สังเวยชีวิตน้ำท่วม อีก6ราย! ตากับหลานเรือจม

vera

เขื่อนสิริกิติ์เร่งระบายน้ำ ทำให้ จ.พิจิตร อุตรดิตถ์ ต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ แจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมอพยพหนีน้ำ ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำออกท้ายเขื่อน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นทะลักท่วมพื้นที่ 7 อำเภอใน จ.พระนครศรีอยุธยา และ 5 อำเภอใน จ.อ่างทอง ชาวนาต้องเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำ ขณะเดียวกัน มีผู้สังเวยชีวิตให้กับกระแสน้ำอีก 3 ราย รายแรก 3 ตาหลานล่องเรือหางยาวไปกู้ลอบดักปลา เรือชนตอม่อล่มตายยกลำเรือ 3 ศพ อีกราย 2 ผัวเมียขับรถอีแต๋นไปจอดบนสะพานเพื่อตักน้ำ ถูกกระแสน้ำพัดตกคลองจมหายทั้งคนและรถ รายสุดท้ายพ่อเฒ่าขี่รถจักรยานกลับจากซื้อกับข้าวถูกน้ำซัดจมอนาถ

สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ อีสาน และภาคกลางหลายจังหวัด ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ส.ค. น้ำในแม่น้ำคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ล้นทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎร หมู่ 9 หมู่ 11 บ้านป่าถ่อน หมู่ 10 บ้านศรีบุญยืน หมู่ 3 บ้านด้าย ต.ศรีดอนมูล ถนนหน้าวัดบ้านด้าย ถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตร ระยะทาง 200 เมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้

ต่อมานายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.เชียงราย นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ นายอำเภอเชียงแสน นำถุงยังชีพไปมอบให้ชาวบ้านทั้ง 4 หมู่บ้าน จากนั้นนายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำคำยังสูงขึ้นเรื่อยๆ สั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเฝ้าติดตามระดับน้ำและรายงานให้ทราบตลอดเวลาเพื่อจะได้อพยพประชาชนได้ทันท่วงที และในวันที่ 25 ส.ค.นี้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์และมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก จะนำถุงยังชีพพระราชทาน 3,000 ชุด มอบให้กับราษฎรที่ประสบภัยจากน้ำท่วมที่บ้านป่าสักน้อย ต.ป่าสัก และ อบต.ศรีดอนมูล

ที่ จ.พิจิตร ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจากทางเหนือที่ไหลมาตามแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอีก 10 ซม. ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นอีก 4-5 ซม. นอกจากนี้ยังมีผู้สังเวยชีวิตเพิ่มอีก 3 ศพ เมื่อเวลา 10.30น. พ.ต.ท.สุรพงษ์ นุ่มอิิ่ม สารวัตรเวร สภ.สามง่าม ไปสอบสวนเหตุพบศพ 3 ศพลอยน้ำกลางทุ่งนาหมู่ 9 ต.รังนก ทราบชื่อนายศักดิ์ชัย ภู่โพธิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 12 ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร และ ด.ช.พันธกานต์ ดาราโชติ อายุ 7 ขวบ กับ ด.ช.สิรวิทย์ ดาราโชติ อายุ 6 ขวบ หลาน ตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 ชม. สอบสวนทราบว่าเมื่อบ่ายวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์ชัยขับเรือหางยาวจะไปกู้ลอบดักปลากลางทุ่งนา โดยพาหลานชายไปด้วย คาดว่าเรือหางยาวชนตอไม้ล่ม ทำให้ตาหลานจมน้ำดับอนาถ

