แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-3-3 14:12
21 จุดแตกหัก
ชมผาก้าวขึ้นเรือนช้าๆหัวใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะดี หลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ในตลาดมาเมื่อครู่
ตอนแรกเขาไม่คิดว่าอาการของตัวเองจะหนักขนาดนี้แต่พอได้ยินเสียงดังและรู้สึกว่าถูกใครบางคนแตะต้องโดยไม่ทันตั้งตัวร่างกายของเขาก็แข็งทื่อ เหงื่อเย็นผุดขึ้นตามแผ่นหลังหัวใจเต้นแรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
เขาพยายามบอกตัวเองให้สงบแต่มันไม่ได้ผล
ถ้าไม่ได้สิงหะเข้ามาประคองพาออกมาจากตลาด…เขาคงจะล้มไปตรงนั้นแล้ว
"พักสักหน่อยเดี๋ยวคงดีขึ้น"
เสียงของสิงหะดังขึ้นข้างตัวขณะที่อีกฝ่ายก้าวขึ้นตามมาบนเรือนชมผาหันไปมองร่างสูงของคนที่ช่วยพาเขากลับมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความลังเล
"ขอบใจ..."ชมผาเอ่ยเสียงเบา แม้ว่าหัวใจของเขายังคงสั่นสะท้านจากอาการจิตตกที่ยังคงหลงเหลืออยู่
เขาทรุดตัวลงนั่งข้างหน้าต่างสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามให้ร่างกายสงบลง ส่วนสิงหะยืนอยู่ใกล้ๆไม่ได้เร่งรัดหรือพูดอะไรเพิ่มเติม
กลิ่นนั้นอีกแล้ว...
กลิ่นหอมเย็นที่ปะปนกับกลิ่นไม้หอมจางๆกลิ่นที่เขาเคยได้กลิ่นในคืนที่เลวร้ายนั้น คืนที่เขาอยากจะลบออกไปจากความทรงจำตลอดชีวิต
หัวใจของชมผากระตุกวูบเมื่อเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ขึ้นก่อนที่ร่างสูงของสิงหะจะเดินเข้ามา หยุดยืนอยู่ตรงหน้า
"เป็นอะไรครับ?"
เสียงของสิงหะดังขึ้น ทำให้ชมผาหลุดจากภวังค์เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ มองสบตากับอีกฝ่ายแต่แล้วสายตากลับสะดุดเข้ากับบางสิ่งที่ข้อมือของสิงหะ
กำไลโลหะสีเข้มที่ข้อมือซ้าย
ชมผามองมันนิ่งรู้สึกเหมือนร่างกายทั้งหมดหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
ตำแหน่งเดียวกัน...ข้อมือซ้าย
ลักษณะเดียวกัน... วัสดุเดียวกัน...
หัวใจของเขาเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมาจากอกสมองเริ่มประมวลผลความจริงที่เขาไม่เคยกล้าคิดถึงมาก่อน
"ไม่จริง..."
เสียงแผ่วเบาหลุดรอดออกจากริมฝีปากเขาหลับตาลง พยายามข่มความหวาดกลัวที่แล่นขึ้นมาจนทั่วร่างแต่ภาพในอดีตกลับแจ่มชัดขึ้นมาในหัวอย่างห้ามไม่ได้
คืนที่เขาถูกปิดตาถูกมัดมือ ถูกจับกดลงบนพื้นแข็งเย็นเยียบ
มือของใครบางคนกดตรึงไหล่ของเขาเอาไว้ความเจ็บปวดที่ยังฝังลึกในร่างกายและจิตใจ...และสิ่งเดียวที่มือของเขาไขว่คว้าจนสัมผัสได้ คือกำไลโลหะที่ข้อมือของอีกฝ่ายมันเย็นและแข็ง มีร่องรอยเป็นลวดลายเล็กน้อยตามพื้นผิว
เขาจำมันได้...
