ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 595|ตอบกลับ: 6

++ สานฝันนิรันดร ++ # 20

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“คนมีความสุขก็ต้องยิ้มสิวะ” ภูริทัตตอบ พลางมองดูเพื่อนสนิท และเพื่อนรุ่นน้องนั่งลงบนเก้าอี้
“คราวนี้ไปไหนมาล่ะ” รังสรรค์ถามยิ้มๆ
“สิงคโปร์”
“โห ไปถึงโน่นเชียว มากไปรึเปล่าพี่” กรกฏพูดเหมือนไม่เชื่อ
“ทำไงได้ ไกลแค่ไหนก็จะไปหา จริงมั๊ย” ปรีชาพูดพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ภูริทัต
“เอาเข้าจริงๆ สะดวกกว่าเจอกันตามต่างจังหวัดอีก สิงคโปร์เหมือนใกล้แค่เมืองชล” พูดแล้วภูริทัตก็หัวเราะร่วน
“แล้วกลับมาพร้อมกันรึเปล่า” รังสรรค์ถามบ้าง หลังจากสั่งอาหารและเครื่องดื่ม กับพนักงานของร้านอาหาร
“เปล่า เค้ายังกลับไม่ได้ คงต้องอยู่นอกเมืองไทยซักพัก” ภูริทัตตอบแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อกรกฏถาม
“ทำไมล่ะพี่ เข้าประเทศไม่ได้เหรอไง ไปทำอะไรไว้เหรอ”
“ไม่รู้เรื่องก็อย่าพูดว่าร้ายคนอื่นเค้า” ภูริทัตพูดเสียงดุ
“เอาน่า” ปรีชาห้ามทัพ “ว่าแต่ไปโน่นทำอะไรกันบ้างล่ะ เที่ยวกันเพลินเลยสิ”
แล้วคำถามต่างๆก็ถูกระดมออกมาจากคนทั้งสาม ภูริทัตตอบบ้างไม่ตอบบ้าง คนทั้งสี่สนทนากันไปเรื่อยๆ จนได้เวลาต้องกลับเข้าไปทำงาน
“เอ๊ะ” รังสรรค์อุทานเบาๆ เมื่อมองเห็นคนที่นั่งกันอยู่บนโซฟา ภายในห้องลอบบี้ของโรงแรมที่เขามาบ่อยๆ
“ไหนว่าไม่กลับ แล้วไหงมานั่งอยู่นี่ได้ล่ะ”       
หลังเลิกงาน รังสรรค์รู้สึกไม่อยากกลับบ้าน จึงเดินเล่นในย่านการค้ากลางกรุงเทพฯ จนมาถึงโรงแรมแห่งนี้ ความคิดถึงคนบางคนผุดขึ้นมาในใจ จึงเดินเข้ามา เพื่อนั่งดื่มกาแฟเคล้าเสียงเปียโน เผื่อว่าความรู้สึกในใจจะเบาบางลงบ้าง แต่เขากลับเห็นคนที่คิดถึงนั่งอยู่กับทรงศักดิ์ และชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เท่าที่เห็นคนทั้งสามพูดคุยกันด้วยความสนิทสนม ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น ดูเหมือนจะสูงพอๆกับเขา ใบหน้าจัดว่าคมคายทีเดียว
รังสรรค์กำลังคิดว่าควรจะเข้าไปทักทายหรือไม่ ก็พอดีว่าทรงศักดิ์หันมาเห็นเขาเข้าพอดี และเมื่อทรงศักดิ์หันไปบอกกับสเตฟาน เขาก็ต้องเดินเข้าไปหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น
“นั่งด้วยกันสิครับ”  สเตฟานพูดพลางผายมือไปที่เก้าอี้ตัวข้างๆที่ว่างอยู่
“เจ้าทัตมันบอกว่าคุณยังอยู่ที่สิงคโปร์” รังสรรค์ถามทันทีเมื่อนั่งลงแล้ว
“ผมมีเรื่องต้องมาจัดการน่ะครับ” สเตฟานตอบยิ้มๆ
“ดื่มอะไรดีครับ”
รังสรรค์หันไปสั่งกาแฟกับพนักงานที่เข้ามายืนข้างๆ
“นี่คุณรังสรรค์ แล้วนี่ทรงเดช หลานผมเอง” ทรงศักดิ์แนะนำคนทั้งสองให้รู้จักกัน
หลังจากแนะนำตัวกันตามสมควร รังสรรค์ก็หันกลับมาที่สเตฟาน
“นี่เจ้าทัตรู้มั๊ยครับ ว่าคุณกลับมาแล้ว”
“ผมไม่ได้บอก ผมเพิ่ง ‘มาถึง’ เมื่อสักครู่นี้เอง”
“แปลว่าคุณมีธุระด่วนจริงๆสินะครับ”
“มาสัมภาษณ์พนักงานใหม่ไงครับ” ทรงเดชตอบแทน
