ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 522|ตอบกลับ: 5

++ กว่าจะรู้ว่ารัก ++ @ 24 - 26 ภาค 3

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“ทำแบบนั้นมันก็ดีหรอกลูก แต่คนเราไม่เหมือนกันนะลูกน้องอาจคิดว่าต่างคนต่างทำงานก็หมดเรื่องแต่เค้าคิดแบบนี้รึเปล่า”
นายแม่ เตือนให้ผมคิดให้รอบคอบอีกครั้งเพราะถึงจะได้ทำงานพิเศษที่ตรงกับสายที่เรียนมา และเป็นงานที่ผมชอบมากก็ตาม แต่ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจก็ไม่อยากให้ผมต้องทนแรงกดดันจากเพื่อนร่วมงานประเถทที่ชอบข่มคนอื่นให้ด้อยกว่าตัวเค้าแบบพี่ปิ๊ก

ตอนที่ 24 ฟ้าหลังฝน
การจ่ายเงินค่าไถ่บ้านงวดสุดท้ายเร็วกว่าที่ผมคิดเพราะคุณหญิงน้านำเงินมาให้ลุงวิชิตตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ผมและคุณหญิงน้า ปรึกษากันว่าเราจะไม่โอนเงินให้ลุงวิชิตทางบัญชีเหมือนที่เคยทำมางวดก่อนๆ แต่จะเอาเงินก้อนนี้ไปมอบให้ลุงวิชิตที่บ้านผมล่ะซึ้งกับคำที่ว่า
‘มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่’ ก็วันนี้แหล่ะครับ เพราะหลังจากกการโอนเงิรผ่อนบ้านให้ลุงวิชิต
อย่างถูกต้อง ตรงเวลาและครบทุกจำนวนตามที่ตกลงกันไว้ แถมคราวนี้การมาขอพบลุงวิชิตของผมกับคุณหญิงน้ายังมาพร้อมกับเงินจำนวนไม่ใช่น้อย ดังนั้นท่าทีและการต้อนรับของลุงวิชิตจึงแตกต่างจากวันแรกเมื่อหลายเดือนก่อนที่เราเคยมาขอเข้าพบครั้งนี้ลุงวิชิตออกมานั่งรถที่ระเบียงบ้านคอยการมาถึงจของผมและคุณหญิงน้า โดยไม่ต้องให้แม่แป้นสาวใช้คอยไปเชิญมาพบ
“มากันแต่เช้าเลยนะครับคุณหญิง ไม่ต้องกลัวหรอกครับถ้าเงินครบยังไงผมก็ไม่ผิดคำพูดแน่”
ลุงวิชิตถามหลังจากจิบกาแฟในแก้วไปเพียงเล็กน้อย
“ดิฉันเห็นว่าคุณวิชิตว่างช่วงเช้าก็เลยอยากจัดการธุระให้เสร็จเร็วหน่อยน่ะค่ะเพราะนี่ก็ลางานมาแค่ครึ่งวัน”
คุณหญิงน้าออกตัวเพื่อรักษามารยาทแต่ความจริงแล้วเพราะเราสองคนน้าหลานไม่อยากยืดเยื้อกับคนบ้านนี้ต่างหาก
“งั้นก็ดีครับ ถึงยังไงก็ต้องเคลียร์กันที่เงินก้อนสุดท้ายนี้อยู่แล้ว ไม่ทราบว่าจะจ่ายเป็นเชคหรือเงินสดล่ะครับ”
สุดท้ายลุงวิชิตก็เป็นคนที่วกกลับเข้าเรื่องซะเอง
“เงินสดค่ะ ตั้งใจว่าจะให้คุณวิชิตถือเงินสดไว้เลยจะได้อุ่นใจว่าทางเราไม่บิดพลิ้วแน่นอน”
คุณหญิงน้าบอกผมล่วงหน้าว่ากันพลาดเอาไปให้เองเลยจะได้นัดวันโอนที่คืนด้วยน่ะครับ
“ผมว่าคุณหญิงไม่ไว้ใจผมมากกว่ามั้ง คงคิดว่าถ้าโอนเงินงวดสุดท้ายมาแล้วผมจะแกล้งลืมแล้วไม่โอนบ้านคืนให้”