และมันก็เหมือนกับกำไลที่อยู่บนข้อมือของสิงหะในตอนนี้ไม่มีผิด
ชมผาหายใจติดขัดมือเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกคลื่นไส้ตีขึ้นมาในอกจนแทบสำลัก
เป็นไปไม่ได้...มันต้องไม่ใช่
เขาพยายามบอกตัวเองว่ามันอาจเป็นเรื่องบังเอิญอาจมีใครอีกคนที่สวมกำไลแบบนี้ แต่ลึกๆในใจเขารู้ดีว่าความบังเอิญไม่มีทางโหดร้ายได้ถึงเพียงนี้
ชมผากัดริมฝีปากแน่นจนเลือดซึมเพื่อห้ามตัวเองไม่ให้สติแตกตรงนี้
แต่มันสายไปแล้ว
เพราะเมื่อเงยหน้าขึ้นมองสิงหะอีกครั้ง...สายตาของอีกฝ่ายไม่ได้มีความสงสัย ไม่ได้มีความแปลกใจ
ไม่มีแม้แต่การปฏิเสธ
เหมือนกับว่าเขารู้ดีว่าอะไรอยู่ในหัวของชมผาแต่เลือกที่จะเงียบ
และนั่นเองที่เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด
ชมผาถอยหลังไปก้าวหนึ่งหัวใจเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว ความเจ็บปวด ความคั่งแค้น ทุกอย่างปะทุขึ้นในอกจนแทบจะทำให้เขาหายใจไม่ออก
"ไอ้ระยำ...มึง..."
เสียงของเขาสั่นสะท้านดวงตาร้อนผ่าวจนแทบจะหลั่งน้ำตา
"มึงนี่เองที่ทำเรื่องต่ำช้าแบบนี้กับกู..."
เขาสะอื้น มือทั้งสองขยุ้มเสื้อตัวเองแน่นราวกับจะฉีกมันออกความจริงที่ได้รับรู้เหมือนฟาดเข้ากลางหน้าอย่างแรงจนเขาแทบทรงตัวไม่อยู่
สิงหะยังคงนิ่งยืนมองชมผาเงียบๆ ราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
และความเงียบนั้น...
โหดร้ายยิ่งกว่าคำพูดใดๆที่อีกฝ่ายจะเอื้อนเอ่ยออกมา
โครม!
เสียงข้าวของกระแทกพื้นดังลั่นชมผาปัดโต๊ะข้างตัวกระเด็นสุดแรงจนของที่วางอยู่หล่นกระจายไปทั่วพื้นร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง
"มึงมันสารเลว!ไอ้ระยำ! มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไง!"
เสียงตะโกนของชมผาสั่นเครือหยาดน้ำตาคลอหน่วยแต่เขาไม่ยอมให้มันไหลลงมาเขาไม่อยากร้องไห้ให้กับคนอย่างสิงหะอีกแม้แต่หยดเดียว
สิงหะยืนนิ่งไม่ตอบโต้อะไรแม้แต่คำเดียว เขาเพียงแค่มองชมผาด้วยสายตานิ่งสงบแต่ในความเงียบนั้น กลับมีบางสิ่งแฝงอยู่
ความสำนึกผิด
แต่ความรู้สึกผิดของสิงหะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วได้
ชมผาเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของสิงหะสุดแรงดึงอีกฝ่ายให้โน้มเข้ามาใกล้จนแทบชนกัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นขณะที่ดวงตาของสิงหะมีแต่ความเงียบงัน
"กูไปทำอะไรให้มึงมึงถึงต้องทำแบบนี้กับกู! มึงคิดว่ากูเป็นตัวอะไร?! เป็นของเล่นให้มึงระบายความใคร่รึไง?!"
ชมผาตะโกนลั่นน้ำเสียงปนสะอื้น มือกำคอเสื้ออีกฝ่ายแน่นจนสั่นไปหมด
"มึงมันเหี้ยที่สุด...ไอ้สัตว์นรก!"
เสียงตะโกนของเขากรีดแทงบรรยากาศรอบตัวราวกับต้องการระบายทุกความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในอกออกมาให้หมด
แต่สิงหะกลับไม่ตอบอะไรไม่แม้แต่จะปัดมือของชมผาออก ไม่แม้แต่จะหลบสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
เขาเพียงแค่ยืนนิ่ง...ปล่อยให้ชมผาระบายความเจ็บปวดออกมา
และดวงตาของเขา...
