ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 541|ตอบกลับ: 10

## เรื่อง "เรื่องของเค้ากะแก" ##(31)

[คัดลอกลิงก์]

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
261
พลังน้ำใจ
21430
Zenny
24868
ออนไลน์
3649 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

## เรื่อง " เรื่องของเค้ากะแก " ๓๑ ##

ตอนนี้ละ........ แตกเป็นแตก..

ม่ะ.... ไปอ่านกันต่อ

****************************************************************************************

ในตอนเช้าทันทีที่เราลืมตาตื่นขึ้นมาก็รู้สึกได้ทันทีว่าลืมตาได้ไม่เต็มตา  ซึ่งแน่นอนว่าตาเรามันคงบวมมากแน่ๆ  เมื่อรู้สึกได้แบบนี้ก็หวนไปคิดถึงต้นเหตุที่ทำให้เราต้องร้องไห้จนตาบวมเมื่อคืนนี้  ภาพที่เห็นภาพนั้นที่มันทำให้เราต้องร้องไห้ก็แจ่มชัดขึ้นมาในความคิด... แต่ในทันทีที่น้ำใสๆจะไหลรินจากดวงตาของเรา.. วงแขนที่กอดเราไว้ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็กลับกอดรัดเราแน่นยิ่งขึ้นเหมือนกลัวว่าเราจะหนีหายไปไหน  ทำให้เราหลุดออกจากความคิดแล้วหันมาสนใจกับเจ้าของวงแขนนั้นที่ตอนนี้นอนหลับอยู่ตรงหน้าเรา.. เราเอื้อมมือไปสัมผัสบนใบหน้าของป๊อบ... ไม่น่าเชื่อว่าคนที่น่าตาเข้มๆออกจะเถื่อนๆคนนี้จะมีท่าทางอ่อนโยนทุกครั้งที่อยู่กับเรา  แต่ทำไมกันนะเรากับมองข้ามป๊อบไป.. เราทำไมใจเรายังคงรักและมั่นคงกับไอ้คนที่มันทำให้เราเสียใจ....  น้ำตาที่มันหดหายไปเมื่อครู่ก็กลับเอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง... มันเป็นน้ำตาไหลเกิดจากความสมเพชตัวเองที่ยงมั่นคงอยู่กับรักที่คนถูกรักเค้ามองข้ามไป....

ป๊อบคงจะรับรู้ถึงแรงสั่นไหวของร่างกายเราพร้อมกับหยาดน้ำตาที่มันไหลรินลงบนอกของป๊อบ  ก็เลยทำให้ป๊อบรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา... ป๊อบปลอบโยนเราด้วยการกอดเราไว้แน่นขึ้นแล้วเอามือมาลูบที่หัวเราพร้อมกับจูบลงที่หน้าผาก... มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากที่เดียว...  เราพยายามที่จะหยุดร้องไห้แล้วเราก็เงยหน้ามาสบตากะป๊อบ.. ป๊อบก็มองเราด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยกำลังใจที่ป๊อบมอบให้  มันทำให้เรารู้ตัวในทันทีเลยว่า.. เราคงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากๆที่ต้องให้ป๊อบมาคอยดูแลและปลอบโยนเราแบบนี้...

เราจึงก้มลงจูบป๊อบ.. เผื่อว่ามันจะลบล้างความเห็นแก่ตัวที่เราทำกับป๊อบได้บ้าง  ตอนแรกป๊อบมีท่าทีตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเราแต่แล้วไม่นานเราก็ได้รับการตอบรับจากป๊อบ  เราจูบกันอยู่ครู่นึงเราก็ถอนปากออกแล้วพูดกับป๊อบว่า

" ขอบคุณนะ.." ป๊อบไม่พูดอะไรออกมาแต่ป๊อบเอามือมาลูบที่หัวเราแล้วก็ยิ้มออกมาจากนั้นป๊อบก็กดหัวเราให้หน้าผากของเราสัมผัสกับริมฝีปากของป๊อบ  ในตอนนั้นเราก็เลยนอนทับอยู่บนตัวป๊อบ..หัวของเราหนุนลงบนหน้าอกของป๊อบพอดี  เราจึงรู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจที่มันเต้นรัวและเร็วอยู่...