“พนักงานใหม่” รังสรรค์ขมวดคิ้ว หันกลับไปถามสเตฟาน
“ทำไมต้องให้คุณสัมภาษณ์ล่ะ”
“อ้าว ตำแหน่งเลขาท่านประธาน ก็ต้องให้ท่านประธานสัมภาษณ์ด้วยตัวเองสิครับ” ทรงเดชตอบอีก โดยไม่สนใจสายตาห้ามปรามของทรงศักดิ์
“ประธาน ...” รังสรรค์ยิ่งงุนงง
“ก็ประธานกรรมการผู้บริหารโรงแรมนี้ไงครับ” ทรงเดชบอกยิ้มๆ
“จริงมั๊ยครับคุณท่าน”
สเตฟานขมวดคิ้ว ส่งสายตาเหมือนจะตำหนิ
“พูดมากไปแล้วนะ ตาเดช” ทรงศักดิ์ตำหนิเบาๆ “เรากลับกันได้แล้ว คุณท่านจะได้พักผ่อน”
“แต่ ...” ทรงเดชท้วง สีหน้าไม่ยินยอม
“ไม่มีแต่ ปู่มีเรื่องจะต้องพูดกับเราอีก พวกเราไปก่อนนะครับ” ประโยคหลังหันไปพูดกับรังสรรค์ แล้วหันไปพูดกับสเตฟาน
“ผมกลับก่อนนะครับคุณท่าน”
“อื้อ พรุ่งนี้เราค่อยมาคุยกันต่อ”
รังสรรค์มองดูทรงเดชเดินตามทรงศักดิ์ไป แล้วหันมามองสเตฟานด้วยสีหน้างุนงงในสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้
... ประธานกรรมการบริหาร ...
บทที่ ๒๓
“ผมไม่ต้องการให้มีคนรู้มากนัก ว่าผมมีตำแหน่งอะไรในโรงแรมแห่งนี้” สเตฟานพูดเบาๆ ขณะเดินอยู่บนฟุตบาทของถนนสายร่มรื่น
ที่คนทั้งสองเคยเดินด้วยกันมาก่อน
“ทรงศักดิ์เป็นผู้จัดการโรงแรม และเป็นรองประธานด้วย ปรกติก็จะทำงานแทนผม”
“ทำไมคุณไม่บริหารงานเองล่ะ”
“ตำแหน่งที่ผมมี เป็นเพราะผม ... เอ้อ ... ตระกูลของผมเป็นผู้ให้เงินทุนกับโรงแรม ในสายตาคนอื่น ผมเป็นคนหนุ่ม ไม่เหมาะกับหน้าที่นั้น”
“คุณก็เลยเป็นประธานแต่ในนาม”
“ก็ไม่เชิง มีบ้างบางครั้งที่ผมจำเป็นต้องปรากฏตัว ให้ฝ่ายบริหารรู้ว่า ผมมีตัวตนอยู่จริง และบางครั้งผมก็จำเป็นต้องออกความเห็นบ้าง หากมีความขัดแย้งกันในการบริหาร หรือการแบ่งปันผลประโยชน์”  สเตฟานหยุดเดิน หันมาพูดยิ้มๆ ซุกมือที่สวมถุงมือหนังบางเบาไว้ในกระเป๋าเสื้อโคต
“คุณทรงศักดิ์ถึงได้ดูเกรงใจคุณมากๆ” สเตฟานไม่ตอบ ยังคงยิ้มน้อยๆอยู่ในหน้า
“แต่นายทรงเดชนั่น ดูเหมือนไม่ค่อยเกรงคุณเท่าไหร่นะ ทั้งๆที่จะมาทำงานกับคุณแท้ๆ”
“อายุยังน้อย แล้วในสายตาเค้า ผมคงจะเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน ถึงแม้ว่าผมจะอายุมากกว่าเขามากก็ตาม”
“อายุน้อยเหรอครับ” รังสรรค์พูดขำๆ “คงจะพอๆกับผม ถ้าขนาดนี้เรียกว่าน้อย แล้วคุณล่ะ” สายตาที่จ้องมองมีแววล้อเลียน
“ผมน่ะอายุมากกว่าคุณนะ” สเตฟานส่งสายตาแบบเดียวกันกลับ
“มากกว่าจนคุณคิดไม่ถึงเลยหล่ะ” พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ แล้วเริ่มเดินต่อไป
รังสรรค์เห็นท่าทางนั้นแล้วอดยิ้มให้ตัวเองไม่ได้ ส่ายหน้าเบาๆ ๒-๓ ครั้ง มองตามแผ่นหลังของคนที่เดินอยู่ตรงหน้า ที่เดินช้าๆอย่างสบายอารมณ์ ผิดกับสภาพของเมืองที่ผู้คนต่างเร่งรีบ ถูกบีบรัดด้วยเงื่อนของเวลา แล้วจึงเดินตามไป แล้วระหว่างที่เดินไปคุยไปนั้น เขาสังเกตเห็นสิ่งผิดปรกติอย่างหนึ่ง
ต้นไม้ใหญ่บนฟุตบาทที่พวกเขาเดินผ่าน กิ่งก้านของมันจะสั่นไหวน้อยๆราวกับมีลมพัดเบาๆ และสงบนิ่งทันทีที่พวกเขาเดินผ่านไป
