้คนอื่นฟัง”
“ก็มึงไม่รู้จักระวัง ทีหลังก็อย่าไปจับของใครมั่ว ๆ สิ!”
“ก็บอกว่ามันจับมือกูไปจับของมันเอง”
“แบบเนี้ยหรอ?” ทองเอกเอื้อมมือมาจับมือผมไปกุมไว้บนเป้าตัวเอง ผมตกใจรีบชักมือกลับ “อะไรของมึงเนี่ย?”
ทองเอกหัวเราะพลิกตัวมาหาผม “ทีไอ้บอสมึงทำให้มันได้”
“มันไม่เหมือนกันซะหน่อย” ผมบอกแล้วลุกขึ้นนั่ง
กับทองเอกผมไม่เคยรู้สึกมีความใคร่ในตัวมันเลย มีบ่อย ๆ ที่เรากอดกัน แต่ทุกครั้ง ผมกอดมันด้วยใจที่บริสุทธิ์จริง ๆ ไม่เคยคิดอะไรเกินเลย นั่นทำให้ตอนนี้ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนนิดหน่อย
“อืม…” ทองเอกทำเสียงอ่อย พลิกตัวนอนหงายเงยหน้ามองเพดานเหมือนกำลังคิดอะไร
ผมเอนลงนอนข้างมัน อิงหัวตัวเองชนหัวทองเอกมองไปบนเพดานเหมือนกัน
“มึงเคยจูบใครยัง?” ทองเอกเริ่มตั้งคำถาม
“ยัง”
“แล้ว...เคยมีอะไรกับใครยัง?”
“ถามอะไรเนี่ย?”
“ตอบมา! ห้ามโกหกด้วย! ถ้าไม่ตอบกูจะถือว่ามึงเคยแล้ว!”
“ไม่รู้!”
“เคยแล้วหรอ? กับใคร?”
“ไม่รู้โว้ย!!!” ผมลุกหนี ทองเอกลุกตามมาดึงผมไปกอดแล้วจี๋เอวผมจนต้องดิ้นพล่าน “ตอบมาเลยว่ากับใคร?”
“ฮ่า ๆๆ พอแล้ว ฮ่า ๆๆๆ ”
“ตอบมา! มึงมีอะไรกับใคร?”
“ไม่เคย!! ฮ่า ๆๆๆ ไม่เคย! พอแล้วว!!” ทองเอกหยุดจี๋แต่ยังกอดผมอยู่ “ตัวมึงหอมจัง…”
“หรอ? ตื่นเช้ามากูยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ”
“หอมจริง ๆ” มันบอกแล้วหอมหน้าผากผมเบาๆ
ผมนอนนิ่ง ๆ ในอ้อมกอดของทองเอกอยู่แบบนั้นเผลอเหลือบไปเห็นเป้ากางเกงของมันที่เริ่มตุง ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมองทองเอกจ้องหน้าผมแล้วบอก “ขอลองจูบมึงได้มั้ย?” ผมไม่ได้ตอบ ขยับหน้าเข้าหามันจนกระทั่งริมฝีปากของเราสัมผัสกันเป็นครั้งแรก เราจูบกันอยู่ครู่หนึ่งจึงถอนปากออกจากกัน “นี่มึงเอาจูบแรกของกูไปหรอ?” ผมถามมันเบา ๆ ทองเอกยิ้มแล้วจับมือผมไปกุมเป้าตัวเองที่แข็งโด่เต็มกางเกง“มึงชักให้กูหน่อยได้มั้ย?”
“เอาจริงหรอ?”
