ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 597|ตอบกลับ: 0

'เจ้าแม่สิงโต' ตำนานความรักและศรัทธา ของเด็ก ม.ธรรมศาสตร์

[คัดลอกลิงก์]

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
50
พลังน้ำใจ
2792
Zenny
5037
ออนไลน์
188 ชั่วโมง
ในบรรดาเรื่องลี้ลับที่ขึ้นชื่อในแถบท่าพระจันทร์ นอกจากเรื่องที่ว่า “ลิฟท์แดง” หรือ “ผีดุ” อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคมแล้ว ก็ยังมีตำนานความเชื่อที่สืบต่อมาเป็นเวลานาน และมีความเป็นมาที่น่าประทับใจเกี่ยวกับความรักของสิงโต นั่นคือ “ตำนานเจ้าแม่สิงโต” ณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยานั่นเอง

"ศาลสิงห์โตทอง" หรือที่เราๆ มักเรียกว่าศาล “เจ้าแม่สิงโต” เป็นรูปปั้นสิงโตขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณข้างตึกคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ลักษณะหันหน้าออกไปทางฝั่งท่าศิริราช และที่ว่าเกี่ยวกับรัก ก็เพราะว่าแต่เดิมนั้นเค้าเล่าว่ามันมีเป็นคู่ แต่ความรักของสิงโตทั้งสองตัวนั้นต้องมีอันพลัดพรากจากกัน ตามตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับตำนานของเจ้าแม่สิงโตนี้อยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว แต่ที่เป็นต้นฉบับเดิมจริงๆ นั้นมีอยู่ว่า

ในสมัยรัชกาลที่ 4 มีพ่อค้าชาวจีนคนหนึ่งได้บรรทุกสินค้าลงเรือสำเภาแล่นมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อที่จะเข้ามาค้าขายกับคนไทย และสินค้าที่บรรทุกอยู่บนเรือลำนั้นก็รวมถึงรูปปั้นสิงโตคู่ด้วย สิงโตนี้คนปั้นตั้งใจปั้นเพื่อให้มาอยู่คู่กัน ตัวหนึ่งเป็นตัวผู้ และอีกตัวหนึ่งเป็นเมีย เป็นรูปปั้นที่มีขนาดใหญ่และมีความสวยงามมาก

แต่เมื่อเรือแล่นผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาก็เกิดพายุโหมกระหน่ำขึ้นมา จนเรือไม่สามารถแล่นและทรงตัวต่อไปได้ จนเรืออับปางลงในที่สุด เมื่อพายุได้ผ่านพ้นไป ชาวบ้านละแวกนั้นก็ได้ช่วยกันกู้สิ่งที่จมอยู่ใต้น้ำขึ้นมา แต่รูปปั้นนั้นสามารถกู้ขึ้นมาได้เพียงแค่ตัวเมียเพียงตัวเดียวเท่านั้น ส่วนตัวผู้นั้นหาอย่างไรก็ไม่พบ เป็นที่มาของการอยู่อย่างโดดเดี่ยวของสิงโตตัวเมีย ชาวบ้านได้ตั้งรูปปั้นไว้ที่ริมแม่น้ำหันหน้าเข้าหาฝั่ง แต่เมื่ออีกวันหนึ่งกลับมาก็พบว่ารูปปั้นได้หันหน้าออกไปทางแม่น้ำ

จากคำบอกเล่าของคุณยาย ซึ่งอาศัยอยู่ในระแวกนี้มากว่า60 ปี เล่าถึงเหตุการณ์แปลกที่มักจะเกิดขึ้นที่นี่ว่า บางคืนคนที่นี่มักจะได้ยินเสียงคร่ำครวญของสิงโตตัวเมียที่ร้องเรียกหาคู่ของมัน ด้วยความคิดถึงและเศร้าใจในความรักที่ต้องพลัดพรากจากกันไป แต่ถ้าเป็นคืนวันเพ็ญบางคนก็จะเห็นลำแสง คู่สีแดงส่องขึ้นมาจากแม่น้ำ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแสงจากตาของสิงโตตัวผู้นั่นเองที่เฝ้าคอยมองหาตัวเมีย ที่อยู่บนฝั่ง จึงทำให้ลูกปั้นของสิงโตตัวเมีย จึงต้องหันมาหน้าเข้าหาฝั่งแม่น้ำเพื่อมองหาคู่ของมัน"

