ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 608|ตอบกลับ: 9

++ สานฝันนิรันดร ++ # 6

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


“ถ้าสะดวกให้โทรกลับหาผมด้วยได้ไหมครับ”
“เรื่องนี้” ทรงศักดิ์เงียบไปครู่หนึ่ง

“ผมจะลองถามท่านแล้วกันนะครับแต่หากท่านจะโทรกลับก็คงเป็นช่วงหลังหกโมงเย็น”
“เค้ายุ่งมากเลยเหรอครับ” เสียงของภูริทัตเหมือนจะน้อยใจ
“เปล่าหรอกครับ” ทรงศักดิ์หัวเราะเบาๆ

“ท่านนอนหลับน่ะครับ คุณคงทราบว่าท่านเล่นดนตรีกลางคืน แล้วชอบออกไปเดินเล่นช่วงดึกเหมือนกัน ตอนกลางวันท่านจึงพักผ่อนน่ะครับ”
“เหรอครับ ถ้าอย่างนั้นผมฝากเบอร์โทรฯไว้แล้วกันนะครับ” ภูริทัตบอกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขา กล่าวขอบคุณแล้วจึงวางสาย
ทรงศักดิ์วางหูโทรศัพท์ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ นั่งนึกถึงชายหนุ่มรูปร่างสูงที่ได้พบเมื่อคืนวันศุกร์ ใบหน้าเรียวยาว คางเรียวมน ดวงตาโต จมูกเป็นสันเล็กน้อย นับว่าคมคายไม่น้อย เรือนผมและคิ้วที่เหมือนจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ทำให้คิดอดคิดไม่ได้ว่าอาจจะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติปนอยู่ในสายเลือดหรือเปล่า คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ คุณท่านของเขามีคนมาติดพันอีกรายแล้วสินะ ก็น่าอยู่หรอก เพราะคุณท่านของเขาออกจะมีเสน่ห์ไม่น้อย แล้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า มันน่าแปลกเหมือนกันที่ชายหนุ่มที่ชื่อภูริทัต ติดต่อกลับมาอีก เพราะเท่าที่เขาจำได้ หากคุณท่านออกไปข้างนอกกับใคร ก็จะไม่ติดต่อกับคนคนนั้นอีกต่อไป หรือว่าคนคนนี้เป็นคนพิเศษ หรือว่าคุณท่านคิดจะคบหากับชายหนุ่มคนนี้จริงๆ หรือว่า ...
“สวัสดีครับ” ภูริทัตกดปุ่มรับสายที่บลูทูธ ซึ่งเขาเสียบไว้กับหูตลอดงานเลี้ยงจนกระทั่งเพื่อนๆแซว
“สวัสดีครับ งานเลี้ยงเป็นอย่างไรบ้าง สนุกไหมครับ” เสียงพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะน้อยๆ ทำให้ภูริทัตยิ้มกว้าง
“สานฝัน” เสียงเรียกชื่อคนที่อยู่ปลายสาย ทำให้คนที่นั่งข้างๆหันมามองด้วยแววตาไม่พอใจ แต่ภูริทัตไม่ได้สังเกตุเห็น เพราะพอรู้ว่าคนที่โทรมาหาเขานั้นเป็นใคร ก็ลุกออกจากโต๊ะ เดินไปยังบริเวณที่ไม่มีเสียงอึกทึกมากเหมือนบริเวณนั้น
“ทำไมคุณเพิ่งโทรฯมาล่ะ นี่มันตั้งสี่ทุ่มครึ่งแล้วนะ ผมโทรไปหาตั้งแต่บ่าย” ภูริทัตพูดอย่างน้อยใจ
“ผมหลับ” เสียงตอบมาอย่างไม่เดือดร้อนอะไร
“พอตื่นขึ้น ผมก็ต้องเล่นดนตรี พอหมดงานก็มีลูกค้ามาคุยด้วย พอผมคุยกับลูกค้าเสร็จผมก็รีบโทรมานี่ไงครับ”
“ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวผมไปหานะ”
“อย่าดีกว่าครับ สนุกกับงานเลี้ยงที่บริษัทดีกว่าครับ งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าล่วงหน้าทั้งที” สเตฟานหัวเราะเบาๆ
“พรุ่งนี้ล่ะครับ”
“พรุ่งนี้ผมจะไปดูการแสดงที่โรงละครแห่งชาติ จริงสิ คุณไปกับผมไหมครับ”
“ไปครับ...ไป” ภูริทัตรีบรับคำ
“กี่โมงครับ”
