ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 558|ตอบกลับ: 6

++ สานฝันนิรันดร ++ # 17

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“ผมก็รักคุณ ภูริทัต มาย สวีท เบบี้”แล้วก็มีเสียงเหมือนอีกฝ่ายจูบลงบนโทรศัพท์ แล้ววางหูไป
ภูริทัตนั่งอมยิ้ม ลืมไปเลยว่ากำลังกินข้าวค้างอยู่
“อิ่มเลยสินะไอ้ทัต ข้าวไม่ต้องกินแล้ว” ปรีชาแซว
“กินสิวะ ยังไม่อิ่มเลย” พูดจบก็ตักข้าวกินต่อแต่ยังยิ้มไม่หุบ จะไม่ให้มีความสุขได้อย่างไร อีกฝ่ายเรียกเขาว่า สวีท เบบี้มันเหมือนกับคำว่า สวีท ฮาร์ท นั่นแหละ
“บอกรักกันต่อหน้าธารกำนัลเลยนะ พี่นี่ร้ายไม่เบา” ปูพูดบ้าง แต่น้ำเสียงบ่งบอกว่าไม่ค่อยพอใจนัก
“ทำไงได้ คนมันรักกันนี่” ภูริทัตตอบอย่างไม่สนใจ
“แล้วคืนนี้นัดกันไว้ที่ไหนวะ” รังสรรค์ถามบ้าง
“ยังไม่กลับหว่ะ ยังอยู่ที่อังกฤษอยู่เลย คงอีกหลายวัน”
“งั้นคืนนี้ก็ฟรีสิวะ งั้นไปกับพวกข้าไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานและ”รังสรรค์ชวนอีก
“โอเค เดี๋ยวเลิกงานแล้วไปต่อกันได้เลย วันนี้เต็มที่” ภูริทัตตอบไป ใบหน้ายังคงเปี่ยมไปด้วยความสุข
เรือนร่างที่สูงมากกว่า ๑๘๐ ของภูริทัตกับรังสรรค์ ไม่ทำให้ปรีชา ซึ่งสูงเพียง ๑๗๐ เศษดูแตกต่างกันเท่าไรนัก เพราะอย่างไรปรีชาเป็นคนที่ไหล่กว้าง มีรูปร่างบึกบึนพอสมควร แต่สำหรับกรกฏ ซึ่งมีความสูงไม่ถึง ๑๗๐ แล้วยังมีรูปร่างค่อนข้างบอบบาง จึงมองดูขัดกับทั้งสามคนอย่างเห็นได้ชัด
สถานที่แบบนี้ ในค่ำคืนวันศุกร์ ย่อมเนืองแน่นไปด้วยผู้คน บ้างก็มาเพื่อฆ่าเวลา บ้างก็มาเพื่อพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง บ้างก็มาสนุกสนานร่วมกัน และอีกหลายๆจุดประสงค์ และแน่นอนที่มีบางส่วนมาเพื่อการนั้นโดยเฉพาะ อาจจะได้เพียงชั่วคืน หรืออาจจะได้คนที่จะคบหากันไปสักระยะ นั่นก็แล้วแต่ว่าจะได้พบเจอคนเช่นไร
ภูริทัตขยับตัวตามจังหวะของเสียงดนตรีด้วยความสนุกสนาน ถึงแม้ค่ำคืนนี้จะไม่ได้เป็นไปตามที่เขาหวัง แต่เขาก็ยังมีความสุข เมื่อได้รับรู้ว่าคนที่เขาคิดถึงนั้น มีความรู้สึกไม่แตกต่างไปจากเขาเลย รังสรรค์และปรีชาเองก็รู้สึกสนุกสนานไม่แพ้กัน สายตาของทั้งสองคนมองไปที่ผู้คนซึ่งอยู่ภายในผัป บางทีก็หันมาชี้ชวนให้ดูคนที่ตนสนใจ ผิดกับกรกฏซึ่งมีทีท่าไม่พอใจนัก เพราะเมื่อชวนภูริทัตคุยแล้วอีกฝ่ายหนึ่งก็ถามคำตอบคำ บางทีก็ไม่ตอบเขาด้วยซ้ำ ถึงแม้รังสรรค์และปรีชาจะชวนคุย กรกฏก็ยังรู้สึกว่าภูริทัตน่าจะให้ความสนใจเขามากกว่านี้
