แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pck959 เมื่อ 2025-2-27 21:35
เรื่องนี้แต่ขึ้นเป็นครั้งแรกจากความชอบอ่านเรื่องของคนอื่น เป็นเรื่องสมมุติทั้งตัวละครและเหตุการณ์ ไม่เคยมีอยู่ในความเป็นจริง เรื่องราวที่เกิดขึ้นมีบางส่วนที่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น และภาพที่นำมาประกอบใช้เพื่อเพิ่มอรรถรสเท่านั้น อาจจะไม่ตรงตามเนื้อเรื่องเท่าไหร่และภาพทั้งหมดนำมาจากอินเตอร์เน็ต บุคคลและสถานที่ในภาพไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเนื้อหาทั้งสิ้น หากต้องการให้ลบภาพใดแจ้งได้เลยนะครับ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เรื่อง "เพศ" เป็นเรื่องที่แม้แต่คนที่มีหน้าที่พูดยังไม่อยากพูด เด็กที่ไร้เดียงสาจึงต้องเรียนรู้และลองผิดลองถูกเอาเองด้วยความอยากรู้ แล้วสิ่งที่เค้าได้เรียนรู้จะผิดหรือถูก และจะมีบทสรุปอย่างไรในบทเรียนนี้... ชาตรี หรือ "ตรี" เด็กชายผู้เติบโตมาจากหมู่บ้านในชนบทแสนห่างไกล โดยอาศัยอยู่กับยายที่บ้านท้ายหมู่บ้านเพียงสองคน แต่ด้วยความที่เป็นเด็กเรียนเก่งจึงทำให้ได้รับโอกาสทางการศึกษามากกว่าเด็กคนอื่นในหมู่บ้าน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการต้องออกไปไกลบ้าน ในโลกสมัยที่อินเตอร์เนตยังเข้าถึงแค่คนกลุ่มเล็กๆ การที่เด็กชายผู้ใสซื่อและเถรตรงจะเริ่มออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง โดยอาศัยแค่ความรู้ที่หาได้แค่จากในหนังสือเรียนและคำสอนของยายใช้นำทางชีวิต เมื่อต้องออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอก เค้าจำเป็นจะต้องเรียนรู้จากคนอื่นเพื่อเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะเรื่อง "เพศ" ที่เค้าไม่เคยจะได้รับความรู้แม้แต่สิ่งที่เค้าชอบที่สุดคือหนังสือและการเรียนก็ไม่สามารถให้คำตอบเค้าได้ ********************************************************************************************************************************* ณ หมู่บ้านมะเฟือง หมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากความเจริญมากๆ เพิ่งจะมีไฟฟ้าใช้เมื่อ 10 ปีก่อนที่ "ตรี" จะเกิดเท่านั้น"ตรี" หรือ ชาตรี เกิดเมื่อปี 2532 โดยตอนที่ตรีเกิดนั้น แม่ของตรีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น และด้วยที่หมู่บ้านอยู่ห่างไกลจากตัวอำเภอมากกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลทำให้ตรีคลอดบนรถระหว่างทางไปโรงพยาบาล ทำให้แม่ของตายตั้งแต่ยังไม่ถึงโรงพยาบาลเพราะเสียเลือดมากส่วนพ่อของตรีก็เป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่ที่วัดในหมู่บ้าน ถูกโจรขโมยควายยิงตายพร้อมกับตาของตรีตั้งแต่ตรีอายุยังไม่ถึงหนึ่งขวบทำให้ตรีต้องอาศัยอยู่กับยายเพียงแค่ 