โดย ชัยรัตน์ ยิ่งกิจสถาวร โลกใบนี้ ของเราได้สั่งสมอารยธรรมและประวัติศาสตร์อันน่าอัศจรรย์ รุ่นแล้วรุ่นเราสืบต่อกันมา ทำให้พวกเรายืนหยัดด้วยความเกรียงไกร เมืองโบราณพวกนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่เรื่อยมา คือสิ่งที่ยืนยันได้ถึงความรุ่งเรืองไร้ขีดจำกัดของมนุษยชาติที่มีมาแต่ ครั้งโบราณกาล
เมืองบิบลอส (Byblos) ประเทศเลบานอน เริ่มมีการตั้งรกรากของผู้คนตั้งแต่สมัย 5,000 ปีก่อนคริสตกาล เมืองบิบลอสในอดีตคือเมืองศูนย์กลางการผลิตกระดาษปาปิรุส (papyrus)ในปกครองของพ่อค้าชาวฟินิเชียน เป็นที่มาของคำในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับความหมายของหนังสือหรือห้องสมุด เช่น คำว่า bibliography, bibliophile, bible ชาวกรีกโบราณซื้อกระดาษชนิดนี้จากเมืองนี้ ฉะนั้นพวกเขาจึงเรียกกระดาษว่าบิบลอส ส่วนคำว่าปาปิรุส เป็นที่มาของคำว่า paper ในภาษาอังกฤษ เดิมทีเมืองนี้ถูกชาวฟินิเชียตั้งชื่อว่า ?เกบัล? ภายหลังถูกตั้งชื่อใหม่เป็น ?บิบลอส? โดยชาวกรีกที่นำเข้าต้นกกหรือปาปิรุสจากเมืองดังกล่าว บิบลอสมีประวัติศาสตร์อันยาวนานนับตั้งแต่ยุคหินใหม่ (ซากโบราณสถานในยุคดังกล่าวยังคงปรากฏให้เห็นตราบจนปัจจุบัน) มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมาย? อาทิ วัดของชาวฟินิเชียน ปราสาทบิบลอส โบสถ์เซนต์จอห์นเธอะแบ็พทิสท์ (สร้างในสมัยสงครามครูเสด) และกำแพงเมืองในยุคกลาง *
เมืองเฟยูม (Faiyum) ประเทศอีจิพท์ เริ่มมีการตั้งรกรากเมื่อราว 4,000? ปีก่อนคริสตกาล เฟยูมตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองไคโร บนพื้นที่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเมือง Crocodilopolis ในสมัยอีจิพท์โบราณเมืองนี้เป็นศูนย์กลางลัทธิเคารพบูชาเทพจระเข้ ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อว่า ?Sobek? (ที่มาของคำว่า crocodile ในภาษาอังกฤษ)? ปัจจุบันเมืองเฟยูมมีห้างร้านขนาดใหญ่ มัสยิด และโรงอาบน้ำหลายแห่ง ทั้งยังมีพิระมิด? Lehin และ Hawara ตั้งอยู่บริเวณด้านนอกของตัวเมืองอีกด้วย *
เมืองกาเซียนเท็ป (Gaziantep) ประเทศตุรกี เริ่มมีการตั้งรกรากของประชากรเมื่อราว 3,650? ปีก่อนคริสตกาล กาเซียนเท็ป ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศตุรกี ใกล้พรมแดนประเทศซีเรีย มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยอยู่ใต้การปกครองของพวกอัคคาเดียนที่มีความเจริญในด้านอักษรศาสตร์ คิดค้นอักษรลิ่มร่วมกับชาวสุเมเรียน และเคยปกครองโดยชาวฮิทไทท์ (ชนชาตินี้คิดค้นการถลุงเหล็กและตีเหล็กให้เป็นอาวุธได้เป็นพวกแรก) *
เมืองเบรุต (Beirut) ประเทศเลบานอน เริ่มมีการตั้งรกรากเมื่อราว 3,000? ปีก่อนคริสตกาล ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางการบริหาร วัฒนธรรม? และเศรษฐกิจของประเทศเลบานอน จากการขุดค้นทางโบราณคดีปรากฏหลักฐานของชาวฟินิเชียน, อารยธรรมกรีกเฮลเลนิสติค, อารยธรรมโรมัน และออตโตมัน หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองเบรุตได้ฟื้นชีวิตขึ้นมาใหม่ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัย เบรุตเป็นเมืองเก่าในจำนวนไม่กี่เมืองของโลกที่ชื่อเมืองเพี้ยนจากเดิมน้อย มาก ในอดีตเคยมีชื่อว่า Berytus *
เมืองอเล็ปโป (Aleppo) ประเทศซีเรีย เริ่มมีการตั้งรกรากเมื่อราว 4,300? ปีก่อนคริสตกาล น่าเสียดายที่เมืองใหม่ในปัจจุบันถูกสร้างทับลงบนพื้นที่ที่เป็นเมืองโบราณ ทำให้การสำรวจและขุดค้นทางโบราณคดีทำได้ยากมาก มิฉะนั้นเราจะได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์จากยุคโบราณมากมาย ในสมัย 800 ปีก่อนคริสตกาลเมืองนี้เคยตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวฮิทไทท์ ก่อนที่จะตกอยู่ภายใต้น้ำมือของจักรวรรดิอัสซีเรีย ?กรีกและเปอร์เซีย หลังจากนั้น ถูกยึดครองโดยชาวโรมัน ไบแซนไทน์? ชาวมองโกล และจักรวรรดิออตโตมัน ตามลำดับ *