“เอ๊ะ” กรกฏอุทานเบาๆเมื่อมองเห็นชายหญิงทั้ง ๓ คน
ชายหนุ่มชาวตะวันตกรูปร่างดี ผิวหน้าสีขาวอมชมพู จมูกโด่งเป็นสันเล็กน้อย ริมฝีปากสีชมพู ดูแล้วแทบจะเหมือนกันไม่ผิดไปจากคนที่เขารู้จัก ผิดกันแต่ว่าเรือนผมและขนคิ้วของคนคนนี้ เป็นสีเงินยวงเงาวับ หญิงสาวที่อยู่เคียงข้างน่าจะเป็นลูกครึ่ง ที่มีส่วนผสมของชาวผิวดำ แต่ผิวสีชอคโกแลตก็ดูนวนเนียน โหนกแก้มค่อนข้างสูง ดวงตากลมโต ริมฝีปากอวบอิ่ม รูปร่างอวบอัดไปทุกส่วน ส่วนชายหนุ่มอีกคนหนึ่งคงเป็นชาวเอเซีย กรกฏคิดว่าอาจจะเป็นจีนหรือญี่ปุ่น รูปร่างพอๆกับปรีชา แต่เหมือนจะมีมัดกล้ามมากกว่า เพราะช่วงแขนที่พ้นเสื้อกั๊กไร้แขนนั้น ดูใหญ่โตแข็งแรงด้วยมัดกล้าม ใบหน้าค่อนข้างกลม ผมตัดสั้น ดวงตาเรียวเล็ก จมูกถึงไม่โด่งนักแต่ก็จัดว่าค่อนข้างใหญ่ ริมฝีปากบางดูแดงราวเชอรี่ คนทั้งสามเดินเข้ามาแล้วหยุดยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของผัป เดินพลางสอดส่ายสายตามองดูผู้คนอย่างช้าๆ เหมือนจะมองดูคนที่อยู่ในผัปให้ครบทุกคน แล้วเมื่อหยุดยืน หญิงสาวและชายหนุ่มชาวตะวันออกก็หันหน้ามาทางเขาพอดี ในขณะที่อีกคนหนึ่งหันหลังให้
“น่ากินทั้งคู่เลยว่ามั๊ยปู” ปรีชาเอียงหน้ามาพูดกับกรกฏ
“เอ็งสนผู้หญิงด้วยเหรอวะ” รังสรรค์เข้ามาพูดด้วยอีกคน
“มันเริ่มกลายพันธ์แล้ว” ภูริทัตพูดแล้วก็หัวเราะร่า
“สองคนนี่ยังไม่เท่าไหร่หรอก คนที่หันหลังอยู่นั่นสิ ถ้าหันมานะ แม้แต่พี่ทัตก็ต้องสนใจ” กรกฏพูดยิ้มๆ
“ขนาดนั้นเชียว” ภูริทันเลิกคิ้ว “เดี๋ยวจะคอยดู”
ปรีชากับรังสรรค์และกรกฏ พากันวิพากษ์วิจารณ์หญิงชายทั้งสองกันอย่างสนุกสนาน ภูริทัตก็ฟังอย่างสนใจบ้างไม่สนใจบ้าง จนเมื่อชายผมสีเงินยวงหันหน้ามานั่นแหละ ชายหนุ่มถึงกับแทบสำลักเครื่องดื่มที่กำลังดื่มอยู่
“สานฝัน” ภูริทัตอุทานเบาๆด้วยความตกใจ
“ดูดีๆไอ้ทัต แค่เหมือนเว๊ย” รังสรรค์หันมาบอก หลังจากที่เพ่งมองอยู่ชั่วครู่
“แต่เหมือนมากเลยนะ ยังกับฝาแฝด เค้าเคยเล่ามั๊ยว่ามีฝาแฝดน่ะ” ปรีชาหันไปถามภูริทัต
