ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 559|ตอบกลับ: 4

++ สานฝันนิรันดร ++ # 16

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


โจชัวร์แต่งตัวเรียบร้อยแล้วหันไปมองร่างเล็กๆที่อยู่บนเตียงอีกครั้งหนึ่ง ลีลาการร่วมรักของชายหนุ่มคนนี้ทำให้เขาพอใจได้ไม่น้อยทีเดียว ยิ่งเขาโหมกระหน่ำเพราะความโกรธเกรี้ยวก็เหมือนชายหนุ่มคนนี้จะยิ่งพอใจ น่าเสียดายที่เขาไม่ต้องการใครอีก ไลล่าและไป่เทียน เพียงแค่ ๒ คน ก็ทำให้เขาปวดหัวได้มากพอแล้ว อีกประการหนึ่งคนที่เขาปรารถนาจริงๆมีเพียงคนเดียวเท่านั้น
“สเตฟาน เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก”

บทที่ ๑๘
“ปูไม่สบายหว่ะ นอนอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวาน” รังสรรค์บอกเพื่อนๆ เมื่อมาพบกันที่ร้านอาหารในตอนกลางวัน
“อ้าว เป็นอะไรไปล่ะ” ปรีชาถามด้วยความเป็นห่วง
“นั่นดิ๊วะ ไปทำอะไรมา จู่ๆไม่สบายขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล” ภูริทัตถามบ้าง รังสรรค์หันมามองหน้า ทำตาขวางใส่
“ไม่รู้เว๊ย เมื่อเช้าแม่น้องเค้าโทรมาลางาน เห็นว่าจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้เย็นๆ แล้วพรุ่งนี้อาจจะลางานอีกวัน”
“เหรอ” ภูริทัตรับรู้ แล้วก็ตักข้าวเข้าปากต่อ
“ไม่ห่วงน้องมั่งเหรอวะ” รังสรรค์ถาม
“ไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอไง เย็นนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วนี่” ภูริทัตยังคงตอบเหมือนไม่สนใจ
“แหม ...” ปรีชาลากเสียงยาว “เป็นไม่มากก็ห่วงได้เว๊ย ไอ้ใจหิน”
“ใจหินก็ยังดีวะ อย่าใจหมาเป็นใช้ได้ ฮ่าๆๆ” ภูริทัตไม่ยินดียินร้ายกับคำแซวของเพื่อน เพราะกำลังมีความสุขกับเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา
“เย็นนี้ข้าจะไปรับน้องมันออกจากโรงพยาบาล ไปด้วยกันมั๊ย” รังสรรค์ชวน
“เอาดิ๊” ปรีชารีบรับคำชวน
“แต่ข้าขอตัวหว่ะ อย่าเพิ่งด่า” ภูริทัตรีบพูดเมื่อเห็นรังสรรค์ขยับปาก “รถเอ็งน่ะนั่งได้กี่คนเชียววะ แล้วไปรับปูมัน คนที่บ้านมันอยู่ด้วยรึเปล่า ถ้าอยู่ก็ต้องนั่งรถเอ็งกลับ อย่างน้อยพ่อกับแม่เค้าก็ ๓ คน รวมพวกเอ็งอีก ๒ ยังพอไหว แต่ถ้าข้าไปด้วย จะกลับกันยังไงวะ”
