แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Porschekub เมื่อ 2024-9-16 03:49
เวลาผ่านไปเพียงสองสัปดาห์เท่านั้นแต่ในความรู้สึกของวิคเตอร์ มันเหมือนกับเวลาผ่านไปเป็นเดือนทุกเช้าเริ่มต้นเหมือนกัน—5.00 น.เสียงนาฬิกาปลุกดังก้องในห้องเฝ้าบอกให้เขาลุกขึ้นจากเตียงตามตารางการฝึกซ้อมที่วางไว้ ราวกับเครื่องจักรจากนั้นก็เป็นเสียงเคาะประตูเบาๆ ของยายแป๊ดสัญญาณที่คุ้นเคยบอกว่าอีกวันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ตั้งแต่เซสชั่นแรกที่หมอกันต์ใช้ในการทดสอบจิตใจวิคเตอร์ทุกสิ่งดูเหมือนเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิด การเห็นยายแป๊ดถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเขาไม่ใช่เพราะความตั้งใจของเธอแต่มันเป็นส่วนหนึ่งของการทดลอง—หมอกันต์บอกว่าเพื่อเสริมสร้างความไว้วางใจและเปิดความคิดของวิคเตอร์แต่ภาพนั้นยังติดอยู่ในใจเขา
ในตอนนั้นเขารู้สึกรังเกียจในใจลึกๆความเหี่ยวย่น รอยริ้วรอยบนผิวหนังที่หย่อนคล้อย มันต่างจากผู้หญิงที่เขาเคยเห็นมาตลอด—นางแบบที่สวยงามและแฟนสาวของเขา มุกดา ที่ทุกส่วนของเธอสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานความงามทั่วไปของโลก แต่ความรู้สึกเหล่านั้นค่อยๆเปลี่ยนไป เมื่อความคุ้นเคยเข้ามาแทนที่ ทุกวันที่เขาต้องเผชิญกับความจริงตรงหน้า ทำให้ความอึดอัดในตอนแรกค่อยๆจางหายไป สิ่งที่เคยทำให้เขาไม่สบายใจ กลับกลายเป็นภาพที่ยอมรับได้อย่างช้าๆ. เขาไม่เคยคิดเลยว่าภาพของร่างกายที่เหี่ยวย่นของยายแป๊ดจะกลายเป็นสิ่งที่เขายอมรับได้แต่มันกลับค่อยๆ ซึมซับเข้ามาในความคิดอย่างเงียบๆ ทุกวันที่ผ่านไปเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเปลี่ยนไปจากสิ่งที่เคยเป็นความคิดที่ว่าเขากำลังมองยายแป๊ดในมุมมองที่ต่างจากเดิมทำให้เขารู้สึกอึดอัดแต่ในเวลาเดียวกัน มันกลับมีเสน่ห์บางอย่างที่เขาไม่สามารถละทิ้งได้
ความคุ้นเคยเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนทั้งร่างกายและจิตใจของเขาไม่เคยเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงแบบนี้มาก่อน ในขณะที่วันเวลาผ่านไปความทรงจำจากเซสชั่นของหมอกันต์ยังคงสะท้อนอยู่ในใจเขา มันเป็นช่วงเวลาที่เขาไม่สามารถลืมได้ง่ายๆภาพของยายแป๊ดที่เปลือยเปล่าในวันนั้นกลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความคิดและความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ
วิคเตอร์หวนคิดถึงตอนที่หมอกันต์ขยับตัวเล็กน้อยหลังจากที่ยายแป๊ดเปลือยกายต่อหน้าเขาเป็นครั้งแรกหัวใจของเขาเต้นแรง ราวกับทุกคำถามของหมอกันต์กำลังสะกิดความรู้สึกที่เขาพยายามหลีกหนี“วิคเตอร์ คุณบอกผมหน่อยได้ไหมว่าตอนนี้คุณรู้สึกยังไงกับภาพที่คุณเห็น?” คำถามนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกผลักให้ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่เขาไม่อยากจะยอมรับ วิคเตอร์สูดหายใจลึกพยายามรวบรวมความคิด “ผม... ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” ทุกครั้งที่ผมเห็นผู้หญิงคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นแฟนผมหรือคนอื่นๆพวกเขามักจะดูสมบูรณ์แบบเสมอ แต่ร่างกายของยายแป๊ดกลับแปลกตา ท้าทายทุกความเชื่อที่ผมเคยมีเกี่ยวกับความงามความสมบูรณ์แบบที่ผมเคยเชื่อว่าจำเป็น กลับถูกแทนที่ด้วยความจริงที่อยู่ตรงหน้า มันเป็นภาพที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง. เขาพูดพร้อมกับภาพในหัวของเขาที่เต็มไปด้วยผู้หญิงที่เขาเคยพบในชีวิตตั้งแต่นางแบบจนถึงมุกดา ร่างกายที่สวยงามของพวกเธอเปรียบเสมือนสิ่งที่เขาคุ้นเคยทุกสัดส่วนสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานที่คนอื่นตั้งไว้แต่ภาพของยายแป๊ดนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
“กับยายแป๊ด... มันไม่ใช่อย่างนั้น”เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงสับสน “มันไม่ได้เป็นเรื่องของความสมบูรณ์แบบ...แต่เป็นความจริงที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน”
หมอกันต์มองวิคเตอร์อย่างตั้งใจแล้วถามคำถามที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกสับสน
“แล้ววิคเตอร์คุณเคยผ่านประสบการณ์กับผู้หญิงมาก่อนหรือเปล่า? คุณยังบริสุทธิ์อยู่ไหม?”
วิคเตอร์เงียบไปพักหนึ่งคำถามนั้นทำให้เขาต้องคิดย้อนกลับไป เขาเคยมีความสัมพันธ์กับมุกดาแต่สิ่งที่เขารู้สึกในตอนนี้กับสิ่งที่เขาเห็นในยายแป๊ดมันแตกต่างออกไปมันไม่ใช่แค่เรื่องทางกายภาพ มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่สามารถนิยามได้
“จริงๆ ครั้งแรกของผม... ตอนมัธยมปลายครับ หมอ”วิคเตอร์เริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงเงียบๆ สายตาของเขาจ้องมองไปข้างหน้าเหมือนย้อนกลับไปในความทรงจำตอนนั้นผมเพิ่งขึ้นปีสุดท้าย เป็นช่วงที่ผมกำลังมีการแข่งขันว่ายน้ำระดับประเทศ ทุกคนมองว่าผมเป็นคนที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบทั้งร่างกาย ความสามารถ ผมเป็นที่สนใจของผู้หญิง แต่ความจริงคือ... ผมไม่เคยมั่นใจเวลาอยู่ใกล้พวกเธอจริงๆไม่เคยไปไกลกว่าแค่จับมือหรือจูบ
ครั้งแรกที่มันเกิดขึ้นจริงๆ หลังจากผมชนะเหรียญทองเรามีงานเลี้ยง มีรุ่นพี่คนหนึ่งที่ผมเคยคุยด้วย เธอสวยและได้รับความนิยม คืนนั้นหลังงานเลี้ยงผมไปส่งเธอที่บ้าน เธอบอกให้ผมขึ้นไปในบ้าน ผมรู้สึกตื่นเต้นและประหม่า ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเธอบอกให้ผมนั่งที่เตียง และเธอเริ่มถอดเสื้อ ตอนนั้นหัวใจผมเต้นแรงมาก ผมไม่รู้จะทำยังไง...ผมรู้สึกประหม่า แต่เธอก็ยิ้มและบอกผมว่าไม่ต้องกังวล เธอนำทางผมทุกอย่าง