แววตาและน้ำเสียงของลุงวิชิตแสดงความรู้ทันอย่างออกนอกหน้า แต่ถ้าจริงแล้วจะทำไมในเมื่อเอาเงินมาให้ไม่ได้มาขอเงินนี่
“แหม คุณลุงรอบคอบเสมอเลยนะครับ น้องก็บอกคุณหญิงน้าแล้ว่าถ้าทำอย่างนี้คุณลุงอาจเข้าใจผิดได้แต่เราก็ถือว่าเราจริงใจ”
ผมรีบขัดขึ้นเพื่อแก้สถานการณ์ เพราะท่าทางคุณหญิงน้าก็ใช่จะยอมให้ลูบคมได้ง่ายๆ
“ไอ้เจ้าคนนี้ฉลาดนัก ช่างไกล่เกลี่ยได้ดีนี่ เอาเถอะถือว่าลุงพูดเล่นก็แล้วกันนะนิว แล้วเธอหางานได้รึยังเนี่ย”
เค้าว่ากันว่าคนมีเงินน่ะจะพูดจาจะหัวเราะก็เสียงดังกว่าคนทั่วไปเห็นจะจริงครับ เสียงลุงวิชิตลั่นคับบ้านเชียวล่ะตอนนี้
“หาได้แล้วครับ โชคดีที่ไปลองเทสงานดีเจแล้วผ่าน ก้เลยให้ลองงานไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่ได้เงินเดือนนะครับ”
“อ้าว แล้วจะคุ้มเหรอ ระวังจะโดนเค้าหลอกให้ทำงานให้ฟรีนะ แต่ก็เป็นการฝึกงานเพื่อขอจบด้วยนี่ก็ต้องทำสินะ”
เกือบแล้วมั้ยล่ะครับ เพราะตอนที่ผมจะลาออกน่ะผมบอกว่าจะไปฝึกงานสื่อสารมวลชนเพื่อขอจบแต่จริงๆแล้วไม่ใช่หรอกครับ
“เอ่อ อ่ะครับ ใช่เลยครับ น้องเองก็อยากได้งานที่มีเงินมาช่วยคุณน้าผ่อนบ้านให้คุณลุงแต่ตอนนี้เรื่องเรียนจบสำคัญที่สุดครับ”
“เอาอย่างนี้สิ พอเรียนจบก็โทรศัพท์มาหาลุงนะ ลุงจะดูตำแหน่งว่างๆที่บริษัทไว้ให้ แล้วเราจะได้มาทำงานด้วยกันอีก”
ลุงวิชิตเอ่ยปากชวนด้วยน้ำเสียงจริงใจ แสดงว่าช่วงที่ผมมาทำงานที่นี่ถือว่าผ่านการประเมินสินะแอบภูมิใจนะเนี่ย
“แต่น้องเรียนจบด้านสื่อสารฯมานะครับ คงหาตำแหน่งในบริษัทคุณลุงยากซักหน่อยมั้งครับน่าจะรับคนที่จบมาโดยตรง”
ผมปฏิเสธให้ดูเหมือนเกรงใจเสียเต็มประดาทั้งที่ความจริงแล้วผมปฎิเสธด้วยเหตุผลอื่นต่างหากล่ะ
“ลืมแล้วเหรอว่าเราเป็นญาติกัน พ่อเธอก็เป็นน้องชายแท้ๆของลุง ทำไมแค่นี้ลุงจะช่วยหลานชายไม่ได้ล่ะ จริงมั้ยคุณหญิง”
ลุงวิชิตหันไปขอความเห็นจากคุณหญิงน้า ผมนึกในใจว่าตอนนี้ผมพ้นสภาพลูกหนี้แล้วน่ะสิถึงมาเห็นผมเป็นญาติ
“ก็คงต้องรอให้หลานเรียนจบก่อนน่ะค่ะคุณวิชิต ตอนนี้แค่ให้เค้าเรียนจบได้ดิฉันก็สบายใจแล้ว”
คุณหญิงน้าไม่ตอบรับหรือบ่ายเบี่ยง แต่ก็ให้คำตอบที่ทุกฝ่ายสบายใจ
“อะไรกันคุณหญิง หลานชายออกจะตั้งใจเรียน ผมล่ะนับถือน้ำใจเด็กจริงๆ ตัวแค่นี้ก็กล้าออกหน้ารับผิดชอบปัญหาใหญ่ๆ
ทั้งที่ตอนปัญหามันมีขึ้นมาน่ะ เจ้าหลานชายยังเล็กอยู่เลย ใครจะนึกนะคุณหญิงว่าปัญหาของคนรุ่นก่อนต้องพึ่งพาคนรุ่นนี้”