“อืม”
“แน่ใจใช่มั้ย?” ทองเอกดึงกางเกงตัวเองลงแทนคำตอบ
ควยขนาดห้านิ้วดีดผึงโชว์สายตาผมเป็นครั้งแรก ควยทองเอกลำตรงสวย สีเนื้อเนียนคล้ำกว่าผิวบริเวณหน้าท้องนิดหน่อย ส่วนหัวสีชมพูระเรื่อ หนังถลกลงมาจนสุดแล้ว
ผมกำควยทองเอกเอาไว้ในมือ ค่อย ๆ รูดขึ้นลงช้า ๆ ทองเอกนอนหงายเท้าแขนมองหน้าผมสลับกับควยตัวเองที่กำลังโดนผมรูดเล่น มันดึงผมเข้าไปจูบ แล้วครางในลำคอ“อืมมม อืมมมมม” เราเริ่มแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ผมก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเพราะเป็นครั้งแรกเหมือนกันจึงปล่อยไปตามอารมณ์ มือก็ยังคงชักควยทองเอกไปเรื่อย ๆ
“นิน กูจะแตก! หยุดก่อน” ทองเอกเลื่อนมือมากำมือผมไว้เพื่อให้หยุด “ทำไมล่ะ?” มันมองหน้าผมยิ้มหื่น ๆ แล้วบอก “มึงอมควยให้กูได้มั้ย?” ผมกลืนน้ำลายเอื้อก มาถึงขั้นนี้แล้วควยทองเอกที่กระตุกอยู่ในมืออย่างเชิญชวนทำเอาผมตบะแตก
ผมโน้มหัวลง ใช้ลิ้นโลมเลียส่วนหัวก่อน เหมือนที่เคยทำให้พี่พี ดูดเลียควยทองเอกเหมือนเลียไอติม น้ำเงี่ยนไหลซึมเยิ้ม “อูยยยย ไอ้นิน มันเสียวว” ผมหันหน้าไปถาม “ไหวมั้ย?” ทองเอกไม่ตอบแต่กดหัวผมให้กลับไปอมต่อ ผมจึงค่อย ๆ ใช้ลิ้นแหย่รูฉี่มัน ก่อนจะอ้าปากอมส่วนหัวเข้าไปใช้ลิ้นหมุนวนรอบคอหยัก ทองเอกเสียวบิดตัวมือกำผ้าปูที่นอนแน่นหอบหายใจระรัว ผมได้ที ค่อย ๆ กลืนควยทองเอกเข้าไปจนสุดลำ“โอยยยยย ไอ้นิน!! โคตรเสียวเลย อ่าาาาห์” ผมโขกปากขึ้นลงพร้อมกับดูดแท่งควยของเพื่อนรักจนแก้มตอบ ทองเอกดีดตัวขึ้นใช้สองมือประคองหัวผมตามจังหวะ “อ่าาห์ ซี้ดดด จะแตก” ทองเอกดึงหัวผมออก แล้วใช้มือบีบโคนควยตัวเองแน่นเพราะยังไม่อยากเสร็จ มันเชิดหน้าผมที่มีน้ำเงี่ยนยืดตรงมุมปากเป็นสายให้หันไปหามัน “มึงดูดเก่งขนาดนี้อย่าบอกนะว่าครั้งแรก? กูไม่เชื่อหรอก” ผมหัวเราะฮึฮึ มันเลยดึงผมไปกอด ผมเลื่อนมือไปกำควยมันจับชักเบาๆ “อย่าเพิ่ง! กูยังไม่อยากแตก” ผมก็เลยละมือจากควยมัน เราจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ทองเอกซุกไซร้ใบหน้าตัวเองลงที่คอผม ขบกัดเบา ๆ แล้วดูดจนผมเสียวซ่านไปทั้งตัว มันจับมือผมไปกำควยมัน “เอาเลย! ชักแรง ๆ เลย!” ผมไม่รอช้า รัวมือชักควยทองเอกตามคำขอของมัน “อืมม ทองเอก...กูเสียว” ผมครางออกมาอย่างเสียวกระสันเพราะทองเอกมันดูดคอผมแรงมาก ผมไม่เคยโดนใครดูดคอมาก่อน “โอ้ยยย ซี้ดดด อ่าาาาห์ จะแตกแล้ว!!” มันกดหัวผมลงไปที่ควยมัน ผมรีบคลายมือออกแล้วใช้ปากรูดควยมันแทน “อ่าาาห์ นิน!! กูแตกแล้ว!! แตกแล้ว ซี้ดดดดด อ่าาาาาห์” ทองเอกน้ำแตก ฉีดพ่นน้ำควยลงคอผม มันจับประคองหัวผมแล้วกระแทกตัวกระตุกอยู่สามสี่ทีก่อนจะหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ผมดูดดุนจนแน่ใจว่ากลืนน้ำควยมันจนหมด ก่อนจะคายปากออกอย่างเสียดาย
“กูช่วยมึงบ้าง” ทองเอกลุกขึ้นคล่อมตัวผมซุกไซร้ซอกคอแล้วเริ่มโลมเลียอีกครั้ง ผมดึงกางกงตัวเองลงแล้วระรัวมือรูดควยตัวเองขณะที่มืออีกข้างก็ยังคงกำควยทองเอกแน่น “อืมมม อืมมม” ทองเอกครางในลำคอช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้กับผม “อ่าาห์ ทองเอก กูจะเสร็จแล้ว อ่าาห์” ผมรัวมือจนน้ำว่าวตัวเองพุ่งเต็มท้อง ทองเอกนอนลงแล้วพลิกตัวตะแคงดึงผมเข้าไปกอด
เราสองคนกอดก่ายกันอยู่แบบนั้นขณะที่แก่นกายยังแข็งไม่ลงด้วยกันทั้งคู่ “กูอยากทำอีกจัง แต่กลัวพ่อแม่กูจะกลับมาก่อน”
ทองเอกยื่นเสื้อมันให้ผมเช็ดทำความสะอาด เราแต่งตัวกลับเหมือนเดิม ไอ้ทองเอกมีสีหน้าตกใจลุกไปหยิบกระจกบานเล็ก ๆ มาให้ผมส่อง “กูขอโทษ กูไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนั้น!”
