ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 548|ตอบกลับ: 0

โรคบนเตียง

[คัดลอกลิงก์]
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์

สมาชิกจีโฟกาย 100%



เวลานอนคือเวลาแห่งการพักผ่อนหลังจากที่ร่างกายของเราได้ใช้งานมาตลอดทั้งวัน และการนอนหลับนอกจากจะทำให้ร่างกายได้หยุดพักแล้ว ยังเป็นเวลาที่ร่างกายจะได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่าง ๆ ทั้งยังช่วยสร้างพลังงานขึ้นใหม่ โดยสังเกตได้จากเวลาเราตื่นนอนหลังจากที่ได้นอนอย่างเต็มที่แล้ว เราจะรู้สึกสดชื่นและมีเรี่ยวแรงมากขึ้น ดังนั้นใครก็ตามที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนอน จึงมักจะไม่สดชื่น อารมณ์เสีย หงุดหงิดง่าย ไร้เรี่ยวแรง เจ็บป่วยบ่อยและบางรายอาจเป็นมากถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิตเลยก็มี

เมื่อการนอนเป็นสิ่งสำคัญแก่ร่างกาย เราก็ควรต้องให้ความสำคัญกับมันอย่างมากเช่นกัน บางคนให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส เข้าโรงยิม เล่นโยคะ ให้ความสำคัญกับการกินดื่ม เลือกกินแต่ของดี ๆ แพง ๆ แต่พอถึงเวลานอนกลับไม่นอน หรือพอมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนก็ไม่ใส่ใจจะรักษา เพราะคิดว่าไม่สำคัญ จึงเกิดเป็นโรคภัยต่าง ๆ ตามมามากมาย ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญและควรรู้ว่าโรคที่เกี่ยวข้องกับการนอนหรือโรคที่เกิดได้จากบนเตียงนั้นมีอะไรบ้างและมีผลเสียแก่ร่างกายอย่างไร เพื่อเราจะได้หาทางป้องกันและรักษาต่อไป

โรคบนเตียง มีอะไรบ้าง


1. อาการนอนไม่หลับ โดยปกติแล้วคนเราควรต้องนอนวันละ 8 ชั่วโมง แต่สำหรับเด็กทารกอาจต้องนอนมากถึง 16 ชั่วโมง ในขณะที่คนสูงวัยอาจนอนเพียงวันละ 5 ชั่วโมงเท่านั้นก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว การนอนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งในทางตรงกันข้ามหากเรานอนไม่พอแล้วจะทำให้มีปัญหาต่าง ๆ ตามมา ทั้งมีอาการง่วง อิดโรย อ่อนแรง ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี ปวดศีรษะ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ร่างกายเติบโตช้า แก่ง่าย ตายเร็ว การอดนอนหรือนอนไม่หลับจึงเป็นการทำร้ายตนเองซึ่งมีผลเสียพอ ๆ กับการติดยาเสพ ติดหรือดื่มสุรายาเมาเลยทีเดียว

การนอนไม่หลับเกิดได้หลายสาเหตุ ทั้งความเครียดจากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบพบเจอและความเครียดจากสิ่งแวดล้อม ทั้งเกิดจากความวิตกกังวลต่าง ๆ เกิดจากการอดหลับอดนอนมาหลายวันที่เรียกว่าตาค้าง หรือเกิดจากการมีโรคประจำตัว ซึ่งยาบางชนิดที่รับประทานอาจทำให้ไม่ง่วง เช่น ยารักษาโรคหัวใจ ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง

การรักษาอาการนอนไม่หลับ โดยหลักควรพยายามรักษาโดยไม่ใช้ยาแต่ให้พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเราเอง เป็นต้นว่า

1) นอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกคืน เพื่อร่างกายจะสามารถปรับตัวได้ว่าเมื่อถึงเวลานี้แล้วเราจะต้องนอนพักผ่อน

