ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 527|ตอบกลับ: 6

++ สานฝันนิรันดร ++ # 22

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“สเตฟาน” ภูริทัตเรียกเบาๆแต่เหมือนผู้ที่ยืนอยู่ห่างไปหลายเมตรนั้นจะได้ยิน จึงหันหน้าจากคู่สนทนามาทางเขาและยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“พี่ทัตจะไปไหน” กรกฎเรียกเมื่อเห็นภูริทัตเดินออกไปจากกลุ่มเมื่อมองตามไปก็เห็นคนที่เป็นจุดหมายของภูริทัต
“อ้อ คุณสเตฟานน่ะเอง เข้าไปหากันเถอะ” รังสรรค์พูดแล้วก็เดินตามภูริทัตโดยมีปรีชาและกรกฏเดินตามไปด้วย

“สเตฟาน คุณกลับมาเมื่อไหร่” ภูริทัตถามอย่างดีใจ อดเอื้อมมือไปกุมมืออีกฝ่ายไม่ได้
“เมื่อคืนนี้เองครับ” เสียงตอบมาจากคนที่ยืนอยู่ข้างๆสเตฟาน
ภูริทัตหันไปมองดูชายหนุ่มรูปร่างสูง แลดูบึกบึน ผิวสองสี หน้าตาคมคายไม่น้อย
“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มแปลกหน้าทักทาย
“เจอกันอีกแล้วนะครับ” รังสรรค์ทักทายอีกฝ่าย
ภูริทัตหันกลับไปมองสเตฟานอย่างงงๆ
“นี่ทรงเดช เป็นหลานของทรงศักดิ์น่ะครับ” สเตฟานพูดราวกับจะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการรู้อะไร
“ต่อไปคุณปู่จะให้ผมมาช่วยงาน ผมเลยขอเริ่มงานแรกด้วยการพาคุณสเตฟานมาฟังดนตรี” ทรงเดชพูดยิ้มๆ
“คุณคงเป็นคุณภูริทัต”
“คุณรู้จักผม?” ภูริทัตถามด้วยความสงสัย
“ผมเดาเอาน่ะครับ ผมเคยเห็นชื่อคุณในตั๋วเครื่องบิน”
ทรงเดชอดขำไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าของภูริทัต รู้สึกว่า จากวันนี้ไปเขาคงมีเรื่องให้สนุกได้ไม่น้อยทีเดียว
บทที่ ๒๕
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะส่งให้ถึงที่ห้องพักเลย” ทรงเดชพูดยิ้มๆ ส่งสายตาล้อเลียนให้ภูริทัต พลางปิดประตูรถลง แล้วเดินไปขึ้นรถด้านคนขับ
เมื่อการแสดงดนตรีจบลง ภูริทัตกับเพื่อนๆ ก็ได้พบกับสเตฟานและทรงเดชอีกครั้ง พูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง กรกฏก็เสนอให้แยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงาน ทุกคนจึงเดินมายังลานจอดรถ ภูริทัตอ้อยอิ่งอยู่นานจนสเตฟานขึ้นรถไป ชายหนุ่มมองดูรถสปอร์ตคันนั้นแล่นออกไปจากลานจอดรถ จึงได้เดินมาขึ้นรถของรังสรรค์ที่รออยู่ และออกจากสถานที่นั้นไปในเวลาต่อมา
“ดูคุณจะสนุกมากนะ” สเตฟานพูดเบาๆ
“โกรธเหรอครับ” ทรงเดชพูดทั้งๆที่สายตายังจ้องมองอยู่บนถนน
“เปล่า” ตอบเพียงแค่นั้น สเตฟานก็เงียบไป
“ผมเห็นว่า คนพวกนั้นมีความสัมพันธ์กันยุ่งเหยิงน่าดู ผมก็เลยลองแหย่ๆเล่น” ทรงเดชพูดขึ้นมาหลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
