การเพิ่มสมรรถภาพทางเพศตามหลักการแพทย์สามารถทำได้โดยอาศัยทั้งการปรับพฤติกรรม การดูแลสุขภาพ และการใช้ยาหรือการรักษาทางการแพทย์เมื่อจำเป็น วิธีที่แนะนำมีดังนี้
1. การปรับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์✅ ออกกำลังกายสม่ำเสมอการออกกำลังกาย เช่น คาร์ดิโอ (วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน)
และเวทเทรนนิ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน)
การฝึก Kegel Exercise ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
✅ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
โรคอ้วนสัมพันธ์กับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำและปัญหาหลอดเลือด
✅ นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนน้อยลดระดับฮอร์โมนเพศชายและเพิ่มความเครียด
✅ ลดความเครียดและความวิตกกังวล
ความเครียดทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ
2. โภชนาการที่ดีต่อสมรรถภาพทางเพศ✅ อาหารที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพ
สังกะสี (Zinc): หอยนางรม เนื้อแดง ถั่ว อาหารทะเล
แอล-อาร์จินีน (L-Arginine): ถั่วเปลือกแข็ง ปลา เนื้อไก่
ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide): ผักใบเขียว บีทรูท
โอเมก้า-3: ปลาแซลมอน วอลนัท
โพลีฟีนอล: ดาร์กช็อกโกแลต ไวน์แดง ชาเขียว
✅ เลี่ยงอาหารที่ทำให้สมรรถภาพลดลง
อาหารไขมันทรานส์ เช่น ฟาสต์ฟู้ด
น้ำตาลสูง เช่น เครื่องดื่มหวานจัด
3. การเลิกพฤติกรรมเสี่ยง🚫 เลิกสูบบุหรี่ – บุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบและลดการไหลเวียนโลหิต
🚫 งดดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป – ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนและการแข็งตัว
🚫 เลี่ยงสารเสพติด – กัญชา ยาเสพติดบางชนิดมีผลต่อสมรรถภาพ
4. การใช้ยาและการรักษาทางการแพทย์💊 ยาเพิ่มสมรรถภาพ (PDE-5 Inhibitors) เช่น ซิลเดนาฟิล (ไวอากร้า) ทาดาลาฟิล
ใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ห้ามใช้ร่วมกับยาขยายหลอดเลือด (ไนเตรต)
💉 ฮอร์โมนบำบัด (Testosterone Therapy)
เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ
🩺 การรักษาอื่น ๆ
- Shockwave Therapy: คลื่นกระแทกกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่
- การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะเพศเทียม (ในกรณีรุนแรง)
5. การตรวจสุขภาพประจำปี- ควรตรวจระดับฮอร์โมนและภาวะหลอดเลือด เพื่อแก้ไขปัญหาแต่เนิ่น ๆ
สรุปหากมีปัญหาสมรรถภาพทางเพศ ควรเริ่มจากการปรับพฤติกรรมก่อน และหากยังมีปัญหา ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
ด้วยรัก
- หมอเจม -