ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 671|ตอบกลับ: 7

++ กว่าจะรู้ว่ารัก ++ @ 4 - 6 ภาค 3

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมอ่านเมล์จาก เทค ฉบับนี้ด้วยความตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกเหมือนได้เห็น เทค คนใหม่คนที่ไม่มีปมด้อย ไม่มีอดีตที่เจ็บปวด
แต่เป็น เทค ที่มองเห็นคุณค่าของตัวเอง เป็นคนที่มองเห็นจุดยืนที่มั่นคงและอนาคตที่ชัดเจนของตัวเค้าเองผมสัมผัสได้เลยว่า
เทค กำลังมีความสุข สดชื่น มากขนาดไหนตอนที่พิมพ์แต่ละตัวอักษรใน e-mail ฉบับล่าสุดนี้มาถึงผม “ดีใจด้วยนะเทค”

ตอนที่ 4 กลับมาหาเพื่อน
เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เทค ก็กลับมาถึงเมืองไทย ตอนแรกที่ผมได้ข่าวว่า เทค มาถึงเมืองไทยนั้นผมก็ออกจะแปลกใจมากอยู่
เพราะแม้จะรู้นิสัยความใจร้อนของ เทค แล้วก็ยังไม่คาดคิดว่าเค้าจะทิ้งงานที่โม้มาซะดิบดีว่ากำลังอยู่ในช่วงพีคจัดมาได้ง่ายๆ
วันที่ เทค มาถึงกรุงเทพฯ ผมก็ยังไปเรียนหนังสือในช่วงเช้า และเข้าร้านอินเตอร์เนตคาเฟ่แถวๆบ้านในช่วงเย็นเหมือนทุกวัน
จนกระทั่งได้เจอกับ เทค ใน MSN ก็ยังนึกว่าเค้าอยู่ที่สิงคโปร์ เราคุย MSN กันจนถึงค่ำ เมื่อได้เวลาที่ผมต้องกลับบ้านก็บอกเค้าว่า
ถ้าจะมาเมืองไทยเมื่อไหร่ให้บอกด้วย เทค ก็ย้ำแต่ว่า
“ก็บอกแล้วไง” ผมไม่ทันได้นึกว่าเค้ามาถึงแล้วนึกไปว่าเค้าย้ำที่ส่งเมล์มาหา
จนกระทั่งผมกลับมาถึงบ้าน ก็มีเบอร์โทรศัพท์จากบ้านของ เทค โทร.เข้าเครื่องผม ตอนนี้เองที่ผมเริ่มคิดว่าเค้าอาจมาถึงแล้วก็ได้
“ฮัลโหล หวัดดีครับ พูดอยู่ครับ”ผมตอบกลับหลังจากผู้ที่โทร.มาเอ่ยว่าต้องการพูดกับผม ผมจำได้ว่าเป็นเสียงคุณแม่บ้านที่บ้าน เทค
“……………………………….”
