เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะครับ แต่งโดย: ซ่ากับวินครับ
เเรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้น ไม่เกี่ยวกันคนหรือสถานที่จริงใดๆทั้งสิ้น
โปรดใช้จักรยาน เอ้ย! วิจาณญาณในการอ่าน
Let’s go , Baby stop breakin’ my heart You heard me No more next time I hope you get that boy
เมื่อไรจะได้เป็นเจ้าของหัวใจดวงนั้นสักที
ถนนสายเล็กเพียงสองเลนภายในย่านชุมชนเมืองที่โอบล้อมไปด้วยตึกสูงใจกลางเมืองเงียบเหงาลงจากเมื่อชั่วโมงที่แล้วนั้นเพราะเวลานี้เป็นช่วงเริ่มงานในช่วงบ่าย ผู้คนจึงไม่พลุกพล่านมากนัก
“พี่พีช…” นัยต์ตาสีน้ำตาลวาววับดังดวงแก้วใสมองผ่านไปยังประตูร้านเค้กเล็กๆที่เพิ่งเลือนเปิดเข้ามาชายหนุ่มตัวสูงในชุดไปรเวทสีเข้มทาบทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีอ่อนให้ความรู้สึกถึงความอ่อนโยนที่แฝงเร้นอยู่ในความคมเจ้มของใบหน้าหล่อเหลา
ข้าวฟ่างหนุ่มน้อยอายุน้อยกว่าแนบถาดสีน้ำตาลเข้มที่ว่างเปล่าลงกับอกเล็กพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มที่คุ้นเคย
“เงียบเหมือนกันใช่ป่ะ?”
“อื้อ!” ฟ่างพยักหน้าเร็วๆพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี๋ประจำที่ชายหนุ่มน้องชายเจ้าของร้านดอกไม้ตรงข้ามจะเข้ามาหยุดนั่งในเวลาเท่านี้ทุกวันมือบางวางถาดลงบนโต๊ะก่อนจะเอื้อมมือไปรับดอกกุหลาบสีขาวคล้องการ์ดเล็กๆจากชายหนุ่ม
เหมือนทุกวัน….
“ให้ทุกวันแบบนี้ขาดทุนแย่…” ทำเป็นพูดแล้วก้มมองดอกกุหลาบสวยไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้าเพราะกลัวว่าทำนบน้ำตาที่พยายามกักกั้นเอาไว้จะไหลทะลักออกมา
ปลายทางของดอกไม้สีสวยนั้นมันไม่ใช่เขา
“ฟ่าง~ มาช่วยพี่ดูนี้ก่อนสิ” เสียงหวานดังมาจากหลังร้านฟ่างขานรับเสียงเรียกนั้นพร้อมกับหันกลับมาโบกมือลาพี่ชายตัวสูงที่ต้องกลับไปเฝ้าร้านฝั่งตรงกันข้ามเช่นเดิมพีชยิ้มบางๆมองร่างเล็กก่อนจะหันหลังกลับไปในทิศทางที่จากมา
แผ่นหลังที่ฟ่างคุ้นเคย…
“พี่ฟ้าครับ…”ฟ่งเดินเข้ามาในครัวที่พี่สาวใช้อบขนมก่อนจะยืนดอกไม้ให้หญิงสาวที่งดงามดังนางฟ้าสมชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้
“อ่า… ขอบใจจ๊ะ” รับมาแล้วก็ก้มลงดูดดมความหอมของกุหลาบนั้นพร้อมกับเปิดการ์ดอ่านก่อนผิวแก้มขาวจะแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูสวยฟ่างเบื้อนนัยต์ตาออกจากภาพเบื้องหน้าด้วยหัวใจที่ปวดร้าวไม่เคยเปิดดูการ์ดนั้นสักครั้ง เขาจะทนได้อย่างไรถ้าเห็นข้อความหวานล้ำจากคนให้
แอบรักคนที่มาจีบพี่สาวตัวเองได้ไงกันนะ ฟ่าง…
