++ กูพี่มึงนะเว้ย ++ # 24

tanya

ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
มาถึงบ้านมันก็เดินขึ้นห้องนอนไปเลยครับ จะงอนอะไรขนาดนั้นว้าไม่เข้าใจ ปล่อยผมขนดอกกุหลาบพันดอกมันเข้าบ้าน เหนื่อยชะมัด ตั้ง 20 ช่อ พระเจ้า เอาเข้ามาไม่เท่าไหร่กูจะเอาไปวางไว้ไหนว่ะ ผมไปขนแจกันในบ้านมารวมๆ แล้วใส่กุหลาบลงไป ก็ยังไม่หมด
เอางัยดีว่ะ อ้อ หลังบ้านมี อ่างเลี้ยงปลาอยู่สองใบที่ไม่ได้ใช้อยู่เอาว่ะ อ่างเลี้ยงปลานั้นแหละ ว่าแล้วก็เติมน้ำ แล้วก็เอากุหลาบยัดลงไป เสร็จซะที อ้อยังเหลืออีกหนึ่ง ไอ้คนตัวโตนั่งหน้าบูดอยู่บนห้องนอน ขึ้นไปง้อหน่อยล่ะกัน
ว่าแล้วก็เดินขึ้นห้องนอนไป เปิดประตู้เข้าไปก็เจอมันนอนหลับไปแล้ว เหอะๆ หลับจริงป่าวว่ะแต่เดี๋ยวค่อยง้อ อาบน้ำก่อนดีกว่า ผมก็เลยเข้าไปอาบน้ำ อาบเสร็จไอ้เต้ยก็ยังนอนท่าเดิม หลับจริงๆเหรอว่ะแต่งตัวเสร็จก็เดินไปนอนลงข้างๆมัน  ตอนนี้มันนอนหันหลังให้ผม
"เต้ย"เอานิ้วเขี่ยๆมัน
"อะไร จะนอน"แหม เย็นชาเชียวนะมึง
"เต้ยครับ"เหย่ มันหน่อย
"อะไร"
"ไม่อยากแล้วเหรอ"เอามุกนี้แหละ ได้ผลสุด มันหันหันตัวกลับหันมาทางผมแล้วลืมตาโต
"กานต์อยากเหรอ"ทำตาโตเชียวนะมึง
"ป่าว"
"อ้าว แล้วเมื่อกี้ ถามเต้ยทำไม"เปลี่ยนน้ำเสียงเร็วจังว่ะ
"อ้าว ก็เต้ยอยากไม่ใช่เหรอ"มันไม่ตอบ แต่พยักหน้า
"ถ้าอยากแล้วจะให้เหรอ"มันพูดน้ำเสียงประชดชะมัด
"ให้สิ ก็แฟนอยากนิ"ผมบอกมันไป อายว่ะกูพูดไปได้งัยว่ะ
"จริงๆนะ"มึงจะถามย้ำทำไมว่ะ
"อืม"ผมตอบมันไป
ผมยังไม่ได้พูดต่อ มันก็จูบลงที่ปากผมเลยครับ แล้วก็สอมกอดผมทันที ผมก็เลยกอดตอบมัน แล้วทุกอย่างก็ดำเนินต่อไป
หลังวันวาเลนไทน์อันหวานชื่นของผมกับเต้ย เหอะๆ ก็เข้าช่วงสอบปลายภาคครับ โอ้ย จะบ้าตายครับ เทอมนี้ขาดเรียนไปเยอะ กูกว่าจะอ่านแกะเทบเพื่อนได้ กว่าจะทำความเข้าใจ กว่าจะฟังเทบที่อัดรู้เรื่อง ตายๆ ไอ้เต้ยมันก็เครียดไม่แพ้ผมเหรอครับ อ่านหนังสือหนักเหมือนกัน แถมช่วงนั้นยังต้องขอวีซ่าออสเตเรียให้ไอ้เต้ย ไอ้เทพ ไอ้บอลอีก เพราะว่าปิดเทอมนี้
พวกมันจะไปเที่ยวบ้านผมที่ออสกันครับ
สอบเสร็จก็ขึ้นเครื่องบินไปออสฯกันทันทีเลยครับ ดูไอ้เต้ยตื่นเต้นเป็นพิเศษ มันบอกว่ามันยังไม่เคยมาออสมาก่อน ส่วนไอ้บอล
