ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 96|ตอบกลับ: 7

Summer Time ฤดูร่านรัก ตอนที่ 4

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
89
พลังน้ำใจ
4154
Zenny
21079
ออนไลน์
932 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 09:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-2-22 10:00



ตอนที่ 4

: Part เพลิงภพ
ผมมองดู เจ้าเด็กซน ที่ตอนนี้นอนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของผม เปลือกตาสีอ่อนปิดสนิท ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

ดูท่าคงจะหมดแรงจริง ๆ

ไม่แปลกหรอก... ทั้งที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน พอตื่นมาก็โดนผมเล่นงานเข้าไปอีกรอบ เป็นใครก็ต้องหมดสภาพกันทั้งนั้น

แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มมุมปาก

เจ้าตัวนี่น่ะ โคตรจะยั่ว ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าใบหน้านิ่งเงียบนี่จะซ่อน ความแซ่บ ไว้มากมายขนาดนี้

ผมใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมนุ่มออกจากใบหน้า ลากไล้เบา ๆ ไปตามแนวสันกราม

“ดูเหมือนฉันจะติดใจนายแล้วแล้วล่ะ หมอธารา”

พูดกับคนที่หลับอยู่แบบนี้ มันก็ไม่ต่างจากการพูดกับตัวเองหรอก แต่ก็นั่นแหละ... ผมแค่เผลอหลุดปากออกมา

ผมถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะไล้ฝ่ามือลงต่ำ ค่อย ๆ แยกขาเรียวออกนิดหน่อย ใช้ปลายนิ้วคว้านเข้าไปในช่องทางที่ยังคงตอดรัด

ภายในยังอุ่นจัด... และเปียกชื้นไปหมด

เต็มไปด้วยสิ่งที่ผมทิ้งไว้

ผมขมวดคิ้วนิดหน่อย ใช้ปลายนิ้วควานเอาสิ่งตกค้างออกมาให้หมด

“อื๊อ…”

เสียงครางแผ่วดังลอดออกมาจากริมฝีปากแดงที่เผยอออกนิด ๆ ธาราขยับตัวเล็กน้อยเหมือนละเมอ ก่อนที่ร่างกายจะสงบลงอีกครั้ง

ผมมองดูท่าทางของเขาแล้วก็หลุดหัวเราะเบา ๆ

“แม่ง... แม้แต่ตอนหลับยังเซ็กซี่”

ผมกระซิบ ก่อนจะใช้ฝ่ามือประคองสะโพกแน่น ๆ นั่นขึ้นมา ล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อนุ่มที่เต็มไปด้วยร่องรอยที่ผมฝากไว้เมื่อคืน

มือของผมลากผ่านรอยแดงเป็นจ้ำตามต้นขา เอว และแผ่นหลัง มีทั้งรอยมือ รอยฟัน และรอยจูบที่ผมตั้งใจประทับตราเอาไว้

เห็นแบบนี้แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมา

“หึ… ใครจะเชื่อว่าพรุ่งนี้ตอนออกไปข้างนอก นายจะต้องแอบซ่อนร่องรอยพวกนี้”

หลังจากล้างตัวให้จนสะอาด ผมก็ช้อนตัวเขาขึ้นจากอ่างอย่างเบามือ

ตัวเล็กขนาดนี้ แต่ทำให้ผมคลั่งไปทั้งคืนได้...

แขนเรียวยังคงตกลงแนบลำตัว ไม่มีท่าทีจะขยับเลยสักนิด ผมอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปกระซิบเบา ๆ ข้างหู

“แกล้งหลับอยู่รึเปล่า ยัยหนู?”

ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ

แต่ตอนที่ผมกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นเพื่ออุ้มเขา รู้สึกเหมือนปลายนิ้วของอีกฝ่ายเกาะเบา ๆ ที่ต้นแขนของผม

อืม… ก็คงจะสบายใจในระดับหนึ่งล่ะนะ ถึงได้หลับสนิทขนาดนี้

เตียงนอนนุ่ม ๆ ของคอนโด

ผมค่อย ๆ วางร่างของธาราลงกับฟูก ปรับหมอนให้อยู่ในระดับพอดี ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้

เขาคงไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนอนหลับ สีหน้าของเขาดูน่ามองขนาดไหน ดูสงบ เรียบนิ่ง ไม่เหลือความดื้อรั้น ไม่เหลือแววตากวนประสาทที่ผมเห็นเป็นประจำ

ผมใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากของเขา ก้มลงไปกดจูบเบา ๆ

“พักผ่อนให้เต็มที่นะ เด็กดี”

ผมนั่งมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ

ความรู้สึกบางอย่างในใจมันแปลกไปจากเดิม ผมเคยนอนกับใครหลายคน แต่ไม่มีใครที่ผมปล่อยให้นอนอยู่ในห้องแบบนี้ ไม่มีใครที่ผมเคยดูแลให้สบายตัวหลังจากเสร็จกิจขนาดนี้

อืม...

หรือว่า ธารา กำลังจะกลายเป็นข้อยกเว้นของผมกันนะ?


: Part ธารา
ผมรู้สึกถึงความอุ่นที่โอบรอบตัว สติของผมยังพร่าเลือน ร่างกายหนักอึ้งจนขยับแทบไม่ไหว เปลือกตาปิดสนิท แต่ผมยังรับรู้ถึงสัมผัสที่ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อ

อา… เพลิงภพ…

แค่คิดถึงชื่อของเขา ร่างกายของผมก็ขนลุกวาบ ความทรงจำเมื่อคืนไหลย้อนกลับมาเป็นฉาก ๆ ตั้งแต่ถูกกดกับกระจก ทิ้งรอยฝ่ามือไว้บนอ่างล้างหน้า จนถึงอ่างอาบน้ำที่ผมแทบละลายคาอ้อมแขนเขา

แล้วผมก็ถูกเขา ‘ดูแล’ ต่อเนื่องจนถึงเช้า…

อา... บ้าที่สุด

"อื๊อ…"

ผมละเมอครางเบา ๆ เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่แทรกเข้ามาด้านหลัง ใต้ร่างยังไวต่อความรู้สึกจนน่ากลัว เพลิงภพ... เขากำลังทำความสะอาดให้ผม

"อย่าดื้อสิ ยัยหนู"

เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ปลายนิ้วแข็งแกร่งคว้านเอาสิ่งตกค้างออกจากตัวผม ผมสะดุ้งเฮือก ทั้งอยากจะหนี แต่แรงไม่มีเลยแม้แต่น้อย

อา… คนบ้า ทำไมเขาต้องดูแลกันขนาดนี้ด้วย

แต่ผมก็ไม่ได้ห้ามเขาหรอก

ผมค่อย ๆ ปล่อยตัวให้ผ่อนคลายไปกับสัมผัสของเขา ลมหายใจหนักหน่วงค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ จนในที่สุด ผมก็ถูกอุ้มขึ้นจากอ่างอาบน้ำ

ผมซบหน้ากับแผ่นอกเปลือยของเขา ปล่อยให้ร่างตัวเองแนบกับไออุ่นของเขาโดยไม่คิดจะขยับหนี

"พักผ่อนให้เต็มที่นะ เด็กดี"

ริมฝีปากร้อนกดจูบลงบนหน้าผากของผมเบา ๆ ก่อนที่ผมจะถูกวางลงบนเตียง ผ้าห่มอุ่นถูกคลี่คลุมให้โดยไม่ต้องร้องขอ


"อือ..."