“การแสดงเริ่มทุ่มหนึ่ง เอาเป็นว่าเจอกันที่ห้องโถงหน้าทางเข้าห้องแสดงก่อนเวลาสักห้านาที ดีไหมครับ”
“เจอกันเร็วกว่านั้นไม่ได้เหรอครับ บ่ายๆหรือเย็นๆ ทานข้าวกันสักมื้อก่อน”
“ผมไม่สะดวกน่ะครับ เอาเป็นเราไปหามื้อดึกเบาๆทานกันหลังการแสดงจบดีไหมครับ”
“อย่างนั้นก็ได้ครับ”
“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้พบกัน สนุกกับงานเลี้ยงนะครับ”
พูดจบสเตฟานก็วางสายไป ภูริทัตจึงหยิบหูฟังบลูทูธเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วเดินผิวปากอย่างอารณ์ดีกลับไปที่โต๊ะ
“มีอะไรตลกหรือไง” สเตฟานขมวดคิ้ว ก้มมองดูเสื้อกางเกงของตัวเอง แล้วเงยหน้ามองภูริทัตที่หยุดหัวเราะแล้วยิ้มกว้าง
“คิดยังไงใส่ชุดม่อฮ่อม รองเท้าสาน แบบเนี๊ย”
“อ้าว ... ก็มาโรงละครแห่งชาติ ดูการแสดงแบบไทยๆ แต่งตัวแบบนี้น่าจะเหมาะ ว่าแต่คุณเถอะ” สเตฟานมองภูริทัตยิ้มๆ
“คิดยังไงใส่สูทมา”
“อ้าว ...” ภูริทัตยิ้มเก้อๆ ยกมือขึ้นเกาท้ายทอย
“ก็ผมคิดว่าคุณจะใส่ชุดสูทมาน่ะสิ”
แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะขึ้นเบาๆ ก่อนจะพากันเข้าไปในห้องแสดงของโรงละคร
บทที่ ๗
“สานฝัน” สเตฟานทวนคำ
“ใช่ ... สานฝัน ท่านชอบหรือไม่”  คำถามจากชายกลางคน
“เป็นชื่อที่ไพเราะ ขอบคุณที่ตั้งชื่อให้แก่ข้า”
“ท่านควรต้องขอบใจบุตรของข้าทั้งสอง ความจริงข้ามิใคร่ชอบชื่อนี้นัก มันดูเลื่อนลอยมิเข้มแข็งสมกับเป็นชื่อบุรุษ แต่ภรรยาข้ากลับว่าเหมาะแล้ว”
“ถ้าเช่นนั้นหากมีเวลา ข้าคงต้องไปขอบคุณด้วยตัวข้าเอง”
“ภรรยาข้าคงดีใจยิ่ง คงจะเอาพวกนางรำที่ฝึกไว้ออกมาร่ายรำ อวดให้ท่านชมเป็นแม่นมั่น ส่วนพวกเด็กๆก็ไม่ยอมหลับนอน เพราะนิทานที่ท่านเล่า”
“กระนั้นฤา” สเตฟานยิ้มละไม “ข้าชักอยากชมเสียเดี๋ยวนี้”
“งั้นจะช้าอยู่ไย ไปกันเสียบัดนี้ก็ยังได้”
“ดึกปานนี้แล้ว เด็กๆมิหลับไปแล้วหรือ เอาเป็นคืนพรุ่งนี้ ยามพระอาทิตย์ตกดิน ข้าจักไปเยือนยังเรือนท่าน”
“สานฝัน” เสียงเรียกเบาๆที่ข้างหู ดึงสเตฟานให้ออกมาจากความทรงจำในอดีต
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า ดูเหม่อๆนะ”
“ไม่หรอก ผมเพียงแต่คิดถึงคนที่ผมเคยเจอ ดูสิ ช่างร่ายรำได้งดงามจริงๆ” สเตฟานเบนสายตาไปที่การแสดงบนเวที
“อื้อ สวยดี ผมไม่ได้ดูอะไรไทยๆแบบนี้มานานแล้ว” ภูริทัตเปลี่ยนความสนใจกลับไปยังเวทีอีกคนหนึ่ง
“นาฎศิลป์ไทย อ่อนช้อย งดงาม ผมชื่นชมมานานแล้ว” สเตฟานพูดเบาๆ
ภูริทัตหันมามองที่สเตฟานอีกครั้งแล้วอมยิ้ม พลางเอื้อมมือไปจับมือคนข้างๆขึ้นมาบีบเบาๆ
“ในฐานะคนไทย ผมคงต้องปลื้มใจ ที่นาฎศิลป์ไทยเป็นที่ชื่นชอบของคนต่างชาติ จริงมั๊ยครับ”
สเตฟานไม่ตอบ แต่หันมายิ้มน้อยๆให้แล้วหันหน้ากลับไปดูการแสดงต่อ เมื่อไม่มีท่าทีใดๆ ภูริทัตก็เลยกุมมือนุ่มนั้นไว้ต่อไป แล้วหันไปดูการแสดงต่ออย่างอารมณ์ดี
“ดูสิ คนมองกันใหญ่เลย คุณเล่นใส่ชุดม่อฮ่อมมาแบบเนี๊ย” ภูริทัตพูดอย่างตลกๆ ขณะที่เดินอยู่บนถนน ย่านที่มีคนจีนอาศัยอยู่มากที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งมีรถเข็นขายอาหาร และโต๊ะเก้าอี้สำหรับลูกค้า เรียงรายกันอยู่เป็นระยะๆ
