ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 855|ตอบกลับ: 2

My girl (2) จบ

[คัดลอกลิงก์]

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
328
พลังน้ำใจ
35558
Zenny
41204
ออนไลน์
943 ชั่วโมง

สมาชิกระดับไพลินสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ



หนุ่มหน้าหล่อยืนหน้าหงิกกอดอกอยู่เคียงข้างสาวน้อยอยู่หน้าสวนสนุก เพราะว่าเลยเวลานัดไปสิบห้านาทีแล้วคนที่น้องสาวบอกว่าจะเดทด้วยยังไม่มาสักที เขาถอนหายใจออกมาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะหันไปมองหน้าน้องสาวที่ยังคงรอคอยตัวริ้นไรที่มายุ่งกับน้องสาวของเขาอย่างมีความหวัง



“กลับบ้านกันได้แล้ว มันไม่มาหรอก เห็นไหม ผู้ชายมันไม่มีดีหรอก”



ร่างสูงบอกน้องสาวพลางจับมือนิ่มเพื่อจูงให้เดินไปขึ้นแท็กซี่แล้วกลับคอนโดด้วยกัน แต่ก็ถูกมือเล็กๆ นั้นรั้งเอาไว้



“พี่ก็เป็นผู้ชายไม่ใช่รึไง หรือจะบอกว่าพี่ก็ไม่ดีเหมือนคนอื่นๆ”



เจอน้องสาวย้อนมาคิบอมถึงกับอ้ำอึ้ง แต่สุดท้ายเขาก็เบนความสนใจไปที่มือหนาซึ่งจับมือของน้องสาวไว้ ออกแรงดึงให้เดินไปด้วยกัน



“รอเดี๋ยวสิ พี่ทงเฮอาจจะติดธุระอะไรก็ได้ถึงได้สาย พี่ทงเฮไม่เคยปล่อยให้ฉันรอนะ”



หน้าหล่อตึงขึ้นมาทันที คิ้วเข้มขดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ



“เธอไปกับมันหลายทีแล้วเหรอ?!”



“ก็...” ลากเสียงยาวพลางยกมือข้างที่ไม่ได้ถูกจับขึ้นมานับนิ้ว “สอง สาม สี่ ห้า หก...”



“พอๆ ไม่ต้องนับแล้ว! ทำไมเธอเป็นเด็กดื้อแบบนี้” บอกอย่างไม่พอใจ อยากจะยกมือขึ้นมาตีน้องสาวตัวดีนัก แต่ก็กลัวว่าน้องรักจะเจ็บจึงได้แต่เค้นเขี้ยวกับตัวเองว่าดูแลน้องสาวไม่ดี



เขาปล่อยให้ไปกับผู้ชายไว้ใจไม่ได้แบบนั้นสองต่อสองได้ยังไง



“คิคิ ล้อเล่นน่า” เสียงหัวเราะดังเบาๆ ใบหน้าหวานยิ้มแย้มที่แกล้งพี่ชายขี้หวงได้ “เดี๋ยวฉันโทรหาพี่ทงเฮดีกว่า”



“พี่ลบเบอร์มันไปแล้ว”



“ฉันขอมาใหม่แล้วล่ะ”



มินจูฉีกยิ้มกว้างให้กับพี่ชายพลางกดหาเบอร์ของคนที่ตนเองจะโทรหา ทว่ายังไม่ทันที่จะกดโทรออก เสียงหอบแฮ่กก็ดังอยู่ใกล้ๆ เรียกให้หน้าหวานต้องเงยขึ้นมองและร้องเสียงดังอย่างดีใจ



“พี่ทงเฮมาแล้ว!”



ตรงข้ามกับคิบอมที่พูดด้วยเสียงขุ่นอย่างต่อว่า



“ไร้ความรับผิดชอบ”



คนมาใหม่ที่ยังหอบเหนื่อยอยู่ตวัดตามองคนที่ขึงหน้าตึงอย่างไม่กลัวเมื่อยและละทิ้งความสนใจก่อนจะพยายามฉีกยิ้มทั้งที่เหนื่อยจนเกือบจะหมดแรงให้กับคนน่ารักซึ่งยืนอยู่ข้างๆ คนตัวโต



“พี่.. แฮ่ก... ขอ... โทษ แฮ่ก แฮ่ก พอดี..”



“น่ารำคาญ”



ทงเฮพยายามจะพูดอย่างเต็มที่แต่เพียงได้เริ่มบอกกล่าวเหตุผลของตนก็โดนขัดด้วยคำพูดแข็งๆ หน้าหวานตวัดมองคนที่จงใจพูดถึงตัวเอง แต่คิบอมก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ



“ข้อแก้ตัวทั้งนั้น”



สิ้นเสียงก็ดึงมือน้องสาวที่ยังกุมไว้ให้เดินเข้าไปข้างในด้วยกัน แต่มินจูก็พยายามออกแรงรั้งตัวเองเอาไว้



“เดี๋ยวสิพี่คิบอม”



พอคิบอมหยุดฝีเท้าเพราะแรงรั้งที่ไม่ได้มากนักของน้องสาว มินจูก็ดึงมือของตัวเองออกจากมือใหญ่ และเดินกลับไปหาทงเฮที่ยังหอบแฮ่กอยู่น้อยๆ



มือนิ่มยื่นออกไปจับกับมือที่ใหญ่กว่าตนเองไม่เท่าไรและจูงให้เดินมาด้วยกัน กระทั่งมาประจันหน้ากับพี่ชายสายเลือดเดียวกันก็ใช้มืออีกข้างจับกับมือหนาไว้และเป็นคนควบคุมให้ทั้งสองเดินขนาบไปกับตนเอง ทว่ามีหรือที่คนหวงน้องสุดชีวิตจะยอม



คิบอมดึงมือตัวเองออกจากมือเล็กก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ระหว่างมินจูและทงเฮ เขาดึงมือของทั้งสองคนที่จับกันไว้ออก ก่อนจะจับมือน้องสาวแทนแล้วลอยแพอีกคน กระนั้นมินจูก็ยื่นมือที่ว่างอีกข้างไปจับทงเฮอยู่ดี



คิ้วหนากระตุก ฟันคมขบกันแน่น ก่อนร่างสูงจะปล่อยมือจากน้องสาวแล้วไปแยกมือของคนไม่พึงประสงค์ออกจากคนที่แสนรักและจับไว้เอง ทว่ามินจูก็ยังทำเหมือนเดิม ใช้มือที่เป็นอิสระจากพี่ชายจับมือที่ไม่แข้งกระด้างนักของคนที่ตัวเองชอบไว้



เมื่อเห็นท่าว่าน้องสาวจะไม่ยอมง่ายๆ สุดท้ายคิบอมก็จับมือของทงเฮและมินจูแยกจากกัน ใช้มือข้างซ้ายจับมือน้องสาวไว้ ส่วนมือขวาจับมือเรียวของคนที่มาจีบน้องของตัวเองอีกที ก่อนจะบอกเสียงเข้ม



“ถ้าเธอจับมือมันอีก พี่จะตีมือเธอ”



บอกให้น้องเข้าใจแล้วก็หันไปบอกคนที่ไม่ได้เต็มใจจะให้อยู่ข้างตัวอีกคนด้วยเสียงที่เข้มกว่าเดิมและเพิ่มความอาฆาตเข้าไปด้วย



“ถ้านายจับมือน้องฉัน ฉันจะตัดมือนาย”






















.