ผมนั่งฟังประโยคชื่นชมของลุงวิชิตด้วยความไม่แน่ใจว่าเค้าจริงใจรึเปล่า แต่อย่างน้อยผมก็รู้สึกว่าไม่มีความนัยแฝงเร้น
“น้องต้องกราบขอบพระคุณคุณลุงมากๆเลยครับ” ผมยกมือไหว้และก้มลงกราบไปที่ตักของลุงวิชิตตามที่เตรียมการมา
“เพราะต่อให้น้องมีเงินทองมากมายมาคืนให้คุณลุง แต่คุณลุงไม่ให้โอกาสไม่เชื่อถือคำพูดของน้อง น้องก็คงทำอะไรไม่ได้เลย ขอบพระคุณอย่างที่สุดที่ยังเชื่อในเกียรติอันน้อยนิดของน้อง ถ้าคุณลุงไม่ให้โอกาสแต่แรกน้องคงทำความตั้งใจนี้ไม่สำเร็จแน่”
ขณะที่พูดอยู่นี้ผมก็ลอบมองสีหน้าของ ลุงวิชิต ไปด้วยเห็นแววตากับท่าทีที่อ่อนโยนลงบ้างแล้วก็ค่อยสบายใจหน่อย
“ลุงเองก็เกือบจะตัดโอกาสที่จะได้รู้ว่าตระกูลของเรายังมีคนใจเด็ดและรักษาเกียรติอย่างเธอ ต่อไปเราจะเป็นญาติที่ดีต่อกันนะ”
หลังจากการเล่นละครของผมจบลง ผมก็ยืดตัวตรงและขอนัดหมายวันที่จะไปโอนบ้านซึ่งลุงวิชิตก็ตกลงโดยดีไม่มีท่าทีบิดพลิ้วให้เห็น
ตอนที่ 25 พี่ศรัณย์
ถัดจากนั้นเพียงสามวัน ลุงวิชิตและคุณป้าสมร ก็เดินทางมายังจังหวัดที่ผมอยู่เพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านหลังนี้คืนให้ผม งานนี้คุณหญิงน้าไม่ได้เดินทางมาด้วยเนื่องจากเชื่อใจผมแล้วว่าผมจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้สำเร็จได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน คุณหญิงน้าเตรียมเงินจำนวนหนึ่งให้ผมติดตัวไว้เพื่อใช้เป็นค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับกรมที่ดินตามขนาดพื้นที่ของตัวบ้าน แต่การณ์กลับเป็นว่าลุงวิชิตจะออกค่าใช้จ่ายส่วนนิ้แทนให้ทั้งหมด เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจให้กับผมในฐานะที่เราเป็นญาติกัน สำหรับนายแม่และพี่ชายนั้นไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย โดยให้เหตุผลว่าในเมื่อผมเป็นคนจัดการปัญหานี้จนสำเร็จลงได้ก็ยกสิทธิ์ขาด
เรื่องโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้งหมดของบ้านหลังนี้ให้ผมเป็นคนจัดการ รวมทั้งสิทธิ์ในการบริหารจัดการบ้านหลังนี้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเมื่อผมลงชื่อเป็นผู้ซื้อบ้านแล้ว ฐานะเจ้าของคนใหม่แห่ง
‘บ้านนพรัตน์’ จึงคืนมาเป็นของผมโดยสมบูรณ์แต่เพียงผู้เดียว
“นี่ก็เที่ยงแล้วนะ หาอะไรทานกันก่อนดีมั้ยลูก”
ป้าสมรถามขึ้นหลังจากที่พวกเราทั้งสามเดินลงมาจากอาคารของกรมที่ดิน
“เดี๋ยวรอตาศรัณย์ก่อนสิคุณ จะได้ไปทานซะพร้อมๆกัน”