“ฟ่าง~” เจ้าของชื่อหยุดเท้าเล็กเอาไว้บนถนนก่อนจะหันกลับมาหาเจ้าของเสียงทุ้มที่หยุดเท้าเขาเอาไว้รอยยิ้มบางๆฉายขึ้นบนดวงหน้าหวานหากแต่แท้จริงแล้วฟ่างกำลังฝืนยิ้มให้คนที่กำลังวิ่งตามมาข้างหลัง
“ไปไหนน่ะ”
“ไปซื้อของให้พี่ฟ้า” มือเล็กชูรายการยาวเป็นหางว่าวให้คนตัวสูงดูก่อนทำท่าจะก้าวต่อแต่คนตัวเล็กก็จำต้องตัวแข็งค้างอยู่กับที่เพราะมือหนาวางทาบลงบนเรียวแขนเล็กความรู้สึกอุ่นร้อนแทรกซึมไปทั้วทั้งร่างจากข้อแขนเล็กลุกลามไปถึงหัวใจจนมันเต็นผิดจังหวะไป
“งั้นพี่ไปด้วย”
“แต่…”
“จะได้ช่วยถือของไง”
ช่วยถือไปส่ง… จะได้เจอพี่สาวใช่ไหมล่ะ!
ใช้เวลาไม่นานทั้งคู่ก็ถึงห้างสรรพสินค้าขนาดกลางที่ตั้งอยู่ใกล้ร้านของพวกเขาที่สุดพีชเป็นคนเข็นรถตามหลังร่างเล็กบอบบางที่ก้มดูรายการที่พี่สาวจดให้พลสงพึมพำไม่ได้ศัพท์อยู่คนเดียวจนกระทั่งเจ้าของร่างเล็กนั้นรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกจับจ้องจึงหันสายตากลับไปยังทิศทางนั้นทันที
ตึก ตึก
ฟ่างพูดไม่ออกได้แต่ก้มหน้าแล้วหันกลับไปมองรายการสินค้าเมื่อพบว่าสายตาคมคู่ที่กำลังจับจ้องมานั้นเป็นของสารถีรถเข็นจำเป็นฟ่างหน้าร้องละกลัวเหลือเกินที่จะแดงซ่านจนผิดปกติ รอยยิ้มที่น่าหลงไหล…พี่พืชกำลังยิ้มให้ฟ่าง!
พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดก่อนจะเอื้อมคว้ากระป๋องเนยกล่องใหญ่แต่ด้วยความไม่ทันระวังและเพราะความสูงที่เกินเอื้อมจึงทำให้กระป๋องอื่นๆตกมาด้วย
“ระวังนะ!”
ในตอนนี้ ฟ่างกำลังล่องลอย ลำแขนยาว แผ่นอกหนาอุ่น กลิ่นน้ำหอมละมุนทุกอย่างชวนให้เคลิบเคลิ้ม มือหนาที่วางอยู่บนกลุ่มผมทำให้รู้สึกปลอดภัยฟ่างหลับตาร่างกายไม่อาจขยังเขยื้อนได้เมื่ออีกคนรั้งเอวบางเข้าหาตัวพร้อมกับกักกั้นร่างทั้งร่างเอาไว้ด้วยลำแขนยาวแน่นหนาจนกระทั่งน้ำเสียงนุ่มอ่อนโยนกระซิบถามใกล้ใบหูขาวที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดเจ้าของร่างเล็กจึงได้มีโอกาสขยับตัว
“เป็นอะไรมั้ย”
“ไม่ไม่ครับ ขอบคุณ”
ถึงแม้ว่าร่างกายจะเป็นอิสระแล้วแต่รังสีความอบอุ่นที่เคยโอบล้อมร่างกายก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมฟ่างล้มหน้าขอบคุณร่างสูงอีกครั้งก่อนจะหยิบกระป๋องเนยเพียงกระป๋องเดียวลงรถเข็นแล้วเข็นไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายเพราะยังไม่ได้ก้มดูรายการต่อ ฟ่างรู้เพียงว่าเขาอยากไปให้ไกลพี่พีชที่สุดที่ไหนก็ได้ที่ทำให้เขาลบเลือนสัมผัสนั้นที่ไหนก็ได้ที่ทำให้เขาลบเลือนความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้นนี้ออก