" ป๊อบเราขอโทษนะ...ที่.." เราพยายามที่จะพูดขอโทษป๊อบกับเรื่องที่ผ่านๆมาที่เรามองข้ามป๊อบมาตลอดทั้งๆที่ป๊อบดีกับเรามากๆ  แต่ป๊อบก็คงจะรู้ทันความคิดเรา  ป๊อบก็เลยพูดสวนขึ้นมาว่า..

" เราเข้าใจ.. ถึงปอจะยังรักคนคนนั้นอยู่..  แต่ป๊อบก็จะอยู่ข้างๆปอแบบนี้แหละ.. ปอไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก.. เราเต็มใจที่จะทำแบบนี้" ป๊อบพูดด้วยเสียงจริงจัง  ซึ่งมันทำให้เราอดตื้นตันไม่ได้.. เราสัญญากับตัวเองว่า.. ต่อจากนี้ไปเราจะดีกับป๊อบให้มากๆมากกว่ามันที่เคยเป็น...

*****************************************************************************************

หลังจากที่ป๊อบมาส่งเราที่บ้านในช่วงบ่ายๆ  เราก็โดนพ่อบ่นขึ้นมาทันทีเลยว่า.. ทำไมไม่โทรมาหาพ่อเลย... พ่อโทรมาหาเราก็โทรไม่ติด  พอเราหยิบโทรศัพท์ถึงได้รู้ว่าแบตหมด... เราจึงเสียบที่ชาร์ตแล้วลองเปิดเครื่องดูก็พบว่า  มีสากว่ามสิบสายไม่ได้รับซึ่งเบอร์ส่วนใหญ่ก็เป็นเบอร์ของภีม  แต่เราก็ไม่มีอารมณ์โทรกลับหรอกนะ.. ก็เลยปล่อยเอาไว้ก่อน...

ตอนช่วงเย็น..ภีมก็โทรมาหาเราอีก  เราก็เลยตัดสินใจรับเพราะคิดว่าจะได้คุยกันให้มันรู้เรื่องซะที  โดยเริ่มจากการที่เราเป็นคนขึ้นมาก่อนซึ่งก็แน่นอนว่าเราจะต้องถามถึงความสัมพันธ์ของภีมกะป๊อบแน่นอน  ภีมก็บอกว่า....

"ปอ... เค้าคิดกับฝนแค่เพื่อนนะ.. ไม่ได้มีอะไรเกินเลยทั้งนั้น " เราก็เลยพูดต่อไปว่า

" ภีมแน่ใจนะ" ภีมก็เลยพูดสวนกลับมาว่า

" ทำไมปอถามเค้าแบบนี้ล่ะ "  เราก็เลยเล่าทุกๆเรื่องระหว่างภีมกับฝนที่มันทำให้เราต้องเสียใจออกมาทั้งหมด  แล้วเราก็ถามภีมว่า

" ตกลงมันยังไงกันแน่ล่ะ... ไหนภีมอธิบายมาซิ" ภีมก็บอกว่า

" เค้ายอมรับนะ.. ว่าช่วงหลังๆมานี้เค้าสนิทกะฝนมากขึ้นจริงๆ  แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าความเป็นเพื่อนนะปอ  ปอไว้ใจเราสิ" เมื่อภีมพูดออกมาแบบนี้เราไปซักไซร้อะไรอีกภีมก็คงต้องตอบเหมือนเดิม  เราก็เลยเปลี่ยนไปถามอีกเรื่องนึงที่เรายังคาใจอยู่

" แล้วทำไมหลังๆมานี้  ภีมถึงไม่ค่อยคุยกะเค้าล่ะ.. โทรไปก็ไม่ค่อยว่าง  ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ด้วย" เมื่อเราพูดจบ  เราก็ได้ยินเสียงภีมถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า