“คุณดูออก”
“ก็พอจะเห็นๆนะครับ คนชื่อปรีชาชอบคุณกรกฏ คนชื่อกรกฏชอบคุณภูริทัต แต่คุณภูริทัตน่ะคงไม่ต้องบอกนะครับว่าชอบใคร” พูดแล้วทรงเดชก็หัวเราะชอบใจ
“อ้อมีอีกคน คุณรังสรรค์ เหมือนจะชอบ ...” แกล้งเงียบไปเพื่อจะดูปฏิกิริยาของคนข้างๆ แต่ก็ไม่มีสิ่งใดตอบกลับมา
“คุณพอจะรู้มั๊ยครับ ว่าคุณรังสรรค์ชอบใคร” ทรงเดชแกล้งถาม
“อาจจะชอบคุณก็ได้นะ” สเตฟานตอบแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอ
“โหย ... ไม่ไหวล่ะครับแบบนั้น ดูก็รู้ว่าเป็นแบบไหน ถ้าสักวันผมต้องชอบผู้ชายนะ ผมไม่เป็นฝ่ายที่เป็นผู้หญิงเด็ดขาด”
“ถ้าถึงเวลาจริงๆแล้วคุณจะรู้ ว่าความรักน่ะ มันทำให้คนเรายอมทำได้ทุกอย่าง และเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก” สเตฟานพูดช้าๆ อย่างชัดเจนทุกถ้อยคำ
“เหมือนคุณตอนนี้น่ะเหรอครับ” น้ำเสียงของทรงเดชเป็นงานเป็นการมากขึ้น
ไม่มีคำตอบ มีแต่เสียงถอนใจเบาๆมาจากคนข้างๆ จนทรงเดชไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพื่อให้คนที่เขานับถือเกิดความสบายใจขึ้นบ้าง
เพราะทรงเดชจะต้องรับหน้าที่ต่อจากทรงศักดิ์ เรื่องราวต่างๆของผู้ที่จะเป็นเสมือน ‘นาย’ จึงถูกบอกเล่าอย่างละเอียดมากขึ้น ทำให้ทรงเดชได้รับรู้สภาพตัวตนที่แท้จริงของสเตฟาน รวมทั้งผู้ที่เป็น ‘มิตร’ ผู้ที่เป็น ‘ศัตรู’ ของคนที่เขาจะต้องปกป้อง และดูแลผลประโยชน์ต่างๆให้ต่อไปในอนาคต ชำเลืองมองดูคนข้างๆอีกครั้ง พร้อมกับคิดไปถึงชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาคมปลาบคนนั้น เพียงแค่แววตาของคนทั้งสองยามมองดูอีกฝ่ายหนึ่ง ก็บอกให้รู้ถึงความผูกพันของดวงใจ ไม่มีช่องว่างให้ใครได้เข้าไปแทรกอีก ไม่ว่าจะเป็นกรกฏ หรือรังสรรค์
ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ คิดว่าความรักที่เขาได้รับรู้ในครั้งนี้ จะสามารถยืนยาวไปได้สักเพียงใด ถึงแม้มันจะดูมั่นคงทั้งความรู้สึก และการแสดงออก แต่ในเมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นเพียงมนุษย์ ต่อให้แข็งแรงขนาดไหน มีชีวิตได้ถึงร้อยปี ก็นับว่ายืนยาวมากแล้ว ส่วนอีกฝ่ายกลับเป็นเผ่าพันธ์ที่กล่าวขานกันว่ามีชีวิตเป็นอมตะ
แวมไพร์ ... เผ่าพันธ์ที่ไม่มีวันตาย สามารถดำรงชึวิตอยู่ได้นิรันดร
“หาใช่เป็นนิรันดร์ไม่” ชายชราบอกกับชายหนุ่ม
“เมื่อก่อนนี้ข้าก็มีรูปลักษณ์เช่นบุรุษฉกรรจ์ดั่งเจ้า แต่ดูบัดนี้” ชายชรากางแขนออก แสดงถึงร่างกายที่ซูบผอม ประหนึ่งมนุษย์ที่ผ่านชีวิตมากว่าร้อยปี “นาฬิกาชีวิตของพวกเราเหล่าแวมไพร์เดินเชื่องช้ากว่ามนุษย์หลายเท่า หนึ่งปีของมนุษย์อาจเป็นเพียงแค่หนึ่งวันของพวกเรา ดังนั้นชีวิตที่เป็นอมตะ คงอยู่ได้นิรันดรนั้นจึงไม่เป็นความจริง”
