อันตราย- โฆษณาคอนแท็กต์เลนส์ตาโต หรือ"บิ๊ก อายส์" แฟชั่นจากเกาหลีซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นไทย ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขและจักษุแพทย์ออกมาเตือน ให้ระวังอันตรายจากการติดเชื้อถึงขั้นทำให้ตาบอดได้ ตามข่าว ปลัดสาธารณ สุขเตือนสติวัยรุ่นไทย เห่อใส่คอนแท็กต์เลนส์ "บิ๊ก อายส์" ทำให้ ดูตากลมโตตามแฟชั่นดารานักร้องเกาหลี ชี้เสี่ยงเกิดอันตรายถึงขั้นตาบอดได้ จักษุแพทย์ระบุหากไม่ระวังเรื่องความสะอาดมีสิทธิ์ติดเชื้อที่กระจกตา ทำให้ตาบอดได้ภายใน 2 วัน ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่แยกกันซื้อคอนแท็กต์เลนส์คนละแบบ แล้วนำมาแลกเปลี่ยนกันใส่ ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้อีกด้วย แนะก่อนใส่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตา อย่าซื้อใส่เองโดยพลการ ด้านดาราสาว"ชมพู่ อารยา-เป้ย ปานวาด" แนะวัยรุ่นอย่าตามแฟชั่นมากเกินไป และควรเลือกใส่เฉพาะที่ผ่านอย. หรือซื้อตามร้านที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อตามตลาดนัด เตือนวัยรุ่นนิยมใส่คอนแท็กต์เลนส์"บิ๊ก อายส์"อาจทำให้ตาบอดได้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันดารานักร้องจากเกาหลีกำลังอยู่ในกระแสนิยมของเมืองไทยเป็นอย่างมาก จึงส่งผลทำให้กลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่ชอบแสวงหาต้นแบบ อยากแสดงออกและต้อง การการยอมรับ มีการลอกเลียนแบบดารานักร้องเกาหลี ทั้งกิริยาท่าทาง การแต่งหน้า แต่งตัว การทำทรงผม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เป็นไปตามวัย โดยล่าสุดพบว่าวัยรุ่นไทยกำลังนิยมใส่คอนแท็กต์เลนส์ตาโต หรือ"บิ๊ก อายส์"ที่มีหลายสี หลายขนาดและหลายรูปแบบ เพื่อให้ดวงตาดูกลมโตขึ้นกว่าปกติ โดยสามารถเปลี่ยนสีได้ตามใจชอบ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะการทำสิ่งใดกับดวงตาถือเป็นเรื่องเสี่ยงอันตราย เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญและบอบบางที่สุด หากเกิดปัญหากับดวงตาและไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องก็อาจส่งผลให้ตาบอดได้ จึงอยากให้วัยรุ่นตามกระแสแฟชั่นอย่างมีสติ รู้จักระมัดระวังและชั่งน้ำหนักถึงผลดีและผลเสียที่จะตามมาด้วย ด้าน น.พ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า คอนแท็กต์เลนส์ถือเป็นวัสดุทางการแพทย์ ที่เป็นทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีปัญหาทางด้านสายตาแต่ไม่สามารถใส่แว่นได้ การตัดสินใจใส่คอนแท็กต์เลนส์จึงควรปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตาโดยเฉพาะ ส่วนคอนแท็กต์เลนส์ที่ใช้เพื่อวัตถุ ประสงค์อื่น อาทิ เปลี่ยนสีตา ขยายขนาดของตาดำ มักจะใช้ในกลุ่มผู้ที่ต้องอาศัยรูปร่างหน้าตาในการประกอบอาชีพ อาทิ ดารา นักร้องและนางแบบ เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคอนแท็กต์เลนส์ชนิดใดก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือการระมัดระวังเรื่องความสะอาด เนื่องจากคอนแท็กต์เลนส์ต้องสัมผัสกับกระจกตาโดยตรงและเป็นระยะเวลานาน หากคอนแท็กต์เลนส์สกปรกอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาและอาจลุกลามถึงขั้นตาบอดได้ภายใน 2 วัน น.พ.