มันเป็นครั้งแรกของผม และผมก็รู้สึกว่าเธอเข้าใจผมพยายามทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็รู้สึกว่าผมยังไม่พร้อม แต่เธอทำให้ผมรู้สึกว่าผมโอเคมันไม่ใช่เรื่องทางกายภาพ แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ผมไม่ต้องสมบูรณ์แบบตลอดเวลา" เมื่อเขาหยุดพูด ความรู้สึกเขินอายที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของเขาก็เริ่มจางหายไปแต่คำถามจากหมอกันต์ยังคงดังก้องอยู่ในใจของเขามันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยพูดถึงกับใครมาก่อนแต่การที่ต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกเหล่านี้ในเซสชั่นนั้นทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงความจริงในใจของตัวเองมากขึ้นการบอกเล่าเรื่องราวของความสัมพันธ์ครั้งแรกนำมาสู่คำถามใหม่ที่ทำให้เขาต้องไตร่ตรองถึงประสบการณ์อื่นๆที่ตามมาในชีวิตของเขา วิคเตอร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ ร่างกายสูงใหญ่และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาถูกปกคลุมเพียงกางเกงในตัวเดียวผิวที่เนียนและตึงกระชับสะท้อนแสงจางๆ ของห้อง หมอกันต์นั่งตรงข้ามเขา ตั้งใจฟังแต่ในห้องนั้นไม่ได้มีเพียงแค่พวกเขายายแป๊ดที่นั่งเปลือยกายอยู่ด้านหลังของวิคเตอร์กำลังจับจ้องมองทุกการเคลื่อนไหวของเขาความรู้สึกที่แผ่ออกมาจากสายตาของเธอทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเข้มข้น
ร่างกายที่เปลือยเปล่าของยายแป๊ดแตกต่างอย่างมากกับความสมบูรณ์แบบของวิคเตอร์ริ้วรอยบนผิวหนังที่หย่อนคล้อยของเธอ เป็นสิ่งที่เคยทำให้เขารู้สึกอึดอัด แต่ในขณะนี้วิคเตอร์รับรู้ถึงสายตาอิจฉาและความปรารถนาที่แฝงอยู่ในทุกการจ้องมองของเธอ แม้ว่าเธอจะเปลือยกายอย่างไม่สะทกสะท้านแต่ภายในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ความรู้สึกในห้องที่เต็มไปด้วยความเงียบและความตึงเครียดทำให้วิคเตอร์รู้สึกเหมือนเขากำลังถูกควบคุมโดยสายตาของยายแป๊ดที่จ้องมองมาที่เขาการสัมผัสของมือเธอบนร่างกายของเขาความเย็นจากนิ้วเหี่ยวย่นนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนบางสิ่งในตัวเขากำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนราวกับว่าการสัมผัสครั้งนี้เป็นการเปิดประตูเข้าสู่โลกที่เขาไม่เคยรู้จัก
หมอกันต์พูดขึ้นอย่างใจเย็น “วิคเตอร์ แล้วโดยปกติคุณเคยมีประสบการณ์แบบ hook up บ้างไหม?หรือคุณมีความสัมพันธ์ที่จริงจังมากกว่า?”
วิคเตอร์รู้สึกถึงความอึดอัดจากการจ้องมองของยายแป๊ดเขาลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตอบตรงไปตรงมา “ก็มีบ้างครับ... ในฐานะนักกีฬาผมได้รับความสนใจจากผู้หญิงมาก และบางครั้ง...มันก็ง่ายที่จะมีความสัมพันธ์แบบนั้นโดยเฉพาะหลังจากงานเลี้ยงหรือหลังการแข่งขันที่สำคัญ”
ขณะที่วิคเตอร์พูดยายแป๊ดที่นั่งเงียบอยู่ก็กำมือแน่นหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาที่ไม่สามารถปิดบังได้เธอรู้สึกว่าเธอไม่มีทางเทียบกับผู้หญิงเหล่านั้นได้ทั้งที่เธออยู่ใกล้กับวิคเตอร์มากที่สุดในขณะนี้แต่กลับไม่มีสิทธิ์ในร่างกายที่เธอปรารถนา
หมอกันต์เอ่ยถามต่อ "แล้วคุณรู้สึกยังไงเกี่ยวกับการ hook up เหล่านั้น?คุณรู้สึกเหมือนคุณควบคุมทุกอย่างได้หรือเปล่า?"