ผมขยับตัวเล็กน้อย เปลือกตากระพริบช้า ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลืมขึ้น สายตาพร่ามัวจากการนอนนานเกินไป

กี่โมงแล้วเนี่ย...?

ผมครางเบา ๆ พลิกตัวไปมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง แต่ยังไม่ทันจะโฟกัสได้ดี ก็รู้สึกถึงความร้าวระบมไปทั่วร่างกาย สะโพกหนักอึ้งจนแทบขยับไม่ได้

ให้ตายเถอะ... เพลิงภพเล่นซะขนาดนี้ จะให้ลุกยังไงไหว

ความทรงจำเมื่อคืนหลั่งไหลเข้ามาเป็นฉาก ๆ ผมกัดริมฝีปาก พยายามสลัดมันออกจากหัว ก่อนจะควานมือหาโทรศัพท์ที่น่าจะวางอยู่ข้างเตียง

หน้าจอสว่างขึ้น ผมเพ่งมองเวลา

15:30 น.

เฮ้ย!!

ผมสะดุ้งตื่นเต็มตา รีบพุ่งตัวขึ้นมาทันที แต่พอขยับ สะโพกก็ร้องประท้วง ผมกัดฟัน ข่มความเจ็บก่อนจะสูดหายใจลึก ๆ

ซวยล่ะ! วันนี้มีงานพิเศษที่คลินิกของรุ่นพี่นี่หว่า!

ผมรีบหันไปมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ที่ใส่มาเมื่อวานหายไปหมด ไม่มีแม้แต่ชิ้นเดียว

"บ้าเอ๊ย..."

ผมบ่นพึมพำ ก่อนจะลากสังขารออกจากห้องนอน เดินไปทางห้องนั่งเล่น

ทันทีที่มาถึง ผมก็เห็นอะไรบางอย่างแปะอยู่บนโต๊ะกินข้าว

แผ่นกระดาษโน้ตหนึ่งใบ แปะไว้ด้วยเทปใส ใกล้กันนั้นมีเช็คใบหนึ่งวางอยู่ และข้าง ๆ กันคือจานอาหารที่ดูเหมือนเพิ่งทำเสร็จไม่นาน

ผมหรี่ตาลง ก่อนจะหยิบกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านข้อความ

"เสื้อผ้าของนายอยู่ในเครื่องซักผ้า ถ้ายังลุกไม่ไหวก็นั่งกินข้าวก่อน

เช็คนี้ถือว่าเป็นค่าทำงานล่วงเวลาเมื่อคืน – เพลิงภพ"

ผมกระพริบตาปริบ ๆ อ่านทวนอีกครั้ง

"...ไอ้บ้าเอ๊ย"

ผมหัวเราะเบา ๆ แต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าวขึ้นมาเองโดยไม่รู้ตัว มือเอื้อมไปหยิบเช็คขึ้นมาดู ยอดเงินบนกระดาษทำให้ผมอ้าปากค้าง

"หมื่นห้า!?!"

ไอ้บ้านั่นมันบ้าไปแล้วรึไง! ผมไม่ได้ขายตัวสักหน่อย!

ผมรีบวางเช็คกลับไปบนโต๊ะ เหลือบมองอาหารที่เขาทิ้งไว้ให้... ไข่ดาวกับไส้กรอกง่าย ๆ แต่หน้าตาดูดีใช้ได้ ข้าง ๆ กันมีแก้วน้ำส้มวางอยู่

ผมกัดริมฝีปาก ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี

เขาทำอาหารให้ ทิ้งโน้ตไว้ บอกว่าเสื้อผ้าผมอยู่ในเครื่องซักผ้า แต่ดันแนบเช็คเงินค่าตัว(?) มาให้ด้วยเนี่ยนะ?

ไอ้หมอนี่แม่ง... เข้าใจยากจริง ๆ

ผมทิ้งตัวลงนั่ง ถอนหายใจ ก่อนจะหยิบส้อมจิ้มไส้กรอกขึ้นมากัด ไม่รู้ว่าหิวหรือว่าเหนื่อยกันแน่ แต่ตอนนี้มีอาหารให้กินก็ดีกว่าไปตายกลางทาง

"ถ้าฉันรับเงินนี่ไป ฉันจะถือว่าตัวเองเป็นอะไรล่ะ?"

ผมพึมพำเบา ๆ

ไอ้หมอนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่…

หลังจากนั่งพักไปสักพัก ผมก็รู้ว่าได้เวลาต้องไปแล้ว ถึงแม้ว่าร่างกายจะยังประท้วงความเหนื่อยล้าอยู่ก็ตาม

ผมกัดฟันลุกขึ้น บิดตัวเล็กน้อยให้หายเมื่อย แต่ก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อความปวดร้าวยังคงแล่นไปทั่วสะโพกและหลัง

"ให้ตายเถอะ... นี่มันเป็นผลพวงจากเมื่อคืนเต็ม ๆ"

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็จัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย รีบเตรียมตัวออกไปทำงานพิเศษที่คลินิกของรุ่นพี่

กำลังจะก้าวออกจากห้องนั่งเล่น แต่ทันใดนั้น...

"เมี้ยว~"

เสียงร้องเบา ๆ ดังขึ้นพร้อมกับสัมผัสนุ่ม ๆ ที่ถูไปมากับขาของผม

น้ำขิง...

เจ้าแมวขนส้มของเพลิงภพเดินมาคลอเคลียอยู่ที่ขาผม สายตามันดูสดใสขึ้นกว่าที่เห็นเมื่อวาน ตอนนั้นมันยังดูซึม ๆ อยู่เลย แต่วันนี้กลับมีแรงเดินเข้ามาหาผมเอง

"เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย?"

ผมย่อตัวลง ลูบหัวมันเบา ๆ ปลายนิ้วเกลี่ยไปตามขนฟู ๆ ของมันอย่างอ่อนโยน น้ำขิงหลับตาพริ้ม ส่ายหางไปมาเหมือนอารมณ์ดี

“แกไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...”

