ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 540|ตอบกลับ: 5

++ สานฝันนิรันดร ++ # 19

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


เสียงมาจากอีกด้านหนึ่ง ทรงเดชหันกลับไปก็พบว่าสเตฟานกลับมานั่งอยู่บนโซฟายาวตัวเดิม ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนว่ามีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผากของตัวเอง
“ผม ... ผม” พูดด้วยความตะกุกตะกักเพราะความตื่นเต้น

“ผมอยากเห็นเขี้ยวของคุณ”
สเตฟานขมวดคิ้ว มีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ได้ เขี้ยวของแวมไพร์มีไว้เพื่อการสูบโลหิตเป็นอาหาร หรือการคร่าชีวิตผู้อื่นเท่านั้น มันอันตรายเกินไป อีกอย่างหนึ่ง ...” สีหน้าของสเตฟานอ่อนโยนลง
“โลหิตไม่จำเป็นสำหรับผม และผมก็ไม่ต้องการชีวิตใคร ผมเลิกใช้เขี้ยวมานานแล้ว”
“ตาเดช แกอย่าสงสัยอะไรให้มากนัก ปู่เคยบอกแล้วว่า จะให้แกสานต่องานรับใช้คุณท่านต่อจากปู่ แกก็รับปากไม่ใช่เหรอไง”
“ผมคิดว่าคุณปู่หลอกผมเล่น” ทรงเดชถอนหายใจ
“ไม่เป็นไรหรอกทรงศักดิ์ หากเขาไม่เต็มใจก็อย่าบังคับเขา” สเตฟานติง
“แต่ว่า ต่อไปใครจะคอยดูแลคุณท่านล่ะครับ”
“ยังมีเวลาอีกนาน ทรงศักดิ์” สเตฟานยิ้มน้อยๆ
“คุณยังแข็งแรง เชื่อว่าผมยังคงพึ่งพาคุณได้อีกนาน”
ทรงเดชมองดูสเตฟานด้วยความสงสัย แทบไม่เชื่อเลยว่าชายหนุ่มตรงหน้าคือแวมไพร์ ที่เขารู้สึกมาตลอดว่า เป็นเรื่องเพ้อผัน และถ้ามีจริง คนเบื้องหน้าก็ช่างต่างจากภาพพจน์ที่เขาคิดไว้เสียเหลือกิน
“ดีใจที่ได้เห็นคุณอีกนะทรงเดช” สเตฟานหันมาพูดกับชายหนุ่ม “ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณ คุณเพิ่งจะเกิดได้ไม่กี่วัน และครั้งสุดท้ายคุณยังเป็นเพียงเด็กชายที่กำลังจะเข้าสู่วัยรุ่น ตอนนี้คุณเป็นชายหนุ่มเต็มตัวแล้ว” สเตฟานหันกลับไปทางทรงศักดิ์
“คุณคงภูมิใจในตัวหลานคนนี้มากนะ”
“ครับคุณท่าน ถึงจะไม่ค่อยเอาไหน แต่ก็ทำเรื่องให้ผมดีใจหลายเรื่อง” พูดแล้วก็หันมองหลานชายด้วยความรักและเอ็นดู
“ดีแล้ว เอาหล่ะ ดึกมากแล้ว ผมควรจะไปซะที คงจะมีโอกาสได้พบกันอีกนะครับ” สเตฟานหันไปยิ้มให้ทรงเดช ซึ่งยังมองเขาอย่างงงๆ
“คุณท่านจะกลับไปที่โน่นเลยเหรอครับ” ทรงศักดิ์หมายถึงประเทศอังกฤษ
“ไม่หล่ะ คืนนี้ผมคงจะอยู่ในกรุงเทพฯ วันพรุ่งนี้ก็คงพักในห้องพักเหมือนเคย แล้วเจอกันที่สิงคโปร์นะ” พูดจบร่างของสเตฟานก็ค่อยๆเลือนหายไป
คนทั้งสองยังคงนั่งอยู่ในความเงียบ สายตาของชายหนุ่มที่จ้องมองผู้เป็นปู่ ราวกับจะมีคำถามอยู่มากมาก
“ตกลงมันเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” ทรงเดชขยับตัวมานั่งที่โซฟาตัวยาว ด้านที่ใกล้กับทรงศักดิ์