วิคเตอร์ครุ่นคิดชั่วขณะหนึ่งก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมา “บางครั้งผมก็รู้สึกว่าผมเป็นคนควบคุมแต่ก็มีหลายครั้งที่มันเหมือนกับว่าผมแค่ตอบสนองสิ่งที่คนอื่นคาดหวังจากผมผมทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ มากกว่าที่ผมต้องการจริงๆ”
คำพูดนั้นทำให้วิคเตอร์รู้สึกถึงน้ำหนักที่กดดันลงในใจของเขาเขาตระหนักว่าเขาไม่เคยเป็นตัวของตัวเองในทุกความสัมพันธ์ที่ผ่านมา ทุกสิ่งที่เขาทำเหมือนถูกกำหนดโดยความคาดหวังจากคนรอบข้างแต่ตอนนี้ สิ่งที่เขารู้สึกกับยายแป๊ดมันแตกต่างออกไป มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถนิยามได้ชัดเจนราวกับว่าเขากำลังถูกดึงเข้าสู่โลกที่เขาไม่เคยรู้จัก
คำตอบของวิคเตอร์สะท้อนถึงความจริงที่เขาซ่อนไว้ในใจมานานเขาตระหนักว่าไม่ว่ากี่ครั้งที่เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงความรู้สึกของเขากลับไม่เคยลึกซึ้งพอราวกับว่าเขาแค่ทำตามบทบาทที่คนอื่นคาดหวังจากเขา แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ทุกคำพูดของเขากำลังถูกฟังจากสายตาของยายแป๊ดผู้ซึ่งนั่งเงียบอยู่และจ้องมองเขาอย่างใกล้ชิดมันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ขณะที่วิคเตอร์พูด ยายแป๊ดค่อยๆขยับตัวเล็กน้อย มือของเธอสัมผัสเบาๆ บนผิวที่เหี่ยวย่นของตัวเองเธอไม่ต้องการให้ใครสังเกตเห็นแต่ภายในใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอิจฉาและความปรารถนาที่ลึกซึ้งเธอรู้สึกว่าผู้หญิงเหล่านั้นช่างโชคดีเหลือเกินที่เคยสัมผัสร่างกายสมบูรณ์แบบของวิคเตอร์ขณะที่เธอไม่มีวันจะได้สัมผัสเช่นนั้น
หมอกันต์หันมาทางยายแป๊ด "คุณฟังวิคเตอร์พูดถึงผู้หญิงในชีวิตของเขาแล้ว คุณรู้สึกยังไง?"
ยายแป๊ดเงยหน้าขึ้นช้าๆดวงตาของเธอจ้องไปที่ร่างกายเปลือยท่อนบนของวิคเตอร์ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง“ฉันรู้สึกว่าผู้หญิงพวกนั้นช่างโชคดีเหลือเกิน พวกเธอได้รับทุกอย่างจากเขาทั้งความสนใจ ความดูแล และการใส่ใจ... พวกสาวสวยมันคงไม่รู้หรอกว่ามีอะไรอยู่ตรงหน้าพวกมัน”
น้ำเสียงของยายแป๊ดสั่นเล็กน้อยแต่เธอกลับไม่ยอมแสดงความอ่อนแอมากกว่านั้น สายตาของเธอยังคงจดจ้องไปที่วิคเตอร์ร่างกายของเขาที่สมบูรณ์แบบตรงหน้าเธอทำให้เธอยิ่งรู้สึกถึงความต่างที่ยิ่งใหญ่ระหว่างตัวเธอกับผู้หญิงที่เขาเคยอยู่ด้วย
ยายแป๊ดพูดต่ออย่างคมชัด“ฉันไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้น ฉันไม่เด็กฉันไม่สมบูรณ์แบบหรือสวยงาม แต่ฉันเข้าใจเขาฉันเห็นเขาในแบบที่พวกเธอไม่เคยเข้าใจ”
สายตาของวิคเตอร์สบกับของยายแป๊ดความตึงเครียดที่ซ่อนอยู่ระหว่างพวกเขาสะท้อนออกมาในห้องอย่างชัดเจนยายแป๊ดขยับตัวเข้ามาใกล้อีกนิดร่างกายของเธอยังคงเปลือยเปล่าแต่กลับแสดงถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในการควบคุมสถานการณ์นี้
วิคเตอร์ตอบกลับอย่างสับสน“ยายแป๊ด... ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรู้สึกแบบนั้น”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบยายแป๊ดกลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรู้สึกของความเป็นเจ้าของ“พวกผู้หญิงเหล่านั้นพลาดโอกาสของพวกเธอไปแล้ว แต่ตอนนี้ถึงคราวของฉัน...”
