ถ้าจะรัก***** 9

tanya

ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
“เดี๋ยววันนี้ชัยช่วยใส่ให้”
“ไม่ใส่ได้ป่าวอ่ะ มันไม่เสียวอ่ะ”
“เคยแล้วหรือไง”
“ยังอ่ะแต่เคยได้ยินเขาว่ากันมา”
“ใส่เถอะนะชัยขอ รักกันจริงก็ต้องใส่”
“ใส่ก็ใส่ ก็ชัยขอแล้วนี่ ว่าแต่ชัยไปได้มายังไงหล่ะ”
“เราไปขอจากรุ่นพี่ที่ทำโครงงานเรื่องเพศศึกษาแล้วเขาไปขอมาจากโรงพยาบาลแล้วเขาให้มาเยอะ พี่เขาก็เลยให้มามีเยอะเลย”
“ไม่อายเขาหรือไง”
“เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักจะอายทำไม”
“รู้จักแบบไหน”
“อยู่ชมรมภาษาอังกฤษเหมือนกัน”
“เป็นมากเกินกว่านี้หรือป่าว”
“เฮ้ยจะบ้าเหรอ ชัยคิดกับพี่เขาแค่รุ่นพี่จริงๆ”
“ให้เป็นรุ่นพี่จริงๆนะ”
“จริงจ้า จริงที่สุดด้วยแหล่ะ”
“ทิวรักชัยมากนะ อย่านอกใจกันอีกเข้าใจมั้ย”
“ไม่นอกใจหรอก ชัยรักทิวมากขนาดนี้”
ผมชัยก็จูบปากกับผม เมื่อจูบกันในสภาพที่เตรียมอาบน้ำเนื้อย่อมแนบเนื้อ จากการจูบสู่การปลดเปลื้องอาภร ผมผลักชัยลงไปนอนบนเตียงจากนั้นค่อยๆไล่ไปเลียที่ติ่งหู ไล่ลงมาที่คอ ผมเริ่มไซร้และดูดเบาๆที่คอ จนเป็นที่พอใจ จากนั้นจึงลงมาดูดที่นมตอนนั้นชัยแอ่นหน้าอกขึ้นมา เพื่อเป็นการให้รู้ว่ามันคงเสียวมาก ผมเอามือลงไปคลึงที่เคของชัย ตอนนั้นมันแข็งมากแล้ว และมีน้ำแฉะซึ่งให้รู้ว่าพร้อมแล้วนั่นเอง พอคลึงไปสักพัก ผมจึงเลื่อนตัวผมลง จากนั้นจึงใช้ปากคล่อมลงไปที่เคของชัย ท่อนเอ็นแข็ง และอุ่นๆกำลังกระดกอยู่ในปากของผม ผมค่อยรูดขึ้นและลงช้าๆ เพิ่มความเร็วไปเรื่อย จนชัยเริ่มทนไม่ไหวจึง จับหัวผมออกจากเคของเขา แล้วผลักผมลงไปนอนบนเตียงแทน เขาเริ่มทำการดูดเคของผมบ้าง มันเสียวซ่านไปหมด ชัยดูดแรงมากจนผมเสียวเกือบจะทนไม่ไหว สักพักชัยจึงเอาปากออกจากเคของผม แล้วจึงแกะซองถุงยางออก ชัยเอาถุงยางมาใส่ที่เคของผม
“ที่รักวันนี้เดี๋ยวชัยทำให้นะ”
“ตัวเองอยากทำอะไรก็ทำเลย แฟนขออะไรทิวให้ได้ทั้งนั้นแหล่ะ”
พอสวมเสร็จ ชัยก็ขึ้นมานั่งค่อมผม ก้นของชัยตรงกับเคของผมพอดี เขานั่งลงบนเคชัยเอามือไปขยับเคของผมแล้วนั่งลงไปผมรู้สึกได้ว่าเคของผมเริ่มเข้าไปที่ก้นของเขาแล้ว ชัยเริ่มแสดงสีหน้าเจ็บๆออกมา
“ชัยไหวไหม”