.


เครื่องเล่นชิ้นแรกที่มินจูเลือกคือคอฟฟี่คัพ แค่เห็นของเล่นที่ดูท่าทางปัญญาอ่อนแต่มีอนุภาพมากกว่าสภาพที่เห็นภายนอกคิบอมก็ปฏิเสธที่จะเล่นมันทันที ไม่ใช่เพราะกลัวเครื่องเล่นจะสร้างความวิงเวียนให้ แต่มันน่าอายที่ผู้ชายตัวโตๆ อย่างเขาไปเล่นของเล่นสำหรับเด็ก



“ถ้าพี่ไม่เล่น ฉันเล่นกับพี่ทงเฮก็ได้” บอกคนข้างตัวอย่างงอนๆ พลางยื่นมือไปดึงมือของคนที่อยู่อีกฟากของพี่ชาย “ไปเล่นกันนะพี่ทงเฮ”



“เอ่อ..” ทงเฮอึกอักเล็กน้อย มองใบหน้าน่ารักของหญิงสาวสลับกับถ้วยหลากสีสันซึ่งกำลังหมุนวนไปมาอย่างน่าเวียนหัวแล้วก็ต้องยิ้มแหยเล็กน้อย “พี่ว่าพี่ไม่เล่นดีกว่า”



“ทำไมล่ะ”



คนอายุน้อยที่สุดร้องถามอย่างแปลกใจ เพราะเธอหวังว่าอย่างน้อยก็มีคนเล่นด้วย



“เพราะว่าป๊อดไง จะจีบเขาแต่แค่นี้ก็ทำไม่ได้”



เสียงทุ้มที่ไม่ใช่คนถูกถามตอบกลับมาแทน หนำซ้ำยังเพิ่มความหยามเหยียดเข้าไปด้วย ทงเฮจึงต้องมองใบหน้าหล่อๆ ของคนพูดอย่างไม่พอใจและสวนกลับไป



“คุณมีสิทธิ์ว่าผมด้วยเหรอในเมื่อคุณก็ไม่เล่น”



“ก็ได้ ฉันเล่น แต่นายก็ต้องเล่นเหมือนกัน”



เมื่อถูกท้าทายเลือดนักสู้ในกายก็เดือดพล่านขึ้นมาทันที คิบอมออกคำสั่งอย่างไม่ยอมให้ดูหมิ่น ซึ่งทงเฮก็รับคำเช่นกัน ทั้งสองคนจึงเดินตรงดิ่งเข้าไปยังเครื่องเล่นโดยไม่สนใจคนชวนเลยสักนิด



มินจูได้แต่มองพี่ชายกับพี่ชายของเพื่อนซึ่งนั่งอยู่บนถ้วยกาแฟสีฟ้าสดใสที่กำลังหมุนและเหวี่ยงไปรอบตัวรอบแล้วรอบเล่า เพราะทั้งสองคนต่างก็ไม่ยอมแพ้กัน แข่งกันอยู่อย่างนั้นว่าใครจะยอมแพ้ก่อน กระทั่งรอบที่เก้าทั้งสองคนก็แทบสลบเมือดกันอยู่ในถ้วยกาแฟ เดือดร้อนให้น้องสาวต้องวิ่งเข้าไปดู



“พวกพี่ทำอะไรกันน่ะ! ทะเลาะอย่างกับเด็ก!”



“เพราะเธอนั่นแหละ”



พี่ชายตัวจริงกล่าวหาน้องสาวก่อนจะดันตัวขึ้นจากถ้วยยักษ์ ร่างสูงซวนเซเล็กน้อยแต่ก็สามารถพยุงตัวเองออกมาจากบริเวณเครื่องเล่นนั้นได้ ซึ่งอาการมึนๆ ของเขาก็ทำให้ลืมตัว เปิดโอกาสให้น้องสาวสุดหวงกับคนที่มาจีบได้ใกล้ชิดกัน



“พี่ทงเฮเป็นอะไรรึเปล่าคะ”



“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”



ปฏิเสธไปแต่กว่าจะลุกขึ้นจากเบาะนั่งได้ก็ลำบากจนมือเล็กๆ ต้องยื่นมาช่วยพยุงไว้ สองคนเดินออกไปจากเครื่องเล่นนั้น แต่แล้วก็ต้องมองหาคนที่ออกมาก่อนเพราะว่าอันตรธานหายไปจากจุดที่สมควรยืนอยู่



“เอ้า ดื่มซะ จะได้ดีขึ้น”


ทว่าสักพักก็มีขวดน้ำที่น้ำใสๆ ซึ่งบรรจุอยู่ภายในพร่องลงไปเกือบครึ่งยื่นมาตรงหน้าของหนุ่มร่างเพรียว ทงเฮเงยหน้าขึ้นมองแล้วเห็นว่าเป็นใครก็รู้สึกอุ่นชื้นขึ้นมาในใจเล็กน้อย เขายื่นมือออกไปรับมาพลางขอบคุณ



ฝาขวดน้ำถูกเปิดออกก่อนจะถูกกรอกเข้าไปในลำคอระหง คิบอมเหลือบมองทงเฮเล็กน้อยอย่างยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ก็กล้าดีที่สู้กับเขา ขณะที่มินจูมองคิบอมและทงเฮสลับกันก่อนจะลอบยิ้มอย่างชื่นใจ













พี่คิบอมยอมรับพี่ทงเฮหน่อยๆ แล้ว






















.


.