คำพูดของยายแป๊ดหนักแน่นและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่วิคเตอร์ไม่คาดคิดความเงียบในห้องถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด ทุกคำที่ออกจากปากของเธอเหมือนเป็นการประกาศความเป็นเจ้าของของเธอต่อเขาร่างกายเปลือยเปล่าของเธอยิ่งทำให้คำพูดเหล่านั้นทรงพลังและเข้าถึงหัวใจของวิคเตอร์อย่างชัดเจนราวกับว่าความรู้สึกที่เขาเคยมีต่อเธอในอดีตกำลังจะถูกท้าทาย
หลังจากช่วงเวลานั้น เซสชั่นจบลงวิคเตอร์ยังคงคิดถึงภาพนั้นอยู่ในหัวตลอดเวลารู้สึกเหมือนบางสิ่งที่ติดอยู่ในจิตใจของเขาแม้จะจบเซสชั่นแต่ภาพของร่างกายยายแป๊ดไม่เคยจางหายไปไหนมันกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของความคิดในทุกๆ วัน
วิคเตอร์ตื่นขึ้นจากเตียง ผ้าห่มที่คลุมกายหล่นลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้าเขาค่อยๆ ขยับร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง ตาเขาเบลอเล็กน้อยจากการนอนหลับที่ไม่เต็มที่สะท้อนแสงจางๆ จากหน้าต่างที่ค่อยๆ รับแสงอ่อนของรุ่งอรุณ เขาลุกขึ้นยืน สะบัดไหล่เบาๆเพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ จากนั้นเดินไปที่กระจกเงาบานใหญ่ตรงมุมห้อง
สายตาของวิคเตอร์ไม่สามารถละจากภาพสะท้อนของตนเองได้ร่างกายที่ดูแข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบในสายตาคนอื่น แต่ในใจของเขากลับรู้สึกไม่สมบูรณ์เหมือนที่เคยสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาไม่สามารถหลบหนีความรู้สึกอึดอัดที่คอยตามหลอกหลอนเขา ภาพของยายแป๊ดในสภาพเปลือยเปล่าคอยแทรกซึมเข้ามาในความคิดของเขาความอึดอัดและความแปลกประหลาดที่เคยทำให้เขาหลบเลี่ยงกำลังค่อยๆ จางหายไป กลายเป็นความคุ้นเคยที่เขาไม่อาจหลีกหนีได้อีกต่อไปทุกครั้งที่เขานึกถึงภาพนั้น หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นราวกับว่าเขากำลังจะหลุดจากความเป็นตัวเองความรู้สึกที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้เขารู้สึกอึดอัด ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องการมากขึ้นในทุกๆวัน เขาเริ่มสงสัยในตัวเองว่าเหตุใดถึงรู้สึกแบบนี้ ทำไมสิ่งที่เคยทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจกลับกลายเป็นสิ่งที่เขาโหยหามากขึ้นในทุกเช้า?