แอน นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์รายหนึ่งเล่าถึงความศักย์สิทธ์ของเจ้าแม่สิงโตให้ฟังว่า "ครั้งแรกที่มาบน เพราะมีรุ่นพี่ที่รู้จักกันเรียนอยู่ที่นี่แนะนำ ตอนนั้นเป็นช่วงสอบเอ็นพอดี แล้วเขาบอกว่าถ้าเราอยากสอบติดที่ธรรมศาสตร์ก็ให้เอาลูกแก้วมาบนขอกับเจ้าแม่ เราก็อยากสอบติดด้วยเขาว่าอย่างไร ก็ทำตามถึงแม้ว่าตอนนั้นจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไร"
แอนเล่าต่อว่า "ตอนนั้นแอนบนด้วยลูกแก้ว 23 ลูก เพราะแอนชอบเลข 23 พอผลเอ็นฯ ออกมาปรากฏว่าเราติดจริงๆ ก็ดีมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราทำข้อสอบได้เองหรือเป็นเพราะความศักย์สิทธิ์ของท่านกันแน่ ถึงตอนนี้แอนจะได้ไม่ไปบนขออะไรจากท่านอีก แต่เมื่อมีเวลาว่างแอนก็จะแวะเอาพวกมาลัยดอกไม้ มากราบไหว้สะการะท่านอยู่เสมอๆ"

ด้านแอร์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ปี 3 มธ. เล่าถึงเรื่องความศักย์สิทธิ์ในเรื่องของความรักว่า "แอร์เคยเห็นเพื่อนมาขอพรกับเจ้าแม่ เรื่องความรัก ก็ได้ผลนะ ตอนนั้นเขาบนว่าถ้าได้คนนี้เป็นแฟน เขาจะเอาสิงโตมาถวาย1 คู่ และตอนนี้เขาก็คบกันอยู่กับแฟนคนที่ขอจากเจ้าแม่มา ซึ่งเพื่อนแอร์เขานับถือท่านมาก ถ้าวันไหนว่างๆ ก็จะชวนแอร์เอาพวงมาลัยมาถวายท่าน แต่สำหรับแล้วยังไม่เคยขออะไรท่านเลย ก็คิดอยู่เหมือนกันวันหลังแอร์จะลองมาขอแฟนใหม่กับท่านบ้าง เพราะแฟนคนนี้เริ่มงี่เง่าแล้ว (หัวเราะ)

นอกจากนั้นแล้วนักศึกษาธรรมศาสตร์บางคนก็เชื่อว่า ช่วงสอบ ถ้าใครอ่านหนังสือไม่ทัน ให้อธิษฐานขอเจ้าแม่แล้วปักธูปไว้ที่หนังสือหน้าใดก็ได้ แล้วหน้านั้นก็จะออกสอบ ซึ่งถึงอย่างไรก็ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ว่าหนังสือหน้านั้นออกเป็นข้อสอบจริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ยังเป็นเพียงเรื่องเล่าขานกันปากต่อปากเท่านั้น

แต่ไม่ใช่แค่นักศึกษาธรรมศาสตร์เท่านั้นที่ศรัทราเจ้าแม่สิงโต คนทั่วไปที่มีเรื่องทุกข์ใจก็มักแวะเวียนกันมาขอพระจากท่านไม่ขาดสาย สำหรับของที่ใช้ในการบนกับเจ้าแม่สิงโตนี้ ส่วนใหญ่จะเป็น “ลูกแก้ว” เพราะว่ากันว่าเจ้าแม่ท่านชอบเล่นลูกแก้วมาก แต่ก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นจำนวนกี่ลูก นอกจากนั้นก็ยังมีพวกผลไม้และดอกไม้ พวกมาลัยทั่วไป ซึ่งก็อยู่ที่สะดวกของผู้มาขอมากกว่าว่าจะบนอะไร แต่ถ้าดูจากจำนวนของที่นำมาถวายให้เจ้าแม่สิงโต ก็แสดงให้เห็นถึงความศักย์สิทธิ์ การความเคารพและศรัทธาของคนในระแวกนี้ได้เช่นกัน

และเนื่องจากศาลเจ้าแม่สิงโตนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของความรัก แถมยังตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีบรรยากาศที่เย็นสบายและเงียบสงบ พอตกเย็นเราก็จะได้เห็นคู่รักหลายๆ คู่มานั่งหลบร้อน พักผ่อน หย่อนใจ กันนี่เป็นประจำ ถ้าหากใครมีเวลาว่างมาเที่ยวชมที่สนามหลวงหรือมาเที่ยววัดพระแก้วก็อย่าลืมแวะที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมกับมาสักการะ เจ้าแม่สิงโตด้วยนะคะ ลูกพ่อปรีดียินดีต้อนรับเพื่อนทุกคนเสมอค่ะ

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-12-22 20:42 , Processed in 0.084323 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้