รังสรรค์และปรีชาจำนนด้วยเหตุผลของภูริทัต จึงเปลี่ยนเรื่องคุย ภูริทัตพยายามหาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาชวนคุย เพราะกลัวเพื่อนๆจะถามถึงวันหยุดที่ผ่านมา ซึ่งเขาเองไม่อยากจะเล่ามากนัก ไม่ใช่ว่าจะปิดบังเพื่อน แต่เรื่องบางเรื่อง เขาเองก็ไม่รู้จะหาเหตุผลมาอธิบายอย่างไร โดยเฉพาะรังสรรค์ซึ่งเป็นคนขี้สงสัย
เย็นวันนั้นจึงมีแต่รังสรรค์และปรีชาที่ไปรับกรกฏที่โรงพยาบาล
“พี่ทัตไม่มาเหรอครับ” กรกฏถาม ใบหน้าสลดลง
“มันจะมาอยู่เหมือนกันแหละ แต่คิดว่าปูคงเป็นไม่มาก แล้วกลัวรถจะไม่พอนั่ง ก็เลยไม่มา” รังสรรค์แก้ตัวแทนเพื่อน
“แล้วนี่มีปูคนเดียวเหรอ” ปรีชาถาม
“แม่กลับไปแล้วพี่ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวพี่ๆจะมา”
“งั้นไปหาอะไรกินกันก่อนดีมะ แล้วค่อยกลับบ้าน” ปรีชาเสนอ
เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ก็พากันไปยังร้านข้าวต้มชื่อดัง ด้วยรถของรังสรรค์
“แล้วตกลงเป็นอะไรน่ะ ถึงต้องนอนโรงพยาบาลตั้ง ๒ วัน” รังสรรค์ถามขึ้นตอนหนึ่งบนโต๊ะอาหาร
“โลหิตจางน่ะพี่ จู่ๆก็เป็น” กรกฎตอบพลางหลบสายตา
“เหรอ แล้วนี่มันรอยอะไรที่คอน่ะ” ปรีชาถามพลางจ้องมองรอยแดงเล็กๆสองจุด บนลำคอของเพื่อนรุ่นน้อง รอยแดงนั้นดูเด่นอยู่กลางผิวขาวสะอาด
“เอ๋ รอยอะไรเหรอพี่ชา” กรกฏทำหน้างงๆ
“นี่ไง” ปรีชาเอาแตะเบาๆตรงรอยแดง แล้วลูบไล้อย่างมีชั้นเชิง ทำเอากรกฏเสียววูบ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสี แดง
“อ้าว ไอ้ชา หลอกแกล้งน้องมันล่ะสิ” รังสรรค์พูดกลั้วหัวเราะ
“ไม่ได้แกล้งเว้ย ไม่เชื่อเนายดูเอง ไหนปู หันไปให้สรรค์มันดูหน่อยดิ๊”
กรกฎเอียงตัว หันลำคอไปให้รังสรรค์ดู
“เออ จริงด้วย จะว่าเป็นรอยตัวอะไรกัดก็ไม่ใช่ รอยอะไรแน่ แล้วเมื่อคืนวันเสาร์ปูไปไหนมารึเปล่า”
“เอ้อ ...” กรกฏอึกอัก
“นั่นแน่ แอบไปเที่ยวไหนมาล่ะสิ ไม่เห็นชวนพี่เลย” ปรีชาพยายามพูดให้เป็นเรื่องขำ
“ปูแค่เหงาๆ เลยไปเที่ยวผัปที่ไปบ่อยๆเท่านั้นเอง พอเช้าขึ้นมามันก็วูบๆ เลยให้รถไปส่งที่โรงพยาบาล แล้วรอยนี่ถ้าพี่ชาไม่ทัก ปูก็ไม่รู้หรอก”
“เดี๋ยว” รังสรรค์ขัดจังหวะก่อนที่ปรีชาจะพูดอะไร “แล้วปูไปไหนแต่เช้าเหรอ”
“ปู ... เอ้อ ... ปู”
“เอ็งจะคาดคั้นอะไรน้องมัน จะวางตัวเป็นแฟนเร๊อะไง” ปรีชารีบช่วย เมื่อเห็นปูอึกอัก
“ไม่ได้คาดคั้น” รังสรรค์ทำหน้าเหนื่อยหน่าย “ก็มันสงสัย  ถ้าไม่ได้ไปทำอะไรมา จู่ๆมันจะไม่สบายได้ไง แล้วดูท่าทางปูสิ เหมือนปิดๆบังๆ มีอะไรแน่ๆ เล่ามาซะดีๆ พี่ไม่ชอบคนโกหก”