ลุงวิชิตพูดถึงลูกชายคนเล็กของเค้าเป็นครั้งแรกตั้งแต่เจอกันวันนี้
“พี่ศรัณย์มาด้วยเหรอครับคุณลุง”
ผมถามด้วยความแปลกใจและตกใจปนกัน เพราะต้งแต่ลาออกก็ไม่ได้เจอพี่ศรัณย์อีกเลย
“ลุงขับรถไม่ไหวแล้วลูก ก็เลยให้พี่เค้าขับรถมาให้ทีแรกก็อิดออดแต่พอรู้ว่าจะมาโอนที่ให้เธอ พี่ศรัณย์ก็เลยยอมมา”
“เพื่ออะไร” ผมเผลอหลุดปากออกมา “ก็คงเห็นว่ามาทำธุระให้ญาติพี่น้องน่ะก็เลยขับมาส่งลุง นัดกันเที่ยงๆเดี๋ยวคงมา”
ลุงวิชิตให้คำตอบกับผมทั้งที่ผมก็หลุดปากไปอย่างนั้นเอง แล้วซักพักพี่ศรัณย์ก็เลี้ยวรถเข้ามาจอดใกล้ๆกับจุดที่พวกเรายืนอยู่
“มีร้านอาหารอร่อยๆแนะนำมั้ยครับน้องนิว”
พี่ศรัณย์ถามขณะที่พวกเราอยู่บนรถเตรียมจะไปหาที่ทานอาหารกลางวัน
“อาหารอร่อยน่ะหาไม่ยากหรอกครับ แต่ผมไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยยิ่งต้องใช้หนี้ใช้สินด้วยแล้วก็ไม่มีโอกาสไปร้านอาหารหรอก”
“อะไรกัน แค่ร้านอาหารอร่อยๆจะสิ้นเปลืองซักเท่าไหร่ใช่มั้ยครับคุณพ่อ”
พี่ศรัณย์หันไปถามลุงวิชิตที่นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ
“ศรัณย์ก็อย่าเรื่องมากน่ะลูก น้องเค้ารู้จักใช้เงินก็ดีแล้ว ใครจะช่างเสาะหาที่กินที่เที่ยวได้อย่างลูกล่ะ” ลุงวิชิตปรามลูกชาย
“แม่ก็เห็นด้วยกับที่น้องนิวพูด ถึงไม่เป็นหนี้เป็นสินก็ควรกินอยู่แบบพอดี ไม่สิ้นเปลืองน่ะถูกแล้วจ้ะ” ป้าสมรหันมายิ้มให้ผม
“แหม คุณพ่อคุณแม่ พอเจอหลานรักเข้าหน่อยก็ถล่มลูกเลยนะ ลูกก็แค่อยากให้น้องนิวเป็นไกด์พาไปทานอาหารน่ะครับ”
ปากพี่ศรัณย์ก็พูดทำนองน้อยใจลุงวิชิตกับป้าสมรไปอย่างนั้น แต่สายตาลามกที่มองมาทางกระจกหลังสิครับที่ผมขนลุก
“งั้นน้องจะพาไปทานร้านอาหารตามสั่งละกันครับ อาหารอร่อยแต่คงต้องทนร้อนทนควันและกลิ่นผัดกับข้าวนะครับ”
“เอาเลยลูก เธอพาลุงกับป้าไปทานร้านนี้แหล่ะ ลุงก็ชอบทานอะไรง่ายๆอยู่แล้ว นะคุณสมรนะ” ลุงวิชิตช่วยตัดสินใจ
“ค่ะคุณ งานนี้ก็ต้องแล้วแต่คนนำทางล่ะค่ะ นะนิวนะ” ป้าสมรรับคำแล้วหันมาพยักหน้ากับผม
ผมบอกเส้นทางให้พี่ศรัณย์ขับรถไปจนถึงร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งเป็นร้านที่ขายริมถนน เจ้าของร้านจะหันหน้าร้านมาด้านนอก
ทั้งตู้กระจกสำหรับวางสิ่งของที่ต้องใช้ประกอบอาหาร เครื่องครัว เตาแก้ส ก็จะอยู่ด้านหน้าร้านทั้งหมด มีโต๊ะให้นั่งด้านใน
