ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 640|ตอบกลับ: 7

++ กว่าจะรู้ว่ารัก ++ @ 16 - 18 ภาค 2

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

ช่วงบ่ายมีการแข่งขันบอลกันต่อคราวนี้ฝ่ายรุ่นพี่ปี2คว้าชัยชนะไปได้อย่างสวยงามทีเดียวแล้วก็มาถึงการปิดการแข่งขันซะที
เลิกกิจกรรมกันแล้วก็รวมตัวกันถ่ายรูป เก็บของ แล้วโปรแกรมต่อไปก็คือการกินเลี้ยงของรุ่นพี่รุ่นน้องที่ร้านอาหารในเมืองครับ
คืนนั้นพวกเรากินกันจนอิ่มพูดคุยกันอย่างออกรส ผมว่าความผูกันจากกีฬาสัมพันธ์ครั้งนี้ได้ผลตรงตามที่ตั้งใจไว้จริงๆด้วยครับ

ตอนที่ 16 มหาวิทยาลัยไกลปืนเที่ยง
มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่นี้เป็นส่วนภูมิภาค ทั้งยังเป็นยุคบุกเบิกที่เพิ่งเปิดรับนักศึกษาเพียง2ปี ทำให้เรายังไม่มีอาคารเรียน
เป็นของตัวเองแต่การที่มหาวิทยาลัยจะไปใช้อาคารพานิชย์ ที่เปิดให้เช่าในตัวเมืองก็ต้องเสียงบประมาณไม่ใช่น้อยจึงต้องเลี่ยง
ไปทางนอกเมืองซึ่งแน่นอนว่าราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ยิ่งอยู่ไกลออกไปจากตัวเมืองเท่าไหร่ก็ยิ่งราคาถูกลงเท่านั้น
มหาวิทยาลัยของผมก็เช่นกันครับ ถึงจะอยู่ไกลไปซักหน่อยแต่ก็ทำให้พวกเราได้ใช้ชีวิตนักศึกษาส่วนภูมิภาคอย่างคุ้มค่าสุดๆ
แต่ยังไงล่ะที่เรียกว่า
“ไกลปืนเที่ยง” ก็คือ ไม่มีห้างสรรพสินค้า ไม่มีเซเว่นฯ บางครั้งถึงกับไม่มีสัญญาณมือถือก็เคยมาแล้วครับ
ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมือง 30 กิโลเมตร มีร้านขายข้าวร้านเดียวที่ต้องเดินไกลมาก แต่ไม่มีรถรับจ้างใดๆนอกจากรถเมล์ที่นานๆ มาที
ถึงแม้ว่ามหาวิทยาลัยของผมจะอยู่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงหนัง เหมือนกับที่อื่นๆ ก็ตาม
แต่อย่าเพิ่งนึกไปว่า มหาวิทยาลัยที่ผมศึกษาอยู่นั้นจะอยู่ในป่าในดง หรือเป็นสถานที่ขาดแคลนแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม
ภายในอาคารที่เราใช้เป็น ห้องบรรยาย ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องประชุม มีอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆครบครันจนเหมือนกับว่า
การมาเรียนที่นี่ คือ การมายังโลกอีกโลกหนึ่ง มีชุมชนเป็นของตัวเอง มีร้านข้าวอยู่ในย่านที่มีบ้านเช่าสำหรับนักศึกษาที่บ้านไกล
สิ่งเดียวที่เป็นเครื่องเตือนใจว่าพวกเรามาเรียนไกลเหลือเกินก็คือ อุปสรรคด้านการเดินทางเพราะรถเมล์มีเพียงสายเดียวครับ
และบ่อยครั้งที่คนขับรู้สึกเปลืองน้ำมันก็จะปล่อยให้พวกเราลงกลางทางซะดื้อๆ หรือไม่ก็ไม่เข้ามารับนักศึกษาที่จะกลับออกไป