2 คนมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีญาติคนอื่นเพราะตาสมัยก่อนตาก็พายายหนีงานแต่งงานที่ถูกคลุมถุงชนมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่หมู่บ้านแห่งนี้กันแค่ 2 คน และก็มีลูกสาวเพียงคนเดียวนั่นก็คือแม่ของตรีนั่นเองโชดดีที่ตรีเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย ฉลาด เชื่อฟังยายทุกอย่าง พอ 5 ขวบ ยายก็พาตรีไปสมัครเรียนกับโรงเรียนวัดในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไม่ไกลนัก เพราะบ้านของตรีอยู่ท้ายหมู่บ้าน ค่อนข้างไกลจากบ้านชาวบ้านคนอื่นๆ และด้วยเพราะเหตุนี้ทำให้ตรีไม่มีเพื่อนวัยเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันในละแวกบ้านเลยพอไปโรงเรียนตรีก็จะติดนิสัยการอยู่คนเดียวไม่ค่อยเล่นกับเด็กคนอื่นๆมากนัก บวกกับตรีมีความคิดที่โตเกินวัยเพราะได้รับการสอนจากยายมาอย่างดี ในขณะที่เด็กคนอื่นๆเล่นสนุกกันตามประสาเด็ก จะมีเล่นกันค่อนข้างซุกซนและผาดโผนบ้าง ตรีจะเห็นว่าเป็นสิ่งไร้สาระและไม่ค่อยมีประโยชน์ ประกอบกับยายจะบอกตรีเสมอว่าถ้าเพื่อนชวนเล่นอะไรที่อาจเกิดอันตรายก็ให้ปฏิเสธไป ซึ่งตรีก็เชื่อฟังยายอย่างเคร่งครัด และมักจะไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุดอยู่คนเดียวเสมอๆในเวลาว่าง ทำให้ตรีไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนที่โรงเรียนเหมือนที่เพื่อนๆในห้องสนิทกันส่วนเรื่องการเรียน ตรีเป็นคนที่เรียนเก่ง ความจำดีมาก สอบได้คะแนนเกือบเต็มทุกวิชา จนทำให้คุณครูที่สอนอยากให้เรียนต่อในชั้นมัธยม (สมัยนั้นการศึกษาภาคบังคับคือ ป.6) เพราะเสียดายความสามารถของตรี บวกกับตรีเป็นเด็กดีไม่เคยเกเรเลยตลอด 6 ปี ซึ่งในสมัยนั้น พอเรียนจบ ป.6 แล้ว เด็กๆในหมู่บ้านก็จะมาช่วยครอบครัวทำเกษตรกรรมทั้งนั้น แทบไม่มีเด็กคนไหนที่เรียนต่อเลยตรีเองก็เช่นกัน ตอนแรกยายก็กะจะให้ตรีมาช่วยปลูกข้าวหลังจากจบ ป.6 แล้วแต่คุณครูได้มาคุยกับยายและเสนอให้ตรีได้เรียนต่อชั้นมัธยม โดยถ้าคุณยายให้ตรีเรียนต่อชั้นมัธยม คุณครูจะซื้อรถจักรยานให้ 1 คันเพื่อให้ตรีได้ใช่ขี่ไปโรงเรียนประจำตำบลที่อยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตร และขอทุนการศึกษาจาก อบต. ให้เพื่อที่จะได้เรียนต่อโดยไม่ต้องเสียค่าเทอม ค่าอุปกรณ์การเรียน และเครื่องแบบเลยซักบาทยายจึงได้ถามตรีว่าอยากเรียนต่อหรือไม่ ซึ่งตรีก็บอกว่าแล้วแต่ยายเพราะตรีเชื่อฟังยายทุกอย่างอยู่แล้ว ยายจึงตัดสินใจรับข้อเสนอของคุณครูให้ตรีเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาต่อไป..... นี่คือก้าวแรกที่ตรีได้ไปไกลจากบ้านเกินกว่าหมู่บ้านมะเฟืองของเค้า ................................................................................................. โรงเรียนบ้านมะไฟ โรงเรียนประจำตำบลมะไฟ อยู่ห่างจากบ้านของตรีประมาณ 5 กิโลเมตร คือ โรงเรียนที่ตรีต้องไปเรียนต่อชั้นมัธยมต้น ตรีในวัย 13 ปี ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง เพื่อช่วยยายรดน้ำผักที่ปลูกไว้หลังบ้าน ก่อนจะอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว และออกปั่นจักรยานไปโรงเรียนตอน 6 โมงครึ่ง และไปถึงโรงเรียนประมาณ 7 โมงเช้า ของทุกๆวันจันทร์ถึงศุกร์การใช้ชีวิตในโรงเรียนของตรีก็ยังคงเป็นเหมือนตอนที่เรียนชั้นประถม คือ ด้วยความที่ใช้ชีวิตมากับยายแค่สองคน ไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกัน ยิ่งมาเรียนในที่ที่ไม่รู้จักใครเลย ยิ่งทำให้ตรีมักจะปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวเมื่อไม่ได้เข้าเรียน แม้ว่าจะมีเพื่อนมาชวนไปเล่นก็ตาม แต่ถ้าตรีคิดว่ามันดูจะอันตรายและไม่เคยเล่นมาก่อน และไม่เกิดประโยชน์อะไร ตรีจะปฏิเสธเสียงแข็งทันทีแม้ว่าเพื่อนจะตามตื๊อแค่ไหนก็ตาม จนในตอนแรกๆ เพื่อนๆในห้องต่างไม่ค่อยพอใจและพยายามกลั่นแกล้งตรีบ้างแต่ในเรื่องการเรียน ตรีไปเคยปฏิเสธคำขอของใครที่ขอให้ช่วยเหลือเลย ทำให้ทุกคนในห้องต่างก็เข้าใจว่าตรีไม่ได้รังเกียจพวกตน เพียงแต่ในหัวของตรีมีแต่เรื่องเรียนเท่านั้น การที่ปฏิเสธไม่ไปเล่นด้วยนั้นก็เพียงเพราะตรีคิดว่าไม่น่าทำให้สอบผ่าน แต่เค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยมีทักษะในการเข้าสังคมท่าไหร่นักถึงแม้ว่าตรีจะไม่ค่อยสนิทกับใครมากนัก แต่เพราะตรีไม่เคยปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเรื่องเรียนกับใครเลย จึงไม่เคยมีใครในห้องรังแกตรีเลย แถมยังคอยช่วยกันปกป้องตรีเวลาที่มีนักเรียนชั้นอื่นหรือพวกที่ไม่ได้เรียนจะมาหาเรื่องหรือรังแกตรีที่โรงเรียนเวลาผ่านไป 3 ปี ตอนนี้ร่างกายของตรีเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว เค้าสังเกตว่าตัวเองนั้นเสียงเริ่มแตก เริ่มมีขนขึ้นบริเวณอวัยวะเพศและรักแร้ องคชาตโตขึ้น ถุงอัณฑะขยายตัว เริ่มมีกลิ่นตัวจนต้องใช้สารส้มทารักแร้เหมือนหนังสือวิชาสุขศึกษาที่เค้าอ่านได้เขียนไว้ แม้จะมีหลายๆอย่างที่เข้าไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้เพราะแหล่งความรู้เดียวของเค้าคือหนังสือเรียนซึ่งจะใช้คำศัพท์ที่เข้าไม่รู้จัก เช่น สำเร็จความใคร่ ,การผลิตอสุจิ ที่หนังสือเขียนไว้แต่ไม่มีใครมาอธิบายและขยายความให้ฟัง ซึ่งในสมัยนั้นการพูดเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐานอย่างการจัดการกับอารมณ์ หรือเรื่องใหญ่ที่สุดอย่างการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย วิธีการคุมกำเนิดอื่นนอกจากยาคุม แม้แต่คุณครูที่สอนสุขศึกษาเอง