กับไอ้เทพ สองตัวนั้นมันก็ตื่นเต้นไม่แพ้ไอ้เต้ยหรอกครับ แต่ไอ้เทพกับไอ้บอลมันเก็บอารมณ์เก่ง นั่งเครื่องมาไม่มากไม่น้อยครับ 9 ชม.ก็มาถึง สนามบินของ Sydney รับกระเป๋า ตรวจของ ไม่นานก็หลุดออกมาเจอกับ Dad กับแม่ แล้วก็น้องชาย
(ชื่อกวี)รออยู่
เจอกันก็ทักทายกันนิดหน่อย แล้วก็แนะนำลูกเขยให้แม่รู้จัก อิอิ แล้วก็ไอ้เทพไอ้บอลให้แม่รู้จัก แต่แล้วก็เกิดปัญหาครับ
ก็ตอนนี้มีผมเต้ยบอลเทพ แม่แล้วก็dad และก็กวี รวมกันก็เจ็ดคน มันก็มามีปัญหาอีตอนจะนั่งรถกลับเนี้ยแหละครับ
เพราะว่ากฏหมายที่นู้น เค้าห้ามโดยสารคนเกิน 5 คนครับ ทำงัยล่ะครับ ผมก็เลยเสนอความเห็นว่า จะนั่ง Bus ไปกัน
สวนกระเป๋าก็เอาไว้บนรถ dad แล้วเราก็นั่งbus ไปกัน แม่ก็ตกลง ดีกว่าโดนจับโดนปรับครับ
ว่าแล้วผมก็ไปซื้อตั๋ว Weekly ให้พวกมันสามตัวรวมผมก็สี่ใบพอดี เหอะๆ ยังแพงอยู่คงเดิม ผมจำราคาตอนนั้นไม่ได้นะครับ แต่ตอนนี้ อ้อผมใช่ red weekly ประมาน 33 เหรียญ คูณ 30 ดูนะครับ"
แล้วก็เดินไปที่ bus stop กัน ไอ้เทพกับไอ้บอล มาดที่วางไว้ ตอนนี้หายไปหมดแล้วครับ ถ่ายรูปกันแล้ว มึงจะบ้าเหรอว่ะ
นี้มันแค่
Bus stop นะ
ที่สำคัญยังไม่หลุดเขตสนามบินเลย ดูมันสองตัวก็ตลกมันครับ ฮามัน ไหนบอกว่าไม่ตื่นเต้น ถ่ายรูปกันใหญ่ ที่สำคัญไม่สนใจเรียกผมไปถ่ายเลย ดูมันสิครับ นั่งรอรถอยู่ประมาณ ครึ่งชม. รถก็มาครับ
ก่อนจะถึงบ้านผมรถมันก็ต้องผ่านCity ก่อนครับ (ผมขอสงวนชื่อ Suburb ที่ผมอยู่นะครับ) เพื่อนเคยเห็นบ้านนอกเข้าเมืองมั้ยครับ ผมว่าคำนั้นแสดงอาการของไอ้สามตัวนั้นได้เลยทีเดียวครับ ขนาดอยู่บนรถมันยังถ่ายรูปออกไปด้านนอกเลยครับ
มึงจะถ่ายทำไมว่ะ
เดี๋ยวพรุ่งนี้กูก็พามาแล้ว ไม่เข้าใจพวกมันจริงๆ
นั่งรถไปประมาน 30 นาที ก็มาถึงบ้านผมซะที พอถึงบ้านแม่ก็เตรียมอาหารไว้รอเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เตรียมห้องไว้ สรุปเลยไอ้เต้ยนอนกับผม ส่วนไอ้เทพกับไอ้บอลนอนด้วยกัน
ขณะกินข้าวอยู่
"กวี วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอ"ผมคุยกับกวี น้องชายผม เป็นภาษาอังกฤษ ขอแปลเลยนะครับ
(กวีเป็นลูกแม่ผมกับ Dad ครับ ขอบอกว่าหล่อมาก อิจฉามันด้วย ก็มันเด็ก local อ่ะครับ สำเนียงสุดยอด อิจฉา)
"ไม่อ่ะ ขี้เกียจ"อิจฉา เด็กที่นี้จริงๆครับ เรียนก็ไม่หนัก สบายๆ ไม่ไปเรียนก็ไม่เป็นไร อ้อ มีอยู่ปีนึง ไอ้กวีกับแม่ กับ Dad ผม