มาพูดถึงประวัติความเป็นมาของสถานที่กันบ้าง เจ้าของคนล่าสุดเป็นใครผมไม่ทราบแต่ท่านรองฯเคยเล่าให้ฟังตอนปฐมนิเทศน์
ว่าท่านประสงค์จะให้เป็นสาธารณะประโยชน์ จึงยินดีมอบตำหนักใหญ่ ตำหนักปีบ และศาลาริมน้ำให้ทั้งเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย
อาจารย์ และนักศึกษาเข้าไปใช้สอยได้เต็มที่ ผมเองเพิ่งรู้ตอนนั้นเองว่าที่นี่ คือ วังเก่า มิน่าผมรู้สึกว่าช่างโออ่าและขลังซะจริงๆ
ตำหนักใหญ่ หรือ อาคารเรียนหลัก เป็นอาคารที่สร้างด้วยปูนทั้งหลัง ขนาดใหญ่ มีทั้งหมด3ชั้น แต่ละห้องในอาคารกว้างมาก
มีหลังคาสูง มียอดแหลมคล้ายโดมที่ด้านบน ผมก็ไม่รุ้ว่า style การออกแบบอาคารอย่างนี้เรียกว่าอะไรแต่ผมว่ามันหรูหราจัง
นอกจากจะเป็นอาคารที่ใหญ่โตแล้ว รายละเอียดของการแกะสลัก ลายปูนปั้นต่างๆก็น่างดงามทำให้ตึกนี้ไม่ดูแข็งกระด้างเกินไป
ตัวตึกนั้นยกพื้นสูงขึ้นจากระดับถนนที่คนเดิน มีบันไดหินอ่อนทอดยาวจากระเบียงด้านหน้าลงมาถึงถนนโรยกรวดสายเล็กๆนั้น
ประตูทางเข้าอาคารมีหลายด้านแบ่งเป็นทิศทั้ง 4  ซึ่งประตู หน้าต่าง แต่ละบานของอาคารนี้ใหญ่มากขอบด้านบนก็สูงลิบทีเดียว
ตามแนวระเบียงจะมีกระถางพลูด่างขนาดเล็กๆ ห้อยระย้าลงมาราวกับมู่ลี่ ที่ด้านล่างของอาคารปลูกต้นเข็มเตี้ยๆล้อมไว้จนทั่วตึก
พื้นอาคารตรงระเบียงทั้ง3ชั้นปูด้วยหินอ่อน แต่ห้องทุกห้องเป็นพื้นไม้ขัดมัน ตามเสาปูนแต่ละด้านประดับด้วยโคมไฟกลีบบัว
ท่ารองฯเล่าว่าสภาพอาคารสมบูรณ์ดีมาก ทางมหาวิทยาลัยเพียงแค่ติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเท่านั้นส่วนที่เป็นตัวตึก
แทบไม่ต้องจัดการแก้ไขอะไรเลย เว้นแต่ทาสีอาคารใหม่ให้สดใสกว่าเดิม จึงขอให้นักศึกษาใช้อาคารเรียนอย่างระมัดระวังด้วย
ตำหนักปีบ หรือ อาคารสำรอง เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว สร้างห่างจากอาคารเรียนหลักไม่ไกลกันนัก หากจะเดินไปอาคารสำรอง
ก็สามารถลงบันไดทางด้านหลังของอาคารเรียนหลักแล้วเดินผ่านทางเดินเชื่อมไปที่อาคารสำรองได้อย่างสะดวกรวดเร็วมาก
ส่วนใหญ่อาคารสำรองจะใช้ในวันปฐมนิเทศหรือมีการประชุมนักศึกษา รวมทั้งเมื่อจัดงานพิธีไหว้ครูของมหาวิทยาลัยด้วย
ถ้าจะเดินจากถนนใหญ่ที่เป็นลานจอดรถไปอาคารสำรองต้องเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งหนึ่งเมื่อลงจากสะพานมาแล้วจะเห็นว่ามี
ต้นปีบที่ปลูกไว้ตามแนวถนนทั้งสองข้างทางยาวเรื่อยมาจนถึงอาคารไม้สีขาว กลิ่นหอมเย็นของดอกปีบอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ
ศาลาริมน้ำ เป็นศาลาโปร่งๆสร้างด้วยไม้และมีเหล็กเป็นส่วนประกอบ ทาด้วยสีขาวทั้งหมด ลวดลายเป็นเถาองุ่นอย่างละเอียด
ศาลานี้ปลูกอยู่ใกล้กับคลองขุดขนาดใหญ่ มีพื้นเป็นไม้ มีที่นั่งเชื่อมติดกับศาลา มองออกไปจะเห็นดอกบัวทั้งใหญ่ทั้งเล็กเต็มสระ
นอกจากที่นี่แล้วก็ยังมีสวนลั่นทมที่ผมประทับใจตั้งแต่วันแรกที่มาเรียน ที่นั่นยังมีเรือนไม้เล็กๆโปร่งๆเรียงกันหลายหลังทีเดียว
ผมกับเพื่อนๆ ชอบมานั่งเล่นที่นี่ระหว่างรอรถที่บ้านมารับ อ้อ!เดี๋ยวนี้เพื่อนๆที่ไม่มีรถจะกลับพร้อมรถที่บ้านผมเนื่องจากเมื่อเรา
มาเรียนที่นี่ได้ 1 ปี รถเมล์ที่เคยมารับก็ไม่เข้ามาอีกแล้วผมจึงให้รถที่บ้านมารับแทน แต่ในบางครั้งที่นึกสนุกก็จะโบกรถกับเพื่อน
ในกลุ่มซึ่งคนต่างจังหวัดใจดีมาก ส่วนใหญ่ถ้าไปทางเดียวกันเค้าก็จะรับพวกผมขึ้นรถไปลงในเมืองด้วย พวกผมก็จะไปนั่งที่
กระบะด้านหลัง ลมแรง แดดร้อนก็เอาผ้าบัง เอากระเป๋ามาบัง ดูๆ ไปยังกับแรงงานเถื่อนอพยพเลยครับ นึกถึงทีไรก็ขำทุกที 555
ตอนที่ 17 เทคและพี่อาร์ท
คุณๆ คงสงสัยล่ะสิ ว่าทำไมหลายตอนที่เล่ามาผมไม่ได้กล่าวถึง เทค เลยก็แน่ล่ะ เพราะช่วงเวลานั้นผมแทบจะลืมนึกถึง เทค เลย
อาจเพราะผมเริ่มมีสังคมใหม่ เริ่มมีเพื่อนใหม่ เหมือนเป็นช่วงปรับตัว ทั้งการเรียนคณะใหม่และการไปไหนๆกับเพื่อนในกลุ่ม
จะว่าไปแล้ว เทค ก็ไม่ได้หายไปจากชีวิตผมซะทีเดียวก็ยังโทร.คุยกันบ้างแต่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรมากไปกว่า พูดคุย ถามไถ่
ความเป็นไปรอบๆ ตัวของกันและกันเท่านั้นน่ะครับ อย่างล่าสุดที่คุยกันผมก็เล่าเรื่องสอบว่าอีก 2 วันผมก็จะสอบเสร็จแล้ว
ทางด้าน เทค เองก็เล่าว่าช่วง1ปีที่ผ่านมา เทค ขาดเรียนบ่อยจนตอนนี้ไม่ได้ไปเรียนแล้ว และก็เที่ยวหนัก แล้วเดี๋ยวนี้ดื่มเหล้าด้วย
ผมก็ได้แต่ปรามๆ ให้เค้าเที่ยวน้อยลงให้เห้นแก่อนาคตตัวเองบ้าง เค้าก็รับปากแต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง
จนถึงวันที่ผมสอบเสร็จ พอดีวันนี้ผมกับพี่อาร์ทมีนัดกันว่าจะไปดูหนัง หลังสอบเสร็จผมก็เลยรอให้พี่อาร์ทมารับที่ศาลาริมน้ำ
ผมนัดกับพี่อาร์ทไว้ตอนบ่าย3 เพราะผมจะสอบเสร็จตอนบ่าย 2 ครึ่ง ก็เผื่อเวลาให้ผมพุดคุยกับเพื่อนๆซักระยะก่อนน่าจะดีกว่า
แต่ผมก็รอแล้วรออีก จนเกือบๆ 4 โมงเย็นพี่อาร์ทก็ยังไม่มา ผมโทร.หาก็ดันไม่มีสัญญาณซะอีก ก็เลยนั่งเซ็งต่อไปถึง 5 โมงเย็น
พี่อาร์ทขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่ลานจอดรถ แล้วก็วิ่กระหืดกระหอบเข้าไปที่อาคารเรียนหลัก ผมมองเห็นแต่แรกแล้วก็เลยเดิน