ทั้งคู่ใช้เวลาซื้อของเพียงไม่นานบทสนทนาระหว่างพีชและฟ่างแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยเพราะพีชเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วประกอบกับฟ่างคนที่เคยเจื๊ยวแจ้วกลับเลี่ยงที่จะพูดคุยความรู้สึกอึมครึมเหมือนท้องฟ้าก่อนฝนพรำจึงเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา
“อ่าเหมือนฝนจะตกเลย เรารีบกลับกันเถอะ”
ไม่เพียงแค่บรรยากาศอึมครึมระหว่างพวกแต่ในตอนนี้ท้องฟ้าภายนอกกำลังขมุกขมัวฟ่างเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าตามที่อีกฝ่ายบอกก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยพีชให้ฟ่างถือถุงที่เล็กที่สุดแล้วร่างสูงเป็นคนริบถุงที่เหลือเอาไว้
ก้าวเดินไปตามฟุตบาทเล็กๆได้ไม่เท่าไรเม็ดฝนเย็นฉ่ำก็ปรอยปรายลงมาตามความคาดหมายมือหนาคว้ามือนิ่มก่อนจะพาร่างเล็กเข้ามาหลบละอองฝนใต้กันสาดของร้านหนังสือแห่งนึง
“แย่จัง…เสียเวลาชะมัด”
ฟ่างเช็ดหยดน้ำออกจากใบหน้าหวานด้วยผ้าเช็ดหน้าสีอ่อนที่พกติดตัวมาด้วยกลีบปากเล็กห่อเข้าหากันเพราะลมเย็นที่พัดผ่านไปพร้อมกับสายฝน
“พี่พีชรีบหรือเปล่า…ไม่น่าต้องมาติดกับฟ่างเลย”
นานทีเดียวก็ร่างเล็กจะทำใจให้มองร่างสูงเต็มตาได้แล้วเรียวตาสีสวยก็จำต้องเบิกขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าคมเข้มนั้นประปรายไปด้วยหยาดน้ำฝนไม่ต่างจากก่อนที่เขาจะเช็ดออกฟ่างรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนให้เพราะขืนปล่อยไว้อีกฝ่ายอาจไม่สบายได้
“อะ…เอ่อ” ฟ่างติดอ่างขึ้นมาอีกครั้งเมื่อยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับคนตัวสูงแล้วปฏิกิริยาที่ได้รับคือรอยยิ้มแล้วการยกมือที่เต็มไปด้วยถุงสินค้าขึ้น
“ไม่ต้องก็ได้” พีชเห็นคนตัวเล็กลำบากใจจึงเอ่ยขึ้นมาพร้อมหันหน้าไปทางอื่นร้อนถึงคนที่กำลังกำผ้าเช็ดหน้าอยู่ข้างๆ ฟ่างลอบสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพูดออกมาเร็วๆ
“ไม่เป็นไรฟ่างเช็ดให้นะฟ่างไม่อยากเป็นต้นเหตุให้พี่พีชไม่สบายเพราะดันซวยออกมากับฟ่างในวันที่ฝนจะตก”
พี่พีชหัวเราะขำคนที่ยกเหตุผลมาอ้างเสียยืดยาวก่อนจะค่อยๆหันใบหน้าหล่อๆที่รบกวนจิตใจฟ่างกลับมาแม้จะรวบรวมกำลังใจแล้วแต่ฟ่างก็ยังประหม่าเมื่อตอนที่ยกผ้าเช็ดหน้าไว้ในระดับดวงหน้าของคนตัวสูง
“ขอบใจนะ” พีชเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มเมื่อเนื้อผ้านุ่มทาบลงบนแก้มอูมคนตัวเล็กเพียงแค่พยักหน้าหร้อมกับรีบทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จฟ่างค่อยๆซับหยดน้ำออกจากใบหน้าหล่อเหลา โดยไม่อาจห้ามนัยต์ตาหวานไม่ให้สอดประสานกับอีกคนได้
“อีกเดียวฝนคงซาเราคงจะได้กลับเดี๋ยวพี่ฟ้าของนายจะเป็นห่วง”
“อื้อ!”