" แม่เราจับได้อ่ะ... ว่าเราคบกับปอ.. แม่เรามาเช็คโทรศัพท์หนะ.. เค้าก็เลยรู้ " เราก็เลยถามต่อว่า

" แล้วแม่เค้าว่าไงบ้าง " ภีมก็ตอบออกมาด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลว่า

" แม่ถามเค้าว่า...  เค้าชอบแบบนี้เหรอ  เค้าก็ไม่ได้ตอบอะไรแม่ไปหรอกนะ  แม่เค้าก็เลยพูดขึ้นมาว่า.. แม่ไม่อยากให้เค้าเป็นแบบนี้  เค้าเป็นลูกชายคนโต  เค้าต้องดูแลครอบครัวต้องดูแลแพ็ท (นางสาวมัน) ต้องเป็นหน้าเป็นตาของครอบครัว  เค้าจะมาเป็นแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด" เมื่อเราได้ยินภีมพูด  เราก็รับรู้ได้ถึงความกดดันที่ภีมต้องแบกรับไว้อยู่เพียงคนเดียว ภีมคงจะอึดอัดกับมันมาก เราก็เลยถามต่อว่า

" แล้วภีมจะทำยังไงต่อ" ภีมก็ตอบว่า

" เค้าก็ไม่รู้เหมือนกัน... ใจนึงเค้าก็อยากทำตามที่แม่ขอ  อีกใจนึงเค้าก็อยากจะทำตามใจตัวเค้าเอง... เค้าไม่รู้อ่ะ" ยิ่งภีมพูดเรื่องนี้เราก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความอึดอัดและความกดดันที่ภีมเก็บซ่อนมันเอาไว้  ตอนนั้นเรารู้สึกน้อยใจที่ภีมมีเรื่องไม่สบายใจแบบนี้แต่ทำไมถึงไม่เอ่ยปากบอกเราเลยทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเวลาที่ภีมมีปัญหาภีมมักจะนึกถึงเราเป็นคนแรกเสมอ  เราก็เลยถามภีมออกไปด้วยเสียงตัดพ้อว่า..

" ทำไมภีมถึงไม่บอกเค้า..." แล้วภีมก็ตอบออกมาว่า

" เค้าก็ตั้งใจจะบอกปอนะ... เพราะเค้าไม่รู้ว่าเค้าจะทำยังไงดี  แต่พอเค้ารู้มาว่ามีเด็กห้องสี่ (ป๊อบไง) มาชอบปอ.. แล้วก็ดูท่าทางมันจะดีกับปอมากๆ  เค้าก็เลยคิดว่าเค้าไม่บอกปอดีกว่า..ปอจะได้ไม่กังวล.. แล้วปอก็จะได้เจอคนดีๆสักทีที่ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวแบบเค้า" พอได้ยินแบบนี้เราก็ร้สึกโมโหมากๆ  เราไม่ชอบใจเลยเวลาที่คนที่เรารักผลักไสให้เราไปหาคนอื่นแบบนี้  มันรู้สึกว่าตัวเองเป็นของไร้ค่าที่ใครๆไม่อยากจะได้  เราก็เลยพูดออกไปแบบประชดว่า

" ภีมก็เลยเก็บเรื่องนี้ไว้ให้ตัวเองไม่สบายใจอยู่คนเดียวนะเหรอ " ภีมก็เลยบอกว่า

" เค้าโทรไปคุยกะฝน... นี่แหละก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เรากะฝนสนิทกันมากขึ้น" ด้วยความน้อยใจที่มีอยู่เราก็เลยพูดกลับไปว่า