เขาเพียงแค่พยักหน้า ตอนนั้นแค่หาถุงยางได้ก็ถือว่าดีโขแล้ว ถ้าจะต้องไปหาKY มาด้วยก็คงยากกว่า สักพักเคผมก็ผลุดเข้าไปจนมิดด้ามชัยนั่งค้างอยู่อย่างนั้นสักพัก ก่อนที่จะก้มตัวลงมาจูบกับผม แล้วเขาก็กลับไปนั่งเหมือนเดิม แล้วก็เริ่มขยับตัวขึ้นลงแรกๆก็ช้าๆ สักพักเขาก็เริ่มทำเร็วขึ้น มันเสียวดีเคขอชัยก็ตีตรงท้องของผมดังแปะๆ ประกอบกับเสียงครางของชัย มันช่างได้อารมณ์เหลือเกิน ผมเห็นว่าชัยสนุกอยู่คนเดียว ผมจึงลุกขั้นแล้วอุ้มชัยให้ลงมานอนจากนั้นผมจับขาของชัยมาพาดที่ไหล่ของผมจากนั้นผมจึงเริ่มซอยก้นของชัย ผมซอยได้ไม่นานน้ำเชื้อของชัยก็พุ่งออกมา มันพุ่งไปถึงหน้าอกของชัยคงจะเก็บมานานเพราะทั้งขาวขุ่น และออกมาเยอะมาก ผมยังคงซอยต่อไปสักพักผมเริ่มจะทนไม่ไหว
“ชัย ทิวไม่ไหวแล้ว”
“ซอยเร็วๆเลยที่รัก”
ผมจึงซอยเร็วมากจนสักพักผมคิดว่าไม่ไหวแล้ว น้ำของผมจึงแตกในก้นของชัยแต่มีถุงยางเป็นตัวกั้นกลางไว้ ผมยังคงซอยเบาๆ และคาไว้สักพักจึงค่อยนำออกมา ผมเดินไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำเชื้อให้ชัย จากนั้นชัยจึงเป็นคนมาถอดถุงยางออกจากเคของผม
“อื้อหือ น้ำเยอะนี่ทิว เสียดายรู้งี้ดูดให้แตกดีกว่า”
“บ้า ห่อแล้วเอาไปทิ้งได้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อนก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบเลย”
ชัยจัดการห่อแต่ก็ยังกองไว้ที่พื้นห้อง แล้วเราสองคนก็นอนแผ่หลาบนเตียง เรานอนเล่นกันสักพักแล้วจึงเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน เมื่อออกมาแต่งตัวเสร็จผมกับชัยจึงลงไปข้างล่าง ตอนนั้นพ่อของชัยกำลังดูละครอยู่จึงไม่ค่อยได้สนใจพวกผมเท่าไหร่ ผมสองคนจึงกินข้าวหลังผู้ใหญ่ เมื่อกินเสร็จผมก็ช่วยชัยเก็บล้างจนเสร็จแล้วกลับขึ้นไปบนห้อง
“เออ ทิวเล่นดนตรีเป็นนี่ ตอนนี้วงโยของโรงเรียนกำลังเปิดรับนักดนตรีใหม่แทนพวกรุ่นพี่ที่ออกไปสนใจป่าว”
“ก็สนใจนะ แต่ว่าตอนนี้อยู่ศิลป์แล้วด้วยสิ ถ้าไปดนตรีก็ต้องทิ้งศิลป์ไป”
“เห็นครั้งนี้ปูมันจะไปสมัครนะ”
“แต่ปูเล่นดนตรีไม่เป็นแล้วจะเข้าไปเล่นยังไงหล่ะ”
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นว่าถ้าไม่เป็นเดี๋ยวเขาจะสอนให้แต่ว่าจะยังไม่ได้เล่นออกงาน ต้องรอให้เล่นเป็นก่อน”
“อ่อ ว่าแล้วทำไมที่นี่ถึงเล่นตัวโน๊ตแปลกๆ”
“เรื่องนี้ชัยก็ไม่ค่อยสันทัดเหมือนกัน แค่เอาข่าวมาบอกเฉยๆ”
“เดี๋ยวค่อยคิดละกัน นอนกันเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าตัวเมืองกัน”
“จ้า ทิวปลุกเราด้วยนะถ้าตื่นก่อนอ่ะ”
“จ้ะ ก่อนนอนขอหอมแก้มหน่อยดิ๊”
