อยากถามเพื่อนๆเกี่ยวกับเพื่อนที่เป็นไบรุก ไบรับ ที่มีครอบครัว

chaipll

อยากถามเพื่อนๆนะครับว่าเพื่อนบางคน ที่เป็นไบรุก ไบรับ หรือเกย์ ที่มีครอบครัว อยากถามความรู้สึกนะครับ ว่า สิ่งที่ทำลงไปกับครอบครัวมันผิดหรือไม่ อยากแชร์ประสบณืการ ครับผม

อันนี้ผม ไม่ได้ตินะครับ แต่ผม อาจจะเป็นคนตรง ไป แต่ผมพูดจากความรุ้่สึกนะครับ
ตัวคุณเอง ไม่ต้องสับสนอะไรหรอกครับ เพราะคุณมีครอบครัวแล้ว ถ้าคุณไม่มีครอบครัว นั้นและที่คุณจะสับสนตัวเอง
ว่าจะเลือกอย่างไร ถ้าคุณเลือกทางนี้ไปแล้วก็ขออย่ากลับมาเส้นทางนี้อีกในความคิดของผมนะครับเพราะสาเหตุ

1)คุณได้ตัดสินใจในการใช้ชีวิตคู่แบบนี้ไปแล้ว
2)ถ้าคุณมีลูก ๆก็ต้องมองคุณ เป็น ไอดอล ของเขา แล้วคุณจะทำอย่างไรา เพืื่อเป็นตัวอย่า่งของลูก แล้วถ้าลูกรู้่ความจิงทำอย่างไร
3)คุณทำอะไรเกินเลย คุณมีความสุข แล้วคู่ทุกษ์คู่ยากของคุณที่คุณเลือก ทำอย่างไร มองความรุ้สึกเขาหรือเปล่า
4)ถ้าคุณรู้ว่าแฟนคุณ มี ผู้ชาย มีชู้ แล้วคุณ คิดอย่างไร เฉกเช่นเดียวกันที่คุณกำลังจะคิด
5)ถ้าสักวันแฟนคุณรู้ควาามจิงจากครอบครัวที่คุณอบอุ่น กลายเป็นครอบครัวที่แตกแยก แล้วใครละที่ทำให้แตกแยก
6)แล้วลูกคูณมีแนวโน้มเป็น ผมคิดว่าคุณอาจจะรับลูกคุณได้ ว่าเป็นตัวตนของเขา แต่ถ้าเขาไม่ได้เป็น แล้วสักวันเจอพ่อตัวเอง
แล้วลูกคุณจะคิด ต่อพ่ออย่างไร แล้วจะคิดกับแม่อย่างไร แล้วเขาจะทำอย่างไร กับชีวิตเขา ลองคิดดู

อันนี้อยากให้เพื่อนๆแชร์ความรู้สึกนะครับ  แต่ผมนั้น ผมรู้สึกว่าน่าจะคิดแบบนั้น แล้วเพื่อนๆละครับคิดแบบไหนนอกเหนือจากนี้หรือเปล่า เพื่อสามารถใช้ชีวิตในสังคม สำหรับชาวเราอย่างถูกต้อง ถ้าความรู้สึกผมแรงไป ก็ขออภัยเพื่อน ณ  ที่นี่ด้วย เพราะไม่ได้เจตนา แต่ อยากรู้ ในส่วนี้อะครับ

yaifaiz

ก่อนจะตอบ ผม ขออกตัวก่อนนะว่า ผมไม่ได้มีครอบครัว หรือเป็นไบ อะไรทั้งสิ้น แต่ขอยกกรณีศึกษาให้ จขกท ฟัง
คนแรกคือ
1. อาจารย์ยิ่งศักดิ์ แว๊บแรกใครจะไปคาดคิดหล่ะว่า เห็นตุ้งติ้งแบบนี้ มีลูกโตจบปริญญาแล้ว แถมยังอยู่กินกะ ภรยาชาวสิงคโปร์ ตามภาพ


เคยดูในทีวี อ.ยิ่งศักดิ์เคยตอบว่า

มั่นใจมากว่าทำหน้าที่ของสามีและพ่อได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
เค้าทำได้ดีกว่าคนบางคนที่แทนตัวเองว่าสุภาพบุรุษซะอีก