" สนิทกันจนเหมือนแฟนกันขนาดนั้นเนี่ยนะ.." ภีมก็บอกว่า

" ก็บอกแล้วไงว่าเป็นแค่เพื่อนกัน..." เราก็ถามคำถามนึงที่เรายังคงอยากจะรู้ว่า

" ถ้าฝนมันชอบภีมขึ้นมาล่ะ.. ภีมจะว่าไง" ภีมตอบว่า

" ไม่หรอกมั้ง... แต่ถ้าชอบเค้าจริงๆเค้าก็ไม่รู้อ่ะ.. ว่าจะทำไง  แต่ถ้าพูดกันจริงๆ ฝนก็เป็นแม่ที่ดีของลูกเค้าได้นะ" ประโยคหลังนี่สีที่ทำเอาเราสะอึกเลย.. แม่ที่ดีของลูกอย่างงั้นเหรอ.... น่าสมเพชตัวเองนะที่แม้ว่าเราจะดีมากขนาดไหน... แต่ก็ไม่มีทางไปถึงจุดหมายที่เราหวังไว้ได้หรอก... เราไม่สามารถเป็นแม่ที่ดีของลูกได้หรอกนะ..เพราะเรามันท้องไม่ได้หนิ  เราก็ได้แค่ตอบออกไปเบาๆว่า

" อืม..." ภีมก็เลยถามกลับมาบ้างว่า

" แล้วป๊อบล่ะ.. ปอคิดยังไงกะมัน" เราเลยตอบไปว่า

" ก็เป็นแค่เพื่อนกัน.. ไม่มีอะไรเกินเลย " ซึ่งเมื่อภีมได้ยินก็ตอบกลับมาเบาๆเช่นกันว่า  

" อืม..." เราก็เลยถามต่อว่า

" ตกลงเรื่องแม่อ่ะ... ภีมจะเอาไง   ถ้ามันเป็นแบบนี้... เราก็กลับมาเป็นแค่เพื่อนกันเหอะ" ซึ่งคำถามนี้ก็เหมือนเป็นการหาบทสรุปของความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ด้วย แล้วการที่เราบอกว่าให้เป็นแค่เพื่อนกันนั้นเราแค่อยากจะลบปัญหาต่างๆที่จะตามมาหากเราสองคนยังคบกันต่อไป ซึ่งภีมก็บอกว่า

" แม่เค้าบอกว่า... ความรู้สึกดีที่เรามีให้กันหนะมันก็เป็นแค่รักในวัยเรียน... เมื่อโตขึ้นเค้าก็จะคิดได้เองว่าอะไรควรไม่ควร  ดังนั้นตอนนี้แม่เค้าก็เลยยังปล่อยเลยตามเลยอยู่... เค้าก็เลยอยากจะบอกปอว่า เค้าอยากให้ระหว่างเรามันเป็นเหมือนเดิม.. และเค้าก็คิดว่าระหว่างเรามันไม่ใช่แค่รักในวัยเรียนด้วย แต่ถ้าปอจะคบกับป๊อบ.. เค้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ... เพราะป๊อบมันก็ดีกะปอ... และเค้าคิดว่ามันดีกะปอมากกว่า คะ... เค้า.." ก่อนที่ภีมจะพูดจบเราก็พูดแทรกออกไปว่า

" ภีมอย่ามาผลักไสเค้าให้ใครเลยนะ.. ถ้าเค้าจะรักใครเค้าเลือกเองได้" ภีมก็เลยเงียบไป...

จากนั้นเราก็คุยเรื่องสัพเพเหระอีกพักนึงแล้วเราก็แยกย้ายกันไปนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องไปเรียนแต่เช้า

*****************************************************************************************

แม้ว่าเราจะเข้าใจภีมมากขึ้นในหลายๆเรื่อง  แต่คำว่าแม่ที่ดีของลูกมันก็ยังติดอยู่ในใจเราอยู่ตลอด... ทำให้เราก็ยังไม่สามารถลดข้อสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างภีมกะฝนลงได้  และความน้อยใจภีมเรื่องฝนในหลายๆเรื่องมันก็ยังคงติดอยู่ในใจและยังสับสนอยู่