มาเที่ยวแล้วก็มาเยี่ยมผมที่เมืองไทย จำได้ตอนนั้นแม่ผมมาเมืองไทย 3 เดือน ไอ้กวีก็ลาเรียนมา 3 เดือนนั้นแหละ อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไร แค่ให้สมุดการบ้านมาทำ
แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ ทำไมมันเรียนสบายจังว่ะ แถมลา 3 เดือนไม่เป็นไร ครูยังพูดว่า อิจฉาเลยที่ได้ไปเที่ยว พอหันมามองดูเด็กไทยเรียน แล้วอนาจใจตัวเอง
"แล้ววันนี้ไปเที่ยวกับพี่ม่ะ"ผมชวนกวีมัน กวีมันก็หันไปมองหน้าแม่ ประมาณว่าไปได้มั้ย พอมันเห็นว่าแม่ไม่ว่าอะไรมันก็ตอบตกลง กินข้าวกันเสร็จยังไม่ทันพัก ก็ตกลงกันไปเที่ยวกันที่ Taronga zoo กัน ไอ้กวีก็มาเที่ยวด้วย ระหว่างอยู่บน Bus
"กานต์ น้องมึงน่ารักว่ะ"ไอ้บอลกระซิบ
"เออ ดิ เชื้อพี่มันแรง"
"แหม ถ้าไม่ติดกูรักเทพก่อนนะ น้องมึงเสร็จกูแน่"ไอ้บอลแหย่
"เพี้ย!"เสียงมือไอ้เทพ ตบลงบนหัวไอ้บอลครับ ไอ้บอลหันไปมองหน้าไอ้เทพ อย่างซีดๆครับ คงรู้ถึงความซวยจะบังเกิดครับ
ไอ้เทพคงได้ยินที่ไอ้บอลพูด สมน้ำหน้ามึง ในขณะที่ผมช่วยไอ้บอลง้อไอ้เทพอยู่ หันไปอีกที ไอ้เต้ยก็คุยกับกวีน้องชายผมอย่างถึงรสชาติ เห่ย มึงสนิทกันเร็วจังว่ะ
"เห่ย กวี มึงอย่ามากวนตีน"ไอ้เต้ย หยาบใส่น้องกูเลยนะ กวีมันพูดไทยได้ครับ แต่คำหยาบๆ แล้วก็คำยากๆ มันจะไม่เข้าใจ
"กวนตีนคืออะไรพี่เต้ย"พูดไม่ทันขาดคำกวีมันก็งง ไอ้ทำท่าอึกอัก เหมือนไม่รู้จะอธิบาย
"แล้ว มึง เนี้ยหมายถึงผมใช่มั้ย ทำไมเรียกผมมึงล่ะ"ไอ้กวีถามต่อ ไอ้เต้ย ทำหน้าเสียไปกันใหญ่ สมน้ำหน้ามึง เสือกพูดไม่เพราะกับน้องกู น้องกูก็ยิ่ง โง่ไทยอยู่ โอ้ยไม่ใช่ๆ อย่างงี้เค้าเรียกว่า เข้าใจภาษาไทยไม่ลึกซึ้ง
ลงรถตรง Circular Quay  แล้วก็ต่อเฟอรี่ ข้ามอ้าวSydneyไปทางTaronga zoo  คือเวลาอยู่บนเฟอรี่เนี้ย จะเห็น opera hoursครับ ตึกที่เคยได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่ผมดูยังงัยมันก็แค่ตึกรูปร่างประหลาดแค่นั้นแหละครับ นั่งเฟอรี่ได้แค่ไม่ถึง
15 นาทีก็มาถึงTaronga zoo แล้วเราห้าคนก็เดินดูสัตว์กัน
"กานต์ เดินแยกกันไปสองคนดีกว่า"ไอ้เต้ยกระซิบบอก
"บ้าเหรอ จะทิ้งเทพกับบอลได้งัย"ผมท้วง
"ก็เค้าอยากเดินเล่นกับตัวเองสองต่อสองอ่ะ"ไอ้เต้ยเผยเจตนา
"อ้าว แล้วกวีล่ะ"น้องผมล่ะครับ จะเอามันไปไว้ไหน