“ก็ปูรู้สึกผิดนี่นา พี่สรรค์เตือนแล้วเตือนอีก ปูยังพลาดจนได้” กรกฏทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“ไปทำอะไรอีกล่ะ” รังสรรค์ทำหน้าเอือมระอา
“ปูก็จำไม่ค่อยได้ คืนนั้นเหมือนปูจะเข้าไปคุยกับฝรั่งคนนึง แล้วก็ชวนกันออกมานอกผัป จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ปูจำไม่ได้จริงๆนะพี่ พอเช้าตื่นขึ้นมา ก็นอนอยู่ที่ห้องในโรงแรม ออกมานั่งรถแล้วมันวูบๆพิกล เลยให้รถแทกซี่ไปส่งที่โรงพยาบาล”
“เรานี่นะ” รังสรรค์ส่ายหน้าเบาๆ
“แปลว่าปูถูกฝรั่งหลอกเข้าโรงแรมเหรอ แล้วนี่มันทำอะไรมั่ง ข้าวของอยู่ครบรึเปล่า” ปรีชาหน้าตาตื่น
“ไม่รู้เหมือนกันนะพี่ มันเบลอๆจำอะไรไม่ค่อยได้เลย ไม่รู้ตัวเลยนะว่าเข้าโรงแรมไปกับเค้าได้ยังไง แต่ข้าวของอยู่ครบนะพี่ไม่มีอะไรหาย ค่าห้องฝรั่งคนนั้นก็จ่ายไว้เรียบร้อย”
“สรุปก็ไปนอนกับเค้ามานั่นแหละ เรานี่นะ พี่เตือนแล้วไงอย่าทำแบบนั้น เจ้าทัตมันไม่ชอบ” รังสรรค์เตือน
“ทำไมพี่ไม่พูดตรงๆเลยล่ะ ว่าพี่ทัตเค้าไม่ได้ชอบปู เค้ามีแต่สเตฟานอะไรนั่นแหละ จริงสิ พูดแล้วก็นึกขึ้นได้” ปูหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดรูปให้คนทั้งสองดูทีละรูปจนหมด
“ไปถ่ายมาตอนไหน” รังสรรค์ถาม คิ้วขมวดมุ่น
“ก็ช่วงคืนวันศุกร์ วันเสาร์ สัปดาห์ที่แล้ว พวกพี่ว่าไง” กรกฏหันไปมองคนทั้งสองสลับไปมา
“เหมือนมาก แต่ดูคนนี้จะมาดเท่ห์กว่านะ” ปรีชาพูดอย่างสนใจ
“ใช่ เหมือนมากเลย จนเกือบจะคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน แต่ผิดกันนิดหน่อย”
“พวกพี่ดูออกด้วยเหรอ”
“ดูไม่ออกก็แย่แล้วปู ดูสิ คนนี้น่ะผมออกสีบรอนซ์ ไม่ก็เงิน แต่สเตฟานน่ะเค้าผมสีทอง แค่นี้ก็แยกได้แล้ว” ปรีชาชี้ไปที่คนในรูป
“ปูก็คิดว่าเป็นเพราะไฟในผับ” กรกฏแก้ตัว
“ที่สำคัญนะ ตอนนี้สเตฟานเค้าอยู่ต่างจังหวัด เจ้าทัตน่ะไปหาทุกเย็นวันศุกร์ กลับเย็นวันอาทิตย์มาจะเดือนนึงแล้ว ไม่มีทางหรอกจะมาโผล่อยู่ที่กรุงเทพฯน่ะ”
“เหรอ ผมก็เพิ่งรู้” กรกฏพูดเสียงอ่อยๆ
“ก็เรามันทำตัวล่องหนไปไหนล่ะ คราวหน้าคราวหลังก็ทำให้เหมือนเดิม ถึงทัตมันไม่ค่อยสนใจ แต่พอหายไปมันก็ถามถึง มีเพื่อนมีพี่เพิ่มขึ้นมันไม่เสียหายหรอก” รังสรรค์พยายามพูดปลอบ ให้กรกฏคิดในแง่ดี
“ครับ” กรกฏรับคำ แต่ในใจยังนึกถียง ...ไม่อยากจะได้มาเป็นพี่ซะหน่อย อย่างพี่ทัตน่ะต้องได้มาเป็นคู่รักถึงจะดี