รอยแดงเป็นจ้ำที่เกิดจากการดูดปรากฏขึ้นที่คอด้านขวา สีแดงคล้ำตัดกับสีผิวของผมจนมันเด่นชัด
“ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เดี๋ยวก็คงหาย”
เรานั่งมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา
“ถ้ากูติดใจมึงกูจะทำยังไงเนี่ย?” ทองเอกถามพลางหัวเราะก่อนจะจับมือผมแล้วถามน้ำเสียงจริงจัง “เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่มั้ย?”
“มึงจะโกรธมั้ยถ้ากูจะบอกว่า...กูยังอยากเป็นเพื่อนกับมึงอยู่”ผมตอบ “แบบ...กูไม่ได้อยากคบกับมึงแบบแฟนกูอยากมีมึงเป็นเพื่อนแบบนี้ตลอดไป”
“กูก็คิดเหมือนมึงเลย”
“กูรู้ว่าถ้าเราคบกันแบบแฟนวันนึงเราก็ต้องเลิกกัน กูไม่อยากเลิกคบกับมึง”
“วันหลังเราทำกันอีกได้มั้ย?” มันถามจ้องหน้าผมรอคำตอบ “อืม ถ้ามึงต้องการ”
ผมเดินกลับมาบ้าน สวนกับพี่ทีนที่ขี่รถเครื่องออกไปพอดี พี่ทีนหันมามองผมก่อนจะหยุดรถกึกจนฝุ่นตลบตะโกนเรียกผมเสียงดัง
“ไอ้นิน!!”
ผมหันกลับไปหาด้วยความสงสัย
“คอมึงไปโดนอะไรมา!?”
ผมหน้าตาเหลอหลาอึกอักตอบไปว่าโดนมดกัด ก่อนจะรีบวิ่งเข้าบ้านทันที เสียงรถพี่ทีนวนย้อนกลับมาผมจึงรีบหนีเข้าไปในห้องน้ำแทน
พี่ทีนจอดรดได้ก็รีบวิ่งตามมา เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ไล่มาจนถึงหน้าประตูห้องน้ำ
“ไอ้นิน!! มึงเปิดประตู!!” พี่ทีนทุบประตู ตึ้ง!! ตึ้ง!! ตะโกนเรียกให้ผมเปิด
“พี่ทีน! ผมขี้อยู่!!”
“มึงอย่ามาโกหกออกมาเดี๋ยวนี้!!”
“บอกว่าขี้อยู่!!”
พี่ทีนทุบประตูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียง พูดเรียบ ๆ “มึงไม่ออกมากูจะไปบอกพ่อนะ” มันเป็นน้ำเสียงที่ทำให้ผมรู้ว่ามันเริ่มโกรธและเอาจริง
ทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออก พี่ทีนก็คว้าคอผมไว้ทันที ก้มหน้ามองรอยแดง ถามผมเสียงดุ “มึงไปเอากับใครมา?”
“อะไรเนี่ย? ก็บอกว่ามดกัด”
“กูไม่ได้โง่นะ กูรู้ว่านี่มันรอยดูดคอ! มึงไปให้ใครดูดมา? ไอ้ทองเอกหรอ?”