เสียงฝีเท้าของยายแป๊ดที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้งจากห้องข้างๆทำให้วิคเตอร์ที่กำลังยืนอยู่หน้ากระจกเงาในห้องนอนต้องถอนหายใจออกมาเบาๆเขาเพิ่งเริ่มต้นวันใหม่แต่ความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาในเซสชั่นนั้นยังคงวนเวียนในหัวภาพของยายแป๊ดที่เปลือยเปล่ายังคงแทรกซึมเข้ามาในจิตใจอย่างไม่หยุดหย่อน
ประตูเปิดเบาๆยายแป๊ดโผล่หน้าเข้ามา รอยยิ้มอบอุ่นที่เขาเริ่มคุ้นเคยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ"วิคเตอร์จ๊ะ วันนี้เธอมีซ้อมตอนเช้า 8 โมงนะจ๊ะ แต่เธอต้องจัดการเรื่องเรียนด้วยล่ะ อาจารย์มหาวิทยาลัยโทรมาตามแล้วเธอขาดเรียนไปสองสัปดาห์แล้ว เดี๋ยวจะตามงานไม่ทัน"
วิคเตอร์ยังคงยืนอยู่หน้ากระจกมองร่างของตัวเองในกางเกงในตัวเดียวกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและเรียบตึงสะท้อนแสงจากหน้าต่างที่รับแสงอ่อนๆ ของรุ่งอรุณความรู้สึกของความเหนื่อยล้าที่ซ่อนอยู่ในแววตาแสดงให้เห็นถึงน้ำหนักของความรับผิดชอบที่เขาต้องแบกรับทั้งการซ้อมที่เข้มงวดและการเรียนที่เขาห่างหายไปหลายสัปดาห์
"สองสัปดาห์แล้วเหรอ?"วิคเตอร์ถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วๆเขาสับสนกับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ยายแป๊ดหัวเราะเบาๆขณะเดินเข้ามาใกล้ "ใช่จ้ะ เธอต้องเริ่มตามงานให้ทันแล้วล่ะเดี๋ยวยายจะช่วยเช็คงานให้เอง เธอไม่ต้องห่วงอะไรแค่ตั้งใจซ้อมว่ายน้ำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว"
คำพูดของยายแป๊ดฟังดูเรียบง่ายแต่ในน้ำเสียงนั้นมีบางอย่างที่ทำให้วิคเตอร์รู้สึกถึงความแน่วแน่ที่ไม่อาจปฏิเสธเขามองร่างกายที่สะท้อนในกระจก กล้ามเนื้อที่เต็มไปด้วยพลังแต่ในใจกลับรู้สึกอ่อนล้าไม่เหมือนก่อนหน้านี้ ทั้งการซ้อม การเรียนและความรู้สึกที่ไม่อาจนิยามได้ชัดเจนเกี่ยวกับยายแป๊ดเริ่มกดดันเขามากขึ้น
วิคเตอร์ยังคงนิ่งเงียบกับความรู้สึกที่ค่อยๆสับสนในใจ "ยายแป๊ด..." เขาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ฉันรู้สึกว่าชีวิตมันซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่รู้จะจัดการทุกอย่างยังไงดี”
ยายแป๊ดขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิมร่างของเธอแทบจะสัมผัสกับร่างของวิคเตอร์จากทางด้านหลัง"ไม่ต้องกังวลหรอกจ้ะวิคเตอร์ ยายจะอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง"
คำพูดนั้นฟังดูง่ายแต่ความรู้สึกที่แฝงอยู่ทำให้วิคเตอร์รู้สึกถึงความผูกพันที่ซับซ้อนเขาไม่ได้หันกลับไปมองเธอแต่ความอบอุ่นจากคำพูดของยายแป๊ดทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย
ก่อนที่เธอจะออกจากห้องยายแป๊ดวางมือเบาๆ บนไหล่ของวิคเตอร์ “พักให้เต็มที่นะจ๊ะวันนี้เธอยังมีเรื่องต้องทำอีกมากมาย”
เสียงประตูปิดลงช้าๆทิ้งให้วิคเตอร์อยู่คนเดียวอีกครั้ง เขามองร่างกายของตัวเองในกระจกมันดูสมบูรณ์แบบตามที่คนอื่นเห็นแต่ในใจของเขายังเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่อาจเข้าใจได้เขารู้ว่ามันยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ต้องเผชิญในวันข้างหน้า ทั้งการซ้อมการเรียน และงานสังคมกับแม่ในค่ำคืนนี้
แต่สิ่งที่เขาสับสนมากที่สุดก็คือ...ความรู้สึกที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปต่อยายแป๊ด วิคเตอร์ถอนหายใจยาวเขาหันกลับไปมองตัวเองในกระจกอีกครั้งร่างกายที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบของเขาดูขัดแย้งกับความรู้สึกสับสนในใจเขานึกถึงภาพของยายแป๊ดในเซสชั่นนั้นร่างกายที่เหี่ยวย่นแต่กลับแผ่พลังบางอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
"ทำไมกัน..." เขาพึมพำกับตัวเอง "ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้"
เสียงฝีเท้าของยายแป๊ดดังขึ้นอีกครั้งทำให้วิคเตอร์สะดุ้งเล็กน้อยเขาหันไปมองประตูด้วยความรู้สึกผสมปนเปกันระหว่างความกังวลและความคาดหวัง
ยายแป๊ดเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่คุ้นเคย"วิคเตอร์จ๊ะ ยายเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้วนะ เดี๋ยวลงมากินด้วยกันนะ"
วิคเตอร์พยักหน้ารับแต่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สายตาของเขาจับจ้องไปที่ยายแป๊ดความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจ
ยายแป๊ดสังเกตเห็นสายตาของวิคเตอร์เธอยิ้มกว้างขึ้น "มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ? ทำไมมองแป๊ดแบบนั้น?"
