ประสบการณ์วัยเรียนของเพื่อน ๆ เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับผมแล้ว มันจืดชืดมาก นอกจากเรียน กลับหอมาทำการบ้าน แล้วก็นอน หลังจากนั้นก็ตื่นไปเรียนอีกวัน เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ จนนี่ก็เกือบจะจบปี 4 แล้ว ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ หรือไปทำกิจกรรมอะไรกับใครหรอกครับ แต่ที่เป็นแบบนี้ เพราะความขี้ขลาดของผมเอง ตั้งแต่เด็ก ผมเป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แล้วก็ติดเป็นนิสัย ผู้คนมักมองว่าผมเห็นแก่ตัว หรือไม่ก็โลกส่วนตัวสูง แต่ความจริงแล้วผมไม่ต่างจากพวกเขาเลย ทุกครั้งที่มีโอกาสได้มองดูกลุ่มคนปาร์ตี้หรือเที่ยวผับกัน ผมเองก็อยากจะไปอยู่ในที่แบบนั้นสักครั้ง ทว่าเพราะความกลัวของผมจึงปฏิเสธที่จะเผชิญกับมัน ในเรื่องของความรักและความใคร่ ผมก็มีเหมือน ๆ กับทุก ๆ คนนั่นแหละครับ แต่สิ่งที่ผมทำได้ คือการนอนดูสิ่งเย้ายวนผ่านหน้าจอมือถือ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไลน์ลับ เว็บเล่าเรื่อง คลิปญี่ปุ่น รวมไปถึงทวิตเตอร์สายดาร์คด้วย ผมเป็นคนที่กลัวการเปลี่ยนแปลงมาก ๆ กังวลว่าหากผมทำอะไรที่แตกต่างจากปกติไป ผลที่ตามมาจะทวีคูณ จนกระทั่ง… "ไม่เอาครับแม่ บีมไม่ย้าย" ผมปฏิเสธเสียงอ่อย เมื่ออยู่ ๆ แม่ก็โทรมาบอกว่าการเงินทางบ้านมีปัญหา อยากให้ผมช่วยประหยัด โดยการย้ายออกจากหอที่ผมพักอาศัย ไปอยู่ที่หอในแทน "แต่บีม…คุณ มาคุยกับลูกสิ" มาไม้นี้จนได้ แม่ผมใจอ่อนเพราะทนเสียงอ้อนผมไม่ไหวจึงได้เรียกพ่อมาตุย และพ่อก็เป็นคนที่ผมไม่กล้าเถียงด้วยที่สุดเลย "แม่พูดไม่รู้เรื่องหรอ ถ้าไม่ย้ายก็ลาออก หรือไม่ก็หาเงินเรียนเอง แค่นี้แหละ" พ่อผมพูดจบก็เงียบไป ผมได้แต่นิ่งสะอึกกับทางเลือกที่พ่อมอบให้ "เอาน่าลูก ทนอีกหน่อย แค่นิดเดียวเอง" ผมเคยอยู่คนเดียวมาตลอด ถ้าจะให้ย้ายไปอยู่หอในที่มีผู้ชายมากหน้าหลายตา แถมยังเป็นห้องน้ำแบบรวมอีก ผมทนไม่ไหวแน่ ๆ "แม่ครับ….ถ้าเกิดว่า บีมหารค่าห้องกับเพื่อนล่ะครับ!!!" "แม่ขอภายในวันนี้ได้ไหม จะได้เอาไปต่อรองกับพ่อเค้าได้" ผมประมวลหนทางด้วยความรวดเร็ว และนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมสามารถให้ได้ โดยไม่รู้เลยว่า การตัดสินใจครั้งนี้ จะนำผมไปสู่อะไร หลังจากที่ทำข้อตกลงกับแม่ได้ ไม่รอช้าที่ผมจะรีบทำการโพสประกาศในเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมถึงเพจและกลุ่มในเฟสบุ๊ค 2 z, K( S" H: \4 Y* |. W
‘หาเพื่อนร่วมห้อง ขอคนอยู่ง่ายกินง่าย หอพักติดกับมหาวิทยาลัย เดินทางสะดวก มีเฟอร์นิเจอร์พร้อม เตรียมมาแค่ของใช้ส่วนตัว ไม่ยุ่งกับชีวิตกัน อยู่ใครอยู่มัน ขอคนพร้อมอยู่ยิ่งดี’
& C1 f( f: Y- X6 ~/ c. a8 w ผมนั่งอ่านทวนข้อความที่พิมพ์เอาไว้ แต่รู้สึกว่ามันทะแม่ง ๆ ยังไงไม่รู้ เปลี่ยนหน่อยดีกว่า 8 Z) t+ H5 k7 Y
หาคนหารค่าห้องด่วน! 1.หออยู่ติดมหาวิทยาลัย เดินทางสะดวก 2.มีเฟอร์นิเจอร์ครบ มีห้องน้ำในตัว พร้อมอยู่ได้เลย 3.รายละเอียดอื่น ๆ สามารถพูดคุยกันได้ สนใจติดต่อ 08x-xxx-xxxx
