Title : Puppy Love
Pairing : Kihae
Rating : R
เท้าป้อมๆ ก้าวออกมาจากห้องเรียนหลังจากได้ยินเสียงสัญญาณกิ๊งก๊องดังบอกว่าเลิกเรียนแล้ว แล้วคุณครูคนสวยก็บอกให้กลับบ้านได้ เด็กชายที่ยังตัวเล็กหัวโตอายุหกขวบและยังไม่ขึ้นประถมเดินไปเรื่อยๆ เพื่อกลับบ้านของตัวเองที่อยู่ข้างโรงเรียน แต่แล้วก็ต้องหยุดเดินเอาเสียดื้อๆ เมื่อเห็นเด็กคนหนึ่งกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่บนสนามเด็กเล่นของโรงเรียน
“ทำอะไรอ่ะ”
เด็กน้อยที่ไม่อ้วนและไม่ผอมในชุดเสื้อยืดสีแดงกับกางเกงขาสั้นสีดำเดินเข้าไปหาคนที่กำลังหาอะไรบางอย่างกับพื้นหญ้า
“เราหาตังค์ เราทำตกไว้”
“เหรอ เราช่วยหาเอามั้ย”
แม้ว่าจะเป็นเด็กแต่เด็กชายแก้มป่องจนเหมือนจะระเบิดออกมาก็มีน้ำใจ เพราะคุณพ่อคุณแม่สอนเอาไว้ว่าคนเดือดร้อนตัวเองต้องช่วย
“ดีสิๆ เราหาตั้งนานแต่ไม่เจอเลย” ตอบกลับไปทั้งที่ยังคลุกคลานอยู่บนพื้นนั้น คนที่อาสาช่วยจึงก้มลงไปหามั่ง
“ทำตกตรงนี้เหรอ”
“อื้อ”
ริมฝีปากบางๆ ของคนที่ถูกถามปิดอยู่ แต่ก็ส่งเสียงออกมาเป็นคำตอบ
แล้วเพียงชั่วครู่เสียงของเด็กแก้มป่องก็ดังขึ้น
“เจอแล้วๆ นี่ไง”
มือป้อมแบออกไปยื่นเหรียญให้
เมื่อตากลมๆ โตๆ ของคนที่หาเหรียญอยู่ตั้งนานแต่ไม่เจอมาเห็นเข้า ตัวบางๆ เล็กๆ ก็กระโดดขึ้นลงอย่างดีใจ
“เย่ๆ เจอแล้ว”
“อือ” ตอบกลับไปพลางมองหน้าใสๆ แก้มแดงๆ ของคนดีใจ แล้วก็ร้องในใจว่า... น่ารักจัง “ตัวเองชื่ออะไร”
“เราชื่อทงเฮ แล้วตัวเองอ่ะ”
“เราชื่อคิบอม”
“อื้อ ขอบคุณคิบอม”
พอรู้ชื่อคนช่วยตัวเองแล้ว คนที่ตัวเล็กกว่าและตากลมโตก็บอกขอบคุณอย่างที่หมะม้าสอนเอาไว้ แถมยังยิ้มหวานๆ ให้อีก
“แล้วทำไมทงเฮถึงใส่กางเกงล่ะ เป็นผู้หญิงต้องใส่กระโปรงสิ”
มองหน้าน่ารักๆ นั่นแล้วก็เหลือบไปเห็นว่าคนที่ยืนตรงหน้าใส่ชุดเอี๊ยมกางเกงสีน้ำเงิน ก็เลยทำให้สงสัย
“ก็เราเป็นผู้ชายนี่ เราก็ต้องใส่กางเกง”
“ทงเฮเป็นผู้ชายเหรอ”
“อื้อ”
“อ้าว”
ทั้งที่คิดว่าตัวเองต้องคิดไม่ผิดแน่ๆ ว่าทงเฮเป็นเด็กผู้หญิง เพราะว่าตัวเล็ก ตาโต แก้มแดง ปากแดง แถมยังน่ารักมากๆ
“อื้อ ทงเฮเป็นเด็กผู้ชายนะ คิบอมไม่ชอบเด็กผู้ชายเหรอ”
“เปล่านะ” มือป้อมรีบยกขึ้นมาปัดป่ายไปมาปฏิเสธ “ก็เราเห็นทงเฮน่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงเลย เราก็นึกว่าทงเฮเป็นผู้หญิงซะอีก”
“งั้นคิบอมก็ไม่ได้ไม่ชอบเด็กผู้ชายใช่มั้ย”
“แล้วทำไมเราต้องไม่ชอบด้วยล่ะ”
“งั้นเราเป็นเพื่อนกันนะ คิบอมกับทงเฮเป็นเพื่อนกัน”
ปากบางเจื้อยแจ้วด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มกว้าง มือเล็กๆ ยื่นนิ้วก้อยออกมาเพื่อให้เกี่ยวกัน นิ้วอวบของอีกคนจึงได้ยื่นไปเกี่ยวด้วยกัน
“อื้อ คิบอมกับทงเฮเป็นเพื่อนกัน”
.