ตามพี่อาร์ทไปเรื่อยๆ พอผมเดินไปถึงหน้าอาคารพี่อาร์ทก็ออกมาจากด้านใน ผมไม่ได้ถามว่าทำไมมาช้า แต่พี่เค้าก็อธิบายว่า
“ขอโทษจริงๆ พี่ไปทำธุระที่บ้าน เลยมาช้า”
“อืม นิวก็ว่าจะโทร.ตามแต่สัญญาณหายอ่ะ”
“ที่บ้านพี่วุ่นวายอีกแล้วว่ะนิว พี่โคตรเบื่อเลย”
เป็นประโยคของพี่อาร์ทที่พูดขึ้นเมื่อขี่รถออกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว
“ทำไมอ่ะ มีอะไรเหรอ”
ผมต้องตะโกนถามเพราะลมแรงมาก
“เออๆ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง ขี้เกียจตะโกนว่ะ”
ว่าแล้ว พี่อาร์ท ก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาขี่รถของเค้าต่อไป
เราได้มาคุยเรื่องที่ค้างไว้อีกทีเมื่อเดินมานั่งอยู่ในร้านพิซซ่า ด้วยความที่ต่างคนต่างหิวก็เลยตกลงว่าหาอะไรทานกันก่อนดีกว่า
แต่เพื่อความไม่พลาด เราเดินไปซื้อตั๋วหนังไว้ก่อน แล้วก็ยังมีเวลามากพอให้กลับมานั่งทานพิซซ่าอย่างไม่ต้องเร่งรีบมากนัก
“พี่ชายพี่มาขอเงินพ่อ แต่พ่อไม่มี ก็เลยให้พี่เอาเงินเก้บมาให้พี่ชายพี่ก่อนว่ะ”
“แล้วให้ไปรึยังอ่ะพี่”
“ไม่ให้หรอก หลายครั้งแล้วไง ชอบไปก่อเรื่องแล้วบอกว่าเงินไพอ เดี๋ยวก็เป็นนั่นเป็นนี่”
“แล้วพี่ชายพี่จะเอาเงินไปทำอะไรล่ะคราวนี้ ตอนนั้นพี่บอกว่าแม่พี่ก็เพิ่งโอนไปให้เป็นค่าซ่อมรถนี่นา”
“ก็เออดิ แล้วมันก็มีเรื่องมาให้พ่อแม่เดือดร้อนอีกแล้ว คราวนี้พี่ไม่ให้แล้ว ปล่อยมันไปหาทางเอาเอง”
แต่ยังไม่ทันได้พูดคุยกันมากไปกว่านี้พอดีโทรศัพท์มีสายเข้ามา ผมหยิบออกมาจากกระเป๋าเห็นว่าเป็นเบอร์ของ เทค ก็กดรับ
เทค บอกว่าโทร.หาผมตั้งแต่ 4 โมงเย็นแล้วแต่โทร.ไม่ติดซักที ผมก็นึกได้ทันทีว่าเป็นช่วงที่มือถือผมไม่มีสัญญาณนี่เองครับ
ผมพูดคุยกับ เทค ไปเรื่อยๆ จนลืมไปว่าตัวเองหิวมากแค่ไหนก่อนจะเข้ามาในร้านนี้ จนกระทั่งพี่อาร์ทเตือนว่าให้รีบกินเดี๋ยวจะ
ไม่ทันรอบหนังที่ซื้อตั๋วไว้ ผมก็เลยบอก เทค ว่าขอคุยกันแค่นี้ก่อน แต่เหมือน เทค จะพูดอะไรต่อแต่แบตฯมือถือผมหมดซะก่อน
ผมก็เห็นว่าอีกซักพักไปดูหนังก็ต้องปิดมือถืออยู่แล้วก็เลยไม่ได้เปิดขึ้นอีกปล่อยให้เครื่องดับไปแล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋า
แทนที่พี่อาร์ทจะพูดคุยถึงเรื่องของพี่ชายเค้าที่เรายังคุยค้างกันอยู่ ก่อนที่ผมจะรับโทรศัพท์ของ เทค กลายเป็นว่าพี่อาร์ทนั่งเงียบ
แล้วตลอดทางที่เราเดินออกจากร้านมาที่โรงภาพยนตร์ที่อยู่ชั้นบนสุดของห้าง พี่อาร์ทก็ไม่พูดใม่จา เอาแต่ทำหน้างอ ฮึดฮัด
