แนะนำจุดชมทะเลหมอกเขาค้อ-copy

afun

หน้าหนาวแบบนี้ คิดถึงอะไรดี  ก็ต้อง ทะเล๊ ทะเล สิ ไม่ใช่ชายหาดภูเก็ตที่หาดทรายขาวยาวเหยียด ไม่ใช่เกาะเสม็ด เกาะช้าง แต่เป็นเขาค้อต่างหาก! ที่มีชายหาดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร กับฟองคลื่นขาว ฟูฟ่อง เต็มทะเล ดูได้ไม่เบื่อ โผล่หน้าออกมาจากเต็นท์พักก็ดูได้ทันที หรือคลี่ม่านจากห้องนอน ในรีสอร์ท ซักแห่งบริเวณนี้ ก็เห็นทะเลหมอกได้ง่ายๆ แค่ปลายเตียง ที่สำคัญ มันหนาวมากๆ ได้บรรยากาศ อุ่นไอรัก สุดๆ เปิดตำรากันดีกว่า ว่าที่ไหนบ้าง เหมาะสำหรับการชมทะเลหมอกบนเขาค้อ ที่กางเต็นท์สาธารณะ เยอะมาก และไม่ต้องโทรจองครับ แต่ไปให้เร็วหน่อย เลือกทำเลได้เลยว่าจะปักหลักตรงไหน ไปรษณีย์เขาค้อ โทรศัพท์เขาค้อ จุดชมวิวเขาค้อ จุดชมวิวตรงสถานีตำรวจภูธรเขาค้อ ไล่เรียงริมถนนที่ขนานไปกับจุดชมวิว เป็นจุดที่มีการกางเต็นท์กันทุกหย่อมหญ้า จนถึงหน้าพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก กางตรงไหนก็กางได้ แต่สิ่งสำคัญในการเลือกทำเล ก็คือ ห้องน้ำ และที่จอดรถ
	ฉะนั้น แนะนำแฟนประจำเขาค้อว่า ไปถึงเร็ว เลือกทำเล ที่ไปรษณีย์เขาค้อ องค์การโทรศัพท์เขาค้อ และศาลาชมวิว เขาค้อ เวิร์คสุด และสะดวกกว่าที่อื่น หากไปกางเต็นท์เบี้ยใบ้ รายทาง จะหาห้องน้ำเข้าลำบากซะเปล่าๆ อีกทางเลือกหนึ่งคือไปกางเต็นท์ชมทะเลหมอกกันในรีสอร์ท แบบนี้สะดวก สบายสุดๆ รีสอร์ทเค้าเต็มใจอ้าแขนรับ และพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ เพราะคุณต้องจ่ายสตางค์ให้เค้า ซึ่งไม่ได้แพงมากมาย แต่ก็ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นมากมาย โดยเฉพาะ เรื่องการอาบน้ำ การเข้าห้องน้ำ และการหาอาหารรับประทาน มีให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายความสะดวก ตั้งแต่เต็นท์ 2 คน จนถึงเต็นท์ครอบครัวขนาดใหญ่ นอนได้เป็นสิบคน ราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลนี่แหละ รีสอร์ทที่เปิดกางเต็นท์บริเวณจุดชมวิวทะเลหมอกมีเยอะครับ ขอไล่เรียงชื่อตามนี้  เริ่มต้นจากพรสวรรค์รีสอร์ท – เขาค้อทะเลหมอก – ในสายหมอก – เขาค้อซิกเนเจอร์ – รุ่งอรุณรีสอร์ท - ฟ้าสวยหมอกใส รีสอร์ท – ภูอาบหมอก – ภูชิดหมอก – วิวทะเลหมอกเขาค้อ – บ้านธติญา – มอสวิว – ณิชาแคมปิ้ง - บ้านไร่ระเบียงหมอก – ภูผาหมอก เขาค้อ – แทนรักทะเลหมอก เป็นอันว่าเยอะมาก ขับรถไปบริเวณจุดชมทะเลหมอก แล้วตรงเข้าไปสำรวจพื้นที่แต่ละรีสอร์ทกันได้เลย
