ลงทะเบียน2013-6-27
ล่าสุด2025-1-12
นิสิตสัมพันธ์
- กระทู้
- 1
- พลังน้ำใจ
- 11731
- Zenny
- 2531
- ออนไลน์
- 977 ชั่วโมง
|
พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑2 e0 g- Y. H4 V; F2 j# w
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ ได้ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภา และ
! ]; }' l( S* ~สภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมเมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๔๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อ
1 ?5 H7 o, ?3 X6 D! tวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑
5 k/ R* h& ~0 s' l* mทำให้พระราชบัญญัตินี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ; t* ]3 ^3 b1 u4 a9 s: h
คือวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๑ พ.ร.บ. นี้เป็นกฎหมายคุ้มครองแรงงานใช้บังคับในภาคเอกชน 3 R6 z) y# p7 G. I, \
5 q* f0 K9 V8 o0 E7 O7 I% Q1 A, p, n; O. G
สาระสำคัญ0 g% S* A! T' ?* @/ j2 k
๑. กำหนดเวลาทำงานปกติในทุกประเภทงานไม่เกิน ๘ ชั่วโมง/วัน และไม่เกิน ๔๘ ชั่วโมง/สัปดาห์ (เดิมกำหนดตามประเภทงาน) เว้นแต่งานที่อาจเป็นอันตรายไม่เกิน ๗ ชั่วโมง/วัน
( @9 c2 u7 ]+ Lและไม่เกิน ๔๒ ชั่วโมง/สัปดาห์: ]( m1 J. @% ~; ?& W: V6 |+ [0 U( _
๒. ให้จัดวันหยุดประจำสัปดาห์ไม่น้อยกว่า ๑ วัน/สัปดาห์ วันหยุดตามประเพณีไม่น้อยกว่า ( v& U2 F9 D9 y1 o, P8 M, q4 i( L
๑๓ วัน/ปี และวันหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า ๖ วันทำการ/ปี วันหยุดตามประเพณีให้กำหนดจากวันหยุด j( M# Y9 M; Y$ i2 j4 U- [
ราชการประจำปี วันหยุดทางศาสนาหรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้องถิ่น "ในกรณีลักษณะงานไม่อาจหยุด# m( ~* F; u, `3 r
ตามประเพณีได้ให้ตกลงกันหยุดในวันอื่นชดเชย หรือจ่ายค่าทำงานในวันหยุดแทน"( L; q9 `" o+ H: d$ k# e
๓. ให้สิทธิลากิจ ลาเพื่อทำหมัน และลาเพื่อฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถ เพิ่มจาก
. A5 G) [( W) g# Gสิทธิลาป่วย ลาเพื่อคลอดบุตร และลาเพื่อรับราชการทหาร3 C: l! ]0 P! ~0 F/ x' _1 o; F# N
๔. กำหนดพิกัดน้ำหนักขั้นสูงที่ให้ลูกจ้างยก แบก หาม เพื่อคุ้มครองทั้งลูกจ้างชาย หญิง
' u) J0 D( @0 P/ Pและเด็กและเป็นการสอดคล้องกับอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 127
; K7 C! l- l6 Z7 \& Z! h ๕. ขยายการคุ้มครองแรงงานหญิง โดยห้ามใช้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานที่เป็นอันตรายต่อ ) h! E; G, ^; U& G9 O8 K Y
สภาวะการตั้งครรภ์ ห้ามเลิกจ้างหญิงเพราะเหตุมีครรภ์
6 o E' D/ ~' }+ e ๖. ขยายอายุขั้นต่ำของลูกจ้างเด็กจาก 13 ปี เป็น 15 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา8 r- V& `# }- E j3 x. M
ทรัพยากรมนุษย์ และอนุสัญญา ILO
0 Q! a. I, K# F9 V) [8 n" D$ ~: W ๗. การจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้าง ต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน
, P% h& `- [5 u: Y: g5 @& s2 Tจัดทำบันทึกสภาพการจ้างกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเก็บไว้ ณ สถานประกอบกิจการ และแจ้งการสิ้นสุด
- \# H* F% Y, C1 R, K) A6 E: p1 eการจ้างต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 7 วัน เพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวของเด็ก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ
' x- o0 x( R8 k H. h" V2 J- J5 \การคุ้มครองดูแลแรงงานเด็กผู้ด้อยโอกาส3 F. M E0 U0 B. p) Z