ผมพูดกับมันเบา ๆ แต่แล้วก็ถอนหายใจยาว

"...แต่ฉันเนี่ยสิ เฮ้อออ"

ปวดหลัง ปวดเอวไปหมด

ผมบ่นในใจ ก่อนจะไล้นิ้วไปตามขนนุ่มของเจ้าแมวส้มต่อ

"ไว้จะมาเล่นด้วยใหม่นะ ฉันต้องไปแล้ว"

คำพูดนั้นหลุดออกมาโดยไม่ทันคิด แต่ทันทีที่พูดจบ ผมก็กะพริบตา มุมปากชะงักนิดหน่อย

"...แล้วฉันจะกลับมาทำไมอีกวะ?"

ผมเผลอคิดกับตัวเอง ก่อนจะค่อย ๆ หันไปมองโต๊ะกินข้าวที่เช็คยังคงวางอยู่ที่เดิม...

ไม่มีใครแตะมันเลย ตั้งแต่ที่เพลิงภพวางไว้

ผมมองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเดินผ่านไปโดยไม่หยิบมันติดมือมาด้วย

"ทำเหมือนฉันเป็นพวกนังหนูขายตัวเลย"

เสียงพึมพำของผมดังแผ่วเบาในห้องเงียบ ๆ

ผมหยิบกระเป๋าขึ้นพาดบ่า ก่อนจะก้าวออกจากห้องของเพลิงภพ


เสียงประตูห้องปิดลงเบื้องหลัง ผมหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอยู่ครู่หนึ่ง

คงไม่มีเหตุผลให้ต้องกลับมาที่นี่อีกแล้ว

ผมถอนหายใจยาว ก่อนจะสาวเท้าออกไปตามทางเดินทอดยาว จนถึงหน้าลิฟต์

ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก เสียงทักทายก็ดังขึ้นทันที

"อ้าว น้องธารา"

ผมเงยหน้าขึ้นจากพื้น แล้วก็ต้องกะพริบตาเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"อา... หวัดดีครับ พี่พายุ"

ผมรีบยกมือไหว้ รุ่นพี่ที่ยืนอยู่ในลิฟต์ตรงหน้าผมเป็นหนึ่งในคนรู้จักจากมหา'ลัยเดียวกัน

พายุ... รุ่นพี่ต่างคณะ ใจดี นิสัยดี แถมยังเรียนเก่งอีกต่างหาก

“เราอยู่คอนโดนี้เหมือนกันเหรอ?”

พี่พายุถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น ผมรีบส่ายหน้าก่อนจะตอบกลับไป

"เปล่าครับ พอดีผมมาดูน้องแมวของคนที่อยู่คอนโดนี้ มันไม่ค่อยสบายน่ะครับ"

พูดไปก็รู้สึกผิดไป... เพราะจุดประสงค์ที่มานี่มันไม่ได้เกี่ยวกับแมวซะหน่อย

“อ๋อ ออกงานนอกสถานที่เหรอ?”

"ประมาณนั้นครับ" ผมตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปในลิฟต์

พี่พายุพยักหน้าเบา ๆ มองหน้าผมแวบหนึ่งแล้วพูดต่อ

"แล้วนี่จะไปคลินิกเหรอ? ให้พี่ไปส่งมั้ย?"

“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ”

"เกรงใจอะไรกัน ไปเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

ผมกำลังจะปฏิเสธอีกรอบ แต่พี่พายุมองผมนิ่ง ๆ ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

"สีหน้าเราก็ดูซีด ๆ เหมือนคนไม่สบายเลย ถ้าเป็นลมไประหว่างทางจะทำยังไง?"

"...!"

ผมชะงักเล็กน้อย ลืมไปว่าตัวเองนอนติดเตียงมาทั้งวัน แถมเมื่อกี้ยังแทบลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ

เงาสะท้อนในกระจกสแตนเลสของลิฟต์ทำให้ผมต้องกะพริบตา สีหน้าของตัวเองดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ...?

หรือจริง ๆ แล้วมันเป็นเพราะอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกันแน่...

"ว่าไง?" พี่พายุถามซ้ำอีกครั้ง

ผมลังเลไปชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจ

"งั้น...ก็รบกวนพี่ด้วยนะครับ"


บนรถของพี่พายุ
ลมจากแอร์เย็นฉ่ำช่วยให้ความอ่อนล้าในร่างกายทุเลาลงบ้าง ผมเอนตัวพิงเบาะ หลับตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลืมขึ้นมองถนนผ่านกระจกรถ แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายสะท้อนผ่านตึกสูง สลับกับต้นไม้ที่เรียงรายอยู่ข้างทาง

พี่พายุขับรถไปเรื่อย ๆ บรรยากาศในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์และเพลงคลอเบา ๆ ที่เปิดผ่านลำโพงรถ

"ช่วงนี้ทำงานหนักเลยเหรอ?"

เสียงทุ้มของพี่พายุดังขึ้นทำลายความเงียบ ผมหันไปมอง ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย

"เอ่อ... ครับ ใกล้เปิดภาคเรียนแล้ว ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น ผมไม่อยากรบกวนที่บ้านน่ะครับ"

พี่พายุเหลือบมามองผมแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มบาง ๆ

"อืม ดีแล้ว มีความรับผิดชอบดี"

ผมยิ้มแห้ง ๆ รู้ตัวดีว่าไม่ได้ขยันขันแข็งขนาดนั้นหรอก แค่พยายามเอาตัวรอดให้ได้ก็พอ

"แต่ก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยล่ะ"

"ครับ..."

"พี่จะใช้คำว่า 'เป็นห่วง' กับเราได้ไหมนะ?"

"...!"

คำพูดนั้นทำให้ผมชะงัก หันไปมองหน้าพี่พายุอย่างไม่แน่ใจ

พี่เขายังจ้องถนนอยู่ แต่แววตาดูจริงจัง ไม่ได้พูดเล่นหรือหยอกล้อ

"พี่รู้ว่าธาราเก่ง พึ่งพาตัวเองได้ แต่ถ้าเหนื่อยก็พักบ้าง อย่าฝืนตัวเองจนเกินไป"

เสียงของเขาอ่อนโยน ราวกับผู้ใหญ่ที่คอยดูแลน้องชาย แต่ไม่รู้ทำไม หัวใจของผมกลับเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

เป็นห่วงงั้นเหรอ...?

