ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 1450|ตอบกลับ: 39

มนต์มาร ปาจา เจ้าคุ้มสุดหล่อ VS พระลัก - 12

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
ธรรมตรัยพูดหน้านิ่ง  แต่พระลักษมณ์อ้าปากค้าง   ตาโตเท่าไข่ห่าน   อีตอนแรกยังนึกว่าตนต้องอัดถั่วดำเจ้าคุ้มน้ำแข็งร่างใหญ่แค่คิดก็ไม่สู้แล้ว   สูงใหญ่กล้ามแน่นขนาดนั้น  จะกอดจะกดมันจะบลิ้วอารมณ์ได้ที่ไหน    แค่คิดก็ขนพองสยองเกล้า  แต่สุดท้ายความจริงที่เพิ่งทราบหนักกว่าเดิมอีก  อุแม่เจ้า!  กลายเป็นตนเองตะหากจะโดนตุ๋ย...โอว!..ไม่เด็ดขาดศักดิ์ศรีลูกผู้ชายยี่สิบแปดปี  
ต้องโดนย่ำยีในอีกสี่วันข้างหน้า  ให้ตายก็ไม่ยอม.....อร๊าก!.......   
Part 12
ล้างอาถรรพ์มาร...1.

                        พระลักษมณ์ขอเวลาตั้งสติ  หลังรู้ต้องสังเวยเอกราชให้เจ้าคุ้มน้ำแข็ง   เชื่อว่าตอนนี้
หน้าคงออกอาการขี้ไม่ออก  ทั้งเจ้านายทั้งเลขาเลิกคิ้วจ้องมองไม่วางตา  ชักหงุดหงิดแล้วนะเว้ย!   อะไรนักหนาหวะ!  
                       “เฮ้ย!  จะจ้องกันอีกนานไหม? คุณเลขาขอผมคุยกับคุณจาตามลำพังหน่อยเหอะ”   พระลักษมณ์
ใช้น้ำเสียงแกมสั่งมากกว่าขอร้อง  บังอาจจับขึงก่อนทำไม  มีหน้าวางแผนตุ๋ยหนุ่มหล่อตูดซิงอย่างตนอีก  
เห่อ..เห่อ..ยากทำใจยอมรับจริงๆ แต่เล็กจนโตผ่านสมรภูมิดุเดือดเลือดพล่านกลับไม่กลัว  นึกไม่ออกมีเหตุการณ์ไหนบ้างทำให้พระลักษมณ์ขนหัวลุกเท่ากับต้องสังเวยตูดแล้วเนี่ยะ   อร๊าก!..น่ากลัวยิ่งกว่าโทเมอร์ฮ๊อคถล่มซัดดัมเสียอีก  วิตกกังวลในใจคนเดียวเป็นคุ้งเป็นแคว
                     “คุณออกไปเถอะ  ผมโอเคไม่ต้องห่วง”  หึ!  ทีพระลักษมณ์บอกไม่ยอมทำตาม  ปาจาพูดปุ๊ป
พยักหน้าหันหลังเดินคอตั้งออกไปหน้าตาเฉย   ให้มันได้อย่างนี้สิเลขาผีดิบ  รอเลื่อนตำแหน่งเป็นนายใหญ่ของคุ้มก่อนเหอะ  พ่อจะเล่นงานให้เข็ดเย็นชาดีนักจะทำให้ร้อนจนเดือดเลยเชียวคอยดูดิ   ไอ้หยะ!  ตายห่าคิดไปถึงไหนแล้วเห้ย!   กังวลจนหลอนต้องโทษพวกบ้าคอยเป่าหูอยู่นั่นแหละ...อรึ้ย!  พระลักษมณ์กลอกตาไปมาทำหน้าตาพิกล  จนปาจาเกือบหลุดขำ  
                     “คุณมีอะไรคุยกับผม?” ปาจาเอ่ยปากทันที หลังเลขาหน้านิ่งคล้อยหลังออกไป กลับเป็น
พระลักษมณ์ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเต็มทน  หน้าปาจานิ่งจนเดาความคิดไม่ออก  เอาไงเอากันมือพระกาฬของหน่วยพิเศษประสบการณ์มีไม่น้อย   ประสบกามก็พอตัวถึงจะผ่านแต่สาวแท้มาตลอดก็เถอะ  เห็นทีต้องลองล่อหลอกดูก่อน  พระลักษมณ์คิดในใจก่อนเอ่ยปากตอบกลับไปว่า
                     “ปล่อยผมได้ไหม   อยากให้ช่วยก็ควรให้เกียรติกันหน่อย  นี่ไม่ใช่วิธีการที่ดี  มันคือการบังคับ
กักขังหน่วงเหนี่ยว  กระทำกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ   โดนกี่ข้อหาคุณน่าจะรู้ดีนี่นาด๊อกเตอร์”  พระลักษมณ์พร่ำยาว  
                     “หึ...ผมรู้ดีผู้กอง  ทีคุณปลอมแปลงเอกสาร  ประพฤติมิชอบลักลอบเข้าที่รโหฐาน
ทั้งที่เจ้าของเค้าไม่อนุญาต  กระทำการอุกอาจเยี่ยงโจร  ผมคือผู้เสียหายย่อมมีอำนาจในอาณาเขตของตน คุณว่าจริงไหม?”   พระลักษมณ์หน้านิ่ว  โดนปาจาโต้กลับ  แต่ด้วยนิสัยรั้นเป็นทุนจึงไม่ยอมจนแต้ม   ตวัดตากลมโตใส่แสดงออกไม่พอใจสุดๆ   ก่อนเถียงคอตั้ง
                     “ผมใช้อำนาจของรัฐปฏิบัติหน้าที่ตะหาก ไม่ได้ทำเรื่องส่วนตัวสักหน่อย สืบข้อเท็จจริงคดีอุกฉกรรจน์คืองานของผม  ถ้าไม่อยากเป็นผู้ต้องหา  ปล่อยผมดีกว่าคุณจา   ผมรับปากจะไม่ติดใจเรื่องที่ผ่านมา”   ปาจายิ้มเย็นพระลักษมณ์รู้สึกหนาวเข้ากระดูก   ก่อนปาจาออกปากโดยใช้น้ำเสียงแสดงอำนาจตอบมาว่า
                     “การลักลอบเข้ามาในคุ้มของผมโดยไม่ได้รับอนุญาต   ต่อให้เป็นศพก็ไม่มีใครเอาผิดผมได้   
กฎง่ายๆแค่นี้คุณน่าจะรู้ดีกว่าใครนะพระลักษมณ์”  พระลักษมณ์กัดกรามกรอด  นึกชังน้ำหน้าปาจาตะหงิดๆ   
แน่สิเคยเป็นตำรวจสากลย่อมรู้ถึงความเสี่ยงโดยไร้ที่ฝังดีอยู่แล้ว  ไอ้ที่ยกมาพูดหวังจะให้ออมชอมต่อกันเหอะ   
ทำไมถึงดื้อชะมัด  ใจนึกว่าแต่เค้าดันลืมนิสัยตัวเองต่างกันตรงไหน  เอาหวะเหลือหนทางเดียว  เห็นทีต้องรื้อตำรานักการทูตขึ้นมาสมานฉันท์ให้เป็นอิสระกับพันธนาการเหล่านี้ก่อนดีที่สุด
                    “เอาหละผมยอมรับผิดก็ได้  แต่อย่างน้อยคุณควรให้อิสระผมด้วย  ต้องการความร่วมมือจากผม