หลังจากอาการมึนเมาจากคอฟฟี่คัพหมดไป ทั้งสามคนก็ยังเล่นเครื่องอื่นๆ จนเกือบจะครบทั้งสวนสนุก อีกทั้งมินจูยังชวนถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งหน้าเครื่องเล่นและสวนดอกไม้ซึ่งทางสวนสนุกจัดไว้ กระนั้นไม่วายต้องมีเสียงถกเถียงกันทุกครั้งเพราะน้องสาวตัวดีของคิบอมอยากถ่ายรูปคู่กับทงเฮ แต่คนเป็นพี่ชายไม่ยอมท่าเดียว



“พี่คิบอมใจร้าย ทำไมไม่ให้ฉันถ่ายคู่กับพี่ทงเฮมั่งล่ะ”



เมื่อโดนหลายๆ ครั้งเข้ามินจูก็ต้องงอแงบ้าง เพราะถ่ายไปหลายรูปแล้ว แต่ไม่มีสักรูปที่เธอได้ถ่ายร่วมเฟรมเดียวกับคนที่มาจีบ มีแต่รูปเดี่ยวกับรูปคู่คิบอม เพราะแม้แต่ตอนเป็นตากล้อง ร่างสูงยังเอาขาเกี่ยวทงเฮไม่ให้วิ่งเข้าไปหาน้องสาว



“แล้วทำไมพี่ต้องให้เธอถ่ายกับมันด้วย ถ่ายไปก็ไม่มีประโยชน์”



“ไม่มีประโยชน์ยังไง”



ใบหน้าน่ารักบูดบู้เพราะโดนห้ามในสิ่งที่อยาก หนำซ้ำคำพูดพี่ชายยังไม่เข้าหู



“เพราะว่าอีกหน่อยหมอนี่จะไม่มีโอกาสได้เจอเธออีกไง”



“ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอก เนอะพี่ทงเฮ”



ไม่ยอมรับคำพูดของพี่ชายนหนำซ้ำยังพูดสวนทางกันอีก มินจูฉีกยิ้มพลางถามพี่ชายเพื่อน ซึ่งทงเฮก็พยักหน้ากลับไป



“ถึงยังไงพี่ก็ไม่ให้เธอถ่ายคู่กับมันอยู่ดี ถ้าจะถ่ายกับมันก็ไม่ต้องถ่าย”



“ใจร้ายที่สุด!!” กล่าวหาพี่ชายแล้วก็เสนอความคิด “เอาแบบนี้ก็ได้ ฉันไม่ถ่ายกับพี่ทงเฮ แต่พี่ต้องถ่ายคู่กับพี่ทงเฮแทน”



“แล้วทำไมฉันต้องถ่ายคู่กับมัน”



“ก็เพราะพี่ไม่ยอมให้ฉันถ่ายน่ะสิ”



มือเล็กยื่นไปคว้ากล้องมาจากพี่ชาย ก่อนจะยกขึ้นเสมอหน้าและกดชัตเตอร์ทันทีแบบไม่ให้ตั้งตัว ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าหน้าตาของพี่ชายสุดหล่อตอนกำลังโมโหและแยกเขี้ยวที่ปรากฏในจอแอลซีดีจะดูทุเรศแค่ไหน



ร่างเล็กหัวเราะร่วน ใบหน้าขาวคลี่ยิ้มสดใสก่อนจะวิ่งหนีไปให้คนอายุมากกว่าสองคนต้องวิ่งตาม จนสุดท้ายคิบอมไปเจอว่าน้องสาวตัวดีกำลังยืนต่อแถวขึ้นชิงช้าสวรรค์



“ยัยตัวแสบ”



มือหนากำหลวมๆ ก่อนจะเขกลงไปบนหัวของน้องสาว เมื่อโดนมือหนักกระแทกไปเต็มๆ แต่ไม่แรงมาก มินจูก็รีบไปเกาะแขนของคนที่ไม่ใช่พี่ชายและออเซาะทันที



“พี่ทงเฮดูสิ พี่คิบอมแกล้งจู”



เลือดลมของคิบอมเดินอย่างรวดเร็วทันที เขารีบดึงตัวน้องสาวสุดหวงออกมาก่อนมือของผู้ชายที่ตัวเองไม่ชอบหน้าจะสัมผัสโดนคนตัวเล็ก



“ไม่ต้องฟ้องมันเลย ถึงฟ้องมันก็ทำอะไรพี่ไม่ได้”



“ทำไม่ได้ก็จริง แต่ไม่เห็นว่าจะต้องเขกหัวน้องจูเลยนี่ครับ”



“เรื่องของพี่น้อง ไม่ใช่เรื่องของแก ไม่ต้องเสือก”



เสียงห้วนตวัดใส่คนที่อยากได้น้องรักของเขาเป็นแฟน พาให้สถานการณ์ที่ดีขึ้นเล็กน้อยต้องแย่ลงกว่าเดิม



มินจูเหลือบมองผู้ชายสองคนก่อนครวญคิดหาวิธีจนเมื่อปิ๊งไอเดียเด็ดๆ ก็รีบบอกด้วยเสียงสดใส



“ฉันอยากกินไอติมตอนขึ้นชิงช้าสวรรค์ด้วย”



เสียงนั้นเรียกความสนใจจากคิบอมได้ เขามองหน้าน้องสาว



“เดี๋ยวก็ถึงตาเราแล้ว ไม่เห็นรึไง”



“แต่ฉันอยากกินนี่”



เมื่อเห็นน้องสาวงอแงทำหน้าบูดบู้ก็ต้องยอมตามใจ



“ก็ได้ เดี๋ยวพี่...” ชะงักคำพูดของตนไว้แค่นั้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้มากันแค่สองคน แต่มีแมงรำคาญอยู่ด้วยหนึ่งตัว คิบอมเบี่ยงทิศมายังเจ้าของหน้าหวานทั้งที่เป็นชาย “แกน่ะ ไปซื้อไอติมให้จูสิ”



“ทำไมพี่ต้องใช้พี่ทงเฮด้วย พี่ทงเฮไม่ได้อยากกินสักหน่อย”



“ก็มันจีบเธอไม่ใช่รึไง แค่นี้ทำไม่ได้ก็กลับบ้านไปแล้วอย่าเสือกมาให้เห็นอีก”



ร่างสูงพูดด้วยเสียงห้วนๆ ใช้หางตามองคนที่ตนเองพูดถึงอย่างดูถูก ทงเฮจึงต้องเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะโพลงออกมา



“เดี๋ยวพี่ไปซื้อเองก็ได้”



“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวจูไปซื้อเองได้ค่ะ”



ได้ยินน้องสาวตัดบทแบบนั้นแล้วคิบอมก็ไม่พอใจนัก แต่จะปล่อยให้น้องไปกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาก็ไม่ไว้ใจ เกิดเขาไปซื้อให้แล้วกลับมาน้องสาวหายไปกลับมันคงเป็นเรื่องใหญ่



“รีบกลับมาเร็วๆ แล้วกัน แล้วเธอมีเงินไหม”