ขณะที่ จ.อุตรดิตถ์ เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.สมสวัสดิ์ พิมพ์ศรี ร้อยเวร สภ.ลับแล ไปสอบสวนเหตุคนถูกกระแสน้ำพัดจมหาย 2 คน บริเวณสะพานวัดโพธิ์ร้อง บ้านน้ำใส หมู่ 9 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์งมค้นหากว่า 4 ชั่วโมง พบศพนายบุญมี ปาวัน อายุ 59 ปี จมอยู่ใกล้ตอม่อ โดยมีรถอีแต๋นจมอยู่ใกล้กัน ส่วนอีกคนชื่อนางวันเพ็ญ ปาวัน อายุ 49 ปี ภรรยา ยังไม่พบตัว สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุสองผัวเมียชะตาขาด ขับรถอีแต๋นมาจอดตักน้ำในฝาย เพื่อนำไปผสมยาฆ่าแมลงฉีดที่นา ปรากฏว่าขณะจะถอยลงไปที่ฝาย ถูกกระแสน้ำเชี่ยวกราก พัดทั้งคนและรถตกคลองจมหายไป

นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผวจ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำในเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 8,646.15 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 90.92 ของความจุ สามารถรองรับน้ำได้อีก 863.85 ล้าน ลบ.ม. ประกอบกับเกิดฝนตกหนักใน จ.น่าน ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลลงสู่เขื่อนสิริกิติ์ต่อไป เขื่อนสิริกิติ์จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากปกติวันละ 60 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 65 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันนี้ จะทำให้ล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ตรอน และ อ.พิชัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนบริเวณที่ลุ่มต่ำริมน้ำน่านไหล ให้ติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำน่านอย่างใกล้ชิด เก็บสิ่งของที่จำเป็น หรือเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงไปไว้ในพื้นที่ปลอดภัย และจัดเตรียมข้าวของจำเป็นเตรียมพร้อมอพยพ หากต้องการความช่วยเหลือให้ติดต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และ ปภ.อุตรดิตถ์ หมายเลข 0-5540-3165-6

ขณะเดียวกัน นางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า คืนนี้เวลา 22.00 น. ทางเขื่อนสิริกิติ์จะระบายน้ำเพิ่มขึ้นอีก 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก จะเพิ่มความสูงขึ้นเป็น 10.40 ถึง 10.50 เมตร เท่ากับเดือน ก.ย.ปี 2538 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ใน จ.พิษณุโลก ดังนั้นในช่วง 1-2 วันนี้ อาจเกิดน้ำจากแม่น้ำน่านล้นตลิ่งได้ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก โดยเฉพาะจุดล่อแหลม บริเวณชุมชนวัดน้อย และด้านหลังโรงภาพยนตร์รามาเก่า แต่ทางเทศบาลนครพิษณุโลกได้ตั้งกระสอบทรายเสริมตลอดแนวตลิ่งไว้แล้ว คาดว่าจะสามารถรับสถานการณ์ได้ ขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันและติดตามข่าวสารทางราชการตลอดเวลา

ที่ จ.สุโขทัย เช้าวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานการประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 หลังจากสั่งปิดโรงเรียนเพราะน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ ปภ.สุโขทัย ได้นำเรือท้องแบน ล่องผ่าเวิ้งน้ำไปรับนักเรียนที่หมู่บ้านสามหมื่น หมู่ 4 ต.ปากพระ อ.เมืองสุโขทัย มาส่งริมถนนสายสุโขทัย-บางระกำ หมู่ 1 ต.ปากพระ เพื่อเดินเท้าไปโรงเรียน ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่ ไหลทะลักท่วมที่นาริมถนนสายสุโขทัย-บางระกำ หมู่ 5 ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย ยังไม่มีทีท่าจะลดลง ชาวนา ต้องรีบเกี่ยวข้าวนำมาตากบนถนน ขณะที่ระดับน้ำใน แม่น้ำยม บริเวณหน้าบ้านพัก ผวจ.สุโขทัย เริ่มลดลงเนื่องจากทางจังหวัดเร่งระบายน้ำ เตรียมรับน้ำลูกใหม่จาก จ.แพร่ ที่จะมาถึงใน 2-3 วันนี้

ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.สุโขทัย นายชาติชาย สงวนพงษ์ นายอำเภอเมือง และนายสามัญ รักษ์บริสุทธิศรี นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี ได้นำถุงยังชีพ 1,000 ชุด ไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาล ที่ชุมชนวังหิน หมู่ 4 ต.ธานี พร้อมกล่าวให้กำลังใจ และยืนยันที่จะเป็นตัวแทนพี่น้องชาว จ.สุโขทัย ยื่นหนังสือ เรียกร้องขอเขื่อนแก่งเสือเต้นต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อีกด้วย

