ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 1084|ตอบกลับ: 0

พระประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี

[คัดลอกลิงก์]

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
473
พลังน้ำใจ
40883
Zenny
206866
ออนไลน์
36627 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย moo2010 เมื่อ 2012-7-11 12:30

สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา


พระอิสริยยศ
พระวรราชชายา
ราชวงศ์จักรี
ข้อมูลส่วนพระองค์
ประสูติ
10 มิถุนายน พ.ศ. 2445
บ้านปากคลองด่าน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ไทย
สิ้นพระชนม์
30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518
โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ไทย
พระบิดา
เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (ปลื้ม สุจริตกุล)
พระมารดา
ท่านผู้หญิงสุธรรมมนตรี (กิมไล้ สุจริตกุล)
พระราชสวามี
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
(พ.ศ. 2464 - 2468)

พันโทหญิง สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา (10 มิถุนายน พ.ศ. 2445 - 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518) พระวรราชชายาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนามเดิม คือ ประไพ สุจริตกุล เป็นธิดาของเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (ปลื้ม สุจริตกุล) กับท่านผู้หญิงสุธรรมมนตรี (กิมไล้ สุจริตกุล) เข้ารับราชการฝ่ายในในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศสูงสุดที่ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการให้ออกการออกพระนามว่า สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาแทน พระองค์สิ้นพระชนม์ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 สิริพระชนมายุได้ 73 พรรษา
เนื้อหา [ซ่อน]


[แก้] พระประวัติสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ทรงถือกำเนิดเป็นสามัญชน ชื่อว่า ประไพ สุจริตกุล ที่บ้านคลองด่าน ปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าคุณปู่คือ พระยาราชภักดี (โค สุจริตกุล) ซึ่งพระยาราชภักดีนี้เป็นน้องชายแท้ๆของ เจ้าจอมมารดาเปี่ยมในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าในราชวงศ์จักรีเมื่อถึงอนิจกรรมไปแล้วขึ้นเป็น สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา เนื่องจากทรงเป็นพระชนนีในสมเด็จพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึง 3 พระองค์ และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น สมเด็จพระปิยมาวดีฯ ก็ทรงอยู่ในฐานะ พระอัยยิกาเจ้า ดังนั้น พระยาราชภักดีผู้เป็นน้องชายแท้ ๆ รวมทั้งบุตรหลานจึงมีความเกี่ยวข้องกับพระบรมราชจักรีวงศ์ในฐานะราชินิกุลที่ใกล้ชิดอย่างยิ่ง
ประไพ สุจริตกุลเป็นธิดาคนที่ 5 ของ เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (ปลื้ม สุจริตกุล) กับท่านผู้หญิงสุธรรมมนตรี (กิมไล้ สุจริตกุล) เป็นน้องสาวของพระสุจริตสุดา (เปรื่อง สุจริตกุล) ซึ่งพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว อีกท่านหนึ่ง และเป็นน้องสาวของท่านผู้หญิงพัว อนุรักษ์ราชมนเทียร (พัว สุจริตกุล มารดานายแก้วขวัญ-ขวัญแก้ว วัชโรทัย) ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนราชินี เมื่อ พ.ศ. 2454 เจ้าพระยาสุธรรมมนตรีได้นำเข้าเฝ้าถวายตัวต่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
[แก้] เข้ารับราชการฝ่ายใน[url=http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8Crincessconsortofkingramasixth.jpg][/url][url=http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8Crincessconsortofkingramasixth.jpg][/url]
สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์