มีเพียงความสำนึกผิดลึกๆที่ไม่มีใครได้ยินออกมาเป็นคำพูด
ชมผาผลักสิงหะออกไปสุดแรงจนอีกฝ่ายเซถอยหลังก่อนจะก้าวถอยหนีด้วยตัวเองเช่นกัน
เขาหัวเราะออกมาเสียงสั่นเครือร่างกายอ่อนแรงจนแทบจะทรุดลงไปกับพื้น
"มึงมันขยะแขยงที่สุด..."
เสียงของเขาเบาลงแต่เต็มไปด้วยความสมเพชและรังเกียจ
"กูเกลียดมึง...เกลียดมึงจนอยากจะฆ่ามึงให้ตายคามือ"
สิงหะยังคงเงียบดวงตาของเขาหม่นแสงลงเล็กน้อยมือข้างหนึ่งกำแน่นเหมือนต้องการกดความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
ชมผาสะบัดหน้าหนีรีบเช็ดน้ำตาที่ร่วงเงียบๆ บนแก้ม เขาไม่มีวันยอมอ่อนแอให้คนสารเลวแบบนี้เห็นอีก
เขาตวัดสายตามองสิงหะเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพูดด้วยเสียงเย็นชา
"ถ้ากูฆ่ามึงได้กูจะทำให้มึงทรมานยิ่งกว่าที่มึงทำกับกู"
เสียงหอบหายใจของชมผาดังสะท้อนในอกสายตาของเขายังคงจ้องสิงหะด้วยความเกลียดชัง ดวงตาแดงก่ำจากอารมณ์ที่เอ่อล้นเขาควรจะเดินหนีไปจากตรงนี้ แต่ร่างกายกลับแข็งทื่อราวกับถูกตรึงไว้ด้วยความสับสนและความโกรธที่ยังปะทุไม่จบ
สิงหะยังคงยืนนิ่งไม่พูดอะไร ไม่โต้ตอบ ไม่แก้ตัว เขาปล่อยให้ทุกคำด่าทอซัดเข้ามาเหมือนคลื่นซัดฝั่งแต่แล้ว...
ร่างสูงก็ขยับก้าวเข้ามาใกล้
ชมผาหรี่ตาลงอย่างระแวดระวังร่างทั้งร่างตึงเครียดขึ้นมาทันทีเมื่อสิงหะเดินเข้ามาประชิดตัว
“มึงถอยไปนะ...”
เสียงของเขาสั่นไหวแต่ยังคงแข็งกร้าว ขาทั้งสองขยับถอยหลังโดยอัตโนมัติ แต่ยังไม่ทันตั้งตัวดีร่างของสิงหะก็โน้มลงมากอดเขาเอาไว้แน่น
“ไอ้เหี้ย! ปล่อยกู!”
ชมผาดิ้นสุดแรงกำปั้นระดมทุบเข้าที่อกกว้างไม่ยั้ง ทุกแรงที่เขามีถูกใช้ไปในการผลักไสสิงหะออกไปจากตัว แต่ยิ่งเขาพยายามดิ้น สิงหะกลับยิ่งกอดแน่นขึ้น
อ้อมแขนของอีกฝ่ายแข็งแกร่งรัดแน่นจนชมผาหลุดออกไปไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้น...
มันไม่ใช่อ้อมกอดที่แข็งกร้าวเหมือนวันที่เขาถูกทำร้าย
มันไม่ใช่อ้อมกอดที่มาพร้อมความรุนแรงเหมือนในฝันร้ายของเขา
แต่มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความเจ็บปวดของอีกฝ่ายเองเช่นกัน
“ปล่อยกู... ฮึก... มึงไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้...”
เสียงของชมผาเริ่มแผ่วลงพลังในร่างกายค่อยๆ หดหายไปกับอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามาน้ำตาที่เขาพยายามกักเก็บไว้มาตลอด ร่วงเงียบๆ ลงบนไหล่ของสิงหะ
เขาไม่อยากร้องไห้ให้คนสารเลวคนนี้...แต่สุดท้ายก็กลั้นมันไม่อยู่
ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านขณะที่หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงเกินกว่าจะจัดการได้
"ฮึก...มึงทำแบบนี้ทำไม... มึงจะมาทำเป็นรู้สึกผิดทำไม..."