๘. ให้ลูกจ้างเด็กมีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง/วัน หลังจากทำงานมาแล้วไม่เกิน 4 ชั่วโมง
7 A1 _% x2 s, n# U5 Jและใน 4 ชั่วโมงนั้นให้มีเวลาพักตามที่นายจ้างกำหนดเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบถ ขณะที่3 S& g( [" G. e# D6 j5 w. h6 u5 y
กำหนดเวลาพักลูกจ้างทั่วไปไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง/วัน ซึ่งจะจัดเวลาพักครั้งเดียวหลังจากทำงานมาแล้วไม่เกิน
' d; e8 ]+ B0 Y% X8 c. a! C4 }5 ชั่วโมงก็ได้ หรือจัดเป็นช่วง ๆ ก็ได้โดยรวมเวลาพักทุกช่วงแล้วต้องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อให้สอดคล้อง
# _$ j+ [: Q) r% I0 q3 D k' Cกับทางปฏิบัติ- W+ i0 p b4 V9 M7 Y9 G
๙. ห้ามใช้ลูกจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในเวลาวิกาล เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี
% B6 O7 r! O5 X, I; Xห้ามทำงานล่วงเวลา ทำงานในวันหยุด และงานบางประเภทที่เป็นผลร้ายต่อเด็ก ขณะที่ลูกจ้างทั่วไปนายจ้างให้
' m }8 T$ D8 @0 e) Mทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุดได้ ถ้าลูกจ้างยินยอม โดยมีชั่วโมงทำงานไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 5 m3 _5 R- \0 Y
เว้นงานบางประเภทที่นายจ้าสั่งให้ลูกจ้างทำงานทำงานได้เท่าที่จำเป็น แต่ห้ามใช้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา หรือ
, R- c+ ]9 v% u# s Nในวันหยุดในงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง9 y+ g+ s0 M% \( a7 Y+ H/ M! @
๑๐. การคุ้มครองค่าตอบแทนในการทำงาน ได้กำหนดประเภทหนี้ที่นำมาหักค่าตอบแทน
$ @! x% n. u J( i2 B: gในการทำงานได้ และกำหนดเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือการดำรงชีพของลูกจ้างไม่น้อยกว่า 50% ของค่าจ้าง9 Z, a( s# a. _, p/ C2 Y
ในกรณีนายจ้างหยุดกิจการชั่วคราว3 q: H+ }) @4 C$ }: n* U4 B7 o
๑๑. ปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการค่าจ้างให้มีขอบข่ายที่กว้างขึ้นกว่าเดิม และปรับปรุง
9 X; q1 n# l, h. Y& M, z$ p, |โครงสร้างอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ โดยมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 2 ระดับ คือ, v4 q% I- O6 l: K$ }
๑๑.๑ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำพื้นฐานซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างกำหนดเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการ h$ V+ y6 @9 K9 K0 F; a+ `
กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ% x3 \& V$ y& _$ D4 i5 l' B: @7 o
๑๑.๒ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างกำหนดให้ใช้เฉพาะกิจการประเภทใด
9 H! p' d6 i: |* Q( _ประเภทหนึ่ง หรือ ทุกประเภทหรือในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งก็ได้ ซึ่งมีอัตราไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้าง8 e4 k9 |1 u0 c, u4 {$ L
ขั้นต่ำพื้นฐาน ถ้าไม่มีการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่ใด ให้ถืออัตราค่าจ้างขั้นต่ำ; z+ _% l$ X( s3 ~4 I+ o2 ]
พื้นฐานเป็นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของท้องที่นั้น# M. p8 l- Z+ l2 V4 Y4 b5 h
๑๒. กำหนดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการ ได้แก่ คณะกรรมการสวัสดิการแรงงานซึ่งเป็น
0 D3 h: ^6 W9 n. R8 qองค์กรระดับชาติ เพื่อกำหนดนโยบายสวัสดิการระดับชาติ และให้มีคณะกรรมการสวัสดิการประจำสถาน' Q" n( f" d k. p, F