.
ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้วที่เด็กแก้มป่องกับเด็กน่ารักเป็นเพื่อนกัน คิบอมกับทงเฮมาเล่นด้วยกันตอนเลิกเรียนทุกวัน เพราะว่าอยู่คนละห้องกันเลยทำให้ไม่ได้เจอกันเวลาอื่น แล้วคิบอมก็จะอยู่กับทงเฮจนกว่าหมะม้าของทงเฮจะมารับ แต่ว่าวันนี้เปลี่ยนไป
“วันนี้ทงเฮไปเล่นบ้านเรานะ คุณแม่เราเพิ่งซื้อสระน้ำมาให้เมื่อวานนี้”
“แต่ว่าเดี๋ยวหมะม้าก็มารับเราแล้วนะ”
“บ้านเราอยู่ตรงนี้เอง เดี๋ยวถึงบ้านเราแล้วทงเฮโทรไปบอกหมะม้าของทงเฮก็ได้”
“ได้เหรอ แล้วหมะม้าจะไม่ว่าหรอก”
“เชื่อเราสิ”
พูดคำแก่แดดราวกับผู้ใหญ่แล้วมือป้อมก็จับมือเล็กและจูงให้เดินด้วยกัน ซึ่งบ้านของคิบอมก็อยู่แค่นี้อย่างที่บอกเอาไว้จริงๆ
“บ้านคิบอมอยู่ข้างโรงเรียนเลย”
“ใช่แล้ว เดี๋ยวเราเอาโทรศัพท์ให้ทงเฮโทรนะ”
“อื้อ”
แล้วร่างเล็กๆ แต่ตัวใหญ่กว่าทงเฮก็เขย่งหยิบโทรศัพท์ แต่เขย่งอยู่นานก็หยิบไม่ได้สักที จนคุณแม่ที่ทำกับข้าวอยู่ในห้องครัวออกมาเห็นพอดี
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอคิบอม”
“กลับมาแล้วครับ วันนี้ผมพาทงเฮมาเล่นน้ำด้วย แต่ว่าทงเฮกลัวหมะม้าดุ ผมเลยจะเอาโทรศัพท์”
ได้ฟังคำบอกของลูกชายแล้ว อาราก็เงยขึ้นไปมองเด็กหน้าตาน่ารักที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่เพราะเพิ่งเคยเห็นเด็กที่ชื่อทงเฮครั้งแรกหลังจากได้ฟังลูกชายเล่าให้ฟังตั้งหลายหน ก่อนจะก้มลงมาพูดกับลูกชายอีกครั้ง
“อ้อ จะโทรไปบอกหมะม้าของทงเฮใช่มั้ย”
“ฮะ”
พอลูกชายตอบรับแล้วโทรศัพท์ไร้สายที่ใหญ่กว่ามือเด็กหกขวบจะกำได้มิดด้วยมือข้างเดียวก็ถูกส่งให้
“ถ้าหมะม้าของทงเฮดุ เดี๋ยวคุณแม่คุยกับหมะม้าให้เองนะ”
“ขอบคุณครับ”
คิบอมยิ้มแก้มปริที่มีคนช่วยแล้วก็ใช้มือสองข้างถือโทรศัพท์ก่อนจะเดินเอามาให้คนตัวเล็ก
“คุณแม่เราบอกว่า ถ้าหมะม้าดุ เดี๋ยวคุณแม่จะคุยให้แหละ”
“อื้อ”
พอได้ยินอย่างนั้นแล้วก็สบายใจ ยิ้มหวานๆ ฉีกกว้างอย่างที่ทำบ่อยๆ เวลาอยู่กับคิบอม
เบอร์โทรศัพท์ถูกกดลงไปอย่างระมัดระวัง แล้วเจ้าตัวเล็กก็เอาโทรศัพท์ที่ยาวกว่าหน้าตัวเองแนบหู ฟังเสียงสัญญาณชั่วครู่ก่อนจะมีคนรับ
“หมะม้า ทงเฮนะฮะ”
[[อ้าว โทรมาได้ยังไง]]
หมะม้าดูแปลกใจที่ลูกชายโทรมาหา เพราะปกติแล้วก็ไปรับที่โรงเรียนเวลาเดิมทุกวัน
“ทงเฮอยู่บ้านคิบอมนะ คิบอมชวนทงเฮมาเล่นน้ำ”
ไม่ได้ตื่นตกใจที่ลูกชายที่แสนน่ารักไปอยู่บ้านคนอื่นเพราะว่าเธอก็เจอคิบอมเล่นกับทงเฮทุกวันก่อนไปรับ หนำซ้ำลูกชายของเธอยังเล่าถึงเพื่อนคนนี้ให้ฟังทุกวัน
[[แล้วบ้านคิบอมอยู่ไหนล่ะจ๊ะคนเก่ง]]
“บ้านคิบอมใหญ่ๆ อยู่ข้างโรงเรียน”
[[เหรอ งั้นหมะม้าขอคุยกับคิบอมได้มั้ย]]
“ฮะ” ตอบหมะม้าแล้วก็ยื่นโทรศัพท์ด้วยสองมือให้คิบอม “คิบอม หมะม้าจะคุยกับคิบอมอ่ะ”
“อื้อ” คิบอมรับมาก่อนจะกรอกเสียงลงไป “คิบอมครับหมะม้า”
[[คิบอมบอกหมะม้าหน่อยสิจ๊ะว่าบ้านคิบอมอยู่ไหนเอ่ย หมะม้าจะได้ไปรับทงเฮถูก]]
หลังจากเพื่อนลูกชายรับสาย ยอนฮีก็ถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
“บ้านผมอยู่ข้างโรงเรียนฮะ”
[[ข้างโรงเรียน บ้านครูใหญ่ใช่มั้ยจ๊ะ]]
“ฮะ คุณพ่อเป็นครูใหญ่”
[[จ้า หมะม้ารู้แล้ว งั้นเดี๋ยวหมะม้าไปรับทงเฮตอนหกโมงนะ]]
“ครับ ขอบคุณครับหมะม้า”
ได้รับคำขอบคุณแล้ว ยอนฮีก็ต้องยิ้มกว้างกับเด็กที่มีมารยาทและน่ารัก ก่อนจะตอบว่า ‘จ้า’ แล้ววางสายไป
คิบอมมองโทรศัพท์ในมือที่ตัดไปแล้วก่อนจะหันมาบอกคนที่ทำตาโตรอฟังสิ่งที่ตัวเองจะบอกอยู่
“หมะม้าบอกว่าจะมารับทงเฮหกโมง”
“ดีจังๆ หมะม้าไม่ดุด้วย”
“ใช่ๆ งั้นเราไปเล่นน้ำกัน”
เดินเอาโทรศัพท์ไปเก็บ แต่ก็วางคืนแท่นวางโทรศัพท์ไม่ถึง จึงได้แต่วางบนโต๊ะแทน ก่อนจะจูงมือทงเฮออกไปหน้าบ้านที่มีสระน้ำพลาสติกซึ่งมีน้ำอยู่เกือบเต็มแล้ว หัวกลมหันไปหันมาและก็เห็นคุณแม่กำลังปิดก๊อกน้ำพอดี
“คุณแม่ทำให้เหรอครับ”
“จ้า คิบอมบอกว่าจะเล่นน้ำไม่ใช่เหรอ”
“ขอบคุณครับ”
“ขอบคุณฮะ คุณแม่”
เห็นเพื่อนตัวเองขอบคุณแล้ว ทงเฮก็เอามั่ง ทำให้อาราต้องมองแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู
“งั้นทั้งสองคนเล่นน้ำอยู่ตรงนี้นะ คุณแม่จะไปทำกับข้าวต่อแล้ว”