เสียงสะอื้นปะปนกับคำพูดที่ขาดห้วงเขากัดริมฝีปากแน่น ฝังใบหน้าลงกับไหล่อีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว ขณะที่มือของสิงหะลูบแผ่นหลังของเขาเบาๆราวกับจะปลอบโยน
ชมผารู้ว่าเขาควรจะผลักอีกฝ่ายออกไปควรจะด่าทอ ควรจะทำให้สิงหะเจ็บเหมือนที่เขาเคยเจ็บ
แต่ในตอนนี้...เขาเหนื่อยเกินไปแล้ว
เหนื่อยเกินกว่าจะเกลียดเหนื่อยเกินกว่าจะสู้
เสียงสะอื้นของเขาแผ่วเบาลงเรื่อยๆท่ามกลางอ้อมกอดที่ไม่ควรได้รับ
และสิงหะ...ก็ยังคงไม่พูดอะไร
เขาแค่กอดชมผาเอาไว้แน่นขึ้นเรื่อยๆ
ราวกับไม่ต้องการให้ร่างในอ้อมแขนแตกสลายไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง...
เสียงสะอื้นของชมผาสั่นไหวในอ้อมแขนของสิงหะ
เขาอยากผลักไสอยากดิ้นหนี แต่แรงทั้งหมดที่มีถูกใช้ไปแล้ว ร่างกายของเขาหมดเรี่ยวแรงมีเพียงแค่หยาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด และเสียงหอบสะอื้นที่ยังหลงเหลือ
สิงหะกอดแน่นขึ้นไม่ปล่อย ไม่ขยับ ไม่พูดอะไรเลย
ความเงียบที่หนักอึ้งโอบล้อมพวกเขามีเพียงเสียงฝนที่เริ่มโปรยปรายลงบนหลังคาเรือน และเสียงลมหายใจที่ขาดห้วงของชมผา
“ทำไม...”
เสียงของชมผาแหบพร่าเขากัดริมฝีปากแน่น ดวงตาหลับลงแต่หยดน้ำใสยังไหลออกมาไม่ขาดสาย
“ทำไมมึงถึงต้องเป็นคนคนนั้น...ทำไมต้องเป็นมึง... ฮึก...”
สิงหะกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นกว่าเดิมปลายนิ้วของเขาแตะลงบนแผ่นหลังที่สั่นสะท้านของชมผา ลูบไล้เบาๆ อย่างเงียบงัน
"ขอโทษ..."
เสียงของเขาเบาจนแทบเป็นเพียงสายลมพัดผ่านแต่ชมผาได้ยินมันชัดเจน
ชมผากัดฟันแน่นข่มอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักสิงหะออกสุดแรง
"มึงไม่มีสิทธิ์มาขอโทษกู!"
เสียงของเขาดังก้องไปทั่วห้องดวงตาแดงก่ำทั้งจากความโกรธและความปวดร้าว
"คำขอโทษของมึงไม่มีค่าอะไรทั้งนั้น!มันไม่ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นเปลี่ยนไปได้มันไม่ลบไอ้ความรู้สึกสกปรกในตัวกูออกไปได้!"
มือของเขากำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือสายตาสั่นระริกด้วยความสิ้นหวัง
“มึงเข้าใจมั้ย...มึงทำลายกูไปแล้ว...”
เสียงสุดท้ายขาดห้วงออกมาพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด
สิงหะยังคงยืนนิ่งมองชมผาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ริมฝีปากเม้มแน่น แต่เขาก็ยังไม่พูดอะไร
เพราะเขารู้ดีว่า…ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป มันก็ไม่มีทางเปลี่ยนความจริงได้
ชมผาหัวเราะออกมาเสียงสั่นเครือ
"มึงเงียบทำไมสิงหะ?! มึงพูดอะไรออกมาสิ!มึงกล้าใช่มั้ยตอนที่มึงทำ มึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงตั้งใจ มึงไม่เผลอมึงไม่ได้ถูกบังคับ แต่มึงเลือกที่จะทำ!"
เขาก้าวเข้าไปผลักอกสิงหะสุดแรงจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
"มึงมันเหี้ย!มึงมันสารเลว! กูเกลียดมึง!!!"