เมื่อได้ที่นั่งแล้วผมก็ถามว่าแต่ละคนจะทานอะไรกันบ้าง ลุงวิชิตและป้าสมรมีท่าทีสบายๆอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะทนสภาพร้านได้ แต่พี่ศรัณย์น่ะสิครับ นั่งยุกยิกๆเหมือนกับว่าผมพาไปนั่งในดงหมามุ่ยอย่างนั้นล่ะ ช่วยไม่ได้ก็ร้านนี้อร่อยจริงๆนี่แต่ว่าไม่หรูหรา เมื่อทานอาหารกันเสร็จแล้ว พี่ศรัณย์อาสาไปส่งผมที่บ้านก่อนที่จะพาลุงวิชิตและป้าสมรกลับกรุงเทพ เพราะยังไงก็เป็นทางผ่าน ผมบอกไปแล้วว่าไม่ต้องไปส่งเพราะผมมีนัดกับเพื่อน แต่บังเอิญว่าลุงวิชิตอยากไปกราบกระดูกคุณย่าที่มาเก็บไว้ที่วัดในโคราช
ลุงวิชิตบอกให้พี่ศรัณย์ไปส่งเค้าและป้าสมรที่วัดก่อนจะได้ถือโอกาสพาลูกชายเค้าไปกราบกระดูกคุณย่าด้วยเพราะนานๆจะมานี่ ผมเองก็ต้องติดรถไปด้วยเพื่อพาครอบครัวของลุงวิชิตไปให้ถึงที่เก็บกระดูกคุณย่า ซึ่งนายแม่มาเปลี่ยนที่ไว้เมื่อต้นปีนี่เองน่ะครับ
“งั้นน้องขอตัวก่อนนะครับ” ผมรีบหาทางเลี่ยงออกจากครอบครัวนี้ให้เร็วที่สุด
“เอาไว้เจอกันใหม่นะลูก ว่างๆแวะไปหาป้ากับลุงมั่งนะจ๊ะ”
ป้าสมรรับไหว้ผมแล้วเดินเข้ามากอด ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมป้าสมรถึงเมตตาผมนักแต่ผมก็รู้สึกดีนะครับ
“ฝากบอกนายแม่เธอด้วยนะว่าลุงไม่ได้แวะไปหา เอาไว้มีเวลาจะมาเยี่ยมเยียนกันใหม่นะ”
ลุงวิชิตเองก็เดินมาตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะฝากความไปถึงนายแม่
“ลูกอยากไปซื้อของที่ห้าง เดี๋ยวลูกไปกับน้องนิวนะครับแล้วจะกลับมารับที่นี่พี่ไปด้วยคนนะ”
เมื่อเจอมุขหน้าด้านขนาดนี้ผมก็จนปัญญาเหมือนกัน เลยต้องยอมให้พี่ศรัณย์มาส่งที่ห้างสรรพสินค้าตามที่ผมอ้างว่านัดเพื่อนไว้
ตอนที่ 26 คนพาล
ผมพาพี่ศรัณย์มาห้างสรรพสินค้าที่อยู่คู่จังหวัดผมมานาน แทนการจะพาไปที่ห้างใหญ่อย่างเดอะมอลล์เพราะคิดว่าถ้าพี่ศรัณย์มา เจอห้างสรรพสินค้าเล็กๆมีของให้เลืกไม่มากนักพี่ศรัณย์จะได้กลับไปหาพ่อแม่เค้าซะทีไม่ต้องตามติดเป็นเงาตามตัวผมอยู่อย่างนี้
“พี่ศรัณย์จะไปซื้ออะไรก็ตามสบายนะครับ ผมจะแยกไปก่อน ป่านนี้เพื่อนคงมาแล้ว”
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าผมไม่ได้นัดใครไว้ทั้งนั้นแต่ก็เป็นข้ออ้างเดียวที่ผมน่าจะหลุดไปจากการตามติดของพี่ศรัณย์
“อืม พี่ก็ว่าจะเดินดูของไปเรื่อยๆนะ อีกซักพักค่อยกลับไปรับคุณพ่อคุณแม่น่ะครับ น้องนิวไปเดินกับพี่หน่อยสิ”
พี่ศรัณย์ยังคงจะยื้อผมไว้ให้อยู่กับเค้าต่อทั้งที่ผมก็บอกแสดงออกขัดเจนว่าไม่อยากอยู่ใกล้เค้า
“แต่ผมรีบ ไม่อยากให้เพื่อนรอนานนี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้วด้วย ขอตัวนะครับ”
ผมเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจและไม่เห็นว่าจะต้องรักษาน้ำใจกันอีกต่อไป
“แต่พี่ไม่รีบ งั้นพี่ไปด้วยละกน ให้แน่ใจว่าน้องนิวเจอเพื่อนแล้วพี่ค่อยไปซื้อของก็ได้”
โห....`คุณ`ด้าน ถ้าผมไม่อายคนแถวนั้นคำๆนี้จะต้องหลุดจากปากผมเข้าหูพี่ศรัณย์แน่ๆ
“พี่จะตามไปคุมผมรึไง อย่าลืมสิว่าผมไม่ใช่ลูกน้องและไม่ใช่ลูกหนี้ของพี่แล้วนะ”
ผมเริ่มโมโหจนไม่เก็บคำพูดแล้วครับ นั่นแหล่ะครับโกรธสุดก็ด่าได้เท่านี้
“อ้อ ไม่ต้องย้ำหรอก ทำไมล่ะพอไม่ต้องกราบกรานคุณพ่อพี่แล้วก็เลยจองหองใส่พี่เหรอ”
พี่ศรัณย์เสียงเข้มใส่ผม ท่าทีโอหังแบบนี้แหล่ะที่ถอดแบบลุงวิชิตมาทุกกระเบียด
“ผมไปหาเพื่อนดีกว่า”
ผมเดินหนีแต่พี่ศรัณย์ก็เดินตาม ผมไม่รู้จะไปไหนดีเลยขึ้นไปนั่งชั้น5ที่เป็นโซน Fast Food
ผมขึ้นมานั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของชั้นขายอาหารประมาณ15นาทีแล้วครับ ตอนนี้ฝั่งตรงข้ามผมมีพี่ศรัณย์นั่งจ้องหน้าผมไม่วางตา
แม้ผมจะแสร้งหันไปหันมาเหมือนกับว่ากระวนกระวายใจรอคอยเพื่อนที่นัดไว้ แต่ก็ต้องชะงักเพราะสายตาของพี่ศรัณย์ทุกทีสิ
“ไหนล่ะเพื่อนน้องนิว พี่ว่ารอตั้งนานแล้วนะ รู้งี้ไปเดินซื้อของกับพี่ซะก็สิ้นเรื่อง”
พี่ศรัณย์หมุนนาฬิกาข้อมือดูอีกครั้งสองครั้ง
“ผมลองโทร.หาเพื่อนอีกทีดีกว่า เผื่อกำลังเดินทางมา”
ผมลุกขึ้นแกล้งเดินไปหาตู้โทรศัพท์ แต่พี่ศรัณย์ท้วงว่าทำไมไม่ใช้มือถือ
“หรือว่าความจริงน้องนิวไม่ได้นัดใครแต่ไม่อยากเจอพี่ก็เลยโกหกเพื่อจะชิ่ง รังเกียจพี่มากรึไง”
เออ...ฉลาดซะทีก็ดีเหมือนกันแต่ผมก็สะดุ้งสุดตัวเพราะท้ายประโยคเสียงพี่ศรัณย์ดังขึ้น
“แล้วผมจะนัดกับใครหรือไม่นัดใครเลย มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย”
เอาสิ! เป็นไงเป็นกัน ผมก็เดือดเหมือนกัน ยุ่งอะไรกับชีวิตกูนักวะ
“ทำไมพูดจาห่างเหินแบบนั้นล่ะน้องชาย ลืมแล้วเหรอว่าเราเคยอยู่ห้องเดียวกันตั้ง3วัน3คืน”
นอกจากจะใช้วาจาที่จาบจ้วงด้วยน้ำเสียงจองหองไม่เคยเปลี่ยนแล้วยังคงโลมเลียผมด้วยสายตา
“อยู่แล้วทำไม ในเมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้นซักนิดอย่าคิดว่าจะไซโคกันหน่อยเลยน่ะ”
ผมเถียงเพราะผมรู้ว่าผมมีสิทธิ์ปกป้องตัวเอง
“แล้วนึกว่าคนอื่นจะเชื่อมั้ยล่ะ”
พี่ศรัณย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ใช้ข้อศอกเท้าโต๊ะแล้วยื่นหน้ามาหาผม
“หมายความว่ายังไง”