น่าจะเทคแคร์ฉันมิตรมากกว่าข่มขู่   ถ้าหากผมคิดสั้นยอมตายขึ้นมา  คุณคงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากร่างไร้ชีวิตผมได้หรอกจริงไหม  คุณกับผมเราต่างรู้ดีว่าอาชีพนี้ถึงเวลาต้องเสียสละเมื่อจำเป็นก็ต้องทำ”  พระลักษมณ์พูดจบ   ปาจาขยับลุกจากเก้าอี้  ก่อนจะล้วงกุญแจในเสื้อคลุมปลดพันธนาการเท้าทั้งสองข้าง  แล้วขยับมาปลดที่ข้อมือให้อีก   พระลักษมณ์ผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อขยับแขนขาช้าๆ  ก่อนลุกลงจากเตียงยืนบิดซ้ายบิดขวา  
                   และแล้วไม่คาดคิด  พระลักษมณ์กลับตวัดเท้าเตะเข้าใส่ปาจาทันที   พลังที่เหวี่ยงออกไป
เชื่อว่าคนปกติโดนถึงกับลงไปนอนจูบธรณีลุกไม่ขึ้นเลยเชียวแหละ
                  “พลั๊ก! ปึ๊ก!  ป๊าปๆ!”  เสียงรัวลูกเตะต่อเนื่องรวดเร็ว   แต่กลับไม่ระคายปาจาแม้แต่น้อย  
นอกจากเจ้าตัวสามารถรับลูกเตะพระลักษมณ์โดยเบี่ยงน้ำหนักทิ้งออกได้อย่างสบายแล้ว  ยังสวนกลับจน
พระลักษมณ์เป็นฝ่ายถอยอีกตะหาก   
                  การปะทะฝีมือของหนุ่มใหญ่กล้ามเนื้อสมบูรณ์แข็งแรง  กับหนุ่มหล่อหน้าใสร่างโปร่ง   ต่อเนื่อง
ไม่หยุดโดยที่ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำแก่ใคร   ดูผิวเผินเหมือนฝีมือคู่คี่สูสีกัน  แต่ถ้าสังเกตุให้ดีจะรู้ว่าปาจาเพียงปัดป้องและตอบโต้ให้พระลักษมณ์ถอยร่นเท่านั้น  ไม่ได้รุกจริงจังอย่างที่ควรจะเป็น  ต่างกับพระลักษมณ์ซึ่งงัดท่าไม้ตายออกมาใช้จนเหนื่อยแล้ว  ยังไม่สามารถทำร้ายร่างกายปาจาได้สักนิด ขืนยืดเยื้อต่อไปได้หมดแรงก่อนเป็นแน่  ดังนั้นพระลักษมณ์จึงฉากหนีห่างหลายก้าวพร้อมกับยกมือขึ้นห้ามศึกทันที
                “พอหยุดก่อน แฮ่กๆ เหนื่อยโคด”  ปาจาก็ยอมชงักหยุดให้ไม่ตามเข้าซ้ำ  ท่าทางช่างแตกต่างกันสิ้นเชิงพระลักษมณ์แทบลิ้นห้อย  ขณะที่อีกฝ่ายกลับนิ่ง  แค่หายใจแรงกว่าเดิมเล็กน้อย   นี่มันบ้าชัดๆไม่ยักรู้
ปาจาฝีมือจะเขี้ยวปานนี้  เป็นความผิดพลาดเหลือแสนซึ่งพระลักษมณ์กรนด่าตัวเองในใจ   เนื่องจากประเมินฝีมือคู่ต่อสู้ผิดมหันต์   จะโทษก็ต้องโทษหน่วยข่าวกรองดันไม่มีข้อมูลป้อนมาก่อน  ขณะกำลังคิดพลางพักเหนื่อยไปด้วย  ปาจาก็พูดขึ้นว่า
                   “พอเหอะ รั้นไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น  นอกจากเพิ่มความยุ่งยากให้ตัวเอง  จำไม่ได้หรือไง
ธรรมตรัยเพิ่งบอกไป  ต่อให้ผมปล่อยคุณไม่ได้แปลว่าจิตมารจะปล่อยให้คุณรอด   มันไม่มีทางยอมให้คุณลอยนวลคอยเป็นหอกข้างแคร่เด็ดขาด   
                      สมมติคุณรู้ว่ามีระเบิดเวลาอยู่ใกล้ตัว  คุณจะหาทางปลดชนวนหรือไม่   เช่นเดียวกับจิตมาร
มันย่อมคิดช่นนี้  ในเมื่อมันรู้ถึงตัวตนของคุณแล้ว   มันคงยอมปล่อยคุณหรอกนะ   ก่อนหน้าที่มันไม่เข้ามาวุ่นวายกับผม  เพราะต้องการสร้างสถานการณ์ลงมือฆ่าเหยื่อในคุ้มผม  ให้ทางการหมายหัวพวกเราแทน  
นับจากนี้ไปมันคงเปลี่ยนเป้าหมาย   กำจัดคุณไม่ได้คงไม่ยอมเลิกลา”  ปาจาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง   แววตาที่มองสบพระลักษมณ์ไม่ได้แสดงว่าโกหกเลยสักนิด  พระลักษมณ์จำต้องคิดหนักถ้าเป็นอย่างที่บอก  นั่นคือชีวิตตนเหมือนเหยียบกรับระเบิด   ถ้าจะกู้ก็ต้องเสียประตูหลังให้คนตรงหน้าแทน    ตอนนี้ไม่ขอเลือกทางใดทั้งสิ้น   ยังพอมีเวลาสี่วัน   น่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้   หรือไม่ก็ต้องรอจนวินาทีสุดท้ายนั่นแหละ
                  “ถามจริงเถอะ ไอ้พิธีกรรมบ้าบอคอแตกนั่น  ทำไมผมต้องโดนเอาด้วย  อยากได้น้ำรักของเราทั้งคู่   
ต่างคนต่างโตกน้ำแตกก็มาเอาไปไม่ได้หรือไง?”  เอาหวะ!  มาถึงตอนนี้ไม่จำเป็นต้องหน้าบางกันอีกแล้ว  
เปิดอกคุยดีที่สุด   
                   “ธรรมตรัยบอกคุณไปแล้ว  พิธีกรรมต้องเสพสังวาสคือการร่วมรักเท่านั้น  สถานที่ทำพิธีถูก
เตรียมไว้ก่อนผมเกิดด้วยซ้ำ  รอแค่คนที่จะร่วมพิธีด้วย   บอกคุณตามตรงผมไม่คิดว่าเป็นผู้ชายมาก่อน แต่ช่างเถอะเดิมทีคุณออกตัวเป็นผู้หญิงอยู่แล้วถึงจะเป็นทอมแต่ก็พอได้  คุณอยู่เฉยๆ ที่เหลือผมจัดการเอง”  ปาจาพูดเองเออเองเสร็จสรรพ  พระลักษมณ์อ้าปากค้างตาโต  ก่อนจะลิ้นพันกันตะกุกตะกักพูดขึ้นว่า
                    “เฮ้ย!  ดะ..ดะ...เดี๋ยวก่อนไมเหมางี้เล่าฟะ!  ผมเป็นฝ่ายโดนนะเว้ย!   มันต้องคุ้นเคยกันก่อนดิ  
นี่เล่นจะล่อกันอย่างเดียว”  ไม่พูดยังดีกว่าเสียอีก   คิดได้ตอนนี้คงสายไปแล้ว   ปาจาก้าวทีเดียวถึงตัว
พระลักษมณ์ก่อนจะรวบร่างโปร่งเข้าแนบชิด   พระลักษมณ์ยังจิตหลุดอยู่  ไม่ทันถามจุดประสงค์ที่
ปาจาทำ  ใบหน้าหล่อเข้มปานรูปสลักก็ประกบจูบบดปากบางทันที  จังหวะพระลักษมณ์กึ่งอ้าปากจะถามอยู่ร่อมร่อกลายเป็นเปิดทางให้ลิ้นชื้นรุกล้ำเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างจาบจ้วง  ไม่ทันได้ตั้งตัวมือหนาก็กดท้ายทอยยึดไว้ไม่ให้ขืนหนี   ทุกอย่างเกิดขึ้นเสี้ยวนาที   สำนึกได้ว่ากำลังถูกจูบก็ช้าไปแล้ว   
