ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 747|ตอบกลับ: 8

++ จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ ++ $ 12

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


“เราเริ่มรู้สึกตอนที่นายชอบมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆตั้ม มันนั่นแหละ มาแน่ใจเอาตอนที่เห็นพวกนายที่ห้องสมุด” ราญยิ้มอีก
ราญ นึกถึงตอนนั้น วันที่เขาตาม ตั้ม ไปที่ห้องสมุดเพราะคิดว่าเขาอาจช่วยให้ ตั้ม จดงานจากสมุดจดงานของเขาได้เร็วขึ้นถ้าเขาอ่านให้ฟังแล้ว ตั้ม จดตามไป พอไปถึง เขาก็มองเห็น ปอ นั่งอยู่ข้างๆ ตั้มกำลังมองหน้าของ ตั้ม อยู่ แต่เหมือนว่า ตั้ม จะไม่สนใจหรืออาจจะไม่รู้สึกตัวเพราะเวลาที่ ตั้ม ทำงานจะมีสมาธิมาก ไม่ได้สนใจสภาพรอบข้างเลยเขาจึงเดินอย่างแผ่วเบาเข้าไปใกล้ๆคนทั้งสอง กะว่าให้ห่างพอสมควรแล้วเขาก็ได้เห็นทุกอย่าง และได้ยินทุกคำพูดที่ ปอ ทำและพูดกับ ตั้มวันนั้นเองที่เขามั่นใจว่าเขาดูไม่ผิด ..... ปอ รัก ตั้ม
“เฮ้ย นานขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ปอ ตกใจนี่เขาไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนรู้ว่าเขาอย่างไรกับ ตั้ม มาตั้งนานแล้ว
“แล้วมีใครรู้อีกมั่งมั๊ยวะ” ปอ ถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“ทำไม นายกลัวเหรอถ้ามีคนรู้” ราญ เริ่มเสียงแข็งเหมือนไม่พอใจ
“เออดิ แต่กูไม่ได้กลัว กูอายเว๊ย” ปอ หน้าแดง
“กูอุตส่าห์เก๊กซะขนาดนั้น ขืนมีคนรู้กันเยอะๆ กูก็เสียฟอร์มสิวะ”
นี่ถ้ามันรู้ความจริง ว่าทั้งโรงเรียนนี่คงมีแต่ ตั้ม คนเดียวที่ไม่รู้ มันคงชอคตาย... ราญ คิด ... เดี๋ยว ทั้งโรงเรียนคงมากไป เอาแค่ชั้น ม.๓ แล้วกัน ... ราญ นึกขำๆ ลองแหย่มันหน่อยดีกว่า
“ถามว่ามีใครไม่รู้มั่งดีกว่ามั๊ง ปอ” ราญ ลองแหย่ๆดู
“เฮ้ย ฉิบหายแล้ว จริงรึเปล่ามึง แล้วกูจะเอาหน้าไปไว้ไหนวะ” เห็นท่าตกใจของ ปอ แล้ว ราญนึกขำ ...น่าแกล้งมันอีกหน่อย ... ราญ คิดในใจ
“ล้อเล่นหว่ะ ปอ” เหมือนได้ยินเสียง ปอ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ตกลงนายห่วงตัวเองว่าจะอาย มากกว่าจะคิดห่วงว่า ตั้ม มันจะรู้สึกยังไงเหรอ” ราญ พูดต่อ
“กูไม่ได้หมายความว่ายังงั้น เอาเป็นกูขอโทษแล้วกัน ว่าแต่เอ็งรู้ได้ยังไงวะ” ปอ ถามต่อ
“ตาของนายมั๊ง เราหมายถึงแววตาของนายเวลามอง ตั้ม” ราญ ตอบแล้วพูดนิดหนึ่งเหมือนกับคิดอะไรสักอย่าง แล้วจึงพูดต่อ “แววตาที่มองคนที่เราเกลียด กับคนที่เราชอบมันต่างกันนะ ปอ แล้วอายุขนาดพวกเราน่ะ ดูไม่ยากหรอก วัยอย่างพวกเรายังซ่อนความรู้สึกทางแววตาไม่ได้หรอก”
