ไม่นึกไม่ฝันจริงๆ ครับ ที่ผมได้มีโอกาสเข้ามาทำงานที่ A Coffee Bar แห่งนี้
มองย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อนตอนที่ร้านกาแฟ A Coffee Bar แห่งนี้เปิดตัว มันกลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว จากรสชาติของกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์และไอเดียในการตกแต่งร้านที่แตกต่างจากร้านกาแฟทั่ว ๆ ไป ซึ่งทางร้านใช้เป็นจุดขายสำคัญในการเจาะตลาดเพื่อเรียกลูกค้าที่ต้องการความแปลกแตกต่าง อย่างมีสไตล์ เพียงไม่นานหลังเปิดตัวมันจึงทำให้ร้านกาแฟเล็ก ๆ แห่งนี้ถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมออนไลน์คนจำนวนมากเข้ามาที่ร้านเพื่อถ่ายรูป เซลฟี่ และเผยแพร่พร้อมติดแฮชแท็กชื่อร้านจนกลายเป็นการส่งต่อและเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ให้หลั่งไหลเข้ามาในร้านจนไม่นานมันก็กลายเป็นร้านกาแฟชื่อดังแห่งยุคที่ใคร ๆ ก็ต้องอยากไปเยือนสักครั้ง
เพียงไม่นานหลังร้านเริ่มมีชื่อเสียงทางร้านก็ออกไม้เด็ดที่เป็นจุดขายสำคัญที่ช่วยต่อยอดให้เกิดกระแสในสังคมออนไลน์ขึ้นมาอีกคำรบหนึ่งสิ่งนั้นก็คือ เจ้าของร้าน อธิตย์ จารุวรรณ คนหนุ่มรุ่นใหม่วัยยี่สิบแปดปีที่มีความคิดความฝัน และสามารถทำให้มันเป็นความจริงขึ้นมาได้ สิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่กล่าวถึงไม่ใช่แค่ความสามารถและวิสัยทัศน์ในการบริหารที่เฉียบคมที่เขาพูดผ่านสื่อบ่อยๆ เท่านั้น แต่คุณอธิตย์ ชายผู้เป็นเจ้าของตัวอักษร A ในชื่อร้าน ยังเป็นคนหนุ่มที่มีเสน่ห์ ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา โดดเด่นท่าทางที่มีสไตล์ มันทำให้เขายิ่งดูหล่อเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก คุณอธิตย์กลายเป็นเป้าหมายสำคัญที่ลูกค้าสาวๆ อยากมาเจอ มาถ่ายรูปเซลฟี่ด้วย เพื่อเอาไปอวดในสังคมออนไลน์
คุณอธิตย์กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผมวางเป้าหมายในการทำงานทันทีทั้งที่ยังเรียนไม่จบวิธีคิด และมุมมองของคุณอธิตย์ที่ผมได้อ่านผ่านบทสัมภาษณ์มันทำให้ผมชื่นชมและหลงไหลเขาเป็นอย่างมาก ผมนั่งดูรูปคุณอธิตย์ที่ลูกค้าสาว ๆ ถ่ายลงในอินสตราแกรมแล้วแท็กผ่านมาทางร้านทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน มันยิ่งเพิ่มความหลงไหลในตัวคุณอธิตย์มากขึ้นไปอีก
จนมาถึงวันที่ผมได้มีโอกาสนั่งสัมภาษณ์งานโดยมีคุณอธิตย์เป็นคนให้สัมภาษณ์มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ผมจะตอบคำถามให้เขาประทับใจ เพราะผมศึกษางานของที่นี่มาอย่างดีตลอดlujปีที่ผ่านมา แต่ขณะถูกสัมภาษณ์ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดีเพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณอธิตย์แบบตัวต่อตัว อย่างใกล้ชิด