( ?3 H0 f1 E+ O8 [ หลังแก้ไขเสร็จ ผมทำการโพสมันลงไปในทุกช่องทางเท่าที่จะทำได้ เพื่อหาคนมาช่วยลดภาระให้ได้เร็วที่สุด ไม่นาน ก็มีคนโทรติดต่อเข้ามาเต็มไปหมด แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะคำถามที่อีกฝ่ายอยากรู้ดูเหมือนจะเป็นไปในทางไม่ดีเท่าไหร่นัก ผมมานั่งถอนหายใจ กังวลเรื่องที่จะต้องทำใจ หากผมหาคนหารค่าห้องไม่ได้ จะต้องย้ายไปอยู่หอใน ตายแหงแก๋ "เอ่อ นายที่โพสหารูมเมทป่ะ" ผมเงยหน้าขึ้นตามเสียงที่ได้ยิน "ชะ ใช่ครับ!" ผมยกยิ้มขึ้นมาในทันทีเมื่อมีคนเข้ามาสอบถาม พร้อมสำรวจชายตรงหน้าที่มาพร้อมกับกระเป๋าใบหใญ่และข้าวของเต็มมือ "เอ่อ นั่งก่อน ผมขอสัมภาษณ์นิดหน่อยนะครับ" ชายที่ยืนอยู่พนักหน้าเข้าใจ แล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อนฝั่งตรงข้าม ข้าวของที่มียกวางไว้ข้างตัว "ครับ เริ่มเลยนะ ผมชื่อบีม…." "อืม เรารู้อยู่แล้ว" "เอ๊ะ?" ยังไม่ทันที่ผมจะบอกข้อมูลคร่าว ๆ เสร็จ ก็ถูกขัดขึ้นมาก่อนจนผมงง "รู้จักผมหรอครับ?" คู่สนทนาขมวดคิ้วย่นพร้อมเอียงคอเล็กน้อย นิ้วยกขึ้นชี้เข้าไปที่หน้าอกตัวเอง "เรา…อยู่คณะเดียวกัน บีมไม่รู้หรอ? ตอนปี 1 เราเรียนวิชาเสรีแล้วก็วิชาพื้นฐานคลาสเดียวกันด้วย" "อะ เอ่อ โทษทีนะ ผมจำไม่ได้" ผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ เพราะนึกไม่ออก ทำเอาอีกคนหงอยลงไป ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มอ่อน ๆ ทำเอาผมรู้สึกผิด "อืม ไม่เป็นไร สัมภาษณ์ต่อเลย" "เราชื่อบีม อันนี้รู้อยู่แล้ว โอเค งั้นนายชื่ออะไร ปกติเข้าห้องน้ำเวลาไหน เข้านอนกี่โมง ซักผ้าวันไหน…" ที่ผมถามส่วนมากเป็นเวลาที่อีกฝ่ายทำกิจวัตรประจำวัน อย่างเวลาใช้ห้องน้ำ เวลาตากผ้า เวลาเข้านอน เพื่อที่จะได้ไม่ชนกัน "โห ละเอียดขนาดนี้เลยหรอ" ผมพยักหน้ายืนยัน ใจจริงไม่ว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าอะไร ผมก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเวลาตัวเองแล้ว เพราะหากชวดไป ผมคงต้องไปอยู่หอในอันแสนทรมานจริง ๆ "ผมชื่อแดน เวลาเข้าห้องน้ำคือตอนที่อยากเข้า ไม่ได้กวนนะ แต่เรื่องนี้ผมไม่ทราบจริง ๆ ไม่เคยดูเวลา ผมจะซักผ้าทุกวันเสาร์ ส่วนเวลาเข้านอน อืม…ประมาณ 4 ทุ่มมั๊งครับ แล้วบีมล่ะ" "เห้ย ไม่ใช่สิ ไม่ต้องถามกลับ ว่าแต่ทำไมถึงรีบขนาดนี้ล่ะ" ผมมองของที่แดนขนมาเยอะแยะ หากผมปฏิเสธไปต้องหอบเดินหาที่พักใหม่ ลำบากแย่เลย "ผมพึ่งเลิกกับแฟนน่ะ" เอ๋ เลิกกับแฟน ผมฉงนใจมองหน้าแดนงง ๆ พึ่งเลิกกับแฟน แต่ไม่มีท่าทีเสียใจ แถมยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกอีก แปลกคนแหะ จากที่สัมภาษณ์คร่าว ๆ ก็ถือว่าค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว ดีกว่าสายที่โทรมาหลายสายในช่วงบ่าย "ยินดีต้อนรับครับ รูมเมท" ผมยกยิ้มพร้อมยื่นมือไปเช็คแฮน แดนเองก็ยื่นมือมาจับมือผมเขย่าเบา ๆ "ยินดีเช่นกันครับ อ้อ อย่าลืมไปลบทวีตด้วยนะครับ ผมว่าคงไม่จำเป็นแล้ว" เอ๊ะ ทวีตหรอ? เดี๋ยวนะ ผมประกาศหารูมเมทในทวิตเตอร์ด้วยหรอ "เอ๊ะ?" ผมทำหน้าตาเหรอหรา เพราะถ้าแดนรู้ข่าวนี้จากทวิต งั้นแสดงว่าผมทวีตไปจริง ๆ แต่ทวิตเตอร์บัญชีเดียวที่ผมมี ผมเอาไว้ส่องแต่แอคเค่อบัญชีเดียวนี่สิ!!! ไม่ทันหายงง แดนก็ลุกขึ้นพร้อมหยิบข้าวของขึ้นมาถือเดินไปยังบันไดทางขึ้น ปล่อยผมเหวออยู่กับที่จนตั้งสติได้รีบคว้ามือถือขึ้นมาแล้วทำการเปิดแอปนกฟ้าไปลบทวีตตัวเอง จากนั้นก็ตามลบโพสที่อื่น ๆ จนหมดเพราะว่าได้รูมเมทแล้ว แม้จะจากทวิตเตอร์ก็ตาม "เอ่อ แดน ขอถามอย่างนึงสิ" ผมไม่สนใจแดนที่กำลังจัดของอยู่ในห้องนอน "ว่า" "คือ รู้ได้ไงว่าเป็นทวิตเรา แดนไม่ได้โทรมาด้วยซ้ำ" แดนที่ฟังผมพูดอึกอัก ผมจ้องเค้นคำตอบเพราะสงสัยจริง ๆ แต่ที่ผมกังวลกว่าคือกลัวแดนไปบอกคนอื่น "คือ เอ่อ จะดีหรอ" "มีใครรู้อีกบ้างป่ะ" ไม่รอแดนตอบ ผมรีบถามสวนด้วยความร้อนใจ แดนส่ายหัวทันทีทำเอาผมโล่งอกเผลอถอนหายใจ "ค่อยยังชั่ว