ราญ นึกไปถึงแววตา ที่แสดงออกมาหมดทุกอย่างไม่เคยซ่อนเร้นอะไรไว้ได้เลยของ ตั้ม แล้วอดยิ้มไม่ได้ แววตาที่แสดงออกมาเพีงแค่ ชอบ กับไม่ชอบ ไม่เคยมีแววตาที่แสดงถึงความเกลียดออกมาเลย แววตาของความรักนั้นก็มีบ้าง แต่ก็เป็นความรักอย่างความรักเพื่อน รักพี่ชายอย่างเขา ไม่เหมือนแววตาของ ปอ ที่แสดงออกถึงความรักที่มีต่อ ตั้ม ว่าเป็นอย่างไร
“อืม คงอย่างนั้นมั๊ง” ปอ ทำท่าเห็นด้วย “แล้ว ตั้ม มันคิดยังไงกับกูวะ” ปอ ถามด้วยความกระตือรือร้น
“หึๆ” ราญหัวเราะในลำคอ
“หัวเราะแบบนี้แปลว่าอะไรวะ” ปอ เริ่มโมโหอีกแล้ว
“ใจเย็นดิ ปอ” ราญ มอง ปอ ยิ้มๆ “ใจร้อนแบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่รู้เรื่องกันพอดี” ราญ ปราม “เราบอกนายหลายหนแล้ว ว่ายังไงตอนนี้ ตั้ม มันยังคิดว่านายเป็นเพื่อนอยู่ ตอนนี้นะ”
“ทำไมเอ็งเน้นจังวะว่า ตอนนี้” ปอ สงสัย
“เพราะอนาคตข้างหน้ามันยังไม่แน่น่ะสิ ปอ วันนึงข้างหน้านะ ตั้ม มันอาจจะรู้สึกกับใครสักคน เหมือนที่นายรู้สึกกับมันตอนนี้ ซึ่งอาจจะเป็นนาย หรืออาจจะเป็นเรา” ราญ คิดว่าน่าจะแกล้ง ปอ อีกสักที
“ไหนเอ็งบอกว่าไม่คิดอะไรไง” ปอ ทำท่าโกรธอีกแล้ว ... เออ สนุกดีเหมือนกัน ไว้ต้องหาโอกาสหยอดเข้าไปอีก ให้สมกับที่มันทำกับ ตั้ม ไว้เยอะ สัญญากับ ตั้ม ไว้ว่าจะไม่มีเรื่องกับใคร แต่การทำแบบนี้ ไม่นับว่ามีเรื่องนี่นา... ราญ คิด
“เราแค่สมมุติน่ะ นายใจร้อนแบบนี้จะรอ ตั้ม มันได้เหรอ” ราญ เริ่มการ ‘หยอด’
“ไหวๆ กูรอไหว”ปอ ยืนยันหนักแน่น “เอ็งมีวิธีเหรอ บอกมาเลยกูทำได้ทุกอย่าง”
“งั้น ก่อนอื่นนะ นายต้องระวัง อย่าทำให้ลูกหมามันกลัวจนวิ่งหนี แล้วไม่กล้าเข้าใกล้นายอีกเป็นครั้งที่สอง”
“ลูกหมามันมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องของกูกับ ไอ้ตั้มวะ” ปอ พูดอย่างไม่เข้าใจ
“เฮ้อ.................” ราญถอนหายใจยาว “ก็นายเรียก ตั้ม มันว่า ไอ้ลูกหมาน้อยไม่ใช่เหรอไง”
......... นี่เขาคิดถูกหรือเปล่านะ ไม่อยากจะใช้คำว่า ‘โง่’ กับคนหน้าตาฉลาดอย่าง ปอ มันเลย
๒๕ ข้อควรจำเกี่ยวกับลูกหมา
๑)   ลูกหมา มักจะไม่ค่อยอยู่นิ่ง ฉะนั้นต้องคอยดูให้ดีว่ามันจะวิ่งซนไปทางไหน
๒)   ลูกหมา มักจะวิ่งเข้าหาคนที่เล่นกับมันดีๆ ฉะนั้นไม่ควรโกรธลูกหมาแต่เพียงฝ่ายเดียว หากว่าลูกหมาวิ่งตามคนอื่นไปบ้างเป็นบางครั้ง
๓)   อย่าเผลอทำร้าย ลูกหมา ให้มันเจ็บตัว จนมันไม่กล้าเข้าใกล้