ผมถามกลับ และเริ่มหวั่นใจว่าคนพาลอย่างนี้คงทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหน
“แค่พี่บอกใครๆว่านิวมาทำงานพิเศษอย่างอื่นนอกจากงานที่บริษัทและงานพิเศษที่ว่าก็คืองานที่นิวต้องตามพี่ไปที่ชะอำ”
พี่ศรัณย์ เอามือลูบใต้คางของเค้าไปมา และเหล่ตามองผมอย่างไว้เชิง
“หุบปากเลยนะ คิดเหรอว่าพ่อกับแม่ของคุณจะยอมรับได้ถ้ารู้ว่าลูกชายเป็นเกย์ คงไม่ง่ายนักหรอกที่คุณจะไปเสียชื่อไปด้วย”
“พี่ไม่โง่หรอก แค่พี่บอกว่าน้องนิวมากับพี่ก็จริงแต่ไปค้างกับใครก็ไม่รู้ตั้ง 3 วันจนหาเงินมาใช้หนี้คุณพ่อพี่ได้เร็วก่อนถึงกำหนด
นิวลองคิดดูสิว่าใครกันแน่ที่จะรับไม่ได้ เออ แล้วอย่าลืมคิดเผื่อด้วยนะว่านายแม่กับคุณหญิงน้าของนิวน่ะใครจะช๊อคกว่ากัน”
พี่ศรัณย์ เยาะเย้ยผมด้วยคำพูดทุกถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความลำพองใจ ทั้งยังอวดดี ผมน้ำตาร่วงด้วยความโกรธและคับแค้นใจ
ไม่ใช่ว่าผมกลัวคำขู่ของเค้า ไม่ใช่ว่าผมจะสนใจความคิดสกปรกนั่น แต่เพราะผมชิงชังเศษมนุษย์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมนี่ต่างหาก
“นี่น่ะเหรอสายเลือดผู้ดี ตีราคาคนเป็นเงินก็ทำได้ ป้ายสีสาดโคลนอย่างไม่รู้จักอาย ต่ำทรามจนน่าเสียดายสายเลือด”
ผมด่าออกไปเบาๆเพราะไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน แต่เน้นทุกๆก็คำหวังจะให้เค้าได้ยินให้ชัดเจน
“หึหึ ถึงจะด่าอีกแค่ไหนก็คงไม่ทำให้เงินในบัญชีพี่ลดลงได้หรอก แล้วเงินที่พี่มีนี้แหล่ะที่จะซื้อนิวได้ ยกเว้นจะติดใจให้กินฟรี”
แย่แล้วครับ คราวนี้พี่ศรัณย์ท่าทางจะโมโหผมจริงๆถึงกับลุกขึ้นมากระชากแขนผมที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“เลิกดูถูกคนที่เค้าจนกว่าซะทีเถอะ แล้วถ้าผมจะต้องขายให้พี่ สู้ให้คนอื่นกินฟรีดีกว่า”
“ปากดีเหลือเกินนะ อยากรู้นักว่าถ้าเอาไอ้นั่นอุดปากจะติดใจจนดูดไม่เลิกรึเปล่าจ๊ะน้องรัก”
พี่ศรัณย์ฉุดผมให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วดึงตัวผมเข้าไปใกล้เพื่อให้ผมได้ฟังประโยคชั่วชาติเมื่อครู่นี้
“เดนมนุษย์ชัดๆ”
ผมหันไปจ้องหน้าอย่างเอาเรื่องและคิดจะสู้ไม่ถอย
“เดนมนุษย์เหรอ มานี่เลยมา”
พี่ศรัณย์รั้งผมไปโอบไว้แน่นกว่าเดิมพร้อมกับลากตัวผมให้เดินตามไปกับเค้า
“จะทำอะไรนี่มันในห้างนะ”
ผมตกใจแต่ไม่กล้าโวยวาย พี่ศรัณย์ยิ่งได้ใจโอบผมและบีบหัวไหล่จนตัวผมชิดติดพี่ศรัณย์มากขึ้น
“ในห้างสิยิ่งดีไม่ต้องเสียค่าโรงแรม”
พี่ศรัณย์ก้มมากระซิบที่ข้างหูผมแล้วสูดกลิ่นน้ำหอมที่ซอกคอของผมด้วยท่าทีสุดหื่นกาม
