"คนซอย 3" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากหมู่บ้านยาสูบ
วันนี้ผมมีเรื่องขนหัวลุกมาเล่าสู่กันฟัง อ่านจบแล้วคุณๆ ช่วยพิจารณาด้วยว่า "สิ่งนั้น" เป็นภูตผีปีศาจ ภาพลวงตา หรือว่าเป็นอะไรกันแน่?
บ้านผมอยู่ซอยวิภาวดีฯ 3 พอเข้าไปไม่ไกลก็เลี้ยวขวา เป็นหมู่บ้านยาสูบที่เก่าแก่มา 40 กว่าปีแล้ว มีทั้งหอพักและอพาร์ตเมนต์ รวมทั้งกำลังก่อสร้างใหม่ ทั้งหอพักและคอนโดฯ ใกล้ๆ โรงงานทำของเล่นเด็ก ผู้คนคึกคัก ไม่เปล่าเปลี่ยวเลยแหละ
ยิ่งมีตลาดนัดขนาดย่อมๆ ในหมู่บ้านใกล้คิวมอเตอร์ ไซค์แทบทุกวัน มีหนุ่มๆ สาวๆ มาเดินเบียดเสียดกันซื้อของกินของใช้ ยิ่งทำให้เป็นสีสันที่น่าสดชื่นจริงๆ ครับ
"พี่รมย์" เป็นแม่บ้านอยู่ใกล้ๆ กับอพาร์ตเมนต์นั่นเอง!
สาวใหญ่วัย 40 เศษ ผิวขาว ร่างท้วม หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดีเป็นประจำ รู้จักกันมาหลายปียังไม่เคยเห็นพี่รมย์หน้าบึ้งหน้างอซักครั้งเดียว แต่ในหมู่บ้านนั้นซูฮกว่าพี่รมย์เป็นเจ้าแม่ หรือเบาะๆ ก็ "ขาใหญ่" ประจำซอย
สาเหตุคืออยู่มานานเกือบ 20 ปีแล้ว รู้จักคนเยอะ ไม่ว่าบ้านนั้นบ้านนี้ คุณลุง คุณป้า เด็กเล็กรู้จักหมด คนงานทั้งชายและหญิง พ่อค้าแม่ค้าที่ผ่านไปมาเกือบตลอดวัน คนขี่มอเตอร์ไซค์วิน ลุงยามที่หอพัก รวมทั้ง คนตามขาไพ่ เดินโพยหวย...เพื่อนฝูงพี่รมย์ทั้งนั้น!
นายจ้างพี่รมย์คือคุณป้าที่รับราชการใกล้เกษียณ กับหลานชายและลูกเมียที่ไปทำงาน ไปโรงเรียนหมดทุกคน
ความที่มีเพื่อนฝูงเยอะจึงมีคนไปมาหาสู่แทบทั้งวัน ยิ่งตอนเย็นๆ ด้วยแล้วจะมีเด็กๆ แถวนั้นกลับจากโรงเรียนเข้ามาวิ่งเล่นในบ้านที่มีขนมนมเนยให้กิน มีทั้งไม้ดอกไม้ผลดกสะพรั่ง ไหนจะของเล่นต่างๆ ที่คุณป้าใจดีซื้อไว้ให้เด็กๆ เล่นอีกล่ะ
แต่ประสบการณ์น่าขนหัวลุกของพี่รมย์เกิดขึ้นตอนกลางวันแสกๆ นี่เอง!
บ้านนี้เป็นชุมทางของเพื่อนฝูง เดี๋ยวทำส้มตำ ทำลาบ นึ่งข้าวเหนียวกินกัน ยิ่งมีตลาดนัดยิ่งสะดวก คนนั้นซื้อหอยแครงลวก คนนี้ซื้อลาบกับเสือร้องไห้ คนโน้นซื้อหมูปิ้งกับปลาสร้อยทอดกรอบ บางวันก็มียำไข่มดแดง หัวหมูลวกพร้อมน้ำจิ้มใส่ถุงมาหา...ปูเสื่อล้อม วงกันที่ลานจอดรถใต้ถุนบ้านโล่งๆ เพราะคุณป้ายังไม่กลับจากทำงาน
บางวันเป็นวันเกิดคนนั้นคนนี้ บางวันมีใครถูกหวยรวยไพ่ ก็จะมีเบียร์หลายขวดมาเพิ่มความครึกครื้นให้กลุ่มสาวน้อย สนุกสนานเฮฮากันตั้งแต่บ่ายไปจนถึงเย็น
วันเกิดเหตุก็เช่นกัน!