แดนจะไม่บอกใครใช่ไหม?" คนที่ฟังหันมามองผมด้วยสีหน้าสดใส แล้วพยักหน้าให้ ผมเลยขอบคุณไป ไม่สำคัญว่าจะรู้ได้ไง แค่อย่าไปบอกใครก็พอ "แล้วนี่…มีเตียงเดียวหรอ" แดนมองไปยังเตียงคิงไซต์เดี่ยวกลางห้อง หันซ้ายเจอห้องน้ำ หันขวาเจอระเบียง แล้วก็วกกลับมามองหน้าผม "เอ่อ ใช่ ผู้ชายเหมือนกัน ไม่ถือเนอะ หรือถ้าแดนถือ ผมนอนพื้นก็ได้" ผมรีบเสนอเงื่อนไข "เห้ย ไม่ต้องขนาดนั้น เตียงตั้งใหญ่ นอนด้วยกันก็ได้" หลังจากแนะนำห้องเสร็จว่ามีอะไรอยู่ตรงไหน ผมก็นั่งเขียนตารางเวลาห้องน้ำของผมให้กับแดน เพื่อที่จะได้ไม่ชนกัน จากนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ ผมเดินลงหอมาที่ร้านอาหารเจ้าประจำ และสั่งเมนูโปรดซึ่งก็คือผัดไทยผสมหอยทอด เป็นเมนูที่ผมมองว่าคุ้มที่สุด เพราะได้กินถึง 2 อย่างในราคา 60 บาทแถมเติมผักได้ไม่อั้น จากที่กะจะลองกินตอนปี 1 นี่ปี 4 แล้วก็ยังไม่เบื่อ ผมสั่งเสร็จก็ออกมาโทรหาแม่เพื่อบอกว่าผมสามารถหาคนช่วยหารค่าห้องได้แล้ว แม้ว่าพ่อจะยอมรับในเงื่อนไข แต่ยังใจแข็งให้แม่ลดค่าขนมผม จากที่ให้ใช้เดือนละ 12,000 เหลือเพียงเดือนละ 8,000 บาท แม้ผมจะไม่ใช่คนเที่ยว แต่ก็ชอบซื้อของใช้จุกจิกเลยไม่ค่อยมีเงินเก็บ "ก็ได้ครับแม่ บีมยอมให้ลดก็ได้ งั้นแค่นี้นะครับ บีมขอไปกินข้าวก่อน" หลังวางสายผมก็คิดคำนวณในหัว หากลดค่าใช้จ่ายเรื่องของจุกจิกก็พอได้ แต่ถ้ารวมค่าชีทค่าเอกสาร ไหนจะค่าทำวิจัยบลา ๆ ๆ จะมีเงินพอกินอยู่นิดเดียวเอง ระหว่างที่กำลังคิดเงินในหัวอยู่ หันกลับไปยังโต๊ะที่นั่ง ปรากฏว่ามีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว "บีมนี่ ยังกินเหมือนเดิมเลยเนอะ" "แดนรู้ได้ไง ว่าผมชอบกินเมนูนี้" ผมถามออกไปตรง ๆ ด้วยความสงสัย เป็นจังหวะเดียวกับที่ป้าเจ้าของร้านข้าวตะโกนชื่อเมนูที่ทำเสร็จ แดนเลยขอตัวลุกออกไปรับจานข้าวมาแล้วนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผม ‘ไข่เจียวหมูสับ’ ผมมองดูไข่เจียวในจานของอีกฝ่าย พร้อมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองแดน จะว่าไปก็รู้สึกคุ้น ๆ แหะ "คิดออกหรือยัง" แดนถามย้ำ ผมก็ยังนึกไม่ออกเลยส่ายหัวให้ "หึหึ อยู่ ๆ ไปเดี๋ยวก็จำได้เอง ว่าแต่พรุ่งนี้มีเรียนเช้าใช่ไหม" แดนถามก่อนที่จะตักข้าวที่มีไข่เจียวกับชิ้นหมูบดเข้าปากเคี้ยว "ใช่ ทำไม แดนมีเรียนเช้าเหมือนกันหรอ?" "เปล่าหรอก แค่ถามดู" เรานั่งกินข้าวด้วยกันจนเสร็จ และได้พูดคุยกันนิดหน่อย ทำให้ได้รู้ว่า นอกจากเรียนคณะเดียวกันแล้ว แดนยังเป็นเดือนคณะในปีที่ผมเรียนอีกด้วย "บีมไม่เบื่อบ้างหรอ แค่เรียนกับอยู่ห้อง เป็นแดนแดนเบื่อตายเลย" "ก็เบื่อ แต่ให้ทำไงได้" "งั้น เอางี้ไหม อาทิตย์หน้าไปเที่ยวกัน" "ไม่เอาอะ" "เอาน่า นะ เดี๋ยวเรียนจบไม่มีโอกาสได้ทำแล้วนะ" โอกาสงั้นหรอ ใช่สิ แต่ไหนแต่ไรผมไม่เคยได้ไขว่คว้าโอกาสพวกนี้เอาไว้เลย "แดนไปเลย" "โห่ นะ ไปด้วยกัน เดี๋ยวแดนเลี้ยงเอง" แดนยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก ผมเลือกที่จะเงียบไม่ต่อบท แดนเลยยอมเลิกตื๊อผม "จะว่าไป ตอนแรกบอกว่าเลิกกับแฟน แต่ดูแดนไม่เสียใจเลย" ผมถามไปตรง ๆ ไม่ได้อยากยุ่งกับชีวิตของใครหรอก ปกติก็ไม่ยุ่ง แต่ไม่รู้อะไรทำให้ผมถามคำถามนี้ออกมา แดนสีหน้าสลดลงเล็กน้อย ทำเอาผมรู้สึกผิดเลย "เห้ย ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ…" "ไม่ต้องเลย บีมจี้ใจว่ะ" แดนทำหน้าเป็นตูด ผมก็ทำตัวไม่ถูกสิครับแบบนี้ "ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ" กลายเป็นผมเองที่พูดเสียงสั่น