๔)   ถ้าเผลอทำให้ลูกหมาเจ็บ ต้องทำดีกับมันใหม่ แล้วลูกหมาก็จะวิ่งเข้ามาหาเหมือนเดิม
๕)   ลูกหมา ก็คือ ลูกหมา มันไม่รู้หรอกว่า คน คิดอย่างไร มันรู้แค่ว่า คนทำกับมันอย่างไร
ปอ นึกสรุปคร่าวๆในใจ เมื่อฟังราญพูดไปเรื่อยๆ
“อีกอย่างนะ ปอ เราว่าเรื่องนี้สำคัญ นายจะเล่นกับลูกหมาได้ยังไง ถ้านายไม่ได้อยู่ใกล้มัน เพราะลูกหมาจะติดคนที่มันได้เจอบ่อยๆมากกว่า เราว่านายต้องหาทางเจอ ตั้ม มันให้บ่อยๆให้ได้ก่อน” ราญ พูดพลางมองปอด้วยสีหน้ากังวล
“ไม่ไหวมั๊งวะ นี่กว่ากูจะได้คุยกับมัน เมื่อศุกร์ที่แล้ว ยังล่อเข้าไปตั้งเกือบครึ่งเทอมแล้ว งานแม่งเยอะฉิบ ทั้งงานที่โรงเรียน ทั้งงานที่บ้าน อย่างนี้จะไหวเหรอวะเนี่ย” ปอ กันไปปรึกษา ราญ ด้วยสีหน้ากังวล
“เมื่อกี้นายบอกว่า นานแค่ไหนนายก็รอไหว ไม่ว่าอะไรนายก็ทำได้ ใช่มั๊ย” ราญ ถามยิ้มๆ ......เราขอดูความจริงใจของนายหน่อยเถอะวะ ปอ น้องเราทั้งคน ยกให้ใครง่ายๆได้ยังไง.... เขายิ้มให้กับความคิดของตัวเอง
“เออ ดิ....ให้กูทำอะไรกูก็ยอม” ปอ ทำสีหน้าจริงจัง
“งั้นนายต้องเสี่ยงเอา เพราะมันอาจไม่ได้ผล แล้วอีกอย่าง มันต้องใช้เวลา”
“นานมั๊ยวะ แล้วถ้านาน ไอ้ตั้ม ไม่โดนหมาที่ไหนคาบไปเหรอวะ” ปอ ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“อันนี้ไม่รับรองนะ เพราะมีหมาอยากจะคาบมันอยู่หลายตัวเหมือนกัน” ราญหยอดเข้าไปเมื่อได้โอกาส แถมหลอกว่า ปอ ไปด้วย
“เฮ๊ย......หมาตัวไหนกล้าตีท้ายครัวกู มึงบอกกูมาเดี๋ยวนี้” ปอ โมโหขึ้นมาทันทีที่ ราญ พูดจบ พูดแล้วเขาก็เอามือไปจับไหล่ ราญ
“บอกไม่ได้หว่ะ ปอ แต่วางใจได้อย่าง ตั้ม มันปลอดภัย พวกนั้นได้แต่จ้องอยู่ไกลๆเหมือนนายตอนนี้” ปอ ไม่คิดหรอกว่า เขาโดน ราญ เยาะเย้ยเอา
“แล้วกูจะทำไงดีวะ ที่เอ็งบอกเมื่อกี้นี้ จะให้กูทำอะไร” ปอ นึกขึ้นได้ว่า ราญ พูดค้างอยู่เรื่องที่ว่าจะให้เขาทำอะไรสักอย่าง
“นายต้องหาทางเรียนห้องเดียวกับ ตั้ม มันให้ได้ ตอน ม.๔” ราญ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เฮ๊ย.....มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ ม.๔ มันมีตั้งกี่ห้อง” ปอ หัวเสีย “มึงแกล้งกูเหรอ”
“เราบอกแบบนี้มันมีเหตุผล นายจะฟังมั๊ย แต่ถ้านายคิดว่าเราแกล้ง งั้นก็คุยกันแค่นี้ เราเริ่มหิวข้าวแล้ว” ราญทำเสียงไม่พอใจ
“ไหน เอ็งว่ามา กูจะคอยฟัง แต่ถ้าเหตุผลที่เอ็งว่า มันฟังแล้วไม่เข้าท่า กูเลิกคบ” ปอ ถลึงตาใส่ ราญ
“ฮ่าๆ เลิกคบเหรอ ดีเหมือนกัน เราไปกินข้าวดีกว่า” ......ต้องแกล้งมันอีก ให้มันหัวเสียเล่น..... ราญ คิด แล้วก็ลุกจากเก้าอี้ยาว ทำท่าจะเดินไปจริงๆ
