ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 1084|ตอบกลับ: 34

Stair.ขยับรัก ข้ามขั้น : (รุ่นพ่อ?VSรุ่นลูก)+++ 7

 มาแรง.. [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


   นพรัตน์กลับออกมาพร้อมกับยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำเขาเดินมาทางผมพร้อมกับถามอย่างเป็นห่วง
   “ไปหาหมอมั้ยครับ?”
   ผมสั่นศีรษะและชี้มือไปที่ตู้ยาข้างเคาน์เตอร์ครัว

“กินยาแล้วพักเดี๋ยวคงหาย”
   “อือ” เขาส่งเสียง

“เมื่อคืนฝนตก ผมก็ลืมปิดหน้าต่างให้คุณ”
   “ไม่เป็นไรหรอก” ผมพูดอู้อี้ ใครมันจะไปนึกว่าฝนจะตกกลางดึกล่ะ
“ไปทำงานเถอะ” ผมว่า เพราะเห็นเขาแต่งตัวเรียบร้อยเตรียมจะออกไปทำงานอยู่แล้ว แต่คงแวะมาหาผมเพื่อคืนกุญแจก่อน นพรัตน์เก็บผ้าเช็ดหน้า แล้วหันมาเอามือแตะหน้าผากผม
   “มีไข้ด้วยนะ คุณนอนพักก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมออกไปหาซื้อโจ๊กมาให้ ยังไม่ได้ทานอะไรใช่ไหมครับ?”
   ผมสั่นศีรษะ แต่ก็ยังพูดต่อด้วยความเกรงใจ
“ไม่ต้องหรอก ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวสายๆ ไข้ลด ผมค่อยออกไปเอง”
   นพรัตน์มองผมด้วยสีหน้าแย้งเต็มที่ ก่อนจะจับผมนอนลงบนโซฟา และใช้หลังมือแตะหน้าผากผมอีกรอบ
   “ไข้อยู่จริงๆ ด้วย เดี๋ยวนะครับ” เขาพูด และลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ จากนั้นก็กลับออกมาพร้อมด้วยขันน้ำ ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองชุบน้ำแล้วเช็ดตัวผม
   ผมรู้สึกแปลกๆ นานแล้วที่ไม่มีใครเช็ดตัวให้ผม มันเป็นประสบการณ์สมัยยังเป็นเด็กเล็กๆ โน่น มาโดนเช็ดตัวอีกทีตอนอายุสี่สิบกว่า แถมคนเช็ดยังเป็นเด็กรุ่นลูกรุ่นหลานผมอีก
   “มีผ้าขนหนูอยู่ในตู้ชั้นบนน่ะ” ผมพูด เพราะนึกกระดากที่ต้องให้เขาเอาผ้าเช็ดหน้าตัวเองเช็ดตัวให้ นพรัตน์พยักหน้า ลุกหายไปพักหนึ่ง ก็กลับมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กๆ เขาเช็ดตัวผมอย่างเบามือ พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
   “นอนพักนะครับ เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อโจ๊กมาอุ่นไว้ให้ ทำใจให้สบายๆ นะ”
   ผมพยักหน้า และหลับตาลง ผมได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม คงจะมาจากเสื้อของนพรัตน์ เพราะร้านที่ผมส่งซักไม่ได้ใช้กลิ่นนี้ ผมเพิ่งรู้อีกเหมือนกันว่าเขาไม่ได้ใส่น้ำหอม อืม.. นี่ล่ะมั้งที่ทำให้เขานั่งทำงานห้องเดียวกับผมได้ ผมแพ้น้ำหอมบางกลิ่น และจะจามอย่างหนักหากมีใครใส่แล้วเดินเฉียดเข้ามาใกล้ ขนาดอาจารีย์ยังต้องเปลี่ยนน้ำหอม ตอนที่เข้ามาทำงานกับผมแรกๆ
   ผ้าชุบน้ำเย็นๆ ที่เช็ดลงบนตัว ทำให้อาการไข้ของผมดีขึ้น ผมปล่อยให้เขาเช็ดจนถึงฝ่าเท้า จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ
“เดี๋ยวผมกลับมานะครับ นอนพักเยอะๆ นะ”
   ผมตื่นมาอีกครั้ง พร้อมกับอาการไข้ที่ลดลงจนพอจะหายใจคล่องขึ้น พอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าแดดร้อนเปรี้ยง ไม่ต้องดูนาฬิกาก็พอเดาได้ว่ากี่โมง ผมพยุงตัวเองลงจากโซฟา เดินไปเข้าห้องน้ำ กระเพราะเริ่มถามหาของกินที่ยังไม่ตกลงไปเลยตั้งแต่เมื่อวาน ผมจึงตรงไปที่โต๊ะกินข้าวต่อ เมื่อเปิดฝาชีออกก็พบโจ๊กถ้วยหนึ่งวางอยู่ คงจะเป็นนพรัตน์ที่ซื้อมาตั้งเอาไว้ให้