ฟ่างละมือจากใบหน้าคม พร้อมกับกำผ้าเช็นหน้าแน่นนัยต์ตาสีหวานหลุบมองพื้นที่เงนอง ชื่อของพี่สาวยังดังก้องไปทั่วประสาทการรับรู้ ข้าวฟ่างคนทรยศ….
เป็นดังคำที่พีชว่าหลังจากนั้นไม่นานฝนก็ซาและหยุดไปในที่สุด ทั้งคู่จึงเดินกลับมายังร้านเบเกอรี่เล็กประตูร้านเปิดออกก่อนที่ฟ่างจะเริ่มเปิดคนเปิดประตูร้านยิ้มให้ทั้งสองร่างที่เดินเข้ามาด้วยกันก่อนจะถาม
“อ้าว ไปด้วยกันมาหรอ”
“ครับ…เดียวฟ่างเอาของไปเก็บข้างในนะ” เลี่ยงออกจากสถานการณ์เบื้องหน้าเป็นสิ่งที่ควรกระทำฟ่างมองร่างสูงเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะรวบของทั้งหมดมาถือไว้เองแล้วก้าวต่อไปยังส่วนครัว
ท่าทางเขินอายของสองคนข้างหลังทำให้เม็ดฝนเล็กไหลรินออกจากนัยต์ตาสีสวยฟ่างต้องการหยุดความคิดทั้งหมด…ไม่เอาอีกแล้ว
ฟ่างตามกลิ่นหอมของขนมปังอบลงมาจากชั้นบนวันนี้พี่ฟ้าตื่นเช้ากว่าปกติอีกทั้งยังเข้าไปขลุกอยู่ในห้องครัวทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุดของร้านร่างเล็กเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะที่พี่สาวกำลังจัดขนมใส่ในกล่องอาหารเล็กๆ
“อะแฮ่ม!” ทงเฮแสร้งกระแฮ่มไอ ได้ผลพี่สาวสะดุ้งตัวก่อนจะถอนหายใจเบาๆเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือน้งชาแสนรัก
“มีอะไรพิเศษเปล่านะ นางฟ้าถึงตื่นแต่เช้ามาเข้าครัวแบบนี้”
“ชู่ว์ ฟ่างนี้ก็นะ! ก็แค่อยากตอบแทนเจ้าของดอกไม้เขาบ้างน่ะ” ใบหน้าหวานสวยแดงระเรื้อยามเมื่อพูดประโยคนั้นก่อนจะก้มลงไปผูกโบว์สีฟ้าเล็กๆลงบนกล่องขนม
“เดทกันหรอฮะ”ปรับเสียงที่แหบพร่าให้ออกมาเป็นน้ำเสียงล้อเลียนให้มากที่สุดฟ่างกอดอกพิงพนังห้องจดจ่อรอคำตอบทั้งที่ภายในใจมันดำดิ่งลงเหวลึกไปแล้ว
“จ๊ะ”
ได้ยินมั้ย ข้าวฟ่าง….