“ครับ”
สองเสียงประสานกัน ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะ
“เล่นน้ำกันเถอะ”
เมื่อคุณแม่เข้าบ้านไปแล้ว คิบอมก็ชวนทงเฮก่อนจะถอดเสื้อผ้าที่ใส่ไปโรงเรียนออก โดยที่ทงเฮก็ถอดตาม จนสุดท้ายเหลือแต่ตัวเปล่าๆ ทั้งสองคนจึงก้าวเข้าไปนั่งในสระน้ำที่มีน้ำเย็นๆ
“เย็นจังเลย”
เสียงใสๆ ดังขึ้นมาก่อนพร้อมด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข
“แล้วทงเฮชอบเย็นๆ รึเปล่า”
“ชอบสิ คิบอมไม่ชอบเหรอ”
“ชอบ งั้นเรามาเล่นกัน” พูดจบแล้วก็วักน้ำสาดใส่คนที่อยู่ในสระพลาสติกด้วยกัน แต่ก็ต้องโดนสาดคืนเพราะทงเฮเอาอย่างบ้าง
ทั้งสองคนสาดน้ำกันไปมา วิ่งไล่จับกันบ้างอย่างสนุกสนาน หน้าบ้านหลังใหญ่ข้างโรงเรียนอนุบาลจึงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กสองคนที่ดังสลับและประสานกันอยู่ตลอดเวลา จนเหนื่อยกันทั้งคู่ก็ต้องมานั่งพักข้างๆ กัน
“สนุกมากเลย”
เสียงของแขกตัวเล็กดังขึ้นด้วยเสียงหอบน้อยๆ แต่ว่ารอยยิ้มยังระบายบนหน้าไม่หุบลงเลย
“ถ้าสนุกทงเฮก็มาบ้านเราบ่อยๆ สิ”
“เราอยากมาบ่อยๆ แต่เราต้องขอหมะม้าก่อน”
“อื้อ เราจะช่วยขอหมะม้าให้ทงเฮด้วย”
“คิบอมใจดีจัง”
“ใจดีกับทงเฮไง”
“ฮิฮิ”
เสียงหัวเราะเล็กๆ ดังขึ้นมาอย่างมีความสุขที่อีกคนใจดีด้วย ก่อนจะต้องมองหน้าและแก้มป่องๆ ของคิบอมอย่างงงๆ เพราะรู้สึกถึงแรงสัมผัสบางอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
ใบหน้าน่ารักก้มมองดูมือป้อมที่จับจุ๊ดจู๋ของตัวเองอยู่
“คิบอมทำอะไรอ่ะ”
“จับดู ทงเฮมีจุ๊ดจู๋จริงๆ ด้วยอ่ะ”
“เราก็ต้องมีสิ คิบอมยังมีเลย”
ไม่พูดเปล่า แต่นิ้วเล็กก็จิ้มๆ กับสิ่งที่ตัวเองพูดถึงของอีกคนไปด้วย
“เรานึกว่าทงเฮโกหกว่าเป็นผู้ชายซะอีก”
“เราไม่ได้โกหกสักหน่อย”
มือป้อมปล่อยออกจากสิ่งที่จับอยู่ก่อนจะพูดออกมา
“อือๆ ทงเฮเป็นผู้ชาย คิบอมก็เป็นผู้ชาย”
“อื้อ เราหายเหนื่อยแล้ว เล่นกันอีกนะ”
“ได้ๆ”
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองคนกลิ้งเล่น สาดน้ำกันไปมาอยู่ในสระน้ำพลาสติก
.