   บรรยากาศในบ้านยังคงเงียบสงบเช่นเคย ผมนั่งทานโจ๊กที่ยังอุ่นๆ อยู่ พลางฟังเสียงนกเสียงหมาเห่าที่ดังแว่วมาเป็นระยะด้วยความรู้สึกผ่อนคลายระดับหนึ่ง ผมนึกถึงเจ้าของโจ๊กถ้วยนี้ นึกถึงมือเบาๆ ของเขาที่พยายามเช็ดตัวให้ผม
และนึกดีใจว่ายังมีเด็กดีๆ แบบนี้เหลืออยู่ สงสัยบางทีผมอาจจะทำให้เขานึกถึงญาติผู้ใหญ่ที่บ้านล่ะมั้ง
   ถึงตรงนี้ผมอดหัวเราะไม่ได้ จริงๆ ผมเองก็อายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว การที่เขาจะมองเหมือนญาติผู้ใหญ่ก็คงไม่แปลก พอนึกถึงพฤติกรรมของเขาที่ผ่านมาแล้วผมก็นึกเอ็นดูขึ้นมา เขาคงเห็นผมเหมือนน้าเหมือนอาคนหนึ่ง ผมควรจะลดระดับความเขี้ยวใส่เขาลงสักหน่อย
   แต่แบบนั้นก็คงไม่ดี ผมจะเอาเรื่องความเอ็นดูส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานไม่ได้
   ผมนั่งนึกเรื่องเขาในภาวะของคนเป็นไข้ และตกลงใจเอาเองว่าผมจะญาติดีกับเขาเพิ่มขึ้นนอกเวลางาน อย่างน้อยก็คงพอจะตอบแทนความมีน้ำใจของเขาได้บ้าง
   ขณะที่นั่งนึกๆ อยู่ เสียงเรียกของใครคนหนึ่งก็ทำให้ผมสะดุ้ง พอชะเง้อมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นนพรัตน์ยืนอยู่หน้าประตูรั้ว ผมรีบลุกไปเปิดประตูให้เขาอย่างคนที่ยังเจ็บยอกอยู่นั่นแหละ
   “ดีขึ้นหรือยังครับ?” นั่นคือประโยคแรกที่เขาถามเมื่อเห็นหน้าผม ก่อนจะกุลีกุจอเข้ามาประคองผมที่ยังเดินไม่ค่อยสะดวกดีกลับเข้าบ้าน ผมพยักหน้าหงึกๆ
   “ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ”
   “ดีจัง” เขาพูดพลางยิ้มกว้าง ผมไม่เคยนึกชอบรอยยิ้มของใครมานานแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่มักยิ้มเพราะหวังผลประโยชน์ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มของนพรัตน์ดูสะอาดจริงใจดี คงเพราะเขายังเด็กอยู่ล่ะมั้ง เลยยัง
ไม่ค่อยประสีประสาว่าต้องแสดงละครแบบไหนยังไงต่อหน้าใครเท่าไหร่
   ผมยกมือขึ้นลูบศีรษะเขาอย่างเอ็นดู เหมือนนพรัตน์จะหน้าแดงนิดหน่อย เขาเหลือบมองผม ก่อนจะมองผ่านไปยังโต๊ะอาหาร
   “ทานโจ๊กอยู่หรือครับ?” เขาว่า และรีบประคองผมไปนั่งหน้าถ้วยโจ๊ก ก่อนจะวางถุงก๊อบแก๊ปที่ถือมาลงบนโต๊ะ
   “ไปทำงานหรือยังน่ะ?” ผมถามอย่างสงสัย และเริ่มรู้สึกไม่ดีหากเขาขาดงานเพราะต้องมาดูแลผม นพรัตน์พยักหน้า
   “ครับ ผมแวะมาดูคุณตอนพักเที่ยง เห็นคุณลุกขึ้นได้แล้วผมก็สบายใจล่ะ เอ่อ... ผมนั่งทานด้วยได้รึเปล่า?”
   ผมพยักหน้า ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไร ก็เขาซื้ออาหารมาแล้วนี่นะ นพรัตน์ยิ้มกว้างอีก และออกปากยืมจานยืมช้อนผม ก่อนจะหายไปหลังบ้าน
   ผมมองมือเขาที่กำลังตักข้าวผัดปูเข้าปาก พลางนึกถึงความทรงจำเลือนรางเมื่อสมัยยังหนุ่มๆ ใครสักคนที่ผมเคยนั่งกินข้าวด้วยเมื่อนานมาแล้ว
   คนคนนั้นก็เคยเป็นเด็กหนุ่มที่ร่าเริงสดใส และยิ้มเก่งแบบนี้เหมือนกัน
   ผมเงยหน้าขึ้นมองนพรัตน์ และนึกเข้าใจขึ้นมาว่าทำไมพักนี้ผมถึงได้ฝันเกี่ยวกับเรื่องราวเก่าๆ บ่อยนัก คงเพราะการเข้ามาของเขาทำให้ผมนึกถึงคนคนนั้น