เสียงตะโกนของชมผากรีดแทงผ่านอากาศ
แต่สิงหะกลับไม่ตอบโต้ไม่แม้แต่จะเบี่ยงตัวหลบแรงผลักจากชมผา เขาเพียงแค่ยืนนิ่งรับเอาความเกลียดชังทุกอย่างจากอีกฝ่ายไว้โดยไม่ปริปาก
เขาสมควรได้รับมัน…
ชมผาหอบหายใจหนักน้ำตาที่พยายามสะกดกลั้นไว้ก็ร่วงลงมาอีกครั้ง
เขาอยากจะเกลียดสิงหะไปจนวันตาย...อยากจะฆ่าให้ตายไปเลย แต่ในขณะเดียวกันเขาก็อยากให้ตัวเองลืมเรื่องทั้งหมดให้ได้ ลืมว่าคนที่ทำร้ายเขาคือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้
แต่ทำไม…ทำไมมันถึงได้ยากเหลือเกิน…
สิงหะมองชมผาที่กำลังสั่นสะท้านดวงตาของเขามืดมน
และในวินาทีนั้นเองเขาก็ยกมือขึ้นช้าๆ สัมผัสลงบนใบหน้าของชมผาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา
ชมผาสะดุ้งเฮือกถอยหลังหนีทันที
"อย่ามาแตะต้องกู!"
เสียงของเขาแข็งกร้าวแต่แฝงไปด้วยความสั่นไหว
สิงหะหยุดนิ่งปลายนิ้วที่เอื้อมไปแตะอีกฝ่ายค้างอยู่กลางอากาศ ก่อนที่เขาจะกำมือลงช้าๆลดมือลงข้างตัว
เขารู้...ว่าเขาไม่มีสิทธิ์แตะต้องชมผาอีกแล้ว
ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปลอบประโลมไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะบอกว่ารู้สึกผิดแค่ไหน
ชมผาสูดลมหายใจเข้าลึกพยายามสะกดอารมณ์ที่ปั่นป่วนในอก เขาเช็ดน้ำตาออกอย่างแรงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสิงหะด้วยแววตาที่เย็นชา
"เกิดอะไรขึ้น!"
เสียงตะโกนก้องของพ่อดังขึ้นจากด้านนอกเรือนก่อนที่บานประตูจะถูกผลักออกแรงจนกระแทกกับผนัง
ชมผาสะดุ้งเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะรีบผลักสิงหะออกจนอีกฝ่ายถอยหลังไปสองก้าว
พ่อของเขากวาดตามองภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็วดวงตาคมกริบของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความสงสัย
ข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้นร่างของลูกชายที่ดูอ่อนแรงและดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้
และสิงหะที่ยืนอยู่ตรงนั้นสีหน้าราบเรียบ แต่รอบตัวเต็มไปด้วยบรรยากาศแปลกประหลาด
"พวกมึงทะเลาะอะไรกัน!"พ่อถามเสียงเข้ม น้ำเสียงแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ชมผาเม้มปากแน่นพยายามควบคุมลมหายใจให้เป็นปกติ รีบเบือนสายตาหลบ
"ไม่มีอะไร..."
พ่อของเขาชะงักมองชมผาด้วยสายตาที่ไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียว
"ไม่มีอะไร?นี่เรียกว่าไม่มีอะไรเหรอชมผา! กูได้ยินเสียงมึงร้องไห้โวยวายตั้งแต่ข้างล่าง!"
ชมผาสูดลมหายใจลึกพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ที่ยังคงปั่นป่วน เขาส่ายหน้าช้าๆ
"ทะเลาะกันเฉยๆพ่อ... ไม่มีอะไรจริงๆ"
พ่อของชมผาขมวดคิ้วมุ่นสีหน้าของเขาตึงเครียด ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่ลูกชายอย่างพินิจพิเคราะห์
"ทะเลาะกันเฉยๆอย่างนั้นเหรอ?"