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอีก 10-20 ซม. เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำลงท้ายเขื่อน 1,876 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำล้นทะลักท่วมบ้านเรือนสองฝั่งแม่น้ำสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.มหาราช ส่วนที่วัดบุญกันนาวาส ต.ไทรน้อย อ.บางบาล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร พ.อ.อิศเรส ศิลางาม หัวหน้าโรงงานซ่อมยาง กรมสรรพาวุธทหารบก จ.พระนครศรีอยุธยาได้นำกำลังพลกว่า 50 นาย เร่งกรอกทรายทำคันกั้นรอบเมรุ ป้องกันน้ำท่วมเพื่อให้ประชาชนใช้เผาศพได้

ขณะเดียวกันระดับน้ำในแม่น้ำน้อย ล้นตลิ่งไหลบ่าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ต.บางนมโค หมู่ 1-5 กว่า 1,000 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร นายปรีชา ดัสดุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางนมโค ระดมคนงานกว่า 20 คน เร่งทำสะพานทางเดินเข้าหมู่บ้านใช้ชั่วคราว ส่วนน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัด จุฬามณี ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก ชาวเรือรับจ้างต้องหยุดให้บริการ เกรงอาจจะเกิดอันตราย ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ ต.บางชะนี และ ต.บ้านกุ่ม ต่างนำ เรือหาปลามาออกวิ่งรับ-ส่งชาวบ้าน มีรายได้ดีวันละ 200-300 บาท สำหรับโบราณสถานที่สำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้แก่ วัดไชยวัฒนาราม วัดธรรมมาราม หมู่บ้านโปรตุเกส และโบราณสถานป้อมเพ็ชร ระดับน้ำ ยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 20-30 ซม.

ที่ จ.อ่างทอง ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังคง เพิ่มสูงขึ้น ทำให้พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น โดย เฉพาะนาข้าวริมคลองลำท่าแดง ต.ศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นคันดินที่ เกษตรกรว่าจ้างรถแบ็กโฮมาสร้างไว้ จนระดับน้ำแทบ จะท่วมมิดรวงข้าว ชาวนาต้องช่วยกันลุยน้ำเกี่ยวข้าว ก่อนที่ข้าวจะจมน้ำเสียหายหมด และนำข้าวที่เกี่ยวได้ใส่เรือบรรทุกขึ้นมาตากไว้เพื่อใช้บริโภคเอง แต่หากข้าวใช้กินเองไม่ได้ ก็ให้เป็นอาหารเป็ดไก่ต่อไป นายสมชาย อนะวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง เปิดเผยว่า ระดับน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.อ่างทอง ยังคงเพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลบ่าท่วมพื้นที่การเกษตรใน ต.ศาลาแดง ต.ป่างิ้ว ต.คลองวัว ต.มหาดไทย และ ต.จำปาหล่อ รวมทั้งบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งอีกจำนวนหนึ่ง

นายวิศว ศะศิสมิต ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยว่า สถาน– การณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอ่างทองหลังจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 5 อำเภอ 16 ตำบล 43 หมู่บ้าน 175 ครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมขัง 3,969 ไร่แต่ผลผลิตยังไม่มีรายงานความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ทาง ชลประทานกำลังเร่งสูบน้ำออกอยู่ ส่วนน้ำที่ไหลบ่าท่วม ต.โผงเผง และ ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก เกิดจากน้ำในแม่น้ำ เจ้าพระยาล้นตลิ่ง และคาดว่าอีก 2 สัปดาห์ หากสภาพ อากาศยังเป็นเช่นนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาน่าจะ สูงขึ้นอีก