“ไม่ใช่หรอก สานฝันเค้าตัวคนเดียว ครอบครัวเค้าตายไปหมดแล้ว ญาติก็แทบจะไม่เหลือ นี่กลับไปอังกฤษก็คงจะไปเยี่ยมญาติที่เหลืออยู่นั่นแหละ” ภูริทัตบอกกับเพื่อนๆ
“นั่นสิ สเตฟานก็เคยเล่าให้ข้าฟังเหมือนกัน ว่าเค้าตัวคนเดียว นี่ถ้าได้มาเห็นคนที่เหมือนตัวเองขนาดนี้คงตกใจน่าดู” รังสรรค์พูดขำๆ
“นายไปรู้มาตอนไหน” ภูริทัตหันมาถาม
“ก็ตอนที่เดินเล่นกับเค้าน่ะ ลองถามดู ตอนนั้นเค้าก็บอกว่าครอบครัวเค้าเสียชีวิตไปหมดแล้ว” รังสรรค์ตอบโดยที่ไม่คิดอะไร
“เดินเล่น” ภูริทัตทวนคำ “ตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่นายแอบไปหาสานฝันตอนไหน” ภูริทัตเสียงเขียว
“ไม่ได้ไปหาเว๊ย เจอกันโดยบังเอิญ ก็เลยเดินเล่นด้วยกัน แค่นั้นเอง เอ็งอย่าหึงไม่เข้าเรื่องน่า ยิ่งตอนนี้เอ็งได้กันแล้วแบบนี้ ข้ายิ่งไม่ยุ่ง” รังสรรค์พูดแล้วหัวเราะชอบใจปนขบขัน กับท่าทีหึงหวงของเพื่อน
“แล้วถ้าเค้ายังไม่ได้คบกันล่ะ พี่สรรค์จะว่ายังไง” กรกฏถาม ทำท่าทางเหมือนไม่มีเจตนาร้าย
“ก็จีบน่ะสิถามได้” รังสรรค์ตอบทันที แล้วหันไปทางภูริทัต “นี่ถ้าเอ็งไม่ใช่เพื่อนข้านะ ข้าจะลองแย่งดู”
“นั่นสิ นี่ถ้าพวกเราไม่ใช่เพื่อนรักกันนะ ป่านนี้เป็นศึกชิงนางแล้ว เอ ... ไม่ใช่สินะ ต้องศึกชิงนาย” ปรีชาผสมโรงด้วยคน
“พีชาก็เป็นไปกับเค้าด้วยเหรอ” กรกฏยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น ที่รู้ว่าคนทั้งสามต่างก็สนใจในคนคนเดียวกัน
“พวกเอ็งน่ะ หมดสิทธ็ตั้งแต่คิดแล้ว จะบอกอะไรให้นะ” ภูริทัตยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อน “สานฝันน่ะ เค้ารักข้าตั้งแต่เห็นข้าครั้งแรกเลยนะเว๊ย”
“แล้วนายล่ะ เลิฟ แอท เฟริส ไซด์ เหมือนกันรึเปล่า” รังสรรค์ถามยิ้มๆ
“อื้อ” ภูริทัตตอบแล้วยิ้มอย่างมีความสุข
“เฮ้อ ... ชวด ฉลู ขาล เถาะ ไหนๆก็หมดหวังแล้ว เอาตัวสำรองก็ได้” พูดจบปรีชาก็หันกลับไปมองชายชาวต่างชาติผมสีเงินยวงคนนั้นอีกครั้ง แต่ชายคนนั้นและหญิงชายอีกสองคนที่มาด้วย หายไปเสียแล้ว
“เสียใจด้วยหว่ะ สงสัย มอ คอ ปอ ดอ ซะแล้ว”  รังสรรค์พูดแล้วก็แบมือทั้งสองออกทางด้านข้าง ทำหน้ายียวน
“เชอะ .... หาใหม่ก็ได้ มีอีกเยอะ” พูดแล้วปรีชาก็สอดส่ายสายตามองดูคนในผัปต่อ พร้อมกับชวนเพื่อนคุยไปเรื่อยๆ