"อ่า... ขอบคุณนะครับ" ผมตอบเบา ๆ

พี่พายุหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบเส้นผมของผมเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

ผมก้มหัวให้นิดหน่อยโดยไม่ได้คิดอะไร

อย่างน้อยก็ยังมีคนที่อ่อนโยนและใจดีกับผม

ในช่วงเวลาที่เหนื่อยล้าแบบนี้ มันก็ดีเหมือนกันที่มีคนสักคนคอยพูดให้กำลังใจ แม้ว่าผมจะไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับหัวตัวเอง แต่สัมผัสของพี่พายุกลับรู้สึก...ปลอดภัยกว่าที่คิด

"พักบ้างนะธารา"

คำพูดสุดท้ายของพี่พายุยังคงติดอยู่ในหัวผม ขณะที่ผมก้าวลงจากรถ

"ขอบคุณครับพี่พายุ"

"อืม... เจอกันนะ"

ผมหันกลับไปโบกมือให้เล็กน้อย ก่อนจะปิดประตูแล้วหันหลังเดินเข้าคลินิกไป


ทันทีที่ผมก้าวเข้ามาในคลินิก พวกพี่ ๆ ที่ทำงานอยู่ก่อนแล้วก็พร้อมใจกันหันมามองเป็นตาเดียว

แม่ง... สัมผัสได้ถึงอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว

ยังไม่ทันได้เดินไปไหน เสียงแซวจากพวกเขาก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

“แน่ะ ๆ ใครน่ะ? แฟนมาส่งเหรอจ๊ะ~?”

“นั่นสิ ขับรถหรูซะด้วยนะ”

“น้องธารานี่ฮอตเหมือนกันนะ”

ผมถอนหายใจเฮือก กลอกตาอย่างเหนื่อยใจ

“พวกพี่ก็พูดกันเกินไปครับ” ผมรีบปฏิเสธ โบกมือไปมา “นั่นรุ่นพี่ที่รู้จักที่มหา’ลัยครับ”

“อ้อเหรอออ~”

“รุ่นพี่อะไรล่ะ ทำไมต้องมาส่งถึงที่ด้วย?”

“ใช่ ดูแลดีขนาดนี้ หรือจริง ๆ แล้วเป็น ‘ว่าที่แฟน’ กันแน่นะ?”

“พี่ ๆ พอเถอะครับ!”

ผมบ่นเสียงขึ้นจมูก หยิบเสื้อกาวน์มาใส่ เตรียมตัวเริ่มงาน แต่เสียงแซวยังไม่หยุด

"นี่เมื่อวันก่อนยังมีหนุ่มหล่อมาถามหาน้องธาราอยู่เลยนะ วันนี้มีคนมาส่งอีก คราวหน้าจะมีใครมาขอหมั้นเลยไหมเนี่ย?"

ผมขมวดคิ้ว เมื่อวันก่อน...?

อ๋อ... เพลิงภพ

ผมไม่ได้แปลกใจหรอก ก็พึ่งเจอกันอยู่เมื่อวานตอนเขาโทรมาจองหมอให้เจ้าน้ำขิงไปรักษานอกสถานที่ แล้วก็พามันมาหาหมอที่นี่เองด้วย

หนุ่มหล่อที่ถามหาผมน่ะ... เออ ก็คงเป็นไอ้บ้านั่นแหละ

“เหอะ... พี่ ๆ ไม่ต้องมาคิดเยอะเลยครับ คนเมื่อวันก่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผมหรอก”

“แน่ใจเหรอ~”

แต่ก็ไม่วายโดนตะโกนไล่หลังมาอีกจนได้

“ถ้าไม่เอาก็โยนมาทางนี้สักคนน้าา น้องธารา~ พี่เบื่อจะโสดเต็มที!”

เสียงลากยาวของพี่ที่พูดทำให้คนในคลินิกพากันหัวเราะ ผมส่ายหัวเบา ๆ แล้วชูมือขึ้นโบกไปมาโดยไม่หันกลับไป

“ไว้จะถามให้ครับพี่!”

เสียงหัวเราะยังดังไล่หลังมาอีกหน่อย ก่อนที่ทุกคนจะกลับไปทำงานของตัวเอง ผมถอนหายใจโล่งอก เดินตรงไปยังล็อกเกอร์ของตัวเองเพื่อเก็บของ

พอเปิดล็อกเกอร์ออก ผมก็ถอดเสื้อนอกที่ใส่มาออกอย่างลืมตัว ก่อนจะหันไปมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกข้าง ๆ

แล้วผมก็ต้องนิ่งค้างไป...

เชี่ยล่ะ

ร่องรอยสีแดงกระจายอยู่ทั่วตัวโดยเฉพาะที่เนินอก มันเยอะเกินไป!

ไม่ใช่แค่รอยเดียว แต่มีเป็นสิบ ๆ จุด ไล่ลงไปถึงช่วงไหปลาร้า แผ่นท้อง และบางจุดที่ถึงแม้เสื้อปกปิดได้ แต่แค่ขยับผิดมุมก็เห็นชัดเจน

ไอ้บ้านั่นมันฝากรอยไว้ขนาดนี้เลยเหรอ!?

ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนแวบเข้ามาในหัวอย่างห้ามไม่ได้ ทั้งตอนที่เพลิงภพกดริมฝีปากลงบนผิวเนื้อ แรงดูดเม้มที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ มือร้อนที่ลูบไล้ไปทุกจุดอย่างเอาแต่ใจ

แค่คิดถึงตรงนี้ ผมก็ต้องเบือนหน้าหนี รีบติดกระดุมเสื้อให้แน่นกว่าเดิม

บ้าชิบ...

ถ้าพวกพี่ ๆ ในคลินิกเห็นเข้า ผมโดนแซวตายแน่!!

ผมหยิบเสื้อกาวน์ขึ้นมาสวมทับอย่างรวดเร็ว คอยปรับให้ชายเสื้ออยู่ในตำแหน่งที่ช่วยปกปิดได้มากที่สุด

พอเช็กความเรียบร้อยดีแล้ว ก็ถอนหายใจโล่งอก

“โอเค... น่าจะพอรอด”

ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอพูดออกมาหรือเปล่า แต่ภาพในกระจกสะท้อนใบหน้าของผมที่ยังขึ้นสีระเรื่อ ไม่ว่าจะพยายามสลัดภาพในหัวออกไปแค่ไหน แต่ร่องรอยบนร่างกายมันกลับเตือนให้ผมรู้ว่า…

เรื่องเมื่อคืนมันไม่ใช่แค่ฝัน แต่มันเกิดขึ้นจริง

และ...ก็อาจจะเกิดขึ้นอีก

ห๊ะ เดี๋ยว! ทำไมคิดแบบนั้นวะ!!