“ทำไมแกพูดออกไปแบบนั้น” ทรงศักดิ์พูดเสียงดุๆ
“อะไรครับปู่” ทรงเดชพูดพลางประคองผู้เป็นปู่ให้นั่งลงบนโซฟายาว
“ก็เรื่องตำแหน่งของคุณท่านน่ะสิ”
“อ้าว ... ทำไมล่ะครับ” นั่งลงข้างๆแล้วทำหน้าเหรอหรา
“เอาเป็นว่าต่อไปห้ามพูดเรื่องนี้ คุณท่านไม่ต้องการให้รู้กันมาก นอกจากคนใกล้ชิดเท่านั้น”
“ก็ผมจะทำงานเป็นเลขาท่าน ต่อไปคนก็ต้องรู้อยู่ดี” ทรงเดชเถียง
“ตำแหน่งที่ชั้นเตรียมไว้ให้แกน่ะ ตำแหน่งเลขาชั้น ซึ่งชั้นจะมอบหมายงานที่ต้องทำให้คุณท่านให้แกทำ แกเข้าใจซะใหม่”
“ไหงเป็นอย่างนั้นล่ะปู่ ผมก็นึกว่าจะได้ทำงานใกล้ชิดคุณท่านซะอีก” น้ำเสียงและสีหน้า แสดงถึงความผิดหวัง จนคนที่เป็นปู่ต้องส่ายหน้าด้วยความระอา
“แกอย่าคิดอะไรแบบนั้นกับคุณท่านเด็ดขาด คุณท่านมีคนรักอยู่แล้ว”
“หา” ทรงเดชเลิกคิ้ว อ้าปากหวอ
“นี่ปู่คิดว่าผมคิดกับท่านแบบไหนเนี่ย”
“อ้าว แกไม่ได้นึกชอบคุณท่านหรอกเหรอ” คราวนี้ผู้อาวุโสกว่าขมวดคิ้วบ้าง
“ฮ่าๆๆ” ทรงเดชหัวเราะจนตัวงอ
“ปู่เนี่ยทันสมัยเป็นบ้า” หัวเราะอยู่สักพัก ทรงเดชก็อธิบายความรู้สึกของตัวเองให้ผู้เป็นปู่ฟัง
“ผมรู้สึกว่าท่านน่าสนิทสนม ถ้าผมมีพี่ชายแบบนี้สักคน ผมคงดีใจมากเลย”
“แค่นั้นน่ะเหรอ” ผู้เป็นปู่ถามย้ำ หลานชายก็พยักหน้าถี่
“เอาเถอะ แกจะคิดยังไงก็ช่าง แต่ขอให้แกตั้งใจทำงานเพื่อคุณท่านให้ดีแล้วกัน เพราะที่พวกเราอยู่ดีกินดีกันได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะคุณท่าน”
“เพราะคุณปู่ด้วยแหละครับ คิดดูสิ เป็นคนอื่น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ซะ ไม่ต้องรับใช้ ทำโน่นทำนี่ให้ แค่นี้ก็สบายไปทั้งชาติแล้ว”
“ถ้าแกคิดจะทำอย่างนั้น ก็รอให้ชั้นตายซะก่อน” ทรงศักดิ์พูดด้วยน้ำเสียงดุๆ
“คร๊าบ คุณปู่ ผมรู้ว่าปู่น่ะทั้งรักทั้งภักดีต่อคุณท่านของปู่ ผมรับรองผมไม่ทำให้คุณปู่ผิดหวังหรอกครับ” ทรงเดชพูดยิ้มๆ พลางเอื้อมมือไปบีบมือของผู้เป็นปู่เบาๆ
“รับรองได้ครับว่าวันข้างหน้า ผมจะรักและเคารพคุณสเตฟาน ไม่ให้น้อยกว่าคุณปู่เด็ดขาด”
“ทำไมถึงได้หาไม่เจอซักที” โจชัวร์ส่งเสียงดังด้วยความโกรธ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ
“อาจจะหลบอยู่ก็ได้ ที่ผ่านมามันก็ทำแบบนี้มาตลอดนี่” ไลล่าพูดพลางยักไหล่
“หรือไม่ก็ไปที่อื่นแล้ว” ไป่หลงเสนอความเห็น
“ข้าต้องตามเจ้าให้พบ สเตฟาน” โจชัวร์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“เจ้าต้องกลับมาเป็นของข้าเพียงคนเดียว”
ไลล่ากับไป่เทียนหันหน้ามองตากัน พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมโจชัวร์ถึงได้ยึดติดกับแวมไพร์ที่ชื่อสเตฟานนัก เท่าที่คนทั้งสองรู้