ในช่วงหลังจากที่เราคุยกะภีมแล้วความสัมพันธ์ของเรากะภีมก็ไม่ได้มีอะไรหวือหวามากขึ้นกว่าแต่ก่อน  เพราะเราก็ยังคงต้องแอบซ่อนความสัมพันธ์ของเราจากคนรอบข้างซึ่งรวมถึงคนที่บ้านภีมด้วย  
ส่วนป๊อบก็คอยรับฟังและเป็นกำลังใจให้เราอยู่ตลอดซึ่งช่วงหลังๆมานี้เราก็ไปไหนมาไหนกับป๊อบบ่อยมากขึ้นจนเราสนิทกับเพื่อป๊อบหลายๆคน  พวกนั้นก็จะแซวเราอยู่เสมอว่าเมื่อไหร่เราจะรับรักป๊อบซะทีเราก็ได้แต่ยิ้มกลับไปทุกครั้ง

ส่วนเพื่อนๆในกลุ่มก็ยังเหมือนเดิมเรายงคงเรียนด้วยกันเล่นด้วยกันและเที่ยวด้วยกันเหมือนเดิม  เรียกได้ว่าเจอหน้ากันแทบจะทุกวันแม้แต่วันหยุดก็ต้องนัดออกมาเจอกัน  ซึ่งนี่ก็ปีที่สามแล้วที่เรารู้จักกันเป็นเพื่อนกันมา  แน่นอนว่าพวกเราต้องสนิทกันมากๆ  เพราะพวกเราคอยช่วยเหลือคอยดูแลกันมาตลอดสามปี  เพียงแต่สำหรับเรานั้นเจมส์อาจจะเป็นเพื่อนที่พิเศษกว่าคนอื่นๆก็เท่านั้นเอง

ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดำเนินมาอย่างเป็นปกติจนถึงวันที่มีการแตกหักกันเกิดขึ้น

เช้าวันนั้นเราตื่นค่อนข้างสายเพราะว่าเมื่อคืนไปเที่ยวงานลอยกระทงกับพี่ๆน้องๆที่เป็นกะเทยด้วยกันที่เรารู้จัก...  กว่าจะได้ลอยก็ต้องรอตอนเที่ยงคืนพอดี  ดังนั้นกว่าจะถึงบ้านก็เลยปาเข้าไปดึกหน่อย...  กว่าจะไปถึงรร.ก็ถึงเวลาเข้าแถวพอดี เราก็เลยรีบเอาเป้ไปเก็บบนห้องก่อนเพื่อจะรีบลงมาเข้าแถวหน้าเสาธง ซึ่งตอนที่เดินขึ้นห้องเนี่ย... ยากลำบากชิบ.. เพราะเราต้องเดินสวนทางกับคนที่กรูกันเดินลงบันไดมาเพื่อไปเข้าแถว.. ทำให้การเดินขึ้นห้องของเราดูทุลักทุเลไปหน่อย

พอเดินถึงห้องเราก็เอากระเป๋าไปวางไว้ที่โต๊ะตัวเองซึ่งตอนนั้นก็มีเพื่อนในห้องบางส่วนนั่งลอกการบ้านกันอยู่  ทำให้ตอนที่เราเดินลงมาเข้าแถวเราก็เลยเดินลงมาพร้อมพวกมันเพราะกลุ่มของเรามันไปกันหมดแล้ว  

พอไปถึงที่แถวเราก็เลยไปยืนอยู่หลังๆเพราะมาช้าซึ่งปกติเรากะเพื่อนๆในกลุ่มจะยืนอยู่แถวหน้าๆเสมอ วันนี้เราหลุดออกมาจากกลุ่มก็เลยได้มีโอกาสคุยกะเพื่อนคนอื่นๆในห้องมากขึ้น จริงๆแล้วเราอ่ะสนิทกับเพื่อนทุกคนในห้องเหละถึงแม้ว่าบางคนจะไม่ค่อยได้คุยกันก็ตาม  แต่ด้วยความที่เราเป็นคนสนุกสนานร่าเริงคุยสนุกก็เลยสนิทกับทุกๆคนในห้องได้ไม่ยาก  เพราะเวลาว่างๆพวกมันก็ชอบเดินมาเล่นมาคุยกับเราเสมอๆ  