ผมสะบัดหัวแรง ๆ ไล่ความคิดบ้า ๆ ออกไป ก่อนจะหันกลับไปตั้งสมาธิกับงานที่ต้องทำ


หวังว่าทั้งวันต่อจากนี้จะยุ่งมากพอที่จะทำให้ผมไม่มีเวลาคิดถึงอะไรแบบนี้อีกนะ…



ช่วงเย็นที่คลินิกเต็มไปด้วยความวุ่นวาย วันนี้สัตว์ป่วยเข้ามาเยอะกว่าปกติ ทั้งเคสฉุกเฉิน เคสติดตามอาการ และเคสเจ้าของพามาด้วยความกังวล แม้บางตัวจะไม่ได้เป็นอะไรมากก็ตาม

ผมกับพี่ผู้ช่วยต้องวิ่งวุ่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้หยุดพักแม้แต่นาทีเดียว ตั้งแต่ช่วยทำแผล ตรวจอาการ ประคองสัตว์ให้สงบ ไปจนถึงอธิบายรายละเอียดให้เจ้าของเข้าใจ

บรรยากาศวุ่นวายลากยาวไปจนกระทั่งเคสสุดท้ายเสร็จสิ้น

เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่มแล้ว

ผมนั่งลงกับเก้าอี้หน้าล็อกเกอร์ ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้พลางหอบหายใจหนัก ตาล้าไปหมด ข้อมือและแขนเมื่อยล้าจากการจับสัตว์ไม่หยุด มือสั่นนิด ๆ เพราะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่บ่าย

"ดึกจนได้"

ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง เสียงแผ่วเบาแทบจะกลืนไปกับอากาศ

ท้องเริ่มร้องประท้วง หิวจนรู้สึกไม่มีแรงเดิน สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากซอมบี้เลย หน้าซีด แถมยังมีรอยแดงจาง ๆ เต็มตัวอีกจากเมื่อคืน

"น้องธารา กลับยังไง?"

เสียงของพี่ผู้ช่วยดังขึ้นจากด้านข้าง ผมหันไปมอง เห็นพี่เขากำลังเก็บอุปกรณ์พร้อมกับส่งสายตามาอย่างเป็นห่วง

"เดี๋ยวคงเรียกรถกลับครับ"

ผมตอบเสียงแหบพร่าเล็กน้อย คอแห้งจนแทบไม่อยากพูดอะไรต่อ

"งั้นกลับดี ๆ นะ ขอบใจที่มาช่วย"

พี่ผู้ช่วยตบบ่าผมเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ผมพยักหน้าตามหลังเขาไปช้า ๆ ก่อนจะยิ้มให้บาง ๆ แม้จะเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าก็ตาม

"เฮ้อ... กลับไปถึงห้อง ขอแค่เตียงนุ่ม ๆ กับอาหารอุ่น ๆ ก็พอแล้ว"

ผมพึมพำกับตัวเองพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมเรียกรถกลับ...

แต่แล้วทันใดนั้น

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ดังขึ้น ผมขมวดคิ้วก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู

"เพลิงภพ"

แค่เห็นชื่อ หัวใจก็กระตุกวูบขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ

หมอนี่... ทักมาทำไมตอนนี้?

ผมลังเลอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะกดเข้าไปอ่านข้อความ

"ทำอะไรอยู่ เลิกงานหรือยัง?"

...หมอนี่รู้ได้ยังไงว่าผมเลิกงานตอนนี้?

ผมนิ่วหน้า ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไปอย่างเสียไม่ได้

"เพิ่งเสร็จ"

ไม่ถึงห้าวินาที ข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมาอีกครั้ง

"อยู่ตรงไหน เดี๋ยวไปรับ"

ผมขมวดคิ้วแน่นขึ้น ท้องที่หิวจนแสบไส้เหมือนจะต่อต้านกับสมองที่พยายามหาคำตอบว่าหมอนี่กำลังคิดอะไรอยู่

"ไม่ต้อง เดี๋ยวเรียกรถกลับเอง"

แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจข้อความปฏิเสธของผมเลย เพราะทันทีที่กดส่งไป อีกฝ่ายก็โทรเข้ามาทันที

"ให้ตายเถอะ..."

ผมพ่นลมหายใจ ก่อนจะกดรับสาย

"อะไรของพี่?"

"บอกว่าจะไปรับไง อยู่ตรงไหน คลินิกเดิม?" เพลิงภพถามตรงประเด็น น้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้ว่า ถ้าโกหกคือหมอนี่จะตามมาแน่ ๆ

"ผมกำลังจะกลับห้อง" ผมตอบเสียงแข็ง

"พี่ก็รู้อยู่แล้วว่าหนูจะกลับห้อง" เพลิงภพพูดเรียบ ๆ "คำถามคือ... ตอนนี้หนูอยู่ที่คลินิกใช่มั้ย?"

ผมกลอกตา รู้สึกปวดหัวขึ้นมานิด ๆ

"ผมไม่เป็นไรจริงๆครับ"

"พี่ถึงแล้ว"

"...!"

ผมนิ่งไปชั่วขณะ

"อะไรนะ?"

"พี่จอดรถอยู่หน้าคลินิกแล้ว" เพลิงภพพูดเสียงนิ่ง "ถ้าไม่อยากให้พี่เดินเข้าไปหา ก็รีบออกมา"

"พี่—!"

ผมยังพูดไม่ทันจบ สายก็ถูกตัดไปดื้อ ๆ

ไอ้บ้านี่...

ผมกุมขมับ ถอนหายใจแรง ๆ นี่หมอนี่บ้ารึไง!?

ทำไมต้องมาเองแบบนี้ด้วย!?

แต่สุดท้าย ผมก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง หยิบกระเป๋าขึ้นพาดบ่า แล้วเดินออกไปหน้าคลินิกอย่างช่วยไม่ได้


หน้าคลินิก
ทันทีที่ก้าวออกมา สายตาผมก็ปะทะเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูที่จอดอยู่ริมฟุตปาธ

แล้วใครบางคนที่ยืนพิงประตูรถอยู่

ชุดสูทสีดำ เสื้อเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ดแรก แขนเสื้อพับขึ้นเล็กน้อย ขายาวที่ดูดีแม้จะอยู่ในท่าทางสบาย ๆ และแววตาเจ้าเล่ห์ที่มองมาทางผมโดยตรง

ให้ตายเถอะ... ทำไมหมอนี่ต้องดูดีทุกครั้งที่เจอด้วยวะ?

เพลิงภพมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ

"หน้าโทรมขนาดนี้ หิวแล้วใช่ไหม?"

"ไม่เกี่ยวกับพี่..." ผมตอบกลับเสียงแข็ง พยายามไม่ให้เขารู้ว่าตัวเองกำลังหมดแรงเต็มที

แต่แทนที่เขาจะสนใจคำปฏิเสธของผม เพลิงภพกลับเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับออก แล้วเอ่ยขึ้นสั้น ๆ

"ขึ้นรถ"

"ผมบอกแล้วไงว่าผมกลับเองได้"

"แล้วพี่บอกแล้วไงว่าพี่มารับ"

"..."

ผมอ้าปากจะเถียง แต่เหมือนเขาจะไม่เปิดโอกาสให้พูดอะไรต่อ

เพลิงภพก้าวเข้ามาใกล้ แล้วโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู

"หรืออยากให้พี่อุ้มขึ้นรถ?"