ปลายสายเงียบไป จนผมเริ่มไม่สบายใจต้องเรียกอยู่อีกหลายคำ ยิ่งเรียกก็ยิ่งตระหนกคิดไปทางร้ายเสียสิ้น
“ฮ่าๆ ทำเสียงแตกตื่นยังกับถูกใครไล่ปล้ำ ทำไมคิดถึงเรามากเหรอจ๊ะ”
เสียง เทค หัวเราะอย่างสุดกลั้นผ่านเข้ามาทางหูโทรศัพท์ ผมรู้ตัวแล้วว่าโดนเค้าแกล้งแน่ๆ
“เล่นอะไรของแกวะเนี่ย ทำไม? กลับมาเมืองไทยต้องถูกเจิมด้วยคำด่าของเราก่อนถึงจะมีความสุขใช่มั้ย”
ผมตะหวาดกลับไปทั้งที่ในใจทั้งดีใจ โล่งใจ เมื่อได้ยินเสียงเทคที่สดใสตอบกลับมา แต่ก็อดโมโหไม่ได้จริงๆ
“ก็ใช่ดิ เราไปอยู่ที่นู่นนะมีแต่คนตามใจว่ะ น่าเบื่อจะตาย เดี๋ยวนี้พ่อก็ไม่ค่อยด่าเหมือนแต่ก่อนด้วย แม่เลี้ยงก็เอาใจอีก”
“เอ๊ะ…แกนี่โรคจิตรึเปล่าเทค ตอนที่ไม่มีใครเข้าใจก็ทำตัวมีปมด้อย พอแกทำดีมีคนชม แม่ใหม่เค้ารักแกก็ยังจะบ่นอีก”
“เฮ้ย เค้าดีกับเราเราก็ชอบไมใช่ไม่ชอบ แต่จะบอกว่าพักนี้หูไม่ค่อยชาอ่ะ ได้ยินนิวด่าซักหน่อยค่อยกระชุ่มกระชวย”
“ไอ้บ้าเทค ไอ้โรคจิต แกจะทำให้เราประสาทเสียตามไปด้วยน่ะสิรู้เปล่า”
“โห…ด่ายาวเลยนะ ก็ไอ้ที่ประสาทเสียตามเนี่ย เพราะเป็นห่วงเราใช่มั้ยล่ะ รู้น๊า”
“เปล่า แต่กำลังคิดว่าจะเอาแกไปส่งศรีธัญญาก่อนตอนไหนดี กลัวเพ่นพ่านไปกัดคนในบ้านอ่ะดิ”
“555 เออๆสบายใจแล้ว ฝีปากการด่ายังไม่เคยตกเลยนะที่รัก”
“แกนี่นะ” ผมจนปัญญาไม่รู้จะว่าอะไรเค้าได้อีก ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง เมื่อจนแต้มก็ยอมๆนิ่งให้เค้าบ้างละกัน
“แล้วทำไมตอนเราอยู่ร้านเนตแกไม่บอกว่ามาถึงแล้วอ่ะ โทร.เข้ามือถือก็ได้ มาเหนื่อยๆยังอุตส่าห์พิมพ์คุยอีกนะ”
“ไม่เอาหรอก ขืนบอกไปนิวก็ต้องให้เราไปพักผ่อน รอให้นิวถึงบ้านค่อยโทร.คุยอ่ะดิ ไม่เอาอ่ะ เราใจร้อน”
“ก็บอกให้เรารับโทรศัพท์ก็ได้นี่ แล้วก็โทร.เข้ามาเราก็คุยกับแกไป อ่านกระทู้ไปก็ได้”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวนิวไม่มีสมาธิ คุยกับเราก็ไม่รู้เรื่อง อ่านกระทู้ก็ไม่สนุก เราพิมพ์คุยกับนิวก็ดีแล้วล่ะ ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมาย”
“แกก็ตามใจเราเหมือนเดิม ที่จริงแกไม่ต้องทำเพื่อเราขนาดนี้ก็ได้ บุญคุณใหญ่หลวงทดแทนไม่หมดน่ะเข้าใจป่ะ”
“แล้วทำไมต้องทดแทนล่ะ พ่อแม่มีบุญุคุณ พี่น้องมีความผูกพัน แต่อย่างเรากับนิวมีมากกว่านั้น”
“มากกว่านั้นอะไรอีกล่ะ อย่ามาหยอดนะ เดี๋ยวก็โดนด่ายาวอีกหรอกไม่เข็ดรึไง”
“ด่าก็ดีอ่ะดิ๊ เราถือว่านิวด่าเพราะนิวรัก ไม่รักไม่ด่า ยิ่งด่าก็แปลว่ายิ่งรัก”
มาแล้วครับ มุขหยอดสไตล์นายทึ่ม คงเห็นผมไม่ด่าล่ะสิ เริ่มได้ใจเล่นซะหลายมุข หยอดจนนึกว่าเค้าขายขนมครก
