นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งที่ใช้จินตนาการของผมและแรงบันดาลใจจากนิยยายหลายๆเรื่องที่ผมอ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับ โปรดใช้วิจารณยานในการเสพสื่อนะค้าบ หลังจากที่ชายหนุ่มรับประทานอาหารแสนเอร็ดอร่อยตรงหน้าที่ได้รับการต้อนรับจากเจ้าของคฤหาสน์ ทั้งสองนั่งสนทนากันพร้อมการดื่มน้ำชาในการช่วยย่อยอาหาร “คุณมอสเป็นอะไรรึเปล่าคะ” แฟร์ถามเมื่อเห็นสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีของมอส ที่ตอนนี้ผิวสีแทนของเขานั้นอมแดงออกมาอย่างชัดเจน “มะ ไม่มีอะไรครับคุณแฟร์ สงสัยผมคงแพ้อะไรในอาหารน่ะครับ เลยรู้สึกแปลกๆ” มอสแก้ตัว “ตายจริง คงไม่ใช่ว่าทานอาหารสูตรพิเศษของแฟร์แล้วคุณมอสรู้สึกอย่างว่าหรอกใช่ไหมคะ” แฟร์พูดเหมือนอ่านใจมอสออกว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ “อะเอ่อ ปะ เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ” มอสละล่ำละลักตอบ แฟร์ยิ้มก่อนจะเดินมาหามอสด้วยท่าทางสง่างาม “ไม่ต้องปิดกันหรอกค่ะ แฟร์รู้ว่ามอสรู้สึกอะไรและต้องการอะไร อดกลั้นไว้มันอึดอัดนะคะ” แฟร์เดินอ้อมไปข้างหลังมอสก่อนจะก้มตัวลงมาด้านข้างของมอสใช้มืออันเรียวยาวของตัวเองแตะไปที่ไหล่ที่บึกบีนของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา ทำเอามอสเสียวสะท้านมือเรียวงามนั้นค่อยๆเลื่อนไปสัมผัสร่างกายของเขาไล่จากไหล่ คอและเลื่อนลงมาที่หน้าอกแน่นๆของเขา ตอนนี้เขาหายใจไม่เป็นจังหวะไปหมดแล้ว แม้จะพยายามประคองสติด้วยความที่เลขาและสาวใช้ยังยืนอยู่ข้างๆ แฟร์เหมือนรู้ความในใจมอส เลยส่งสายตาไปยังสาวใช้ทั้ง 2 คน ทั้ง 2 พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปจากห้องอย่างรู้หน้าที่ของตัวเอง เมื่อมอสเห็นว่าทางสะดวก สัญชาติญาณล่าเหยื่อของเขาก็ทำงานทันที มอสลุกขึ้นมาพุ่งตัวจู่โจมใส่แฟร์ทันที แฟร์ไม่ได้แสดงอาการขัดขืนเธอยิ้มรับการจู่โจมของชายหนุ่มอย่างช่ำชอง ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มและเร่าร้อน “ผมชอบคุณแฟร์นะครับ ขอให้ผมเป็นของคุณนะครับ” มอสกล่าวหลังจากถอนปากออกจากแฟร์ “จริงเหรอคะ มอสอยากเป็นของแฟร์ จริงๆเหรอคะ” แฟรถามย้ำ “ครับ ผมชอบคุณแฟร์ตั้งแต่แรกเห็น ผมคิดถึงคุณแฟร์ทุกวัน ทำอะไรก็เห็นแต่หน้าคุณแฟร์ ผมขอเป็นของคุณแฟร์นะครับ” มอสย้ำคำของตัวเอง แฟร์ไม่ตอบอะไรและยิ้มอย่างพอใจทั้งสองได้เริ่มบรรเลงจูบกันต่อ มือของมอสตอนนี้เริ่มจัดการโลมเลียไปที่เนินอกอันอวบอิ่มของแฟร์ แฟร์ผละมือชายหนุ่มให้หยุดลง “หยุดทำไมล่ะครับ” มอสถาม “เราเปลี่ยนที่กันดีกว่าค่ะ” แฟร์ยิ้ม ก่อนจะเดินนำออกไป ชายหนุ่มรีบเดินตามไปแต่เขากลับต้องแปลกใจเมื่อเดินออกจากห้องอาหาร เขากลับมองไม่เห็นแฟร์เสียแล้ว “หายไปไหนแล้ววะ” มอสอุทานเบาๆ “คุณแฟร์ครับ คุณแฟร์” ชายหนุ่มตะโกนหาแฟร์ “ทางนี้ค่ะ” เสียงแฟร์ดังออกมาจากทางเดินมุมหนึ่งของคฤหาสน์ ชายหนุ่มเดินไปตามต้นเสียง “คุณแฟร์อยู่ตรงไหนครับ” มอสตะโกนถามอีกครั้ง “ฮิ ฮิ ฮิ ฉันอยู่ตรงนี้ค่ะ หาฉันให้เจอสิคะคุณมอส” เสียงใสๆของแฟร์ดังมาจากด้านในเข้าไปอีก มอสวิ่งตามด้วยความท้าทาย ไม่รู้ว่าเขาวิ่งตามเสียงของแฟร์มานานแค่ไหนแล้ว รู้ตัวอีกทีเขากลับรู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไป จากที่มีแสงไฟสว่างกลับกลายเป็นบรรยากาศสลัวๆมีเพียงแสงไฟที่มาจากพระจันทร์เต็มดวงส่องเข้ามาภายในคฤหาสน์เท่านั้น “คะ คุณแฟร์ ผมไม่เล่นแล้วนะครับ คุณอยู่ตรงไหนครับ” ชายหนุ่มเริ่มเกิดอาการกลัวอย่างบอกไม่ถูก เขาเริ่มมองซ้ายมองขวาไปมาด้วยความหวาดกลัว “ฉันอยู่ตรงนี้ค่ะ” เสียงของแฟร์ดังขึ้นมาจากด้านหลังของชายหนุ่ม ชายหนุ่มสะดุ้งรีบหันหลังไปหาต้นเสียง “โถ คุณแฟร์นี่เอง” มอสถอนหายใจอย่างโล่งอก “แฟร์ไงคะ คิดว่าเป็นใครเหรอคะ” แฟร์ยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการขนลุกอย่างบอกไม่ถูก “คุณแฟร์ ทำไมบ้านมืดจังล่ะครับ” มอสถาม “อ่อ ดิฉันให้เลขาดับไฟน่ะค่ะ วันนี้พระจันทร์เต็มดวงเลยอยากใช้แสงจันทร์สร้างบรรยากาศ คุณมอสไม่ชอบเหรอคะ” แฟร์ยิ้มตอบอีกครั้ง “คะครับ ชะ ชอบครับ” มอสตอบเอาใจ “งั้น ลองหาฉันให้เจออีกครั้งนะคะ ถ้ารอบนี้คุณมอสเจอฉัน คุณสามารถขออะไรก็ได้ 1 อย่างค่ะ” แฟร์ยิ้มก่อนจะค่อยๆถอยหลังและเดินหายไปในความมืด มอสเริ่มสับสนกับตัวเองระหว่างความกลัวและอารมณ์ทางเพศที่ตอนนี้มันทวีคูณขึ้นมาเรื่อยๆ สุดท้ายความกำหนัดก็ชนะความกลัว เขาค่อยๆเดินตามหาแฟร์เจ้าของบ้านด้วยความหวังจะรวบเจ้าของบ้านมาไว้เป็นของตัวเองเพื่อที่คืนนี้เขาจะได้ครอบครองแฟร์ตามที่เขาตั้งใจไว้ ชายหนุ่มเดินวนอยู่ชั้นล่างจนตอนนี้มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง เขาเห็นแสงไฟเรืองๆสีเหลืองลอดออกมาจากทางประตู เขาค่อยๆแนบหูฟัง ได้ยินเสียงแฟร์กำลังฮัมเพลงอยู่ด้านใน ชายหนุ่กระหยิ่มใจก่อนค่อยๆแง้มประตูเบาๆสอดตัวเข้าไปให้เงียบที่สุด เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนหัวหลังให้เขา ฮัมเพลงเบาๆพร้อมกับโยกตัวไปมาเบาๆอย่างสบายอารมณ์ ชายหนุ่มมั่นใจว่าแผ่นหลังของแฟร์ตรงหน้าคือเจ้าของคฤหาสน์แน่นอน เขาเดินย่องไปหาร่างแฟร์ช้าๆก่อนจะใช้แขนอันกำยำทั้งสองข้างโอบกอดร่างตรงหน้า “ผมหาคุณเจอแล้วนะครับคุณแฟร์” มอสยิ้มตอบกระซิบข้างหูของร่างตรงหน้า “คิคิคิ” เสียงหัวเราะอันแหลมสูงของร่างตรงหน้าชายหนุ่มทำเอาเขาแปลกใจและขนลุก เพราะเสียงที่เปล่งออกมาฟังดูแล้วน่าจะเหมือนเสียงสัตว์มากกว่าเสียงของคน อีกทั้งเมื่อเขาสัมผัสที่ตัวของแฟร์จากผิวหนังที่ดูอุ่นตอนนี้กลับรู้สึกว่าผิวหนังตรงหน้าเย็นราวกับน้ำแข็ง ชายหนุ่มเกิดอาการกลัวแต่ยังใจดีสู้เสือ เขารวบรวมความกล้าค่อยๆชะโงกหน้าเพื่อดูหน้าร่างปริศนาตรงหน้า เขาเริ่มมั่นใจแล้วว่าร่างตรงหน้านั้นไม่ใช่ร่างของเจ้าของคฤหาสน์อย่างแน่นอน “เฮ้ย!!! เชี่ย!!! อะไรวะเนี่ย” ชายหนุ่มถึงกับสบทคำหยาบออกมาด้วยความตกใจหลังจากเห็นสภาพของร่างตรงหน้า เขาผละเด้งตัวออกจากร่างๆนั้น เพราะสภาพที่เขาเห็นคือ ใช้คำว่ามันคือ ร่างของอสุภะที่ไร้ชีวิต