                    ด้วยความช่ำชองของปาจา  เล่นเอาพระลักษมณ์มึนไปกับรสจูบอย่างเมาๆงงๆ ประสบกามที่เคย
มีนั้น  ช่างเทียบไม่ได้เมื่อเจอจูบดูดวิญญาณเข้าให้  ทั้งเร่าร้อนอ่อนโยนเรียกร้องให้ตอบสนอง  จนเผลอดุนลิ้นโต้กลับไม่รู้ตัว  เรียกเสียงครางทุ้มในคอปาจาอย่างพึ่งใจ
                    “อึม!”    พระลักษมณ์รู้สึกดีซะงั้นหลังเรียกเสียงครางปาจามาได้   เคลิ้มไปกับจูบดูดดื่มแม้จะต่างชั้นเชิงกัน   สุดท้ายเป็นพระลักษมณ์เข่าอ่อนซะเอง   ต้องอาศัยอกแกร่งของปาจาประคองเอาไว้   สัมผัสท่อนเนื้ออุ่นแข็งดันบริเวณหน้าท้อง  เรียกสติที่กำลังเตลิดกลับมาทันที
                    มือสองข้างจับไหล่หนาเปลี่ยนเป็นทุบปึกๆ  ส่งสัญญาณหยุดจูบเพชฌฆาตของปาจาก่อนจะกู่
ไม่กลับ  เมื่อร่างกายของตนก็ไม่รักดีเสือกตั้งสู้เขาอีก   คงเพราะร่างสูงใหญ่ตรงหน้าสวมชุดนอนผ้าบางทับด้วยเสื้อคลุม   ความโล่งโต่งของเนื้อผ้าทำให้อาวุธร้ายพองตัวเต็มพิกัด   ดุนดันแถวหน้าท้องแบนราบของ
พระลักษมณ์จนรู้สึกได้ถึงความแกร่งและอุ่นร้อนเจ้าตัวร้ายกาจนั่น
                   ปาจาค่อยถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง   ตาคมเข้มดำสนิทเหมือนนิลดังมีมนต์ขลังดึงดูดตากลมโต
ของพระลักษมณ์ให้จมดิ่งอย่างไม่รู้สาเหตุ  แววตาคมฉายรูปหน้าของพระลักษมณ์ซึ่งแดงไล่ไปถึงหู  ปากบางเจ่อยังกะลูกเชอร์รี่  พระลักษมณ์หน้าร้อนผ่าว  เลือดวิ่งขึ้นหน้าทะลุองศาเดือดไปแล้ว
                  ปาจาจ้องหน้าหล่อใสของพระลักษมณ์อย่างเผลอไผล   ตากลมโตที่เบิกกว้างหวานฉ่ำ   ปากเจ่อเพราะรสจูบหวานล้ำที่เพิ่งได้สัมผัส   ทำให้หัวใจน้ำแข็งที่ชาเย็นเต้นกระหน่ำเหมือนจะทะลุออกนอกอก   
ทั้งคู่ต่างสบตากันนิ่งงั้น  โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา    กลับเป็นปาจาที่ยอมคล้ายอ้อมกอดปล่อยร่างโปร่งเป็นอิสระ   ก่อนหันหน้าหนีแล้วพูดเสียงทุ้มขึ้นว่า
                  “อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย   สิบนาทีผมจะมาทานข้าวด้วย”    ทิ้งท้ายก่อนคนพูด
จะเปิดประตูออกไป  ปล่อยพระลักษมณ์ยืนสับสนคนเดียว   ถ้อยคำที่ปาจาบอกก้องในหัวไปมา   พระลักษมณ์เดินทื่อเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปด้วยใบหน้าแดงก่ำเหมือนเด็กหัวอ่อนว่าง่ายไปซะงั้น
                 ปาจากลับเข้ามาอีกครั้งด้วยชุดลำลองสบายๆ  กางเกงสามส่วนขาวล้วนกระเป๋าข้าง  เสื้อโปโลสีขาว
สกรีนลายอย่างมีสไตล์   มาพร้อมธรรมตรัยซึ่งเข็นรถอาหารตามหลัง  ทั้งคู่เข้ามาขณะพระลักษมณ์ยังนั่งขัดสมาธิตาลอยอยู่บนเตียง   อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย  สวมกางเกงเลสีน้ำตาลอ่อน  เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวบางช่างดูดีมากเมื่ออยู่บนร่างโปร่งหน้าหล่อของพระลักษมณ์
                 ธรรมตรัยเข็นรถอาหารตระเตรียมเสร็จเรียบร้อย  ก็กลับออกไปด้วยหน้านิ่งตามนิสัยแถมปิดประตูให้อีกตะหาก   ปาจาเดินมาหยุดหน้าพระลักษมณ์สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง  ร่างหนาช่างสูงใหญ่สมส่วน  
ใบหน้าคมเข้มได้รูปมีเสน่ห์เหลือร้าย    ทั้งคู่มองสบตากันนิ่ง  เหตุการณ์จูบมรณะที่เพิ่งผ่านไปก่อนหน้า  ทำให้บรรยากาศของทั้งสองดูแปลกไป   พระลักษมณ์จากที่เคยต่อปากต่อคำสรรหาคำพูดขบกัดแสบๆคันๆพลันเป็นใบ้ดื้อๆซะงั้น
                  “ทานข้าวกัน”  ปาจาพูดจบ  ถือโอกาสคว้าข้อมือพระลักษมณ์ดึงลุกตามไปที่โต๊ะหน้าทีวี   
ก่อนจะยกอาหารหลากเมนู  ทั้งปลากระพงนึ่งซีอิ้ว   ผัดเห็ดลิ้นจื่อ  แกงส้มชะอมกุ้ง  ไข่เจียวหมูสับ  ข้าวสวยร้อนๆ มาวางตรงหน้าอย่างเอาใจ
                   พระลักษมณ์ได้แต่มองตามปาจาที่ลงมือเสร็จสรรพ   ปิดท้ายรินน้ำใส่แก้วให้อีกตะหาก   
แปลกประหลาดพิกลในสายตาพระลักษมณ์  ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าคุ้มหมาดเข้มเก็กเป็นนิสัย   ดีแต่ออกคำสั่ง
จะลงมือบริการตนเอง   ถึงจะรู้ว่าคนผู้นี้จบด๊อกเตอร์จากอังกฤษ  ประสบการณ์ต่างแดนย่อมช่วยเหลือตัวเองเป็นอยู่แล้ว  แต่ไม่คิดว่าจะบริการให้ตนด้วยนะสิ  อดไม่ได้พูดแหย่ทันทีหลังรู้สึกผ่อนคลายลงมาก
                   “ที่ลงทุนทำเนี่ยะ  คือโปรโมชั่นก่อนเปิดซิงผมหรือเปล่า?”  พูดจบ  ปาจาหลุดยิ้มออกมาจนได้   
เป็นรอยยิ้มที่พระลักษมณ์ไม่เคยเห็นมาก่อน   อบอุ่นสง่างามเหมือนดอกทานตะวันบานรับพระอาทิตย์
ยามเที่ยง   สว่างจ้าเปล่งออร่าจนแสบตา  สะกดพระลักษมณ์อึ้งค้างไปทันที
