หลานออน' เล่าเรื่องขนหัวลุกจากผีกระสือในอดีต
หนูเป็นคนเมืองแพร่ ดินแดนของแพะเมืองผี วัดพระธาตุช่อแฮ วัดพระธาตุจอมแจ้ง วัดหลวง คุ้มพระลอ วัดสระบ่อแก้ว วัดพระบาทมิ่งเมือง ที่มีหลวงพ่อปาน พระพุทธรูปที่แปลกที่สุดในโลก
ทำไมจะไม่แปลกล่ะคะ ชาวบ้านช่วยกันสร้างหลวงพ่อปานโดยใช้ไม้ไผ่สานกันเป็นองค์พระ แล้วลงรักปิดทอง เก่งจริงๆ ค่ะ
วันนี้หนูมีเรื่องน่ากลัวมาเล่าสู่กันฟัง พวกอุ๊ย หรือคนแก่เฒ่าเล่าตรงกันทุกคน
กระสือกับมะขามเทศค่ะ
บางคนอาจจะสงสัยว่าเกี่ยวข้องกันยังไง
สมัยก่อนผีกระสือชุมมาก ตอนกลางคืนชอบมาหาของสดๆ คาวๆ กิน ที่คนเห็นหัวกับไส้ลอยมา นัยน์ตาเป็นสีเขียวเรืองๆ พวกแม่ลูกอ่อนต้องระวังให้ดี เพราะมันได้กลิ่นคาวเลือดหรือน้ำคาวปลาก็จะมุ่งหน้ามาหา ล้วงควักเป็นอาหารจนเด็กตายได้ง่ายๆ
ตามร่องถ่ายหนักถ่ายเบาก็เหมือนกัน กระสือชอบอาจม ถ้าเข้าบ้านใครจะสังเกตได้จากการเช็ดปากตามผ้าที่ตากค้างคืนไว้นั่นแหละค่ะ
ชาวบ้านมักจะป้องกันไว้ก่อน ด้วยการปลูกกอไผ่บ้าง เอาหนามไผ่มาล้อมรั้วบ้าง เพราะกระสือจะกลัวหนามเกี่ยวไส้ นอกจากจะเจ็บปวดมากแล้วยังไปไหนไม่ได้ ทำให้คนรู้ว่ากระสืออยู่บ้านไหน ใครเป็นกระสือ
มะขามเทศก็มีหนามทั้งต้น สรรพคุณพอๆ กับหนามไผ่
นั่นคือนำมาใช้ประโยชน์ได้หมด มีฝักอร่อยๆ ให้กิน เปลือกก็มีน้ำฝาด เอามาใช้ย้อมผ้าหรือแหอวนได้ด้วย จะต้มเอาน้ำฝาดมาใช้ล้างแผลก็ได้ ห้ามเลือดและแก้ท้องร่วงก็ได้ค่ะ
ชาวบ้านนิยมปลูกเป็นรั้วบ้าน เพราะหนามแหลมช่วยกันได้ทั้งขโมยและกระสือค่ะ บ้านหนูเรียกว่า 'มะขามข้อง'
ย่าเล่าว่าตอนกลางคืนมีผีกระสือมาอาละวาดบ่อยๆ เดี๋ยวมีคนเห็นนัยน์ตาเขียวๆ จากผู้หญิงผมยาวมีแต่หัว ตับไตไส้พุงห้อยร่องแร่ง ลอยไปลอยมาระหว่างยอดไม้สูงราว 2-3 วา คนขวัญอ่อนรีบปิดประตูหน้าต่างมือไม้สั่น บ้างก็ตะโกนลั่นๆ คล้ายสติแตกไปตามๆ กัน
ผีกระสือที่หนูได้ฟังมาแต่เล็กจนโต ล้วนแต่เป็นผีผู้หญิงทั้งนั้นเลยค่ะ ชอบถอดวิญญาณออกจากร่างมาเฉพาะหัวกับเครื่องในอย่างที่เห็นในหนังไม่มีผิด
รุ่งเช้ามักจะเห็นผ้าที่ราวเปื้อนอาจม จนชาวบ้านพยายามสืบหาว่าใครเป็นกระสือ บ้านไหนมีผู้หญิงนอนเจ็บป่วยอยู่นานๆ ก็โดนสงสัย แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นกระสือเลยแม้แต่คนเดียว
จนกระทั่งคืนหนึ่ง กระสือก็มาติดกับที่บ้านผู้หญิงแม่ลูกอ่อนชื่อบัวคำ-เพิ่งจะคลอดลูกได้สิบกว่าวันเท่านั้นเอง
สองผัวเมียช่วยกันกกลูกน้อยจนหลับสนิท แต่แล้วเสียงหมาใต้ถุนก็เห่าหอนกันขรมจนนายเวียงผู้ผัวตกใจตื่น หมายิ่งเห่าหอนผิดสังเกตจนต้องลุกไปดูที่หน้าต่าง ภาพที่เห็นทำให้ตกตะลึงตัวแข็งทื่อในบัดดล
ผู้หญิงผมยาว นัยน์ตาสีเขียวลุกโพลง ตับไตไส้พุงกวัดแกว่งส่งกลิ่นเหม็นเน่ากำลังลอยวูบวาบ ทำท่าว่าจะพุ่งเข้าทางหน้าต่างด้วยความหิวโหยสุดขีด!
'เฮ้ย! กระสือโว้ย! ช่วยด้วย'
นายเวียงตะโกนลั่นๆ ถลันไปคว้าดาบข้างฝากระชากจากฝักแล้วกวัดแกว่งไปมา มองเห็นใบหน้าอัปลักษณ์ที่บิดเบี้ยวเหยเกด้วยความโกรธและกลัวระคนกัน
ชาวบ้านได้ยินเสียงก็ถือไต้ถือไฟออกมา นายเวียงเงื้อดาบฟัน กระสือก็ลอยวูบหลบหนีไปชนเอามะขามข้องเข้าจังๆ แผดเสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดสุดขีด สะบัดหน้าเร่าๆ จนผมกระจาย ท่ามกลางความตะลึงพรึงเพริดของผู้คน
ในที่สุดก็ดิ้นหลุด ไส้ขาดติดหนาม หัวมันลอยลิ่วๆ ห่างออกไปอย่างรวดเร็ว พลางแผดร้องกรี๊ดๆ น่าขนหัวลุกจนลับหายไปในความมืด
วันรุ่งขึ้น ชาวบ้านยกโขยงไปจนถึงบ้านยายตอง ได้ยินเสียงร้องครวญครางก็กรูกันเข้าไป เห็นหญิงชรานอนกุมท้องบิดตัวไปมาอยู่ที่มุมห้อง ลูกสาวของแกนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ ผู้ใหญ่บ้านปราดเข้าไปกระชากผ้าห่มออก ทุกคนถึงกับผงะหน้าด้วยความตะลึงพรึงเพริดสุดขีด
หน้าท้องแกขาดเหวอะหวะ เลือดแดงฉานโชกชุ่ม ส่งกลิ่นเหม็นเน่าแสนจะน่าสะอิดสะเอียนไม่ผิดกับศพเน่า ลูกสาวยังร้องกรี๊ดๆ พลางถอยกรูด ยายตองทุรนทุรายอยู่ครู่หนึ่งก็ขาดใจตาย
เพราะหนามมะขามข้องแท้ๆ ที่ช่วยกำจัดผีกระสือให้ชาวบ้านจนสำเร็จค่ะ
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์