ผมหอมแก้มทั้งสองข้างของชัย ก่อนที่ชัยจะสลับมาหอมผมบ้าง ชัยเดินไปปิดไฟแล้วผมสองคนก็นอนหลับไปในคืนแห่งความสุขอีกวัน
ตอนที่13
เช้าวันใหม่ ชัยตื่นขึ้นมาก่อนผมเขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วจึงเดินมาปลุกให้ผมตื่น ผมจึงเข้าห้องน้ำอาบน้ำแล้วออกมาแต่งตัว ปรากฏว่าชัยเตรียมชุดเสื้อผ้าไว้ให้ผมหมดแล้ว
“ทิว เราเตรียมชุดให้หมดแล้วนะ”
“ขอบใจมากนะ ว่าแต่ตกลงไป9โมงจะได้กลับกี่โมงเนี่ย”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันก็เดินเที่ยวจนเบื่อก็กลับได้แล้วมั้ง นี่วันนี้พ่อเราจะขับรถไปส่งพอดี แม่จะเข้าไปซื้อของในตัวเมืองพ่อเลยขับรถไปส่งรวดเดียวเลย”
“อืมก็ดีนะ”
พอผมแต่งตัวเสร็จชัยก็พาผมลงไปข้างล่างกินข้าว พอกินเสร็จก็ได้เวลาไปลุยกันแล้วจริงๆมันก็เลยเวลามาจน9.40น. แล้วหละ จากอำเภอของผมมาถึงตัวเมืองก็ประมาณ 30นาที พ่อแม่ของชัยพาพวกผมมาปล่อยลงที่ศูนย์ITของโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่นี่ชัยพาผมไปร้านขายเกม ผมเดินเลือกอยู่นานก็ยังหาไม่ได้ เพราะร้านที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นก็อปมากกว่า ไม่ใช่ว่าผมหัวสูงแต่อย่างไรแต่เกมแผ่นแท้นั้นมีสิทธิ์ต่างๆที่เหนือกว่าแผ่นก็อปอยู่เยอะพอสมควร สุดท้ายผมก็ได้มา3เกม จากนั้น ชัยก็พาผมเดินออกมา แล้วพาเดินไปห้างสีเขียวที่อยู่หน้าโรงแรม ที่นี่ชัยพาผมเข้าไปหาหนังสือ ผมเข้าไปเลือกซื้อหนังสือจึงต้องแยกกับชัย ผมได้หนังสือมา3เล่ม หนังสือที่สาขานี้น้อยมากแถวร้านก็ค่อนข้างเล็ก เป็นหนังสือวรรณกรรมเยาวชน ผมออกมายืนรอชัยอยู่หน้าร้าน สักพักชัยก็ออกมาพร้อมกับหนังสือ2เล่ม
“ซื้อหนังสือไรเหรอ ทำไมเลือกนานจัง”
“ก็หนังสือที่อยากจะให้กับคนสำคัญของเรา”
“ซื้อคู่มือทำอาหารให้แม่ หรือว่าซื้อคู่มือดูแลรถให้พ่อหละ”
“บ้า ซื้อให้ทิวนั่นแหล่ะ”
“จะซื้อให้ทิวทำไม ทิวได้หนังสือแค่นี้ก็อ่านได้ตั้งนานแถมยังอ่านได้ตั้งหลายรอบแล้ว”
“ก็อยากซื้อให้ เห็นว่าชอบอ่านพวกประวัติศาสตร์ ชัยก็เลยซื้อหนังสือให้”
“เรื่องอะไรหรอ ถ้าพวกประวัติศาสตร์ทิวมีหลายเล่มแล้วนะ”
“เอาไปดูสิว่ามีหรือยัง”
ผมหยิบถุงหนังสือจากมือชัยและนำมันออกมา ปรากฏว่าเป็นหนังสือที่ผมยังไม่มีและก็กำลังตามหาอยู่ด้วย เล่มหนึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวประวัติศาสตร์สงครามสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ส่วนอีกเล่มเป็นเรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์โรมานอฟ ตอนนั้นดีใจมาก ผมจึงขอบคุณชัยเป็นการใหญ่