แล้วในที่สุดฝันของผมก็เป็นจริงผมก็ได้เข้ามาทำงาน ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ
ทุกวันนี้ACoffee Bar ไม่ได้เป็นเพียงร้านกาแฟอีกต่อไป แต่มันขยายกลายเป็นธุรกิจขนาดกลางที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องมีสาขานับสิบสาขาทั่วเมือง และมีแพลนที่ขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ ๆ อีกด้วย คุณอธิตย์ทุกวันนี้ไม่ได้ออกหน้าในการทำประชาสัมพันธ์และขึ้นไปนั่งบริหารงานอย่างเต็มตัว ปล่อยหน้าที่ในการโฆษณาร้านกับคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นผู้ดูแลแต่ละสาขาย่อยแทน
และผู้จัดการที่เป็นผู้กุมบังเหียนสาขาย่อยนี่แหล่ะที่เป็นเจ้านายโดยตรงของผม
คุณอาทรชายวัยสี่สิบห้า หน้าตาท่าทางเบื่อหน่ายโลก ไม่มีความกระตือรือร้นมีแต่การทำผลงานเอาหน้า และผลงานที่ทำก็มาจากสองมือของลูกน้องอย่างพวกผมนี่แหล่ะผมล่ะเกลียดนายอาทรที่ไม่มีความเอื้ออาทรนี่จริง ๆถ้าไม่ใช่เพราะมันคืองานที่ผมเลือกที่จะทำเพราะมีคุณอธิตย์เป็นแรงบันดาลใจผมคงเดินจากองค์กรนี้ไปแล้ว
พอทำงานไปได้สักพักผมก็เริ่มมีเพื่อนที่สนิทในสำนักงานหนึ่งในคนที่ผมสนิทด้วยมาก ๆ คือพี่ทีที่อยู่แผนกประชาสัมพันธ์ แม้จะไม่ได้เป็นเพื่อนที่สนิทขนาดไปทำกิจกรรมอะไรร่วมกันนอกเวลางานแต่แกก็เป็นเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาและคอยรับฟังคำปรับทุกข์จากผมได้
ผมเห็นพฤติกรรมความชั่วร้ายของนายอาทรหลายอย่างแต่อยู่ในภาวะน้ำท่วมปากพูดไม่ได้ ผมก็เล่าเรื่องพวกนี้ให้พี่ทีฟังแกก็เตือนผมบ่อย ๆ ว่าอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะนายอาทรมีอิทธิพลมาก เรื่องที่ผู้ดูแลสาขาที่ส่วนใหญ่เป็นสาวๆ หน้าตาดีโดนนายอาทรเอารัดเอาเปรียบและด่ากราดยามที่ทำงานไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ จึงยังไม่เคยล่วงรู้ไปถึงหูคุณอธิตย์พนักงานทุกคนยอมทนกับพฤติกรรมของนายอาทรเพราะผลงานที่ดีของเขาในสายตาของคุณอธิตย์ยิ่งในทุกมื้ออาหารกลางวันที่คุณอธิตย์มักออกไปทานกับนายอาทรเสมอ ๆ แม้บางมื้อจะมีพนักงานชายจากแผนกต่างๆ ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้าไปด้วยแต่ทุกคนก็รู้ว่าถึงความสนิทสนมของคุณอธิตย์กับนายอาทร และรู้ว่านายอาทรนั้นเส้นใหญ่ขนาดไหนมันยิ่งทำให้ไม่มีใครกล้าเสี่ยงเปิดเผยเรื่องของนายอาทรกับคุณอธิตย์
แต่คนมันทำอะไรไว้เยอะมันเลยเจองานเข้าได้สักวันเป็นเรื่องธรรมดา