“แต่ ...” สเตฟานทำท่าเหมือนจะค้าน
“เจ้าจะบอกว่า ทำไมจึงไม่เคยเห็นแวมไพร์ ที่มีสภาพดุจชายชราเช่นข้าเลยใช่หรือไม่”
สเตฟานพยักหน้ารับ
“ก็ยังมีอยู่ เพียงแต่แวมไพร์เหล่านั้นส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสถานที่เงียบสงบ คงจะเหมือนกับมนุษย์ที่มีอายุมาก ซึ่งต้องการความสุขสงบในชีวิตบั้นปลาย แต่หากแวมไพร์ตนใดทนไม่ได้ ต้องการจะจบชีวิตที่เสมือนชีวิตอมตะ มันจะเป็นหน้าที่ของข้า ผู้มีหน้าที่ส่งแวมไพร์ตนนั้นให้คืนสู่ความเป็นมนุษย์ และหมดสิ้นซึ่งความเป็นนิรันดร์ เมื่อถึงเวลานั้น ขอเพียงแวมไพร์ตนนั้นเรียกหาข้า ข้าก็จะรับรู้ และไปปรากฏต่อหน้าแวมไพร์ตนนั้น”
“คุณสเตฟานต้องไปต่างประเทศครับ ผมเสียใจด้วยที่สุดสัปดาห์นี้ คุณคงจะไม่ได้พบกับคุณท่าน” เสียงจากทางปลายสายทำให้ชายหนุ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที
“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียนะครับ คุณท่านบอกว่า ยังไงก็ต้องกลับมาก่อนวันพฤหัสฯแน่นอนครับ” มีเสียงหัวเราะเบาๆตามมาหลังคำพูด
“ทำไมถึงต้องกลับมาก่อนวันพฤหัสล่ะครับ” ภูริทัตกรอกเสียงถามไป
“อ้าว” เสียงอุทานดังมา “นี่คุณไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลยเหรอครับ”
“เตรียมอะไรครับ แล้วทำไมต้องเตรียม”
“คุณทัตไม่รู้จริงๆ หรือว่าต้องการปิดไว้ให้คุณท่านแปลกใจกันแน่ ยังไงผมก็พวกเดียวกับคุณทัต แง้มๆให้ผมรู้บ้างได้มั๊ยครับ” เสียงของทรงศักดิ์ถามอย่างอารมณ์ดี
“เรื่องอะไรครับ คุณทรงศักดิ์ยิ่งพูด ผมก็ยิ่งงง” ภูริทัตยกมือขึ้นเกาท้ายทอย รู้สึกรำคาญขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“อ้าว นี่แปลว่าคุณทัตไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ดูปฏิทินเลยเหรอครับว่านี่มันเดือนกุมภาฯแล้ว” มีเสียงจุ๊ปากเบาๆเหมือนจะตำหนิ
“เดือนกุมภาฯ” ภูริทัตรีบเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานเล็กๆในห้องนอน เพื่อดูปฏิทิน
“เอ๊ะ ...” แล้วเขาก็ต้องอุทานออกมาเบาๆ
“รู้แล้วใช่มั๊ยครับว่าวันอะไร” เสียงของทรงศักดิ์หัวเราะเบาๆ “ยังพอจะเตรียมตัวทันนะครับ ถ้าขาดเหลืออะไรก็โทรมาบอกผม เดี๋ยวผมจะให้ทรงเดช หลานผมจัดการให้ คุณทัตรู้จักแล้วใช่ไหมครับ เห็นตาเดชมาเล่าให้ผมฟัง ว่าเจอกับคุณทัตในงานแสดงดนตรีเมื่อวันก่อน”
“ทรงเดช” ภูริทัตทวนชื่อ พร้อมกับคิดไปถึงชายหนุ่มร่างสูง ผิวสองสี ใบหน้าคมคายแบบชายไทย
“ใช่ครับเราเจอกันแล้ว แต่ทำไมต้องให้มาจัดการเรื่องของผมด้วยล่ะครับ”