ผมถามว่าเป็นอะไรเค้าก็บอกว่า เหนื่อย เบื่อ ปัญหาเยอะ ก็คงเครียดและกำลังคิดเรื่องที่เค้าต้องแก้ปัญหาให้พี่ชายเค้าอยู่ล่ะมั้งครับ
จนเมือดุหนังจบแล้วนั่นล่ะ พี่อาร์ทเริ่มอารมณ์ดีขึ้น พูดนั่นพูดนี่แล้วชวนผมไปหาร้านกาแฟนั่งดื่มกันก่อนจะไปส่งผมกลับบ้าน
ตอนที่ 18 เผชิญหน้า
ผมกลับมาถึงบ้านประมาณ5ทุ่มเศษๆ ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในซอยบ้านผม ผมก็สังเกตุเห็นคนมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าบ้าน
จนเมื่อรถใกล้เข้าไปไฟหน้ารถที่ส่องไปถึงคนๆนั้นทำให้ผมรู้ว่าคนที่มาเดินอยู่หน้าบ้านผมก็คือ เทค นี่เองล่ะครับ
เทค เคยมาบ้านผมตั้งแต่ตอนที่กลับจากเกาะเสม็ด เทค บอกว่าอยากมาเที่ยวบ้านผม ก็เลยให้เค้าตามมาด้วยซะเลย
แต่ผมไม่คิดว่าเค้าจะจำทางมาบ้านผมได้แม่นยำขนาดนี้เพราะหลังจากที่มาคราวนั้นแล้ว เทค ก็ไม่เคยมาอีกเลยเป็นปี
“มาได้ไงอ่ะเทค ทำไมไม่บอกเราก่อนวะ”
ผมเดินลงจากรถรีบเข้าไปถามเพราะอยากรู้จริงๆ
“ก็ถ้าเราบอกเราจะรู้มั้ยว่านิวไปไหนๆกับใครจนดึกจนดื่น”
ผมได้กลิ่นเหล้าจากปากของ เทค
“นี่เทคกินเหล้าด้วยเหรอ ก็เราบอกแล้วไงว่าเราไม่ชอบ”
“นิวก็ไม่เคยชอบอะไรที่เราทำซักอย่าง ทำไมห๊า”
เทค ตะคอกผมแล้วเขย่าตัวผมแรงๆ
“เฮ้ย เมาแล้วอย่ามาระราน”
พี่อาร์ท รีบเข้ามาผลัก เทค ออกไป
“แล้วแกเป็นใครวะ มายุ่งอะไรด้วย”
เทค ผลักอก พี่อาร์ท จนเซ
“เป็นพี่ชาย”
“ไม่จริง ดูหน้าแกก็รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่ ไม่งั้นจะพากันไปไหนต่อไหนจนดึกเหรอวะ”
เทค ยิ่งโวยวายหนักขึ้นผมกลัวว่าเสียงจะดังเข้าไปในบ้านก็เลยเดินเลี่ยงออกไปที่สวนหย่อมของหมู่บ้านด้านนอก
“เดี๋ยวเทค เราว่าแกเมาว่ะ ถ้าจะคุยก็ตามไปคุยกันที่สวนด้านนอกละกัน”
จนเมื่อมาถึงสวนหย่อมผมก็พยายามไกล่เกลี่ยเพราะคิดว่าเรื่องที่คน2คนนี้กำลังเถียงกัน มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว
“มาพูดกันดีๆได้มั้ย ตอนแกโทร.มาก็ยังคุยกันดีๆแล้วจู่ๆไปกินเหล้าทำไม”
ผมเริ่มพูดขึ้นก่อนหวัว่าเค้าจะมีสติขึ้นมาบ้าง
“ก็ใช่ แต่นิวไม่ได้บอกนี่ว่าไปกับไอ้แว่นนั่น แต่เราได้ยินเสียงมันลอดมาในโทรศัพท์”
“แล้วไง แล้วแกก็ไปกินเหล้าเพียงเพราะเราไปกินข้าว ดูหนังกับพี่เค้างั้นเหรอ”
ผมรู้สึกผิดหวัง และ โมโห คิดว่า เทค ไร้เหตุผลมากๆ เรื่องไม่เป็นเรื่องมันก็เอาเป็นเหตุไปดื่มเหล้า
“อ๋อ นี่ไปกินข้าว ดูหนังกันมาเหรอ ดีจังเลยนะ นิวสนิทกับมันขนาดไหนถึงไปกันหลายที่หลายทางซะจริง
หรือว่าไม่ใช่แค่นั้นบอกมาซิ บอกเรามาทำไมทีกับเรานิวเล่นตัวนักแต่ไปไหนมาไหนกับไอ้แว่นเนี่ยจนดึกแบบนี้