                  “ถ้าคุณชอบ   ผมยินดีเพิ่มโปรโมชั่นหลังการขายให้อีกยังได้”  พร้อมคำพูดติดขำของปาจา  
ทำเอาพระลักษมณ์หน้าแทบระเบิด ทั้งที่ตนเป็นฝ่ายหยอกก่อนกลับเขินซะเองให้ตายเหอะ  เพิ่งรู้ว่าอ่อนประสบการณ์เมื่อเจอปาจานี่แหละ
                 “เอ่อ  ไม่ต้องก็ได้แค่รู้สึกแปลกๆ  ไม่นึกว่าอย่างคุณเคยมีแต่คนรองมือรองเท้าจะทำเป็น”  
แถไปก่อน  ยังไม่กล้าสบตาปาจาตรงๆ จะกล้าได้ไงเมื่อฝ่ายตรงข้ามทั้งยิ้มทั้งส่งสายตาเล่นเอาพระลักษมณ์ใจเต้นกระหน่ำ อยากจะบร้า...ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้หวะ!
                “ลองทานปลากระพงนึ่งซีอิ้วดู  นมอ่อนลงครัวทำเองกับมือ  รับรองติดใจ”   พูดพร้อมกับตัก
เนื้อปลาขาวจั๊วใส่จานข้าวให้อีก  พระลักษมณ์ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่   นี่เจ้าคุ้มน้ำแข็งมันจีบตนอยู่ใช่ไหม?   
ลงทุนทำยังกะพระลักษมณ์เป็นสาวน้อยซะงั้น     ซีนที่ใช้อยู่นี่มันจีบหญิงนี่หว่า?  เอาให้ตาย..วางตัวไม่ถูกแหละ  เอาหวะตักมาให้ลองหน่อยก็ดีได้ไม่ต้องเสียน้ำใจ   คิดแค่นั้นก่อนจะหยิบช้อนตักเนื้อปลาพอดีคำ
เข้าปาก  เนื้อปลานุ่มหวานไม่คาวเลยสักนิดรสชาติอร่อยสมราคาคุย   ทำให้พระลักษมณ์ต้องเลิกคิ้วหันกลับไป
พยักหน้าหงึกๆให้ปาจา   ออกอาการเห็นด้วยอร่อยจริง   
                   ปาจากลับมองท่าทางตอบรับของพระลักษมณ์น่ารักซะงั้น   หน้าหล่อใสเนียนไม่มีสิวสักเม็ด  
แดงเรื่อเพราะเจ้าตัวยังเขินอยู่บ้าง  เลือดฝาดขึ้นริ้วส่งให้น่ามองน่าสัมผัสเข้าไปใหญ่   กลืนยังไม่ทันหมดมีหน้า
ยักหน้าทำตาโตมาให้อีก   ยังไม่ทันได้พูดตอบไป  พระลักษมณ์กลับตักแกงส้มชะอมกุ้งใส่จานข้าวคืนให้ด้วย
                   “อ๊ะ!...คุณทานด้วยสิ  มองผมกินคงอิ่มหรอก  ไม่ใช่สาวน้อยนิไม่ต้องเทคแคร์ก็ได้  เรื่องอื่น
ค่อยว่าทีหลังขอเติมพลังงานก่อน”  พูดจบเจ้าตัวก็กลับมาดี๊ด๊าหน้าตาเฉย  ลงมือตักกับใส่จานโซยข้าวอย่างมีความสุข   บรรยากาศอิลักอิเหรื่อก่อนหน้าจางลงไปทันที  กลับเป็นบรรยากาศมื้อกลางวันที่เอร็ดอร่อยแทน
ซะงั้น  อาหารมื้อนี้สำหรับปาจาถือว่าอร่อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ
                 ตั้งแต่เริ่มต้นมื้อกลางวันนั้น  ปาจามาทานข้าวกับพระลักษมณ์ในห้องทุกมื้อ  สำหรับอาหาร
ธรรมตรัยเข็นมาส่งให้ถึงในห้อง  ก่อนมาเก็บออกไปทีหลัง   ห้องนี้ไม่มีใครย่างกรายเข้ามาเลยนอกจากปาจากับธรรมตรัย  ไม่ต้องถามพระลักษมณ์ก็พอเข้าใจว่าเพราะอะไรคนอื่นถึงไม่เข้ามา   นอกจากจะมาทานข้าวเป็นเพื่อนแล้ว  ปาจายังมาคลุกอยู่กับพระลักษมณ์ตลอดทุกวัน   ผ่านมาจนถึงคืนที่สี่   ขณะกำลังนั่งดูทีวีเพลินๆ  
ปาจาอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ  จู่ๆดันพูดขึ้นว่า
                 “คืนนี้ผมจะนอนที่นี่”   พระลักษมณ์อึ้งทันที  ก่อนจะหันมาจ้องหน้าปาจา  แล้วถามย้ำ
                 “ว่าไงนะ อีกทีดิ”  กลัวหูฝาด  ขอชัดๆให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิดอีกรอบเถอะ
                 “ผมบอกคืนนี้จะค้างด้วย   คืนพรุ่งนี้เป็นคืนจันทร์เพ็ญ  เราต้องเข้าพิธีล้างอาถรรพ์อยากให้คุ้นเคย
กันไว้เหมือนที่คุณเคยพูดไง”   พูดได้หน้านิ่งมาก  ยังกับการนอนด้วยกันเหมือนกินข้าวซะงั้น
                 “เดี๋ยวๆ  ผมยังไม่พร้อมขอทำใจก่อนได้ไหม?”   พระลักษมณ์หน้าตื่น ใช่จะนิ่งดูดายสมองเค้นทางออกจนมึนตึ๊บยังมองไม่เห็นวิธีแก้ปัญหาเลยสักนิด  ห้องนี้เชื่อแน่ว่าไม่ได้อยู่บนดิน  ต้องเป็นห้องใต้ดินที่มีทางลับเฉพาะ   ต่อให้หลุดออกประตูไปยังไม่แน่ว่าจะคลำทางออกเจอ  ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในคุ้มรู้ว่ามีห้อง
ใต้ดิน  ตนยังหาทางลงไม่เจอด้วยซ้ำ  แล้วจะหาทางออกถูกได้ยังไง ที่สำคัญมีกลไกอะไรบ้างก็ไม่รู้
                   ที่แย่ยิ่งกว่า คงเป็นตัวอันตรายตรงหน้าตะหาก  อยู่ด้วยตลอดเหมือนเงาติดกันแล้ว ฝีมือใช่ขี้ๆ
ผ่านง่ายซะที่ไหน   
                  “ผมไม่ได้บอกจะทำอะไรคุณสักหน่อย  นอนด้วยเฉยๆ” ปาจายังพูดหน้าตาย  กลับเป็นพระลักษมณ์
หน้าร้อนฉ่ากลายเป็นว่าตนคิดเกินเหตุ   เอาเถอะจะอายไปใย  เพื่อความปลอดภัยของร่างกายล้วงข้อมูลของปาจาบ้างดีกว่า
                 “คุณจา  ถามหน่อยเหอะเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนหรือเปล่า?”  คำถามป้อนไปแล้ว  โดยคนถาม
ตั้งหน้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
                 “ไม่เคย  กำลังจะลองครั้งแรก”  ตอบได้หน้านิ่งมาก   ปั๊ด! เหนี่ยวซะนี่  พระลักษมณ์ถลึงตาใส่  
บ่นอุบอิบคนเดียว