ยังอายที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านี้เวลาที่สอนนักเรียนในโรงเรียน ทำเพียงใช้คำตามในหนังสือเพื่อสอนโดยไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม ทำให้ในบางครั้งตรีมีเรื่องสงสัยก็จะถามจากยายตามปกติ แต่บางเรื่องที่ตรีถามยายก็ไม่สามารถหาคำตอบให้ได้ เพราะบางคำยายเองก็เพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรกจากตรีก็มีแต่สิ่งที่ยายเน้นย้ำกับตรีเสมอเมื่อพูดถึงเรื่องเพศ คือ อย่ามีอะไรกับผู้หญิงจนกว่าจะอายุ 20 หรือจนกว่าจะมีเงินพอจะเลี้ยงลูกได้ เพราะกลัวว่าผู้หญิงจะท้อง และมีจุดจบเหมือนแม่ของตรีนั่นเอง ทำให้ตรีได้แต่ตีความและทำความเข้าใจด้วยตัวเองตามประสาของเด็กที่เก่งเรียนจากหนังสือเรียน ไม่ได้มีประสบการณ์ใช้ชีวิตเลยจนกระทั่งเทอมสุดท้ายของ ม.3 นักเรียนชั้น ม.3 ทุกคนต้องไปเข้าค่ายพักแรมในวิชาลูกเสือ-เนตรนารีที่ตัวอำเภอพร้อมกับโรงเรียนของตำบลอื่นๆ ในอำเภอ ซึ่งมีทั้งหมดเพียง 4 โรงเรียนรวมทั้งโรงเรียนประจำอำเภอด้วยเนื่องจากอำเภอโนนมะเดื่อเองก็เป็นอำเภอเล็กๆในจังหวัดเช่นกันก่อนหน้านี้ตอนที่ตรีอยู่ชั้น ม.1 และ ม.2 วิชาวิชาลูกเสือ-เนตรนารีของโรงเรียนมีเพียงการเดินทางไกลในเขตตำบล และเสร็จสิ้นกิจกรรมภายใน 1 วันเท่านั้น ไม่มีการพักแรมค้างคืนแต่อย่างใด นี่จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตของตรีที่ต้องห่างจากยายถึง 3 วัน 2 คืน เพราะปกติจะไปโรงเรียนตอนเช้าตอนเย็นก็กลับมาบ้านและใช้ชีวิตอยู่กับยายแทบจะตลอดเวลาในตอนแรกยายก็ไม่อยากให้ตรีไปเพราะเป็นห่วง แต่ก็อยากให้หลานได้ลองใช้ชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นบ้าง จึงเดินทางไปโรงเรียนเพื่อกำชับให้คุณครูดูแลตรีให้เป็นอย่างดีจนยายสบายใจและอนุญาตให้ตรีไปเข้าค่ายพักแรม แต่กลับเป็นตรีเองที่ไม่อยากไปเพราะทั้งชีวิตไม่เคยห่างยายเลย และที่ค่ายลูกเสือแห่งนี้นี่เอง บทเรียนเรื่อง "เพศ" ภาคปฏิบัติบทเรียนแรกของตรีก็ได้เริ่มต้นขึ้นตรีในวัย 15 ปี ตอนนี้ที่แทบจะเป็นหนุ่มเต็มตัว ตอนนี้ตรีสูง 175 เซนติเมตรแล้ว เป็นอันดับ 2 ในห้อง หน้าตาหล่อเหลาคิ้วหนาตาโตจมูกโด่ง ขนตางอนยาวปากสีแดงเข้มทรงกระจับได้รูป ต้นแขนต้นขาแน่นแกร่งด้วยกล้ามเป็นมัดๆ หน้าอกและท้องก็เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ได้มาจากการปั่นจักรยานไปเรียนทุกวันและช่วยยายทำงาน ถูกซ่อนไว้ในเสื้อผ้าชุดลูกเสือไม่เคยมีใครได้เห็นนอกจากยาย เพราะตรีมักจะซ่อนมันไว้ในชุดนักเรียนตัวโคร่งที่ซื้อไว้เพื่อโตตั้งแต่ได้ทุนตอน ม. 1 ไม่เคยเปิดเผยมันต่อหน้าใครมาก่อนนอกจากตอนช่วยยายหิ้วน้ำรดผักและขนมาไว้ในห้องน้ำและห้องครัวเพื่อใช้สอยเท่านั้น เข้าค่ายลูกเสือ - เนตรนารีครั้งนี้ จะเป็นที่ให้ตรีได้เปิดเผยมันต่อหน้าคนอื่นเป็นครั้งแรก
To be continue... |