“ขนาดนี้แล้วแกยังไม่เชื่ออีกเหรอไง”
“แต่คุณท่านไม่เหมือนที่ผมคิดไว้เลย ผมคิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะดูเหมือนคนวัยกลางคน ที่ไหนได้ดูแล้วยังกับว่าอายุพอๆกับผม แล้วยังดูใจดีอีกต่างหาก”
“อื้อ ปู่พอจะเข้าใจแก คุณท่านน่ะเป็นแวมไพร์ที่แปลกกว่าแวมไพร์ตนอื่น ซึ่งถ้าแกได้เจอพวกนั้น แกต้องออกห่างเพราะมันอันตราย”
“แล้วที่คุณสเตฟาน ... เอ้อ ... คุณท่านบอกว่าท่านเลิกใช้เขี้ยว แปลว่าท่านไม่กินเลือดคนเหรอครับ”
“ใช่”
“อ้าว ... เป็นแวมไพร์ไม่ดูดเลือด แล้วจะอยู่ได้ยังไง” ทรงเดชขมวดคิ้ว ยกมือลูบคาง
“ได้สิ คุณท่านดูดพลังชีวิตของพืช เอามาเป็นพลังงานในการดำรงชีวิต แต่ก็มีบางช่วง ที่ต้องดูดพลังชีวิตจากมนุษย์เหมือนกัน”
“แล้วมันไม่ยิ่งแย่กว่าดูดเลือดเหรอครับคุณปู่ แค่เลือดน่ะ ร่างกายสร้างใหม่ทดแทนได้ แต่ถ้าสูบพลังชีวิต จะไม่ทำให้อายุสั้นลงเหรอครับ ผมเคยเห็นในหนัง คนที่ถูกดูดพลังชีวิตจะแก่เร็วขึ้น”
“ก็อาจจะนะ แต่คุณท่านไม่ดูดพลังชีวิตของคนมากมาย จนถึงขนาดทำให้แก่ลงทันทีหรอก เรื่องนี้คุณท่านเคยพูดให้ปู่ฟัง ท่านขอเพียงให้ใช้ดำรงชีวิตได้เท่านั้น ไม่มีผลต่อคนที่ท่านดูดพลังชีวิตเท่าไรนัก ไอ้เรื่องจะทำให้แก่ลงเร็วขึ้นน่ะ มันเป็นแค่ในหนัง ที่คนสร้างจินตนาการขึ้น”
“เหรอครับ อย่างนั้นก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ
“แต่คุณท่านก็ไม่ค่อยมั่นใจหรอกนะ เพราะฉะนั้นคุณท่านจะไม่แตะต้อง ‘เหยื่อ’ อีกเป็นครั้งที่สอง” ทรงศักดิ์เว้นระยะการพูด มองดูใบหน้าที่ครุ่นคิดของหลานชาย “ว่าแต่แกน่ะ จะไม่ดูแลคุณท่านต่อจากชั้นจริงๆน่ะเหรอ”
“ขอผมคิดซักพักได้มั๊ยครับคุณปู่ ผมยังสนุกกับงานที่ทำอยู่เลย”
“ปู่ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรแก แต่อย่างมั่นใจว่ามีคนมารับช่วงงานต่อ ถ้าแกยอมทำ ก็หาเวลามาเรียนรู้งานบริหารที่โรงแรมได้แล้ว ปู่อยากเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม เพราะตอนนี้ปู่ก็อายุมากขึ้นทุกวัน”
“คุณปู่ยังแข็งแรงอยู่ได้อีกนาน” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปบีบมือผู้ชราเบาๆ
“ก่อนจะเริ่มงาน คุณปู่ให้ผมได้พบคุณท่านอีก ๒-๓ ครั้งได้มั๊ยครับ”
แววตาแสดงความสงสัยในดวงตาของทรงศักดิ์ ทำให้ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ
“แหม ... ผมก็ต้องอยากรู้มั่งสิครับ ว่าคนที่ผมจะต้องทำงานด้วยน่ะเป็นยังไงบ้าง ฟังแต่ที่คุณปู่เล่า ยังไงก็คงไม่เหมือนได้รู้ด้วยตัวเองหรอกนะครับ”
“อืม ... ได้ แล้วปู่จะจัดการให้” ทรงศักดิ์พยักหน้า เหมือนเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เป็นหลาน