“เฮ๊ย........เฮ๊ย เดี๋ยวสิวะ แม่งทำเป็นใจน้อยไปได้ กูอุตส่าห์เห็นเอ็งเป็นความหวังเชียวนะเว๊ย เอางี้ เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าว แต่ตอนนึ้เอ็งช่วยกูก่อน” ปอ รีบดึงมือ ราญ ให้นั่งลงเหมือนเดิม
“เออๆ เห็นแก่ข้าวที่นายจะเลี้ยง เราจะอธิบายให้ฟัง” ราญ กลับลงไปนั่งเหมือนเดิม พลางคิดว่า ถ้า ปอ เลี้ยงข้าวเขาจริงๆ เขาคงไม่รับไว้ เพราะเขาก็พอจะรู้เหมือนกันว่า ค่าขนมของ ปอ นั้น ค่อนข้างจะพอดีกับค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในแต่ละวัน
“ตั้ม มันไม่เรียนสายวิทย์แน่ๆ ก็เหลือแต่สายศิลป์” ราญ เริ่มอธิบาย “ปรกติ โรงเรียนเรามีสาย ศิลป์-คำนวณ ประมาณ ๒-๓ ห้อง โอกาสของนายจะเป็น ๑ ใน ๒ หรือไม่ก็ ๑ ใน ๓” ราญ เว้นระยะคำพูดนิดหนึ่ง ปอ เองก็กำลังตั้งใจฟัง “ส่วนสายอื่น มีสายละห้องเท่านั้น ถ้า ตั้ม มันเลือกเรียน ศิลป์-ภาษา หรือ ศิลป์-สังคม นายจะได้อยู่ห้องเดียวกับมันแน่ๆ” ราญ พูดอย่างแน่ใจ ในขณะที่ ปอ รู้สึกว่า ตัวเองเริ่มเหงื่อตก
ปอ ไม่แปลกใจที่ ราญ รู้เรื่องของ ตั้ม ค่อนข้างละเอียด แต่เขาคิดมาตลอดว่า ตั้ม มันต้องเรียนสายวิทย์แน่ๆ
“ทำไม ตั้ม ม้นไม่เรียนสายวิทย์วะ”  ปอ ถามทันทีในสิ่งที่เขาคิด
“เหตุผลของมันมีหลายอย่าง ปอ เราว่าถ้านายอยากรู้ นายไปถามมันเองดีกว่า จะได้มีเรื่องคุยกับมันดีๆตอนไปหามัน” ราญ ถือโอกาสประชด ปอ อีกครั้ง โดยที่ ปอ ยังไม่รู้สึกตัวอีกเช่นเคย
“เออ ดีเหมือนกันหว่ะ” ปอ เริ่มยิ้มได้ ไม่รู้สึกตัวเลยว่าโดนอะไรเข้ามั่ง
“แต่เราว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่า ตั้ม มันจะเลือกเรียนสายไหน” จู่ๆ ราญ ก็เปลี่ยนน้ำเสียงเข้มขึ้น แล้วมองหน้า ปอ นิ่ง
“แล้วปัญหามันอยู่ที่ไหนวะ” ปอ ขมวดคิ้ว
“ปัญหามันอยู่ที่ว่า นายเลือกสายอะไรได้มั่ง เพราะเท่าที่เราจำได้ จากคะแนนสอบของนาย นายคงเลือกได้สายเดียว” ราญ หยุดไปสักครู่แล้วพูดเน้นทีละคำ “สาย ศิลป์-สังคม”
แล้วเขาก็เห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นมาตามหน้าผากของ ปอ
............นั่นสินะ ด้วยคะแนนของเขาในตอนนี้ เขามีทางสายเดียวให้เลือกเดิน
ศิลป์-สังคม ที่ใครๆมันเข้าใจว่าเป็นห้องของ เด็กบ๊วย
............นี่เขาหนีจากการเป็นเด็กห้องบ๊วยไม่พ้นเลยหรือ
“แต่เราว่า อะไรมันก็ไม่เกินความพยายามหรอกนะ หากเราตั้งใจจริง ทำไมไม่ไปให้ ตั้ม มันติวให้นายล่ะ”  ราญ ว่ายิ้มๆ