   พรายโพยม
   เหมือนความฝันจริงๆ ช่วงเวลาความรักสดใสของเขากับผม ไม่รู้ว่าเราเริ่มคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่ผมจำได้ วันหนึ่งเขาก็ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับผมแล้ว เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ดีกันบ้างทะเลาะกันบ้าง ตามประสาวัยรุ่นทั่วไป ผมมีเขาอยู่ใกล้เสียจนเคยชิน ไม่เคยนึกเลยว่าจะต้องจากเขาไปวันใดวันหนึ่ง ช่วงนั้นเรามีชีวิตผ่านไปวันๆ อย่างแสนสนุกสนาน
   จู่ๆ ผมก็นึกถึงมือของเขาที่ค่อยๆ ขยับมาจับมือผมไว้ นึกถึงสีหน้ายิ้มแย้มและเสียงหัวเราะเบิกบานนั้น เหมือนผ่านมานานแสนนาน และก็เหมือนเพิ่งผ่านมาไม่กี่วันนี้เอง ผมยกมือของตัวเองขึ้นมอง และมองเห็นริ้วรอยแห่งกาลเวลาบนนั้น
   “มีอะไรหรือครับ?” นพรัตน์ถามอย่างสงสัย เมื่อผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมหันไปมองเขา และสั่นศีรษะ
“ไม่มีอะไรหรอก ทานต่อเถอะ”
   นพรัตน์มองผมด้วยสีหน้างุนงง ก่อนจะก้มลงมองนาฬิกา และหยิบถ้วยจานทั้งของเขาและผมไปล้าง ก่อนที่ผมจะทันได้อ้าปากห้าม ก่อนจะกลับออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดหน้าในมือ
   “ผมไปก่อนนะ เดี๋ยวเลิกงานจะแวะมาหานะครับ”
   ผมยิ้มให้เขาอย่างเหนื่อยๆ
“ไม่ต้องแวะมาหรอก ผมดูแลตัวเองได้”
   นพรัตน์มองผม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาออกไปทั้งๆ แบบนั้น ผมมองเขาขับรถออกไป แล้วถอนหายใจอีกครั้ง หันมองเก้าอี้ที่เขานั่งเมื่อครู่
   ความเหงามันจะชัดเจนขึ้นมา ตอนที่มีสิ่งให้เปรียบเทียบนี่แหละ
   นพรัตน์แวะมาหาผมอีกทีตอนเย็นจริงๆ ผมถึงกับหน้านิ่วกิ่วเพราะต้องยักแย่ยักยันหอบสังขารที่ถูกรุมทั้งไข้ทั้งอาการยอกออกมาเปิดประตูให้เขา
   “บอกแล้วไงว่าไม่ต้องแวะมา” ผมว่า ขณะที่เขาช่วยประคองกลับเข้ามาในตัวบ้าน
   “ยังเจ็บมากหรือครับ?” เขาถาม เพราะเห็นผมยังเดินกระย่องกระแย่งอยู่ ผมส่งเสียงในคอ
“อืม”
   ต่อให้ไม่อยากยอมรับแค่ไหน แต่ร่างกายผมไม่เหมือนเด็กหนุ่มวัยยี่สิบสามยี่สิบสี่แล้ว แค่ล้มก้นจ้ำเบ้าน่ะหนักหนาสาหัสเสียยิ่งกว่าอะไรดี ผมปรายตามองเขา ด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะความเจ็บ เขาหน้าเจื่อนลงหน่อยหนึ่ง และพูดอ้อมแอ้ม
“ขอโทษนะครับ คือผมเป็นห่วง”
   เจอแบบนี้ผมก็ไม่รู้จะหงุดหงิดต่ออย่างไรดี ในที่สุดผมก็ถอนหายใจเฮือก กวักมือเขาเข้ามานั่งใกล้ๆ
   “ผมพูดจริงจังนะ คุณนพรัตน์ ทำดีกับผมไป ก็ไม่ช่วยให้คุณได้เลื่อนตำแหน่งหรือได้เงินเดือนเพิ่มหรอก มันอยู่ที่ประสิทธิภาพการทำงานของคุณที่บริษัท”
   “ครับ ผมรู้” เขาพูด และนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองผม ผมมองเขาอยู่พักหนึ่ง นึกสะท้อนใจกับดวงตาคู่นั้น ดวงตาสีดำสนิท ทอประกายแห่งความมุ่งมั่นของคนหนุ่ม ดวงตาที่ผมไม่เคยเห็นมานานแล้ว ผมถอนหายใจอีก
   “ผมพูดจริงๆ นะ”
   “ครับ” นพรัตน์ตอบ
“ผมไม่ได้หวังตำแหน่งหรือเงินเดือนหรอกครับ ผมแค่อยากดูแลคุณ”
   “.....................”