แต่ว่า ทะเลหมอกเขาค้อ ไม่ใช่ทะเลบางแสน พัทยา ที่ไปดูวันไหนก็เจอ ทะเลเวิ้งว้าง คลื่นซัดหาฝั่งตลอดเวลา ทะเลหมอกในหน้าหนาวของเขาค้อ ไม่ได้มีทุกวันครับ มีรายการที่ต้อง “เผื่อใจ” กันไว้บ้าง เรียกว่าต้อง “วัดดวง” กันพอสมควร วันไหนจะมีทะเลหมอก ไม่สามารถบอกได้  ขึ้นอยู่กับความโชคดีของแต่ละคนเหมือนกัลล์  หากคืนไหน ก่อนเข้านอน รู้สึกว่า อากาศหนาวเย็นฉ่ำ น้ำค้างแรงๆ  หลังคารถเปียกไปด้วยน้ำค้าง ลมไม่แรง สบายใจได้เลย ตื่นเช้าขึ้นมาทะเลหมอกฟูฟ่อง หนานุ่ม มีให้เห็นแน่นอน แต่หากสถานการณ์กลางคืนไม่เป็นอย่างนั้น ก็ต้องเตรียมใจรับความผิดหวังกันไว้ด้วย เช้าตื่นขึ้นมา เวิ้งว้างไม่มีทะเลหมอกก็บ่อยไป
หากเป็นอย่างนั้น การไปนอนพักบนจุดชมวิว หรือรีสอร์ทริมทะเลหมอก ซึ่งต้องเบียดเสียดผู้คนจำนวนมาก และอาจต้องทนฟังเสียงคาราโอเกะ แข่งกันหลายรีสอร์ท  ก็ดูจะเปล่าประโยชน์หรือเปล่า ก็ไม่ซะทีเดียวนะ บริเวณจุดชมวิว ถือเป็นจุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งบนเขาค้อ เพราะเป็นการชมวิวมุมสูง บนเนินเขาเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย ที่มีมุมมองกว้างไกล ไปถึงโน่นนนนนน ทุ่งแสลงหลวง บริเวณนี้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของเขาค้อ อีกอย่างใช่ว่าจุดชมวิวทะเลหมอกเท่านั้นที่เป็นจุดขายไม้เด็ดของเขาค้อ เพราะบรรยากาศบนเนินเขาแต่ละเนินของเขาค้อต่างหาก ที่เป็นเสน่ห์สำคัญ เนินเขาน้อยใหญ่ แต่ละลูกที่ไล่เรียง สลับกันสูงต่ำ ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นต่างหากที่เป็นเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของเขาค้อ จนได้รับฉายาว่า “สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย” แม้ฉายานี้จะถูกใช้กับหลายๆสถานที่ ในประเทศไทยก็ตาม แต่ยืนยันได้ว่าที่นี่ คือต้นตำรับ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเขาค้อ รอบที่ 2-3 ที่เคยไปชมทะเลหมอกแล้ว อาจจะไม่ได้กลับไปพักชมทะเลหมอกอีก เพราะมันก็แค่ทะเลหมอกยามเช้า เก้าโมงก็หายไป แต่ส่วนใหญ่จะเลือกที่พักรอบนอก ในตำบลแคมป์สน ตำบลทุ่งสมอ ตำบลสะเดาะพง ตำบลหนองแม่นา และอื่นๆ โดยรอบ เพราะหลายรีสอร์ทตั้งอยู่ในทำเลและบรรยากาศที่สวยงามมากๆ สามารถชมวิวจากรีสอร์ทได้ทั้งวัน ไม่ต้องพึ่งพาทะเลหมอก รีสอร์ทประเภทนี้ก็มีอยู่เยอะมากๆ ต้องลองเลือกดู

nomoney

ขอบคุณครับ