หัวหน้ากลุ่มผู้ดูแลร้านส่งเอกสารสำคัญมาให้นายอาทรเซ็นต์อนุมัติด่วนแต่นายอาทรกลับลืมจนสร้างความเสียหายทางธุรกิจ นายอาทรให้ผมปกปิดความผิดโดยการทำลายเอกสารที่เป็นหลักฐานที่จะโยงมาถึงตัวเขาและทำเหมือนว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นจนพนักงานดูแลร้านทั้งแผนกโดนเล่นงานทุกคนที่เลวร้ายที่สุดคือเป็นนายอาทรเองที่เป็นคนลงดาบจัดการสาว ๆ เหล่านี้ด้วยตัวเองผมเฝ้ามองความเลือดเย็นนี้ด้วยความเดือดดาล และคิดว่านายอาทรน่าจะถึงเวลาโดนจัดการได้เสียทีผมจึงนำหลักฐานที่นายอาทรคิดว่าถูกทำลายแล้วไปส่งให้หัวหน้าฝ่ายดูแลร้านและมันกลายเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลใช้เล่นงานนายอาทร
คุณอธิตย์เห็นหลักฐานนั้นแล้วและเขาเรียกนายอาทรเข้าไปพบโดยด่วน
แล้ววันที่พลิกโลกของผมก็เกิดขึ้น
ผมถูกเรียกให้ไปเป็นพยานทางฝ่ายนายอาทรโดยผมต้องยืนยันว่าไม่เคยเห็นเอกสารดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ และมันถูกทำขึ้นเพื่อป้ายความผิดมาที่เขานายอาทรมองหน้าผมเหมือนจะพยายามอ่านใจผมว่าผมจะอยู่ฝ่ายไหนจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรทั้งที่เมื่อเห็นเอกสารนายอาทรน่าจะรู้ว่าผมมีส่วนกับเรื่องนี้ด้วยเพราะมันป็นเอกสารที่เขาส่งมาให้ผมทำลายเองกับมือ
แล้วสุดท้ายผมก็ต้องพูดความจริงผมทนพูดโกหกต่อหน้าคุณอธิตย์ไม่ได้จริง ๆ
ผมมองหน้าคุณอธิตย์เหลือบเห็นสีหน้าและแววตาที่ผิดหวังของเขาที่มองมาทางผม มันทำให้ผมใจหายสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาผิดหวังที่นายอาทรคนสนิทไม่ได้ดีอย่างที่เขาคิดหรือเขาผิดหวังที่ผมออกมาเปิดเผยเรื่องนี้
“พูดออกมาได้สักทีนะมึง”นายอาทรเปล่งเสียงคำรามกร้าวออกมา พร้อมกับลุกขึ้นย่างสามขุมตรงมาที่ผมผมรู้สึกเหมือนตัวหดเหลือนิดเดียวได้แต่คิดสงสัยว่าทำไมนายอาทรถึงกล้าทำสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าคุณอธิตย์
“ถึงเวลาของมึงแล้วที่จะได้รู้ความจริง”นายอาทรผละจากที่นั่งเดินอ้อมไปข้างหลังเก้าอี้ที่คุณอธิตย์นั่งอยู่สายตาของมันเปลี่ยนจากการจับจ้องที่ผมมองขึ้นไปบนเพดานแทน
“มึงเห็นอะไรมั้ย”
แม้จะไม่ได้มองหน้าผมแต่ปมรู้ว่านายอาทรถามผมอยอยู่ ผมตอบไปว่า “ไม่” เพราะไม่เข้าใจความหมายที่นายอาทรพยายามสื่อ
“มึงไม่เห็นสายเชิดหุ่นเหรอมึงไม่เห็นเหรอว่าไอ้คนที่นั่งอยู่ตรงนี้มันไม่ใช่มนุษย์แต่มันคือหุ่นเชิดของกูเอง หุ่นที่กูจะสั่งซ้ายหันขวาหันไปทางไหน ยังไงก็ได้”
ผมงงงันกับสิ่งที่นายอาทรกล่าวพอเหลือบไปสบสายตาคุณอธิตย์ ผมเห็นเหงื่อเขาออก แม้จะนั่งอยู่ในห้องแอร์อันเย็นฉ่ำ
“ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ทุกคำที่มันพูด ทุกสิ่งที่มันทำ มันออกมาจากสมองของกูทั้งหมด กูคนที่ไม่มีหน้ามีตากูจึงต้องจ้างมันมารับหน้าที่เป็นร่างทรงของกูไง A ที่มึงเห็นในชื่อร้านไม่ได้ย่อมาจากชื่อมันแต่มันย่อมาจากชื่อกูนี่ ทีนี้มึงเข้าใจรึยัง”
ผมตกตะลึงจังงังกับความจริงที่ได้รู้ใช่ ผมคิดว่ามันเป็นความจริงเพราะคุณอธิตย์ไม่เอ่ยคำพูดอะไรเพื่อปฏิเสธสักคำเขาเอาแต่นั่งทำตาตื่นและเหงื่อตกอยู่บนเก้าอี้
“งั้นถ้าไอ้นี้มันเป็นแค่หุ่น เราจะจัดการอะไรกับมันก็ได้ใช่มั้ยครับ”ผมถามออกไปทั้งที่เสียงยังสั่น ๆ
“กูรู้ว่ามึงหมายถึงอะไรไอ้พวกตุ๊ดที่แม่งเข้ามาทำงานที่นี่ ร้อยทั้งร้อยแม่งก็หวังควยไอ้อธิตย์ทั้งนั้นกี่ราย กี่รายไม่เคยผิดปากกู กูก็เห็นแววมึงตั้งนานแล้ว ถ้ามึงฉลาดที่จะรักษาผลประโยชน์องคค์กรมากกว่านี้มึงคงได้เสพสุขไปนานแล้ว นี่ต้องมารับเดนต่อจากคนอื่น ๆ”
“ไม่เป็นไรครับแค่นี้ฝันผมก็เป็นจริงแล้ว”
“แต่กูขอบอกไว้อย่างนะว่าไอ้นี่มันเป็นแค่หุ่นเชิด เพราะฉะนั้นมันเย็ดมึงไม่ได้หรอก เป็นหน้าที่มึงที่ต้องเย็ดมัน”
“ได้ครับผมก็อยากเย็ดมันเหมือนกัน เย็ดให้หายแค้นที่ถูกหน้าหล่อ ๆ คารมดี ๆของมันหลอกลวงมานานหลายปี”
“ได้งั้นมึงไปเตรียมตัว กูจะพามึงออกไปกินข้าวกลางวัน”
แล้วฉากที่ทุกคนในสำนักงานได้เห็นคือคุณอธิตย์เดินมาที่ห้องของนายอาทร ชวนนายอาทรไปกินข้าวและนายอาทรก็พ่วงผู้ช่วยอย่างผมไปด้วยเป็นครั้งแรกผมเห็นสายตาของบรรดาตุ๊ดแต๋วในสำนักงานที่มองมาอย่างรู้ทันบางคนหน้าเชิ่ดที่ผมกำลังจะรับเดนต่อจากมัน บางคนส่งสัญญาณรับผมเข้ากลุ่มเข้าพวกอย่างเป็นทางการ
ระหว่างนั่งรถไลน์ของผมก็เด้งพี่ทีเชิญผมไปเข้าร่วม
‘กลุ่มทลายประตูหลังไอ้อธิตย์’
ผมรับคำเชิญเข้าร่วมกลุ่มทันทีกลุ่มนี้มีสมาชิกยี่สิบสองคนแล้ว ผมไล่ดูรายชื่อึคนที่อยู่ในกลุ่มทั้งหมดเป็นพนักงานชายของบริษัท มีทั้งคนที่ผมรู้จักและบางคนที่ผมไม่เคยพูดคุยด้วย ผมกดเข้าไปดูโน๊ตกลุ่มแล้วได้รู้ความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่ข้างหลังคุณอธิตย์สุดหล่อผู้มีความคิดอันเฉียบคม เป็นไอดอลของใครต่อใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่สุดเหลือเชื่อสำหรับผู้ชายธรรมดาอย่างผมจริงๆ
ผมได้รับการรับน้องโดยรุ่นพี่ต่างส่งคลิปที่ได้มีโอกาสกระหน่ำเย็ดคุณอธิตย์มาให้ดู
“ยินดีต้อนรับเข้ากลุ่ม”ข้อความจากพี่ที พี่แผนกประชาสัมพันธ์
“พี่เป็นคนแรกที่ได้เย็ดไอ้อธิตย์พี่เย็ดแบบไม่ยั้งเพราะโกรธมากที่ถูกหลอก หลังจากนั้นพี่ก็เชิ่ดใส่มันทันทีแต่อย่างว่าพี่ทำอย่างนั้นกับมันที่ที่ทำงานไม่ได้ฝากน้องถ่ายรูปรูตูดมันมาให้พี่ดูหน่อยสิว่าตอนนี้ตูดมันบานขนาดไหนแล้ว”