เพราะในวันนี้เป็นวันที่ร้านปิดฟ่างจึงนั่งท้าวคางมองร้านดอกไม้ฝั่งตรงกันข้ามที่ไม่ได้ปิดทำการบนโต๊ะตัวเดิมเพียวลำพังต่อจากนี้ฟ่างคงไม่ต้องเป็นคนส่งดอกไม้ให้พี่พีชอีกแล้ว เพราะหลังจากนี้พี่พีชและพี่ฟ้าคงมอบความรักนั้นด้วยมือของพวกเขาเอง
ก๊อก ก๊อก
“ฟ่ง!” ร่างเล็กอุทานขึ้นเมื่อหันไปตามเสียงเคาะกระจกแล้วพบเพื่อนตัวสูงยืนหล่ออยู่ตรงนั้นร่างบางเดินไปเหิดหระตูให้กับคนที่ยืนยิ้มจนแก้มบุ๋ม
“เป็นอะไรล่ะลูกสาว เอ๊ย ลูกชาย ทำไมถึงทำหน้าหักหน้างอแบบนี้” ฟ่งนั้งลงบนเกาอี๋ฝั่งตรงกันข้ามพร้อมกับไถ่ถามเมื่อเห็นว่าร่างบางตาแดงๆทันทีที่เห็นคุณพ่อที่แสนดีอย่างเขา
“เป็นแบบนี้” ฟ่างยกมือนทั้งสองข้างมาทำเป็นรูปหัวใจก่อจะแยกออกจากกันหักรูปหัวใจที่สมบูรณ์นั้นเป็นสัญญาณว่ามันหักกร่อนไม่มีชิ้นดี “ไม่เอาน่า งั้นไปเดินเที่ยวกันให้หายเซ็ง”
ฟ่งยิ้มบางๆก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าให้ร่างเล็กว่ามือทาบลงไปฟ่างชั่งใจเพียงครู่ก่อนจะว่างมือเล็กลงไปให้มือใหญ่ได้กอบกุมแล้วทั้งคู่จึงเดินออกมาที่หน้าร้าน
“พี่…พี่พีช”
ฟ่งจำต้องเบรกกระทันหัน เมื่อเพื่อนตัวเล็กที่ตัวเองกำลังกอบกุมมือเอาไว้กลับตัวแข็งค้างเมื่อเห็นผู้ชายตัวสูงยืนอยู่ตรงหน้ามือหนากอบกุมมือเล็กตามสัญชาตญาณเพราะรู้ดีว่าคนตัวเล็กกำลังสั่นสะท้าน
“อ้อ ขอโทษทีนายคงไม่ว่างคุย”
“เอ่อ..”
ฟ่างติดอ่างเมื่อเห็นว่าพี่พีชกำลังมองมือที่กอบกุมกันแน่นนั้นด้วยสายตาที่ฟ่างไม่สามารถเข้าใจได้แต่มันกลับทำให้ฟ่างหายใจติดขัดขึ้นมาเสียดื้อๆ ฟ่งที่เห็นเพื่อนตัวเล็กเริ่มทรงตัวไม่อยู่จึงปล่อยมือเลกแล้ววาดวงแขนยาวกระชับเอวเล็กไว้ให้แผ่นหลังบางได้พักพิงแต่การกระทำนั้นทำให้ร่างสูงตรงหน้าร่างเล็กแค่นยิ้มพร้อมกับเอ่ยเสียงเย็น
“เก่งจังนะข้าวฟ่าง…ตั้งใจทำให้ฉันหัวปั่นทั้งที่มีไอ้นี่อยู่แล้วทั้งคน”
“คือ… พี่หมายความว่ายังไง”
“ฉันคงไง่ที่เดินตกหลุมพรางของนาย… แต่ต่อจากนี้ขออะไรสักอย่างได้ไหม… ช่วยไปไกลๆฉันทีเพราะฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีกแล้ว”
ใช้วาจากรีดหัวใจเล็กจนหยาดน้ำใสไหลรินออกจากดวงแก้วสีน้ำตาลคนตัวสูงจึงหันหลังให้ร่างเล็กที่เม้มปากแน่นกักกั้นความเจ็บปวดฟ่งโอบไหล่เล็กแน่น ถึงจะไม่เข้าใจเหตุการณ์เบื้องหน้าอย่างแน่ชัดแต่สิ่งเดียวที่เขาต้องทำตอนนี้คือไม่ให้ร่างเล็ดต้องล้มไปต่อหน้า