เสียงทุ้มถามคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงอ่อนลงผิดกับยามพูดกับใครอีกคนลิบลับ ซึ่งมันก็ทำให้มินจูระบายยิ้มกว้าง



“มีๆ งั้นเดี๋ยวฉันไปแล้วนะ พี่คิบอมกับพี่ทงเฮต่อคิวรอไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวจูรีบกลับมา”



“กลับมาให้ทันล่ะ”



คิบอมยิ้มบางๆ ให้น้องสาวซึ่งกำลังถอยตัวออกจากแถวคนรอเครื่องเล่น ทว่าต้องหุบยิ้มฉับเมื่อได้ยินเสียงของใครอีกคน



“ระวังตัวด้วยนะน้องจู”



“อย่าเรียกน้องสาวฉันว่าน้องจู”



กลับมาตวัดเสียงไม่พอใจใส่เช่นเดิม แต่ทงเฮก็ไม่ใส่ใจอาจเพราะเขาเคยชินกับมันแล้วก็ได้



“แล้วทำไมผมจะเรียกไม่ได้ล่ะครับ”



“เพราะว่าฉันไม่ชอบ”



“แต่ถึงผมจะเรียกแบบอื่น คุณก็คงไม่ชอบเหมือนกัน”
สวนกลับไปด้วยการตีหน้าซื่อส่งผลให้คิบอมยิ่งหงุดหงิดหนักขึ้น



ร่างสูงขบกรามแน่นมองหน้าหวานของชายหนุ่มซึ่งอยู่ตรงหน้าที่ไม่หลบเลี่ยงสายตาเขา นานนับนาทีจนเสียงของคนต่อคิวซึ่งอยู่ด้านหลังดังขึ้น



“คุณสองคนจะจ้องหน้ากันอีกนานไหมครับ แถวมันร่นไปด้านหน้าแล้ว”



เพราะเสียงนั้นทำให้คิบอมและทงเฮต้องละสายตาออกจากใบหน้าของกันและกัน ก่อนจะเดินไปด้านหน้าซึ่งก็พบว่าเขามาอยู่แถวหน้าสุดแล้ว และโครงขนาดมหึมาตรงหน้ากำลังหมุนเป็นวงกลมอย่างช้าๆ บอกให้รู้ว่าถ้าถึงรอบหน้าเขาจะเป็นคิวแรก



ใจของคนเป็นพี่ชายเริ่มกระวนกระวายที่น้องสาวยังไม่กลับมา เขารออีกร่วมสิบนาทีจนชิงช้าสวรรค์รอบนี้สิ้นสุดลง ทว่าน้องสาวก็ยังไม่กลับมา



“ถึงคิวคุณแล้วครับ”



ประตูของกระเช้าขนาดไม่ใหญ่นักเปิดรอให้ชายหนุ่มสองคนก้าวเข้าไป คิบอมทำหน้าอิหลักอิเหลื่อไม่ต่างจากทงเฮที่พยายามมองรอบตัวเพื่อหาหญิงสาวที่บอกจะไปซื้อไอศกรีม



“นี่คุณ จะขึ้นก็ขึ้น ชักช้าเกะกะคนอื่นอยู่ได้”



ชายหนุ่มคนเดิมที่มากับคนรักบอกด้วยประโยคที่ไม่สุภาพนักเมื่อรู้สึกรำคาญคนทั้งคู่ คิบอมและทงเฮจึงต้องมองหน้ากันอย่างตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร แต่มันคงช้าเกินไปสำหรับคนใจร้อนที่รอคิวมานานชายหนุ่มคนนั้นจึงได้เร่ง



“ขึ้นๆ ไปสักที ไม่เห็นรึไงว่าคนอื่นเขารออยู่”



เพราะโดนต่อว่าเสียงดังเช่นนั้นทั้งคิบอมและทงเฮจึงต้องขึ้นกระเช้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเมื่อทั้งคู่ขึ้นไปแล้วประตูก็ถูกปิด กระเช้าสีน้ำเงินค่อยๆ ดันตัวสูงขึ้นทีละนิด กระนั้นมันก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของพี่ชายที่รักน้องสาวยิ่งกว่าอะไร มือหนาควานหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดโทรหาน้องสาว



สัญญาณรอสายดังอยู่นานจนตัดเข้าฝากข้อความเพราะไม่มีใครรับ พาให้ความว้าวุ่นใจยิ่งถาโถมในใจของคิบอม เขากดโทรออกซ้ำๆ อยู่นานแต่กลับไม่มีเสียงหวานๆ ของยัยตัวดีรับเสียที



ใบหน้าคมหม่นหมองลง กระวนกระวายอยากลงไปจากกระเช้าซึ่งกำลังลอยสูงขึ้นจากพื้นดินเรื่อยๆ เสียที ทว่าขณะที่ร่างสูงพยายามกดโทรหาน้องสาว เสียงข้อความเข้าก็ดังขึ้นจากโทรศัพท์ของทงเฮ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ของตนเองออกมาอ่านข้อความภายใน



ทันทีเห็นชื่อของคนที่ส่งข้อความมาดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้าง เขากดเข้าไปดูเนื้อหาที่ถูกส่งมาแล้วก็อยากจะจับคนที่ส่งข้อความมาตีสักทีสองทีเพราะทำให้เขารวมทั้งคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาเป็นห่วง








จูช่วยพี่ทงเฮได้เท่านี้นะคะ ที่เหลือพี่จัดการเองนะ


จูกลับก่อนค่ะ ไฟติ้ง



จากมินจูที่แสนน่ารัก







อ่านข้อความในมือถือของตนเองแล้วก็ต้องเงยหน้ามองคนที่ห่วงน้องสาวอย่างหนัก ก่อนจะเค้นเสียงออกมา เขารู้สึกประหม่าและตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่ต้องมาอยู่กับผู้ชายคนนี้เพียงสองคน



“จูส่งข้อความมาหาผม”



ใบหน้าหล่อเงยขึ้นจากการหมกหมุ่นกับโทรศัพท์ของตนเอง เขาถลึงตามองเจ้าของคำพูดนั้น



“แล้วทำไมจูต้องส่งข้อความหาแก ฉันเป็นพี่ชาย จูควรจะส่งหาฉันสิ”



ทงเฮหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อโดนอารมณ์เสียใส่ ทว่าเสียงข้อความจากโทรศัพท์ของคิบอมคงช่วยเขาไว้ได้ทัน



ร่างสูงรีบก้มมองโทรศัพท์โดยพลัน เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่กำลังห่วงส่งข้อความมาก็รีบเปิดอ่านทันใด อดน้อยใจอยู่นิดๆ ไม่ได้ที่น้องสาวส่งข้อความให้ ‘คนอื่น’ ก่อนตนเอง