“แล้วไม่คิดมั่งเหรอ ว่าไอ้ที่ด่าๆไปเนี่ย เราด่าเพราะเกลียดตะหาก อยากด่าไล่ไปให้พ้นๆ”
“เกลียดก็ไม่สนใจหรอก แค่รู้ว่าเรามีผลต่อความรู้สึกนิวมั่งก็ดีกว่าเราไม่อยู่ในความรู้สึกไหนของนิวเลย”
“อีกแล้วนะเทค” ผมเริ่มทำเสียงจริงจังเพราะเห็นว่า ผมกับเทคเล่นกันจนหมือนจะเกินเลยความรู้สึกเล่นหัวกันซะแล้ว
“เราพูดจริงๆ นะ” เทค ยืนยันด้วยน้ำเสียงสุขุม “ถ้าเราแกล้งแล้วนิวโกรธก็ยังดีกว่าเรากลายเป็นความว่างเปล่าที่นิวไม่สนใจ”
“เราจะทำแบบนั้นได้ไง เราไม่ได้โง่ถึงกับจะเฝ้ารอสิ่งที่เป็นความว่างเปล่าอยู่ได้ตั้งเกือบปีหรอกนะ ที่พูดมาตั้งยาวเข้าใจเรารึยัง”
ผมตอบออกไปอย่างนั้นเป็นการทิ้งท้ายและหวังว่า นายทึ่ม คงเข้าใจเหมือนที่ผมคิด แล้วเพื่อนๆล่ะครับเข้าใจความรู้สึกของผมมั้ยครับ?
ตอนที่ 5 เวลากับคนสองคน
เทค บอกว่ามีเวลาอยู่ที่เมืองไทย 2สัปดาห์เท่านั้น ทีแรกเค้าชวนผมไปเที่ยวเกาะเสม็ดด้วยกันอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมปฏิเสธครับ
ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปเที่ยวกับเค้าหรอก แต่ผมมีที่ใหม่ที่อยากพาเค้าไปมากกว่าที่เกาะเสม็ดซะอีกน่ะครับนั่นคือ ‘เกาะสีชัง’
“โธ่ นึกว่าจะพาไปสวรรค์ที่ไหน ก็ไม่พ้นเกาะอยู่ดีแหล่ะนิว” นี่เป็นคำทักท้วงของ เทค แต่เมื่อผมยินยันว่าน่าไปจริงๆ เค้าก็ตกลง
ผมเคยมาเที่ยวเกาะสีชังกับเพื่อนๆในมหาวิทยาลัย ก็เพื่อนกลุ่มเดิมล่ะครับแต่จำนวนคนน้อยลงกว่าปกติ เพราะบางคนก็ไม่ได้มา
นิ่ม คือเพื่อนที่ได้งานที่เกาะสีชัง พวกเราจึงมีที่พักฟรี ดังนั้นพวกที่ไปต่างจังหวัดได้นานๆ ก็พากันเฮโลมาถล่มเจ้าภาพซะเต็มที่
เกาะสีชัง มีอะไรหลายอย่างที่ผมชอบ และผมก็เชื่อว่าเทคต้องชอบ เนื่องจากหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมกับเทคมักจะชอบตรงกัน
ผมชอบสถาปัตยกรรมเก่าแก่เช่น วังเก่า ตำหนักเก่า เทค ก็ชอบและหาความรู้เรื่องนี้มากกว่าผมซะอีกทั้งที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ
แต่ถ้าเจอหนังสือเกี่ยวกับ อาคารบ้านเรือนสมัยรัชกาลที่ 5 - 7เป็นไม่ได้ล่ะ เทคจะขนซื้อไปนั่งอ่านอยู่ในโลกส่วนตัวเป็นวันๆเลย
ดอกลั่นทม ที่เดี๋ยวนี้เรียกกันว่า ลีลาวดี นี่ก็เหมือนกันผมชอบมาตั้งแต่เด็ก เคยคิดว่าทำไมเอาไปปลูกในบ้านไม่ได้ทั้งที่อยากปลูก
จะว่าชื่อเสียงเรียงนามไม่มงคลแต่ทำไมต้นไม้ที่ใครๆ ว่าไม่มงคลกลับเติบโตแข็งแกร่งให้ร่มเงาผู้คนอยู่ในเขตวัดอันรื่นรมย์ได้ล่ะ
ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่า เทค ชอบต้นลั่นทมเหมือนกับผมจนกระทั่งผมไปเล่าให้เค้าฟังว่าที่วิทยาเขตที่ผมเรียนอยู่ปลูก
ต้นลั่นทมไว้ซะเต็มทั่วสวนด้านหลังอาคารใหญ่เลย เทค ก็กระดี๊กระด๊าทำท่าอยากมาเห็นซะให้ได้ ก็เลยคุยเรื่องลั่นทมได้ถูกคอ
ทะเล เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมและเทค ต่างก็ชอบเหมือนกัน ผมเคยบอกเทคว่าเวลาไปทะเลผมไม่ต้องเล่นน้ำทุกครั้งหรอกครับแค่ได้
นั่งมองดูท้องทะเล ดูคลื่นซัดหาฝั่งผมก็มีความสุขแล้ว เทคเองก็เนกันแต่รายนั้นยืนยันว่ามาทะเลต้องเล่นน้ำถึงจะเรียกว่ามาจริงๆ
เฉพาะสิ่งที่ผมยกตัวอย่างมานี้ก็มากพอจะทำให้ เกาะสีชัง มีเสน่ห์ดึงดูดให้เทคอยากมา และเมื่อมาแล้วก็ติดใจเหมือนที่ผมคิดไว้
ผมได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยมจากเพื่อนของผม นิ่ม ยกห้องนอนให้ผมกับเทคไปเลยหนึ่งห้อง และยังคอยดูแลอาหารการกิน
เรียกได้ว่าเป็นเจ้าบ้านที่ดีสุดๆไปเลย ผมก็เป็นคนไปจ่ายตลาดบ้าง ช่วยออกค่ากับข้าวมื้อเย็นบ้าง โชว์ฝีมือทำอาหารบ้างสนุกดี
ระหว่างวันที่ นิ่ม ไปทำงาน ผมก็จะพา เทค ขี่จักรยานไปรอบๆเกาะ แต่เค้าขี่นะครับผมซ้อน ก็เค้าตัวใหญ่นี่ใครจะแบกเค้าไหว
ที่นี่มีส่วนที่เป้นทะเลอยู่หลายแห่ง เราก็ไปทีละแห่ง วันไหนที่เหนื่อยก็งดโปรแกรม นอนอยู่บ้านทั้งวัน หรือไม่งั้นก็อ่านหนังสือ
ผมพกเอาหนังสือที่ผมชอบมามากมายจน นิ่ม แซวว่าจะมาเปิดร้านขายของที่นี่หรือไง แต่ผมก็อ่านไปทีละเล่มจนเกือบหมดเลย
วันที่ นิ่ม หยุดงานก็จะเป็นไกด์พาไปเที่ยวในที่ซึ่งไกลออกไปหน่อย หรือเป็นที่ที่นิ่มเองก้เพิ่งรู้จักและอยากพาผมกับเทคไปด้วย
ช่วงเวลาหลายวันที่อยู่ด้วยกันที่เกาะสีชัง มันไม่มีแบบแผนตายตัว แล้วก็รู้สึกกันเองมากว่าไปเช่าบังกะโลหรูๆที่เกาะเสม็ดซะอีก
ผมใช้เวลาพักสมองด้วยการอ่านหนังสือ พักสายตาด้วยการนอนหลับ พักผ่อนร่างกายด้วยการว่ายน้ำทะเลในช่วงเย็นๆกับ เทค
วันไหนที่ผมไม่นึกอยากเล่นน้ำ ก็เอาสมุดจดที่มักพกติดตัวไปเสมอๆ ขึ้นมาบันทึกรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของวันนั้นเก็บไว้อ่าน
บางทีมีอารมณ์สุนทรีย์มากหน่อย ก็อาจจะได้นิยาย หรือเรื่องสั้นซักเรื่องสองเรื่องเก็บไว้ในสมุดเล่มนั้นแต่เขียนได้แค่เริ่มต้นเอง
พอมีอย่างอื่นที่มาเบี่ยงเบนความสนใจของผมไป นิยายที่คิดเอาไว้ก็เป็นอันต้องนอนรอการสานต่ออยู่ในสมุดเล่มนั้นอยู่เนืองๆ
บรรยากาศ ที่ร่มรื่น อบอุ่นด้วยไอแดด เย็นสบายด้วยละอองฝนยามค่ำคืน แสงจันทร์สีนวลกลมโต ทำให้เกาะสีชังน่าประทับใจ