“ไม่ใช่!” ผมหน้าเสีย กลัวพี่ทีนจะไปต่อยทองเอก
“แล้วใคร? กูเห็นวัน ๆ มึงตัวติดอยู่แต่กับมัน ไม่ใช่ไอ้ทองเอกแล้วใคร?”
“พี่จะมายุ่งอะไรเนี่ย? ปล่อยผม!!”
พี่ทีนบีบท้ายทอยผมแรงขึ้นจนผมเจ็บพยายามบิดตัวหนีแต่สู้แรงมันไม่ไหว
“พี่ทีน!! ผมเจ็บ!!”
“มึงก็บอกมาสิว่ามึงไปเอากับใครมา?”
“ก็บอกว่าเปล่าไง! ปล่อยผม!!”
“ไอ้นิน!!!”
“พี่ไม่ต้องมายุ่งได้ป้ะผมจะเอากับใครมันก็เรื่องของผม พี่เองก็กำลังจะไปหาแฟนพี่ไม่ใช่หรอ?” พี่ทีนนิ่งเหมือนกำลังพยายามระงับสติอารมณ์ “มึงอย่าให้พ่อเห็นรอยดูดนั่นก็แล้วกัน กูเตือนมึงไว้เลย ถ้ามึงไม่อยากโดนพ่อกระทืบตาย!!” พูดจบพี่ทีนก็ปล่อยคอผมแล้วฟึดฟัดเดินออกไป
ผมนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ในห้องนอนจนถึงเย็นเพราะไม่อยากออกไปข้างนอก กลัวจะเจอพ่อ จนประมาณห้าโมงเย็นพ่อก็ออกไปกินเหล้ากับเพื่อน ๆ ผมจึงออกไปหาข้าวกิน พี่ทีนกลับมาพอดีพร้อมกับซื้อราดหน้ามา 3 ถุง
“พ่อล่ะ?”
“ออกไปกินเหล้ามั้ง”
ผมรู้สึกเหมือนพี่ทีนยังโกรธผมอยู่ที่ผมพูดไปเมื่อตอนกลางวันผมก็เลยเอ่ยปากขอโทษ
“มึงจะมาขอโทษกูทำไม? มึงจะไปเอากับใครก็เรื่องของมึง!”
“อืมม...ที่จริงผมก็ไม่ควรขอโทษพี่หรอก พี่นั่นแหละที่ต้องขอโทษผม พี่บีบคอผมจนเจ็บไปหมด”
“ก็มึงทำตัวแบบนี้ไงสมควรโดนแล้ว”
“ผมยังไม่ทันทำอะไรเลย ทีตัวเองไปรับไปส่งสาวทุกวันผมยังไม่เคยยุ่งเรื่องของพี่เลย”
“ปากดีนัก ก็ไม่ต้องแดก!” พี่ทีนคว้าถ้วยราดหน้าหมูที่ผมเพิ่งเทออกจากถุงไป
“ถ้าบางทีพี่ลองแกล้งทำเหมือนผมเป็นน้องพี่บ้าง ผมก็คงดีกว่านี้! คนในบ้านนี้แม่งเกลียดผมกันหมดทุกคน!” ผมผลักถ้วยราดหน้าทิ้งจนหล่นลงพื้นแตกกระจาย น้ำราดหน้าเลอะนองพื้น เดินหลบออกมานั่งที่ชิงช้าหน้าบ้าน ทิ้งให้พี่ทีนยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นไป
ผมไม่อยากร้องไห้แล้ว ผมเบื่อที่ตัวเองเป็นแบบนั้น
ผมนั่งอยู่แบบนั้นจนท้องฟ้าเริ่มมืด พี่ทีนทำฟอร์มว่าออกมาเช็ดรถเพื่อลอบมองผม ตอนมันเดินกลับเข้าไปในบ้านผมจึงเดินหนีออกมาเดินลัดเลาะคันนาไปเรื่อย ๆ จนถึงบ้านพี่พี ผมพยายามเดินหลบหลีกไม่ให้ใครเห็น จนไปถึงคลอง ผมนั่งเล่นบนสะพานไม้ที่ใช้ข้ามคลอง ห้อยขากอดรั้วราวสะพานเอาไว้เพื่อไม่ให้ตก นั่งมองคนออกหาปลาไปเรื่อย จนกระทั้งท้องฟ้ามืดสนิท เริ่มโดนยุงกัดจนคันไปหมดทั้งตัว
“ไอ้นิน! มานั่งทำอะไรตรงนี้?” พี่พีถามพลางถือไฟฉายมาส่องหน้าผม ผมหันหน้าหนีทอดสายตาไปตามคลองโดยไม่ได้ตอบอะไร
“เดี๋ยวยุงก็หามไปหรอก” พี่พีนั่งลงข้างผมหยิบเอาซองโลชั่นกันยุงขึ้นมาทาแขนขาตัวเองแล้วยื่นให้ “มึงอย่าบอกนะว่ามึงมานั่งตรงนี้ตั้งแต่เย็น กูเห็นหลังไว ๆ เดินผ่านบ้านไปไม่คิดว่าจะเป็นมึง”
ผมยังคงไม่ตอบอะไร
“เป็นอะไรเนี่ย?”
