ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 3357|ตอบกลับ: 41

OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! 162 ( ตอนอวสาน)

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tanya เมื่อ 2012-12-11 10:46

ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
       ผมกระพริบตามองลูกกรงและลวดหนามที่อยู่เบื้องหน้าบอกตัวเองว่าถึงแม้ที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนนรก
แต่ก็มีหลากหลายอย่างแฝงอยู่ ทั้งความรัก มิตรภาพ และความเป็นเพื่อนเช่นเดียวกับกลโกง และเรื่องราวที่โหดร้ายและทารุณทั้งหลาย
ห้าปีที่เข้าไป ห้าปีที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ห้าปีที่แปรเปลี่ยนผมจากเด็กเล็กๆเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวโดยสมบูรณ์..
          กระดาษเอกสารประทับตราของผมถูกยื่นให้ยามรักษาการณ์ที่ประตูใหญ่อีกครั้ง  เขามองหน้าผมและมองเอกสารสักครู่ก่อนจะเซ็นรับ และเปิดประตูบานใหญ่..หนักนั้นออก  ผมยิ้ม สูดหายใจลึก..ก้าวขาออกไปเพื่อยืดอกรับอิสรภาพที่ได้มาด้วยความดีงาม ความพยายามและความถูกต้องของตัวเอง..
      สรรพเสียงแรกที่ต้อนรับยามก้าวขาออกจากเรือนจำคือเสียงรถราที่วิ่งสวนกันจนอดสะดุ้งไม่ได้ ผมกระพริบตาช้าๆ ยืนมองโลกภายนอกกรงขังด้วยหัวใจที่เต้นระทึก ห้าปีที่อยู่ในคุกได้ทำให้ความคุ้นชินเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แปรเปลี่ยนไปเสียหมด  โลกภายในห้องขังนั้นไม่ได้อึกทึกวุ่นวายด้วยเสียงรถราและผู้คน แต่ทว่าโลกใบนั้นก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอิสระเหมือนที่ๆผมยืนอยู่ตรงนี้
            "เนม..."
          เสียงเรียกที่แสนคุ้นหูดังขึ้นทำให้ผมชะงัก หันขวับไปมองใบหน้าที่คุ้นแสนคุ้นก่อนจะรู้สึกถึงลมหายใจที่สะดุดกับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาอย่างอัตโนมัติ ผมเดินแกมวิ่งไปหาคนๆนั้น ที่ยืนอยู่อีกฝั่งของถนน แววตาห่วงหาอาทร
และเปี่ยมด้วยความเมตตานั้นทำให้หัวใจที่ค่อยร้อนรนและสับสนค่อยๆสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ
           ผมเดินเข้าไปหา ดวงตาเบิกว้างจ้องมองรอยยิ้มแสนปรีดาของผู้หญิงตรงหน้า แขนสองข้างอ้าออก ริมฝีปากขยับโดยไม่มีเสียง เรียกชื่อคนที่รักผม และรอคอยผมมาตลอดห้าปีที่อยู่ในเรือนจำนั่น
           "แม่"
           ร่างของหญิงวัยกลางคนในอ้อมกอดนี้สั่นไหว ทั้งด้วยแรงสะอื้นร่ำไห้ด้วยความยินดีปนหัวเราะ ร่างเพรียวบางดูเล็กลงและผ่ายผอมกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำในความทรงจำ แม้จะพบกันครั้งสุดท้ายไม่นาน แต่มันเทียบไม่ได้เลย กับความรู้สึกที่ได้รับระหว่างการได้เจอกันท่ามกลางอิสระภายใต้ท้องฟ้า กับการพบเจอกันในเรือนจำที่ผมถูกพันธนาการอยู่