“คืออย่างนี้นะครับคุณภูริทัต คุณคงทราบว่าผมเป็นคนดูแลเรื่องต่างๆให้คุณสเตฟาน พูดง่ายๆเหมือนเป็นผู้จัดการส่วนตัว ตอนนี้ผมก็อายุมากแล้ว ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน”
“อะไรกันครับ คุณทรงศักดิ์ยังดูแข็งแรงอยู่เลย”
“ยังงั้นก็เถอะครับ” ทรงศักดิ์หัวเราะเบาๆ “ยังไงก็เตรียมไว้ก่อนดีกว่า ความจริงผมก็คิดเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เจ้าเดชยังเด็กๆ
ว่าจะให้รับใช้คุณท่านต่อจากผม เพราะในบรรดาลูกหลาน ก็มีเจ้านี่แหละครับที่สนใจเรื่องของคุณท่านมากที่สุด”
ภูริทัตขมวดคิ้ว เพราะรู้สีกว่าคำบอกเล่านี้ มีอะไรแปลกประหลาดอยู่ แต่ก็ยังคิดไม่ออกในทันที
“ตอนนี้ผมก็ให้ช่วยเรื่องเล็กๆน้อยๆไปก่อน แล้วอีกสักเดือนหรือสองเดือน พอออกจากงานประจำ แล้วค่อยให้มาเป็นเลขาผม รับหน้าที่ดูแลคุณท่านเต็มตัว นี่ถ้าไม่ติดว่างานที่ทำอยู่ยังต้องสะสางให้เรียบร้อย ผมคงให้ตามไปรับใช้คุณท่านแล้ว”
“เหรอครับ” ภูริทัตฟังแล้วรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก
“เอาเป็นว่าคุณทัตรีบๆคิดแล้วกันนะครับ ว่าจะทำอะไรในวันนั้น แล้วต้องการให้ทางผมช่วยอะไรก็ติดต่อมาได้ทุกเวลานะครับ”
“ครับ แล้วเดี๋ยวถ้าผมตกลงใจยังไงผมจะติดต่อไปนะครับ”
ภูริทัตกดปุ่มวางสายโทรศัพท์ที่อยู่บนหูฟังบลูธูท แล้วถอดออกวางไว้ใกล้ๆโทรศัพท์มือถือ ที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆข้างเตียง ด้านหัวนอน ล้มตัวลงนอนก่ายหน้าผาก ครุ่นคิดว่า เขาจะทำอะไร หรือมอบอะไรให้เป็นพิเศษแก่สเตฟาน สำหรับวันพิเศษเช่นนั้นดี
“คิดอะไรอยู่วะ ไม่พูดไม่จา” รังสรรค์ถาม เมื่อเห็นภูริทัตกินข้าวโดยไม่คุยกับเพื่อนๆเหมือนเคย
“คิดเรื่องนายตัวสูงที่เจอวันนั้นใช่มั๊ยล่ะพี่ จะว่าไปก็ทำไปได้นะ ไหนว่ารักกัน กลับมาก็ไม่บอกสักคำ แถมควงคนอื่นไปเที่ยวด้วยกันอีก” กรกฏพูดแล้วก็เบ้ปาก
“กำลังคิดว่าวาเลนไทน์จะให้อะไรสานฝันดี” ภูริทัตหันไปบอกรังสรรค์ โดยไม่สนใจคำพูดของกรกฏ
“เอาโบว์ผูกเจ้าทัตน้อยสิ ให้เป็นของขวัญ” ปรีชาพูดแล้วก็หัวเราะ ทำให้ภูริทัตและรังสรรค์หัวเราะตามไปด้วย
“อันนั้นแกะโบว์ฉลองกันเรียบร้อยไปนานแล้วเว๊ย” ภูริทัตตอบหน้าตาเฉย
“ทีแรกข้าว่าจะพาไปหาอะไรกิน แต่วันนั้นร้านคงแน่นน่าดู เลยคิดว่าจะให้ของขวํญน่าจะดีกว่า ตอบแทนที่ให้เพชรเม็ดนั้นกับข้าด้วย”
“กรีนอายส์” ทุกคนหันไปมองรังสรรค์ ไม่เข้าใจว่าที่เขาพูดขึ้นมาลอยๆนั้น หมายความว่าอะไร
“ก็เพชรเม็ดนั้นไง สเตฟานบอกว่ามันมีชื่อเรียกว่า กรีนอายส์”
“กรีนอายส์” ปรีชาและภูริทัตทวนคำแทบจะพร้อมกัน
“แหวะ ... ชื่ออะไรน่าขยะแขยง นึกถึงตาผีขึ้นมาทันทีเลย” กรกฏทำท่าขนลุกขนพอง