"...!"

ไอ้หมอนี่!

หน้าผมร้อนวาบขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ รีบถอยออกห่างจากตัวเขาทันที

"เวรเอ๊ย...!" ผมพึมพำ ก่อนจะรีบก้าวขึ้นรถอย่างเสียไม่ได้

ไม่ใช่เพราะอยากขึ้นรถหรอกนะ...! แค่ไม่อยากให้หมอนี่ทำอะไรบ้า ๆ ต่อหน้าคนอื่นแค่นั้นเอง!

แค่นี้ก็โดนแซว จนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหนแล้ว



ผมนั่งเงียบ ๆ อยู่บนเบาะรถ ท้องร้องเบา ๆ เป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ เพลิงภพ—ไม่สิ พี่เพลิง ไม่ได้พูดอะไรตอนที่ขับออกจากหน้าคลินิกไป

ผมหันไปมองเขาแวบหนึ่ง แสงไฟจากข้างทางสะท้อนเข้ากับใบหน้าคมที่ยังดูดีทุกมุม แม่งเอ๊ย... คนอะไรขนาดขับรถเฉย ๆ ยังดูดีได้

"เลิกแอบมองพี่ได้แล้ว"

เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น ผมสะดุ้ง รีบหันหน้ากลับไปมองถนนข้างหน้าแทน

"ใครแอบมองกัน!?"

"หึ" พี่เพลิงหัวเราะเบา ๆ ไม่พูดอะไรต่อ แต่ทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นมาเองซะงั้น

ให้ตายเถอะ…

ผมถอนหายใจ ยกมือขึ้นกุมท้องที่เริ่มร้องหนักขึ้นกว่าเดิม

"ไปกินข้าว" พี่เพลิงพูดเสียงเรียบ "หิวจนหน้าซีดขนาดนี้ ยังจะดื้ออีก"

"ไม่ได้ดื้อ..." ผมพึมพำเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องไปกินข้าว เพราะตอนนี้ผมหิวจนจะเป็นลมอยู่แล้วจริง ๆ


รถจอดลงที่ร้านอาหารข้างทางแห่งหนึ่ง เป็นร้านขนาดไม่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ตรงมุมถนน ไฟสีส้มสลัว ๆ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น

แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจกว่าคือ...

"พี่พามากินร้านนี้?"

ผมหันไปมองพี่เพลิงอย่างไม่เชื่อสายตา หมอนี่น่ะเหรอจะมานั่งกินร้านข้างทางแบบนี้?

"ทำไม? คิดว่าพี่กินแต่ร้านหรูเหรอ?"

"ก็ใช่" ผมตอบกลับทันที

พี่เพลิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพาผมเดินเข้าไปข้างใน ร้านค่อนข้างเงียบเพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว มีลูกค้าแค่ไม่กี่โต๊ะ

พี่เพลิงเลือกนั่งที่มุมหนึ่ง โต๊ะไม้เก่า ๆ กับเก้าอี้สังกะสี ผมนั่งลงตรงข้าม พลางมองเมนูแบบง่าย ๆ ที่เขียนด้วยลายมือบนกระดานข้างร้าน

ต้มยำกุ้ง ข้าวผัด ผัดกะเพรา ไข่เจียว หมูทอด น้ำพริกกะปิ

"พี่สั่งให้เลยนะ?" พี่เพลิงถามขึ้น

"เอ่อ... ผมกินอะไรก็ได้"

"พูดแบบนี้ ระวังพี่สั่งหมดร้าน"

ผมชะงัก ก่อนจะรีบเสริม "เอ่อ... งั้นเอากะเพราหมูกรอบ ไข่ดาว"

"โอเค"

พี่เพลิงหันไปสั่งกับแม่ค้า พร้อมกับสั่งต้มยำกุ้งเพิ่มมาอีกอย่าง ผมนั่งมองเขาเงียบ ๆ คิ้วยังขมวดเข้าหากัน

พี่เพลิง... คิดยังไงถึงพามากินร้านแบบนี้กันแน่?

"โห..."

ผมอุทานออกมาเบา ๆ เมื่อจานข้าวกะเพราหมูกรอบถูกยกมาเสิร์ฟพร้อมต้มยำกุ้ง หมูกรอบชิ้นหนาดูน่ากิน ข้าวร้อน ๆ กับไข่ดาวเยิ้ม ๆ ทำให้ท้องร้องดังขึ้นกว่าเดิม
พี่เพลิงยกยิ้มมุมปาก "หิวขนาดนี้ ไม่ต้องรอแล้ว กินเถอะ"

ผมไม่ได้รอให้เขาพูดซ้ำ รีบตักข้าวคำแรกเข้าปากทันที

แล้วก็ต้องเบิกตากว้าง

อร่อยชิบ...!

เผ็ดกำลังดี หอมกระเพรา หมูกรอบก็คือกรอบจริง กินพร้อมข้าวแล้วลงตัวสุด ๆ ผมไม่พูดอะไรต่อ รีบตักคำต่อไปกินทันที

พี่เพลิงนั่งมองผมอยู่ฝั่งตรงข้าม มือถือช้อนกวนต้มยำกุ้งไปมา

"หืม? เงียบไปเลยนะหนูธารา"

ผมหยุดเคี้ยวแวบหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมองเขา "อะไร?"

"ปกติปากเก่งไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ไม่พูดล่ะ?"

"...พี่อย่ากวน ผมหิว"

พี่เพลิงหัวเราะ "ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เห็นหนูกินแล้วน่ารักดี"

"...!"

ผมสำลักข้าวคำสุดท้ายแทบพุ่ง รีบคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มทันที

พี่เพลิงหัวเราะเบา ๆ "รีบกินขนาดนี้ เดี๋ยวก็ติดคอหรอก ยัยหนู"

ผมวางแก้วลงแรง ๆ จ้องเขาตาขวาง "พี่เพลิง! อย่าพูดอะไรแบบนั้นดิ!"

"หืม? พี่พูดอะไร?"

"ก็ที่บอกว่า... อะไรนะ กินแล้วน่ารัก?"

"ก็จริง" พี่เพลิงไหวไหล่ "ปกติเห็นแต่ทำหน้าดื้อ ๆ วันนี้เห็นทำหน้าฟินเพราะข้าวเลยแซวเฉย ๆ"

"พี่—!"

ผมยกมือขึ้นกุมขมับ ไม่รู้จะเถียงอะไรแล้ว เลยตักข้าวเข้าปากต่อ แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

พี่เพลิงหัวเราะเบา ๆ ไม่พูดอะไรอีก ยื่นชามต้มยำมาให้

"กินนี่ด้วย"

ผมหรี่ตา มองเขาอย่างระแวง "พี่เพลิงมีแผนอะไรอีก?"