ฉันมาไม่ทัน เสียดายสุดๆ TT  TT แต่ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าเราค่อยมาด้วยกันใหม่เนอะ ^^


พี่ชายจ๋า น้องกลับก่อนนะคะ ลืมไปว่ายังทำการบ้านไม่เสร็จเลย T T



น้องจูคนสวยของพี่คิบอมสุดหล่อ








คิบอมเค้นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่กับตัวเองพลางคิดว่าถ้ากลับคอนโดแล้วจะฟาดน้องสาวให้ก้นลาย ทั้งที่รู้ว่าต่อให้ถึงเวลาจริงเขาก็ไม่กล้าทำแบบนั้นอยู่ดีก็ตาม



“เดี๋ยวหมดรอบนี่แกก็กลับไปได้แล้ว จูคงบอกแกแล้วว่าจะกลับก่อน”



คำบอกกล่าวของร่างสูงดังสะท้อนอยู่ในหูของคนฟัง ทงเฮรู้สึกเหมือนว่าใจมันชาวูบๆ ชอบกล ทั้งที่เขามีโอกาสอยู่กับคิบอมเพียงสองคนแล้ว แต่ว่าโอกาสนั้นกำลังจะถูกทำลายไป



ร่างบางพยายามรวบรวมสติและเสียงของตนให้สามารถประกอบกันมาเป็นคำพูด



“ครับ”



ทว่าคิบอมคงไม่ทันได้สังเกตท่าทางและน้ำเสียงที่ผิดปกติของคนถือดีที่มักย้อนเขาด้วยถ้อยคำที่ตอบโต้ได้ยาก เขาจึงพูดประโยคที่ทงเฮรู้สึกว่ามันทำร้ายตัวเองอย่างหนัก



“แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับน้องสาวฉันอีก”



ไม่ใช่เพราะเสียใจหรือกลัวที่จะไม่ได้เจอมินจู แต่เพราะหากไม่ได้เจอมินจู เขาก็จะไม่ได้เจอ...คิบอม



ทงเฮเม้มปากแน่นสะกดกลั้นความรู้สึกที่กำลังจะเซาะกำแพงหนาในใจของเขาให้ทลายลง ทั้งที่เขาพยายามเข้มแข็ง พยายามทำเหมือนว่าตัวเองไม่รู้สึกอะไรเวลาตอบโต้กับร่างสูง ไม่แสดงออกถึง ‘ความหวั่นไหว’ ว่ามีต่อผู้ชายชื่อคิมคิบอมมากแค่ไหน ซึ่งมันก็สำเร็จทุกครั้ง ทว่า...เวลานี้ทุกอย่างกำลังจะพัง



“ผมขออย่างนึงได้ไหมครับ เลิกเรียกผมว่าแกได้ไหม”



เขาได้ยินคิบอมเรียกเขาด้วยคำนี้ทีไร มันปวดร้าวในใจทุกที



เหมือนกับความร่างสูงไม่ได้มองว่าเขาเป็นแม้แต่คนด้วยซ้ำ



เพราะคราวนี้ทงเฮแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นมากเกินไป คิบอมจึงสามารถสังเกตท่าทางที่เปลี่ยนไปได้ ร่างเพรียวบางตรงหน้าไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับทุกๆ ครั้งที่เขาเจอ แต่กำลังเปราะบางลงเรื่อยๆ



“อะไรของนาย”



ได้ยินสรรพนามเรียกตนเองเปลี่ยนไปทงเฮก็รู้สึกชื้นในใจขึ้นมาเล็กน้อย พอให้เขารวบรวมความกล้าที่จะพูดอะไรบางอย่างซึ่งอัดแน่นอยู่ในใจมาเนิ่นนานได้



“ผม...อยากพูดความจริง”



คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างสงสัยทั้งกับท่าทางที่ไม่เหมือนเดิมรวมทั้งข้อความที่เปล่งมาจากเรียวปากสีชมพู



“ผมไม่ได้ชอบมินจู ไม่ได้ชอบน้องสาวของคุณ”



คำสารภาพของหนุ่มร่างระหงพาให้ลมหายใจของคิบอมสะดุด เขาถลึงตามองทงเฮก่อนจะพรวดพราดเข้าไปกระชากคอเสื้อของเจ้าของคำพูดนั้นโดยลืมไปสนิทว่าตนเองไม่ได้ยืนอยู่บนพื้น กระเช้าซึ่งลอยอยู่ในอากาศจึงโคลงเคลงเล็กน้อย กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ทงเฮรู้สึกหวาดกลัวเท่านัยน์ตาคมซึ่งกำลังจ้องเขาราวกับจะฆ่ากันให้ตาย



“อยากตายใช่ไหมถึงได้หลอกน้องสาวฉัน!!”



ทั้งที่พยายามระงับอารมณ์ของตนเองแล้ว แต่เมื่อนึกไปถึงตอนที่ได้พูดคุยกับน้องสาวและได้รับคำตอบมาว่าชอบผู้ชายคนนี้มันทำให้ความอดทนของเขาพังไม่เป็นท่า



“ผมไม่ได้หลอกน้องสาวคุณ”



“...”



“เธอต่างหากที่...เป็นคนวางแผนทุกอย่าง”


หน่วยตาคมกล้าทอประกายอ่อนลงเมื่อสะดุดกับประโยคสุดท้าย



“นายหมายความว่ายังไง”



มือหนาคลายออกจากคอเสื้อยืดสีดำที่ร่างบางสวมใส่เล็กน้อย ทงเฮจึงสามารถหายใจได้ทั่วท้องขึ้น มือเรียวหยิบโทรศัพท์ของตนออกมากดเปิดข้อความที่ถูกส่งมาล่าสุดให้ร่างสูงดู



ตัวหนังสือทุกตัวสะท้อนบนนัยน์ตาสีดำขลับ บอกให้รู้ว่าเจ้าของโทรศัพท์ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด กระนั้นคิบอมก็ไม่เข้าใจมันอยู่ดีว่าหมายความว่าอย่างไร เขาปล่อยมือจากเสื้อของทงเฮก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ



“ฉันไม่เข้าใจ”



“มันเป็นข้อความเชียร์”



คิ้วหนามุ่นเข้าหากัน หน้าหล่อหันไปยังคนที่อธิบายความให้ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ ทงเฮจึงเบนหน้าไปสบกับคนที่ย้ายมานั่งด้านข้าง มองด้วยตาคู่นั้นด้วยความรูสึกหวิวๆ อยู่ในอก ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันก่อนจะรวบความกล้า



“ก็หมายความว่าเธอสนับสนุนผม”



“...”