“บอกแล้วว่าทิวต้องชอบ”
“ว่าแต่ทำไมเรื่องพวกนี้ชัยถึงว่าเราชอบหละ”
“เรื่องแค่นี้มันเล็กๆ การคบกันก็คือการเรียนรู้กันและกัน”
คำพูดของชัยทำให้ผมปลื้มจนอยากจะกระโดดกอดแต่ว่าที่นี่ผู้คนเยอะแยะไปหมด เดี๋ยวพาไปอีกห้างหนึ่ง
ชัยพาผมเดินมาไม่ไกลนักก็ถึงคิวรถสองแถวก็ต้องคนขึ้นเกือบเต็มคันรถจึงออก นั่งไปไม่นานรถก็มาถึงห้างแล้วแต่ต้องข้ามสะพานลอยไปอีก ชัยพาผมเดินเล่นสักพักก่อนที่จะพาเข้าไปหาอะไรกินที่เคเอฟซี พวกเราสั่งเสร็จแล้วก็ไปนั่งกัน เรานั่งกินกันไปสักพัก พลันก็เหลือบไปเห็นแนนกับพี่ชายของเขาเดินเข้ามาในร้านด้วยเช่นกัน แต่เหมือนเขาจะเห็นผม แนนจึงเดินตรงเข้ามาหาผม
“ทิว”
“ดีแนน สบายดีเหรอ”
“ก็คงสบาย ถ้าใครบางคนไม่หายหน้าไป”
“ทิวไม่ได้หาย แต่ตอนนั้นเห็นว่าแนนโกรธก็เลยไม่กล้าที่จะเข้าไปหาหรือโทรไป”
“หรอ ไม่ใช่เพราะติดเพื่อนหรือไง”
“คือ ทิวว่าอย่าพึ่งคุยกันเรื่องนี้เลยนะ ไว้กลับไปเดี๋ยวทิวจะไปหาที่บ้านนะ”
“ไปหาเหรอทิว ตลอดมาทิวคิดจะโทรมาหาแนนบ้างหรือป่าว หรือแค่โผล่หน้ามาให้เห็นบ้างก็ไม่มีสักครั้ง”
“ก็แนนยังโกรธทิวอยู่ไม่ใช่หรอ”
“ที่แนนโกรธก็คือการที่ทิวไม่ยอมมาขอโทษและไม่ยอมมาง้อแนน”
“คือว่าตอนนี้ทิวว่าเราหยุดพูดเรื่องนี้ก่อนนะ เดี๋ยวเรากลับไปคุยกันที่บ้าน”
“ก็ได้ถ้าวันนี้ทิวไม่มา แนนจะไปบ้านทิวเอง”
แล้วแนนก็เดินจากไป ตอนนั้นคนที่ผมรู้สึกแคร์ที่สุดกลายเป็นชัย เพราะผมกับชัยเรารักกันมาก็ถือว่านานเหมือนกัน แต่แนนเขากลับยังคงมั่นในตัวผมอยู่
“ทิว OKนะ”
“OKสิ ทำไมเหรอ”
“ทิวจะทำยังไงต่อไป”
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ทิวอยู่กับใครหล่ะ”
“ก็อยู่กับเราไง”
“นั่นแหล่ะคำตอบที่แท้จริงของทิวเอง”
“แล้วแนนหล่ะทิวจะทำยังไง”
“ตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลย รีบๆกินเถอะอย่าพึ่งไปคิดเลย เดี๋ยวจะหมดสนุก”
“ดูทิวจะไม่ทุกข์ร้อนเลยนะ”
“ก็ทิวบอกแล้วไงว่าตอนนี้ทิวอยู่กับใคร”
“จ้าๆ”