ของแฟร์ที่ตอนนี้ใบหน้าของร่างนั้นซีดเขียวจนเห็นเส้นเลือดดำด้านใน ปากซีดๆเกรอะกรังอยู่ในปาก ร่างนั้นค่อยหันมาในสภาพกระตุกไปมาพร้อมกับการแสยะยิ้มชวนสยอง “คิ คิ คิ คิ คิ คิ คูณณณณณณ มอสสสสสสสส ขาาาาาาาาาา” อสุภะร่างนั้นค่อยๆเดินเข้าหาชายหนุ่มเรื่อยๆ พร้อมกลับส่งเสียงเรียกชายหนุ่มด้วยเสียงอันยานคางและโหยหวน “อ๊ากกกกก อย่าเข้ามา” ชายหนุ่มตะโกนดังลั่นก่อนจะสิ้นสติลง “ว้า หมดสติไปซะละ หยอกแรงไปรึเปล่าเนี่ยเรา” ร่างสยองนั้นค่อยๆกลับเป็นร่างของเชล พร้อมกับMomที่เดินตามออกมาจากด้านหลัง “เหยื่อคืนพระจันทร์เต็มดวงรอบนี้เหรอ ไม่เลวนี่” Momเดินเข้าไปนั่งยองๆจับแก้มมอสพิจารณาดูก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ “แค่ Mom ชอบลูกก็ดีใจแล้วค่ะ ยังไงคืนนี้ลูกๆขออกไปล่าเหยื่อก่อนนะคะ” แฟร์พูด “ไปเถอะจ้ะ ส่วนมาเรียอยู่กับแม่ก่อน แล้วก็เด็กๆอย่าลืมนะ….” ก่อนที่ Mom จะได้พูดอะไรอีก “อย่าทิ้งหลักฐานไว้ให้ใครจับได้ล่ะ ใช่ไหมคะ” บิวตี้พูด Mom ยิ้มอย่างพอใจ “รับแซ่บค่ะMom” เชลตอบรับอย่างร่าเริงก่อนที่ 2 สาวจะค่อยๆหายไป หลายนาทีผ่านไป มอสเริ่มได้สติกลับคืนมา เมื่อเขาค่อยๆขยับตัวเองทำให้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกมัดอยู่ที่พื้นห้องที่เหมือนเป็นห้องประกอบพิธีกรรมบางอย่าง มีเทียนจุดให้ความสว่างรอบๆห้องคู่กับแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาที่ตัวเขา ชายหนุ่มพยายามดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย อีกทั้งเขาเพิ่งรู้ว่าตอนนี้ร่างกายของเขานั้นเปลือยเปล่าไม่สวมอะไรเลย เขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาพยายามตะโกนขอความช่วยเหลือและดิ้นเพื่อหวังจะหลุดจากพันธนาการนี้ “ดิ้นยังไงก็เปล่าประโยชน์” เสียงของชายปริศนาดังออกมาจากมุมหนึ่งของเสา มอสหันไปตามเสียงเห็นชายวัยรุ่นหน้าตาดีในชุดพ่อบ้านยืนมองเขาอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉยและดูเย็นชา “น้อง ไอ้น้องช่วยพี่ด้วย ช่วยพี่ออกไปจากนี่ที ที่นี่คือที่ไหน แล้วทำไมพี่ถึงโดนจับมาที่นี่” มอสพูดกับเด็กหนุ่มในลุคพ่อบ้านตรงหน้า “ไม่มีใครหนีออกไปจากที่นี่ได้ หากท่านMomหมายตาไว้แล้ว” ชายหนุ่มตรงหน้าตอบ “หมายตา หมายถึงอะไร แล้วMomที่ว่าคือใคร ปล่อยกูออกไปเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยกูเดี๋ยวนี้” มอสดิ้นสุดกำลังด้วยความกลัวและสงสัย ตอนนี้ความรู้สึกเขาผสมปนเปไปหมด “พอแค่นั้นแหละหยกที่รัก ออกไปรอข้างนอกก่อนนะ” เสียงปริศนาดังมาจากอีกมุมหนึ่งของห้อง หยกพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินออกไป มอสหันไปทางต้นเสียง ชายร่างบางหน้าหวาน ในชุดตาข่ายโปร่งแสงสีแดงกุหลาบมีขนปุยอยู่ที่ปลายแขนทรงบาน และปกเสื้อ ด้านในสวมเพียงกางเกงจีสตริงสีแดงตัวเดียว ที่ตัดกับผิวสีขาวราวหิมะ เดินเข้ามาหามอสช้าๆและลงมานั่งยองๆข้างชายหนุ่ม “เมิงเป็นใครวะ จับกูมาทำไมและคุณแฟร์อยู่ที่ไหน” มอสจ้องหน้า อาคันตุกะ ตรงหน้า “ลูกรัก ช่วยตอบคำถามแขกเราหน่อยซิจ๊ะ” Mom