                 “รู้ป่าว?  ไม่ง่ายนะที่ฝ่ายรับเจอครั้งแรกกับคนไม่มีความรู้มาก่อน   บาดเจ็บพิการมาคุ้มผมไม่”  
อุธรณ์ด้วยท่าทางจริงจังมากมาย   แต่ปาจาทนกลั้นขำหน้านิ่ง  ตาไหวระริกตลกท่าทางพระลักษมณ์ที่แสดงออกหนักหนา
                “ถ้าคุณพิการ  ผมรับเลี้ยงตลอดชีวิต โอเคไหม?” พระลักษมณ์ขบปากแน่น   นึกโมโหคนบ้าหน้าตาย
จนอยากจะขบหัวแหละ  ใครอยากให้รับเลี้ยงเล่าหวะ!  คุ้มตายหละที่ต้องเอาชีวิตทั้งชีวิตมาทิ้งเพราะโดนสอยตูดเนี่ยะนะ
                 “คุณจริงจังหน่อยสิหวะ  นั่นมันสวัสดิภาพร่างกายผมเลยนะนั่น   คุณจะทำเป็นเล่นไม่ได้  ผมก็รัก
ก็หวงของผมเหมือนกัน ทำงี้เอาปืนมายิงกันเลยดีกว่า” ท่าทางกร่างใส่ของพระลักษมณ์ไม่ได้ดูน่ากลัวในสายตาปาจาเลยสักนิด  ตรงข้ามคนมองยิ่งปวดท้องกลั้นขำไปกันใหญ่  
                   สำหรับปาจาถือว่าพระลักษมณ์เป็นคนแรกที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข  การกระทำที่แสดงออก
เรียกรอยยิ้มได้ตลอด   ถึงบ้างครั้งจะกวนประสาทบ้างแต่ก็ตลกเสียมากกว่า  เพิ่งเจอพระลักษมณ์คนแรกนี่แหละ
ที่ทำให้หัวใจตายด้านของตนกระตุกถี่หยิบกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
                  “ผมคงไม่เอาปืนมายิงคุณหรอก  ในเมื่อผมตั้งใจยิงประตูคุณอยู่แล้ว  เอาปืนมาทำไมจริงไหม?”  
เป็นครั้งแรกเช่นกัน  ที่ปาจาต่อปากต่อคำสองแง่สองง่ามเช่นนี้  และก็ทำให้ต้องหลุดหัวเราะออกมาจนได้  ทั้งที่เก็กหน้าตายกลั้นขำมาตั้งนาน   ก็หน้าพระลักษมณ์หลังปาจาพูดจบ  ตลกจนกลั้นไว้ไม่อยู่ ตากลมโตเบิกกว้างยิ่งกว่าไข่ห่านเสียอีก  แถมทำปากพะงาบๆ เหมือนคนโดนผีหลอกซะงั้น  ไม่ใช่พระลักษมณ์ทำไม่ได้นะนั่น
                  “พรืดๆ...หึหึหึ!..ทำไมดีใจขนาดนั่นเชียว”  ยิ่งเห็นยิ่งนึกสนุก  อดไม่ได้ต้องแหย่เข้าไปอีก  
ซึ่งไม่ใช่นิสัยปาจาเลยที่จะพูดเล่นแบบนี้  แต่ไม่รู้ทำไมกับพระลักษมณ์แล้วปาจากลับรู้สึกสนุกไม่น้อย
                  “คุณจา  รู้ตัวไหมคุณท่าจะอาการหนัก  ถ้ามองหน้าผมตอนนี้แล้วเข้าใจว่าผมดีใจแล้วละก็   
ขอแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์โดยด่วน  ผมว่าพวกคุณจิตคงไม่ปกติ  ทั้งเลขาทั้งเจ้านาย  มาโซกันชัดๆ  
ชอบความรุนแรง  บ้าอำนาจ ซาดิสย์ด้วยหรือเปล่ายังไม่รู้  เท่าที่เห็นก็เกินทนแล้วเหอะ”  พระลักษมณ์บ่น
เป็นชุด  ใส่อารมณ์เต็มที่  ปาจาจ้องเพลินกับปากบางแดงที่จ้อไปเรื่อย  คนตรงหน้าใช่เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษหรือแทบไม่อยากเชื่อ  ถ้าไม่รู้ฝีมือที่ปะทะด้วยแล้วละก็   ปาจานึกว่าคุยอยู่กับเด็กมหาลัย   
                 “เอาเหอะคุณคิดไงก็ช่าง  คืนนี้ผมจะค้างที่นี่ไม่เปลี่ยนแปลง  ส่วนเรื่องที่ทำให้คุณกังวลไม่ต้องห่วง  
ผมศึกษาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทจนแตกฉาน  เหลือภาคปฏิบัติอย่างเดียวคงไม่เลวร้ายเกินทนหรอก”  ปาจาพูดอมยิ้ม   แต่พระลักษมณ์กับหนาวเยือกทุกรูขุมขน   
                 “คุณก็พูดได้ดิ  เป็นฝ่ายทำนี่หว่า?  ลองเปลี่ยนกันดูไหมเล่าเอาไหม?  คืนนี้ให้ผมล่อคุณก่อน
พรุ่งนี้คุณค่อยล่อผมคืนต้อนเข้าพิธีกรรมตกลงไหม?”  พระลักษมณ์ต่อรองทันที   ไอเดียนี้เพิ่งผุดขึ้นหมาดๆ  
คิดว่ากระแทกซะให้ปาจาหมดแรงเดินก็คงไม่มีปัญญามาทำอะไรตนได้อีก   หาทางยืดเวลาให้พ้นคืนจันทร์เพ็ญไปก่อน   อีกเกือบสามอาทิตย์กว่าจะวนมาอีกรอบ   ขอเวลาหายใจยาวขึ้นก็ยังดี   แต่ฝันนั่นก็สลายเมื่อปาจาตอบกลับมาว่า
                “ไม่ต้องหรอก  ผมไม่จำเป็นต้องทำอะไรงี่เง่าแบบนั้น ในเมื่อฟ้ากำหนดให้ผมเป็นผัวคุณแล้ว
ย่อมเป็นไปตามนั้น  จะฝืนลิขิตฟ้าทำไมกัน”   พระลักษมณ์กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว  โมโหจนหน้าเขียว   นึกยังไง
บังอาจมาใช้คำว่าผัวหน้าตาย   แล้วอ้างฟ้าอ้างชะตาลิขิตบ้าบออีก    บัดซบ! จริงๆ  ให้ตายเหอะ
                “ผมไม่มีวันเป็นเมียคุณ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้แปลว่าผมยินยอม เป็นเพราะคุณบีบผมตะหากให้รู้ไว้ด้วย”  พูดจบพระลักษมณ์กดรีโมทปิดทีวี  ขึ้นเตียงหยิบผ้าห่มมาคลุมโปงหันหลังให้ดื้อๆ ซะงั้น
               หากพระลักษมณ์สบตาปาจาสักนิด   หลังจบประโยคสุดท้ายที่พูดออกไป  คงทันได้เห็นแววตาไหววูบ
ที่แสดงออกชัดเจน  แต่เมื่อเจ้าตัวหันหลังหนีแบบนั้นจะรับรู้อะไร   ตรงข้ามอีกคนที่อึ้งเป็นเป่าสากจิตหลุดไปแล้วมั้ง
               ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ  นานจนพระลักษมณ์ที่คิดมากวุ่นวายในหัวตีกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง
จนผล่อยหลับตอนไหนไม่รู้  กลับสะลืมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่นเมื่อสัมผัสอุ่นให้ซุกซบประหนึ่งเกราะกำบังคอยปกป้องภยันตรายต่างๆ  ทำให้คนรั้นหลับลงอย่างอบอุ่นใจ   มีหลุดถอนหายใจเหมือนจะตื่นแต่กลับไม่
ลืมตา  ก่อนจะเบียดตัวซุกอกแกร่งผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างมีความสุขตลอดคืน
              ในขณะที่อีกคนซึ่งคอยประคองกอดกลับลืมตาคมเข้มค้างในความมืด  ใจเต้นกระเด็นกระดอนรัว
ไม่เป็นส่ำ ที่กล้าเสี่ยงดึงคนหลับเข้ามากอด   กะว่าไม่โดนออกหมัดออกเข่าอย่างน้อยก็คงโวยวายลั่นห้อง  ถึงได้เตรียมรับมือไว้ดิบดี  ตรงข้ามแค่ครางอืออ่าก่อนจะเบียดเข้าหาอกแกร่งซะเองงั้น  ทิ้งท้ายถอนใจยาวเหมือนโล่งสบายหลับสนิทไปเฉยเลย
             กว่าจะควบคุมจังหวะเต้นของหัวใจลงได้ล่อไปค่อนคืน  หลังสูดดมความหอมผมนุ่มบนหัวทุยที่ติดกลิ่นแชมพูซึ่งซุกซบอยู่แนบชิด   ปาจาเผลอยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆ  ปิดเปลือกตาหลับตามร่างโปร่งไปในที่สุด
             เงามืดบนเตียงกว้าง  ฉายภาพหนุ่มร่างหนาใหญ่ตระกองกอดหนุ่มร่างโปร่งซุกอกหลับไปด้วยกัน  
ภาพนี้ช่างดูอบอุ่นยิ่งนัก   หากชะตาฟ้าเบื้องบนกำหนดให้มนุษย์เพศผู้ทั้งสองต้องมาคู่กันแล้ว  ถือว่าเป็นคู่ที่ทั้งสามภพต่างอิจฉาไม่น้อย  ดูเหมาะสมเสียจนเทวดาปีศาจยังต้องพลอยยินดีให้ด้วยความเต็มใจ
                  ผ่านไปเร็วเหมือนโกหก  ในที่สุดก็ถึงเวลาล้างอาถรรพ์เสียแล้ว  หลังตื่นมาตอนเช้า
พระลักษมณ์แน่ใจว่าตนนอนร่วมกับใครอีกคน  แต่พอลืมตากลับไม่มีเงาคนๆนั้นเลยแม้แต่น้อย
                  อะไรก็ไม่หงุดหงิดเท่าสี่วันที่ผ่านมา  ทุกมื้อต้องเสนอหน้านั่งทานข้าวเป็นเพื่อน   หรือไม่ก็อยู่ใกล้ๆ  ไม่อ่านหนังสือก็ดูทีวี  พูดคุยด้วยบ้างไม่มากก็น้อย  แต่ไหงวันนี้ไม่เห็นหัว  อาหารที่ว่าอร่อยนักหนากลับจืดชืดไร้รสชาติขึ้นมาทันทีเมื่อต้องทานคนเดียว   ข้าวแทบจะไม่พร่องจนธรรมตรัยยังสังเกตุเห็น  พระลักษมณ์แทบไม่แตะอาหารเลยด้วยซ้ำ  แต่ธรรมตรัยก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร
                  หลังมื้อค่ำไม่เกินชั่วโมงธรรมตรัยกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง  พร้อมกับเสื้อคลุมผ้าฝ้ายคล้ายยูกาตะญี่ปุ่นสีขาวล้วนไม่มีลวดลาย   ก่อนเอ่ยปากบอกพระลักษมณ์อาบน้ำชำระร่างกายอีกรอบ  แล้วให้สวมเสื้อคลุมเพียงตัวเดียวกางเกงในยังห้ามใส่อีกตะหาก   ให้เวลาสิบนาทีจะมาพาไปห้องทำพิธีกรรม
                   ใจที่หดหู่ไม่มีชีวิตชีวากลับตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล  คงเพราะจะได้ออกจากห้องซึ่งอยู่มาห้าวันไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน   หรือเพราะจะโดนเปิดซิงกันแน่   ในหัวพระลักษมณ์สับสนเกินหาคำตอบให้ตนเอง  อาจเพราะรู้จะได้เจอใครบางคนที่หายหัวไม่เห็นเงามาทั้งวัน   เลยตื่นเต้นก็เป็นได้   
                    ใจไม่อยากยอมรับความรู้สึกที่คืบคลานเข้ามาช้าๆ  พระลักษมณ์จึงไม่ต้องการค้นหาคำตอบ   
แต่กลับทำตามธรรมตรัยบอกทุกอย่าง   อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ   ไม่ลืมถ่ายหนักล้างไส้ซะดิบดี  แม้ไม่มีประสบการณ์มาก่อนแต่ทฤษฎีพระลักษมณ์รู้ดีเลยว่า  ต้องเตรียมความพร้อมยังไงบ้าง   
                     ที่ทำไปไม่ใช่ต้องการให้เค้าทะลวงตูด  หากไม่มีทางเลือกต้องโดนเปิดซิงแล้วละก็   
ไม่อยากอายตัวเองเพราะดันขี้แตกระหว่างพิธี  คงดูทุเรศสุดๆ  จำเป็นจริงๆยอมเสียศักดิ์ศรีไปก็ได้มันกินไม่ได้สักหน่อย   ไม่มีทางเลือกก็ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน   แต่ต่อให้เสียเกียรติแต่จะไม่ยอมเสียหน้าให้เขาว่าไอ้ขี้แตกเพราะโดนตุ๋ยตูดเป็นอันขาดข่าวนี้แพร่ไปเมื่อไหร่ได้ตายทั้งเป็นเลยทีนี้  สำคัญที่สุดจะไม่ยอมให้ปาจาหัวเราะเยาะใส่เด็ดขาด   เรื่องนี้พระลักษมณ์ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้   วิธีคิดข้อแก้ต่างให้กับการกระทำของตนเอง  อย่างน้อยก็ทำให้สบายใจขึ้นมาก
                   ธรรมตรัยกลับมาตามเวลาเป๊ะ   พระลักษมณ์พร้อมอยู่แล้วในชุดคลุมยูกาตะสีขาวขับผิวสว่างจ้า
ยิ่งขึ้นไปอีก  หน้าหล่อใสเหมือนมีออร่ากระจายอยู่รอบกาย   ธรรมตรัยตะลึงไปชั่ววูบเมื่อเห็นพระลักษมณ์
เข้าทีแรก   
                   ไม่คิดว่าถึงเวลายังกะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่วมรับรู้  ถึงเปล่งรัศมีฉายแสงในตัวพระลักษมณ์ตามตำราเขียนไว้ไม่ผิด  รัศมีตอง 7 พลังแห่งองค์นารายณ์  ชื่อพระลักษมณ์มาจากตำนานรามเกียรติ์   ไม่แปลกใจทำไมพระลักษมณ์ถึงถูกส่งให้มาล้างอาถรรพ์มนต์มาร  ภัยพิบัติมหันต์เมื่อผนึกมนต์ต้องห้ามถูกนำมาใช้โดยพรานธรรมรัตน์ปู่ทวดของตนในอดีต  เจ้าของหัวใจมารต้นแบบที่ตนได้รักษาไว้อย่างดี