กว่าคนทั้งสามจะออกมาจากร้าน ฟ้าก็มืดลงแล้ว บนฟุตบาทมีร้านค้าตั้งอยู่เต็มไปหมด ทั้งสามคนชี้ชวนให้ดูร้านค้าต่างๆ ขณะที่รถติดไฟแดง แล้วสายตาของรังสรรค์ก็สะดุดเข้ากับร่างหนึ่ง ชายหนุ่มผมสีทอง ใบหน้าสีขาวอมชมพู ริมฝีปากแดงระเรื่อ สวมเสื้อโค๊ตสีเขียวขี้ม้า กำลังเดินข้ามถนนช้าๆไปทางสวนสาธารณะ
“สเตฟาน” รังสรรค์พึมพัมเบาๆ มองตามร่างนั้นไป แต่เหมือนว่าร่างนั้นจู่ๆก็จางหายไปในอากาศ เขาขยี้ตาแล้วจ้องมองดูอีกครั้ง ไม่มีแม้แต่เงาร่างของคนที่คิดว่ามองเห็น
“ไฟเขียวแล้ว ไอ้สรรค์” ปรีชาบอกเสียงดัง
รังสรรค์จึงมุ่งสมาธิกลับมาที่การขับรถเหมือนเดิม
“สวัสดียามดึก หวังว่าคงไม่ทำให้คุณตกใจนะ” เสียงทักทายดังขึ้นเบาๆ ตรงประตูห้อง ทำให้ทรงศักดิ์ต้องเงยหน้าจากเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“คุณท่าน” ทรงศักดิ์ค่อนข้างแปลกใจกับการปรากฏตัวของสเตฟาน ภายในห้องทำงานของเขา ยามดึกเช่นนี้ “มาได้ยังไงครับนี่”
“ผมไปได้ทุกที่ที่เคยไป และต้องการจะไปอีกครั้ง คุณก็รู้ ขอผมนั่งหน่อยนะ” ไม่รอคำตอบ สเตฟานก็เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ยาว ที่จัดไว้รับแขกในมุมหนึ่งของห้อง
“มีอะไรรึเปล่าครับ” ทรงศักดิ์ถาม เมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ
“เตรีมพาสปอร์ตไว้ จัดการให้ภูริทัตด้วย” สเตฟานเหลียวมองไปรอบๆห้อง ที่มีชั้นหนังสือและตู้เอกสาร เรียงรายอยู่เต็มผนังห้อง “ห้องนี้ไม่เปลี่ยนเลยนะ ไม่จัดซะหน่อยเหรอ”
“ไม่ต้องจัดหรอกครับท่าน แค่ห้องทำงาน เรื่องพาสปอร์ตผมมีอยู่แล้ว คุณภูริทัตก็น่าจะมี”
“ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน พอดีผมเพิ่งจะตัดสินใจ เอาเป็นว่าทางภูริทัตคุณช่วยจัดการให้ผมด้วยแล้วกัน”
“จะให้เดินทางไปไหนเหรอครับ”
“คงใกล้ๆนี่แหละ ฮ่องกง มาเลเซีย หรือไม่ก็สิงคโปร์ แล้วผมจะบอกคุณอีกที ส่วนผมจะกลับบ้านซะหน่อย”
“บ้านที่อังกฤษหรือครับ”
“ใช่ ... คืนนี้ผมจะใช้ห้องที่โรงแรมนะ ผมจะไปซักประมาณตี๒ หรือตี ๓”
“ครับ ผมให้คนจัดไว้ให้พร้อมที่จะใช้ได้อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะให้จัดอะไรเพิ่มมั๊ยครับ”
“ถ้าเหมือนเดิมก็ไม่ต้องหรอก ขอบใจมากนะทรงศักดิ์ ผมไปล่ะ”
พูดจบร่างของสเตฟานก็ค่อยๆเลือนหายไป ทรงศักดิ์ไม่แปลกใจนัก เพราะเขาเห็นการ ‘เดินทาง’ แบบนี้ของสเตฟานมานานหลายสิบปีแล้ว คิดแล้วมันก็คงเหมือนในนวนิยาวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า ‘เทเลพอท’ ของผู้มีพลังจิตนั่นเอง แต่เขารู้ดีว่าคุณท่านของเขา ไม่เพียงเป็นผู้มีพลังจิตเท่านั้น แต่เป็นแวมไพร์ที่มีพลังจิตกล้าแข็ง และยังแปลกกกว่าแวมไพร์ที่อยู่ในความคิดของขา