แผ่นหลังกว้างที่หายลับไปแล้วเหลือไว้เพียงช่อดอกลิลลี่สีขาวช่อเล็กที่แนบติดมาซึ่งร่างสูงขว้างมันทิ้งอย่างไม่ใยดีหลังจากเอ่ยประโยคนั้นกับร่างบ่างฟ่างก้าวต่อไปคว้ามันจึ้นพร้อมกับเปิดการ์ดใบเล็กออกข้อความสั้นๆปรากฏต่าสายตาหวานทำให้หัวใขเล็กสั้นสะท้าน
‘พี่รักฟ่างนะ…เราคบกับได้มั้ย?’ … พีช
กว่าฟ่งจะปลอบให้ร่างบางหยุดร้องไห้ก็ปาเข้าไปสองชั่วโมงหลังจากเห็นข้อความสั้นๆนั้น ร่างเล็กก็วิ่งตามร่างสูงไปแต่ก็ไร้เงากลับมาที่ร้านก็ไร้เงาของคนที่ฟ่างต้องการปลับความเข้าใจ
ในตอนนี้ฟ่งเข้าใจเรื่องราวทุกย่างแล้วและอยากจะตั้นหน้า*คุณ*หล่อที่ฟ่างเรื่องว่าพี่พีชสักทีโทษฐานทำให้ลูกสาวเขาต้องร้องไห้จนตาบวม
“อยู่รอพี่ฟ้าแล้วถามให้รู้เรื่อง อย่าคิดมากไปเองอีก… เข้าใจมั้ย? หมอนั้นไม่ไปไหนไกลหรอกมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เดียวฉันกลับมาแล้ว อย่าออกไปไหนนะฟ่าง”
มือหนาลูบผมนิ่มพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มงวดฟ่างพยักหน้าช้าๆให้กับเพื่อนสนิทพึมพำขอบคุณร่างสูงเบาๆก่อนจะเดินไปส่งที่หน้าร้าน
“ฉันกลับนะ อย่าลืมที่บอก”
“คร๊าฟ คุณพ่อ”
เห็นฟ่างยิ้มได้บ้าง ฟ่งก็ใจชื้นร่างสูงโบกมือให้คนตัวเล็กเดินกลับไปยังทิศทางที่มุ่งไปยังบ้านหลังใหญ่ของตนแต่ความคิดบางอย่างวนเข้ามาในสมองฟ่งยืนนิ่งไปครู่ก่อนจะเดินข้ามถนนไปยังร้านดอกไม้ฝั่งตรงข้าม
“ผมมาพบพีชครับ”
ท้องฟ้ามืดครึ้มเนื้องจากพระอาทิตย์ใกล้จะลาลับโลกอีกทั้งฝนยังตั้งเค้าจะตกลงมาอีกด้วยฟ้าที่พึงแยกทางกับชายหนุ่มที่เพิ่งตกลงคบกันหลังจากเดทครั้งแรกผ่านพ้นไปชะงักเรียวเท้าทันทีที่เปิดประตูร้านเข้ามาแล้วพบน้องชายหน้าหวานไม่ได้ต่างกันนอนหลับฟุบลงอยู่บนโต๊ะอีกทั้งบนแก้มเนียนยังมีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนอยู่เต็มไปหมดข้างๆเป็นช่อดอกลิลลี่เล็กพร้อมกับการ์ดเปื้อนดิน
“ฟ่างฟ่างจ๊ะ” มือบางแตะตัวน้องชายพร้อมกับส่งเสียงปลุกให้คนที่สะอื้นแม้ในนิทราต้องลืมตาตื่นขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“พ…พี่ฟ้า” ฟ่างรึบลุกขึ้นนั่งทันทีที่เปิดเปลือกตาขึ้นเป็นพี่สาวมือบางปัดครบน้ำตาออกจากแก้มใสลวกๆ
“เกิดอะไรขึ้นหรอฟ่างทำไมถึงได้…”
“พี่พีช…เขา…เขา”
ทั้งที่อยากจะถามให้กระจ่างแต่พอเห็นหน้าพี่สาวก็อับอายเกินกว่าจะถามออกไป
“พึช…พีชทำไมหรอ?”