“ผมว่าไม่ใช่หรอก” สเตฟานพูดขำๆ
“หรือคุณจะหาว่าพวกเค้ามองชุดสูทที่ผมใส่” ภูริทัตหยุดเดิน ทำให้สเตฟานต้องหยุดเดินไปด้วย
“คนเขามองเพราะผู้ชายสองคนเดินจูงมือกันต่างหาก แถมคนนึงเป็นคนไทยใส่สูท แต่คนที่เป็นฝรั่งกลับใส่ชุดม่อฮ่อม” สเตฟานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง คำว่า ผู้ชายสองคนเดินจูงมือกัน ทำเอาภูริทัตหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“กินอะไรกันดีล่ะ” ภูริทัตเปลี่ยนเรื่องทันที
“ผมไม่ค่อยหิวนัก แล้วแต่คุณก็แล้วกัน”
ภูริทัตอมยิ้ม แล้วพาสเตฟานเดินไปที่ร้านก๋วยจั๊บ สั่งมา๒ที่ทำหรับตนเองและสเตฟาน แล้วสั่งน้ำผลไม้ปั่นมา ๒ แก้วระหว่างท่านอาหาร ก็คุยกันถึงการแสดงที่เพิ่งจะดูจบมา
“ทำไมคุณทานน้อยจัง ไม่อร่อยเหรอครับ” ภูริทัตถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าสเตฟานทานไปเพียงไม่กี่คำ ในขณะที่เขาทานจนหมดชาม “หรือว่ากินอะไรดึกๆแล้วกลัวอ้วน” สเตฟานถึงกับต้องกลั้นหัวเราะ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย
“เห็นคุณทานก็พอจะรู้ว่าอร่อยแค่ไหน ปรกติผมทานน้อยอยู่แล้ว อีกอย่างช่วงเวลานี้สำหรับผม เหมือนกับเพิ่งจะเป็นช่วงสายๆของวันเท่านั้นเอง”
“จริงสิ เห็นคุณอะไรนั่นเค้าบอกว่าคุณนอนหลับช่วงกลางวัน ปรกติคุณนอนกลางวันแล้วตื่นกลางคืนเหรอ”
“ใช่” สเตฟานตอบสั้นๆ สีหน้าหมองลง
“อย่าบอกนะว่าคุณเจตแลค ไม่หาย” ภูริทัตพูดพลางทำท่าคิด
“ไม่น่านะ ตั้งแต่ผมเจอคุณที่โรงแรมก็เกือบเดือนแล้ว อาการไม่น่าจะนานขนาดนี้ ปรกติ ๒-๓ วันก็น่าจะหาย”
“ผมมีโรคประจำตัว” สเตฟานตอบพลางมองดูภูริทัตที่กำลังจ้องมองเหมือนรอคำอธิบาย
“ผมแพ้แดด ผมถูกแสงแดดไม่ได้ เพียงแค่แสงแดดอ่อนๆ ก็ทำให้ผิวของผมไหม้เกรียมได้แล้ว”
“คุณเป็นมาตั้งแต่เกิดเหรอ” ใบหน้าของภูริทัตเต็มไปด้วยความห่วงใย
“เปล่าหรอก มันมีสาเหตุอื่น ผมก็เลยต้องใช้ชีวิตสวนทางกับคนปรกติ ผมนอนในขณะที่คนส่วนใหญ่ตื่น และผมตื่นในเวลานอนของคนเหล่านั้น”
“ผมว่าทำงานช่วงกลางคืนก็ดีนะ อย่างน้อยมันคงไม่ร้อนอบอ้าว รถก็ไม่ติดเหมือนตอนกลางวัน แต่มันก็ทำให้พลาดอะไรหลายๆอย่างเหมือนกัน”
“สำหรับผมมันเป็นเรื่องปรกติไปเสียแล้ว ถึงผมจะพลาดอะไรหลายๆอย่าง แต่ผมก็คิดว่าผมได้เห็น ได้สัมผัสอะไรหลายๆอย่าง ในสิ่งที่คนปรกติไม่ได้สัมผัสกับมัน”
“เหมือนคุณจะมีความสุขดีนะ กับการใช้ชีวิตกลางคืน”
“หากคุณเป็นอย่างผม ถึงเวลาหนึ่งก็จะยอมรับมันได้ และจะเริ่มชินกับมัน ในที่สุดคุณก็จะหาความสุขกับมันได้ เหมือนกับผมในตอนนี้”
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกเบาๆ แต่ก็เก็บคำพูดไว้ไม่พูดออกมา เพราะยังไม่ค่อยแน่ใจว่า คนตรงหน้าคิดอย่างไรกับเขากันแน่
... สานฝัน ตอนนี้ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้คุณ ...
“ให้ผมไปส่งคุณที่ห้องได้มั๊ย” ภูริทัตถามขณะที่ยืนรอลิฟท์
“มาส่งผมแค่นี้ ผมก็เกรงใจแล้ว” สเตฟานตอบยิ้มๆ
“อย่างนั้น ถ้าผมโทรหาคุณอีก ผมจะบอกได้ยังไงว่าคุณอยู่ห้องไหน”