จ.ปราจีนบุรี น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี รับน้ำจากด้าน อ.กบินทร์บุรี และ อ.ประจันตคาม เพิ่มสูงล้นเอ่อท่วมถนนในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี โดยเฉพาะวัดแก้วพิจิตรเป็นวัดที่เก่าแก่ ที่ทางราชการกระทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยามาแต่เดิม และเป็นที่ตั้งการศึกษาวิชาภาษาบาลีนักธรรมถูกน้ำท่วมสูง 60 ซม. ขณะที่ระดับน้ำในหลายอำเภอเริ่มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ใน อ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ อ.เมืองปราจีนบุรี และ อ.บ้านสร้าง จำนวน 27 ตำบล 154 หมู่บ้าน 5 ชุมชน 34 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับความเดือดร้อน รวม 2,451 ครัวเรือน และมีผู้สังเวยชีวิตน้ำท่วมเพิ่มอีก 1 ราย ชื่อนายไพโรจน์ เบ้าเจริญ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 3 ต.วังตาล อ.กบินทร์บุรี พบศพจมน้ำบริเวณถนนหน้าบ้านของตัวเอง สอบสวนทราบว่าเมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่นายไพโรจน์ขี่รถจักรยานกลับจากซื้ออาหารที่ตลาด ถูกกระแสน้ำซัด จนหายพร้อมรถจักรยาน ญาติออกค้นหากระทั่งพบศพ

ด้านคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โดยนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด เลขาธิการฯ ได้ออกแถลงการณ์ คัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ ระบุว่าโครงการนี้เป็นความพยายามของนักการเมือง โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนาที่ต้องการประโยชน์จากงบประมาณการก่อสร้างมากกว่า ประโยชน์ที่แท้จริงของโครงการ หรือคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและการมีส่วนร่วมของชุมชนแต่ประการใด โดยเฉพาะโครงการนี้มีผลกระทบกับชุมชนและระบบนิเวศน์อย่างรุนแรง รัฐจะต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และขอเรียกร้องต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ก่อนที่พิจารณาโครงการนี้ รัฐบาลจะต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อสุขภาพ มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นผ่านองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเฉพาะกาล ตามที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา

ที่บริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผม หน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ว่าที่เลขาธิการพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่าที่รองหัวหน้าพรรค เป็นตัวแทน มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช รับมอบเงินสด และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในโครงการ “อาสาฯ คนไทยช่วยน้ำท่วม” โดยมีประชาชนทั่วไป และภาคเอกชน มามอบสิ่งของจำนวนมาก รวมมูลค่าเงินบริจาคอยู่ที่ 4,257,500 บาท โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ประชาชนคนไทยต้องการให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่แล้วเพียงแต่มองหาช่องทางความช่วยเหลือพวกตนจึงได้อาสาที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ และจากการลงพื้นที่ยังพบว่ามีบางพื้นที่ยังไว้วางใจไม่ได้ที่อาจถูกน้ำท่วมอีก ซึ่งทุกภาคส่วนต้องระดมให้ความช่วยเหลือ

ส่วนนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) รวม 30 จังหวัด 283 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 940,961 ครัวเรือน 3,484,587 คน มีผู้เสียชีวิต 37 ศพ ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 16 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 14 จังหวัด รวม 90 อำเภอ 614 ตำบล 4,642 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 379,274 ครัวเรือน 1,142,712 คน ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ นครนายก พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และปราจีนบุรี

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า มีสถานบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขถูกน้ำท่วม 4 แห่ง ใน 3 จังหวัด คือ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.บางหลวงโดด และ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนคร-ศรีอยุธยา รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านโพธิ์ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ และ รพ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แต่ยังเปิดให้บริการได้ตามปกติ ส่วนการดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน 18 จังหวัด มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการวันละ 257 ทีม มีผู้ป่วย 51,796 ราย ไม่มีรายใดอาการหนัก โรคที่พบอันดับ 1 ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้า รองลงมาคือไข้หวัด ยังไม่พบโรคระบาด ส่วนการเยียวยาทางด้านสุขภาพจิต มีผู้ที่ต้องติดตามดูแลใกล้ชิด 106 ราย

ids

ขอบคุนคับ