ไม่มีใครสักคนสังเกตว่ารังสรรค์พูดน้อยลง และดื่มมากขึ้น เพราะคิดว่ารังสรรค์อาจจะเริ่มเบื่อแล้ว มีแต่ตัวรังสรรค์เองที่รู้ว่า เขารู้สึก ‘เซ็ง’ อย่างมาก เมื่อได้รับรู้เรื่องความรู้สึกของภูริทัตและสเตฟานมากขึ้น ตอนนี้เองที่เขาเพิ่งจะรู้ตัว ว่าเขาเองก็เกิดอาการเช่นเดียวกับภูริทัตเช่นกัน
และอาการนี้ยังเกิดขึ้นกับบุคคลเดียวกันเสียด้วย ... สเตฟาน ... สานฝัน
แต่ฝันของเขา คงเป็นได้เพียงแค่ฝันที่ไม่อาจสานต่อเท่านั้น
บทที่ ๒๐
ชายหนุ่มมองดูคนตรงหน้าด้วยแววตาหวานเชื่อม ไล้มือไปตามแก้มที่เนียนนวล ถึงแม้จะมีผิวขาวแบบชาวตะวันตกเช่นเดียวกัน แต่ผิวของชายหนุ่มคนนี้กลับดูเนียนละเอียดผิดชาวตะวันตกทั่วไป มือที่วางอยู่บนไหล่เลื่อนลงมาลูบเบาๆบริเวณตะโพกของอีกฝ่าย
“ผิวคุณนุ่มจัง” ชายหนุ่มพูดเบาๆ มองไปตามส่วนต่างๆของเครื่องหน้าฝ่ายตรงข้ามด้วยความหลงไหล แล้วหยุดลงที่ดวงตาสีเขียวมรกต
อีกฝ่ายไม่ตอบได้แต่ยิ้มน้อยๆ ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ แต่ก็ถูกหยุดไว้ด้วยมือขาวผ่อง ชายหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่อีกฝ่ายก็ยังยิ้มน้อยๆ แล้วชายหนุ่มก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังดันให้เขาเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ จนชนเข้ากับเตียง
“อุ๊บ” ชายหนุ่มอุทานเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายผลักให้เขาล้มนอนลงบนเตียงนุ่ม “ทำไมคุณรุนแรงจัง” ถามด้วยความแปลกใจ และเริ่มคิดว่า บางทีอีกฝ่ายอาจจะร้อนแรงกว่าท่าทางสุขุมที่มองเห็นภายนอก ทำให้ชายหนุ่มเริ่มยิ้มกริ่ม เมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวลงมาช้าๆ  แล้วก็รู้สึกเหมือนทุกสิ่งหยุดนิ่งอยู่เช่นนั้น ก่อนที่จะหมดสติไป
สเตฟานโน้มตัวตามชายหนุ่มที่ถูกผลักให้ล้มลงบนเตียง ดวงตาสีเขียวมรกตเปล่งประกายแวววาว ราวกับแก้วที่สะท้อนแสงไฟ อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าตนถูกครอบงำด้วยจิตของเขาเสียแล้ว ในขณะที่คิดว่าจะได้ลิ้มรสความสุขจากเขา กลับต้องหมดสติลงเพราะการสะกดของดวงตาสีเขียวมรกตคู่ที่ตนชมชอบ ใบหน้าของสเตฟานที่เคลื่อนลงไป หยุดลงเหนือใบหน้าของอีกฝ่ายเล็กน้อย แล้วทำท่าเหมือนกำลังสูดหายใจเอาบางสิ่งเข้าไป ถึงแม้จะไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ แต่ภาพที่ปรากฏในดวงตาสีเขียวมรกต สเตฟานมองเห็นกลุ่มละอองสีขาวลอยออกมาจากบริเวณจมูกของชายหนุ่ม แล้วรวมตัวกันเป็นเส้นสายบางๆ เข้าสู่จมูกของตน เวลาผ่านไปไม่ถึงนาที เขาก็ยุติการ ‘กิน’ เพราะเขาต้องการพลังชีวิตจากมนุษย์เพียงเล็กน้อย เท่าที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตไปได้ช่วงหนึ่งเท่านั้น การสูบกินพลังชีวิตเช่นนี้ ไม่เกิดผลใดๆกับ ‘เหยื่อ’ นอกจากการอ่อนเพลียเล็กน้อยเมื่อตื่นขึ้น และเมื่อเหยื่อตื่นขึ้นมา ก็จะจำเหตุการณ์ต่างๆไม่ได้ เพราะเขาทำการสะกดจิตเหยื่อทุกครั้ง เหมือนๆกับการกระทำโดยปรกติของแวมไพร์โดยทั่วไป
... โจชัวร์ ...เสียงเรียกทำให้ผู้ที่กำลังจะเข้าสู่นิทรารมย์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
“สเตฟาน เจ้าไปอยู่ถึงที่นั่นเชียวหรือ” โจชัวร์พึมพำเบาๆ ด้วยความแปลกใจ
... ปล่อยข้าเถอะ ข้าขอร้อง ให้ข้าได้เป็นอิสระ ...
“ไม่มีวัน เจ้าก็รู้ว่าอิสระของเจ้า จะเกิดขึ้นได้ เมื่อข้าสูญสิ้น” โจชัวร์เค่นเสียงออกทางไรฟัน ไม่ต้องการให้อีกสองคนได้รู้ความจริงข้อนี้
... แต่ข้าไม่ต้องการทำร้ายท่าน ท่านก็รู้ ...
“หึ หึ” เค่นหัวเราะในลำคอ “ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นคนทำลายครอบครัวของเจ้าน่ะหรือ”
... เรื่องนั้นข้าเหลือแต่เพียงความเศร้าอยู่ในใจเท่านั้นแหละ ... เสียงที่ตอบมาเศร้าสร้อยจนต้องขมวดคิ้ว
“แล้วทำไมเจ้าถึงได้มาเร่งรัดข้าในตอนนี้ เวลาที่ผ่านมาหลายร้อยปี ไม่เห็นเจ้าร้อนรนเช่นนี้”
... เพราะตอนนี้ข้ามีคนที่ข้ารัก ได้โปรดเถอะโจชัวร์ อย่างน้อยก็ให้อิสระแก่ข้า จนกว่าดวงไฟแห่งชีวิตของมนุษย์ผู้นั้น จะดับลงได้หรือไม่ ...
“อ้อ ... ข้ารู้แล้ว เพราะมนุษย์คนหนึ่งนี่เอง เพราะความสุขที่เจ้าต้องการมอบให้มนุษย์ผู้นั้น” เสียงของโจชัวร์เริ่มดังขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาสีฟ้าเริ่มเปล่งประกายเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนๆ
... บอกท่านตามตรง การปิดกั้นจิตไม่ให้ท่านหาพบ ทำให้ข้ามอบความสุขแก่เขาได้ไม่เต็มที่ ...