“...”



“ผมชอบคุณ”


ร่างสูงผงะไปเล็กน้อยเมื่อถูกสารภาพรักอย่างไม่ตั้งตัว เขาไม่เคยคิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ หน่วยตาคมมองใบหน้าหวานค้างด้วยความตื่นตะลึง หัวใจชาวูบไปครู่หนึ่ง



การแสดงออกเพียงเท่านี้ทำให้ทงเฮรู้ได้ทันทีว่า...เขาไม่สมหวัง กระนั้นก็ยอมที่จะเล่าเรื่องราวที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ทั้งหมด








วันนึงน้องสาวพาเพื่อนมาค้างที่บ้าน กระนั้นทงเฮก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร เพียงแค่แปลกใจเพราะเป็นครั้งแรกที่เพื่อนของน้องมาค้างที่บ้าน


‘สวัสดีครับ พี่ชื่อทงเฮ น้องชื่ออะไรครับ’


‘มินจูค่ะ แต่พี่ทงเฮเรียกจูเฉยๆ ก็ได้ เพราะใครๆ ก็เรียกจูแบบนั้น’


สาวน้อยยิ้มหวานให้กับพี่ชายของเพื่อน รู้สึกถูกชะตาด้วยเพราะท่าทางใจดี หนำซ้ำเพื่อนของเธอบยังชอบเล่าเรื่องพี่ชายให้ฟัง หรือเรียกง่ายๆ ว่าอวดพี่ชายให้ฟังบ่อยๆ ซึ่งเธอเองก็โม้เรื่องพี่ชายใส่เพื่อนไว้ไม่น้อยเหมือนกัน


‘ยินดีที่ได้รู้จักครับ เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรให้ทานเล่นดีกว่านะ’


‘ขอบคุณค่ะพี่ทงเฮ’


มินจูยิ้มหวานบอกพี่ชายเพื่อนเสียงใส ก่อนจะคุยกับเพื่อนรักต่อเพราะว่าโดนเพื่อนเอาพี่ชายมาเกทับใส่อีกแล้ว


‘พี่ชายฉันน่ารักใช่ไหมล่ะ ดีสุดๆ ด้วย พี่ชายเธอสู้ไม่ได้หรอก’


‘ถ้าเธอเห็นพี่ชายฉันแล้วจะพูดไม่ออก พี่ชายฉันทั้งหล่อ ทั้งเท่ นิสัยก็ดี แถมยังรักฉันแบบสุดๆ ด้วย’


ไม่เพียงพูดโอ่แต่ยังทำนัยน์ตาเพ้อฝันจนคนเป็นเพื่อนถึงกับหมั่นไส้


‘ฉันไม่เชื่อเธอหรอก อย่ามาโม้ให้ยาก ถ้าหล่อเท่จริงก็พามาให้เห็นสิ’


‘ฉันไม่พามาให้เธอเห็นหรอก เสียแรงเปล่าๆ แต่ฉันจะใจดีให้เธอดูรูปก็ได้’ พูดจาเย้ยเพื่อนสาวเล็กน้อยก่อนจะหยิบรูปพี่ชายสุดหล่อออกมาจากกระเป๋าสตางค์


‘ว้าว พี่ชายของเธอหล่อสุดๆ เลย เท่ด้วย’


‘เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้ว’


มินจูยืดอกอย่างเต็มที่ที่ในที่สุดก็ทำให้เพื่อนยอมรับได้ ถึงแม้ว่าพี่ชายของเพื่อนจะดูใจดีและน่ารักมากๆ สมคำบอกเล่าก็เถอะ แต่พี่ชายของเธอก็ไม่แพ้กันหรอก


ขณะเดียวกันทงเฮก็เดินออกมาจากด้านหลังบ้านพร้อมถาดขนมและน้ำพอดี


‘พี่เอาคุ้กกี้กับน้ำผลไม้มาให้ จูทานได้ไหม’


‘ได้ค่ะๆ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว’


หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มทว่าก็โดนเพื่อนรักแย่งซีนเพราะว่าร่างเล็กๆ ของเจ้าของบ้านคนน้องถลาไปหาพี่ชายทั้งที่หนุ่มร่างเพรียวยังไม่ทันวางถาดลงบนโต๊ะของห้องนั่งเล่น


‘พี่ทงเฮดูนี่สิ พี่ชายของจู หล่อมากเลยเนอะ เท่มากด้วย ตอนแรกฉันคิดว่าจูโม้ซะอีกที่บอกว่ามีพี่หล่อมากกกก’


น้องสาวลากเสียงยาวเพราะต้องการเน้นถึงคำโม้ที่เป็นจริงของเพื่อน ทว่าทงเฮกลับแทบไม่ได้ยินเสียงอะไร นัยน์ตาคู่หวานเบิกกว้างอย่างตกใจ เพราะว่าผู้ชายที่ยืนกอดเด็กสาวซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตอนนี้คือคนที่เขาแอบชอบมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย


สามปีแล้ว...


เขาไม่คิดว่าคิมคิบอมจะเป็นพี่ชายของมินจู


มือบางอ่อนแรงชั่วครู่เพราะสติไม่อยู่กับตัวจนถาดที่ถืออยู่หล่นลงไปกระแทกกับพื้น ซึ่งมันก็ทำให้คนทั้งสามสะดุ้งตกใจ ทงเฮรีบกระวีกระวาดก้มลงเก็บขนมที่หกบนพื้น


‘ฮันแน่ พี่ชายของจูหล่อมากจนพี่ตกใจเลยใช่ไหมล่ะ ฉันก็ตกใจเหมือนกัน คนอะไรหล่อได้ขนาดนี้’


น้องสาวเอ่ยล้อๆ กับอาการตกใจของพี่ชาย ผิดกับใครอีกคนที่มองพฤติกรรมของคนที่เก็บเศษคุกกี้บนพื้นอย่างลนลาน


ท่าทางแปลกๆ ของทงเฮทำให้มินจูรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล และเพื่อขจัดข้อสงสัยนั้น เสียงใสก็เปล่งบอก


‘แกไปเอาไม้ถูพื้นมาช่วยพี่ทงเฮเก็บกวาดสิ’


‘เอ่อๆ ฉันลืม’


พอโดนบอกถึงได้รู้ตัว ร่างเล็กพุ่งพรวดไปทางหลังบ้านเพื่อนำอุปกรณ์มาทำความสะอาด


มินจูมองเพื่อนที่วิ่งไปก่อนจะก้มตัวลงตรงข้ามกับทงเฮ ตากลมมองพี่ชายของเพื่อนอย่างประเมินอะไรบางอย่าง มือนิ่มช่วยเก็บเศษขนมที่หกเรี่ยราด


‘พี่ทงเฮรู้จักพี่คิบอมใช่ไหมคะ’


คำถามนี้พาให้หัวใจของทงเฮกระตุก เขาพยายามบังคับตัวเองไม่ให้เงยหน้าขึ้นมองคนที่ถามเขาราวกับรู้สิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจ


‘พี่ชอบพี่คิบอมใช่ไหม’


‘อะ..’