ซึ่งช่วงที่เรายืนเข้าแถวกันอยู่นั้น... จ๋า เพื่อนในห้องคนนึงก็ถามเราว่า

"ปอ..เมื่อคืนแกไม่ได้ไปลอยกระทงที่เจ้าหลาวเหรอ" เราก็เลยตอบกลับไปว่า

" ป่าวอ่ะ... เราไปลอยที่วัดจันท์มา" จ๋าก็เลยถามกลับมาอีกว่า

" ถึงว่า..เราไม่เห็นแกเลย... แต่กลุ่มแกก็ไปครบหนิ.. ขาดแค่แกคนเดียวเอง" ได้ยินจ๋าพูดแบบนี้เราก็เริ่มงงๆเลยแฮะ... เราก็เลยถามกลับไปว่า

" แกเจอกลุ่มเราที่เจ้าหลาวเหรอ" จ๋าก็ตอบว่า

"อืม.. เราไม่ได้เข้าไปทักหรอกนะ.. แต่เห็นพวกแกมากัน เรายังมองหาปอเลย...แต่ก็ไม่เห็น... เรายังแปลกใจเลยว่าทำไมแกไม่มา..   " พอได้ยินแบบนั้นอย่าว่าแต่จ๋าเลย  เพราะเราก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเราไม่ได้ไป.. ไม่มีใครบอกเราสักคน  มันเริ่มทะแม่งๆแล้วล่ะ

" นี่.. ตอนแรกเราเห็นแค่ฝนกะภีมขับรถมาด้วยกันแค่สองคน.. เราก็นึกว่ามันแอบมาสวีทกันซะอีก.. เผื่อว่าห้องเราจะได้มีคู่รักเพิ่มมาอีกคู่นึงไง.. แต่ที่ไหนได้เห็นมากันกันกลุ่มเลย" จึ้ก... แทงใจเราเต็มเลยกับคำที่ได้ยินจากปากดาว เพื่อนอีกคนนึงที่อยู่ในกลุมเดียวกะจ๋าน่นแหละ

" เออ... ว่าแต่ทำไมแกไม่ไปกะพวกมันอ่ะ " ดาวหันมาถามเราต่อ

" พอดีเราต้องไปกะที่บ้านหนะ" เราโกหกคำโตออกไป

" แหม..เราก็นึกเป็นห่วง.. นึกว่าแกโดนเพื่อสวมเขาซะอีก" จ๋าหันมากระซิบกับเราด้วยความเป็นห่วง  คือที่จ๋าพูดแบบนี้อ่ะเพราะว่าเรากะจ๋าเคยเรียนชั้นประถมมาด้วยกันก็เลยสนิทกันมาก่อน  ทำให้จ๋าก็พอรู้เรื่องส่วนตัวเราอยู่พอสมควร

" เราว่างานนี้... เราคงเป็นควายแล้วแหละ" พอได้รู้เรื่องต่างๆจากจ๋าและดาวเราก็รู้สึกโมโหมากที่เดียว... ทำไมกันนะเพื่อนในกลุ่มถึงไม่มีใครชวนเราเลยสักคน...  พอขึ้นไปบนห้องเราก็เลยแยกตัวออกมานั้งที่ระเบียงคนเดียวเพราะอาจารย์ยังไม่เข้า... ตอนนั้นเองเราก็ได้ยินเสียง นิด  ฝน  ภีม  บัว คุยกันว่า บอกก่อนว่ามันสี่คนก็ออกมานั่งที่ระเบียงเหมือนกันแต่ว่าระเบียงหน้าห้องเรามันมีต้นเสาคั่นตรงกลางซึ่งเราก็พิงต้นเสาอยู่  มันสี่คนก็เลยไม่เห็นว่าเรานั่งอยู่ที่ระเบียงด้วย เราก็เลยได้ยินบทสทนานั้นเต็มๆเลย... ซึ่งเราได้ฟังแล้วรู้สึกเสียใจจนร้องไห้ไม่ออก  บทสนทนานั้นก็คือ