2. อาตุ่ม ชลิต ก็ลูกโตทั้งคู่ แถมเป็นนักแสดงอีกต่างหาก

ดังนั้นคงขึ้นอยู่กะ ภรรยา ตกลงกันยังไงอีกเรื่องนึง แต่คงยากที่จะเดาว่าตกลงยังไง

chaipll

ขอบคุณมากครับผม แต่ก็เป้นส่วนน้อย แต่อาจารย์ยิ่งศักดิ์ กับคุณชลิต ผมก็ได้รู้จักมาเหมือนกันครับ แต่เป็นส่วนน้อย อยากรู้ หลากหลายครับ แต่ว่า ขอบคุณมากครับ คุณ yaifaizขอบคุณมากนะครับ ที่ให้ความคิดเห็นที่เป็นสิ่งที่ดีๆๆครับผม ขอบคุณอีกครั้งครับ

chaipll

หวัดดีครับผมทักครับเพือน ๆครับ

robmaung

ผมแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับไม่ได้โต้แย้งอะไรใคร
ผมก็เป็นไบมีครอบครัว ก็รู้ตัวเองเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วคือเห็นผู้ชายที่มีอายุแล้วดูอบอุ่นอยากเขาไปกอด
ผมไม่มีพ่อครับ พอผมโตมาพอรู้เรื่องหน่อยรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ ทีแรกผม
ผมเครียดมากจริง ๆ ว่าเราทำไมเกิดมาถึงเป็นแบบนี้ ไม่อยากเป็น ทำไมถึงรักผู้ชายด้วยกัน
แต่ผมก็จะใช้ชีวิตเหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป เกเรบ้างเที่ยวบ้าง มีแฟนหญิง ไม่เคยคบผู้ชายเป็นแฟนนะครับ
               มีแต่เพื่อน ๆ กันทั้งนั้น ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็น ประสบการณ์ ช-ช ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เมาแล้ว
เพื่อนมาเริ่มเราก่อนทั้งนั้น ผมไม่เคยจะทำอะไรใครก่อนเลยไม่กล้าครับแม้กระทั่งเดี๋ยวนี้
พอเรียนจบทำงานแล้วผมก็มาคิดดูว่าถ้าเราจะมีคู่ครองเราจะอยู่กับผู้ชายหรือหญิง
แต่ผมเลือกอยู่กับผู้หญิงนะ มันดูเป็นครอบครัวแล้วก็เป็นความสุขที่แท้จริง
กับชายผมบางครั้งได้แต่จะให้อยู่ทุกวันผมคงไม่เอา ดูมันอึดอัดงัยไม่รู้ ผมคิดว่า
ความสุขของคนเซ็กส์ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหรอกครับ มีก็ได้ไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาส
เพียงแต่ว่าเราต้องมีความยับยั้งชั่งใจก็แค่นั้น  
             ตานี้มาเรื่องครอบครัว ถ้าเราตัดสินใจมีครอบครัวเราจะต้องให้ความสำคัญ
อันดับหนึ่งครับ แล้วก็ทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวของเราให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความอบอุ่นครอบครัว
ฐานะความเป็นอยู่ แล้วก็เรื่องเซ็กส์ ทุกวันนี้ก็เป็นแบบนั้น ส่วนเรื่องผู้ชายก็มีบ้างครับ
ผมก็มีเหมือนเราไปเที่ยวหญิงนั่นแหละครับ บางครั้งเวลาผมออกไปทำงานไกล ๆ บางทีผมก็เที่ยวหญิง
บางทีก็ชาย แล้วแต่โอกาส แต่ข้อสำคัญคือจะต้องไม่ทำให้ครอบครัวเดือนร้อนหรืออับอายเป็นอันขาดครับ
แบบน้ำแตกแล้วแยกทางอะครับ ส่วนเรื่องที่คุณ จขท.ถามว่าถ้าหญิงเขาเป็นบ้างละ ผมคิดว่าผมใจกว้างพอนะ
คือถ้าวันไหนที่ผมไม่มีอารมณ์กับเขาแล้วไม่สามารถทำให้เขามีความสุขได้ผมว่าผมยอมให้เขาไปเที่ยวได้นะ
             แล้วที่ผ่านมาตั้งแต่เรียน ผมเรียนโรงเรียนชายล้วนจนจบทำงาน ก็มีประสบการณ์บ้างกับเพื่อน ๆ
ผมยังคุยให้แฟนผมฟังเลย ชิว ๆ ครับ ส่วนเพื่อน ๆ ที่เคยมีไรกันเดี๋ยวนี้ก็มีครอบครัวกันไปหมดแล้ว
ก็ยังคบหาเป็นเพื่อนรักกันธรรมดานาน ๆ มาเจอกันก็มีไรกันบ้างตามโอกาสครับ ก็เหมือนเพื่อนกันทั่ว ๆไป
ไม่เคยว่าต้องนัดมาเจอกันอะไรแบบนี้ ไม่มีครับ คือถ้าว่างมาเจอกันก็เอาไม่เจอก็ไม่เป็นไร คือผมก็ใช้ชีวิตของผม
ตามปกติอะครับ ทุกวันนี้ผมก็มีความสุขกับครอบครัว มีความสุขกับการทำงาน ความสุขเรื่องเซ็กส์
ก็เหมือนคู่ชายจริงหญิงแท้ทั่ว ๆ ไปทุกอย่างครับ
           ข้อคิดของผมนะครับ  ถามว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไรละครับ อย่าไปยึดติดกับอะไรเลย เป็นเกย์
ก็เป็นคนดีได้ อยู่ในสังคมได้ เรื่องเซ็กส์มันก็แค่น้ำแตกไม่ว่าจะกับหญิงหรือชาย หรือแค่ถูกับอะไรก็ได้เหมือนกัน อย่าไปยึดติด เพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต
          คือถ้าขาดมันแล้วมันไม่หิวเหมือนหิวข้าวหรอกครับ อย่าทำให้ใครเดือดร้อน อย่าเอาเปรียบสังคม ทำอะไรให้สังคมบ้างเมื่อมีโอกาสก็แค่นั้นครับ ผมยาวเลยโทษนะครับสำหรับบางคนที่อาจจะไม่เห็นด้วย

