21 มกราคม วันซึมเศร้าที่สุดแห่งปี

nokky

21 มกราคม วันซึมเศร้าที่สุดแห่งปี

         เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสำคัญอีกวันหนึ่งซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันแบบนี้บนโลกด้วย นั่นคือ "วันซึมเศร้าที่สุดแห่งปี" หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? แล้ววันอื่น ๆ ไม่เศร้าหรือ? ใครเป็นผู้บัญญัติวันนี้ขึ้นมา? วันนี้กระปุกดอทคอม มีคำตอบมาบอกกันจ้า

         สำหรับวันที่ 21 มกราคม นี้ ถือเป็นวันซึมเศร้าที่สุดแห่งปี 2013 จากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ชื่อสูตร Blue Monday คิดขึ้นเมื่อปี 2005 (พ.ศ. 2548) โดย ดร.คลิฟ อาร์นัลล์ (Dr. Cliff Arnall) อาจารย์มหาวิทยาลัยคาร์ดีฟชาวอังกฤษ

         โดยสูตร Blue Monday เป็นการนำอุณหภูมิ, จำนวนหนี้สิน, สภาพจิตใจหลังทำปณิธานปีใหม่ไม่สำเร็จ มาบวก ลบ คูณ หาร และได้คำตอบว่า "วันที่เศร้าที่สุดในรอบปี คือ วันจันทร์ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมที่มีวันครบ 7 วัน" ซึ่งในปีนี้วันที่มีคนเศร้ามากที่สุดในรอบปีตรงกับวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2013 นั่นเอง

         แล้วทำไมเดือนมกราคมจึงเป็นเดือนที่คนเศร้าที่สุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่น ๆ ? เกี่ยวกับเรื่องนี้นักจิตวิทยาวิเคราะห์ถึงสาเหตุไว้ดังนี้

         1. เพิ่งเสร็จสิ้นจากเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งช่วงนั้นมีการปาร์ตี้ สังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน เมื่อเริ่มเดือนมกราคมชีวิตก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ทำงาน เรียนหนังสือ กลับบ้าน ไม่ได้มีปาร์ตี้สนุกสนาน จึงเกิดความรู้สึกซึมเศร้า

         2. ต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิต ซึ่งยอดหนี้สูงเพราะเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาใช้จ่ายซื้อของขวัญ ซื้อเสื้อผ้าไปงานปาร์ตี้ หรือซื้อข้าวของจัดงานปาร์ตี้

         3. ปณิธานปีใหม่ หรือ New Year"s Resolution ที่ตั้งไว้ว่าจะเริ่มทำเมื่อเริ่มปีใหม่ เช่น เลิกสูบบุหรี่ ลดน้ำหนัก กลับทำไม่ได้ดังที่ตั้งใจไว้ ทำให้ผิดหวังในตัวเอง

         4. อารมณ์ซึมเศร้าเพราะน้ำหนักตัวขึ้นหลังจากทานอาหารทานเลี้ยงไม่หยุดในช่วงฉลองปีใหม่

         5. เมื่อหยุดช่วงปีใหม่ติดต่อกันหลายวันก็ทำให้ไม่อยากไปทำงาน แม้แต่เด็กก็ไม่อยากไปโรงเรียน

         6. อารมณ์ซึมเศร้าเพราะทะเลาะกับญาติ พี่น้อง หรือเพื่อนฝูงตอนฉลองเทศกาลปีใหม่

         7. ในประเทศทางตะวันตก เดือนมกราคมเป็นฤดูหนาว อากาศขมุกขมัว หิมะตก มืดเร็วประมาณ 16.30 น. ก็เริ่มมืดแล้ว เมื่อหิมะตก มืดเร็ว ออกไปนอกบ้านไม่ได้ หรือไม่สะดวกในการทำกิจกรรมนอกบ้านก็ทำให้จิตใจหดหู่ ฤดูหนาวอยู่คนเดียวก็เหงา แต่อยู่เป็นคู่ก็ทะเลาะกัน

         ทั้งนี้ จากการสำรวจของ บริษัทประกัน ชีล่าส์ วีลส์ โฮม อินชัวแรนซ์ (Sheila's Home Insurance) ประเทศอังกฤษ สอบถามคนอังกฤษที่มีคู่รักกว่า 1,000 คน พบว่า คู่รักที่นั่นมีปากเสียงเฉลี่ยแล้ววันละ 8 นาที ในเดือนมกราคม หรือรวมแล้ว 4 ชั่วโมงใน 1 เดือน ซึ่งมากกว่าเดือนอื่น ๆ สาเหตุที่คู่รักทะเลาะกันมากในเดือนมกราคม เพราะอากาศหนาวออกนอกบ้านไม่ค่อยได้ หิมะตก เดินลำบาก ขับรถลำบาก ทำงานเสร็จรีบกลับบ้านเลย คนอังกฤษจึงอยู่ในบ้านวันละ 14 ชั่วโมง 48 นาที ในขณะที่หน้าร้อนอยู่บ้านวันละ 10 ชั่วโมง 5 นาที ดังนั้นเมื่อติดอยู่ในบ้านด้วยกันนาน ๆ เข้า ต่างคนต่างหงุดหงิด ก็เป็นธรรมดาที่มีเรื่องขัดใจกัน

         นอกจากนี้ ที่สหรัฐอเมริกา มีสมาคมชื่อว่า Secret Society of Happy People หรือสมาคมลับของคนมีความสุข ประกาศให้สัปดาห์ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม เป็นสัปดาห์แห่งการตามล่าหาความสุข หรือ Hunt for Happiness Week โดยจัดเป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 12 แล้ว

         โดยสมาคมลับของคนมีความสุข แนะนำว่า ความสุขนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่บางทีก็ต้องใช้ความพยายามในการค้นหาหรือสร้างขึ้น เวลาเศร้าสร้อยอย่าเก็บตัวอยู่ลำพัง บ่อยครั้งที่คนเกิดอารมณ์ซึมเศร้าไม่อยากพบปะใคร ยิ่งทำให้อาการซึมเศร้าแย่ลงไปอีก ดังนั้น จึงควรพบปะสังสรรค์พูดคุยกับผู้คนเพื่อลดอาการซึมเศร้า

         ขณะที่ สถาบันวิจัยสุขภาพจิต (Mental Health Research) ของประเทศอังกฤษ ก็ได้รณรงค์แคมเปญจ์ Blooming Monday หรือวันจันทร์เบิกบานเพื่อสู้กับ Blue Monday โดยขอให้คนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสดใสไปทำงานในวันที่ 21 มกราคม เพราะปกติในประเทศที่มี 4 ฤดู คนมักจะเลือกสีเสื้อผ้ามาสวมให้เข้ากับฤดู โดยคนจะแต่งตัวสีทึม ๆ ในฤดูหนาว ส่วนเสื้อผ้าสีสดใส เก็บไว้ในหน้าร้อน ใครที่สวมเสื้อผ้าสีเขียว สีแดงหน้าหนาว หรือสวมสีดำ สีเทา หน้าร้อนจะดูแปลกประหลาดกว่าชาวบ้าน ทางสถาบันวิจัยสุขภาพจิตของอังกฤษจึงแนะนำให้คนแต่งตัวสีสันสดใสเพื่อสู้กับจิตใจที่ขุ่นมัวในฤดูหนาวนั่นเอง