"ก็ให้ไปกับพี่เทพพี่บอลดิ"ไอ้เต้ยเสนอ
"เอางั้นเหรอ"ผมถามมันเพื่อความแน่ใจ
"เออ นะ อยากเดินเที่ยวกับแฟนสองต่อสองอ่ะ"
"ก็ได้ เดี๋ยวไปบอกกวีก่อน"ผมบอกมันพร้อมเดินไปบอกกวีให้เป็นไกด์พาไอ้เทพกับบอลทัวร์ สวนผมก็ปลีกตัวไปกับเต้ยสองคน.....ผมก็ปลีกตัวไปเดินดูสัตว์กับไอ้เต้ยสองคน
"กานต์ จับมือได้ป่ะ"มันถามขณะเราเดินกันอยู่ในสวนของสัตว์กลางคืน ซึ่งสถานที่อยู่นั้นก็มืดพอตัว ก็เลยให้มันจับมือ
"อืม จับดิ"ผมบอกมัน มันก็เอามือมันมาจับมือผมทันที เราสองคนก็เดินดูสัตว์ไปเรื่อยๆ ไอ้เต้ยมันก็สนใจนะครับ
เพราะว่าสัตว์ที่นี้ ต่างจากประเทศอื่นๆ ซึ่งเราก็รู้ๆกันอยู่ สุดท้ายเราก็เดินหลุดออกมาจากที่สัตว์กลางคืน ผมก็เลยแกะมือ
ไอ้เต้ยออก แต่มันไม่ยอมปล่อย
"ปล่อยมือได้แล้ว"ผมบอกมัน
"ไม่เอา จะกลัวอะไร"มันสวนกลับมา
"เดี๋ยวคนอื่นเห็น"
"ที่นี้จะมีใครรู้จักเรา"จริงของมึง
"เดี๋ยวกวีมันเห็น"เอาน้องมาอ้าง
"ตามใจมึง"แล้วมันก็ปล่อยมือผม เดินหนีไปเลย อะไรของมึงว่ะ จะมางอนกูแค่เรื่องจับมือเนี้ยนะ เวรกรรม ทำไมแฟนกู
มันขี้งอนจังว่ะ
"เต้ยไปดู โชว์นกกัน ใกล้เวลาแล้ว"ผมชวนมัน
"ไม่อยากดู"มันนั่งหน้าเป็นตูด ดูดน้ำอยู่
"ไปดูเหอะ ไหนๆก็มาแล้ว"ชักชวนต่อ
"ไม่ อยากดูก็ไปดูคนเดียวสิ"อะไรนักหนาว่ะมึง กูไม่สนมึงแล้ว
"ก็ได้ว่ะ"ตะคอกใส่มัน แล้วผมก็เดินไปตรงที่เค้ามี Birds show
นั่งดูไปเพลินๆ สนุกดี นกเนี้ยมันก็ฉลาดเหมือนกันเนอะ ดูไปดูมา อ้าวนั้นไอ้เทพ ไอ้บอล แล้วกวีน้องกูหายไปไหนว่ะ
ว่าแล้วก็ย้ายที่ลงไปนั่งข้างไอ้สองตัวนั้น ถามหาน้องเราเอง
"เทพ กวีล่ะ"เข้าประเด็น
"อ้อ กวีมันไปซื้อน้ำกับขนมให้กู"ไอ้นี้ ใช้น้องกูยังกะทาส
"แล้วไอ้เต้ยล่ะ"
"ไม่รู้แม่งมัน"พูดถึงมันแล้วก็หงุดหงิด อะไรนักก็ไม่รู้
"งอนกันเหรอ"ไอ้บอลถามตรงประเด็น
"เออ แมร่งเป็น`ตัวเงินตัวทอง`อะไรก็ไม่รู้"ผมก็เลยเล่าให้สองตัวนั้นฟัง ยังไม่ทันได้ความเห็นจากไอ้เทพไอ้บอล ไอ้กวีน้องชายสุดที่รัก
ก็มาพอดี ไม่มาเปล่าครับ พ่วงไอ้เต้ยมาด้วย มันไปเจอกันตรงไหนของมันว่ะ มาถึงกวีมันก็ว่าผมใหญ่เลย
"พี่กานต์ ทำไมทิ้งเพื่อนให้เดินคนเดียวแบบนั้นล่ะ"มาถึงกวีมันก็ว่าผมเลยครับ ผมหันไปมองหน้าไอ้เต้ย ทำสีหน้าง๋อยๆ ตอแหลชะมัด
"ทำอย่างงี้ไม่ดีนะ ถ้าพี่เต้ยหลงไปจะทำยังงัย"กวีมันพล่ามต่อ