            ผมกอดร่างของมารดาไว้แน่น รู้สึกถึงน้ำหูน้ำตาที่เริ่มจะล้นทะลักของตัวเองบ้าง ความคิดถึงโหยหาที่รุนแรงในหัวใจถูก ขับออกมาด้วยอ้อมกอดที่รัดแน่นเช่นนี้ เนื้อตัวบางๆของมารดาสุดที่รักทำให้ผมอดจะสะท้อนใจไม่ได้ ในเวลาไม่กี่ปี ความทุกข์ระทมและความเศร้าหมอง ได้เผาผลาญความสดใสในแววตาของแม่ไปมากเท่าไหร่แล้ว
           ฝ่ามือเล็กๆแต่หยาบกร้านด้วยการทำงานหนักแตะลงบนผิวแก้มผม ฝ่ามือน้อยๆที่คอยโอบอุ้มค่อยลูบไล้และแตะต้องอย่างซ้ำๆพร้อมกับคำทายทักและรอยยิ้มที่หวานที่สุดเท่าทีเคยเห็น ฝ่ามือของแม่สั่นระริกยามที่จับมือผมไว้แน่น
และเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว
            "ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะลูก"
                 ผมจ้องมองใบหน้าของแม่ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวด้านหลัง ร่างของผู้หญิงอีกคนที่ยืนรอผมแบบเก้กังๆทำให้ผมชะงัก นัยน์ตามองร่างของคนที่ผมคิดถึงมากไม่ต่างกันที่ยืนรอแบบเงอะงะอย่างน่าเอ็นดูอยู่ตรงหน้า คนๆนี้มาหาผมไม่ได้บ่อยนัก อาจจะด้วยธุระของเจ้าตัวและสาเหตุอื่นๆ  แต่กระนั้นความอ่อนโยนห่วงหาในแววตานั้นก็ไม่ได้จางหาย ดวงตาของน้องสาวที่ผมไม่ได้เห็นมานานพอควรวาววับด้วยความยินดี ร่างกายบอบบางของหญิงสาวอายุยี่สิบค่อยเดินมาหา ขณะที่แม่ผละออกจากตัวผมและจ้องมองการพบกันของเราสองพี่น้องเงียบๆ
             ฝ่ามือของน้ำแตะลงที่มือผม สัมผัสนั้นอาจจะเก้ๆกังๆบ้างแต่ก็ชัดเจนว่าเต็มไปด้วยความรักใคร่ ริมฝีปากบางเอ่ยขมุบขมิบอะไรสักอย่างเบาๆ ก่อนเจ้าตัวจะจ้องมองผมด้วยแววตาที่ชวนให้คะนึงหานัก ดวงตาสดใส แววตาอันใสซื่อและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของน้องรัก ดวงตาที่ผมไม่ได้เห็นมานานแล้วนับแต่เกิดเรื่องในวันนั้น
             "พี่....." ริมฝีปากของน้ำสั้นระริกไหว ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาและเจ้าตัวจะปล่อยโฮออกมาแบบไม่ทันได้
ตั้งตัว ผมเบิกตากว้างกับท่าทีนั้น ก่อนที่เอวจะถูกจัดด้วยแขนน้อยๆของน้องสาว ร่างบอบบางนั้นซบลงกับแผ่นอกผมแล้วร้องไห้โฮๆเหมือนเด็กน้อย ริมฝีปากเล็กๆพร่ำขอโทษผมด้วยความอัดอั้นตันใจบ่งชัดด่าที่ผ่านมาเจ้าตัวน่าจะรู้สึกผิดและกดดันอยู่ไม่น้อยและอาจจะคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องติดคุก
             ผมยกมือขึ้นลูบหัวเจ้าตัวเล็กของตัวเองอย่างอาดูร แววตาใสๆนั้นทำให้นึกถึงเรื่องราวมากมายที่ผ่านมา ตัวผม
ที่ต้องพบเจออะไรมากมายระห่างที่อยู่ในนั้น และคนที่ได้นับบทเรียนก็ไม่ได้เพียงผม ผู้หญิงที่ผมรักทั้งสองคนนี้ก็คงมีเรื่องราวมากมายที่ต้องพบเจอไม่ต่างกัน
              จากวันที่เราต้องร่ำไห้และหัวใจแตกสลายกับความผิดพลาดนั้น มาวันนี้ ที่ผมกลับมาอีกครั้งด้วยการแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำผิดและสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างภาคภูมิ นั่นก็ทำให้น้ำตาผมไหลคลอได้ไม่ต่างกัน