จนแดนที่กำลังก้มหน้ารีบเงยขึ้นมองด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล "เห้ยบีม จะร้องหรอ อย่านะ แดนแค่แกล้งเล่น ไม่เป็นไร" ผมเห็นแบบนั้นก็ตกใจสิครับ "ชิ ไม่ต้องเลย ไม่คุยด้วยแล้ว!" ผมลุกขึ้นจากเตียงเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากไว้พาดบ่า จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ผมใช้เวลาครู่เดียวก็อาบเสร็จ แต่จังหวะที่ผมเดินกลับออกมา ผมก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นรูมเมทคนใหม่กำลังทำในสิ่งที่ผมไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็น ไอ้แดน รูมเมทของผม มันกำลังช่วยตัวเอง แถมทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น!! "แดน!!" แดนตกใจรีบหันมาทางผมหลังจากที่ร้องเรียกชื่อมันไป "บีม โทษทีว่ะ พอดีอารมณ์ค้างอะ" แดนมันบอกผมด้วยน้ำเสียงที่สั่นระริก แถมยังทำราวกับเป็นเรื่องปกติ ละสายตาหันไปมองดูสิ่งบันเทิงในมือถือของมันต่อ "มาดูด้วยกันป่ะ โคตรเด็ด มาใหม่ด้วย" ไม่พอ มันยังเอ่ยชวนผมอีก ผมยืนมองมันด้วยความสับสนในสถานการณ์ตอนนี้ ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มรูปหล่อดีกรีเดือนคณะกำลังช่วยตัวเอง มือนึงคลึงหัวนม อีกมือกุมน้องชาย สายตาจ้องมือถือที่มีเสียงอิ๊อ๊ะดังลอดออกมา หน้าท้องที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามเนื้อกระเพื่อมตามแรงหายใจ ‘เดี๋ยวเรียนจบไม่มีโอกาสได้ทำแล้วนะ’ คำพูดของแดนผุดขึ้นมาในจิตใต้สำนึก ผมชั่งใจคิดอยู่ในหัว ว่าถ้าผมพลาดโอกาสนี้ ผมคงเสียดายมันแย่ พรึบ! ผ้าเช็ดตัวถูกปลดลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า ผมเดินข้ามมันไปแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างแดน สายตาผมจ้องไปยังมือถือจอเล็กที่แดนถือเอาไว้ เป็นวิดีโอญี่ปุ่นที่มีผู้ชายสองคนกำลังทำรักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผมดูได้แวบเดียวก็ละสายตา เนื่องจากมีสิ่งอื่นดึงดูดความสนใจผมได้มากกว่า ตัวแดนที่ขาวโอโม่ บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงผลทับทิม ตามตัวมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเคลือบผิว กลิ่นกายที่สัมผัสมาจากกลิ่นตัวอ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นโคโลญจาง กล้ามท้องเป็นลูกและป้านอกที่แข็งเป็นก้อนกระเพื่อมเนิบนาบตามจังหวะหายใจที่ถูกผ่อนออกมา ผมใช้สายตาโลมเลียตัวของแดนตั้งแต่หัวจรด… แท่งเนื้อร้อนสีขาวมีเส้นเอ็นปูดโปน บริเวณหัวนั้นถอกบานสวยแถมมีสีม่วงอมชมพูแลดูไม่ต่างจากสัสันของไม้ดอกที่มีน้ำค้างยาวเช้าเกาะ จังหวะที่แดนชัก มือเลื่อนผ่านไปแตะโดนมันเข้า ก็เหนียวยืดติดมือ ทว่าแดนไม่สนใจยังคงรัวมือทำกิจของตัวเอง "ของบีมสวยจัง" "ห๊ะ อะ เอ่อ…" อยู่ ๆ แดนก็เอี้ยวตัวหันกลับมามองน้องชายของผมที่ตอนนี้มันกำลังแข็งกระดกมีน้ำใสไหลเยิ้มลงที่พื้น ผมตกใจทำตัวไม่ถูก รีบยื่นมือเข้าไปกอบกุมเพื่อปิดบังจากสายตา แดนยิ้มเป้ยพร้อมกับหยุดทำกิจกรรมของตัวเอง "ขอโทษ แดนทำต่อเลย ไม่ต้องสนใจเรา" ผมเบนหน้าหนีแล้วเตรียมจะลุกออกเพราะเกรงใจคิดว่ารบกวนแดน หมับ! ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลุกขึ้นดี ที่ข้อมือถูกดึงรั้งเอาไว้จนเสียการทรงตัวล้มทั้งยืน "อ๊ะ! แดน!!" ผมตกใจเมื่อจู่ ๆ ร่างทั้งร่างก็ล้มลงอยู่บนตักของแดน แต่ที่ตกใจไปกว่านั้น คือบางสิ่งบางอย่างที่มันแข็งง้ำยันก้นของผม ใบหน้าของแดนแดงแจ๋ขึ้นมาทันควัน ผมได้สติรีบใช้มือยันพื้นเพื่อดันตัวเองออก แต่จังหวะที่ขยับ มือผมกลับปาดป่ายไปโดนตัวแดน "-///-" สติผมหลุดลอยออกจากร่างอีกครั้ง เมื่อมือที่ปัดไปมาโดนตัวของแดน สิ่งที่รับรู้คือความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะโดนตรงไหนก็รู้สึกถึงความแข็งแรงกำยำ ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง ท่อนแขน ขา รวมไปถึงมีจังหวะหนึ่งที่มือผมได้สัมผัสกับเอ็นร้อนกลางลำตัว "อ๊ะ โทษที เราขอโทษ" ในที่สุดผมก็ผละตัวออกมาจากแดนได้และรีบยืนขึ้นพร้อมคำขอโทษ ทว่าภาพที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ คือผมที่กำลังยืนเต็มความสูง โดยที่ท่อนเนื้อของผมนั้น มันจ่ออยู่ตรงหน้าแดนห่างไม่ถึงคืบจนลมหายใจอุ่น ๆ ของแดนพ่นรดมันอยู่ แค่ลมหายใจอุ่น ๆ นั้น ทำผมเขินจนไร้การควบคุมอีกครั้ง "อ๊ะแดน ไม่ไหว ขอโทษ ถอย ถอยไป๊" ปรี๊ดดด ปรี๊ด ปรี๊ด ผมตกใจปล่อยน้ำกามสีขาวพุ่งทะลักออกมา ขณะที่เบี่ยงตัวหลบ กลับต้องประหลาดใจเมื่อแดนยื่นมือทั้งสองข้างจับสะโพกของผมหยุดนิ่ง ที่สำคัญ น้องของผมตรงกับใบหน้าอันหล่อเหลาของแดนพอดี "แฮก แฮก แฮก" ผมยืนหอบหายใจพร้อมกับตะลึงในสิ่งที่เห็น น้ำรักกระจัดกระจายเต็มใบหน้าของแดน ยังมีบางส่วนที่กระเซ็นไปโดนผม ผมมองดูภาพสวยงามแถมยั่วยวนเร้าอารมณ์ น้ำสีขาวบางส่วนไหลย้อยจากหน้าลงไปยังแผ่นอกแกร่งและหน้าท้องแข็ง "ขอโทษ แดน เราขอโทษ" ผมรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แดนเองกลับไม่ได้สนใจในคำพูดผม พร้อมยิ้มโชว์ฟันสวย ไม่พอยังแลบลิ้นเลียของเหลวที่ติดขอบปากเข้าไปชิม "อึก อ่า ของบีมหวานดีจัง!" ผมตกใจ ไม่คิดว่าแดนจะพูดแบบนี้ แล้วรอยยิ้มนี่มันอะไรกัน รอยยิ้มจากชายหนุ่มที่หน้าเลอะน้ำกาม ทำไม ทำไมผมถึงแข็งอีกแล้ว "คราวนี้ ตาแดนบ้างนะครับ!!" ผมไม่รู้ว่าแดนจะสื่อถึงอะไร แต่สีหน้าแดนตอนนี้เปลี่ยนไป ราวกับแววตาของนักล่าที่กำลังจ้องขย้ำเหยื่อ ทำผมขนลุกซู่ "บีม บีมขอไปล้างตัวก่อนนะ" หมับ! "รีบไปไหนครับ ถึงไปตอนนี้ เดี๋ยวก็เลอะตัวอีก" แดนลุกขึ้นยืนคว้าข้อมือผมไว้ ทำผมตัวสั่นเกร็ง สายตาของแดนเปลี่ยนเป็นสดใสร่าเริง พร้อมกับคำพูดอ้อน "บีมเสร็จแล้ว แดนยังไม่เสร็จเลย ทำให้แดนบ้างสิครับ" ผมกลืนน้ำลายอึก หลุบตาก้มลงไปมองยังอนาคอนด้าตัวใหญ่ที่พร้อมจะเขมือบเหยื่อของมัน "นะครับบีม ผลัดกัน นะครับ" น้ำเสียงออดอ้อนทำผมใจอ่อน ยืนตัวโยนให้แดนลากจูงอย่างง่ายดาย ฟึบ! ฟึบ! แดนดึงแขนผมไปนั่งลงที่ปลายเตียง จากนั้นก็นำมือผมไปวางพาดไว้ที่บนน้องชายของตัวเอง มันทั้งใหญ่ ทั้งยาว แถมยังร้อน ดูน่ากลัว "อื้อ อ๊าส์ แบบนั้นแหละครับ ค่อย ๆ ดีมาก มือบีมนุ่มมาก อูยยย" แดนเอ่ยชมผมทำรู้สึกดี เพราะเป็นดุ้นแรกที่ผมเคยสัมผัส ไม่สิ เป็นดุ้นแรกที่ผมเห็นด้วยสองตาจากกายหยาบนี้จริง ๆ ผมจ้องมองดูท่อนเนื้อด้วยแววตาที่เปร่งประกาย เพราะไม่เคยเห็นแบบนี้จากไหนมาก่อน ผมจ้องมองด้วยความรู้สึกหลงไหลและหวาดกลัวไปพร้อมกัน "บีมเคยทำแบบนี้กับใครไหมครับ" แดนเงยหน้าหลับตาพริ้มพูดด้วยเสียงกระเส่า "ไม่เคย ของแดนคนแรกเลย" "จริงหรอ อ่าาส์" แดนดีใจเกร็งน้องชายกระตุกในมือผม "แดนล่ะ เคยมีคนทำแบบนี้ไหม" ผมถามกลับเพราะความอยากรู้ "อ่าาส์ ก็มีเพื่อน แล้วก็แฟน ผมได้ยินแบบนั้นกลับยิ่งเสียวขึ้นไปอีก คาดไม่ถึงว่าเดือนคณะจะทำกิจกรรมแบบนี้มาแล้ว ยิ่งรู้ว่ามากกว่าหนึ่งคนยิ่งตื่นเต้น "เล่าให้บีมฟังหน่อยสิ" ผมไม่เคยมีประสบการณ์ เลยอยากรู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง เคยเจอไหม แล้วทำไมถึงกล้า" "อ่าส์ ครั้งแรกก็เป็นเพื่อนสนิทตอนมัธยม