“เปล่า!”
“แล้วมานั่งตรงนี้ทำไม?”
“พี่ไม่ต้องยุ่งหรอก!” พี่พีเงียบ ผมค่อนข้างแปลกใจที่จู่ ๆเดี๋ยวนี้พอผมพูดคำนี้กับใครคนคนนั้นมักจะเงียบใส่ผมเสมอทั้งพี่ทีนและพี่พีปกติก็คงด่ากลับไม่ก็ตบผมจนหัวทิ่มไปแล้ว
“มึงรู้เปล่า? ที่สะพานนี้มีผีนะ!”
“พี่ไม่ต้องมาหลอกผมหรอก”
“กูไม่ได้หลอก ประมาณเดือนก่อนมันมีศพลอยมาติดอยู่ตรงใต้สะพาน พวกผู้ใหญ่มาช่วยกันเก็บขึ้นแต่ว่าศพมันไม่มีหัว” พี่พีเล่าแล้วชี้มือไปตรงเสาไม้มต้สะพาน ผมกลืนน้ำลายเอื้อกแกล้งทำเป็นไม่สนใจ “มึงรู้จักลุงชิตที่ชอบหาปลาป้ะ?” พี่พีหันมาถามผม ผมพยักหน้าตอบ ลุงชิดแกชอบทำปลาเค็มมาขายพ่อผมประจำ “เออ...นั่นแหละ! ลุงชิตแกมาหาปลาแล้วบอกว่าเจอคนยืนอยู่บนสะพานแต่ว่าไม่มีหัว!”
พอเล่าจบ พี่พีก็ลุกขึ้นทำทีเป็นจะเดินกลับ หันมาถามผมที่นังนั่งกอดราวสะพานอยู่
“ไม่กลัวหรอ?”
“ผมไม่กลัวหรอก ผมรู้ว่าพี่หลอก”
“จริง ๆ นะ ระวังโดนผีจับหักคอเพราะคิดว่าเป็นหัวของตัวเอง”
“ถ้าผมตายเป็นผี ผมก็จะมาหลอกพี่คนแรกเลย”
ไม่รู้ว่าคำพูดผมไปสะกิดต่อมความรู้สึกอะไรของพี่พี มันทำหน้านิ่ง แล้วกลับมานั่งลงข้างๆ ผม
“นี่มึงไม่ได้คิดจะมากระโดดน้ำตายใช่มั้ย?”
ตอนนั้นแหละ ผมถึงเข้าใจแอบขำนิดหน่อยเพราะความคิดนั้นไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย
“แล้วถ้าผมทำล่ะ?”ผมลองแกล้งถามดู
“จะทำทำไม? มึงไม่กลัวไอ้ทีนกับพ่อมึงเสียใจหรอ?”
“คงไม่มีใครเสียใจหรอก ทุกคนเกลียดผมกันทั้งนั้น”
“นี่ทะเลาะกับไอ้ทีนมาหรอ?”
ผมไม่ตอบ นั่งมองแสงไฟจากเรือหาปลา ก่อนจะหันไปถามพี่พี
“แม่พี่เล่าให้ผมฟังว่าตอนผมเด็ก ๆ พี่ไปเล่นกับผมแทบทุกวันแล้วทำไมจู่ ๆ พี่ถึงเกลียดผมล่ะ?”
“เอ่อ…”
“เพราะผมเป็นตุ๊ดหรอ?”
“กู…”
“ผมไม่มีแม่ พ่อก็ไม่เคยใส่ใจ พอโตมาก็โดนพวกพี่เกลียดอีก เป็นผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?”