“บอกแค่ชื่อผมก็พอแล้ว แต่คงจะได้คุยกับทรงศักด์แทน คุณสามารถฝากเรื่องไว้กับเขาได้ ทุกเรื่องจะถึงผมแน่นอน ราตรีสวัสดิ์นะครับ” พูดจบก็เดินเข้าไปในลิฟท์ที่เพิ่งจะมาถึงพอดี
“เดี๋ยวครับ” ภูริทัตเอามือกั้นประตูลิฟท์ไว้ “คืนวันจันทร์ ผมจะมาหานะ”
“ครับ เจอกันวันจันทร์”
ภูริทัตเอามือที่กั้นประตูลิฟท์ออก และมองดูสเตฟานที่ยิ้มให้ จนประตูลิฟท์ปิดลง
“คุณภูริทัตครับ” เสียงเรียกดังขึ้น เมื่อหันไปก็พบกับทรงศักดิ์
“เดี๋ยวผมให้รถไปส่งนะครับ”
“ไปส่งเหรอครับ” ภูริทัตทวนคำ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมกลับเองได้”
“คุณเป็นเพื่อนของท่าน ให้ผมจัดรถไปส่งน่ะดีแล้วครับ ไม่อย่างนั้นท่านจะว่าผมได้”
“สานฝันสั่งไว้เหรอครับ” ภูริทัตยิ่งสงสัยมากขึ้น เพราะตั้งแต่เดินเข้าโรงแรมมา เขายังไม่เห็นทั้งสองคนพูดคุยกันเลย
“สานฝัน” คราวนี้ทรงศักดิ์ขมวดคิ้วบ้าง
“คุณเรียกท่านว่า สานฝัน ท่านยอมให้คุณเรียกชื่อนี้เหรอครับ”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ”
“ก็ชื่อนี้ท่านไม่ค่อยชอบให้ใครเรียก ท่านบอกว่ามันทำให้ท่านคิดถึงเพื่อนเก่า”
“เพื่อนเก่า ... ใครเหรอครับ”
“เหมือนจะเป็นลูกๆของเพื่อนท่านนะครับ ที่ตั้งชื่อนี้ให้ท่าน เป็นเพื่อนที่สนิทกับท่านมาก”
“เหรอ” ภูริทัตหันไปมองที่ลิฟท์ตัวที่สเตฟานเพิ่งจะเข้าไปเมื่อสักครู่ “เค้าไม่เคยเล่าให้ผมฟังเลย”

“ผมคิดว่า หากคบกันไปอีกสักระยะท่านคงเล่าอะไรให้คุณฟังมากขึ้น เพราะเท่าที่ผมจำได้ท่านยังไม่เคยออกไปเที่ยวกับใครซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
พอภูริทัตได้ยินก็ยิ้มออกมาได้
“ตกลงว่า ให้ผมจัดรถไปส่งนะครับ ไม่อย่างนั้นหากท่านถามผมก็ไม่ทราบจะตอบท่านยังไง”


มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-28 22:32:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-2 16:11:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

แสดงความคิดเห็น

ยินดีมากครับ  โพสต์ 2013-11-26 18:16

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-30 14:37:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-19 05:47:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากนะ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-1 05:27:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
22784
Zenny
8197
ออนไลน์
840 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-29 23:40:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 07:16:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43084
Zenny
13368
ออนไลน์
12879 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-11-7 16:58:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มันดี

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
10800
Zenny
3126
ออนไลน์
2248 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-11-7 19:24:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 00:43 , Processed in 0.108717 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้