             เสียงสะอื้นของน้องสาวยังไม่จางหาย ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะพยายามกลั้นน้ำตาของผมถูกแม่ลูบไล้เบาๆอย่างอ่อนโยน ก่อนที่แขนบางๆนั้นจะกอดผมไว้แน่น ร่างผอมของแม่สั่นไหวเพราะแรงสะอื้น ก่อนที่เราสามคนจะกอดกันกลมเพื่อร้องไห้ราวกับระบายความทุกข์ใจทุกส่วนในชีวิตให้หมด
               หัวใจของผมเต้นบอก ร่ำร้องอย่างแสนสุขกับท้องฟ้าสีครามและผู้คนที่รักซึ่งกำลังรายล้อมอยู่
               กลับมาแล้ว...
             "กลับมาแล้วครับ...แม่"
ชีวิตหลังจากนั้นเป็นยังไง?
        ถ้าถามว่าเป็นยังไง ผมก็ไม่รู้จะเล่าแบบไหน เอาเข้าจริงแล้วผมพบว่าความลำบากกายในคุก บางครั้งยังดีกว่าความลำบากใจที่พบเจอจากโลกภายนอกที่มีต่อสายตาหวาดระแวงและอคติของคนรอบข้าง ทั้งผมพอจะทำใจมาก่อนหน้าแล้ว ทั้งที่ผมก็รู้แล้วเข้าใจดีว่าตัวเองต้องถูกปฏิบัติด้วยแบบไหน แต่เมื่อเดินเข้าไปในซอยแล้วพบกับสายตาหวาดระแวงของเพื่อนบ้าน คนที่เคยพูดคุยกันกลับเบือนหน้าหนี ท่าทีหวั่นระแวงและระวังตัวแจมองผมราวกับเป็นสัตว์ประหลาด สิ่งเหล่านั้นจะอย่างไรก็ไม่คุ้นชิน
              จะบอกว่าโชคดีได้ไหม ที่อย่างน้อย..น้อยที่สุดผมก็มีคนยอมรับ คนที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างผมไม่ว่าเมื่อไหร่
ต่อให้กระแสหวาดระแวงและการตอบรับจากเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันชวนให้หัวใจลีบฝ่อ แต่ผมก็พยายามอดทน ทนทำดีและไม่ก่อปัญหาเพิ่มอย่างที่ได้รับการอบรมมา อดทนต่อสายตาที่เต็มไปด้วยอคติและความหวาดระแวงของผู้คน อดทน..เพื่อที่สักวันพวกเขาจะเข้าใจผมและยอมรับให้ผมกลับเข้ามาในสังคมอีกครั้ง
          สิ่งแรกที่ผมเข้ามาในบ้านคือการจุดธูปบอกกับพ่อให้รู้ว่าผมกลับมาแล้ว ทั้งนี้ไม่ใช่แค่พ่อของผม แต่รวมไปถึงชายอีกคนนึ่งนั้น คนที่ผมลงมือฆ่าเขา ทั้งๆที่เขาอยู่ในฐานะพ่อบุญธรรม
         ผมจ้องมองกรอบรูปของคนๆนั้นที่วางอยู่พร้อมกับอัฐิ แม่บอกว่าเขาก็ไร้ญาติขาดมิตรเช่นกันจึงได้แต่เก็บเอาไว้ ตอนแรกแม่ยังคิดว่าผมจะโกรธ แต่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้น ผมจ้องมองใบหน้าของเขาและนึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำ ก่อนจะเอ่ยปากขอขมาลาโทษต่อดวงวิญญาณของชายที่ล่วงลับ
      ความผิด ยังไงก็คือความผิด ผมฆ่าเขา เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน ไม่ว่าเขาจะทำอะไรลงไปก็ตาม โกรธไปให้ได้อะไรขึ้นมา แค้นไปทำไมในเมื่อเขาตายไปแล้ว ที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงการยกโทษให้เขาและขอขมาต่อสิ่งที่ผมทำลงไป โดยหวังว่าเขาจะให้อภัยผมบ้างเช่นกัน
              หลังจากนั้นผมก็พยายามหางานทำ ขณะเดียวกันก็เก็บใบปริญญาจากโรงเรียนมหาวิทยาลัยหลักสูตรในเรือนจำไว้แปะฝาบ้าน งานที่พยายามหาเพื่อจะนำรายได้มาช่วยจุนเจือครอบครัวนั้นหาได้ยากยิ่ง เมื่อผมมีประวัตอาชญากรรมติดตัวแบบนี้ แต่ก็ยังดีที่บ้านผมเปิดขายข้าวแกงอยู่หน้าบ้าน อย่างน้อย..ต่อให้ผมไม่ได้งานก็ยังสามารถเอาเวลานั้นมาช่วยแม่ ซึ่งได้บอกผมอย่างอ่อนโยนว่าหางานไม่ได้ไม่เป็นไร มาช่วยแม่ทำกับข้าวขายดีกว่า
             แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมก็ไม่อยากจะงอมืองอเท้าอยู่ดี ลำพังแค่เป็นนักโทษคดีร้ายแรงพ้นโทษออกจากคุกก็ถือว่าเป็นเดนสังคม เดนคนอยู่แล้ว ผมไม่อยากจะเพิ่มความไร้ค่าของตัวเองด้วยการงอมืองอเท้าให้คนในบ้านซึ่งมีแต่ผู้หญิงตัวเล็กๆสองคนหาเลี้ยงหรอก และที่สุด..ผ่านระยะเวลาที่แสนยกลำบากในสี่เดินแรกมา ผมก็ได้งานจนได้
            มันใช่งานอะไรเลิศหรูแต่ก็ยังดีกวาจะอยู่เฉยๆ ด้วยวุฒิ ม.6 ที่ผมนำมาสมัครงานนั้นก็ทำให้หางานได้ในประเภทนี้ ต่อให้ผมจะมีปริญญา แต่การไปขอแข่งขันใครคงไม่ไหว โดยเฉพาะหากรู้ประวัติว่าผมเรียนมาจากไหน ผู้คนเขาคงขยาดที่จะให้อดีตนักโทษอย่างผมเข้าไปร่วมงานด้วย แค่ได้งานเป็นพนักงานเซเว่นใกล้บ้าน เท่านี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
               ผมยังถือว่าตัวเองโชคดีมากนักที่มีครอบครัวเข้าใจและคอยเคียงข้าง งานที่ได้มาก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ถือเป็นความปราณีอย่างที่สุดที่ได้รับแล้วในฐานะอดีตนักโทของผม ตราบาปที่ติดตัวอยู่ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตในสังคมได้โดยง่าย โชคดีทีเจ้าของเซเว่นให้โอกาสผมได้ทำงาน
              กิจวัตรประจำวันก็ไม่มีอะไรมาก ผมตื่นเช้าประมาณตีห้าเพื่อช่วยแม่ซื้อของมาทำกับข้าว ก่อนจะเปลี่ยนชุดเพื่อไปทำงานที่เซเว่นหน้าปากซอย ตกเย็นเลิกงาน ก็กลับมาช่วยแม่ขายขอต่ออีกนิดก่อนจะปิดร้านและเก็บของ ชีวิตผมก็วนเวียนอยู่แบนี้ จวบจนครึ่งปีแล้วถือว่ามันก็เป็นไปตามปกติ
            ความหวั่นระแวงที่ชาวบ้านมีให้ผมเริ่มลดลง พฤติกรรมของผมที่ไม่ได้ผิดแผกไปจากเดิมมากนักทำให้หลายคนเริ่มวางใจ ประกอบกับต่างก็รู้เหตุผลที่ผมทำเรื่องแบบนั้นลงไปดี ผู้คนรอบกายจึงเริ่มเป็นมิตรกับผมมากขึ้น แม้บางคราจะมีอคติบ้าง มีการกล่าวหาเมื่อมีเหตุลักเล็กขโมยน้อยหรือโจรขึ้นบ้านบ้าง แต่ที่สุดเมื่อพิสูจน์ตัวเองได้ผมก็ไม่มีอะไรจะต้องหวาดกลัว น้องสาวสุดที่รักของผมซึ่งตอนนี้เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่งในชั้นปีสอง บอกว่ารอยยิ้มซื่อๆของผมทำให้ทุกคนค่อยวางใจและเริ่มมองผมในสายตาดีขึ้น "ความเป็นคน"ที่กลับมาอีกครั้งในสายตาชาวบ้าน
ทำให้ชีวิตของผมดีขึ้นและเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างเมื่อก่อน
           "มันต้องใช้เวลา"คำที่แม่บอกมาก็จริง เวลาจะช่วยพิสูจน์ว่าใครเป็นอย่างไร ผมจะดีขึ้นหรือเลวขึ้น เรื่องแบบนี้ต้องให้เวลาตัดสิน แม่ปลอบผมอยุ่เสมอ ว่าท่าทีรังเกียจหรือเป็นอริของชาวบ้านนั้นเป็นเพราะพวกเขากำลังไม่แน่ใจและกำลังทดสอบอยู่ว่าเราอดทนได้แค่ไหน คำพูดของแม่ยิ่งทำให้ผมทุ่มเทกับการทำตัวดีให้มากขึ้น เพราะผมอยากได้รับการยอมรับเช่นคนปกติธรรมดาทั่วไป และหากพูดถึงชีวิตของผม ก็มีใครอีกหนึ่งคนที่หายไป...