.
ไม่ใช่เพียงวันเดียวที่ทงเฮมาที่บ้านคิบอม แต่ว่าวันนี้ทงเฮก็มาบ้านคิบอมอีกแล้ว เพราะว่าหมะม้าของทงเฮติดธุระเลยยังมารับไม่ได้
หัวสีดำสองหัวสุมจนติดกันเพราะว่าทำการบ้านอยู่ แต่เพียงไม่นาน การบ้านของคิบอมก็เสร็จ แต่ทงเฮยังนั่งก้มหน้าดูตัวเลขบนสมุดตัวเองอยู่เลย
“ทงเฮยังไม่เสร็จเหรอ”
คนที่เอาสมุดการบ้านใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วลุกขึ้นมานั่งข้างๆ แทนที่จะนอนคว่ำเหมือนตอนทำการบ้านทีแรก ผิดกับคนโดนถามที่ยังอยู่ท่าเดิม
“คิบอมเสร็จแล้วเหรอ”
“อือ ทงเฮทำไม่ได้เหรอ”
เมื่อชะโงกหน้าดูแล้วว่าสมุดการบ้านของทงเฮยังว่างเปล่าก็ถาม
“เราทำไม่เป็นอ่ะคิบอม”
ทำเสียงง้องแง้งใส่คนตัวโตกว่าแล้วก็ทำปากยื่นไปด้วยเพราะว่าทำไม่เป็นจริงๆ
“งั้นเราสอนให้เอามั้ย”
“จริงเหรอ”
ตาใสๆ ลุกวาวขึ้นมาทันทีหลังได้ฟังว่าอีกคนจะช่วย
“แต่ทงเฮต้องจุ๊บแก้มเราก่อนนะ”
“ทำไมเราต้องจุ๊บอ่า”
ปากแดงๆ ที่ยื่นออกมาเมื่อครู่ยื่นมากกว่าเดิมอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่รู้อ่ะ อยากให้ทงเฮจุ๊บเฉยๆ”
“ก็ได้ๆ เราจุ๊บแล้วคิบอมต้องสอนนะ”
“อือ”
พยักหน้ายืนยันคำพูดตัวเองแล้วคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นมาจากท่านอนและมานั่งข้างๆ คนตัวใหญ่กว่า
ปากบางยื่นออกมาก่อนจะแปะลงกับแก้มป่องๆ แล้วแก้มป่องที่เคยเป็นสีระเรื่ออย่างสุขภาพดีก็ต้องแดงขึ้นกว่าเดิม
“ทงเฮ แย่แล้วล่ะ”
“อะไรเหรอ”
“หัวใจเราเต้นแรงมากเลย” พูดพลางจับมือเล็กให้มาทาบลงกับหัวใจของตัวเอง แล้วทงเฮก็ได้รู้ว่าหัวใจของคิบอมเต้นแรงแค่ไหน
“ทำไมมันเต้นเร็วอ่ะ”
“ไม่รู้ ร้อนตรงหน้าด้วย”
หน้าใสๆ เงยขึ้นมองที่แก้มอูมๆ ก่อนจะร้องออกมา
“จริงด้วย” ปากบางยื่นออกมาแล้วทำหน้าคิด “หรือว่าเพราะเราจุ๊บ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“งั้นคิบอมลองจุ๊บเรามั่ง เราจะเป็นรึเปล่า”
“อ่าๆ”
เสียงห้าวอย่างเด็กๆ ดังขึ้นก่อนใบหน้าที่มีเค้าหล่อแต่เด็กจะยื่นเข้าไปใกล้แก้มใสๆ แล้วยื่นปากออกไปจูบเบาๆ บนแก้มนิ่ม
ทงเฮแก้มร้อนฉ่า รู้สึกใจเต้นเร็วไม่ต่างกัน
“คิบอมๆ เราเป็นแบบคิบอมเลย”
มือเล็กดึงมือป้อมอีกข้างที่ไม่ได้จับมือตัวเองไปแนบหัวใจให้มาแนบหัวใจตัวเองบ้าง
“จริงด้วย ทงเฮหน้าแดงแปร๊ดเลย”