ประกอบกิจการเพื่อร่วมประชุมปรึกษาหารือกับนายจ้างเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ
% p ]- _; Z2 {; Sและควบคุมดูแลการจัดสวัสดิการที่นายจ้างจัดให้แก่ลูกจ้าง& p1 a% o4 m9 |5 R* S, p& D; G
๑๓. ให้มีคณะกรรมการความปลอดภัยระดับชาติ เพื่อกำหนดทิศทางบริหารความปลอดภัย 7 k$ }7 X6 w0 x% }
อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และให้มีองค์กรเอกชนให้บริการทางด้านวิชาการและเทคนิคแก่
6 V% g* T0 B" `# Gสถานประกอบกิจการได้ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ: c0 \0 O- `7 I$ o) t: n0 q) N( U
๑๔. กำหนดห้ามนายจ้างสั่งพักงานเพื่อสอบสวนความผิดของลูกจ้าง เว้นแต่มีข้อบังคับ0 y5 [* k3 m4 w! W# g+ N$ M6 V1 n
หรือข้อตกลงกำหนดให้มีการพักงานได้ แต่นายจ้างจะสั่งพักงานได้ไม่เกิน 7 วัน และต้องจ่ายเงินในช่วงพักงาน
, _/ H% J$ d8 M2 ?+ {$ s! Dตามอัตราที่กำหนดซึ่งไม่ต่ำกว่า 50% ของค่าจ้าง
5 d2 U1 W- F; N) g0 X6 l ๑๕. กำหนดอัตราค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างเป็น 5 อัตรา คือ
8 n! p1 M: f/ F& ]# {* j. r ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
/ S% R) ]2 R- n' _) n1 z ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้ 90 วัน
# S1 w! Y) g3 s3 \ ทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี ได้ 180 วัน - C$ X0 {3 n7 C+ {5 |4 k
ทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี ได้ 240 วัน ' Y. T6 y& J9 _: o! H; ?, p
ทำงานครบ 10 ปี ขึ้นไปได้ 300 วัน เว้นแต่เข้าข้อยกเว้น ให้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามที่
/ b7 y& G6 s! c; @7 Z5 L( p กฎหมายกำหนด ทั้งนี้เพื่อให้ความคุ้มครองลูกจ้างที่ทำงานมานาน ซึ่งโอกาสที่จะหา2 Y. \. K7 G, Q" x( R6 G- H
งานทำใหม่เป็นไปได้ยาก6 J& q; h7 h! W8 D/ x% e
๑๖. กำหนดให้มีการจ่ายค่าชดเชยพิเศษนอกเหนือจากค่าชดเชยปกติ กรณีนายจ้างเลิก เพราะ5 y1 B+ G. d7 Y9 m [2 V1 `8 ~
ปรับปรุงหน่วยงานกระบวนการผลิต เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีโดยลูกจ้างต้องทำงานมาครบ 6 ปี
! ]) V/ r* `2 x3 _8 ?ขึ้นไปและได้ค่าชดเชยพิเศษปีละไม่น้อยกว่า 15 วัน รวมแล้วไม่เกิน 360 วัน
9 w+ t6 v+ s' f9 t% W1 @8 h! ?: J ๑๗. ให้การคุ้มครองลูกจ้างกรณีนายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการไปตั้งท้องที่อื่นซึ่งมีผล* b- u4 s* ^; U
กระทบสำคัญต่อการดำรงชีพตามปกติของลูกจ้างหรือครอบครัว โดยให้นายจ้างบอกกล่าวล่วงหน้าและให้ลูกจ้าง( F( k2 w! B7 Q+ W; X6 B4 ^
บอกเลิกสัญญาจ้างได้ถ้าไม่ประสงค์จะย้ายตาม โดยมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษเป็นเงินช่วยเหลือ 50% ของ
) s$ W2 l* }. E0 \ค่าชดเชยปกติ( {/ f, l; y# D# K S8 W; Q& {0 O
๑๘. จัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยให้นายจ้างที่ไม่ได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
, V! T. Q- Z& s$ J7 Gส่งเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเท่ากับจำนวนเงินสะสมที่หักจากค่าจ้างของลูกจ้างนำส่งเข้ากองทุน 8 J& S" m; F* a" l2 I
เพื่อจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อสิ้นสุดการจ้างเจตนารมณ์ในการจัดตั้งกองทุนนี้เพื่อสร้างหลักประกันในการทำงาน
! g s6 }+ b5 oป้องกันมิให้มีการย้ายงานบ่อยครั้ง และเป็นการส่งเสริมระบบการออมทรัพย์ของลูกจ้าง+ I! d* ]4 C( B! z; r3 i
๑๙. ห้ามเรียกเงินประกันจากลูกจ้างเว้นแต่ลูกจ้างจะทำงาน เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สิน , x" G0 M* E# v3 J