           ช่องว่างที่กลวงโบ๋ในหัวใจ ความเดียวดายที่รู้สึกในบางคราที่นั่งเงียบในห้องชวนให้คิดถึงคนที่บอกว่าจะทำเพื่อผมคนนั้น เส้นลวดที่เคยถูกใช้เป็นแหวนไร้ราคา ยังถูกผมเก็บไว้จนบัดนี้ บางครั้งผมจะหยิบมันมาดู แล้วพบว่ามันช่างดูกระจอกงอกง่อยและไร้ค่าเสียเหลือเกิน คงไม่ต่างอะไรกับตัวผมและคำสัญญาที่บัดนี้..มันยังไม่ปรากฏ
            หลากหลายสีหน้าของเหล่นักโทษที่มองผมอย่างนึกสงสารในบางครั้งที่มีญาติมาเยี่ยมแต่ไม่มีคนชื่อโตในนั้น หลายคนยังพูดคุย ซุบซิบว่าสัมพันธ์ของผมและพี่โตได้จบลงแล้วเมื่อเขาออกไปข้างนอก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ชีวิตในคุก
ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกทำให้เราทำตัวอย่างไรก็ได้ รสนิยมแบบไหนไม่มีปัญหา แต่ข้างนอกนั้นต่างกัน คนถูกตีค่า
เพิ่มราคาด้วยวัตถุที่สวมใส่และเม็ดเงินในกระเป๋า กรอบจารีตและวัฒนธรรมตลอดจนสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาให้สอดคล้องกันนั้นก็บ่งชัดแล้ว่าที่สุดผู้ชายคนหนึ่งก็จะกลับไปเป็นปกติตามธรรมชาติของเขา
                บางครั้งที่ผมคิดถึงเขา ผมบอกตัวเองให้ทำใจขณะเดียวกันก็บอกตัวเองให้เฝ้ารออย่างอดทน คำสัญญาของพี่โตยังคงเด่นชัดในความทรงจำ ความจำเป็น..สาเหตุที่ทำให้เงียบหายทำให้ผมต้องนิ่ง แต่ขณะเดียวกัน จิตใจที่ชั่วร้ายก็มักจะกระซิบบอกให้รับรู้และรับฟังเสมอ ว่าเรื่องราวทั้งหมดจบไปแล้ว
              ในหัวใจมีความลังเลและกังวลแฝงอยู่แน่นชัด กังขาและถามตัวเองว่าความอารีย์นั้นเป็นจริงหรือ? พี่โตจะทำเพื่อผม พยายามเพื่อผมจริงไม่ หรือเพียงแต่เอ่ยเป็นข้ออ้าง เป็นคำพูดเห็นแก่ตัวที่ใช้หลอกลวงกันในยามต้องการจากลาเท่านั้น
             แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้ทำอะไร ที่สุดแล้วผมก็ทำได้เพียงนิ่งเงียบและรอคอยเท่านั้น แม้จะมีผู้หญิงมาข้องแวะพยายามสานสัมพันธ์ แต่หัวใจที่ด้านชาของผมกลับไม่ยินดียินร้าย ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปและใช้ชีวิตอยู่กับคำว่ารอแม้จะรู้ว่าความหวังนั้นริบหรี่แค่ไหนก็ตาม
              "ไอ้เนม...เหม่ออะไรเนี่ย" เสียงทักข้างหลังทำให้ผมชะงัก "ไปดูของให้หน่อย
                  คนที่เอยปากใช้งานนั้นคือพนักงานเซเว่นอีกรายหนึ่งที่ทำงานร่วมกันกับผม ไอ้เนมทิ้งจากอาการเหม่อเดินเข้าไปในโกดังเก็บของเพื่อเช็คสต๊อกตามี่มันบอกไว้ พนักงานเมื่อครู่มีชื่อว่าทิม ไอ้ทิมเป็นคนในละแวกใกล้ๆที่มาทำงานก่อนหน้าผมไม่นาน ด้วยความอนุคราะห์ของเจ้าของเซเว่นนั่นก็คือคุณอาสินธร พ่อของนิ่มที่เคยไปเยี่ยมผมในเรือนจำเมื่อก่อนหน้า
                ผมขนของกุกกักสักพัก ก็เดินกลับมาที่เคาท์เตอร์เมื่อไม่มีใครประจำอยู่ ก้มหน้าก้มคิดเงินทำงานไปเรื่อยๆขณะที่มองเห็นช่างหลายรายเริ่มเข้ามาวนเวียน ขนข้าวของและจัดรังวัดกันให้วุ่น