“ทำยังไงดีอ่ะคิบอม เราไม่สบายรึเปล่า”
“ไม่รู้อ่ะ”
“ไม่สบายแน่ๆ เลย”
“อือ สงสัยไม่สบายแน่ๆ”
แล้วทั้งสองคนก็ลงความเห็นเดียวกันว่าไม่สบาย โดยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่
.
.
แต่ความสุขที่ได้เป็นเพื่อนเล่นกันก็อยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อวันนึงทงเฮก็ทำหน้าเศร้า แล้วก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังตอนเจอคิบอมหลังเลิกเรียนที่สนามเด็กเล่น...ที่ที่มาเจอกันทุกวัน
“คิบอม ฮือ ฮึก ฮึก คิบอม”
คนตัวเล็กเรียกด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่ได้ศัพท์แล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดคนที่ตัวเองเรียกทันที
“ทงเฮเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”
ดวงตาสีดำขลับลุกโพลงอย่างตกใจที่เห็นเพื่อนรักที่ยิ้มแย้มทุกวันร้องไห้เป็นเด็กขี้แย มือป้อมลูบหลังเล็กเบาๆ ปลอบใจ
“คิบอม ฮึก หมะม้า อ่า หมะม้า”
“หมะม้าทำไม”
เมื่อได้ยินแล้วคิบอมก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็ว เสียงถามดังกว่าเดิมอย่างตกใจ
“หมะม้าบอกว่า ฮึก บอกว่า จะย้ายบ้านอ่ะ เรา ฮึก เราจะไม่ได้เจอคิบอมแล้ว ฮือ”
คิบอมรู้สึกว่าหัวใจที่เต้นเร็วเมื่อกี้อยู่ๆ มันหยุดไปเฉยๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรแต่เหมือนตัวเย็นลง
“ทงเฮ.. จะย้ายบ้าน.. เหรอ”
“อือ หมะม้าบอก ฮึก เราไม่อยากย้ายอ่า เราอยาก ฮึก อยากอยู่กับคิบอม อยากเล่น ฮึก กับคิบอม” พูดแล้วก็ต้องสะอึกสะอื้นไปด้วย
น้ำตาหยดใสหล่นแหมะลงบนแก้มนิ่มๆ ทงเฮซุกหน้ากับบ่าของเพื่อนรักจนเสื้อยืดสีน้ำเงินของคิบอมเปียกเป็นวง
“แล้วทงเฮจะย้ายไปที่ไหน”
“ไม่รู้ ฮึก เราไม่รู้อ่ะ”
หัวกลัวส่ายดิกไปมาทั้งน้ำตา
“แล้วย้ายเมื่อไหร่”
“พรุ่ง ฮึก พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้เลยเหรอ”
เวลาที่ต้องจากกันกะทันหันจนคิบอมไม่ทันตั้งตัว ไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้ ปากอวบๆ สั่นจนรู้สึกได้
“งั้นทงเฮต้องโทรมาบอกเรานะว่าทงเฮไปอยู่ที่ไหน ทงเฮต้องโทรมาหาเรานะ”
“อื้อ ฮึก เราจะโทรหา ฮึก โทรหาคิบอมนะ”
“ถ้าเรารู้ว่าทงเฮอยู่ที่ไหน เราจะไปหาทงเฮนะ ทงเฮไม่ต้องร้องไห้”