เสียงของพ่อกดต่ำน้ำเสียงแฝงไปด้วยความไม่พอใจ ชายวัยกลางคนกวาดตามองไปรอบเรือนอีกครั้งสภาพข้าวของที่กระจัดกระจายไปทั่ว บรรยากาศอึดอัดที่ปกคลุมร่างของชมผาที่ดูเหมือนเพิ่งผ่านพายุอารมณ์อย่างหนัก และสิงหะที่ยังยืนนิ่งเงียบไม่พูด ไม่แก้ตัว
"ทะเลาะกันแค่ไหนถึงทำให้มึงร้องไห้จนตัวสั่นแบบนี้"พ่อของเขากดเสียงต่ำ ดวงตาเริ่มฉายแววไม่พอใจมากขึ้น
ชมผาเม้มปากแน่นพยายามควบคุมสีหน้าและอารมณ์ของตัวเองให้คงที่ เขาไม่อยากพูด...ไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย
แต่ท่าทีของเขากลับทำให้พ่อยิ่งสงสัย
"มึงพูดความจริงมาเดี๋ยวนี้ชมผา!ไอ้เด็กนี่มันทำอะไรมึงรึเปล่า!"
พ่อของเขาหันขวับไปมองสิงหะน้ำเสียงแข็งกร้าวเต็มไปด้วยความโมโห ชายวัยกลางคนก้าวเข้าไปประชิดตัวอีกฝ่ายร่างกายเต็มไปด้วยแรงกดดันที่มหาศาล
สิงหะไม่ได้ตอบอะไรไม่แม้แต่จะขยับตัวหรือเงยหน้าขึ้นสบตาพ่อของชมผา
เขาเงียบ...เงียบจนน่าประหลาด
ชมผามองภาพตรงหน้าหัวใจเต้นแรง ถ้าหากพ่อของเขารู้ความจริง ถ้าหากเรื่องมันแดงขึ้นมา...สิงหะจะเป็นยังไง?
ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดอีกฝ่ายมากแค่ไหนแต่...
"ไม่มีอะไรจริงๆพ่อ!"
ชมผาโพล่งออกไปรีบคว้าแขนของพ่อไว้แน่น ดวงตาสั่นไหวจากความหวาดกลัวและสับสน
พ่อของเขามองชมผาด้วยสีหน้าหนักใจก่อนจะหันกลับไปมองสิงหะอีกครั้งด้วยแววตาไม่ไว้วางใจ
"มึงออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!"
เสียงของพ่อเฉียบขาดและหนักแน่น
"เอาตัวมันออกไป!"
ลูกน้องสองสามคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเรือนรีบเข้ามาทันทีพวกเขาตรงเข้าไปคว้าแขนของสิงหะ กระชากตัวเขาออกไปโดยไม่แม้แต่จะถามคำถาม
สิงหะยังคงไม่ขัดขืนยอมให้ตัวเองถูกพาออกไปเงียบๆ ไม่มีท่าทีขัดขืนหรือพยายามแก้ต่างใดๆ
ชมผายืนมองแผ่นหลังของสิงหะที่ค่อยๆห่างออกไป จนกระทั่งอีกฝ่ายถูกลากออกจากเรือนโดยไม่หันกลับมามองแม้แต่นิดเดียว
เสียงประตูปิดดัง ปัง!
บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบพ่อของชมผาหันกลับมามองลูกชายของตัวเองสายตาเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบ
"ชมผา...บอกพ่อมาตามตรงเถอะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่"
ชมผาก้มหน้าลงพยายามกลั้นทุกอย่างไว้ให้ลึกที่สุด
"ไม่มีอะไรจริงๆพ่อ..."
เสียงของเขาแผ่วเบาแต่หนักแน่นพอที่จะทำให้พ่อยอมถอย
ชายวัยกลางคนถอนหายใจยาวก่อนจะตบไหล่ลูกชายเบาๆ "ถ้ามีอะไร อย่าปิดบังพ่อ"
ชมผาไม่ได้ตอบอะไรได้แต่นิ่งเงียบ ปล่อยให้พ่อเดินออกจากเรือนไป
เมื่อเสียงฝีเท้าของพ่อค่อยๆจางหายไป ความเงียบก็เข้าปกคลุมอีกครั้ง
ชมผาสูดลมหายใจลึกกัดริมฝีปากแน่น สองมือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือ
มันจบแล้ว...สิงหะหายไปแล้ว
เขาควรจะดีใจสิ…
แต่ทำไม...
ทำไมในอกถึงได้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกำลังฉีกขาดอยู่ข้างใน
ชมผากำมือแน่นดวงตาแดงก่ำแต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว เขาสูดลมหายใจลึกพยายามกอบโกยอากาศเข้าไปในปอดที่รู้สึกหนักอึ้งราวกับมันกำลังถูกบีบรัด
เขาเดินโซเซไปที่เตียงทรุดตัวลงนั่งเหมือนคนหมดแรง
มือของเขายังสั่น
อ้อมแขนของสิงหะยังติดอยู่ในความทรงจำ
"ไอ้เหี้ย..."
ชมผาพึมพำออกมาเบาๆเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน แม้แต่ตัวเองก็แทบจะไม่ได้ยิน
เขายกมือขึ้นปิดหน้าสะกดกลั้นอารมณ์ทั้งหมดไว้ข้างใน
มันจบแล้ว... จริงๆใช่ไหม?
ด้านนอกเรือน
สิงหะถูกคนของพ่อชมผาลากตัวออกมาจากเรือนโดยที่เขาไม่ได้ขัดขืนแม้แต่นิดเดียว
เขาสมควรได้รับมันอยู่แล้ว
ดวงตาคมของเขานิ่งสงบไม่มีแววโต้ตอบอะไรเลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางสายตาไม่ไว้วางใจของบรรดาลูกน้องของพ่อชมผาที่มองเขาอย่างไม่ชอบใจ
"ถ้ากลับมายุ่งกับนายอีกพวกกูไม่เอามึงไว้แน่"
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังสิงหะไม่ได้ตอบ ไม่แม้แต่จะหันไปมอง
เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นในขณะที่ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาจากฟ้า
หยดฝนเย็นๆ ตกกระทบผิวกายแต่กลับไม่อาจดับไฟในอกของเขาได้
ความเงียบของชมผา...ดวงตาของชมผา... น้ำตาของชมผา...
ทุกอย่างยังติดอยู่ในหัวเขาราวกับฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้น
เขาทำลายชมผาไปแล้ว
และตอนนี้...
เขาก็ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะอยู่ข้างๆอีกต่อไป
สิงหะเงยหน้ามองฟ้า ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาทำให้เสื้อผ้าของเขาเปียกชื้นแต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเย็นเลยแม้แต่น้อย
มีเพียงความรู้สึกหนักอึ้งที่กดทับลงบนอก
บางที...มันคงจะสายเกินไปแล้ว
ในเรือนของชมผา
เสียงฝนที่ตกลงมากระทบหลังคาดังก้องอยู่ในห้องเงียบราวกับกำลังซ้ำเติมความคิดของเขา
ชมผานั่งกอดตัวเองอยู่บนเตียงสายตาเหม่อลอยไปยังบานหน้าต่างที่เปิดอยู่ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาทำให้เสื้อผ้าของเขาขยับไหว
เขาควรจะลุกไปปิดหน้าต่างควรจะเช็ดน้ำตา ควรจะจัดข้าวของที่กระจัดกระจายให้เข้าที่
แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้เลย
เขาเอาแต่คิดถึงอ้อมแขนคู่นั้น...กลิ่นอายของสิงหะ...
ดวงตาของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด...
"กูจะไม่มีวันให้อภัยมึง..."
เขาพึมพำเสียงเบาทั้งที่ไม่รู้ว่าคำพูดนี้เป็นสิ่งที่เขาอยากจะย้ำเตือนตัวเองหรือเป็นสิ่งที่เขาอยากจะตอกย้ำสิงหะกันแน่
ชมผาเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง
พรุ่งนี้...ทุกอย่างคงจะดีขึ้น
เขาพยายามบอกตัวเองแบบนั้น
แต่ในใจลึกๆ เขารู้ดี
ไม่มีวันหรอก
ไม่มีวัน...
เสียงฝนตกกระทบหลังคาดังต่อเนื่องราวกับไม่มีวันหยุด
สิงหะเดินฝ่าฝนไปตามเส้นทางที่ทอดยาวกลับไปยังเรือนใหญ่ร่างสูงโปร่งของเขาชุ่มโชกไปด้วยน้ำฝน เส้นผมเปียกแนบไปกับใบหน้าแต่เขากลับไม่ยกมือขึ้นปาดมันออก
น้ำฝนไหลอาบแก้ม...ปะปนไปกับน้ำตาที่เขาไม่คิดจะกลั้นมันไว้อีกต่อไป
***************************
สมควรโดนละไอ้สิง
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ต่อไป
คงได้เห็นไอ้สิงง้อเมียในสักวัน
|