“พี่พีชเขาไม่ได้จีบพี่หรอฮะ!!”
“ฟ่าง!” หญิงสาวตาโตพร้อมกับปิดปากด้วยความตกใจ “นี่เข้าใจแบบนั้มาตลอดเลยหรอ!”
“ครับ…”
คนตัวเล็กก้มหน้าพร้อมกับปล่อยน้ำตาให้ไหลลงไม่อายอีกแล้วในตอนนี้ความรู้สึกมันสับสนปนเปไปหมดแล้วทั้งดีใจที่ใจตรงกับคนที่ชอบแต่ก็เสียใจเมื่อนึกถึงคำพูดสุดท้ายนั้น
‘ช่วยไปไกลๆฉันทีเพราะฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีกแล้ว!’
“โธ่…ไม่ใช่นะดอกไม้กับการ์ดนั้นเป็นของโอเขาตั้งหากล่ะ ฟ่างไม่รู้เลยหรอ?”
“โอ? ใครฮะ”
“เพื่อนพีชน่ะเขาให้พีชจัดการให้ทุกวัน ฟ่าง! แล้วนั้นจะไปไหนน่ะฝนตกแล้วนะ!”
ร่างเล็กลุกพรวดพร้อมกับตะโกนถามเมื่อน้องชายคนดีลุกขึ้นวิ่งออกจากร้านไปทันทีที่รู้คำตอบฟ้าส่ายหน้าไปมาช้าๆ เพราะความเข้าใจผิดแท้ๆ
“ฟ้า!”
“พีช!”
ยังไม่ทันได้นั่งลง อีกคนก็พวดพราดเขามาในร้านหญิงสาวตกใจมองคนที่อยู่ในสภาพลูกหมาตกน้ำก่อนจะรอให้อีกคนเอ่ยถึงสาเหตุที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“ฟ่างล่ะ!!”
นั้นยังไงล่ะ…หญิงสาวคิดในใจ ฟ้าส่ายหน้าก่อนเอ่ยตอบ “ไม่รู้สินายพูดอะไรไม่ดีกับน้องหรือเปล่า คงร้องไห้มาทั้งวันแล้วก็เพิ่งวิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง”
ราวกับโดนจี้ใจ พีชเม้มปากแน่นก่อนจะหุนหันออกไป เพราะฟ่งเพื่อนสนิทของฟ่างจึงทำไห้เขารู้ว่าเขาเข้าใจร่างเล็กผิดและคำพูดนั้นก็คงทำให้ร่างบางเจ็บปวดไม่น้อย นึกแล้วอยากจะอัดตัวเองให้น่วมจริงๆ พีช!!
สายฝนที่โหมกระหน่ำไม่ได้ทำให้ร่างสูงหยุดวิ้งพีชตามหาทุกที่ที่เขาและพีชเคยร่วมทางกัน ฟุตบาทที่ทอดยาวไปยังห้างสรรพสินค้า สวนสาธรณะข้างทาง ป้ายรถเมล์หรือแม้แต่สนามเด็กเล่นที่ไม่เคยเหยียดเข้าไปเลยแต่ทุกๆที่กลับไร้เงาของคนที่ออกต่มหา
พีชเดินกลับร้านด้วยความรู้สึกปวดหนึบในใจมือหนากำแน่นก่อนจะทุบลงบนชั้นว่างดอกไม้ที่จัดเก็บซ้อนกันที่หน้าร้านร่างสูงชะงักงันเมื่อหันสายตาไปตามเสียงสะอื้นแล้วพบกับร่างเล็กที่นั่งตากฝนซ่อนตัวอยู่ข้างชั้นว่างดอกไม้ที่เขาไม่เห็นแต่แรกว่าพีชอยู่ตรงนี้เพราะมีชั้นหนาบังเอาไว้พีชถอนหายใจก่อนจะเอ่ยเรียกอีกคนเบาๆ
“ฟ่าง~”
คนที่ซบใบหน้าหวานลงกับหัวเข่าที่ตั้งชันค่อยๆเงยขึ้นมานัยต์ตาทั้งสองสีสอดประสานกันฟ่างค่อยๆประคองตัวขึ้นก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าร่างสูง หยาดน้ำใสยังไม่ยอมหยุดกระนั้นฟ่างก็ระงับอาการสะอื้นเอาไว้พร้อมเอ่ยถามอีกคน
“พี่พีช.. อึก บอกให้ไปไกลๆน่ะ ไกลแค่นี้พอมั้ย!”