คุณประไพ ได้รับราชการฝ่ายในในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอภิเษกสมรส และโปรดเกล้าฯให้ท่านดำรงตำแหน่งพระสนมเอก มีราชทินนามว่า พระอินทราณี[1] (ซึ่งเป็นนามเรียกใหม่ในสมัยนั้น เพราะในรัชกาลก่อนๆมา พระสนมจะมีคำเรียกนำหน้านามว่า เจ้าจอม เท่านั้น ถ้ามีพระราชบุตรถึงจะได้เป็น เจ้าจอมมารดา ในกรณีพิเศษจริงๆ ก็จะได้รับสถาปนาขึ้นเป็น เจ้าคุณจอมมารดา การที่ทรงพระราชทานยศชั้น"พระ"แก่พระสนมครั้งนี้จึงเป็นของใหม่ในเวลานั้นอย่างยิ่ง) พระราชพิธีอภิเษกสมรสมีขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2464 ทรงโปรดฯ ให้คุณท้าวภัณฑสารานุรักษ์ หัวหน้าคลังฝ่ายในนำเงินไปพระราชทานตามพระราชประเพณีเป็นเงิน 4,000 บาท โดยพระนาม อินทราณี เป็นพระนามหนึ่งของพระชายาของพระอินทร์
จากนั้นในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2465 ทรงสถาปนาให้ประไพ สุจริตกุล ขึ้นดำรงพระยศเจ้านายตำแหน่งมเหสีพระองค์หนึ่ง มีพระนามเรียกขานกันว่า พระวรราชชายาเธอ พระอินทรศักดิศจี[2] พร้อมกับพระราชทานตราปฐมจุลจอมเกล้าอันเป็นตราชั้นสูงสุดสำหรับฝ่ายในแก่พระวรราชชายาเธอในโอกาสด้วย โดยพระนามอินทรศักดิศจี มีความหมายว่า "พระนางศจีผู้เป็นพระชายาของพระอินทร์"
ในเวลาต่อมา พระวรราชชายาเธอ พระอินทรศักดิศจี ทรงพระครรภ์ จึงเป็นสาเหตุให้ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี ตำแหน่งสมเด็จพระอัครมเหสี เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2465 มีพระบรมราชโองการว่า[3]
"พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า พระวรราชชายาเธอ พระอินทรศักดิ์ศจี ได้รับราชการฉลองพระเดชพระคุณมาโดยซื่อสัตย์กตเวที มีความจงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย ทรงตระหนักในพระราชหฤทัยว่า จะทรงสถาปนายกย่องขึ้นให้มีพระอิสริยยศสูงในตำแหน่งพระราชินีก็ควรแล้ว จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระอิสริยยศ พระวรราชชายาเธอ พระอินทรศักดิศจี ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี"
[แก้] ลดพระอิสริยยศ
พระสุจริตสุดา (ซ้าย), สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา (กลาง) และท่านผู้หญิงพัว อนุรักษ์ราชมนเทียร (ขวา) ในปี พ.ศ. 2517


สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระบรมราชินี มิได้ทรงพระครรภ์จนครบกำหนดประสูติ แต่ได้ทรงตก(แท้ง)เสียก่อนที่จะประสูติถึง 2 ครั้ง (บางตำรากล่าวว่า 3 ครั้ง) ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการว่าด้วยการออกพระนาม โดยโปรดให้ออกพระนามว่า สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาแทน เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2468[4] และโปรดฯ ให้เสด็จไปประทับยังพระที่นั่งวิมานเมฆ ภายในพระราชวังดุสิต
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ดำรงตำแหน่งสภานายิกา ของโรงพยาบาลที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและพระราชทานนามว่า วชิรพยาบาล
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ในปี พ.ศ. 2468 สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี ทรงย้ายไปประทับยังพระตำหนักสวนนกไม้ ในพระราชวังดุสิต ต่อมาจึงทรงย้ายไปประทับที่วังคลองภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรีซึ่งเป็นบ้านของท่านเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี พระบิดานั่นเอง เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาเสด็จมาประทับเป็นการถาวรแล้ว พระบิดาจึงกั้นบริเวณที่ดินว่างเปล่าด้านหลังของบ้านซึ่งเป็นที่กว้างขวาง ให้เป็นที่ประทับกับให้สร้างพระตำหนักสไตล์ยุโรปงดงาม เป็นพระตำหนักที่ประทับ โดยมีทางเชื่อมต่อกับตึกใหญ่ของท่านเจ้าพระยาสุธรรมมนตรีและท่านผู้หญิงสุธรรมมนตรีอีกด้วย สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาได้ประทับอยู่ ณ วังภาษีเจริญนี้มาโดยตลอดท่ามกลางพระประยูรญาติอย่างอบอุ่นต่อมาอีกกว่า 40 ปี
สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มาตลอดพระชนมชีพ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2505 พระชนมายุครบ 5 รอบ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เฝ้าพระราชทานน้ำพระมหาสังข์และทรงเจิม เมื่อพระชนมายุครบ 6 รอบ ในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2517 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ในการบำเพ็ญพระกุศลฉลองพระชนมายุ ณ อุโบสถวัดราชาธิวาส และโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯ ทรงเจิมและรับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2517พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
[แก้] สิ้นพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา สิ้นพระชนม์ด้วยโรคพระหทัยวายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 เวลา 07.55 นาฬิกา สิริพระชนมายุ 73 พรรษา ณ โรงพยาบาลศิริราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทานพระโกศกุดั่นน้อย (ต่อมาทรงเลื่อนเป็นพระโกศทองน้อย) ฉัตรตาดทอง 5 ชั้นกางกั้นเหนือพระโกศพระศพ ประดิษฐานเหนือชั้นแว่นฟ้าลายสลัก ณ ศาลาสหทัยสมาคมในพระบรมมหาราชวัง มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้าวันละ 8 รูป ฉันเพลวันละ 4 รูป และไว้ทุกข์ในพระราชสำนักกำหนด 15 วัน เมื่อถึงวาระการบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 50 วัน และ 100 วัน ก็เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลด้วยพระองค์เอง (7 วัน) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ (50 วัน) และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์เสด็จแทนพระองค์ (100 วัน)[5] เมื่อถึงวาระพระราชทานเพลิงพระศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงพระศพ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519 [6]
[แก้] พระกรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ทรงได้รับพระราชทานพระราชมรดกบางส่วนจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บ้านยาง ตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และพระองค์ทรงเห็นความสำคัญของการศึกษา จึงพระราชทานพระตำหนักและที่ดินส่วนพระองค์สร้างเป็นโรงเรียนเพื่อให้กุลบุตร กุลธิดาชาวกำแพงแสนและประชาชนที่ต้องการให้บุตรหลานได้ศึกษาเล่าเรียน พร้อมยังพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนการศึกษา และที่ดินบางส่วนสร้างหน่วยงานราชการต่างๆในบริเวณใกล้เคียง
ชาวอำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ทราบซึ้งในพระกรุณาธิคุณ และได้ร่วมกันขอพระราชานุญาตสร้าง พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาฯ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ และได้กำหนดให้วันที่ 30 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น วันสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา อีกด้วย
[แก้] พระเกียรติยศ
ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์


[แก้] พระอิสริยยศ[แก้] พระยศทางทหาร
  • สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาทรงได้รับพระราชทานยศพันโท (พ.ศ. 2465)
  • ผู้บังคับการพิเศษกองพันที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และกรมทหารบราบที่ 11 รักษาพระองค์
[แก้] เครื่องราชอิสริยาภรณ์สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายาทรงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ดังนี้
[แก้] สถานที่อันเนื่องด้วยพระนามาภิไธย

ชีวิตมีขึ้นลง      อีกหน่อยปลงดับสังขาร ความสุขในวันวาน    อีกไม่นานก็จางไป วันก่อนเคยสนุก      วันนี้ทุกข์กลับพลักไส เพื่อนฝูงเคยอำไพ    บัดนี้ไร้แม้คนมอง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-12-22 14:15 , Processed in 0.121834 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้