   เราสองคนเงียบกันไปพักใหญ่ เงียบเสียจนได้ยินระฆังลมที่แขวนอยู่ตรงหน้าต่าง ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะถามออกไป
   “ทำไม?”
   นพรัตน์เหลือบตาขึ้นมองผมแวบหนึ่ง ก่อนจะหลุบลงไป หน้าแดงวาบขึ้นมา เขาขบริมฝีปากเหมือนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ตั้งแต่มาทำงานได้เดือนกว่า ผมเพิ่งเห็นเขามีท่าทีกระสับกระส่ายก็ตอนนี้แหละ ลมด้านนอกพัดแรงขึ้น นพรัตน์มีท่าทีละล้าละลังอย่างเห็นได้ชัด จนผมอดคิดไม่ได้ว่าไปสะกิดความรู้สึกอะไรของเขารึเปล่า จึงพูดต่อ
   “ช่างเถอะ”
   นพรัตน์เงยหน้าขึ้นมองผมทันที
“คือ.....”
   เขาอ้ำๆ อึ้งๆ ขณะที่ผมมอบตอบ ผมเพิ่งรู้สึกนี่เองว่าสายตาของเขาเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ ที่ดูจะอยากคลอเคลียกับเจ้าของ เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ผมหลบสายตาคนอื่นก่อน
   “เอาว่าเชื่อผมเถอะนะครับ ที่ผมทำดีกับคุณ ผมไม่ได้หวังเงินเดือนหรือตำแหน่งหรอก”
   ผมพยักหน้า จู่ๆ ก็ขี้เกียจจะไล้จี้เขาต่อ ช่างเถอะเขาจะทำดีกับผมเพราะหวังอะไรก็ช่าง ผมไม่หวั่นไหวไปกับเรื่องพวกนี้หรอก มีชีวิตมาสี่สิบกว่าปี ผมผ่านอะไรมามากพอจะแยกแยะได้แล้วว่า อะไรควรหรือไม่ควรตอนไหน
   นพรัตน์มองผมพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นต่อ
“ทานอะไรหรือยังครับ?”
   ผมสั่นศีรษะ ได้ยินเสียงเขาพูดอีก
“ผมซื้อโจ๊กมาฝาก แต่ถ้าเบื่อแล้ว ผมซื้อกับข้าวมาด้วยล่ะ” พูดจบก็กุลีกุจอหยิบสารพัดถุงที่ถือเข้ามาไปวางที่โต๊ะอาหาร ก่อนจะผลุบหายเข้าไปในครัว ผมมองเขาวุ่นอยู่กับการเทกับข้าวพวกนั้นลงถ้วยแล้วรู้สึกแปลกๆ
   นานแล้วที่ไม่มีใครเข้ามาทำอะไรในบ้านนี้
   ปกติผมอยู่บ้านคนเดียวตลอด เพื่อนฝูงก็ออกไปสังสรรค์กันข้างนอก ญาติพี่น้องส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะแวะมา เพราะรู้ว่าผมไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ ภาพการทำนั่นทำนี่ของนพรัตน์จึงดูแปลกตาผมอยู่พอสมควร
   สุดท้ายผมก็ฝืนสังขาร พาตัวเองไปที่โต๊ะกินข้าว เพราะไม่อยากนั่งงอมืองอเท้ารอเขามาพยุงไปเหมือนคนเป็นอัมพาต พอเห็นผมเดินมา เขาก็รีบวางมือจากจานอาหารพวกนั้น แล้วตรงมาช่วยพยุงผมทันที
   “ไม่ต้องหรอก” ผมรีบพูด แต่ก็คงช้าไปสักหน่อย เขาปราดเข้ามาถึงผมอย่างรวดเร็ว และแทบจะอุ้มผมไปที่เก้าอี้ ผมเงยหน้ามองเขา และพบว่านพรัตน์เป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ผิวขาว ผมดำสนิท สันจมูกโด่งได้รูป รับกับสันคางคมสวย ทำไมถึงได้มาเสียเวลาดูแลตาแก่อย่างผมนะ ทั้งๆ ที่ตอนเย็นเขาควรจะออกไปเที่ยวผ่อนคลายกับเพื่อนฝูงแท้ๆ
   จู่ๆ ทางนั้นก็หันมามองหน้าผม สายตาที่ประสานกันทำให้หัวใจผมเต้นแรง ดวงตาสีดำสนิท มองมายังผมด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่าง ดวงตาที่ใสราวกับน้ำในแก้ว แม้เห็นไม่ชัดนักแต่ก็ยังรู้สึกได้ ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นดัง ตึก ตึก ก่อนจะราบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเขาประคองผมลงนั่งบนเก้าอี้ ผมมองเขาอีกครั้ง และถอนหายใจ