แวมไพร์ที่ดุร้าย ล่าหญิงสาวหรือชายหนุ่มรูปงามเพื่อสูบโลหิตเป็นอาหาร หากชมชอบใครจะจะทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นแวมไพร์ ด้วยการถ่ายเลือดตนเองเข้าไปในร่างกายคนผู้นั้น
แต่นายท่านของเขาแสนจะสุภาพ อ่อนโยน รักใคร่ผู้เป็นลูกน้อง ไม่ได้ดื่มกินโลหิตของมนุษย์เป็นอาหาร เหมือนแวมไพร์ตนอื่น แต่พลังชีวิตของมนุษย์ ก็จำเป็นต่อการต่อชีวิตเหมือนกัน ดังนั้นบางครั้ง นายท่านจึงจำเป็นต้อง ‘สูบ’ พลังชีวิตของมนุษย์บ้าง แต่นั่นแทบจะไม่มีผลใดๆเลยต่อมนุษย์ผู้นั้น นอกจากจะรู้สึกอ่อนเพลียไปบ้าง ในช่วงเวลาวันหนึ่งหรือสองวันเท่านั้น
บทที่ ๑๙
“ไปไหนมาวะ ไม่ไปกินข้าว” รังสรรค์ถาม
“ลางานไปทำธุระมาหว่ะ เลยกินข้าวกลางวันมาจากข้างนอกเลย” ภูริทัตตอบด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“ธุระอะไรวะ กลับมาถึงได้หน้าบูดแบบนี้” รังสรรค์พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ ขำในสีหน้าและท่าทางที่เหมือนจะหงุดหงิดไม่น้อยของเพื่อน
“สานฝันน่ะสิ ไปอังกฤษ”
“อ้าว แล้วเอ็งจะหงุดหงิดทำไมวะ หรือว่า” รังสรรค์ก้มหน้าลงมาใกล้ภูริทัตที่นั่งอยู่ “บ่เห็นหน้าเจ้ากินข้าวบ่ลง”
“เพลงเชยหว่ะ” ภูริทัตผลักหน้าของรังสรรค์ออกห่าง “ชอบไปไหนไม่บอกล่วงหน้าอยู่เรื่อย แล้วพอถามก็บอกว่าตัดสินใจกะทันหันทุกที นี่ก็บอกให้ข้าไปทำพาสปอร์ต ทำยังกับว่าข้าไปไหนได้ง่ายๆเหมือนเค้าอย่างงั้นแหละ”
“หนอยทำมาเป็นบ่น แต่เอ็งก็แจ้นไปทำทันทีไม่ใช่เหรอวะ” รังสรรค์พูดแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้อีกตัว
“เกรงใจคุณทรงศักดิ์หว่ะ มารับแต่เช้าเลย ทำเสร็จยังพาไปกินข้าวกลางวันอีก แล้วก็พาข้ามาส่งนี่แหละ แต่ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ บอกแต่ว่า ท่านสั่งมา ท่านสั่งมา”
“ท่านไหนวะ”
“ก็สานฝันไง คุณทรงศักดิ์เรียกคุณท่านทุกคำเลย”
“จะว่าไปก็น่าแปลกนะ เอ็งว่ารึเปล่า คุณทรงศักดิ์นี่ผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมไม่ใช่เหรอวะ ทำไมยกย่องสานฝันของเอ็งซะขนาดนั้น แล้วน่าแปลกนะ ติดต่ออะไรกับทางโรงแรมเรื่องสานฝัน ก็ให้ติดต่อคุณทรงศักดิ์อะไรเนี่ยคนเดียวเลย แปลว่าต้องเป็นคนสำคัญมากๆ”