รถของคุณอธิตย์แล่นเข้าม่านรูดไร้ระดับคนขับรถกุลีกุจอลงมาเปิดประตูด้านนายอาทร ขณะที่เจ้านายของมันกลับไม่ได้รับการใส่ใจผิดจากที่ผมเห็นตอนเช้ายามรถมาจอดหน้าสำนักงานหน้าของนายคนขับมองหน้าคุณอธิตย์ด้วยหางตา อย่างไม่ให้ค่า
“เข้าไปด้วยมั้ยไอ้ดำ”นายอาทรถาม
“ไม่ล่ะครับเจ้านายเบื่อแล้ว” นายดำคนขับพูดเซ็ง ๆ ขณะที่นายอาทรหัวเราะขัน ๆ ขณะที่พนักงานของโรงแรมม่านรูดตรงเข้ามารับทิปจากนายอาทรเป็นเงินก้อนใหญ่
“รู้ใช่มั้ยว่าต้องทำอย่างไร”
“ครับนายผมรูดซิปปากมิดเลย ว่าแต่มึงนี่ตูดไม่เคยว่างเลยนะ เห็นหน้าออกสื่อนี่อย่างโก้ตัวจริงรับแขกเยอะจนกะหรี่ยังอาย น้องก็เต็มที่เลยนะ โอกาสทองแบบนี้ต้องเอาให้คุ้ม”เสียงหัวเราะประสานกันของนายอาทร คนขับรถ และพนักงานโรงแรมดังขึ้นพร้อมกัน
“รับรองผมจะทำให้ไอ้อธิตย์มันลืมผมไม่ลงเลย”
แล้วผมก็ลากไอ้อธิตย์เข้าไปในห้องของโรงแรมม่านรูดโดยมีคุณอาทรถือกล้องเดินตามเข้ามาบันทึกภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของผมพอผมเข้ามาในห้องผมก็ต้องตกตะลึง ห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยภาพของไอ้อธิตย์ที่ออกตามสื่อต่าง ๆ ภาพความคิดของผมแล่นไปถึงวันแรกที่ผมได้รู้จักมันไม่นึกเลยว่าผมหลงชอบกะหรี่มานานแสนนาน
“หมดเวลาปั้นหน้าเป็นคนเก่งแล้วไอ้กะหรี่อธิตย์”
ไอ้อธิตย์ไม่ได้ขยับอะไรผมรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจมารับงานนี้แบบต้องการควบตำแหน่งกะหรี่แต่พอขึ้นหลังเสือแล้วมันลงไม่ได้ อนาคตมันจะดับวูบไปอย่างไรถ้ามีคนรู้ความจริงแล้วทุกอย่างมันก็เลยเถิดจากจุดตั้งต้น
ผมเข้าไปหามันเริ่มจากการจูบปากแลกลิ้นกับมันริมฝีปากผมบดขยี้กับริมฝีปากของไอ้อธิตย์อยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่ผมจะเอาลิ้นชอนไชเข้าไปในปากของมัน ไอ้อธิตย์ยอมเปิดปากรับลิ้นของผมเข้าปากมันไปอย่างง่ายดายขณะที่มือของผมเริ่มปลดเปลื้องเครื่องแต่งกายของมันออกทีละชิ้น ทั้งหมดเกิดขึ้นโดยมีกล้องของนายอาทรบันทึกภาพไว้
ไม่นานปราการด่านสุดท้ายของไอ้อธิตย์ก็หลุดออกจากกายผมถอยออกมาเพื่อที่จะได้เห็นภาพไอ้อธิตย์แก้ผ้าอย่างเต็มตา
“นี่น่ะเหรอคุณอธิตย์สุดหล่อของสาวๆ”
ตอนนี้มันยืนเปลือยกายอยู่กลางห้องแม้มันจะโดนทำแบบนี้มาหลายครั้งแต่ผมเห็นสีหน้าแววตามันตอนนี้ผมคิดว่ามันก็คงอายอยู่เพราะคงไม่คิดว่าจะต้องมาทำแบบนี้กับผมและมันคงจะอายที่เห็นภาพตัวเองสะท้อนอยู่ในกระจกที่ติดอยู่รอบ ๆ ห้อง
ผมค่อยๆ ปลดเปลื้องเครื่องแต่งกายของตัวเองออกบ้าง ทีละชิ้น ทีละชิ้นจนเมื่อกางเกงชั้นในของผมหลุดออกจากตัว แก่นกายที่กลางลำตัวดุ้นมหึมาของผมก็ดีดผึงขึ้นมาตั้งฉากกับพื้นโลกทันทีมันแข็งตัวเต็มที่รอพร้อมเผด็จศึกไอ้อธิตย์อยู่แล้ว
ผมได้ยินเสียงผิวปากแซวจากนายอาทรทันทีที่มันเห็นเห็นท่อนลำของผม