                "เริ่มงานวันนี้แล้วเหรอ?"
                "เปล่า พรุ่งนี้มั้ง" ไอ้ทิมตอบคำถามผมสั้นๆ งานที่ว่าคืองานปรับปรุงและขยายพื้นที่ของร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เนื่องจากคนที่เข้ามาใช้บริการมีจำนวนมาก รวมทั้งข้าวของที่เอามาจัดวางได้น้อย ทำให้คุณอาสินธรตัดสินใจปรับปรุงและขยายร้านนี้ตามจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น เป็นผลให้ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้จะปิดปรับปรุงเป็นเวลาสามอาทิตย์ และพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเริ่มงานวันแรก
               "ช่วงที่ปิดนี่มึงไปไหนเปล่า?" ไอ้ทิมออกปากถามผม มือก็กดคิดเงินลูกค้าเป็นระวิง
              "ช่วยแม่อยู่บ้านมั้ง แล้วมึง?" ผมเอ่ยถามมันต่อ ก่อนจะเงยหน้าไปหาลูกค้า
"ทั้งหมดสองร้อยสิบบาทครับ"
              "ว่าจะไปทำงานเป็นเด็กปั้มชั่วคราว" ไอ้ทิมตอบ ขณะที่ผมหยิบตังค์ทอนยื่นส่งให้ลูกค้าด้วยรอยยิ้ม ตามด้วยสโลแกน
"รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่มมั้ยครับ?"
                  "ขอโทษครับ ขอมาร์โบโลซองเขียวหน่อย" เสียงคนขอซื้อบุหรี่ดังขึ้น แต่คำพูดแสนคุ้นหูนั้นทำให้ผมชะงัก
              ร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เสื้อเชิ๊ตสีดำสนิทยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าคมเข้มที่ผมรู้จักดียืนส่งรอยยิ้มอยู่ก่อนแล้วทำให้ผมนิ่งไปอย่างไม่รู้จะทำอะไร แว่วเสียงบ่นของไอ้ทิมที่เป็นฝ่ายเดินไปเอาบุหรี่มาให้ลูกค้าเองแล้ววางแปะลงบน
เคาท์เตอร์ให้ผมคิดเงิน
              ผมหยิบบุหรี่ซองเขียวนั่นขึ้นมาอีกครั้ง เอ่ยถามขณะที่หัวใจเต้นโครามครามเสียจนมือสั่น
"ยังสูบอยู่เหรอครับ?"
              "อืม...เป็นบางทีน่ะ "คำตอบนั้นดังขึ้นพร้อมกับแบงค์ร้อยที่ถูกวางไว้บนเคาท์เตอร์ ผมหยิบเงินมาแล้วยื่นซองบุหรี่ให้ไปพร้อมกับเงินทอน หากแต่รู้สึกถึงลำคอที่ตีบตันและร่างที่สั่นไหว
               "เจ้าของร้านอยู่ไหมครับ?" คำถามนั้นดังขึ้นขณะที่ผมเอื้อมมือรับของจากลูกค้าคนต่อไป
               "ไม่ครับ มีธุระติดต่ออะไรเหรอครับ?" ไอ้ทิมถามดังขึ้นแว่วๆ
               "ผมเป็นผู้รับเหมา มาคุยงานเรื่องปรับปรุงซ่อมแซมที่นี่น่ะ" คำตอบนั้นยิ่งทำให้หัวใจเต้นรัวขึ้น และหูเริ่มอื้อ ผมรู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่สั่นระริก
                "งั้นรอสักครู่นะครับ ผมจะโทรบอกผู้จัดการ" ไอ้ทิมตอบมาขณะที่มันหันไปกดโทรศัพท์ ผู้รับเหมารายนั้นบอกว่าจะไปรอข้างนอก ขณะที่ผมกวาดตามองร้านค้าที่ตอนนี้เหลือคนเพียงไม่กี่คน
             กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอตัวเอง ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ
"ออกไปข้างนอกแปปนะ"