“พี่ว่าโรแมนติคดีออก ... กรีนอายส์” ปรีชาทำตาเชื่อม
“ตาของสเตฟานเค้าก็สีเขียวนี่ ...กรีนอายส์ ...โห โรแมนติคเป็นบ้า มันจะหมายความว่าอะไรน๊า” ปรีชาทำท่าครุ่นคิด
“ให้คุณมองแล้วเหมือนได้มองดวงตาของผม ... หรือว่าดวงตาของผมจ้องมองอยู่ที่คุณเสมอ ...ว๊าว” ปรีชาหลับตาพริ้ม
“มากไป ไอ้ชา” รังสรรค์พูดแล้วอมยิ้ม
“แต่ความคิดมันก็เข้าท่านะ เอ็งว่าไง” เขาหันไปถามภูริทัต
“ดวงตาอะไรมันจะมีข้างเดียว” กรกฏขัดคอ
“อีกข้างอยู่ที่เจ้าตัวเค้าไง ของมันมีเป็นคู่ เค้าเลยให้เจ้าทัตชิ้นนึง” รังสรรค์อธิบาย
“พี่สรรค์ดูเหมือนจะรู้ละเอียดนะ” กรกฏทำหน้าเหมือนจะค้นหาความจริงจากรังสรรค์
“ก็ไม่มีอะไรนี่ ตอนที่เจอกัน พี่ก็ถาม แล้วเค้าก็เล่าให้ฟัง มันก็แค่นั้น” รังสรรค์ยักไหล่
“แล้วทำไมเพิ่งจะมาเล่าให้พวกเราฟังตอนนี้ล่ะ” กรกฏยังไม่ยอมหยุด

“อ้าว ก็ไม่มีใครถามนี่นา พี่ไม่ใช่พวกปากโป้งรู้อะไรมาก็เที่ยวมาบอก มาขยายความ นี่เห็นว่าพูดเรื่องนี้กันขึ้นมาก็เลยเล่าให้ฟังว่า ของชิ้นนี้น่ะเป็นของสำคัญของเค้าเชียวนะได้มาจากญาติผู้ใหญ่อีกทีนึง เอ็งก็ต้องรักษาไว้ดีๆล่ะ” หลายประโยคหลังหันไปพูดกับภูริทัต
“ถึงไม่รู้ก็รักษาอย่างดีอยู่แล้วเว๊ย” ภูริทัตยิ้มจนแก้มแทบปริ
รังสรรค์มองดูใบหน้าที่ยิ้มแย้มของภูริทัตแล้วเหลือบไปมองสีหน้าที่บูดบึ้งของกรกฏมองเลยไปยังสายตาที่หวานเชื่อมของปรีชาที่จ้องมองกรกฏแล้วคิดถึงความวุ่นวายของสายสัมพันธ์ของพวกตนทั้งสี่ ที่ดูจะยุ่งเหยิงขึ้นทุกขณะจะเป็นอย่างไรกันต่อไป ถ้าอีกสามคนได้รู้ว่าอัญมณีชิ้นนั้น เป็นสิ่งใดกันแน่


มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-30 00:49:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-1 00:04:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
17
พลังน้ำใจ
16667
Zenny
37385
ออนไลน์
1869 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-3-30 19:31:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณนะครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
17
พลังน้ำใจ
16667
Zenny
37385
ออนไลน์
1869 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-3-30 20:11:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 05:33:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟ ^^

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 11:54:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 00:51 , Processed in 0.091992 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้