“อธิตย์มึงเจอของจริงเข้าแล้ว เท่าที่เห็นนี่กูตัดเกรดให้ดุ้นมึงนี่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ไอ้อธิตย์เคยเจอมาเลยตูดมึงเตรียมบานกว่าเดิมได้เลยไอ้อธิตย์”
“ก่อนจะเย็ดกูอยากให้มึงคลานท่าหมามาหากูหน่อยแล้วใช้ปากมึงทำความสะอาดควยกูสักหน่อยก่อน เดี๋ยวตอนมึงโดนเย็ด มึงจะได้รู้สึกถึงความสะอาดปลอดภัย”
ผมรู้สึกสะใจที่ได้ออกคำสั่งกับไอ้อธิตย์ผมแผดเสียงหัวเราะใส่มันตอนเห็นมันค่อย ๆ ย่อตัวลงไปอยู่ในท่าหมา ก่อนจะใช่เข้าคลานเข้ามาหาผมสายตามันจับจ้องที่ท่อนควยผม ตอนนี้คงรู้สึกตื่นกลัวอยู่ไม่น้อยที่กำลังจะโดนดุ้นควยนี่กระแทกเข้ารูตูด
แต่ตอนนี้มันอ้าปากครอบเข้าที่ท่อนควยของผมแล้วจัดการโม้คเข้าออกไม่หยุด ความเสียวทำให้ผมจับที่หลังหัวของไอ้อธิตย์แล้วจับมันให้โม้คที่ควยผมลึกขึ้นกว่าเดิม ผมส่งเสียงบอกมันไปว่า
“ลึกกว่านี้อีกเร็วกว่านี้อีก”
ผมเห็นมันเหลือบตาขึ้นมาสบตาผมที่มองมันอยู่ก่อนแล้วผมส่งรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมตอบกลับมันไป ไอ้อธิตย์ทำตามที่ผมสั่งทันทีเหมือนมันคือมืออาชีพทางด้านนี้จริงๆ
ผมแผดเสียงหัวเราะดังออกมาด้วยความสะใจผมหันไปหานายอาทรขอให้ช่วยส่งมือถือของผมมาให้ที นายอาทรทำให้อย่างง่ายดาย
ขณะกำลังนั่งรถกลับผมส่งรูปหนึ่งเข้าไปยังกลุ่มไลน์
นายอธิตย์นอนอ้าขาแหกดากให้ผมถ่ายรูปด้วยสีหน้าที่เต็มใจไม่นานข้อความไลน์กระหน่ำจนเกิดเสียงแจ้งเตือนดังระงมไปทั้งคันรถ
นานอาทรมีสีหน้าสบายอารมณ์ขณะที่ไอ้อธิตย์ใช้สายตาว่างเปล่ามองออกไปนอกรถ ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในไลน์ลับนั้น
แล้วรูปถ่ายและคลิปของผมที่ได้กระหน่ำเย็ดไอ้อธิตย์ก็ถูกส่งตามลงไปในกลุ่มโดยนายอาทรตามมาด้วยเสียงแจ้งเตือนกระหน่ำขึ้นมาอีกครั้ง
นายอธิตย์เดินนำพวกผมเข้ามาในสำนักงานท่ามกลางสายตาบางคู่ที่รู้เห็นอะไรมากกว่าที่ควรรู้ ผมไม่รู้ว่าเขาทนมันได้อย่างไรพี่ทีรีบกุลีกุจอเอาน้ำเข้าไปเสิร์ฟในห้องของไอ้อธิตย์เป็นการเสิร์ฟน้ำที่นานมากผิดปกติ และก่อนที่พี่ทีจะออก เสียงไลน์ก็ดังเตือนขึ้นอีกครั้งมันดังกระหึ่มฟลอร์สำนักงานอย่างน่าสงสัย
ผมเปิดดูไลน์กลุ่มเห็นภาพที่ถูกส่งมาโดยพี่ที เขานั่งคุกเข่าถ่ายรูปเซลฟี่กับไอ้อธิตย์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กรรมการบริหารในท่าชันเข่าโชว์ดากและท่อนควยภาพต่อมาไอ้อธิตย์โม้คควยให้พี่ทีที่ยืนยิ้มแป้นด้วยความสุขสำราญใจ
พี่ทีเดินออกจากห้องเดินผ่านโต๊ะทำงานของผมหันมาสบตาส่งยิ้มให้ เรารู้กันว่านี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้สนุกกับเรือนร่างและความเป็นชายของไอ้อธิตย์ผู้บริหารกำมะลอ
|