มากขึ้นไปอีกสำหรับผม จะว่าไปแล้วแม้การมากับเทคครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่ผมได้ไปเกาะสีชังแต่ความรู้สึกตื่นเต้นยังคงอยู่
ผมยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจเมื่อได้ต่อเรือไปที่เกาะ รู้สึกหวานละมุนเมื่อได้นั่งมองพระจันทร์ในตอนค่ำ และครื้นเครงกับเกลียวคลื่น
สถานที่อาจจะเป็นของเดิม คนรอบตัวก็คนเดิมๆ แต่ยิ่งได้รู้จักคุ้นเคย เกิดความผูกพันกันมากขึ้นเท่าไหร่ ความไว้เนื้อเชื่อใจก็มี
มากขึ้นเป็นลำดับ ‘คนกันเอง’ กับ ‘สถานที่คุ้นเคย’ กลายเป็นความทรงจำส่วนหนึ่งของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้หรอกนะครับ
แต่ที่ผมรู้ก็คือ ที่นี่มีบางอย่างก่อเกิด แจ่มชัดขึ้นในใจของผมเอง สิ่งที่ผมเคยสับสน สิ่งที่ผมเคยก้าๆ กลัวๆ ที่จะยอมรับมันนั้น
มาถึงตอนนี้ผมรุ้สึกอิสระที่จะยอมรับตัวตนของผมเอง ตัวตนที่ผมเคยวิ่งหนี คงเพราะที่นี่ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่คนในครอบครัวผม
ไม่มีสิ่งที่จะตีกรอบผมเอาไว้ ผมจึงเรียนรู้ความรู้สึกใหม่ที่เกิดขึ้นในใจ นั่นก็คือการยอมรับตัวเองไม่ใช่สิ่งน่ากลัวอย่างที่ผมคิดไว้
ตอนที่ 6 ภาระที่ต้องรับ
ช่วงเวลา 2 สัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าการไปเที่ยวในที่ที่ถูกใจและไปกับเพื่อนที่รู้ใจจะน่าจดจำขนาดนี้
ตอนแรกผมคิดว่าจะอยู่ที่เกาะสีชังแค่ 5 วันเท่านั้น เพราะครั้งก่อนๆที่เคยไปกับเพื่อนในมหาวิทยาลัยก็อยู่นานสุดแค่ 5 วันเท่านั้น
แต่อาจเพราะบรรยากาศที่เหมือนจะตัดความวุ่นวายจากโลกแห่งแสงสีอีกฟากหนึ่งของเกาะสีชังเพราะที่นี่สงบและร่มรื่นจริงๆ
ผมมาลองทบทวนถึงช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่เกาะสีชังนั้น กิจวัตรประจำวันของผมกับเทคซ้ำกันทุกวันแต่กลับไม่น่าเบื่อเลยสักนิด
ตอนนี้ เทค กลับไปทำงานที่สิงคโปร์แล้วครับ ผมเองก็กลับมาตั้งหน้าตั้งตาเรียนเนื่องจากนี่เป็นเทอมที่ผมลงทะเบียนจนครบ
เกือบหมดทุกวิชา ผมตั้งใจจะเรียนให้จบภายใน 3 ปี ซึ่งถ้าผมสอบผ่านทุกวิชาที่ลงทะเบียนในเทอมนี้และเทอมหน้าก็จะจบในปีนี้
เย็นวันหนึ่ง ผมกำลังนั่งรถกลับจากมหาวิทยาลัย คุณป้าใหญ่ก็โทรศัพท์เข้ามาหาผม น้ำเสียงคุณป้าใหญ่เร่งร้อนเหมือนมีเรื่องร้าย
คุณป้าใหญ่บอกผมว่ามีคนมาที่บ้านหลายคน แต่คนที่คุณป้าใหญ่จำได้แม่นยำก็คือ ลุงวิชิต ซึ่งเป็นพี่ชายของคุณป๋าผมเองล่ะครับ
ซึ่งจะว่าไปแล้วแม้เค้าจะเป็นลุงแท้ๆของผมแต่การที่ครอบครัวของเราไม่เคยไปมาหาสู่กันก็ทำให้ผมแปลกใจไม่ใช่น้อย