สเตฟานก็เหมือนกับพวกเขา เป็นแวมไพร์จากการถ่ายเลือดของโจชัวร์เข้าไปในร่างกายของตน เมื่อกลายเป็นแวมไพร์แล้ว พวกเขาทั้งสองมีแต่ความกระหายในโลกีย์ และโลหิต ที่จะมาหล่อเลี้ยงชีวิตเท่านั้น แต่ดูเหมือนแวมไพร์ที่ชื่อสเตฟาน จะไม่เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ในช่วงแรกๆจะมีลักษณะเดียวกัน แต่ความกระหายต่างๆนั้นเหมือนจะหมดไปในช่วงเวลาสั้นๆ สเตฟานกลายเป็นแวมไพร์ที่ไม่อยากดื่มโลหิตมนุษย์ เป็นแวมไพร์ที่ไม่กระหายในกามารมย์ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องผิดปรกติ เพราะมีแต่แวมไพร์ที่มีอายุหลายร้อยเท่านั้น จึงจะสามารถควบคุมตัวเองให้เป็นเช่นนั้นได้ แต่สเตฟานกลับเปลี่ยนไปในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ถึงแม้โจชัวร์จะไม่ใช้อำนาจ ควบคุมให้สเตฟานอยู่ข้างกายตลอดเวลา  เหมือนแวมไพร์บางตน ซึ่งข้อนี้เองทำให้ไลล่า และไป่หลงนับถือ ในการให้อิสระแก่พวกตน แต่โจชัวร์ก็จะติดตามสเตฟานไปทุกที่ เพราะด้วยสาเหตุที่โจชัวร์เป็นเหมือน ‘ผู้สร้าง’ สำหรับสเตฟาน ซึ่งเปรียบเสมือน ‘ลูก’ ของโจชัวร์ ผู้สร้างย่อมรับรู้ได้ถึงจิตของลูก ว่าอยู่แห่งใด และมีสภาพความคิดเช่นไร รวมทั้งสามารถควบคุมให้กระทำสิ่งใดก็ได้ ตามที่ผู้สร้างต้องการ แต่โจชัวร์ไม่เคยใช้อำนาจเช่นนี้กับคนทั้งสอง เพราะทั้งไลล่า และไป่หลง ยินดีทำทุกอย่างที่โจชัวร์ต้องการอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของกามารมย์
...แต่ไม่ใช่สำหรับสเตฟาน
เพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น สเตฟานก็เริ่มแข็งขืนที่จะสนองอารมณ์ของโจชัวร์ ความกระหายที่จะดื่มกินโลหิตของมนุษย์เริ่มลดน้อยลง สเตฟานเริ่มทำตัวเหมือนมนุษย์มากขึ้น พยายามกินอาหาร ดื่มเครื่องดื่มเหมือนมนุษย์  แต่ก็น่าแปลกที่ไม่มีอาการอาเจียรอาหารที่กินเข้าไปออกมา เหมือนกับแวมไพร์ทั่วไป

...อาหารของมนุษย์กระเพาะของแวมไพร์ไม่สามารถย่อยสลายหรือขับถ่ายออกมาได้การอาเจียรจึงเป็นทางเดียวที่จะขับถ่ายอาหารเหล่านั้นเพื่อไม่ให้กลายเป็นผลร้ายต่อร่างกาย ...
แต่สารอาหารที่ได้จากอาหารของมนุษย์กลับไม่สามารถทำให้ร่างกายของสเตฟานนำไปใช้ประโยชน์ได้ ร่างกายของสเตฟานซูบซีดลงจนโจชัวร์ต้องให้ดื่มโลหิตของเขาแทนแพราะสเตฟานไม่ต้องการฝังคมเขี้ยวลงบนลำคอของมนุษย์ เพื่อดูดโลหิตเป็นอาหารเช่นแวมไพร์ทั่วไป



มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-30 00:31:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-30 23:58:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
17
พลังน้ำใจ
16667
Zenny
37385
ออนไลน์
1869 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-3-30 08:49:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
461
Zenny
272
ออนไลน์
80 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-1 04:46:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 05:12:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟผม

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 11:41:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 00:33 , Processed in 0.094520 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้