ยิ้มและพูดขึ้น ไม่นานร่างๆหนึ่งก็เดินออกมาจากเงามืด “คุณแฟร์ ปลอดภัยดีนะครับ พวกนี้ทำอะไรคุณแฟร์รึเปล่าครับ” มอสดีใจเมื่อเห็นแฟร์เดินออกมา “ฉันปลอดภัยดีค่ะ แต่ว่านะคะ ฉันอาจจะต้องให้คุณขอโทษแม่ของดิฉันก่อนนะคะ” แฟร์พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แม่ของคุณ คุณหมายความว่ายังไงครับ” มอสถามด้วยความสงสัย “ท่านนี้คือ Mom แม่ของดิฉันค่ะ” แฟร์ตอบด้วยรอยยิ้มที่แสนเยือกเย็น “หมายความว่าพวกคุณ” มอสถาม “ค่ะ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันค่ะ” แฟร์ยิ้มตอบ “คุณแฟร์ คุณกำลังล้อเล่นอะไรผมอยู่กันแน่ครับ ไอ้คนนี้จะเป็นแม่ของคุณได้ยังไงครับ” มอสสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า “มันคือเรื่องจริงค่ะ และยังเร็วไปที่คุณจะตกใจนะคะ” แฟร์ยิ้ม พร้อมกับแปลงกายกลับเป็นมาเรีย “เฮ้ย แกมันไม่ใช่คน พวกแกไม่ใช่คน ผะผีหลอก ผีหลอก” มอสโพล่งออกมาหลังจากเห็นแฟร์ที่เขาหมายปองกลายร่างเป็นอีกคนได้ เขาพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการนี้และอยากตื่นจากความฝัน “หึหึหึ ก็ถูกของคุณค่ะ แต่ถูกแค่ครึ่งเดียวนะคะ พวกเราไม่ใช่คนแต่ พวกเราไม่ใช่ผีเช่นกันค่ะ” มาเรียตอบ “พวกแกเป็นตัวอะไรกันแน่ แล้วต้องการอะไรจากผม ปล่อยผมไปเถอะ ผมสัญญาว่าผมจะไม่บอกใคร” มอสตัวสั่นละลักด้วยความกลัว “แหมๆอย่าเพิ่งรีบกลัวสิคะ ทีตอนที่บอกเพื่อนๆคุณว่าจะครอบครองตัวฉันและทรัพย์สมบัติในบ้านนี้ ไม่เห็นคุณจะกลัวเลยนี่คะ เอ คุณพูเว่าอะไรนะคะอ๋อถ้าจำไม่ผิด” มาเรียตอบ “กูจะได้ให้เขาเป็นของกู ให้เขาหลงกูหัวปักหัวปำแล้วกูจะเอาแม่งมาให้หมดตัวเลย” มาเรียพูดออกมาเป็นเสียงของมอส “กะ แกรู้เรื่องนี้ได้ยังไง” มอสตกใจ เพราะเขาจำได้ว่าเขาพูดกับเพื่อนในกลุ่มเท่านั้น “ไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะ เพราะตั้งแต่ที่พวกเราเลือกเป้าหมายเป็นตัวคุณ เราได้ติดตามคุณไปทุกที่โดยที่คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเราอยู่รอบตัวคุณ และรอเวลาที่เหมาะสมก็เท่านั้น” มาเรียตอบอย่างมีความสุข ย้อนกลับไป ณ ผับแห่งหนึ่ง คืนก่อนหน้านี้ “เฮ้ยมอส ช่วงนี้ได้ข่าวว่าได้ไปเทรนสาวสวยคนหนึ่งมานี่หว่า เห็นว่าแจ่มมากเลยนี่หว่าใช่ป่าว” เพื่อนในกลุ่มมอสถามขณะที่ทั้งหมดกำลังกรึ่มๆ “เฮ้ย รู้ได้ไงวะ อุตส่าห์เงียบไว้แล้วแท้ๆ” มอสพูดกับเพื่อนๆ “หูตากูกว้างไกลเว่ยตอนแรกเห็นเทรนที่ฟิตเนสแล้วตอนนี้หายไปไหนวะ” เพื่อนคนเดิมถาม “ไปเทรนส่วนตัวที่คฤหาสน์เขาเว่ย” มอสพูดด้วยความภูมิใจ “เชี่ยยยย สมกับเป็นหนุ่มมอส เทพบุตรประจำกลุ่มของเราจริงๆเว่ย ว่าแต่คฤหาสน์เขาอยู่ตรงไหนเหรอวะ” เพื่อนอีกคนถาม “ไม่บอกเว่ย ความลับของลูกค้า” มอสบอก “แน่ใจนะว่าแค่ลูกค้าน่ะ” เพื่อนๆแซว “อย่านะครับ ตั้งแต่ได้ลูกเทรนคนสวย เมิงก็ดูล่ำซำขึ้นเยอะเลยนี่หว่า ดูสิทั้งเสื้อ ทั้งนาฬิกา ของแพงๆทั้งนั้นเลยนี่หว่า” เพื่อนอีกคนแซว “ไม่ขนาดนั้นเว่ย คุณแฟร์เขาให้กูเอง กูไม่ได้ขอ” มอสบอก “ถามจริงๆนะ เมิงได้กับเขารึยังวะ” เพื่อนอีกคนกล่าว “ยังเว่ย แต่ถ้าได้ก็ดี กูจะได้ให้เขาเป็นของกู ให้เขาหลงกูหัวปักหัวปำแล้วกูจะเอาแม่งมาให้หมดตัวเลย” มอสกล่าวกับเพื่อนพร้อมรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ “ไอ้เชี่ยเทพบุตรกู จะกลับร่างเป็นปีศาจอีกแล้วเหรอวะ” เพื่อนในกลุ่มแซว “ผมไม่เคยเป็นเทพบุตรครับ ผมมันเป็นซาตานอยู่แล้ว” มอสตอบอย่างภูมิใจ ใช่แล้วมอสภายนอกเขาอาจดูเป็นสุภาพบุรุษที่ผู้หญิงหลายคนนั้นอยากได้ แต่เบื้องหลังของเขาคือ เสือผู้หญิงที่หลอกเอาเงินผู้หญิงที่หลงสเน่ห์ของเขา โดยสเน่ห์หา ผู้หญิงทั้งหมดนั้นให้มอสด้วยความเต็มใจด้วยลูกอ้อนและคารมของเขาทำให้ สาวน้อยสาวใหญ่หลายรายตกเป็นเหยื่อของเขามานักต่อนัก และไม่สามารถจับตัวได้เนื่องจากทุกอย่างนั้นคือการยกให้อย่างเต็มใจเพื่อแลกกับการมีอะไรกันบ้างเป็นการตอบแทน “พี่มอส ทำแบบนี้น่าสงสารเขานะคะ” สาวนั่งดริงค์ที่นั่งข้างๆมอสพูดก่อนจะยกเหล้าให้มอสดื่ม “ทั้งหมดก็เพื่อน้องก้อยคนสวยของพี่ไงล่ะคับ” มอสพูดก่อนจะหันไปหอมก้อยเด็กเอ็นคนโปรดคนปัจจุบันของมอส “แล้ววันนี้พี่มอสไม่ต้องไปเทรนให้เขาเหรอคะ” ก้อยถาม “อ่อวันนี้ เห็นว่าเขามีธุระนิดหน่อยน่ะเลยไม่ต้องไป ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะพี่จะได้มาเจอน้องก้อยไงคะ” มอสหยอดก้อย ก้อยยิ้มเขินใส่ “พี่มอสน่ารักที่สุดเลย ก้อยยอมเป็นแมวน้อยให้พี่มอสตลอดไปเลยค่ะ” ก้อยตอบก่อนจะเข้าไปหอมแก้มมอสอย่างเย้ายวน “เอ๊ะ ทำไมกลิ่นน้ำหอมน้องก้อย พี่คุ้นๆกลิ่นจังเลย” มอสหลังจากได้สูดดมกลิ่นก้อยตรงซอกคอใกล้ๆกลับรู้สึกคุ้นกลิ่นอย่างประหลาด “ไปได้กลิ่นนี้มาจากไหนคะพี่มอส ก้อยไม่ยอมนะคะเนี่ย” ก้อยทำหน้างอใส่ก่อนจะหันไปอีกทาง “โอ๋ๆน้องก้อยอย่างอนพี่เลยครับ สงสัยพี่คงไปได้กลิ่นตอนเทรนให้ลูกค้าที่ฟิตเนสน่ะครับ” มอสง้อก้อยจนก้อยอารมณ์ดี จากนั้นทั้งสองคนก็มีความสุขพร้อมกับเพื่อนๆของเขา โดยไม่ทันสังเกตุว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมองเขาอยู่ภายในมุมมือดของผับ เงานั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาใครหนึ่งคน “Momคะ ตามที่Momคาดไว้ไม่มีผิดเลยค่ะ” เงาปริศนาแจ้ง “งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ ตอนนี้หมอนั่นกำลังมีความสุขอยู่ใช่ไหม” ปลายสายถาม “ใช่ค่ะ พร้อมเพื่อนๆของเขา มีคนน่าสนใจอยู่อีกคนนะคะ บอสสนใจไหมคะ” เงาปริศนาแจ้ง “เอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้ ได้เวลาลงโทษคนโกหกแล้วล่ะ ตอนนี้ปล่อยเขาไปก่อน กลับมาได้แล้วล่ะ” ปลายสายตอบ “รับทราบค่ะ” เงาปริศนากดวางสายก่อนจะหายไปในเงามืด ตัดภาพมาปัจจุบัน หลังจากจบการย้อนความโดยมาเรีย ชายหนุ่มถึงกับเหงื่อตก “กะ แก พวกแกจะทำอะไรกับฉัน ปล่อยนะเว่ย” มอสขัดขืนอีกครั้งเพื่อหวังจะหลุดรอดจากที่นี่ “เปล่าประโยชน์ค่ะคุณมอส อย่าดิ้นให้เสียเวลาเลยนะคะ มันไม่ใช่เชือกธรรมดาที่มนุษย์ธรรมดาอย่างพวกคุณโดยเฉพาะกับคนที่มีความมืดอยู่ในจิตอย่างคุณจะดิ้นออก อีกอย่างไม่ใช่พวกเราหรอกค่ะที่จะทำอะไรคุณ คนที่จะทำคุณมีแค่ Mom คนเดียวค่ะที่จะทำคุณ ดิฉันขอตัวนะคะเดี๋ยวเพื่อนๆจะรอนาน” มาเรียพูดจบก็ถอยหลังหายลับไป ทิ้งไว้เพียงมอสและ Mom 2 คนภายในห้องที่มีแสงจันทร์ส่องสว่าง “เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ” Mom กล่าวขึ้นพร้อมกับโบกมือเบาๆ ทำให้เชือกที่ตรึงชายหนุ่มไว้ค่อยๆตรึงชายหนุ่มให้อยู่ในท่ายืนกางแขนกางขาออก “อย่า อย่าทำผม ปล่อยผม ปล่อย ปล่อยผม” มอสตะโกนสุดเสียงพยายามดิ้นไปมา “ไม่เอาน่าที่รัก อย่าทำอะไรเปล่าประโยชน์เลย เหนื่อยเปล่านะ ยอมซะโดยดีเถอะ” Mom เดินเข้ามาใช้มือข้างหนึ่งลูบไปตามร่างกายอันล่ำสันของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา “ยะ อย่ามาแตะต้องตัวกู ออกไป อื้มมมม ยะ อย่า” มอสพยายามขัดขืนแต่เมื่อมืออันเรียวยาวและนุ่มลื่นนั้นค่อยๆลูบไล้ไปตามร่างกายของเขา เขากลับรู้สึกดีอย่างน่าประหลาดทั้งที่ร่างตรงหน้าถ้ามองแล้วก็คือ ชายร่างบางอ้อนแอ้นคนหนึ่งเท่านั้น “หุ่นนายนี่แน่นสมกับเป็น อืม...เขาเรียกว่าอะไรนะ อ๋อ ฟิตเนสเทรนเนอร์เลยนะ” Mom ลูบไล้กล้ามเนื้อของเหยื่อตรงหน้าอย่างมีความสุข พร้อมกับก้มลงมาสูดดมไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย “ยะ อย่า อย่าทำกู ปล่อย กู อืมมม ยะ อย่า อย่า” แม้คำพูดจะขัดขืนแต่ตอนนี้ร่างกายของเขากลับมีปฎิกริยาตอบสนองการเล้าโลมไม่หยุด ตอนนี้ส่วนกลางของร่างกายเขานั้นเริ่มแข็งและชูชันขึ้นมาอีกครั้งแล้ว “ตายจริง ใหญ่ใช้ได้เลยนี่ ฉันชักถูกใจนายอีกคนแล้วสิ” Mom ยิ้มตอบเมื่อเห็นของเล่นของเธอนั้นเริ่มไม่ขัดขืนและโดยเฉพาะแก่นกลางของร่างกายที่ตอนนี้กำลังผงาดขึ้นมาจนเป็นลำ “เห็นมาเรียบอกว่า นายอยากอยู่ที่นี่ตลอดไป เอางี้ฉันมีข้อเสนอให้นายนะ” Momกระซิบที่ข้างหูชายหนุ่ม “ขะ ข้อเสนออะไร” มอสถาม “หากนายยอมเป็นทาสของฉัน นายก็จะได้ครอบครองที่นี่และเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเรา” Momเสนอ “ฝะ ฝันไปเถอะ ใครจะไปยอมเป็นพวกเดียวกับแก” มอสปฏิเสธ “ว้าแย่จังนะ ทั้งที่ฉันอุตส่าห์ใจดีให้ โอกาสนายแล้วแท้ๆ งั้นก็ช่วยไม่ได้แฮะ” Mom พูดจบจัดการโลมเลียไปตามร่างกายของชายหนุ่มทันที “เมิงจะทำอะไรกู อุ๊บ!!!” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ริมฝีปากอันเรียวสวยนั้นได้พุ่งตรงเข้าหาริมฝีปากชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว เขาไม่ทันได้ตั้งตัวทำได้แต่พยายามดิ้นหนีไปมา “อื้อ อื้อ อื้ออออ อืออือ” มอสพยายามเบือนหน้าหนีแต่ Mom กลับใช้มือของหล่อนที่แม้จะมีควมเรียวบางแต่กลับมีความแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดทำให้เขาไม่สามารถเบือนหน้าหนีได้ เขาทำได้เพียงเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่นเท่านั้น Mom เห็นความพยายามของมอสเลยยิ้มอย่างตื่นเต้น “เอาล่ะเรามาดูกันว่านายจะอดกลั้นได้สักกี่น้ำ” Mom กระซิบข้างหูของมอส ก่อนจะลามเลียที่ใบหูของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา มืออันเรียวยาวค่อยๆลูบไล้ไปตามกล้ามอกของชายหนุ่มพร้อมกับในบางครั้งใช้นิ้วสะกิดที่หัวนมของชายหนุ่มเป็นระยะๆ “อึ อึ อึ อึ” ชายหนุ่มครางออกมาเบาๆพร้อมอาการตัวสั่นสะท้านทุกครั้งที่โดนกระตุ้นตรงจุดสะท้านของเขา แม้เขาจะพยายามอดกลั้นมากแค่ไหน แต่เมื่อโดนทั้งการเล้าโลมอย่างต่อเนื่องรวมถึงอาหารสูตรพิเศษที่เขาเพิ่งรับประทานเข้าไปทำให้ตอนนี้ร่างกายของเขาพลุ่งพล่านจนถึงขีดสุด “อ๊าาาาาาาาาา โอ้วววววว” มอสครางออกมาหลังจากอดทนมานาน ตอนนี้แก่นกลางของเขานั้นแข็งแกร่งจนมีเส้นเลือดปูดโปนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “อู้ว ใช้ได้เหมือนกันนี่นา ดูสิเยิ้มเชียว” Mom ยิ้มกล่าวอย่างพอใจ พร้อมกับมองหยาดน้ำเหนียวๆที่ไหลรินออกมาจากแก่นกลางหยดลงมาที่พื้นอย่างไม่ขาดสาย Mom ใช้มืออันเรียวยาวของหล่อนจับแท่งอาวุธของมอสชักเข้าออกช้าๆแต่หนักแน่น ส่วนริมฝีปากของหล่อนกำลังแลกเปลี่ยนเคมีทางปากกับชายหนุ่มอยู่ แม้ตอนแรกเขาจะขัดขืนอยู่บ้างแต่เมื่อได้กลิ่นกายของหล่อนเขากลับเคลิบเคลิ้มจนคุมตัวเองไม่อยู่ “อืม อืม อืม” มอสครางอยู่ในลำคอขณะที่ถูกอีกฝ่ายประกบปากแลกลิ้นอยู่ แก่นกลางของเขาถูกถูไถไม่หยุด “อะ อะ ไม่ไหวแล้วโว้ย แตกแล้ว อ้าาาาาาาาาา” มอสผละปากออกจากMom ก่อนจะส่งเสียงครางออกมาเป็นการบ่งบอกว่า ชายหนุ่มถึงจุดสุดยอดแล้วดังขึ้น ก่อนที่ร่างกายของเขานั้นจะส่องแสงเรืองรองสีเหลืองทองออกมา ร่างกายของชายหนุ่มกระตุกเกร็งพร้อมๆกับน้ำกามที่พุ่งออกมา Momจัดการดูดซับพลังงานตรงหน้าจนแสงนั้นค่อยๆสลัวๆลงพร้อมกับลมหายใจของชายหนุ่มตรงหน้า Mom สูดดมร่างกายตรงหน้าที่ยังพอมีกลิ่นกายอุ่นๆอยู่น้อยนิด “ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะคนดี เสียดายเหลือเกินที่คุณปฏิเสธฉันไม่งั้นเราคงมีความสุขกันไปอีกนานๆ” Momกอดชายหนุ่มที่นอนแน่นิ่งไปพร้อมกับลูบหัวเขาอย่างแผ่วเบา เธอพรมจูบไปตามใบหน้าและซอกคอของเขาสักครู่ก่อนจะเอาลิ้นเลียคราบน้ำรักที่ติดอยู่ที่มือของเธออย่างเอร็ดอร่อย “เทิดฝากจัดการต่อที ฉันจะไปอาบน้ำ และจะรอที่โต๊ะอาหารนะ” Momกล่าว ชายร่างใหญ่ เดินเข้ามาในห้องพยักหน้ารับคำสั่งพร้อมกับเดินไปที่ร่างอันไร้วิญญาณของอดีตฟิตเนสเทรนเนอร์สุดหล่อ ส่วนMomค่อยกลายเป็นกลุ่มควันก่อนจะล่องลอยออกไปจากห้อง ณ มุมหนึ่งในซอยเปลี่ยว มีเงาของคน 3 คู่กำลังทำกิจกามกันอย่างเผ็ดร้อน ไม่นานนักเสียงครวญครางของฝ่ายชายที่ถึงจุดสุดยอดร้องประสานเสียงกัน ก่อนที่จะเกิดแสงสีฟ้าอ่อนๆส่องสว่างออกมาและค่อยๆดับลง พร้อมกับเสียงของทั้งสามหนุ่มที่เงียบลง และทรุดฮวบลงไปกับพื้นพร้อมกับเงาดำทั้งสามที่เผยรอยยิ้มอย่างพอใจก่อนจะหายตัวไปท่ามกลางความมืด ตัดมาที่ห้องอาหารของคฤหาสน์ Mom กำลังเพลิดเพลินกับอาหารตรงหน้าของเธอ ไม่ใช่อะไรเลยมันคือ หัวใจของเหยื่อรายล่าสุดของเธอนั่นเอง แต่ที่เพิ่มเติมคือแก้วไวน์ที่มีของเหลวสีแดงสดอยู่ด้านใน “กลับมากันแล้วเหรอที่รักของแม่” Momกล่าวขณะค่อยๆละเมียดหัวใจของมอส “กลับมาแล้วค่ะMom” มาเรียตอบ “เรียบร้อยแล้วเหรอคะMom” เสียงใสๆของมิเชลดังมาจากฝั่งหนึ่งของมุมห้อง “พวกเราไม่ได้มาเร็วไปใช่ไหมคะ” บิวตี้ถาม “ไม่จ้ะ แม่กำลังดื่มด่ำกับอาหารมื้อพิเศษที่มาเรียหามาให้แม่อยู่เชียว แล้วพวกลูกๆล่ะเหยื่อรอบนี้เป็นยังไงมั่ง” Momถาม “ก็ดีค่ะแม่ พวกหนูได้วัยรุ่นย่านชานเมืองมาค่ะ ถือว่ากำลังดีไม่ได้แย่เท่าไหร่ค่ะ แค่ไม่ถูกใจกับแนวชองมิเชลเท่าไหร่ก็เท่านั้นเอง” มาเรียตอบพร้อมบ่นเล็กน้อย “ทำไมคะ สไตล์ฉันมันทำไมเหรอ” มิเชลถาม “ทรงหมีแบบนั้น ชอบไปได้ยังไงน่ะ ไม่มีกล้ามเนื้อเลยสักนิด” มาเรียบอก “เอ๊า รสนิยมส่วนตัวใครก็ของคนนั้นสิคะ อีกอย่างหุ่นหมีก็ให้พลังงานเยอะดีนะ” เชลตอบ “อย่าเน้นปริมาณสิ เน้นคุณภาพด้วย” บิวตี้เสริม “จ้าจ้า ใครจะไปเน้นคุณภาพแบบคุณนายมาเรียล่ะคะ ต้องเลือกคนหุ่นดีๆ หน้าตาดีๆ วัยใสๆ อีกนิดนึงใครเขาก็จะมองว่าเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องที่ชอบทานหญ้าอ่อนๆแล้ว” เชลแขวะ “นี่หล่อนหาว่าฉันเป็น โคแก่เหรอ ยัยมิเชล” มาเรียค้อนใส่มิเชล “อ้าว แสนรู้เหมือนกันนี่คะ” เชลเย้ย “จะหาเรื่องเรอะ คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง” มาเรียเริ่มมีน้ำโห “สไตล์ใคร สไตล์มันค่ะ ฉันชอบแนวนี้ ก็สิทธิ์ของฉันไหมล่ะ อย่ามาจิ๊แน ความชอบ ส่วน ตัว สิ คะ มารยาท นิดนึง จบนะ” มิเชลตอบอย่างกวนๆ “พอได้แล้วพวกเธอทั้งสองคน อย่ามาทำลายบรรยากาศการรับประทานอาหารของแม่สิ” บิวตี้พูด คำพูดบิวตี้ทำเอาทั้งสองคนชะงัก ด้วยความที่ลืมว่าอยู่ต่อหน้า Mom ที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ “ขะ ขอโทษค่ะ Mom” มาเรียและมิเชลกล่าวพร้อมกัน “ไม่เป็นไรจ้ะ การทะเลาะกันบ้างมันเป็นการแสดงทัศนคติเพื่อให้เข้าใจกันและกันมากขึ้น” Mom กล่าวด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับดื่มของเหลวสีแดงสดในแก้วนั้นไปอึกใหญ่ “รอบนี้รสชาดเป็นยังไงมั่งคะแม่” มาเรียถาม “อืมมม คิดว่าน่าจะมีการปนเปื้อนของสารเคมีในร่างกายอยู่นิดหน่อยน่ะ เลือดถึงได้มีรสชาดแปล่มๆอยู่นิดๆ แต่โดยรวมถือว่า ไม่เลวทีเดียว” Mom ตอบ ใช่แล้วสิ่งที่หล่อนดื่มอยู่นั้นคือ เลือดของ มอส เหยื่อผู้โชคร้ายรายล่าสุดนี่เอง เลือดนี้ไม่ใช่เลือดธรรมดาแต่เป็นเลือดที่ผ่านกระบวนการพิเศษที่สืบทอดกันมาในตระกูล “เอาล่ะต่อไปหาเหยื่อวัยหนุ่มกว่านี้หน่อยดีกว่า เหมือนกับ..” Mom กล่าวก่อนที่ปลายตาไปทาง “หยก” ทาสคนล่าสุดของเธอที่ตอนนี้เธอค่อนข้างชอบเป็นอย่างมาก ยืนในชุดที่สวมเพียงปกเสื้อที่มีหูกระต่าย พร้อมและสวมกางเกงในเพียงตัวเดียว ทำให้เห็นรูปร่างของชายหนุ่มจนเกือบทั้งหมด ทาสหนุ่มยืนอย่างสงบนิ่งอย่างคนไร้จิตวิญญาณ “เดี๋ยวมาที่ห้องด้วยนะหยกที่รัก” Mom กล่าว “ครับนายท่าน” หยกพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย Mom เผยรอยยิ้มอันชวนสยองพร้อมลูกๆทั้ง 3 คนที่ยิ้มอย่างมีเลศนัย เหมือนเข้าใจในสิ่งที่มารดาของตนพูด
% q1 z6 N; Q; {& M' x+ M g, F0 Pโปรดติดตามตอนต่อไป….. . G; s3 {" C3 r! |' @9 i4 Y
) w" T2 ?2 \5 m
5 _0 L4 Y7 Z( L9 L N4 V
9 h6 M, X0 F! U) S V$ b |