ยิ่งฟังที่คุณป้าใหญ่บอกว่าให้ผมรีบกลับมาที่บ้านด่วนเลยเพราะ ลุงวิชิตกับพวกของเค้ากำลังเดินสำรวจไปทั่วบ้านทั้งยังหยิบจับ
โยกย้ายข้าวของในบ้านผมอย่างถือวิสาสะ ผมก็ยิ่งร้อนใจเร่งให้ลุงเขยขับรถให้เร็วขึ้นเพราะต้องการรู้ต้นสายปลายเหตุที่เกิดขึ่น
เมื่อรถจอดที่หน้าประตูรั้วก็เห็นคุณป้าใหญ่ยืนคอยผมอยู่แล้วผมบอกให้ลุงเขยกลับไปก่อนและเดินนำคุณป้าใหญ่เข้าไปในบ้าน
“นี่ มาทำอะไรกันน่ะ” ผมรีบเดินไปขวางพวกที่กำลังรื้อข้าวของจากตู้โชว์ในห้องรับแขกลงมาที่พื้น
“อ้าว มาแล้วเหรอหลานชาย ลุงมารอแม่เธอตั้งนานแล้วนะ ป่านนี้ยังไม่มาอีก” ลุงวิชิตเดินอ้อมมาจากหลังบ้าน
“สวัสดีครับลุง” ผมยกมือไหว้ก่อนจะถามว่า “มารอนายแม่ มีธุระอะไรแล้วเรื่องอะไรต้องมารื้อค้นกันวุ่นวายแบบนี้”
“ก็แม่เธอไม่มาตกลงเรื่องหนี้กับลุงซะที ลุงก็ดูไปเรื่อยๆสิว่ามีอะไรจะเอาไปขายใช้หนี้แทนบ้านได้บ้าง” ลุงวิชิตบอก
“คุณป้าใหญ่ นี่มันอะไรกันครับ ทำไมน้องไม่เคยรู้มาก่อน” ผมหันไปถามคุณป้าใหญ่ที่เดินมายืนทางด้านหลังผม
“ป้าก็ไม่รู้ลูก” คุณป้าใหญ่พูดไปก็ทำท่าจะร้องไห้ซะแล้ว “หนี้สินอะไรกันครับลุง เกี่ยวอะไรกับบ้านหลังนี้ด้วย”
“ลุงว่าเธอไปถามแม่กับพี่ชายเธอดีกว่าว่าเรื่องมันเป็นยังไง แต่เป็นหนี้ก็ต้องใช้ไม่งั้นก็ต้องทำสัญญากันใหม่”
“ทำไมครับ แม่ผมกับพี่ชายไปเป็นหนี้ลุงหรือไง ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่มีใครบอกผมเรื่องนี้เลย”
“เรื่องมันนานแล้ว จริงๆพ่อเธอเป็นหนี้ลุงแล้วเอาบ้านหลังนี้มาค้ำประกันไว้ก็ตั้งแต่พ่อแม่เธอยังไม่แยกกันนั่นล่ะ”
ลุงวิชิต พูดอย่างต่อเนื่องคล่องแคล่วแม้ผมจะพยายามคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริง พยายามจับคำพูดที่อาจปั้นแต่งขึ้นก็จับไม่ได้
“ถึงเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง ทำไมลุงไม่ไปทวงหนี้กับคุณป๋าเองล่ะ มาก่อกวนผมกับแม่ที่นี่จะมีประโยชน์อะไร” ผมเถียง
“ก็พ่อเธอไม่ได้อยู่บ้านนี้แล้วนี่ ลุงไปทวงพ่อเธอก็ทำเงียบหายไป แต่ในเมื่อแม่เธอยังอยู่บ้านนี้ก็ต้องใช้หนีมาสิ”
“เห็นแก่ตัว ลุงกับคุณป๋าเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ทำไมพูดกันเองไม่ได้ ทำไมต้องมากดดันแม่ผมด้วย”
“อ้าว พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกสิหลานชาย ถ้าไม่อยากรับผิดชอบหนี้สินที่พ่อเธอสร้างไว้ก็ย้ายออกไปจากที่นี่สิลุงจะได้ขายทิ้ง”
“แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะลูก” คุณป้าใหญ่ถามผมเสียงสั่นด้วยความหวาดหวั่นจนผมต้องกอดคุณป้าใหญ่เอาไว้