"ไม่มี" เขายกมือขึ้นทำท่าเหมือนบริสุทธิ์ใจ "แค่สั่งมาเผื่อนาย ไม่ได้คิดอะไรเลยจริง ๆ"

"...ก็ได้"

ผมรับชามต้มยำมากิน อาหารร้อน ๆ ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ค่อยรู้สึกมีแรงมากขึ้น

หลังจากกินอิ่ม ผมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจอย่างสบายใจ

"เฮ้อ... อิ่มมาก"

พี่เพลิงมองผม ก่อนจะโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย

"อะไร?" ผมขมวดคิ้ว

พี่เพลิงเอื้อมมือมาใช้นิ้วเกลี่ยตรงมุมปากของผมเบา ๆ

"มีข้าวติด"

"...!"

ผมนิ่งค้างไปชั่วขณะ หน้าเริ่มร้อนขึ้นมาอีกรอบ ก่อนจะรีบดึงกระดาษทิชชู่มาถูปากตัวเอง

"พะ... พี่ทำอะไรเนี่ย!?"

"ช่วยหนูไง" พี่เพลิงยิ้มเจ้าเล่ห์ "หรือต้องให้พี่ป้อนด้วย?"

"ไม่ต้องเลยพี่เพลิง!!"

พี่เพลิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ผมกลอกตา ถอนหายใจแรง ๆ

ให้ตายเถอะ... หมอนี่มันกวนจริง ๆ

แต่... ก็ไม่รู้ว่าทำไม        

บรรยากาศแบบนี้มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีอยู่เหมือนกัน

พี่เพลิงนั่งไขว้ขา มองผมด้วยสายตากวน ๆ ตามสไตล์ของเขา ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ

"อิ่มแล้วใช่ไหม? หรือจะเอาของหวานต่อ?"

"ไม่เอาแล้วพี่ ผมกินไม่ไหวแล้ว" ผมโบกมือไปมา "พี่ก็เล่นสั่งเยอะขนาดนี้"

"ก็เผื่อนายไง" พี่เพลิงยักไหล่ ก่อนจะเท้าคางมองผม "ดูท่าจะเพลียจริง ๆ นะเรา"

"ก็งานหนักทั้งวัน แถมหิวจนจะเป็นลมอีก" ผมพึมพำเบา ๆ "ถ้าพี่ไม่พามากินข้าวก่อน ผมอาจจะได้นอนตายที่คลินิกไปแล้วก็ได้"

"หึ" พี่เพลิงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมผมเบา ๆ "รู้ก็ดี งั้นต่อไปถ้าหิวก็โทรหาพี่"

ผมสะดุ้ง รีบสะบัดหัวหนี "ใครจะไปโทรหาพี่กัน!?"

"ทำไมล่ะ? หรือว่า..."

พี่เพลิงโน้มหน้าลงมาหาผมนิด ๆ ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้จนผมรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ

"อยากให้พี่เป็นคนโทรหาก่อน?"

บ้าไปแล้ว!!

"พี่เพลิง! หยุดเลย!!" ผมผลักหน้าผากเขาออกไปทันที

พี่เพลิงหัวเราะลั่น ดูท่าทางพอใจกับปฏิกิริยาของผมสุด ๆ

"หนูธารานี่เขินเก่งจริง ๆ"

"ไม่ได้เขิน!!" ผมเถียงกลับเสียงแข็ง ก่อนจะคว้ากระเป๋ามากอดไว้แน่น "กลับได้แล้ว!"        

"จ้า ๆ" พี่เพลิงยกมือขึ้นแบบยอมแพ้ แต่รอยยิ้มกวน ๆ ยังอยู่เต็มใบหน้า


บรรยากาศในรถเงียบกว่าตอนขามานิดหน่อย ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังจะหลับคาที่นั่งไปแล้วจริง ๆ หนังตาหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความอิ่ม กับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวัน

"ง่วงก็หลับเถอะ เดี๋ยวพี่ปลุกตอนถึงห้อง"

เสียงทุ้มของพี่เพลิงดังขึ้น ผมพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะขยับตัวให้สบายขึ้น พลางพิงเบาะ หรี่ตาลงอย่างผ่อนคลาย

"แล้วพี่จะไปไหนต่อ?" ผมพึมพำถามเสียงเบา

"กลับห้อง"

"เหรอ..."

ผมพยักหน้าช้า ๆ แต่ยังไม่ทันได้เข้าสู่โหมดหลับสนิท เสียงของพี่เพลิงก็ดังขึ้นมาอีก

"หรืออยากจะไปต่อที่ห้องพี่ก็ได้นะ พี่ไม่ติด"

"...!"

ผมลืมตาโพลงขึ้นทันที ก่อนจะหันขวับไปจ้องเขาแบบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

พี่เพลิงยิ้มมุมปาก ท่าทางสบาย ๆ อย่างคนเจ้าเล่ห์ที่รู้ตัวดีว่ากำลังแกล้งผมอยู่

ไอ้บ้านี่...!

"พี่ดูปากผมนะ ไม่!!"

ผมพูดเน้นชัดทุกคำ จ้องหน้าเขาแบบจริงจังสุดชีวิต แต่หมอนั่นกลับหลุดหัวเราะออกมาแทน

"เอาน่า พี่คงทำอะไรหนูไม่ลงหรอก"

"ไม่รู้แหละ! พี่มันเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก เชื่อถือไม่ได้!" ผมพูดอย่างหมั่นไส้สุด ๆ ก่อนจะเม้มปากแน่น

"อ้าว พี่ไปทำอะไรให้?"

"ยังจะมาถาม!" ผมชี้หน้าเขา "บอกว่าครั้งเดียว ล่อผมซะเกือบไปทำงานไม่ได้!"

พี่เพลิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหันมามองผมแวบหนึ่ง สายตาเจ้าเล่ห์เป็นประกาย

"ก็หนูมันยั่วอ่ะ ให้พี่อดใจยังไงไหว"

แม่งเอ๊ย!

ผมกัดฟันแน่น หน้าร้อนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

นี่เขากำลังพูดถึงเรื่องเมื่อคืนต่อเนื่องมาจนถึงเช้านี้เลยเหรอ!?

"ผมบอกไว้ก่อนเลยนะ!" ผมรีบชี้นิ้วใส่เขา "ผมจะไม่มีทางอ้าขาให้พี่อีก!"

"..."

"ผมไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรพี่ขนาดนั้น!"

ทันทีที่ผมพูดจบ พี่เพลิงชะงักไปแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว

จากนั้นก็ยกมือขึ้นมากุมหน้าอกตัวเอง

"อ๊ะ..."

"...?"