                      กฎแห่งเทพและกฎแห่งมาร  มนต์ตราอาถรรพ์ถึงเวลาชะล้างแล้วสินะ ฟ้าถึงได้ส่งบุคคลตรงหน้า
มาคู่ปาจาในวันนี้  เห็นกับตาต้องยอมรับว่าไม่ผิดตัวแล้วแน่นอนตามตำราบอกทุกอย่าง   นรลักษณ์รัศมีเปล่งประกายจ้าขนาดนี้สัมผัสได้ทั้งตาเนื้อและจิตนิ่ง   ธรรมตรัยบอกกับตัวเองในใจ   พาลหัวใจพองโตคับอก  
แม้จะเคยรู้สึกไม่ชอบหน้าพระลักษมณ์มาก่อน   
                      ณ  วันนี้กลับต้องขอบคุณจากใจจริง  พระลักษมณ์คือผู้ที่สามารถล้างอาถรรพ์มนต์มารให้กายันต์  
นั่นหมายถึงความรักของตนกับกายันต์ก็สมหวังเหมือนกัน  ไม่ต้องกลัวตกเป็นทายาทมนต์มารอีกต่อไป  
ก่อนพาพระลักษมณ์ไปยังห้องพิธีกรรม  ธรรมตรัยจึงพูดขึ้นว่า
                      “ในฐานะตัวแทนผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย และวิญญาณมากมายที่ล้มตายจากมนต์อสูรในขุมนรกอเวจี   
ผมขอบคุณแทนทุกคนที่คุณเสียสละปลดปล่อยวิญญาณเหล่านั้น กุศลที่คุณทำไปในครั้งนี้ ยิ่งใหญ่กว่าผลบุญใดๆเสียอีก  บารมีทานจะส่งผลให้คุณประสพสิ่งเสมอใจตลอดกาลนาน”  ธรรมตรัยพูดจากความรู้สึก
แก่นแท้  แววตาเหยี่ยวที่เย็นชาอ่อนโยนจนน่าทึ่ง  ที่สำคัญใบหน้าสวยฉายเสน่ห์จนพระลักษมณ์ตะลึงไปเหมือนกัน    ก่อนหลุดปากถามออกไปว่า
                      “เกี่ยวอะไรกับปลดปล่อยวิญญาณด้วย    ผมไม่เข้าใจ”   
                      “คุณคงไม่รู้สินะ   ทุกชีวิตที่มารในอดีตและปัจจุบันได้เข่นฆ่าไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้เลย  
วิญญาณตกเป็นทาสบริวารเพื่อเสริมพลังให้จิตมารรุ่นต่อไปไม่จบไม่สิ้น  จนกว่าจะล้างอาถรรพ์ทำลายมารร้ายให้สิ้นซาก  เมื่อนั้นดวงวิญญาณจึงจะได้รับอิสระสามารถไปผุดไปเกิดเวียนว่ายตามวัฎสงสารต่อไป  ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีก”   
                        ธรรมตรัยอธิบายจบ   พระลักษมณ์รู้สึกขนลุกวูบโดยไม่ทราบสาเหตุ   จากนั้นเลขาเย็นชา
ก็ก้าวนำออกประตูเดินตามทางลาดที่ลดหลั่นระดับเป็นทางยาว  วกวนคดเคี้ยวชวนงงดีแท้   พระลักษมณ์อดคิดในใจไม่ได้  ดีที่ไม่ตีหัวปาจาสลบแล้วหนีออกมาเอง  ขืนออกมางมโข่งกับเส้นทางแบบนี้ได้หลงทางตายกัน
ไปข้าง  
                          ธรรมรัตน์พาพระลักษมณ์เดินไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ  ตามขั้นบันไดซึ่งเดินได้ทีละคน   
พระลักษมณ์ทึ่งปนอึ้งกับสถาปัตย์กรรมซุกซ่อนนี้  อยากยกนิ้วโป้งให้กับคนออกแบบชะมัด  สามารถซ่อนทางลับภายใต้เรือนไทยหลังใหญ่โดยที่คนภายนอกไม่รู้เลยว่ามีสิ่งนี้อยู่แม้แต่น้อย
                          เดินจนหอบ   ธรรมตรัยก็พามาหยุดหน้าประตูไม้สักบานใหญ่  ก่อนจะผลักเปิดเข้าไปเงียบๆ   
พระลักษมณ์รู้สึกทึ่งมากหากสถานที่นี้คือห้องประกอบพิธีที่ว่าละก็  คงถูกเตรียมไว้ล่วงหน้ามานานแล้วจริงๆ   เพราะมันอยู่สูงสุดของบ้านเลยก็ว่าได้  น่าจะเป็นจั่วหลังคาทรงไทยอันใดอันหนึ่ง  ที่น่าแปลกคือหลังคากลับเปิดโล่งมองเห็นพระจันทร์ลอยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกระหม่อมเลยเชียว แสงนวลตากลมโตเหมือนกับมือจะเอื้อมได้ถึงช่างสวยเสียจริง  ‘พระจันทร์วันเพ็ญ’   
                    สายตามาสะดุดกลางห้อง ซึ่งมีอ่างจากุซซี่สีขาวฝังอยู่กว้างพอกับสระขนาดย่อมเลยก็ว่าได้   
น้ำในอ่างโรยกลีบดอกไม้หลายชนิดส่งกลิ่นหอมประหนึ่งสระอโนดาตในนิทานพื้นบ้านซะงั้น
                    ห้องนี้ไม่มีไฟฟ้าสักดวงด้วยซ้ำ  ใช้เทียนหอมจุดรอบอ่างแทนก็สามารถมองเห็นทุกอย่างชัดเจน  
ก่อนจะทันเห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ปานรูปสลักสวมเสื้อคลุมแบบเดียวกับพระลักษมณ์ต่างที่เป็นสีดำสนิทยืนหันหลังแหงนมองจันทร์เพ็ญนิ่งๆ  ทำไมก่อนหน้าถึงมองไม่เห็น  เหมือนเจ้าของร่างยืนอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา  แต่ตนเชื่อว่ามองไม่เห็นจริงๆ  แปลกดีพิลึก   
                      ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา  รอเจ้าภาพคนเดียว  ใช้เวลาชั่วอึดใจปาจาค่อยหันหน้ามาช้าๆ   
พระลักษมณ์ตะลึงค้างใบหน้าได้รูปหล่ออย่างร้ายกาจ  หล่อจนเรียกได้ว่าใจสั่นเลยทีเดียว   เหมือนมีพลังดึงดูด
ไม่สามารถละสายตาเบือนหนีได้   เดิมก็ยอมรับว่าปาจาหล่ออยู่แล้ว  ตอนนี้ยิ่งสง่างามเกินบรรยาย   
                    ใบหน้าคมเข้มปานรูปสลัก  จมูกโด่งเป็นสัน  ตาคมวาวที่จ้องตอบพระลักษมณ์นิ่งสงบ  ปากหนา