   เขาก็แค่เด็กหนุ่มอายุคราวลูกที่เป็นผู้ช่วยของผมที่ทำงาน ก็แค่นั้นเอง
   “อยากทานอะไรล่ะครับ” นพรัตน์ถามทั้งๆ ที่เป็นการถามธรรมดาแท้ๆแต่ทำไมผมถึงเห็นว่าสีหน้าของเขาเหมือนคนพยายามจะกลั้นยิ้มเต็มที่แถมหน้ายังแดงเรื่อขึ้นมาอีก ไม่เข้าใจเด็กสมัยนี้จริงๆท่าทางของผมมันไปสะกิดโดนเส้นตลกเขาตรงไหน




นิสิตสัมพันธ์

อยากมีเพื่อนคุยกินเที่ยวกัน

กระทู้
594
พลังน้ำใจ
30581
Zenny
218344
ออนไลน์
3227 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2012-7-19 11:50:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
"ความรัก!เกิดจากความเข้าใจของคนสองคนและมักจบลงด้วยค ...

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
1626
Zenny
21830
ออนไลน์
318 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-7-20 12:09:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

คร้าบ  โพสต์ 2012-7-22 16:53
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
โพสต์ 2012-11-25 10:19:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ง่าสส ชอบๆ ><

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
10
พลังน้ำใจ
19466
Zenny
291
ออนไลน์
2607 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-11-28 16:26:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอบคุณมากครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
2621
Zenny
10139
ออนไลน์
431 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-11-30 21:39:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณขร๊า อิอิ{:sm-17:}

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
13765
Zenny
3299
ออนไลน์
863 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-12-19 15:42:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-4-7 11:41:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
6
พลังน้ำใจ
28653
Zenny
19295
ออนไลน์
2568 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-4-7 23:37:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆ ครับ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 15:52:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-22 23:29:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
1149
Zenny
4005
ออนไลน์
328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-28 22:58:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
6
พลังน้ำใจ
10898
Zenny
2271
ออนไลน์
1565 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-1-5 20:54:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
679
Zenny
156
ออนไลน์
324 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-6 23:09:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคับผม{:sm-50:}

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
266
Zenny
-29
ออนไลน์
45 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-7 01:28:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออ่านต่อครับ

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
73
Zenny
-15
ออนไลน์
20 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-17 00:06:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขยับรัก ข้ามขั้น

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
26
Zenny
65
ออนไลน์
0 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-3-14 07:14:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
2584
Zenny
307
ออนไลน์
904 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-3-14 08:21:06 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราบ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
105
พลังน้ำใจ
4967
Zenny
148
ออนไลน์
713 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-4-24 20:32:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ{:6_171:}{:6_176:}

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1217
Zenny
-37
ออนไลน์
490 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-4-28 10:45:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 00:34 , Processed in 0.131806 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้