คำถามแทงใจทำให้ทงเฮสะดุ้งจนมือที่เก็บคุกกี้อยู่พลาดไปโดนแก้วที่หล่นลงมาแตกจนเลือดซึม


‘จูพูดแทงใจเหรอคะ’


‘เปล่าหรอก ไม่มีอะไร น้องจูเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า’


ทงเฮชันตัวลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะเดินกลับไปหลังบ้านเพื่อนำเศษขนมไปทิ้งพลางคิดว่าจะให้น้องสาวมาเก็บต่อ เพราะว่าเขาอยากหลีกเลี่ยงจากเด็กคนนี้ให้มากที่สุด ทว่ามินจูก็เดินตามเขาเข้าไปในครัว


‘อ้าว ทำไมเข้ามากันแล้ว ฉันกำลังจะออกไปจัดการเลย’


‘แกไปจัดการต่อเถอะ พี่ทงเฮโดนแก้วบาด ฉันจะดูเขาให้’


‘อ่า เหรอ งั้นฉันไปเก็บมันก่อนนะ’


เมื่อบุคคลที่สามจากไปทำหน้าที่แล้ว บรรยากาศระหว่างคนสองคนก็เงียบลง ทงเฮเม้มปากแน่นสะกดกันไม่ให้ตนแสดงท่าทีอะไรออกมา ทว่าแม้จะพยายามเช่นนั้นมันก็ไร้ผลเพราะว่า...


‘ถ้าพี่ชอบพี่คิบอม จูช่วยพี่ได้นะ’









เมื่อเล่าทุกอย่างจบ ความเงียบกับก็ย่างกรายเข้ามา ทงเฮหลบสายตาของคิบอมเพราะไม่อยากมองและไม่อยากรู้ว่าร่างสูงกำลังมองเขาด้วยสายตาแบบไหน เพราะถ้าได้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ในแววตาคู่นั้นมันอาจจะโหดร้ายเกินไป



“ผมขอโทษที่ทำเหมือนปั่นหัวคุณ”



“...”



“ขอโทษที่บอกว่าผมชอบคุณ”



“...”



“ผมแค่...อยากบอกความรู้สึกของตัวเอง ถึงมันจะทำให้คุณเกลียดผมมากกว่าเดิมก็ตาม”



น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากสีสวยสลดลงเรื่อยๆ และมันก็สั่นพร่าลงเรื่อยๆ เช่นกัน กระนั้นทงเฮก็พยายามลำเลียงมันออกมาจากลำคออันแห้งผาก



“ต่อไป.. ผมจะไม่มาสร้างความวุ่นวายให้คุณอีก คุณสบายใจได้”



ไร้คำจะและน้ำเสียงจะกล่าวออกมาให้ใครอีกคนได้ฟังอีกทงเฮก็เม้มปากแน่น พยายามเก็บกดอารมณ์ที่กำลังจะท่วมท้นเอาไว้ในใจ ไม่ให้ทะลักล้นออกมารบกวนอีกฝ่าย



ความเงียบคุกคามอีกครั้งพร้อมกับกระเช้าซึ่งลอยอยู่บนฟ้ากำลังร่อนต่ำลงเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงพื้นดิน ยิ่งบีบหัวใจของคนไม่สมหวังให้ยิ่งปวดร้าวหนักขึ้น ราวกับเวลาของชีวิตกำลังสั้นลงทุกที กระทั่งหมดลง ประตูของกระเช้าสีน้ำเงินเปิดออกเมื่อหยุดอยู่ใกล้พื้นดินที่สุด



คิบอมลุกออกไปนอกกระเช้าอย่างไม่รีรอจนทงเฮรู้สึกใจหาย เข้าใจได้ทันทีว่าร่างสูงคงไม่อยากอยู่ในที่ที่น่าอึดอัดแบบนี้ อึดอัดที่ต้องอยู่กับคนที่ชอบตัวเองแต่ตัวเองไม่ได้ชอบ หนำซ้ำยังเป็นผู้ชาย และยังโกหกหลอกลวง ทว่านัยน์ตาคู่สีน้ำตาลอ่อนที่รู้สึกเคืองแสบเพราะน้ำใสๆ พยายามจะดันกันออกมาก็ต้องเปิดกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อมือหนายื่นออกมาตรงหน้า



หน้าหวานเงยขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ด้านนอกแต่กลับส่งมือมาให้ มองใบหน้าหล่อเหลาที่ไม่แสดงสีหน้าใดๆ สลับกับมือกว้างที่ยังแผ่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งท่าทีงุนงงนั้นก็กระตุ้นให้เสียงทุ้มๆ ต้องเปล่งออกมา



“ลุกออกมาสิ”



ไม่ใช่น้ำเสียงไม่พอใจหรือว่ากดดัน แต่กลับเป็นน้ำเสียงสบายๆ ให้ร่างบางรู้สึกตื้นตันอยู่ในใจ แม้จะไม่รู้ความหมายแต่ก็ซาบซึ้งไปแล้ว



มือบางวางทับบนมือแข็งๆ ที่ยื่นมาให้ ค่อยๆ ดันตัวลุกออกจากกระเช้าก่อนจะย่างก้าวไปจากบริเวณนี้ด้วยกัน ทั้งที่ออกมาจากกระเช้าแล้วแต่ว่ามือที่กุมมือของตนเอาไว้ก็ยังไม่ปล่อยออก หนำซ้ำยังกระชับแน่นขึ้นอีก



ทงเฮรู้สึกว่าหัวใจมันเร่งจังหวะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พยายามบอกตัวเองไม่ให้คิดไปไกลแต่มันก็พานจะคิดออกนอกลู่นอกทางทุกที



“เอ่อ..”



เมื่อไม่เข้าใจ ทางเดียวที่จะไขข้อข้องใจได้ก็คือการถามเจ้าตัวให้รู้เรื่อง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการทำร้ายหัวใจตัวเองแต่ก็ดีกว่าได้ความหวังแล้วโดนปฏิเสธ แบบนั้นคงเจ็บกว่าเยอะ



“อะไร”



เสียงเบาๆ ที่แทรกความเงียบระหว่างกันทั้งที่รอบตัวเต็มไปด้วยเสียงผู้คน เสียงเพลง เสียงอึกทึกของเครื่องเล่นเรียกความสนใจจากคนที่มองไปด้านหน้าและจูงมือคนข้างตัวให้เดินไปยังด้านหน้าสวนสนุกราวกับไม่รู้ตัวให้หันมามองหน้าหวานๆ ได้



“คือ... มือ..”