บทที่ ๒๒
“คราวนี้สิงคโปร์เชียวเหรอครับ” ภูริทัตถึงกับต้องถอนหายใจ เมื่อได้รู้ถึงจุดหนาย
“ถ้าไม่สะดวก จะไม่ไปก็ได้นะครับ” ทรงศักดิ์พูดยิ้มๆ
“ไปสิครับ มาถึงขนาดนี้แล้ว”  ภูริทัตเกาท้ายทอยด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง
“นับวันยิ่งไกลขึ้นทุกที” เขาบ่นเบาๆ
“ความจริงคุณท่านจะไปประเทศอื่น แต่แวะที่สิงคโปร์ก่อนเพื่อเจอคุณนะครับ”
“แล้วทำไมไม่เข้ามาเมืองไทยซะเลยล่ะครับ”ชายหนุ่มสะพายเป้บรรจุสัมภาระเดินเข้าไปในบริเวณที่พักผู้โดยสาร อีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาขึ้นเครื่อง
“มันมีปัญหาบางอย่างน่ะครับ ตอนนี้คุณท่านถึงต้องเดินทางไปโน่นมานี่ คิดว่าถ้าเรื่องราวต่างๆเรียบร้อย คุณท่านคงกลับเข้ามาอยู่ได้ตามปรกติ”
“มันเกี่ยวกับคนที่กำลังตามหาเค้าอยู่รึเปล่าครับ” เมื่อได้ยินคำถามนี้ ทรงศักดิ์หันมามองหน้าชายหนุ่มตาเขม็ง “สานฝันเคยเล่าว่า มีคนกำลังตามหาเค้าอยู่ แต่เค้าไม่อยากเจอ คนคนนี้ตามมาถึงเมืองไทยแล้วเหรอครับ”
“อืม” ทรงศักดิ์รับคำเบาๆ
“เพราะอย่างนี้ คุณท่านถึงต้องคอยหลบไงครับ คุณทัตคงเข้าใจ แล้วอย่าโกรธที่คุณท่านต้องทำให้คุณลำบากเลยนะครับ”
“ถ้าบอกกันซะหน่อยก็คงจะดีหรอกครับ นี่อะไรก็นิ่งเงียบ บอกซะผมจะได้อธิบายกับพวกที่ชอบหาเรื่องได้”
“หาเรื่อง” ทรงศักดิ์ทวนคำ “หาเรื่องอะไรครับ”
“ก็หาเรื่องให้ผมกับสานฝันเข้าใจผิดกันไงครับ แล้วยังมีพวกขี้สงสัยอีก ความจริงผมก็ไม่อยากใส่ใจหรอก แต่พอมันบ่อยๆเข้ามันก็น่ารำคาญเหมือนกัน ที่สำคัญ คนพวกนั้นก็เพื่อนๆผมเองทั้งนั้นซะด้วย ข้างนึงก็เพื่อน ข้างนึงก็ ... ก็ ...” ภูริทัตอึกอัก ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยด้วยความเก้อเขิน
“ข้างนึงก็เพื่อน ข้างนึงก็คนรักน่ะสิครับ” พูดแล้วทรงศักดิ์ก็หัวเราะเบาๆ
“คุณก็เลยไม่รู้ว่าบางทีควรจะวางตัวยังไง เข้าข้างใครมากไปก็ไม่ได้ ลำบากเหมือนกันนะครับ”
“ใช่มั๊ยล่ะครับ” ภูริทัตโพล่งออกไป “แล้วผมก็ไม่ค่อยอยากจะถามซะด้วย เดี๋ยวจะหาว่าผมคอยจับผิด”
“ถามเถอะครับ สำหรับคุณท่านน่ะ ไม่ว่าอะไรคุณหรอก มีแต่จะดีใจที่คุณแสดงความห่วงใยท่าน”
ก่อนที่จะคุยกันต่อ ก็มีเสียงประกาศให้ขึ้นเครื่อง ทั้งสองคนจึงชวนกันลุกจากที่นั่ง เดินไปยังทางที่จะขึ้นเครื่องบิน เพื่อเดินทางไปยังจุดหมาย แล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา คนทั้งสองก็เข้าสู่ที่พัก ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงแรมชั้นนำในย่านท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ต่างก็เข้าสู่ห้องพักซึ่งอยู่ตรงกันข้าม