“มึงก็ไม่ได้แย่...”
“พี่พูดแบบนี้เพราะอยากเอาใจผมเพราะเรื่องคลิปเท่านั้นแหละ!”
พี่พีถอนหายใจจังหวะนั้นเสียงท้องผมร้องจ๊อกทำเอาพี่พีถึงกับหลุดขำออกมา
“หิวหรอ? ขึ้นไปกินข้าวบนบ้านกูก่อนมั้ย? อย่ามานั่งตรงนี้เลย”
พี่พีลุกขึ้นแล้วช้อนแขนตัวเองใต้รักแร้ผม พยายามหิ้วปีกให้ผมลุกตามออกเสียงเหมือนกำลังออกแรง “ฮึ้บบบบ” ผมยอมลุกขึ้นแล้วเดินตามพี่พีไป
“แม่! กับข้าวยังเหลืออยู่มั้ย? ไอ้นินมันยังไม่ได้กินข้าว”
“อ้าว! นินทำไมยังไม่ได้กินข้าวล่ะลูก?”
“เอ่อ...พอดีพ่อไม่อยู่น่ะครับ”
“มา ๆ ยังมีแกงเลียงกะทิฟักทองอยู่ในหม้อ เดี๋ยวแม่ไปอุ่นให้” แม่ตุ๊กุลีกุจอหันไปเปิดเตาแก๊สแล้วหันมาถามผมอีก “กินไก่ทอดมั้ย? เดี๋ยวแม่ทอดไก่ให้” ผมหันมองหน้าพี่พี มันกลอกตาก่อนจะกระซิบกับผมว่า “ไก่ซื้อมาจากตลาด” พี่พีแอบยิ้มมุมปากตอนที่เห็นผมหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ก็ได้ครับ ขอบคุณครับแม่ตุ๊”
“แล้วพี่ทีนล่ะกินรึยัง?”
“พี่ทีนเขากินข้างนอกมาแล้วครับ มันไม่รู้ว่าพ่อไม่อยู่ก็เลยไม่ได้ซื้อเผื่อมาให้ผม”
ผมดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดรอยช้ำตอนที่เห็นว่าพี่พีกำลังจ้องอยู่เพราะตอนนี้อยู่ในที่สว่างก็เลยถูกมันมองเห็นได้ทันที
นั่งรอจนแม่ตุ๊ทอดไก่เสร็จพี่พีตักแกงใส่ถ้วยคดข้าวใส่จานยื่นให้ผมแล้วขยับมานั่งข้าง ๆคอยจ้องจนผมกินข้าวหมด
“วันนี้ไม่ต้องช่วยแม่ล้างหรอกนะ เดี๋ยวแม่ล้างเอง”
“ขอบคุณมากครับ กับข้าวแม่ตุ๊อร่อยทุกอย่างเลย”
“พีไปส่งน้องหน่อยนะ มืดแล้วเดี๋ยวเจองูเงี้ยวเขี้ยวขอ”
“เอ่อ...คืนนี้ผมขอนอนที่นี่ได้มั้ยครับ?”
“ห้ะ!?”
“หืม? ได้สิลูกไปนอนห้องพี่พีก็ได้เดี๋ยวแม่หาหมอนไปให้นะ”
ผมโดนพี่พีลากตัวไปกลางบ้าน “อะไรของมึงเนี่ย? ได้คืบจะเอาศอก!”
“ถ้าไม่อยากให้นอนทำไมไม่บอกแม่ตุ๊ไปล่ะ?”
“กูจะบอกได้ยังไง?”
“อืม... ผมไม่นอนก็ได้!” ผมทำเสียงอ่อน คอตก หันเดินไปทางประตู
“เออ ๆ จะนอนก็นอน!”
แม่ตุ๊ถือหมอนใบหนึ่งมาให้ผมพร้อมกับผ้าห่ม ผมรับไว้แล้วกล่าวขอบคุณอีกครั้ง จากนั้นพี่พีก็พาผมเข้าไปในห้องนอน แอบแปลกใจเล็กน้อยที่ห้องมันดูสะอาดและเรียบร้อยเกินกว่าจะเป็นห้องของคนอย่างพี่พี
“กูแม่ง...สาวซักคนกูยังไม่เคยพามาห้องเลย ต้องพามึงมาคนแรก ”พี่พีตัดพ้อจนผมต้องหัวเราะออกมา
ผมโยนหมอนลงบนพื้น ปูผ้าห่มออกเป็นที่นอน พี่พีมองตามแล้วถามอย่างสงสัย
“มึงจะนอนข้างล่างหรอ?”