“เฮ้ย ได้ไงวะ แค่นี้กูก็รู้สึกด้อยกว่ามันเยอะอยู่แล้ว ขืนให้มันติวให้อีกกูจะเอาหน้าไปไว้ไหนวะ” ปอ ขมวดคิ้ว
“จะว่าไปพวก ศักดิ์ มันก็เรียนเก่งกันทั้งกลุ่ม มีนายคนเดียวที่ไม่ค่อยได้เรื่อง ลองให้พวกนั้นติวสิ” ราญ เสนอความเห็นต่อ
... นั่นสิ พวกนั้นมันเรียนเก่งกันทุกคน พวกมันจะยอมมั๊ยวะ .... ปอ คิดด้วยสีหน้ากังวล
“เราว่านะ พวกนั้นต้องรับปากนายแน่ หากนายออกปาก” ราญ พูด “แล้วพวกเราก็เป็นเพื่อนนายเหมือนกันนะ นายอย่าลืมสิ กร กับ เต่า มันก็ต้องเห็นด้วยกับเรา”
“เออ... กุจะลองคุยกับพวกนั้นดู ขอบใจเอ็งหว่ะ” ปอ พูดด้วยสีหน้าที่แสดงออกว่าเขารู้สึกขอบคุณ ราญ จริงๆ
“พวกนั้นรับปากนายแน่ เชื่อเราสิ” ราญ ว่าแล้วก็เอามือตบไหล่ ปอ เบาๆ ๒-๓ ที เป็นการให้กำลังใจ
“เพื่อนน่ะ มีไว้ช่วยเหลือกันเวลาแบบนี้แหละ”
๒๖ วิทย์ หรือ ศิลป์
หลายวันผ่านไป แผลที่มือของผมก็หายดี ผมไม่คิดที่จะถามอะไรจาก ราญ แล้ว ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องการรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ผมคิดว่า ราญ คงไม่บอกอะไรผมแน่ ผมเดาเอาจากการที่ ราญ ไม่เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีกเลยเมื่อได้เจอกัน
ผมก็ยังคงวนเวียนไปหาเพื่อนๆในห้อง ๒ อยู่เหมือนเดิม บางวันผมเห็น ปอ มาอยู่กับพวก ศักดิ์ และดูเหมือนว่าจะมีการติวเนื้อหาบางวิชาให้กับ ปอ ด้วย ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นการดี เพราะในกลุ่มของศักดิ์ ทุกคนค่อนข้างเรียนเก่ง ยกเว้น ปอ และผมก็ดีใจที่ได้เห็น ปอ มีความเอาใจใส่เรื่องการเรียนมากขึ้น ผมเองก็พยายามทักทายทุกคนทุกครั้งที่ผมเจอ เรื่องกลั่นแกล้งน่ะหรือครับ ก็พอมีบ้างประปราย แต่ก็นับว่าน้อยลงมากเมื่อเทียบกับช่วง ม.๑-ม.๒ บางครั้งถ้าผมมองเห็นว่า ทั้ง ๕ คนเดินเข้ามาหาเมื่อไร ผมก็ตัดสินใจลุกหนีไปก่อนก็ยังเคย............. T-T
จนกระทั่งถึงภาคเรียนที่ ๒ ทางโรงเรียนจะมีการสอบวัดผลพิเศษขึ้น เพื่อนำคะแนนมาจัดชั้นให้กับนักเรียนเป็นสายการเรียนต่างๆในระดับชั้นมัธยมปลาย ซึ่งมี ๒ สายใหญ่ คือสายวิทย์ และสายศิลป์ ทำให้หลายๆคนตั้งใจเรียนกันมากขึ้น ตัวผมน่ะเหรอครับ แหะๆๆ ในสายตาของเพื่อนๆนะครับ....ยังเหมือนเดิม ดูเหมือนไม่ได้ขยันอะไรมากขึ้นเป็นพิเศษ ก็ปรกติผมตั้งใจเรียนอยู่แล้วครับ เวลาที่ต้องทบทวนก็เลยเข้าใจได้เร็ว ไม่ต้องทบทวนหลายครั้งเหมือนบางคน แต่ผมก็ตั้งใจในการสอบวัดผล ผลออกมาก็คือ ผมสามารถเลือกเรียนได้ทั้งสายวิทย์และสายศิลป์