หลังจากกวีมันว่าผมจนพอใจ มันก็ลงมานั่งข้างๆผมแล้วก็ส่งของกินให้ไอ้สองตัวนั้น ไอ้เต้ยนั่งลงข้างๆกวีอีกที พอดูโชว์เสร็จพวกผมก็ตัดสินใจกลับเพราะว่า พวกมันอยากไปเดินกันที่ the rock แล้วก็พวกมันอยากไปถ่ายรูปกับopera house
ว่าแล้ว เราก็ไปนั่งเฟอรี่ข้ามฝากกลับมา อีกฝั่ง ตลอดเวลาไอ้เต้ยหลับตาผมตลอดเลยครับ ไม่เดินกับผมด้วย ไปเดินกับกวี
ผมก็สงสัย มึงจะมางอนอะไรนักหนาว่ะ กับอีแค่ไม่ให้จับมือ มึงจะเกิดไปแล้วนะ กูชักเริ่มเบื่อแล้วนะ ผมก็เลยไม่สนใจ
พอข้ามกลับมาฝัง City พวกผมก็เดินไปที่ opera house ปล่อยพวกมันถ่ายรูปกัน ส่วนผมนะเหรอ  อารมณ์ยังเสียอยู่ครับ
บอกให้กวีพาไอ้พวกสามคนนั้นเที่ยวแถว opera hourse ไปก่อน ผมจะไปจองโต๊ะร้าน pancake ที่ the rock ให้พวกมันกินข้าวเย็นกันที่นั้น ขอบอกว่า ร้าน pancake ที่นี้ดังมากใครมาเที่ยวออส ต้องมาแวะกินให้ได้นะครับ
ผมก็เลยปลีกตัวออกมาคนเดียว เดินไปที่ the rock  แล้วเดินตรงไปที่ร้าน pancake ที่ the rock แล้วก็จองโต๊ะซะให้เรียบร้อย
แล้วโทรหาแม่กับ dad ให้มากินข้าวด้วยกันที่นี้เย็นนี้ เพราะอะไรนะหรอครับ เหอะๆ จะได้มีคนจ่าย ว่าแล้วก็เดินไปที่
duty free เดินดูของครับ แล้วก็ไปสะดุดอยู่ร้านนึง ร้านขายเครื่องประดับ ด้วยอะไรไม่รู้ ทำให้ผมเดินเข้าไป เดินดูไปดูมา ไปสะดุดกับแหวนวงนึง
สวยมาก เป็นแหวน rose-colored gold (ทองสีชมพูนั้นแหละครับ)แล้วก็มี เพชรเม็ดเล็กอยู่ สวยดี  จะว่าไปผมยังไม่ได้ซื้อแหวนให้เต้ยเลย ลืมครับ ก็ช่วงนั้นยุ่งมาก ก็เลยกะๆขนาดนิ้วไอ้เต้ยมัน แล้วก็ตัดใจซื้อแหวนวงนั้นมา ที่บอกว่าตัดใจ
เพราะว่า มันแพงครับแพงมาก (ยังแอบเสียดายอยู่เลย) ระหว่างรอพนักงานห่อ กล่องให้

nura

ขอบคุณมากจ้า

ืnneess

ขอบคุนนะคับ

loessakkk

ขอบคุนมากครับ

imanaji

ขอบคุณมากๆครับ

imseng

ขอบคุณมากๆๆ นะคับ

kengee

ขอบคุนนะคับผม ((^.^)),,,,,,

kengee

ขอบคุนนะคับผม ((^.^)),,,,,,

aRmkung

ขอบคุณครับ

pongsakron01

ขอบคุณครับ

1712

ขอบคุณครับ

orrick

ขอบคุนนะคับ ^^

soigiro

-ขอบคุณมากๆครับ

malivb

ขแบคุณครับผม

cotomud

ชอบมากสนกมาๆ

mind19mindPSU

ขอบคุนนะครับ

สีฝุ่น

ชอบมากมายนะ

ิำben

ขอบคุณมากคร้าบ

davil008za

ขอบคุณครับพ้ม