อูยยย ไปค้างบ้านมัน แล้วมันเปิดหนังโป๊ดู เลยชักว่าวด้วยกัน" "แล้วไงต่อครับ" "ตอนหลัง ๆ ก็ผลัดกันชักบ้าง" ผมฟังก็จินตนาการถึงหนุ่มหล่อตรงหน้า ยิ่งเห็นภาพผู้ชายสองคนแมน ๆ กำลังทำแบบที่แดนเล่า ยิ่งเร้าอารมณ์ ผมขึ้นไปนั่งบนเตียงด้านหลังซ้อนตัวของแดนไว้ จากนั้นส่งมือลูบคลำยังท่อนรัก พร้อมอีกมือวนเขี่ยที่ยอดอกเต่งตึง เป็นเทคนิคที่ผมได้จากการเสพดูทวิตเตอร์ของชาวไต้หวัน "อูย ดีมาก ดีมากครับบีม แดนเสียว" "เล่าต่อหน่อยครับ" ผมรบเร้า แดนจึงเล่าให้ฟังเพิ่มอีก "ตอนเก็บตัวประกวดเดือน อ่าส์" ผมนึกถึงตอนปี 1 ที่เดือนและดาวแต่ละคณะจะเก็บตัวเพื่อฝึกซ้อมโชว์ โดยการเก็บตัวจะแยกที่พักชาย-หญิง "หืม เกิดอะไรขึ้นบ้างครับ" ผมหลับตาพริ้มจินตนาการถึงเดือนแต่ละคณะ ผู้ชายหน้าตาดีที่ถูกคณะเลือกให้มาอยู่รวมกัน ทุกคนอาบน้ำด้วยกัน แก้ผ้าอวดกัน มีบางคนใส่ชั้นใน บางคนเปลือยหมด ผมนึกภาพแดนที่อยู่ในวงล้อมเหล่านั้น ตกดึกด้วยอารมณ์ดิบห่ามของผู้ชาย เลยผลัดกันเล่าเรื่องเสียว แต่ละคนทนไม่ไหวล้วงควักออกมา บางคนเปิดเผยว่าเป็นไบ เล่าประสบการณ์ ผมที่ได้ฟังก็ชะงักงัน ภาพเดือนคณะและเดือนมหาลัยที่เคยเห็นผ่าน ๆ ผุดขึ้นในหัว ไม่คาดคิดว่าคนที่ดูสมาร์ท ทะมัดทะแมง จะทำเรื่องแบบนั้นกัน ในตอนนี้เอง ผมถึงรู้สึกเสียดายเวลาและชีวิตที่ใช้มาตลอด 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ขณะที่ผมกิน มีบางคนกำลังเสพสังวาส ในขณะที่ผมอ่านหนังสือ มีหลายคู่ที่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะ ในขณะที่ผมหลับ มีหลายคนที่มั่วเซ็กกันในปาร์ตี้ ผมทนไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ผมเสียดายจริง ๆ "บีมครับ…หยุดทำไมหรอ แดนกำลังเสียวเลย" ในหัวของผมต่อต้านตัวเอง อีกไม่นานผมก็จะเรียนจบแล้ว และหากเรียนจบ ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว "แดนอยากเสียวกว่านี้หรือเปล่าครับ…" ผมกระซิบข้างหูของแดนเบา ๆ สัมผัสได้ว่าแดนกำลังขนลุกเนื้อเต้น ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ ไม่ใช่เวลามาหาคำตอบ "ครับ จัดมาเลยครับบีม แดนพร้อมแล้ว!!" ผมตัดสินใจลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่หว่างขาของแดน ตอนนี้ผมหายใจติดขัดด้วยความตื่นเต้น ไม่คาดคิดมาก่อนว่าในชีวิตจะได้มีโอกาสทำอะไรแบบนี้ "ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มเลยนะ แดนจะไม่บังคับ" ผมเงยหน้าสบตากับแดน ไม่รู้เหมือนกันว่าแดนเป็นใคร แต่ผมรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่พิเศษมาก ๆ กับแดน แววตาใสของแดนเสริมความกล้าให้กับผม ภาพและคลิปในความทรงจำจากที่เคยดูเคยเสพจำนวนมหาศาลไหลเข้าหัวผม สิ่งแรกที่ผมทำ คือการใช้มือขวาถอกหนังหุ้มลงจนสุด แล้วใช้มือซ้ายกำเข้าชัก ทว่าท่อนเนื้อของแดนยังมีส่วนคอหยักเหลื่อมออกมา บ้าน่า นี่สองกำโผล่เลยหรอ? แพล็บ แพล็บ แดนทำการผงกหัวทักทาย ผมเลยอดใจไม่ไหวแลบลิ้นเลียไปยังเส้นสองสลึงที่ขึงตรงยึดกับเนื้อคอหยักกับหัวม่วง "ซี๊ดดด อ่าส์ อูย" ผมชอบใจที่เห็นแดนร้องคราง เลยแลบลิ้นเลียไปที่ด้านบน เลียลงไปยังใต้เงี่ยง ก่อนที่จะนึกอะไรสนุก ๆ แล้วทำการเล่นตามที่เคยอ่าน ลิ้นลากผ่านไปยังไข่แฝดช้า ๆ จากนั้นเลยไปยังปากรูที่ปิดสนิท แม้จะมีขนอุยหน่อย ๆ แต่ไม่หนารก "อ๊ะ อ๊ะ อ่าส์ บีมอย่าแกล้งแดนสิครับ" "แพล็บ แพล็บ รู้ด้วยหรอ" ผมยิ้มชอบใจกับท่าที และถามออกมาตรง ๆ แดนไม่ตอบรับ กลับใช้มือจับหน้าของผมล็อค แล้วไปจ่ออยู่ที่ดุ้นเนื้อ ที่ผมทำคือการเลี่ยงไปเล่นจุดอื่นเว้นส่วนอ่อนไหม แต่บัดนี้ โคนอ่อนไหวนั้นจ่อประชิดอยู่ที่ริมฝีปาก "อ่าส์ บีม แดนเสียว เลิกแกล้งได้แล้ว" ผมเม้มริมฝีปากไม่ยอมเลียมัน จนแดนทนไม่ไหวดึงหัวผมเข้าไปชนกับน้องชายตัวเอง สวบ! "อ๊าส์" "อ๊อก อ๊อก อ๊อก อ๊อก" ผมเองทนไม่ไหวเลยยอมอ้าปากรับมันเข้ามา ทันทีที่ส่วนหัวบานแตะปลายลิ้น แดนสัมผัสได้ถึงความเสียวจับหัวผมกดยัดจนมันไหลเข้าปากถึงสุดโคน ผมได้แต่สำลักเพราะไม่เคยทำ แม้จะค้านแต่สู้แรงแดนไม่ไหวรีบปรับตัวจนในที่สุดก็หายใจออก "อูยยยยย" หลังเสร็จเซทแล้ว แดนยอมปล่อยมืออกจากหัวของผมแล้วให้ผมเป็นฝ่ายโขกหัวจิกเอง ผมจึงได้ทดลองทำเทคนิคต่าง ๆ ตามที่เคยดูจากสื่อ "นุ่มมาก ปากของบีมนุ่มมากเลย" "แค่ก แล้วชอบไหมครับ แดนชอบปากของบีมหรือเปล่า" ผมคายดุ้นออกมาถาม ก่อนที่จะยัดมันกลับเข้าที่เดิม ในตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้ว ทดลองทำท่าต่าง ๆ ที่คิดว่าจะสามารถเพิ่มความเสียวได้ "บีม แดนไม่ไหวแล้ว แดนขอนะ!!" ระหว่างที่ผมถวายบัวให้ แดนพูดขึ้นมาลอย ๆ ผมเงยหน้าสบตาของแดน แดนมองผมด้วยความจริงจัง "จะดีหรอ บีมยังไม่เคย…" ใจจริงก็อยากลอง ทว่าก็กลัวจะเจ็บ "ถ้าเจ็บ แดนจะหยุด แดนสัญญา" ผมชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ เมื่อตัดสินใจที่จะลอง แดนก็ประคองร่างของผมพาเข้าห้องน้ำ แล้วทำการทำความสะอาดให้ "อ๊ะ ไม่เอา อย่ามอง" ผมรีบร้องห้ามแดนที่จ้องผมอยู่ แต่แดนกลับยิ้มด้วยความอบอุ่น "ไม่เป็นไร แค่นี้เอง" -///- แดนช่วยผมจัดการอย่างไม่รังเกียจ จากนั้นก็อุ้มผมออกจากห้องน้ำราวกับผมเป็นผู้หญิง ร่างของผมถูกจับวางบนเตียงด้วยความนุ่มนวล จากนั้นแดนก็ไปหยิบถุงยางและเจลจากกระเป๋าของตัวเองออกมาเตรียมไว้ "พร้อมนะครับ" ผมพยักหน้าให้เป็นสัญญาณ แม้จะกลัวแค่ไหน แต่ก็อยากที่จะลองสักครั้ง จุ๊บ! "ดะ…แดน" ผมตกใจที่อยู่ ๆ แดนก้มหน้ามาประกบริมฝีปากของผม ไม่คิดว่าแดนจะทำแบบนี้ "ถ้าเจ็บบอกแดนนะครับ" จุ๊บ การกระทำของแดนทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหว ราวกับมีอะไรบางอย่างมวลอยู่ในท้อง ทั้งอบอุ่น ทั้งรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จากจุ๊บที่ริมฝีปาก แดนเริ่มส่งลิ้นเข้ามาในปากผม กลายเป็นว่าเราสองจูบกันอย่างดูดดื่มโดยมีแดนเป็นคนนำ แล้วผมใช้ลิ้นตามการนำของแดน แดนละริมฝีปากออกอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็เปลี่ยนเป้าหมายซุกไซร้ซอกคอของผม ตามมาด้วยหน้าอก "อื้อ จักจี้" แดนเอาหน้ามาซุกซอกรักแร้ผมแล้วแลบลิ้นเลียอย่างไม่รังเกียจ แถมยกแขนผมพาดขึ้นซุกหน้าลงดอมดมจนผมเป็นฝ่ายขวยเขิน "แดน อูยยย แดน อ่าส์" ผมครางกระเส่าร้องเรียกชื่อของแดนอยู่หลายครั้งในตอนที่แดนขบงับตามเนื้อตัว จนกระทั่งปากหนาไซร้ลงไปลึกช่วงล่าง พึบ! "อ๊ะ แดน แดน อือ" แดนจับขาผมยกขึ้นพาดบ่าตัวเองจนทำผมตกใจ ตอนนั้นทั้งอึ้งทั้งตกใจทั้งกลัวทั้งอยากลอง อารมณ์ผมสวิงไปหมด เหมือนแดนจะรู้ เลยเลื่อนตัวขึ้นมาจูบผมอีกครั้ง แล้วกระซิบข้างหูผมเบา ๆ ปลอบใจ "ผ่อนคลายนะครับ ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ ไม่ต้องเกร็ง" ผมพยักหน้าเข้าใจ แม้จะทำไมได้แต่ก็พยายาม แดนยิ้มอ่อนโยนให้กำลังใจ จากนั้นก็ลดหน้าลงต่ำไปสำรวจโพรงถ้ำของผมด้วยลิ้นอุ่น ๆ ผมกลัวว่ามันจะสกปรกแม้ล้างมาอย่างดี แดนรับรู้ถึงความกังวล จึงใช้มือบีบขยำที่หน้าอกผม อีกมือก็ชักเข้าที่เอ็นน้อยจนมันกลับมาแข็งอีกครั้ง ผมเริ่มปรับตัวชินกับมัน แดนจึงบีบเจลชโลมนิ้วมือพร้อมสอดเข้าลึกในตัว "อึก