สีสดพระลักษมณ์รู้จักดียิ่งกว่าใคร  หน้าอกที่โผล่พ้นคอเสื้อเห็นไรขนขึ้นแพร รูปร่างสูงใหญ่ข่มพระลักษมณ์ให้เหลือตัวกระจ้อยร่อยดวงตาคมตรึงพระลักษมณ์จนไม่สามารถเบือนหน้าหลบ  ก่อนซาตานรูปงามจะยกมือให้สัญญาณธรรมตรัยออกจากห้องอย่างเงียบกริบ  แถมปิดประตูล๊อคเรียบร้อย   
                      บัดนี้ในห้องซึ่งมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น  เหลือเพียงพระลักษมณ์กับปาจาลำพังสองคน   ก่อนที่ฝ่ายหลังจะก้าวอย่างมั่นคงมาหยุดยืนตรงหน้าพระลักษมณ์   มือหนาคว้าจับมือเรียวของพระลักษมณ์  จูงตรงไปยังอ่างกลางห้องโดยยังไม่พูดไม่จา   พระลักษมณ์ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน  เดินตามเค้ามาซะดิบดีไม่มี
ขัดขืน  เหมือนมีพลังบางอย่างผลักดันให้คล้อยตามอย่างง่ายดาย   ไม่มีความรู้สึกอยากดิ้นรนขืนมือหนีแม้
แต่น้อย   ทั้งที่สติรับรู้ครบถ้วนดีทุกอย่าง
แต่ใจกลับนิ่งสงบจนไม่อยากเชื่อ..ถ้าหากนี่คือความเร้นลับแห่งไสยศาสตร์ถือว่าพระลักษมณ์ได้สัมผัสด้วยตนเองแล้วเช่นกัน  ประสบการณ์สำหรับชายหนุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยี ถือเป็นครั้งแรกที่ควรค่าแห่งการเรียนรู้และจดจำ  โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่าต้องใช้หัวใจทั้งดวงพลีให้กับเหตุการณ์นี้อย่างไม่มีวันไถ่ถอนคืนได้อีกแล้ว.....?

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38467
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-24 17:02:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-25 15:02:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-28 00:06:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
29752
Zenny
13852
ออนไลน์
2690 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-7-11 14:01:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนมากคับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-7 18:19:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราบ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
783
Zenny
6205
ออนไลน์
254 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-8 15:04:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-14 15:57:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
81
Zenny
359
ออนไลน์
8 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-1-13 20:43:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1861
Zenny
4470
ออนไลน์
416 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-1-13 21:20:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
652
Zenny
101
ออนไลน์
133 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-1-18 19:58:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-1-20 09:22:32 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
105
พลังน้ำใจ
4967
Zenny
148
ออนไลน์
713 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-4-24 16:59:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
19411
Zenny
2429
ออนไลน์
2196 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-30 23:25:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
16390
Zenny
8082
ออนไลน์
2534 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-31 03:52:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
5288
Zenny
2716
ออนไลน์
622 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-31 11:03:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
31948
Zenny
4759
ออนไลน์
3070 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-31 15:00:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
21
พลังน้ำใจ
29733
Zenny
846
ออนไลน์
3874 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-31 15:57:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
30648
Zenny
10403
ออนไลน์
1910 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-2-7 20:18:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
59300
Zenny
38642
ออนไลน์
7763 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-2-8 20:34:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 18:41 , Processed in 0.129689 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้