                 "อ้าว..เดี๋ยวสิ ไอ้เนม เฮ้ย!" เสียงทักท้วงของไอ้ทิมไม่ได้เป็นผลเมื่อผมเดินออกจาเคาท์เตอร์ และผลักประตูออกไปด้วยฝ่ามือที่สั่นเทา หันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่าคนที่ตามหาอยู่ที่ไหน ขณะที่เสียงหัวใจเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรงเสียจนสะท้านไปทั้งร่าง
                 "ผู้จัดการมาหรือยังครับ" คำถามแสนนุ่มหูดังขึ้นเบื้องหลัง แต่มันอ่อนโยนเทียบเท่ากับฝ่ามือที่แตะลงบนไหล่ไม่ได้เลย ผมรู้สึกถึงก้อนสะอื้นที่จุกคอหอย ขณะที่เจ้าของฝ่ามือนั้นยกขึ้นบีบจมูกผมเบาๆอย่างล้อเลียน
               ผมหันกายไปปะทะร่างสูงใหญ่ที่ยิ้มอย่างเป็นกันเองมาให้ ใบหน้าคมนั้นอยู่ใกล้เพียงลมหายใจคั่น เส้นผมที่
ระใบหน้านั้นทำให้ดูแปลกตาไปบ้างแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะรอยยิ้มนี้ และแววตานี้มันยังคงเหมือนเดิม ยังคงเป็นใบหน้าและดวงตาที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจของผมเสมอ
             ฝ่ามือที่บีบจมูกเบาอย่างหยอกล้อนั้นเปลี่ยนมาเป็นลูบหัวผม สัมผัสที่แสนคิดถึงทำให้ร่างสั่นสะท้าน และกว่าจะรู้ตัว น้ำตาที่กลั้นไว้ก็พังทลายอย่างอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป..
              "ขอโทษที่ทำให้รอนาน" เสียงกระซิบแผ่วดังขึ้นริมหู มันสั่นน้อยๆเหมือนกับว่าเจ้าของคำพูดนั้นต้องใช้ความอดทนในการกลั้นอารมณ์เหลือล้น ฝ่ามือนั้นดึงไหล่ผมเข้าหาตัวและจ้องมองใบหน้าของผมด้วยสีหน้าคล้ายจะร้องไห้
             "ยังรออยู่ไหม?" คำถามนั้นดังขึ้นจากปากคนที่มั่นใจตัวเองนักหนา อารมณ์หวั่นไหวไม่แน่ใจในแววตาคู่นั้นทำให้ผมรู้ว่าเขาก็รู้สึกไม่แตกต่างกัน การรอคอย ความคาดหวัง ความพยายามและการทุ่มเทอย่างสุดชีวิตเพื่อคนที่รัก
              ทุกอย่างมันปรากฏชัดในแววตาของคนๆนี้
             "พูดอย่างกับไม่รู้ ว่าผมไปไหนไม่รอด แต่ไหนแต่ไรไอ้เนมมันก็เป็นปลิงควายติดตัวพี่ตลอดอยู่แล้วนี่"
                  ผมพูดตอบอู้อี้ ขณะที่เจ้าคนฟังนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะรั้งตัวผมเข้าสู่อ้อมกอดอันอับอุ่น
           ..หัวใจที่รอคอยมาเนิ่นนานของผมร่ำร้องอย่างยินดี มันกำลังเต้นระรัวด้วยความสุขสมเจียนคลั่ง  
              ริมฝีปากอุ่นที่แนบชิดใบหู กระซิบถ้อยคำที่ทำให้ผมรู้สึก ว่าหัวใจที่ว่างเปล่า แห้งแล้วหลังได้พบอิสระกลับมาเต็มตื้นเป็นครั้งแรก
                "กลับมาแล้ว"
         ใช่...กลับมาแล้ว กลับมา..เพื่อสานต่อคำสัญญาและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันตลอดไป
          มีอิสระเสรีและก้าวเดินไปพร้อมๆกัน ภายใต้ท้องฟ้าสีสันสดใสไร้ลวดหนามปิดกั้นอย่างที่เคยผ่านมาและสามารถเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้ดวงอาทิตย์อย่างไม่เกรงกลัวต่อความร้อนใดๆ แค่เพียงจับมือกันไว้และผ่านมันไปด้วยกัน