ไปกันถึงไหนไปทำอะไรกันมาบ้าง กับเราทำเป็นโวยวายดีดดิ้น แต่ไปกะคนอื่นได้ เป็นไงดิ้นกันไปกี่ท่าล่ะ”
สิ้นคำพูด เทค ก็มีเสียงฝ่ามือผมฟาดเข้าที่หน้า เทค อย่างแรง ผมโกรธมากไม่คิดว่าเค้าจะพูดจาแย่ๆแบบนี้
“กลับไปเลยนะ มาทางไหนกลับไปทางนั้น เก็บเอาคำพูดชั่วๆนี่ไปด้วยแล้วไปคิดดูว่าที่พูดมานี่สมควรมั้ย”

ผมร้องไห้ ผมยอมรับว่าผมเสียใจที่เพื่อนของผมเพื่อนที่ผมคิดมาตลอดว่าจะไม่มีวันทำร้ายกันกลับทำร้ายผมด้วยคำพูดแบบนี้
ผมเดินกลับออกมาที่ด้านหน้าสวนหย่อมเจอ พี่อาร์ท ที่ยืนรออยู่แล้วพี่อาร์ท ถามว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วหรือยังผมพูดไม่ออก
ได้แต่นิ่งเฉยซะแล้วก็เดินตัวตรงกับเข้าไปในซอย ผมหันกลับไปมองที่สวนหย่อมตรงนั้นอีกครั้งยังเห็นเทค ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
พี่อาร์ทเดินตามผมมาและพาผมไปส่งที่หน้าบ้าน คืนนั้นผมกลับเข้าบ้านไปด้วยความเหนื่อยล้าเหลือเกินกับเรื่องที่เกิดขึ้น
โชคดีที่ตั้งแต่ผมย้ายมาเรียนที่นี่ก็มีห้องนอนส่วนตัวไม่ได้ไปนอนห้องแม่แล้วคืนนั้นผมก็เลยไม่ต้องกังวลว่าแม่จะสังเกตุ
อาการผิดปกติของผมได้รึเปล่า ผมแค่เข้าไปทักทายแม่แล้วขอตัวไปพักผ่อนทั้งที่คืนนั้นผมไม่อาจหลับตาได้เลยทั้งคืน


นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
33
Zenny
185
ออนไลน์
0 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 14:30:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
128
Zenny
1276
ออนไลน์
16 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 17:34:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ความรักเป็น สิ่ง ที่สวยงาม

แสดงความคิดเห็น

ครับ  โพสต์ 2012-3-19 17:42

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
655
Zenny
4096
ออนไลน์
93 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 18:30:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38464
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-30 03:41:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 17:27:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
75
Zenny
185
ออนไลน์
19 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-5 14:57:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-12 08:35:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-26 05:40 , Processed in 0.102560 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้