เบียร์หมดไปหลายขวดแล้ว เสียงเม้าธ์เรื่องละครทีวีเมื่อคืนดังแซดเชียว...แต่จู่ๆ ก็มีใครเดินกระดานลั่นเอี๊ยดๆ อยู่ข้างบน ตอนแรกก็ไม่สนใจ หนักเข้าเสียงนั้นยิ่งดังมากขึ้นทุกที ต่างคนต่างมองตากัน...เสียงพูดคุยเฮฮาก็ค่อยๆ เงียบหายไป
ใครขึ้นไปเดินอยู่บนบ้าน ในเมื่อไม่มีคนอื่นอยู่สักคน ไม่ว่าชั้นล่างหรือชั้นบน?!
"โครม!" เสียงเหมือนใครหกล้มตึงตังอยู่เหนือหัว "โครมๆๆ"
คราวนี้เล่นเอาสาวน้อย 4-5 คนนั่งตัวแข็ง อ้าปากค้าง พี่อ้วนหลุดปากเสียงสั่นๆ ว่า...ใครวะ? คำตอบก็คือเสียงโครมสนั่นเหมือนฟ้าผ่ากำลังจะทะลุพื้นลงมาดื้อๆ
ไม่มีการสงสัยไต่ถามอะไรกันอีกแล้ว วงเบียร์แตกกระเจิงราวผึ้งแตกรัง เผ่นอ้าวไปทางประตูรั้ว เลี้ยวขวา ไปหอบแฮกๆ อยู่ตรงศาลพระพรหมหน้าอพาร์ตเมนต์ ...ลุงยามเพิ่งจะเข้าเวรทักว่าทำไมหน้าตาตื่นเหมือนถูกผีหลอกไปตามๆ กันล่ะ?
ไม่ช้าทุกคนก็ลืมเรื่องนี้ คิดว่าคงมีแมวขึ้นไปซุกซน วิ่งชนข้าวของดังโครมครามมากกว่า...กลางวันแสกๆ จะโดนผีหลอกได้ไง? บ้านนั้นก็ไม่เคยมีคนตายมาก่อนด้วยนี่นา
จนกระทั่งเหตุการณ์สยองขวัญอุบัติขึ้นอีกครั้ง!
สาวน้อยชุดเดิมนัดรวมพลกันในโอกาสที่พี่บี๋ถูกเลขท้ายสองตัว รับทรัพย์มาสามพันบาท ประกาศว่าขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงฉลองกันเต็มที่ เบียร์และกับแกล้มไม่อั้น
ตอนนั้นราวบ่ายสอง สนุกเฮฮากันจนถึงสี่โมงกว่า ใกล้จะแยกย้ายกันไป พอดีมีลมพัดแรง อากาศเย็นเฉียบแต่ไม่มีใครสนใจ...พี่รมย์ยกแก้วเบียร์ขึ้นซดก็มองเห็นหน้าแปลกๆ ในกลุ่มเพื่อน...หน้าตาบิดเบี้ยวเหยเกของหญิงแก่ผู้หนึ่งมานั่งจ้องเขม็งอยู่ข้างๆ พี่อ้วนนั่นเอง
"ใครวะ?" พี่รมย์ยังนึกไม่ออก เพื่อนๆ มองตามสายตานั้นไปก็แผดร้องสุดเสียง กระโดดโหยงเหมือนโดนไฟจี้ วิ่งพลางร้องพลาง...ผีหลอกโว้ย! พี่รมย์ร้องแต่ว่า "รอกูด้วย" แต่ไม่มีใครรอซักคนเดียว
เชื่อว่าเป็นผีเจ้าที่เจ้าทาง แต่ไม่ว่าจะเป็นผีอะไรก็ไม่มีใครกล้ามาตั้งวงเฮฮากันที่บ้านพี่รมย์อีกต่อไป... กลัวช็อกตายคาที่ละซีครับ! บรื๋อออ...
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์