“ไอ้ทุเรศ สมสู่กับพี่กับน้องตัวเองก็ได้งั้นเหรอ”
ผมด่าหยาบที่สุดเท่าที่จะคิดได้ ทั้งที่ยังสลัดอ้อมกอดของพี่ศรัณย์ไม่ได้ซักที
“สมสู่กันเองนี่แหล่ะดีนัก เลือดจะได้เข้มข้นไม่มีเลือดไพร่มาเจือให้จาง อีกอย่างจะได้ไม่มีใครปากสว่างฟ้องกันเองให้ใครรู้ไง”
พี่ศรัณย์ยังคงโอบไหล่ผมไว้แน่นและพูดจาน่ารังเกียจมากขึ้นไปอีก จนมาถึงหน้าประตูห้องน้ำชายซึ่งแทบจะไม่มีใครเดินผ่าน
“เข้าไป”
พี่ศรัณย์ดันตัวผมเพื่อเปิดประตูห้องน้ำ
แต่ผมไม่ยอมพี่ศรัณย์ผลักผมอีกครั้งผมก็เลยกระแทกเข่าใส่เป้ากางเกงพี่ศรัณย์ ได้ผลครับเค้าลงไปกองอยู่ที่พื้น
จากหน้าตาหื่นกามเมื่อครู่กลับบิดเบี้ยวเขียวคล้ำ คงจุกจนพูดไม่ออกแล้วล่ะครับ
“สมน้ำหน้า”

ผมวิ่งหนีจากตรงนั้นแต่ยังไปไม่พ้นทางเดินแคบๆแถวนั้นเลยครับพอหันไปอีกทีก็เห็นพี่ศรัณย์วิ่งตามมาจนเกือบจะทันอยู่แล้ว
“นิวจะวิ่งไปไหน” มือแข็งแรงของผู้ชายคนหนึ่งคว้าข้อศอกผมไว้และถามผมด้วยเสียงห้าวๆผมหันไปมองถึงรู้ว่าเป็นพี่อาร์ท
ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมากทีเดียวเมื่อพี่ศรัณย์มาถึงผมเห็นว่าจวนตัวแล้วก็เลยพูดไปว่า
“คนนี้ชื่อพี่อาร์ทเป็นแฟนผมรู้จักกันไว้ซะสิ”
พีศรัณย์ยืนอึ้งไปเล็กน้อย แต่พอเห็นพี่อาร์ทที่สวมบทบาทได้อย่างรวดเร็วทำท่าจะชกโครมเข้าให้เท่านั้นแหล่ะพี่ศรัณย์ก็โกยแทบไม่ทัน


พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
655
Zenny
4096
ออนไลน์
93 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 22:22:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 19:26:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
75
Zenny
185
ออนไลน์
19 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-5 18:34:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุน คราฟผม

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
3864
Zenny
791
ออนไลน์
809 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-6-26 23:30:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47756
Zenny
20375
ออนไลน์
2060 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-12 17:00:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากนะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-23 06:35 , Processed in 0.086531 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้