เพื่อป้องกันมิให้นายจ้างแสวงหาประโยชน์จากลูกจ้างในทางมิชอบ5 C" ~, d5 i3 z' c7 ?. V
๒๐. กำหนดให้บรรดาเงินตาม พ.ร.บ. นี้ที่นายจ้างค้างจ่ายลูกจ้างและเงินสะสม เงินสมทบ' s- G& \% z1 m3 X/ t0 B. O4 p" H
กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเป็นหนี้บุริมสิทธิลำดับเดียวกับภาษีอากร เพื่อคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างในการได้รับ l1 L2 y6 o0 ?# p1 o1 A& W9 P; b- e' d
ชำระหนี้มิให้ถูกเจ้าหนี้ในลำดับอื่นขอรับไปหมด
/ k' o( o: \- y; y9 } ๒๑. การรับเหมาค่าแรง ให้เจ้าของสถานประกอบกิจการและผู้รับเหมาค่าแรงต่างมีฐานะเป็น
$ g6 _3 k% F5 a& u+ rนายจ้างของลูกจ้างที่ผู้รับเหมาค่าแรงจัดเหมา
) m) R0 _$ ?6 Z0 R, l6 m ๒๒. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงนายจ้าง ให้นายจ้างใหม่รับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ ที่นายจ้างเดิมเคยมี- `' L% | Y7 I7 M& H. |
ต่อลูกจ้างทุกประการ เพื่อเป็นการรับรองสิทธิของลูกจ้างมิให้ถูกลดลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายจ้าง
; ]) o- C$ T. d2 a9 B ๒๓. กำหนดให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างตามบทบัญญัติ ป.พ.พ. บรรพ 3 ลักษณะ 6 ว่าด้วยจ้าง9 h2 V! O' [' a$ R$ ^" O
แรงงานด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือทางคดีแก่ลูกจ้างได้. I( n- l, |' [# Y1 H! ]( a( X8 g
๒๔. กำหนดเงื่อนไขการบอกกล่าวล่วงหน้า เพื่อเลิกสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา และ3 N6 J2 J( [* }* k7 x- m: q4 [
ถ้านายจ้างเป็นฝ่ายบอกกล่าวล่วงหน้า จะต้องระบุเหตุผลในการบอกเลิกสัญญาจ้างด้วย ถ้าไม่ระบุไว้นายจ้าง+ e" J, [9 }8 M3 M& }
จะยกข้อยกเว้นขึ้นอ้างในภายหลังเพื่อไม่จ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างไม่ได้* E+ J, e. c1 v' C$ [
๒๕. กำหนดให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างหญิงและชายโดยเท่าเทียมกันในการจ้างงาน เว้นแต่
& Q6 l+ c9 F( H |' k) n% pลักษณะหรือสภาพของงาน ไม่อาจปฏิบัติเช่นนั้นได้เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้. p* m' q9 \$ y# g) Z
ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
- N! w2 a. t1 {8 }. Q, j. K6 N ๒๖. ห้ามนายจ้าง หัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงานกระทำการล่วงเกินทางเพศต่อ! j7 n( B$ \1 O) y& c
ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงหรือเด็ก เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้บุคคลดังกล่าวใช้อำนาจในทางไม่ชอบโดยการกล่าว
* s# G% R/ R) y/ ^) V% L& x0 Oถ้อยคำหยาบคาย วิพากษ์วิจารณ์ทางเพศ ลวนลาม ซึ่งพฤติการณ์บางอย่างไม่รุนแรงถึงขั้นอนาจาร แต่ไม่เหมาะสม% u; w: m/ d) g9 Z( N
ที่จะปฏิบัติต่อลูกจ้างหญิงและเด็ก
: _: P' l" ?! r3 G9 f* X8 |/ ~ ๒๗. ปรับปรุงบทกำหนดโทษจากเดิมที่กำหนดโทษอัตราเดียวเป็นการกำหนดโทษตาม5 J: A( J1 j4 _$ F
ความหนักเบาของความผิดที่ได้กระทำ โดยมีอัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท 5 J: N, [! r' i
หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษต่ำสุดปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท และให้อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและ) l* J* K( G6 m: g, d; P# u
ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าวมีอำนาจเปรียบเทียบปรับการกระทำความผิดตาม
8 \+ N/ }/ r( k8 S2 I9 fพ.ร.บ. นี้ได้ตามที่เห็นสมควร |
|