เพื่ออาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมกับนัดหมายที่จะพบกันอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น ถึงแม้ภูริทัตจะแปลกใจ ที่ยังไม่พบสเตฟาน แต่ก็คิดว่าทรงศักดิ์คงจะเป็นคนติดต่อ ให้สเตฟานได้รู้ถึงการมาถึงของคนทั้งสอง เมื่อชายหนุ่มอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเสร็จเสียงกริ่งตรงหน้าประตูห้องก็ดังขึ้น
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกอย่างดีใจ เมื่อเปิดประตูไปพบคนที่ยืนรออยู่หน้าห้อง
“ผมเข้าไปข้างในได้มั๊ยครับ” คำถามพร้อมกับรอยยิ้มของสเตฟาน ทำให้ภูริทัตจ้องมองไม่วางตา
ภูริทัตไม่ตอบ แต่จับข้อมือของสเตฟาน ดึงเบาๆเป็นสัญญานให้อีฝ่ายรับรู้ และเมื่อประตูห้องถูกปิดลง ก็รวบร่างของสเตฟานเข้ามากอดไว้แนบแน่น
“ผมคิดถึงคุณจัง” ภูริทัตพูดพร้อมกับไล้จมูกไปตามหน้าผาก ไล่ริมฝีปากจูบเบาๆ จากหัวคิ้ว สันจมูก แล้วประกบกับริมฝีปากสีชมพูอย่างแนบแน่น มือก็ไม่อยู่นิ่ง ป่ายปะไปตามสัดส่วนต่างๆ แล้ววกมาปลดกระดุมเสื้อของสเตฟานออกทีละเม็ด ริมฝีปากเริ่มและเล็ม
ไล่ลงมาตามลำคอ ลาดไหล่ จนเสื้อของสเตฟานหลุดจากตัว ในใจนึกรำคาญสร้อยคอเส้นเล็กๆที่อยู่บนลำคอระหง จนอยากจะปลดมันออกเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่อยากให้เวลากับสิ่งเล็กน้อย จนเสียเวลาอันมีค่าไป
สเตฟานรับรู้ถึงความต้องการของอีกฝ่ายได้ จากสัมผัสอันอ่อนโยน แต่แฝงไว้ด้วยความปรารถนา มือทั้งสองเลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อยืดของภูริทัตบ้าง แล้วดึงเสื้อยืดออกทางด้านศรีษะ แล้วลูบเบาๆไปบนแผ่นอกกำยำของชายหนุ่ม
ภูริทัตจ้องมองใบหน้าของสเตฟาน ด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความรักและความต้องการ แล้วประทับจูบลงไปอีกครั้ง เป็นจูบที่ดูดดื่มมากกว่าครั้งแรก แล้วทั้งสองคนก็พากันเดินไปยังเตียงนอนกลางห้อง พากันประคองอีกฝ่ายให้นอนลงบนเตียง แล้วเริ่มแสดงความรักต่อกัน ตามที่หัวใจปรารถนา
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกคนในอ้อมกอด เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไป
“ทำไมคุณเป็นแบบนี้อีกแล้ว”
“อะไรเหรอครับ” สเตฟานตอบเบาๆ ทั้งๆที่ตายังหลับพริ้ม
“ก็ผมรู้สึกอีกแล้วว่าคุณฝืนๆตัวไว้ ไม่รักผมเหรอครับ ถึงได้ทำแบบนี้”
“ดวงใจของผม” สเตฟานลืมตา ยันตัวขึ้น แล้วโอบกอดศรีษะของภูริทัตไว้แนบอก
“ถ้าผมไม่รักคุณ ผมจะขอให้คุณมาหาผมที่นี่หรือครับ”
“แล้วทำไม ...” ภูริทัตท้วง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมาก ก็ถูกมือขาวผ่องปิดปากไว้