ทงเฮพูดอะไรไม่ออก เขารวบรวมเสียงพูดออกมาได้เท่านี้ หน้าเรียวก้มมองมือของตนเองที่ถูกมือหนากุมเอาไว้ซึ่งมันเป็นการบอกคิบอมให้เข้าใจได้ว่าหมายถึงอะไร มือข้างที่จับมือบางไว้จึงยกขึ้นมาพลางเปล่งเสียงถามราวกับคนไม่รู้เรื่อง



“นี่เหรอ” ถามแล้วก็วางมือลงข้างตัวเหมือนเดิมและไม่ได้ปล่อยมือนิ่มๆ ที่จับอยู่ออก ทงเฮจึงได้แต่ครางเสียงในลำคอ



“อืม”



“แปลว่าฉันตกลงไง”



“เอ๊ะ”



คิบอมบอกอย่างสบายๆ แต่กลับกลายเป็นทงเฮที่เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึงเหมือนจะเข้าใจความหมายและไม่เข้าใจในเวลาเดียวกัน ปากบางอ้าออกส่งเสียงไม่เข้าใจ ซึ่งกลายเป็นภาพที่ร่างสูงเห็นแล้วต้องขำเบาๆ ก่อนจะบอกสิ่งที่ชัดเจนกว่า



“ฉันรับรักนาย”


ราวกับเวลาหยุดลงทันใด ขาที่ก้าวเดินไปอย่างไม่เข้าใจหยุดลง ทงเฮยืนขาตายอยู่กับที่ คิบอมจึงต้องหยุดเดินและหันไปมองเจ้าของหน้าหวานที่ได้แต่ยืนตัวแข็ง



“เป็นอะไร”



“ไม่อยากจะเชื่อ คุณโกหกเพราะจะแกล้งผมเหรอ”



“เปล่า”



แม้ว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธว่าไม่ได้โกหกหรือกลั่นแกล้ง แต่ทงเฮก็ไม่รู้สึกว่ามันจะเป็นความจริง เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และยากเกินกว่าจะเชื่อ



“ทำไม...”



“ไม่เชื่อฉันรึไง”



“ก็มันไม่น่า...”



เสียงของคนไม่เชื่อหยุดและถูกกลืนลงคอไปทันทีทั้งที่ยังพูดไม่จบ ไม่ใช่เพราะถูกขัดเหมือนครั้งแรกแต่เพราะสัมผัสอุ่นๆ ที่แตะอยู่บนแก้ม



ทิ้งริมฝีปากของตนเองไว้บนแก้มนุ่มๆ ของคนตัวบางกว่าไว้นานพอสมควร คิบอมก็ถอนหน้าออกมา ยิ้มน้อยๆ ให้หน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ทว่าเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทงเฮแล้วก็ต้องขยายรอยยิ้มบนแก้มมากขึ้นเพราะว่าร่างบางกำลังยืนหน้าแดงและเพิ่งจะยกมือขึ้นมากุมแก้มตรงที่เขาจูบเมื่อครู่












อย่างกับคนละคนกับตอนทำใจกล้าต่อคำกับเขาเรื่องที่จะจีบมินจู












“ทีนี้เชื่อรึยัง”



หน้าเรียวขาวที่กลายเป็นสีระเรื่อแดงกว่าเดิมเมื่อถูกถามราวกับจะตอกย้ำให้รู้ว่าเมื่อครู่ตนเองโดนร่างสูงทำอะไร ทว่าไม่ได้ตอบอะไรกลับไป คิบอมจึงถามซ้ำ แต่ด้วยประโยคที่ผิดจากเมื่อครู่



“หรือว่าต้องยืนยันอีกข้าง”



“ไม่ ไม่ต้องแล้ว”



“แสดงว่าเชื่อแล้ว?”



“อืม” ตอบเสียงเบาๆ ในลำคอ ทว่านั่นก็ถือว่าเป็นคำตอบ คิบอมจึงยื่นมือไปกุมกับมือบางอีกครั้งก่อนจะพาเดินออกไปจากสวนสนุก



“กลับด้วยกันนะ ฉันมีเรื่องจะพูดกับนายเยอะเลย”



“เห?” เปล่งเสียงด้วยความสงสัยพลางหันไปมองหน้าหล่อที่หันมายิ้มให้เขานิดๆ นัยน์ตาสวยขยายมากกว่าปกติเล็กน้อย



“เชื่อสิว่านายอยากฟัง”



คำพูดที่เหมือนจะรู้ทันทำให้ทงเฮต้องเม้มริมฝีปากแน่น หันหน้ากลับไปยังด้านหน้าเหมือนเดิมเพราะถ้าหากว่ามองใบหน้าหล่อที่แต้มยิ้มนานกว่านี้หัวใจของเขาคงหมดอายุการใช้งานวันนี้ ทว่าแม้จะพยายามสร้างเกราะป้องกันให้ตนเองแล้ว ร่างสูงก็ยังหาวิธีมาทลายเกราะที่กำลังสร้างขึ้นมาได้



“อ้อ แล้วก็เลิกเรียกฉันว่าคุณด้วย มันดูห่างเหินเกินไปสำหรับคนเป็นแฟนกัน”










ให้ตายสิ จะทำให้หัวใจฉันเต้นแรงไปถึงไหน





( ป.ล. เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเหตุการจริงใดๆ )

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +30 ย่อ เหตุผล
Parawatee_41 + 30

ดูบันทึกคะแนน

เธอ, อยู่เป็นรอยยิ้มของฉันอย่างนี้, ตลอดไปนะเธอ :)

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
35
พลังน้ำใจ
2129
Zenny
28941
ออนไลน์
212 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-2-26 20:37:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
จบอย่างมีความสุข... น่ารักดีคู่นี้ยังไงก็ชอบ

แสดงความคิดเห็น

น่ารักมากๆ แต่งไปก็อมยิ้มไป ขอบคุณที่มาอ่านนะครับ ^^  โพสต์ 2012-2-26 20:49

ประธานนักศึกษา

กระทู้
745
พลังน้ำใจ
53216
Zenny
48716
ออนไลน์
11923 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-4-27 20:42:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ง่ายดายราบเรียบ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-23 02:05 , Processed in 0.088752 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้