วิคเตอร์กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก"ยายแป๊ดครับ... ผม... ผมรู้สึกแปลกๆ" เขาพูดออกมาอย่างลังเล
ยายแป๊ดเดินเข้ามาใกล้ขึ้นมือของเธอยื่นออกมาแตะที่แขนของวิคเตอร์เบาๆ "ไม่เป็นไรนะจ๊ะบอกแป๊ดมาสิว่าเป็นยังไง" วิคเตอร์พยักหน้าเริ่มตักอาหารเข้าปาก แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยคำถามมากมายเขารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
ยายแป๊ดนั่งลงตรงข้ามเขามองดูวิคเตอร์ด้วยสายตาอบอุ่น "วิคเตอร์จ๊ะ พรุ่งนี้แป๊ดอยากพาคุณไปที่ใหม่ๆบ้างนะ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอยู่แต่กับบ้าน สระว่ายน้ำ โรงยิมแป๊ดเข้าใจความรู้สึกค่ะ"
วิคเตอร์เงยหน้าขึ้นมองความสงสัยปรากฏในดวงตา "ที่ไหนเหรอครับ?"
"ตลาดเช้าจ้ะ" ยายแป๊ดยิ้ม "แป๊ดอยากให้เธอได้เห็นโลกภายนอกบ้างนอกจากสระว่ายน้ำกับโรงยิม แล้วแป๊ดก็อยากเลือกของสดๆ มาทำอาหารให้เธอด้วย"
วิคเตอร์ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "ครับ ถ้ายายแป๊ดว่าอย่างนั้น..."
"ดีมากจ้ะ" ยายแป๊ดยิ้มกว้าง "งั้นพรุ่งนี้เราตื่นแต่เช้านะแป๊ดจะปลุกเธอเอง"
วิคเตอร์รู้สึกถึงความตื่นเต้นบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจเขาไม่แน่ใจว่าการออกไปข้างนอกกับยายแป๊ดจะเป็นอย่างไรแต่เขาก็พร้อมที่จะเผชิญกับมัน
ขณะที่ทานอาหารเช้าต่อวิคเตอร์คิดถึงวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะมาถึงเขารู้ว่ามันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ในชีวิตของเขา "ดีมากจ้ะ" ยายแป๊ดยิ้มกว้าง "งั้นพรุ่งนี้เราตื่นแต่เช้านะแป๊ดจะปลุกเธอเอง"
วิคเตอร์พยักหน้ารับ"ครับ ผมจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ด้วย"
"ส่วนวันนี้..." ยายแป๊ดเอ่ยต่อ "ก็ซ้อมตามปกตินะจ๊ะโค้ชบอกว่าอยากให้เน้นเรื่องความเร็วในช่วงโค้งสุดท้าย"
วิคเตอร์พยักหน้าอีกครั้งรู้สึกถึงความกดดันที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง "ครับ ผมจะพยายามเต็มที่"
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จวิคเตอร์ก็เริ่มวันด้วยการซ้อมอย่างหนักตามปกติทั้งวันของเขาหมดไปกับการว่ายน้ำและการฝึกในโรงยิม แต่ในใจลึกๆเขาก็รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
|