“ผมตามใจคุณบ่อยมากไม่ได้ เพราะมันจำเป็น ไม่ใช่เพราะไม่รักคุณ ผมเองก็อยากมีความสุขกับคุณแบบวันนั้น แต่ตอนนี้ผมทำไม่ได้ เข้าใจผมนะครับคนดี แล้วอย่าคิดอีกเด็ดขาดว่าผมไม่รักคุณ”
“แต่ผมอยากให้คุณมีความสุข” ภูริทัตเงยหน้าขึ้นพูด สีหน้าไม่พอใจ
“ตอนนี้ผมก็มีความสุข” สเตฟานตอบด้วยรอยยิ้ม “ถึงคุณจะไม่เห็นว่าผมมีความสุขทางกาย แต่ทางใจ ... ผมมีความสุขมาก มากจนคุณอาจจะคิดไม่ถึงด้วยซ้ำไป”
“จริงนะสานฝัน คุณอย่าหลอกให้ผมดีใจ” พูดพลางซุกใบหน้าแนบแน่นกับอกอุ่น มือก็เขี่ยสายสร้อยบนลำคอของสานฝันเล่น
“จริงสิครับ เด็กน้อยของผม ผมมีความสุขมาก”
“ชิส์” ภูริทัตจุ๊ปาก “เรียกผมว่าเด็กน้อยอีกแล้ว ผมเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ”
“แต่คุณก็อายุน้อยกว่าผมอยู่ดี ผมเรียกคุณแบบนี้ก็น่าจะได้” แล้วสเตฟานก็ต้องอมยิ้ม เพราะอีกฝ่ายยันตัวขึ้นมาจ้องหน้าเขม็ง
“จะแก่กว่าผมซักกี่ปีกันเชียว” ภูริทัตเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของอีกฝ่าย
“เดี๋ยวเด็กน้อยจะกำหราบผู้ใหญ่ให้อยู่หมัดเชียว”
พูดแล้วก็ประทับจูบลงไปบนริมฝีปากของสเตฟาน แล้วเริ่มบดเบียด แทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัด บทรักเริ่มดำเนินอีกครั้งตามครรลอง จากเนิบนาบ แล้วค่อยๆร้อนแรงถี่กระชั้นขึ้น จนถึงจุดสูงสุดของความรู้สึก แล้วทั้งสองก็ผลอยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน
“หน้าบานเป็นจานเปลเชียวนะ มีอะไรดีๆเหรอไง” ปรีซาแซวเมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของภูริทัต


“คนมีความสุขก็ต้องยิ้มสิวะ” ภูริทัตตอบ พลางมองดูเพื่อนสนิท และเพื่อนรุ่นน้องนั่งลงบนเก้าอี้
“คราวนี้ไปไหนมาล่ะ” รังสรรค์ถามยิ้มๆ
“สิงคโปร์”
“โห ไปถึงโน่นเชียว มากไปรึเปล่าพี่” กรกฏพูดเหมือนไม่เชื่อ


มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-30 00:22:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-30 23:58:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
17
พลังน้ำใจ
16667
Zenny
37385
ออนไลน์
1869 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-3-30 08:11:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณคุณขอบครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 05:04:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟผม

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 11:34:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 00:40 , Processed in 0.115360 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้