ผมสองคนจึงกินต่อให้เสร็จแล้ว ชัยก็พาผมเดินเล่นต่อ พอเดินกันจนทั่วแล้วพวกเราก็เลยตัดสินใจกลับก็ต้องนั่งรถไปลงที่ขนส่งและชัยก็โทรให้พ่อมารับ ตอนนั้นพ่อของชัยอยู่บ้านเพื่อนแถวนั้นพอดี พวกเราจึงรอไม่นานพอขึ้นรถได้ไม่นานผมก็เผลอหลับไป มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พ่อของชัยแวะเข้าเติมน้ำมัน ชัยนอนเอาหัวมาซบอยู่ที่ไหล่ของผม แต่พ่อแม่เขาก็ไม่ได้เอะใจอะไรหรอกก็ผมสองคนยังเด็กอีกอย่างในรถก็แบบนี้แหล่ะ พอกลับถึงบ้านผมจึงขึ้นไปบนห้องชัยเพื่อเก็บของแล้วกลับบ้าน
“ทิว เรารักนายนะ ไม่ว่าทิวจะเลือกทางไหนแต่ให่รู้ไว้นะว่าเราจะรักทิว”
“ไม่ว่าจะยังไงทิวก็ยังรักชัยเสมอนะ”
แล้วผมก็กลับบ้าน พอถึงบ้านวันนี้พ่อแม่ปิดร้านไม่มีใครอยู่ แม่ทิ้งโน๊สไว้เพียงว่าจะไปงานศพคนรู้จักที่ชลบุรีจะกลับดึกๆ พอ่านโน๊สเสร็จผมจึงรีบโทรไปหาแนน
“แนน กลับถึงบ้านหรือยัง”
“ถึงแล้วรอทิวอยู่”
“คือตอนนี้ทิวพึ่งมาถึงบ้าน”
“เหรองั้นยังไม่ต้องมาหาแนนหรอกเดี๋ยวแนนไปหาทิวเอง”
“เฮ้ยจะมาได้ไงแนนเป็นผู้หญิงนะ”
“แล้วยังไงหรอทิว แนนไปหาไม่ได้ใช่หรือป่าว หรือว่าพาใครมาอยู่ด้วยหรือไง”
“ไม่ใช่อย่างงั้น เดี๋ยวพ่อแม่ทิวเขาจะมองแนนไม่ดี”
“วันนี้พ่อแม่ทิวไม่อยู่ เพราะก่อนที่จะไปตัวเมืองแนนจะแวะไปหาทิว แต่พ่อแม่ของทิวกำลังปิดบ้าน”
“เดี๋ยวคนอื่นจะมองแนนไม่ดีหละสิ เดี๋ยวทิวไปหาแนนเองนะ”
“ทำไมซ่อนคนอื่นที่ไม่ใช่แนนไว้ใช่มั้ย”
“แนนเชื่อทิวบ้าง ทิวไม่ได้พาใครมาแอบหรือมาซ่อน ทิวพึ่งกลับมาจากตัวเมืองเองนะ”
“แล้วทำไมต้องโกหกเรื่องพ่อแม่ด้วย”
“ทิวไม่ได้โกหกอะไรเลย”
“ไม่ต้องหรอกทิว แนนอยู่ที่หลังบ้านทิวแล้ว ทีนี้เรื่องที่ว่าคนอื่นจะมองไม่ดีก็หมดแล้วนะ”
“โอเคๆ เดี๋ยวลงไปหาก็ได้”
ผมจึงเดินลงไปเปิดหลังบ้าน แนนยืนรออยู่แล้ว
“หลบไป” แล้วแนนก็เดินเข้ามาในบ้านผม ผมจึงต้องเดินตามเข้าไป
“แนนเข้ามาแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ อยู่กันสองต่อสองถ้าคนเห็นแล้วจะว่ายังไง”
“ก็แล้วไงเหรอทิว แนนแค่เข้ามามันจะเสียหายมากเลยหรือไง”
“แนนทำแบบนี้เพื่ออะไรกันแน่”
“ก็มาเอาความรักของแนนคืนไง”
“แนน มันไม่มีแล้วความรักของเรา”
“หมายความว่ายังไงอ่ะทิว”
“คือทิวว่าเราเลิกกันเถอะแนน เราสองคนไปด้วยกันไม่ได้หรอก”
“ยังไงหรอที่ไปด้วยกันไม่ได้ ทิวมีคนใหม่หรือไง”
“ไม่ทิวไม่ได้มีใครใหม่ แต่ว่าเราสองคนไม่ค่อยมีเวลาให้กันอีกอย่างช่วงที่เราห่างกัน ทิวก็อยู่ของทิวได้โดยไม่มีแนน”
“ทิวกำลังบอกว่าทิวหมดรักแล้วใช่มั้ย”

ืnneess

ขอบคุณครับ

4_NAY

พูดให้หมดเลยทิว

minone

ขอบคุณครับผม

Gngkung

ขอบคุณครับ