                                                            .........................  NEVER END .....................





ประธานนักศึกษา

อยากเต้น..ก็เต้น ซิค่ะ!!

กระทู้
491
พลังน้ำใจ
61077
Zenny
251866
ออนไลน์
3272 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-2-11 19:20:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-4-20 17:57:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกมากเลยครับ คนแต่งเก่งมากอ่ะ ยกนิ้วให้เลยย

มาเฟียนักศึกษา

แฮปปี้กับความโสด

กระทู้
50
พลังน้ำใจ
6471
Zenny
6470
ออนไลน์
1167 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิม

โพสต์ 2013-5-13 09:59:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ข้ามมาอ่านก่อนขอบคุนคับ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
829
Zenny
2023
ออนไลน์
150 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-25 20:39:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อ๊ากจบแล้วอ่ะT^T

ประธานนักศึกษา

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
86252
Zenny
62117
ออนไลน์
4844 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-10-24 20:37:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆๆๆครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-26 06:28:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
70
Zenny
5
ออนไลน์
53 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-4-30 18:06:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
90143
Zenny
39622
ออนไลน์
5751 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-1 00:31:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
  หวาดดีคราบบ หวัดดีปี 2017

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
9854
Zenny
249
ออนไลน์
1854 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-1 08:36:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
44214
Zenny
15954
ออนไลน์
11033 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-2 23:16:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆ  ครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
16568
Zenny
10383
ออนไลน์
1630 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-12 21:09:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมั๊กๆครับผม

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
4
พลังน้ำใจ
12559
Zenny
6800
ออนไลน์
1469 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-13 07:35:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
62
พลังน้ำใจ
21642
Zenny
139650
ออนไลน์
4188 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-13 13:01:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
จบแล้ว ดีใจกับเนมด้วย

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
11144
Zenny
403
ออนไลน์
909 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-15 13:27:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
90143
Zenny
39622
ออนไลน์
5751 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-5-21 01:25:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
  หวาดดีคราบบ หวัดดีปี 2017

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
2982
Zenny
3815
ออนไลน์
608 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-7-18 08:54:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาเลยครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
15
พลังน้ำใจ
57929
Zenny
27377
ออนไลน์
21899 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-7-20 17:35:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
90143
Zenny
39622
ออนไลน์
5751 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-7-21 04:03:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
  หวาดดีคราบบ หวัดดีปี 2017

ประธานนักศึกษา

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
86252
Zenny
62117
ออนไลน์
4844 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-7-28 16:22:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 21:55 , Processed in 0.132890 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้