“เรื่องนั้นข้าไม่สนใจหรอก” ภูริทัตพูดอย่างเบื่อหน่าย
“แล้วเอ็งสนเรื่องอะไรวะ”
“ก็สุดสัปดาห์นี้อาจจะไม่ได้พบกันน่ะสิวะ ไปกลับอังกฤษนะเว๊ย คิดว่าไปเช้าเย็นกลับ หรือแค่ ๒-๓ วันเหรอไง”
“ฮ่าๆ งั้นเอ็งก็ไปเที่ยวกับพวกข้าสิวะ”
“ดูก่อนแล้วกันหว่ะ”
แล้วทั้งสองคนก็คุยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตน
วันศุกร์ ขณะที่กำลังกินอาหารกลางวันอยู่กับเพื่อนๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีสายเรียกเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ ภูริทัตจึงหยิบออกมาดู หมายเลขที่ปรากฏบนหน้าจอ เหมือนจะโทรมาจากต่างประเทศ ชายหนุ่มรีบกดรับสายด้วยความดีใจ
“สวัสดีครับ ภูริทัต นี่ผมเอง สเตฟาน”
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกชื่อของคนที่โทรมา สีหน้าเบิกบานขึ้นมาทันที ทำเอากรกฏบุ้ยหน้าด้วยความไม่พอใจ
“กินข้าวกลางวันรึยังครับ ตอนนี้ที่นี่พระอาทิตย์จวนจะขึ้นแล้ว ผมคงคุยกับคุณได้ไม่นานนัก”
“คุณจะกลับเมื่อไหร่ ผมคิดถึงคุณจะแย่แล้ว” ภูริทัตพูดโดยลืมไปว่ามีคนอยู่รอบๆ
“ผมก็คิดถึงคุณ สุดสัปดาห์นี้คงไม่ได้เจอกัน คุณอย่าน้อยใจนะครับ ผมจำเป็นจริงๆที่ต้องมาอังกฤษ”
“อื้อ ... ผมรู้ คุณทรงศักดิ์บอกผมแล้ว ถ้าทำธุระเสร็จแล้วคุณรีบกลับมานะ”
“ครับ ผมจะรีบกลับให้เร็วที่สุด แค่นี้นะครับ แล้วผมจะรีบกลับ”
“อื้อ ผมรักคุณนะ สานฝัน”

“ผมก็รักคุณ ภูริทัต มาย สวีท เบบี้”แล้วก็มีเสียงเหมือนอีกฝ่ายจูบลงบนโทรศัพท์ แล้ววางหูไป
ภูริทัตนั่งอมยิ้ม ลืมไปเลยว่ากำลังกินข้าวค้างอยู่
“อิ่มเลยสินะไอ้ทัต ข้าวไม่ต้องกินแล้ว” ปรีชาแซว
“กินสิวะ ยังไม่อิ่มเลย” พูดจบก็ตักข้าวกินต่อแต่ยังยิ้มไม่หุบ จะไม่ให้มีความสุขได้อย่างไร อีกฝ่ายเรียกเขาว่า สวีท เบบี้มันเหมือนกับคำว่า สวีท ฮาร์ท นั่นแหละ




มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-29 15:31:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-30 23:18:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-2-25 04:48:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น่าสนุกแฮะ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 11:10:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 01:22 , Processed in 0.096721 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้