เมืองแอสมารา (Asmara) ประเทศเอริเทรีย เอริเทรียเป็นรัฐที่อยู่ปลายสุดทะเลแดง บนส่วนหงอนของทวีปแอฟริกา อยู่ติดกับซูดานและเอธิโอเปีย จากาการขุดค้นทางโบราณคดีเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ทราบว่าแอสมาราเป็นเมืองเก่า ที่มีการตั้งรกรากเมื่อราว 3,000? ปีก่อนคริสตกาล นักโบราณคดีมั่นใจว่าประเทศเอริเทรียในปัจจุบันเดิมเป็นที่ตั้งของอาณาจักร โบราณที่ชื่อ ปุนท์ ซึ่งปรากฏในพงศาวดารอีจิพท์ อีจิพท์ไปทำการค้ากับอาณาจักรปุนท์ ในรัชสมัยของฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต อาณาจักรโบราณนี้เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของอำพัน เครื่องหอม งาช้าง และไม้กฤษณา *
เมืองคาดิซ (Cadiz) ประเทศสเปน เริ่มมีการตั้งรกรากเมื่อราว 1,100 ปีก่อนคริสตกาล คาดิซตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นออกไปในอ่าวคาดิซ (มหาสมุทรแอตแลนติค) เป็นที่ตั้งของกองทัพเรือสเปนมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ในยุคแรกๆ เมืองนี้เคยถูกพ่อค้าชาวฟีนิเชียนใช้เป็นจุดซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้า ต่อมาได้ตกเป็นอาณานิคมของชาวคาร์เธจ (ราว 500 ปีก่อนคริสตกาล) และได้กลายเป็นฐานในการแย่งชิงดินแดนในคาบสมุทรไอบีเรียของแม่ทัพฮานนิบาล ในเวลาต่อมาเมืองคาดิซได้ตกเป็นของชาวโรมัน และมัวร์ ตามลำดับ ก่อนโดนผนวกเข้าสู่จักรวรรดิสเปนในยุคการสำรวจทางทะเล *
เมืองซีอาน (Xi?an) ประเทศจีน ซีอานหรือฉางอานเป็นหนึ่งในสี่นครหลวงโบราณของอาณาจักรจีน ซีอานมีอายุยาวนานถึง 3,100 ปี อีกสามเมืองโบราณของจีนที่คู่ควรแก่การเอ่ยถึงก็คือ ปักกิ่ง นานกิง และลั่วหยาง ?ฉางอานเคยเป็นเมืองหลวงของจีนถึง 13 ราชวงศ์ ตั้งแต่ประมาณ 1,100 ปี ก่อนคริสตกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง 221-207 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นยุคราชวงศ์ฉิน ของฉินซีฮ่องเต้ (Qin Shi Huang) จักรพรรดิผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นปฐมกษัตริย์แห่งแผ่นดินจีน เมืองหลวงแห่งนี้ได้ถูกเรียกว่า ฉางอาน ซึ่งมีความหมายว่า ความสงบอันยาวนาน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นนี่เอง นครฉางอานที่รุ่งเรืองก็กลายเป็นเมืองต้นทางค้าขายกับชนชาติตะวันตก อันเป็นที่เรียกขานในปัจจุบันว่าเส้นทางสายไหม (The Silk Road) ) ปัจจุบันเมืองซีอานเป็นเมืองใหญ่ มีประชากรอาศัยอยู่ราวหกล้านคน เมืองเก่ายังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รวมทั้งสุสานทหารม้าดินเผา (Terra Cotta Warriors) มรดกโลกของเมืองนี้ *
กรุงโรม (Rome) ประเทศอิตาลี ถ้าเอ่ยถึงเมืองโบราณ ?เชื่อว่าทุกคนต้องคิดถึงกรุงโรมแน่ๆ โรมคือ ?Eternal City? เพราะเป็นเมืองที่มีอารยธรรมเจริญรุ่งเรืองมาตลอด โรมมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 2,800 ปี ตั้งอยู่บนเนินเขาทั้งเจ็ดริมฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ตอนกลางของประเทศ โดยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรในอดีตมากมาย เช่น จักรวรรดิโรมันโบราณ, ราชอาณาจักรโรมัน, สาธารณรัฐโรมัน และจักรวรรดิโรมัน โรมเคยเป็นเมืองที่มีบทบาทมากที่สุดของอารยธรรมตะวันตก และในอดีตได้เป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลีตั้งแต่ ค.ศ. 187 *
เมืองอิสตันบูล (Istanbul) ประเทศตุรกี อิสตันบูลเมืองแห่งความโรแมนติคและสุเหร่าสีน้ำเงินอันเลื่องชื่อ หรือในอดีตคือคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันตะวันออก ก่อตั้งโดยจักรพรรดิ์คอนสแตนตินเมื่อ 330 ปีก่อนคริสตกาล โดยผนวกไบแซนเทียมเข้าไว้ด้วยกัน คอนสแตนติโนเปิลเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาตลอดจนกระทั่งยุคกลาง ก่อนจะตกอยู่ในอำนาจของจักรวรรดิ์ออตโตมานในศตวรรษที่ 15
|