ทิโรล อัญมณีเลอค่าแห่งเทือกเขาแอลป์

♫~TROY~♫

ถ้าพูดถึงเรื่องการท่องเที่ยว ถ้าถามถึงความประทับใจในแต่ละสถานที่ที่ผ่านมานั้นคงอธิบายลำบาก เพราะเรื่องบางอย่างก็ต้องอาศัยการสัมผัสด้วยตัวของคุณเองเท่านั้น แน่นอนว่าการที่จะได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ที่สามารถอยู่ได้ท่ามกลาง วัฒนธรรมและวิถีความเป็นอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบันนั้นค่อนข้างหาได้ยากยิ่ง แต่ทว่า...เรามีอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่อยากแนะนำให้คุณลองมาเยือนด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง

     ทิโรล (Tirol) คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของออสเตรีย มีคนบอกว่ามาที่นี่แล้วไม่ต้องไปหาความสวยงามที่ไหนอีกแล้ว แค่ได้ฟังก็พลางคิดในใจว่า มันจะสมคำร่ำลือขนาดนั้นเลยหรือ ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้ลองไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาของตัวเองจะดีกว่า

     ทิโรล เป็นอีกหนึ่งรัฐที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกของประเทศออสเตรีย และมีเมืองอินส์บรูค (Innsbruck) เป็นเมืองหลวง ซึ่งถือได้ว่าเป็นดินแดนที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติอีกด้วย

     เริ่มต้นครั้งแรกสำหรับการท่องเที่ยวในทิโรล การสำรวจเมืองหลวงของรัฐอย่าง เมืองอินส์บรูค ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย "โกลเด้นรูฟ"(Golden Roof)ย่านที่อาจต้องใช้แรงในการเดินชมเมืองนิดหน่อย เนื่องจากว่าย่านแห่งนี้ เป็นย่านเดินเท้าที่มีความเก่าแก่และชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของอินส์บรูค

     ย่านโกลเด้นรูฟ เป็นย่านที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1500 โดยขุนนางชั้นสูงในสมัยนั้น และที่น่าสนใจนอกเหนือจากการเดินชม ช้อป และกินแล้ว วิวทิวทัศน์จากถนนในย่านโกลเด้นรูฟ คุณยังสามารถมองเห็นภาพเทือกเขาแอลป์ ที่เป็นเสมือนพื้นหลังของเมืองอินส์บรูคได้อย่างลงตัวมากๆ

     ต่อมาเราออกจากใจกลางเมืองไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ไปประมาณ 3 กิโลเมตร จะพบกับ พระราชวังอัมบราส (Ambras Palace) แหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญมากที่สุดของเมืองอินส์บรูค โดยปราสาทถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 สร้างขึ้นโดยขุนนางที่ชื่อ Ferdinand II ภายในประกอบไปด้วยตัวปราสาทและซากของป้อมปราการสมัยกลาง และยังเป็นสถานที่เก็บรวบรวมศิลปะและคลังอาวุธโบราณอีกด้วย

     จากนั้นไม่พลาดที่จะไปชม โบสถ์สตัมส์ (Stams Abbey) โบสถ์คริสต์ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตั้งอยู่ในหุบเขาบน Inntal อยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 35 กิโลเมตร ตัวโบสถ์ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1273 โดย Meinhard II ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณที่ครอบคลุมพื้นที่แถบบนี้เกือบทั้งหมด

     หลังจากนั้นไปชมสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งอนาคตที่ทันสมัยของเมืองอินส์บรูค นั่นคือการไปชมและสนุกกับ ลานกระโดดสกีแบร์กอีเซล (Bergisel Ski Jump) ลานกระโดด สกีแบร์กอีเซลถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีการออกแบบโครงสร้างมาอย่างดีและยังดู มีสไตล์อีกด้วย สถานที่แห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง ซาฮา ฮาดิด ในปี 2001 อาคารหลักที่มีรูปทรงคดเคี้ยวดูปราดเปรียวเป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ระเบียงสำหรับชมวิว และทางลาดจุดกระโดดสกี

     ลานกระโดดสกีแบร์กอีเซล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่คุณสามารถสัมผัสกับความตระการตาของวิวพาโนราม่า 360องศาที่แลเห็นบรรดาเทือกเขาของทิโรลได้อย่างชัดเจนอีกด้วยค่ะ

     สถานที่ถัดมาคือการไปชม เหมืองเงินชวาส (Schwaz Silver Mine) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองSchwaz เมืองที่เป็นศูนย์กลางการทำเหมืองแร่เงินที่มั่งคั่ง นอกจากนี้แล้วในสมัยกลางเมืองSchwaz ยังเป็นหนึ่งในเมืองการค้าที่สำคัญที่สุดในยุโรปอีกด้วย

     เมื่อมาถึงเมืองแห่งเหมืองแร่ เราก็ต้องไม่พลาดที่จะไปชม เหมืองแร่เงินที่มีชื่อเสียงของเมือง ที่อยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินประมาณ 800 เมตร ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับที่มาของแร่เงินและทองแดงอย่างระเอียดจากเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการด้วยความเป็นมิตร

     ทิโรล ดินแดนที่มากไปด้วยสิ่งต่างๆที่น่าค้นหา เหมือนที่เคยกล่าวไว้ว่า การมาเยือนด้วยตัวของคุณเอง ย่อมช่วยให้คุณได้มีโอกาสใกล้ชิดและสัมผัสธรรมชาติ วัฒนธรรมที่งดงามได้ดีกว่าการบอกกล่าวของคนอื่น