“เจ้าก็เลยอยากให้ข้าเลิกยุ่งเกี่ยวกับเจ้า ยามที่เจ้าใช้ชีวิตกับมนุษย์ผู้นั้น” โจชัวร์แค่นหัวเราะ “เพื่อที่เจ้าจะได้มอบความสุขให้แก่มัน เหมือนวันนั้น” ถึงแม้น้ำเสียงจะราบเรียบ แต่ดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ แสดงถึงอารมณ์ที่ตรงกันข้าม
... ได้หรือไม่ โจชัวร์ ... น้ำเสียงนั้นทั้งอ่อนโยน และขอร้องอยู่ในที
ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกของเสตฟานเท่านั้น ความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยพบในแวมไพร์ตนใดนี่เอง ที่ทำให้โจชัวร์หลงใหล
“ดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว ข้าต้องการเข้าสู่นิทรา” ความรู้สึกง่วงงุนเริ่มเข้าครอบงำ เมื่อประสาทสัมผัสเริ่มรับรู้ว่าถึงเวลาแห่งการนิทรา
... ถ้าเช่นนั้นข้าจะคุยกับท่านอีกครั้ง ...
เสียงเงียบหายไป แต่โจชัวร์ก็ยังรับรู้ถึงสภาวะของจิต ที่อยู่ห่างไปอีกซึกหนึ่งของโลกได้ รู้สึกแปลกใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่ปิดกั้นจิตไว้เช่นเคย แต่ก่อนที่จะคิดอะไรต่อไป สภาพของจิตและร่างกายของตนก็เข้าสู่ห้วงนิทราเสียแล้ว
สเตฟานถอนหายใจยาว เขามีเวลามากกว่า ๑๐ ชั่วโมง ที่จะทำตัวตามสบาย ไม่ต้องกังวลกับการปิดกั้นจิตเหมือนที่เคยทำ เพราะรู้ดีว่าขณะที่พระอาทิตย์ขึ้นในอีกฟากหนึ่งของโลก ก็จะเป็นเวลาที่อีกฝ่ายเข้าสู่ห้วงนิทรา กี่ร้อยปีมาแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้ ถึงแม้การทำตัวให้มีสมาธิเพื่อก่อ ‘กำแพง’ อยู่ตลอดเวลา จะกลายเป็นความเคยชินในการดำเนินชีวิต แต่ช่วงเวลานี้ นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด ชายหนุ่มสูดหายใจลึกๆเมื่อคิดไปว่า ‘แผน’ ที่กำลังดำเนินอยู่นี้จะได้ผลหรือไม่ แผนการที่จะทำให้โจชัวร์ออกห่างจากผู้เป็นที่รักของเขาให้มากที่สุด เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะปิดบังโจชัวร์ไว้ได้นานแค่ไหน ถึงตัวตนของบุคคลอันเป็นที่รัก กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่งโจชัวร์และ ‘ลูก’ ของเขา อาจจะทำอันตรายแก่ชายหนุ่มผู้นั้นได้ หากโชคร้ายถึงที่สุดอาจไม่ใช่เพียงแค่ชีวิตของชายหนุ่มเท่านั้น แต่อาจหมายถึงการทำให้ชายหนุ่มผู้นั้น กลับกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วยอีกผู้หนึ่ง ซึ่งอาจเป็นสิ่งเลวร้ายสุดคาดคิดก็ได้
“ภูริทัต ผมจะปกป้องคุณให้ได้” สเตฟานพูดกับตัวเองเบาๆ

ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกคนเรียก จึงเงยหน้าขึ้นมองแต่ก็ไม่พบว่ามีใครมีท่าทางว่าเรียกเขาทุกคนในห้องต่างก็กำลังทำงานของตนอยู่อย่างขะมักเขม้นเพราะช่วงเช้าเช่นนี้นอกจากงานใหม่ที่จะต้องทำแล้วบางคนอาจมีงานเก่าที่คั่งค้างมาจากวันวานด้วยภูริทัตจึงก้มหน้าอ่านเอกสารที่อยู่บนโต๊ะต่อ และทำงานไปเรื่อยๆจนได้เวลาพักกลางวัน

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-29 15:50:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-30 23:25:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
17
พลังน้ำใจ
16667
Zenny
37385
ออนไลน์
1869 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-3-30 05:50:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
461
Zenny
272
ออนไลน์
80 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-1 04:48:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 04:48:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 11:19:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 01:22 , Processed in 0.088040 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้