2) ไม่กินอาหารก่อนนอนเพราะจะทำให้ไม่สบายตัวและไม่ดื่มน้ำมากเพราะอาจต้องลุก เข้าห้องน้ำบ่อย งดดื่มกาแฟหรือชา หากอยากกินอะไรสักอย่างก่อนนอนควรเป็นนมอุ่น ๆ สักแก้วก็เพียงพอแล้ว และนมมีแคลเซียมและมีกรดอะมิโนที่ชื่อว่า ทริปโตแฟนช่วยให้นอนหลับสบาย

3) ปิดไฟนอน

4) หาที่นอนและหมอนที่เหมาะกับสรีระของร่างกายซึ่งไม่ควรแข็งหรืออ่อนเกินไปจะ ทำให้นอนไม่สบายตัวและปวดเมื่อยร่างกาย

5) จัดห้องให้สะอาดและโล่ง ไม่ควรมีของมากมายในห้องนอนเพราะจะทำให้อึดอัดและอากาศไม่ถ่ายเท

6) ออกกำลังกายอย่างพอดีจะทำให้ร่างกายผ่อนคลายหลับสบายขึ้น

หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการมากขึ้น เช่น นอนไม่หลับหลายคืนติดต่อกัน ไม่ควรไปซื้อยานอนหลับมาใช้เอง แต่ให้ไปรักษากับแพทย์โดยตรงจะเป็นผลดีและปลอดภัยที่สุด

2. อาการนอนกรน นอกจากจะเป็นที่สร้างความรำคาญแก่ผู้ร่วมห้องนอนแล้ว สำหรับตัวผู้ป่วยเองก็เดือดร้อนไม่แพ้กันเพราะไม่ต่างอะไรกับการนอนไม่หลับ เนื่องจากร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทั้งยังเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่น ๆ ตามมาอีกหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ออกซิเจนในเลือดแดงลดต่ำ และยิ่งใครมีอาการมากอาจถึงขั้นหยุดหายใจชั่วขณะจึง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การนอนกรน เกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเพราะ

- อายุที่มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อต่าง ๆ หย่อนยาน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ขยายช่องทางเดินหายใจบริเวณลำคอทำให้ลิ้นไก่ ตกไปบังทางเดินหายใจ

- ความอ้วน ทำให้ไขมันที่อยู่บริเวณคอซึ่งมีมากไปกดทับช่องคอให้แคบลงและไขมันที่อยู่ บริเวณหน้าท้องทำให้กระบังลมทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้การหายใจติดขัด

- ดื่มสุรา ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงซึ่งส่งผลให้ทางเดินหายใจอุดตันและสมองขาดออกซิเยนหรือสูบบุหรี่ ทำให้การทำงานของระบบทางเดินหายใจเสื่อมและแคบลง ทั้งทำให้คอหอยอักเสบเพราะมีการระคายเคือง

- โรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ไซนัส เยื่อบุจมูกอักเสบ หรือโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ เช่น โรคไฮโปไทรอยด์ คือภาวะที่ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายต่ำ หรือโรคที่เกิดจากกรรมพันธุ์ต่างๆ เช่น ดาวน์ซินโดรม

การรักษาอาการนอนกรน โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

1) นอนในท่าทางที่สบายหรือนอนตะแคงข้าง ไม่ควรนอนหงายเพราะทำให้ลิ้นตกไปด้านหลังชิดกับผนังช่องคอทำให้เกิดการอุดตัน

2) ลดความอ้วน จะช่วยให้ขนาดของช่องคอเพิ่มมากขึ้นจึงทำให้อากาศไหลผ่านลงสู่ปอดได้สะดวก ขึ้น ซึ่งช่วยให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนมีมากขึ้น

3) ออกกำลังกาย

4) งดสุรา ช่วยให้การหยุดหายใจจากการที่ทางเดินหายใจอุดตันลดลง ทำให้นอนกรนลดลง

5) เลิกสูบบุหรี่ทำให้ผนังคอลดการอักเสบลงและช่วยให้เสมหะที่มีมากลดลงเช่นกัน จึงทำให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถรักษาทางการแพทย์ได้โดยอาจใช้เครื่องช่วยหายใจ Nasal CPAP ซึ่งเครื่องนี้จะทำให้ช่องทางเดินหายใจที่แคบกว้างขึ้น หรือหากอาการหนักกว่านั้นอาจต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาทางเดินหายใจอุดตัน

3. อาการนอนละเมอ เป็นอาการที่เกิดในช่วงที่ร่างกายมีสติสัมปชัญญะต่ำอย่างเช่นในเวลานอน ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากความเหนื่อยล้าของร่างกาย ความเครียดหรือความวิตกกังวลต่าง ๆ การพบเห็นสิ่งที่ทำให้ฝังอยู่ในใจ เช่น เห็นภาพการต่อสู้ เห็นภาพที่น่าเกลียดน่ากลัว หรือไปทำกิจกรรมอะไรมาแล้วยังนึกถึงสิ่งนั้นอยู่ก่อนจะนอนหลับไป เช่น ไปเล่นกีฬามา ไปดูคอนเสิร์ตมา

ซึ่งลักษณะของอาการคือมีการเคลื่อนไหวร่างกายหรือมีการกระทำต่าง ๆ ในขณะที่ไม่รู้สึกตัว ซึ่งการนอนละเมอทำให้เกิดผลเสียได้มากมาย ทั้งต่อร่างกายเนื่องจากร่างกายพักผ่อนได้ไม่เต็มที่และเหน็ดเหนื่อยจากการที่ได้ไปทำอะไรต่าง ๆ มา ผลเสียต่อการงานเพราะเมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ก็จะมีอาการง่วง อ่อนเพลีย ขาดสมาธิในการงานและการเรียน และผลเสียด้านอื่น ๆ เนื่องจากเราไม่รู้ว่าเราทำอะไรลงไปบ้างขณะนอนละเมออยู่ เช่น อาจไปทำร้ายใครหรือด่าใครเข้าก็ได้

การรักษาอาการนอนละเมอ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

1) อย่ากระตุ้นตนเองด้วยการทำกิจกรรมที่ตื่นเต้นหรือโลดโผนเกินไป

2) งดการนอนกลางวัน เพื่อถึงเวลานอนกลางคืนจะได้หลับสนิทอย่างเต็มที่

3) จัดห้องนอน ที่นอนและหมอนให้สบาย และไม่ควรเปิดไฟนอนเพราะจะรบกวนการนอน

4) เปิดเพลงเบา ๆ เพื่อผ่อนคลาย

5) ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย นึกถึงเรื่องที่ทำให้มีความสุข

4. โรคไหลตาย คือโรคที่ทำให้เสียชีวิตอย่างกะทันหันเพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะร้ายแรง ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากสารโปแตสเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ ทำให้การนำไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ หัวใจจึงเต้นผิดจังหวะทำให้เสียชีวิต หรืออาจเกิดจากมีความผิดปกติเกี่ยวกับหัวใจแต่ไม่รู้จึงไม่ได้รักษามาก่อน เมื่อมันแสดงอาการร้ายแรงขึ้นมาทำให้เสียชีวิตไปแบบไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวเลยก็ได้

การรักษาโรคไหลตายทำได้ยาก เพราะอย่างที่ทราบคือมันเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้มันจะเกิดเมื่อไหร่ แต่ทางที่ดีคือการป้องกันโดยหมั่นดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและตรวจเช็คร่าง กายโดยเฉพาะการทำงานของระบบหัวใจไว้บ้างก็ดี เผื่อว่ามีอาการผิดปกติจะได้รักษาไว้ก่อนก็น่าจะทำให้สบายใจได้เปลาะหนึ่ง

โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นกับคนเราได้เสมอไม่เว้นแม้แต่เวลานอน ดังนั้น เราควรต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองทั้งยามปกติและยามอยู่บนเตียงนอนด้วย เพื่อว่าชีวิตของเราจะได้พ้นจากโรคภัยหรืออาการทรมานทั้งหลาย และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสันต์ตลอดปีหน้าฟ้าใหม่นี้


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-22 09:28 , Processed in 0.080525 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้