“ทำไมอ่ะ?”
“กูนึกว่ามึงจะนอนบนเตียง?”
“ผมไม่รบกวนพี่หรอก”
“ขึ้นไปนอนบนเตียงเลย เผื่อแม่กูเปิดมาแล้วเห็นมึงนอนบนพื้น กูก็ซวยนะสิ!” พี่พีหอบหมอนและผ้าห่มขึ้นไปไว้บนเตียง
ผมนั่งลงเอาหลังพิงเตียงปล่อยความคิดจนเหม่อลอยพี่พีเห็นผมกลับมาซึมจึงทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
“พี่มีหมอนข้างกี่อัน? ผมติดหมอนข้าง”
“อันเดียว มึงเอาไปใช้ก็ได้” พี่พียังคงจ้องรอยดูดที่คอผมไม่วางตา จนในที่สุดอดรนทนไม่ได้ต้องเอ่ยถาม “ไอ้นิน”
“หืม?”
“รอยที่คอมึงอ่ะ…”
“มันทำไมนักหนาวะ? ทำไมมีแต่คนสนใจมันนัก”
“ก็มันเป็นรอยดูด ใครเป็นคนทำ?”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เล่าไปว่า ผมไปเล่นซ่อนหาที่โรงเรียนแล้วโดนเพื่อนที่แอบอยู่ด้วยกันแกล้งดูด
“ใครมันจะบ้าอยู่ ๆ มาดูดคอมึงวะ?”
“ก็มันแกล้งไง! เข้าใจคำว่าแกล้งป้ะ? พี่ถนัดไม่ใช่หรอ?”
“เออ! เชื่อก็ได้”
“พี่ทีนแม่งก็เอาแต่ด่าผม หาว่าทองเอกเป็นคนดูดทั้งที่ทองเอกเป็นคนช่วยผมไว้” ผมโกหกเพื่อปกป้องเพื่อน
“เพราะแบบนี้ก็เลยทะเลาะกันมาใช่มั้ย?”
“ช่างเถอะ! ผมไม่สนใจหรอก ทีตัวมันเองยังไปหาแฟนได้ทุกวี่ทุกวัน ถ้าผมจะมีแฟนบ้างมันจะทำไมนักหนา!”
“แล้วมึงเป็นแฟนกับไอ้ทองเอกหรอ?”
“เปล่า! ก็บอกว่ามันไม่ได้เป็นคนทำยังจะถามอีก”
เราเงียบกันอยู่สักพัก พี่พีมองผมเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ผมขี้เกียจคุยต่อก็เลยกระโดดขึ้นเตียงนอนกอดหมอนข้าง พี่พียืนมองอย่างลังเลผมจึงหันไปบอกว่า “พี่ไม่ต้องกลัวหรอก วันนี้ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแบบนั้น” ก่อนจะหันตัวหนีเข้าข้างฝา
--------------------------------------------------------------------
ถ้าสังเกตจากชื่อเรื่อง จะรู้ว่า ทองเอก ไม่ได้เป็นตัวละครหลักที่จะมาพัวพันกับนินขนาดนี้ อยากให้ทองเอกเป็นเพื่อนที่คอยซัพพอร์ทนิน โดยที่ไม่มีความใคร่อะไรต่อกันจริง ๆ
แต่สถานการณ์มันบีบบังคับ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย
ใด ๆ ก็ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเม้นต์ที่ส่งมานะครับ
ปล. มีบางท่านแนะนำว่าอยากให้ใส่รูปตัวละคร เพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน ผมขอบอกแบบนี้ครับว่า ผมไม่รู้จะฟารูปจากไหน? 555 อีกอย่าง ในเรื่อง ผมไม่ค่อยพรรณนา ถึงลักษณะตัวละครสักเท่าไหร่ ก็เพื่อให้คนอ่านได้จินตนาการได้เต็มที่ อยากจะเอาใครมาเป็นตัวละครในเรื่องนี้ก็ได้ จะเป็นเพื่อนวัยเด็ก รุ่นพี่ที่แอบชอบ หรือแม้จะจินตนาการตัวเองเป็น นิน ก็ได้ทั้งนั้น
|