“เด็กโง่ พี่ว่าไกลไปด้วยซ้ำ” ว่าแล้วก็รั้งร่างเล็กเข้าหาอกกว้างพร้อมกับกอดกระชับไม่ยอมปล่อย ลดระยะห่างอย่างที่พูดออกไป ฟ่างก็เช่นกันในเวลานี้คนตัวเล็กกล้าที่จะยกมือขึ้นสวมกอดตอบเอวหนาพร้อมกับซบใบหน้าหวานลงไปอย่างที่อยากจะทำมาตลอด
“พี่รักฟ่างนะ… รักมาตลอด~”
ถึงแม้เม็ดฝนจะร่วงหล่นลงมาไม่ได้ขาดแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เสียงทุ้มที่กระซิบติดใบหูบางขาดห้วงไปได้คนฟังยิ่งได้ยินมันชัดเจนครบถ้วนฟ่างระบายรอยยิ้มเต็มใบหน้าก่อนจะค่อยๆพละออกจากอกอุ่นเพื่อจะได้สบตากับนัยต์ตาสีดำขลับที่ตนหลงไหล
“ฟ่างก็รังพี่พีชนะ…รักมาตลอด~”
ดังถ่อยคำที่หล่นลงมาจากสรวงสวรรค์ ประโยคที่เปลี่ยนเพียงแค่ประธาน ทำให้หัวใจคนฟังเต็มตื้นไม่ต่างกันนัยต์ตาทั้งสองสีสอดประสานเข้าด้วยกันถ่ายทอดความรู้สึกภายในใจเพื่อกันและกันผ่านสายตาที่ไม่ได้เคลื่อนที่ไปที่อื่นมือหนาเชยคางมนขึ้นก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าหาเจ้าของดวงหน้าหวานยวนตา
ฟ่างปิดเปลือกตาพริ้มรับจุมพิตหวานที่อีกคนประทับตีตราจองริมฝีปากกลีบปากนุ่มหยุ่นเบียดทาบริมฝีปาดซีดเซียวเปื้อนหยาดฝน ทาบทับกันเพียงครู่กลีบปากบางที่เคยไร้สีสันก็กลับกลายเป็นกลีบกุหลาบสีระเรื่อ ฟ่างหน้าแดงฉ่านก่อนจะก้มหน้าหลบนัยต์ตาคมนั้นพีชรั้งเอวบางเข้าหาพร้อมกับเลื่อนจมูกลงสูดดมความหอมของแก้มนิ่มก่อนจะกระซิบติดใบหูบางให้ร่างบางสั้รสะท้านด้วยความขวยเขิน
“อย่าทำแบบนั้กับใครอีกนะถ้าอยากทำ…บอกพี่~ ทำกับพี่ได้คนเดียวนะ!”
ไม่เพียงแค่พีชได้ครอบครองหัวใจของฟ่างหรือฟ่างได้ครอบครองหัวใจของพีชในตอนนี้ทุกอย่างของพีชและฟ่างต้องใช้คำว่า ‘เรา’ เท่านั้น
[/hide]
ขอบคุณที่อ่านนะครับ ^^
|