“พี่ชาย จะไปสอบเข้าเตรียมอุดมฯ จริงๆเหรอ” ผมถาม ราญ ในวันหนึ่งขณะที่พวกเรานั่งคุยกันอยู่
“อื้อ กร ก็ไปสอบด้วยนะ” ราญ ตอบ
“ได้แหงๆเลย” ผมพูดด้วยเสียงเหงาๆ

“ตั้ม” ราญวางมือลงบนไหล่ผม “แค่แยกที่เรียนไม่ได้เจอกันบ่อยๆเท่านั้นเอง ไม่ใช่จะไม่ได้เจอกันอีกแล้วซะหน่อยว่างๆก็นัดเจอกันได้” ราญ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นั่นสิ เตรียมอุดมฯก็แค่นี้เอง แล้วพวก ตุ่ม เต่า ก็ยังอยู่นี่นา”กร พูดเสริม
“อื้อ” ผมรับคำไปอย่างนั้นเองทำไมผมจะไม่รู้ว่าโรงเรียนนั้นเรียนกันหนักขนาดไหน แล้ว ราญ จะเข้าคณะแพทย์ศาสตร์จะมีเวลามาเจอกันได้บ่อยๆ คงเป็นไปไม่ได้หรอก




มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
5
พลังน้ำใจ
1448
Zenny
25960
ออนไลน์
408 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-6 11:34:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
" I'm limited edition "

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
559
Zenny
6561
ออนไลน์
105 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-12 03:56:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณ๕รับ

แสดงความคิดเห็น

ครับ  โพสต์ 2012-6-12 08:33

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1871
Zenny
4480
ออนไลน์
417 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-13 21:45:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
5555 รักแบบไม่รู้ตัว

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-2 19:35:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1157
Zenny
2209
ออนไลน์
532 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-3 23:25:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สุดยอดเลยอ่ะคร๊าฟ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-19 20:55:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14133
Zenny
43040
ออนไลน์
1090 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-4-19 00:38:32 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47841
Zenny
20447
ออนไลน์
2063 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 19:17:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-1-9 05:03 , Processed in 0.204064 second(s), 31 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้