แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kindaieiji เมื่อ 2011-12-1 21:33
ตอนที่ ๑....
“อาร์ม เอกสารด่วนว่ะ”
พี่เอกพูดพลางหยิบซองเอกสารตราครุฑสีน้ำตาลที่มีตราปั๊มว่า“ด่วนที่สุด” ส่งมาให้ผม
“มีอะไรวะ อาร์ม”
พี่เอกถามในขณะที่ผมกำลังเปิดซองเอกสารและอ่านข้อความในเอกสารอยู่
“ในที่สุดก็มาถึงแล้วสินะ
เอกสารคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ค่ายอบรมเยาวชนไงพี่”
ผมตอบพลางอ่านรายชื่อเจ้าหน้าที่ในแต่ละชุด
“พี่เอกพี่กับผมอยู่คนละชุดกันนะพี่ ผมอยู่ชุดเดียวกันกับไอ้บาสไอ้วุฒิ
และพี่สุรชัยว่ะพี่ ผมได้ขึ้นเหนือ”
ผมตอบพี่เอกไป
“เออ...ทำงานเครียดกันมามากแล้ว
เปลี่ยนบรรยากาศมาลงชุดมวลชนสัมพันธ์บ้างก็ดีเหมือนกันว่ะ..
แล้วเดินทางต่างจังหวัดนาน ๆอย่างนี้แผลที่แขนหายดีหรือยังวะ...
ไม่มีคนตามไปดูแลนะเว๊ย...”
พี่เอกแซวผม...
“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่แผลก็แห้งดีแล้วเกือบหายเป็นปกติแล้วละ
แขนก็ใช้งานได้ดีแล้วไม่ต้องห่วงหรอกน่า ”
ผมตอบพี่เอกไป...
"เออข้าไม่ได้ห่วงแขนเอ็งสักเท่าไหร่หรอกว่ะไอ้อาร์ม...
แต่ห่วงไอ้ฟิล์วแฟนเอ็งต่างหากเล่า...งานนี้มันจะว่าไงมั่งวะ...
มันยิ่งขี้หึงอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอไปเหนือนาน ๆหนุ่มเหนือน่ารักนะเฟ๊ย...
โดยเฉพาะตำรวจอย่างเรา ๆ ติดง่ายนักแหละ”
พี่เอกแซวผมมา...ใช่ครับ...ผมเป็นตำรวจ...และแฟนผมก็เป็นผู้ชาย...หรือง่าย ๆผมเป็นเกย์นั่นเอง...หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมพี่ที่หน่วยงานถึงได้รู้ว่าผมเป็นเกย์....ผมแสดงออกเหรอ...?....
ผมสาวเหรอ...?...ไม่เลยครับ....ผมเป็นผู้ชายแมนๆด้วยซ้ำบุคลิกผมมาดออกจะเนี๊ยบ เข้ม ดูดี
ตามแบบฉบับของหนุ่มนักเรียนนายร้อย
“ธรรมดาน่าพี่ ฟิล์วเค้ารู้ผมเป็นยังไง”
ผมตอบพี่เอกไป...พลางนึกถึงพ่อทูนหัวของผม...
เมื่อประมาณหกเดือนที่ผ่านมา...ผมได้มีโอกาสรู้จักกับหนุ่มธนาคารนายหนึ่ง...
บอกได้เลยว่าน่ารักมากเหตุก็ด้วยผมไปทำธุรกรรมกับทางธนาคารแห่งนั้น
จนได้รู้จักกับเค้าคนนั้นและการติดต่อธุรกรรมกับทางธนาคารนั้นเอง
ทำให้เราสองคนสนิทสนมกันมากขึ้นจนในที่สุดเราก็ได้เป็นแฟนกัน....
ฟิล์วเป็นคนน่ารัก ผิวขาว ตาสวยเหมือนผู้หญิง สูงราว 173 รูปร่างสมส่วน
เข้ากับรูปหน้าอันหล่อเหลาเอาการอยู่พอตัว
และโดยเฉพาะบทรักอันร้อนแรงของเค้านั้นเองทำเอาผมจนมุมอยู่หมัดเลยเชียว
แต่ความเจ้าชู้ของเขานั้นเล่ามันช่างทำให้ผมหวั่นใจยิ่งนัก
แต่ก็ไม่เท่าอาการขี้หึงของคุณเธอหึงแบบไร้เหตุผล
แต่ถึงแม้ผมจะเหนื่อยใจกับการตามหึงของฟิล์วสักเท่าไรผมก็สุขใจอยู่ลึกๆ ไม่น้อย
ว่าเขารักเราแน่นอน
ผมนั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนกระทั่งพี่เอกคนเดิม
เดินมาบอกให้ผมเตรียมตัวปฏิบัติภารกิจสุดท้าย
ของการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดในค่ำคืนนี้
ผมจึงตื่นจากห้วงภวังค์ความคิดของตัวเอง
ช่วงเย็นวันนั้นเอง ระหว่างที่ผมกำลังตรวจเช็คความเรียบร้อยของอาวุธปืน
เพื่อต้องใช้ป้องกันตัวอยู่นั่นเอง บาสก็เดินหน้าเสียเข้ามา
พร้อมกับบ่นหลังจากทำความเคารพผมแล้ว ผมจึงเอ่ยถามไปว่า
“เป็นอะไรไปวะบาส”
บาสบอกผมด้วยหน้าตาท่าทางที่ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าใดนักเ
กี่ยวกับการออกปฏิบัติหน้าที่ในค่ำคืนนี้
เนื่องจากเป็นภารกิจที่เสี่ยงอันตรายพอสมควร
เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นลูกของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และมีอิทธิพลอยู่เหมือนกัน
ผมจึงพูดปลอบใจลุกน้องอยู่พักใหญ่
เพื่อเรียกกำลังใจและให้คลายกังวนลงได้ แต่มันกลับบ่นว่าเสื้อเกราะกันกระสุนของมัน
ติดอยู่ในรถซึ่งแฟนใช้ขับเดินทางไปหาพ่อและแม่ที่ต่างจังหวัด
สุดท้ายผมอดไม่ได้ที่จะส่งเสื้อเกราะกันกระสุนตัวของผมให้กับลูกน้องไปใช้
เพื่อความสบายใจของมัน.....และนั่นเอง
เป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ต่อๆ ไปของเรื่องจากต่อนี้...................