“อือ เรา ฮึก จะไม่ร้อง จะไม่ร้องไห้”
คนตัวเล็กผละออกมาจากอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ ดวงตากลมๆ แดงไปหมดและฉ่ำด้วยน้ำ จนมือป้อมต้องเช็ดให้
“คิบอมห้ามลืม..เรานะ ห้ามนะ”
หลังจากถูกเช็ดน้ำตาให้ก็พยายามกลั้นสะอื้นเอาไว้ที่สุด
“เราไม่ลืมทงเฮหรอก ทงเฮก็ห้ามลืมเรานะ”
“อือ เราไม่ลืมคิบอมหรอก ไม่ลืม”
“ดีมาก” มือป้อมกดลงบนหัวคนที่เพิ่งหยุดร้องไห้หมาดๆ “เราชอบทงเฮนะ ชอบมากกว่าเพื่อนทุกคนเลย”
“เราก็ชอบคิบอมมากที่สุดเหมือนกัน”
.
.
กลายเป็นวันที่เงียบเหงาไปแล้วสำหรับคิบอม เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่ทงเฮย้ายบ้านไป พอคิดว่าจะไม่ได้เจอทงเฮอีก จากเด็กที่ร่าเริงก็เปลี่ยนเป็นซึมเศร้า คิบอมหน้าหงอยเดินคอตกออกมาในโรงเรียน รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็อยากเจอทงเฮมากๆ
“คิบอม!!”
เสียงเรียกชื่อดังมาจากด้านหลัง ก่อนจะมีใครบางคนวิ่งตัดมาอยู่ตรงหน้า และพอเงยหน้าขึ้นมา ตาที่ถือว่าไม่โตนักก็เบิกกว้าง มือป้อมยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง แต่ทำได้เพียงไม่นานก็มีมือบางๆ มาดึงมันออก
“เดี๋ยวก็เจ็บตาหรอก”
“ทงเฮจริงๆ เหรอ”
“ก็เราจริงๆ สิ”
รอยยิ้มกว้างส่งคนที่ยังไม่แน่ใจ
“ไหน.. ไหนบอกว่าย้ายบ้านวันนี้”
“อือ ย้ายแล้ว แต่ว่าหมะม้าย้ายมาอยู่บ้านนี้” ตอบคำถามพลางชี้ไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงเรียน บ้านที่ติดกับโรงเรียนคนละด้านกับคิบอม
“ย้ายมาอยู่ข้างโรงเรียนเหรอ”
คิบอมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองด้วยซ้ำว่าฟังที่ทงเฮพูดมาไม่ผิด
“อือ เราจะได้เจอคิบอมทุกวันเลยล่ะ ไปเล่นบ้านคิบอมก็ได้ คิบอมจะมาเล่นบ้านเราก็ได้”
“ดีจัง”
“เนอะ”
รอยยิ้มสดใสยังไม่หุบไปเลย แล้วมันก็ทำให้รอยยิ้มปรากฏบนหน้าของคนแก้มป่องด้วย
“ทงเฮจะได้อยู่กับเราตลอดไปเลย”
“อื้อ เราก็จะอยู่กับคิบอมตลอดไปเลยเหมือนกัน”
เด็กผู้ชายหกขวบสองคนฉีกยิ้มให้กัน ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างมีความสุข ก่อนมือป้อมจะยื่นออกมาด้านหน้า ชูนิ้วก้อยให้รู้ว่าจะทำอะไร ซึ่งมือเล็กๆ ก็ยื่นออกไป เอานิ้วก้อยของตัวเองเกี่ยวไว้แล้วพูดออกมาพร้อมกัน
“สัญญา”
END
|