pumithatn

ขอบคุณมากครับ

shockolate

คุณคิดอย่างไรกับสำนวนที่ว่า.. "สวมหมวกหลายใบ" มันก็ยากอยู่นะที่คนเราไม่ว่าสวมหมวกใบไหนก็จะให้ดูดีไปโม้ดด.. ผมชอบคำพูดของตัวเอกในหนังเรื่อง "คุณนายเด๊าท์ไฟร์ พี่เลี้ยงหัวใจหนุงหนิง" (ใครพลาดเรื่องนี้เสียดายแย่!) ประมาณว่าหนูน้อยคนนึงเสียใจที่พ่อแม่แยกทางกัน คุณนายเด๊าท์ไฟร์ปลอบเธอว่า "ถึงท่านทั้งสองจะไม่รักกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านทั้งสองไม่รักหนูนี่จ๊ะ" อืมม..นี่อาจเป็นตัวอย่างของอุทาหรณ์เรื่องหมวกหลายใบก็คงได้มั๊ง

คุณเป็นเสือไบใช่ม๊ะ? โอเค.. เสือไบก็คือเสือไบวันยังค่ำ แน่นอน..คุณอาจบกพร่องในหน้าที่ของชายแท้ หมวกใบนี้คงสร้างความอึดอัดให้กับคุณมิใช่น้อย แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีหมวกใบอื่นที่คุณจำเป็นต้องสวมใส่บนศีรษะ สังคมมักตั้งคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบเพื่อให้บางคน (เช่นคุณและผม) ถึงทางตัน! เป็นต้นว่า "พ่อแม่พวกคุณ (มึง) จะภูมิใจมั๊ย?" ... "ลูกเมียคุณ (มึง) รู้เข้าจะคิดยังไง?" ... "ถ้าเมียคุณ (มึง) เล่นชู้มั่ง จะเสียใจมั๊ย?" ฯลฯ ผมเองก็มีคำถามย้อนถามสังคมเช่นกัน...

ผมเคยอ่านข่าวผู้หญิงอินเดียคนหนึ่ง ถูกสามี (ชายแท้ๆๆๆ แมนโคตรๆๆๆ) เอาผ้าชุบน้ำกรดเช็ดหน้าจนเหวอะหวะ! สังคมในหมู่บ้านตัดสินว่าสามีไม่มีความผิด เพราะภรรยาถือเป็นสมบัติของสามี สามีเป็นพระเจ้าของภรรยา ย่อมมีสิทธิลงโทษ.. เอาละ คำถามคือ.. "ระหว่างสามีชายแท้ (เศษมนุษย์!) อย่างนั้น..กับเสือไบที่แสนดี (อย่าง อ.ยิ่งศักดิ์) คุณ (มึง!) จะเลือก ผ-สระ-อัว แบบไหน (วะ) ?"  ผมไม่หวังจะได้ยินคำตอบจากสังคม (ช่างแมร่..ง!) เพราะมันเป็นคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบเช่นกัน ฉะนั้นคุณ (เสือไบ) อย่ามัวเสียเวลากับการแสวงหาคำตอบของคำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบอยู่เลย.. สิ่งที่คุณพึงกระทำคือ พยายามสวมหมวกมวกใบอื่นที่เหลือบนศีรษะให้สง่างามที่สุด..เท่านั้นคงพอ

klans_821

ขอบคุณครับ