ขณะที่เรากำลังยืนพูดคุยกันอยู่นี้นายแม่ก็กลับเข้ามาพอดี ผมหันไปมองนายแม่ที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีอ่อนล้าแต่ก็เด็ดเดี่ยว
นายแม่ขอร้องให้ลุงวิชิตสั่งลุกน้องของเค้าเก็บข้าวของเข้าที่ตามเดิมแล้วรับปากว่าภายในปีนี้จะหาเงินไปชำระหนี้สินให้ได้
ทีแรกลุงวิชิตฮึดฮัดเสียงดังหาว่านายแม่เคยพาพี่ชายไปเจรจามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลยปีก่อนแต่แล้วก็เงียบหายกันไปหมด
ลุงวิชิตจึงไม่อยากผ่อนผันอีกแล้วทั้งยังขู่ว่าจะเอาของในบ้านไปขายเพื่อหักค่าดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกเดือนจนกว่าจะใช้หนี้ครบ

แต่จู่ๆก็เปลี่ยนใจยอมให้โอกาสแม่อีกครั้งโดยยืดเวลาให้แม่หรือพี่ชายหาเงินมาใช้หนี้จนถึงสิ้นปีนี้ซึ่งเหลือเวลาอีกเกือบ
ครึ่งปี
เมื่อลุงกลับไปแล้วผมเองแทบเข่าอ่อนกับเรื่องหนี้สินที่เพิ่งได้รู้ในวันนี้เองแต่พอเห็นนายแม่ทรุดลงไปกับพื้นผมก็ต้องฮึด

ขึ้นใหม่
รีบไปพยุงนายแม่ไว้แต่เมื่อหันไปขอยาดมจากคุณป้าใหญ่ก็เห็นว่าท่านนั่งกุมหน้าอกด้วยว่าความดันขึ้นกระทันหันผมจะทำไงดี



นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
33
Zenny
185
ออนไลน์
0 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 15:06:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
128
Zenny
1276
ออนไลน์
16 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 17:39:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
รัมัน ไม่ต้องการเวลาหรอกค้าบบบ

แสดงความคิดเห็น

คับ  โพสต์ 2012-3-19 17:44

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
655
Zenny
4096
ออนไลน์
93 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 19:35:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24520
Zenny
38558
ออนไลน์
2323 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-30 04:02:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 18:06:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
75
Zenny
185
ออนไลน์
19 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-5 15:59:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47756
Zenny
20375
ออนไลน์
2060 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-12 10:58:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-23 06:17 , Processed in 0.191234 second(s), 31 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้