"เจ็บอ่ะ" พี่เพลิงทำหน้าตาเหมือนคนโดนหักอกสุดชีวิต "ตรงนี้มันเจ็บแปลก ๆ"

ผมกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะทำหน้าเอือมทันที

"พี่จะมาเล่นอะไรแบบนี้เนี่ย!?"

"พี่ก็แค่เสียใจ" เขาทำหน้าเศร้าแบบโอเวอร์ "ทั้งที่พี่ตั้งใจบริการอย่างดี แต่สุดท้ายหนูก็บอกว่าไม่ติดใจพี่เลย..."

"พี่เพลิง!!" ผมตะโกนลั่นรถ

พี่เพลิงหัวเราะเสียงดัง ส่ายหัวไปมา ก่อนจะเอื้อมมือมายีหัวผมเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว

"โอเค ๆ ไม่แกล้งแล้ว เด็กดื้อของพี่"

"...ใครเด็กดื้อกัน!?"

"ก็หนูไง"

"ผมชื่อธารา!"

"หืม? เมื่อกี้พี่ยังเรียกถูกอยู่นะ"

"พี่—!!"

ผมยกมือขึ้นกุมขมับ ถอนหายใจแรง ๆ ก่อนจะเอนตัวพิงเบาะ หนีสายตาเจ้าเล่ห์ของหมอนี่

แต่หัวใจดันเต้นแรงขึ้นกว่าเดิมซะงั้น…



: Part เพลิงภพ
ผมรู้สึกเจ็บแปลก ๆ ที่ขั้วหัวใจ

ไม่ใช่เจ็บแบบร่างกาย แต่เป็นความรู้สึกเหมือนโดนหักอกเข้าเต็ม ๆ จากคำพูดของเด็กดื้อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

"ผมจะไม่มีทางอ้าขาให้พี่อีก ผมไม่ได้รู้สึกติดใจอะไรพี่ขนาดนั้น"

...ให้ตายสิ

ปกติแล้ว ผมไม่ใช่คนที่มานั่งคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเรื่องพวกนี้ เพราะมันก็แค่... เซ็กส์ แค่ความต้องการชั่วคราว ไม่ได้มีความหมายมากไปกว่านั้น

แต่ทำไมคำพูดนี้ของหนูธาราถึงทำให้รู้สึกแปลก ๆ ได้วะ?

ผมกระชับมือจับพวงมาลัยแน่น สายตายังคงจดจ้องไปที่ถนนข้างหน้า

มันก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอ?

ผมเองก็ไม่มีสถานะ ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับเขา

เราแค่สนุกกันชั่วครั้งชั่วคราว แล้วมันจะมานับเป็น ‘ความรัก’ ได้ยังไง

ผมไม่ได้อยากมีพันธะ ไม่เคยคิดจะผูกมัดใคร แล้วเด็กนี่ก็คงเป็นแบบเดียวกัน

แต่ทำไม...

ทำไมผมถึงรู้สึกหวงจังวะ?

"ถ้าหนูจะไปอ้าขาให้ใคร... พี่ก็ไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปยุ่ง"

แค่คิดถึงภาพนั้น ภาพของร่างกายชวนฝันที่เคยอยู่ใต้ร่างผมไปเป็นของใครคนอื่น หัวใจก็เต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

มือที่จับพวงมาลัยเกร็งแน่นขึ้น สายตายังจ้องถนนข้างหน้า แต่ในหัวเต็มไปด้วยภาพของ ‘หนูธารา’

ริมฝีปากแดงที่เผลอเผยอออกตอนครางสะท้าน สีหน้าหวานฉ่ำที่ติดตรึงในความทรงจำ

เสียงครางเร่าร้อนที่...

เชี่ย...

ผมเผลอขบกรามแน่นเมื่อคิดถึงอีกเรื่องที่ทำให้หงุดหงิดใจไม่แพ้กัน

แอปนั่น...

ผมเคยกดเข้าไปดูบ่อย เพราะความยั่วยวนภายใต้หน้ากากแฟนซี

แอปไลฟ์สดเรต 18+

เพียงขึ้นไลฟ์ก็มียอดผู้ชมมากมาย แต่แค่คิดว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเขาผ่านหน้าจอ กำลังได้ยินเสียงที่ควรจะเป็นของผมคนเดียว ก็อยากจะปิดแอปบ้านั่นให้หายไปจากโลกซะเดี๋ยวนี้

ไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงครางของหนู

ไม่อยากให้ใครต่อใครเห็นเรือนร่างชวนฝันนั่น

ไม่อยากให้ใครได้รับรู้ว่า เด็กดื้อนี่มันเซ็กซี่แค่ไหนตอนอยู่ใต้ร่างของผม

อยากเก็บไว้ดูเองคนเดียว

ผมพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ สะบัดความคิดทั้งหมดออกจากหัว ก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

ธารานั่งพิงเบาะ หลับตาลงแล้ว ริมฝีปากยังมีรอยย่นเหมือนกำลังขมวดคิ้วนิด ๆ อาจเป็นเพราะอากาศในรถเย็น หรือเพราะเจ้าตัวเพลียจัด

ผมชะลอความเร็วรถลง แล้วค่อย ๆ ใช้มือข้างหนึ่งเอื้อมไปปรับแอร์ให้เบาลง

ให้ตายเถอะ...

บางที ผมอาจจะต้องหาทางทำให้ เด็กดื้อที่บอกว่าจะไม่มีทางอ้าขาให้พี่อีก... กลับมาพูดใหม่

และคราวนี้ ไม่ใช่แค่ร่างกายที่ผมจะเอามาเป็นของตัวเอง

แต่ผมจะทำให้หนูยอมเป็นของพี่... แค่พี่คนเดียว


********************
เพลิงมันร้ายคิดจะเก็บน้องไว้กินคนเดียว
มารอชมกันว่าเพลิงจะทำให้น้องติดใจได้มั้ย
เพราะน้องก็มีคนมาชอบเยอะ อิอิ
ฝากติดตาม คอมเม้นต์กันด้วยนะครับ



นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
28895
Zenny
216
ออนไลน์
5334 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 10:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกสโมสร

กระทู้
28
พลังน้ำใจ
171368
Zenny
174415
ออนไลน์
29084 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 14:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
7472
Zenny
4419
ออนไลน์
404 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 14:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
รอตอนต่อไปคับ

นายกสโมสร

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
243132
Zenny
98418
ออนไลน์
18176 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 14:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกมากครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
10515
Zenny
11646
ออนไลน์
711 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 16:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น้องแค่ปากแข็งไปอย่างนั้นเอง พี่อย่าเพิ่งถอดใจนะ

นายกสโมสร

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
106173
Zenny
89653
ออนไลน์
27913 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 17:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
37470
Zenny
11034
ออนไลน์
6512 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 21:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-2-23 04:57 , Processed in 0.122120 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้