อ๊าาาาาส์" สัมผัสที่แข็งทะลวงลึก ผมรู้สึกตึง ๆ จุก ๆ บอกไม่ถูก "เจ็บไหมครับ ถ้าเจ็บบอกแดนนะ" แดนคอยถามเป็นระยะ ผมส่ายหน้าปฏิเสธ แดนจึงแช่นิ้วค้างเอาไว้แล้วค่อย ๆ ขยับทีละนิด ๆ "แดนจะเริ่มแล้วนะครับ" ผมเงยหน้าขึ้นมองความใหญ่โตภายใต้ถุงใสสีชมพูอ่อน แม้จะชโลมเจลทั่วแต่ก็ยังคงดูน่ากลัวอยู่ดี "อึก อ้าาาาส์์" "เจ็บหรือเปล่า" ผมเผลอร้องก่อนจะกัดฟันกรอดเก็บเสียงตัวเอง มันไม่ถึงกับเจ็บแต่จุก จุกมาก ตึง ๆ ปวด "เอาออกก่อนนะ" แดนเห็นสีหน้าเหยเกของผมเลยจะถอนมันออกไป มีบางอย่างดลใจผมให้รั้งเอาไว้ โดยการวาดแขนไปรัดตัวของแดน มือขยำแก้มก้นกลมของแดนพร้อมดันเข้ามาใกล้ตัว "อ๊ะ อูย ของบีมแน่นมาก ตอดแดนสุด ๆ เลยครับ" "อื้อ อึก อืม" ผมได้แต่ครางตอบเพราะสะกดอารมณ์ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำได้ "เจ็บไหมครับ" "ไม่เจ็บครับ จุกหน่อย ๆ แช่เอาไว้ แฮก แช่เอาไว้ก่อน อ๊าาส์" แดนทิ้งตัวลงบนหน้าอกของผม แล้วใช้ปากงับดูดเข้าที่เม็ดติ่ง "บีม แดนไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันนี้" "อ่าา เสียว อื้อ" "บีมจำแดนได้หรือยังครับ" "อื้อ อ่าส์" ผมไม่ได้ตอบคำถาม ปล่อยให้แดนพูดของมันไปคนเดียว "บีมอาจจะลืมแดนไปแล้ว แต่แดนไม่เคยลืมบีมเลยนะ" "อูวววว" "แดนชอบบีม ชอบมาตั้งแต่วันแรกที่เจอ" อยู่ ๆ แดนพูดสารภาพรักกับผม แถมยังขยับตัวส่งท่อนลำครูดในผนังลำไส้จนมันแทงลึกเข้าไปโดนจุดเสียวผม "อ๊ะ แดน แดนครับ บีมจุก แดน อึก อ๊ะ" "บีม อย่าตอด แดนจะแตกแล้ว อ๊าาาส์" ด้วยความตกใจ ผมเลยขมิบรูเป็นการตอดรัดของแดนไปในตัว ท้ายที่สุดแดนก็น้ำแตกนอนหอบอยู่บนตัวผม จังหวะที่แดนเสร็จ ผมก็เสียวและปลดปล่อยไปพร้อมกันกับแดน เราสองคนนอนหอบในท่านั้นครู่ใหญ่ ก่อนที่แดนจะรู้สึกตัวขยับถอนน้องชายและดึงถุงยางออกจากตัว ทุ่มทิ้งลงนอนข้างผม "ก่อนหน้านี้ ที่พูด…หมายความว่าไง" ผมได้สติพลิกตัวหันไปถามแดน แดนมีท่าทีเขินอาย แต่สุดท้ายก็ยอมเล่าให้ฟัง ว่าแดนชอบผมตั้งแต่มันรวมกลุ่มเชียร์มหาวิทยาลัย แถมตอนเข้าค่ายซ้อมช่วงดึก ในขณะที่ทุกคนนอนหลับ แดนอดใจไม่ไหวแอบมาหอมแก้มผม ที่รู้ว่าผมกินอะไรเพราะตอนนั้นแดนแอบตามดูผมตลอด แถมยังติดตามสื่อโซเชียลของผม แม้ผมจะไม่ค่อยได้อัปเดตอะไร และที่รู้ทวิตหลุดผม เพราะเคยมีครั้งนึงที่ผมลืมเอาทวีตระบายอารมณ์ แต่จากนั้นไม่นานก็ลบออกแล้วไปโพสลงในเฟส แดนยังบอกอีกว่าเคยแอบตามผมอยู่นานจนถอดใจและมีแฟนมาแล้วถึง 3 คน แต่ก็ไม่สามารถลืมผมได้เลย ต้องคอยตามส่องและตามดูผมตลอด แดนเห็นเข้าพอดีรู้สึกคุ้น เลยเริ่มปะติดปะต่อจนในที่สุดก็ได้โอกาส พอผมโพสหารูมเมท แดนก็ไม่รอช้ารีบบอกเลิกแฟนสาวที่คบอยู่แล้วมาหาผมในทันที ผมไม่รู้หรอกนะว่าที่แดนพูดมาเป็นจริงหรือแค่คำโกหก แต่อย่างน้อยตอนนี้ แดนก็เป็นคนที่ทำให้ผมเปิดใจ กล้าเผชิญความกลัวที่ปิดกั้นตัวเองมานาน "ลุกไหวไหม?" หลังฟังเรื่องราวจบ แดนประคองผมเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ แดนดูแลผมเป็นอย่างดีจนเราทั้งคู่นอนกอดกันบนเตียงจนถึงเช้า 4 ~* O, l7 B5 u N8 v
__________ ดูเหมือนเรื่องเสียวที่มีความรักกุ๊กกิ๊กจะมีกระแสตอบรับดีกว่าที่เคยลงอีกแหะ ในส่วนของเรื่องรูมเมทหน้าหล่อมีตอนพิเศษนะครับ ใครสนใจอยู่ในอีบุ๊คเล่ม 1 รวมเรื่องสั้นเรื่องซี๊ดดด นอกจากนี้พี่ครับผมจะตามหาพี่พาร์ท 3 กำลังไล่ลงในทุกแพลตฟอร์มอ่านฟรี 24 ชั่วโมง ถ้าใครสนใจก็เชิญนะครับ ใครมาจากเว็บฝากกดใจฝากคอมเม้นด้วยนะครับ อุอิ ! b3 a! e q. b* \2 ]& p* I: Y
( p$ z- k7 _! d4 e1 I& a
|