"แหม...ภีม..เมื่อคืนทำไรกะไอ้ฝนรึป่าวเนี่ย...วันนี้มันถึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนี้อ่ะ" เสียงนิดแซวฝน

" เออ..ช่าย... เห็นหลงทางกันไปสองคนตั้งนานสองนาน" เสียงบัวเสริมขึ้นมา

" ปล่าวซะหน่อย...ไม่มีไร" เสียงฝนพูดอายๆ ส่วนภีมก็หัวเราะอยู่เรื่อยๆ

" ยังไงกันเนี่ยคู่นี้.. เมื่อคืนก็ลอยกระทงอันเดียวกันอีก.." นิดยังคงแซวไม่เลิก ภีมก็ยังคงหัวเราะไปกับคำแซวอยู่ตลอด

" เฮ้ย..แก.. ปอมันจะน้อยใจป่าว  ที่มันไม่ได้ไปกับเราเมื่อคืน" บัวถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ

" ไม่หรอก.. ก็อย่าบอกมันดิ  ว่าเราไปด้วยกัน" นิดบอก

จากนั้นมันทั้งสี่คนก็เดินเข้าไปในห้อง... มันมาทิ้งระเบิดไว้แล้วมันก็ไป  เรารู้สึกเพียงอย่างเดียวคือช็อค.... มันไม่มีน้ำตาสักหยดไหลออกมา  รู้สึกแค่ว่าหน้ามันชาไปหมด... นี่มันอะไรกัน??? ทำไม????? คำถามที่ไม่มีคำตอบที่ค้างอยู่ในใจเรา

ตลอดช่วงเช้าเราเรียนไม่รู้เรื่องเลย... ใจลอยตลอดซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มก็ดูรู้... มันมองมาหลายครั้ง บางทีก็สะกิดถาม.. แต่เราก็ไม่ได้ตอบอะไร
รู้สึกเหมือนจิตเรามันหลุดไปไหนแล้วก็ไม่รู้... เราไม่อยากรับรู้อะไรอีก...

จนถึงช่วงพักกลางวัน.. เพื่อนๆในกลุ่มก็ชวนเราคุยนั่นนี่... แต่เราก็นิ่งเฉย... จนพวกเราเดินมาถึงที่โรงอาหารเราก็เดินมาที่โต๊ะประจำ...วางกระเป๋า.. แล้วก็เตรียมจะไปซื้อข้าวกัน... ส่วนเรา..

เราคิดได้แค่ว่า...

พอแล้ว...

พอกันที่...

นี่หรือเพื่อน...

นี่หรือคนที่เค้ารัก...

เค้าทำกันแบบนี้เหรอ.....

เราก็เลยเดินออกไปจากกลุ่มเพื่อนเราที่นั่งกันอยู่... เราเดินไปนั่งคนเดียวแล้วหันหลังให้พวกมัน  พวกมันก็ดูแปลกใจอยู่มากทีเดียวเพราะพวกมันทุกคนรู้ว่า...เราไม่กล้านั่งกินข้าวนเดียว..

เราไม่หันไปมองและสนใจพวกมันอีกเลยแม้ว่ามันจะเดินมาเรียกหรือเดินมาคุยด้วยหรือจะลากให้กลับไปนั่งด้วยกัน...

####################################################################

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38467
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-4 04:33:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
14
พลังน้ำใจ
808
Zenny
3954
ออนไลน์
121 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-4 22:48:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุยครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1157
Zenny
2209
ออนไลน์
532 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-11 23:26:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สุดยอดเลยอ่ะคร๊าฟ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-21 03:59:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
17510
Zenny
4426
ออนไลน์
3294 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-7-20 14:24:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
17510
Zenny
4426
ออนไลน์
3294 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-7-20 14:34:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
28
Zenny
90
ออนไลน์
1 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-7-20 20:35:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-15 08:31:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 16:17:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 18:52 , Processed in 0.105127 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้