ฐาปนวงศ์ กล่าวต่อว่า การใช้คอนแท็กต์เลนส์ควรศึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลรักษาคอนแท็กต์เลนส์อย่างเคร่งครัด สำหรับคอนแท็กต์เลนส์ควรเก็บรักษาไว้ในน้ำยาแช่คอนแท็กต์เลนส์โดยเฉพาะและปิดฝาให้สนิท อีกทั้งควรเปลี่ยนน้ำยาแช่เลนส์ทุกครั้งที่ใช้และไม่ควรใช้น้ำยาแช่เลนส์ซ้ำๆ ห้ามล้างคอนแท็กต์เลนส์ด้วยน้ำประปา เนื่องจากสารคลอรีนที่อยู่ในน้ำประปาอาจกัดกร่อนเลนส์ทำให้เลนส์เสื่อมคุณภาพ ขุ่นมัวหรืออาจมีสิ่งเจือปนทำให้เลนส์สกปรกได้ นอกจากนี้ผู้ที่ใช้คอนแท็กต์เลนส์ควรล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสทุกครั้ง "วัยรุ่นที่นิยมใส่คอนแท็กต์เลนส์ตามแฟชั่น ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยให้มากๆ เพราะนอกจากเสี่ยงต่อตาบอดแล้ว ยังพบว่ามีวัยรุ่นบางกลุ่มแยกกันซื้อคอนแท็กต์เลนส์คนละแบบแล้วนำมาแลกเปลี่ยนกันใส่ ซึ่งสามารถทำให้ติดเชื้อเอดส์ได้" น.พ.ฐาปนวงศ์กล่าว นางร้ายเซ็กซี่ "เป้ย"ปานวาด เหมมณี หนึ่งในลูกค้าบิ๊กอายส์หรือเลนส์ตาโตที่กำลังฮิตกันในหมู่วัยรุ่นขณะนี้ กล่าวว่า ใส่บิ๊กอายส์มาประมาณ 1 ปีแล้ว จะใส่เวลาถ่ายแบบหรือไปงานโชว์ตัว เวลาใส่จะช่วยให้หน้าเปลี่ยนลุกส์ไปจากเดิม ขึ้นอยู่กับสีของบิ๊กอายส์ อย่างเป้ยใส่สีน้ำตาลจะดูเป็นธรรมชาติ และเป็นแบบเลนส์สายตาเพราะเป็นคนสายตาสั้น "มันเป็นแฟชั่นของเกาหลี ซึ่งก็รู้กันว่ามีอิทธิพลมาถึงคนไทยได้ง่าย จริงๆ มีมานานแล้วแต่เพิ่งมาฮิตในเมืองไทย ราคาคู่หนึ่งประมาณ 500 บาท ตามแต่ละยี่ห้อและขนาดของเลนส์ ไม่ทราบว่ามีบิ๊กอายส์ของปลอมหรือเปล่า แต่ที่ซื้อประจำคือที่ร้านแว่นตา ซึ่งจะปลอดภัยกว่า"นางร้ายเซ็กซี่กล่าว เมื่อถามว่ากลัวจะมีผลกระทบกับดวงตาหรือไม่ ดาราสาวกล่าวว่า จริงๆ ก็กลัว เพราะเคยได้ยินว่าทำให้ตาบอดได้ แต่กระแสก็เงียบหายไป อีกอย่างคือเราไม่ได้ใส่ทุกวันเพราะเวลาใส่บิ๊กอายส์จะทำให้ตาแห้ง รู้สึกเคืองตา ต้องคอยหยอดตาอยู่ตลอด ฉะนั้นวันปกติเป้ยจะพักตาโดยการไม่ใส่ หรือไม่ก็ใส่แว่นตาแทน ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาเตือนว่าใส่บิ๊กอายส์นานๆ อาจทำให้ตาบอดได้ หรือถ้าแลกกันใส่ก็มีโอกาสติดเชื้อเอดส์ได้ด้วยนั้น เป้ยกล่าวว่า ก่อนซื้อมาใส่พอทราบอยู่แล้วว่าผลกระทบมีอะไรบ้าง แต่อย่างที่บอกว่าเป้ยไม่ได้ใส่ทุกวัน ที่สำคัญคือไม่ใช้ปะปนกับคนอื่นแน่นอน เวลาซื้อมาใช้ก็ซื้อที่ร้านแว่นตาที่เป็นที่รู้จัก ไม่ได้ซื้อตามตลาดนัดทั่วไป เป้ยค่อนข้างระวังอยู่แล้วเพราะถ้าจะเลี่ยงไม่ใส่เลยคงไม่ได้ ด้วยงานที่ทำอยู่บางครั้งจำเป็นต้องใส่บิ๊กอายส์จริงๆ สุดท้ายดาราสาวฝากเตือนน้องๆ ที่ใส่บิ๊กอายส์เป็นแฟชั่นว่า ไม่อยากให้น้องๆ ตามแฟชั่นมากเกินไป ควรเลือกใส่อย่างมีเหตุผลหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนจะซื้อมาใส่ เพราะถ้าเกิดตาบอดขึ้นมาก็จะไม่คุ้มกับทั้งชีวิตที่ต้องเสียไป ด้านนางเอกสาวชื่อดัง "ชมพู่"อารยา เอ. ฮาร์เก็ต อีกหนึ่งสาวที่ใส่บิ๊กอายส์ กล่าวว่า ได้ยินชื่อเลนส์ตาโตนี้มานานแล้ว แต่เพิ่งซื้อมาใส่ได้ 3-4 เดือน พอดีพี่ผู้จัดการส่วนตัวแนะนำให้รู้จัก ก่อนซื้อมาใส่ก็พอทราบว่ามันทำให้ตาบอดได้ด้วย จึงเลือกซื้อยี่ห้อดีๆ มาใส่ จริงๆ ลองมาหลายยี่ห้อแล้ว บางอันใส่แล้วไม่สบายตาก็จะไม่ใส่ เคยใส่ยี่ห้อหนึ่งใหญ่มากๆ เคืองตาจนต้องคอยหยอดตาตลอด สุดท้ายไม่ไหวก็ต้องเปลี่ยน หลังจากนั้นจะเลือกพอดีกับความต้องการในการใช้งาน เพราะเราไม่ได้ใส่เป็นแฟชั่น จะใส่เฉพาะเวลาถ่ายแบบหรือถ่ายโฆษณา จะใส่เต็มที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อดีของการใส่บิ๊กอายส์คืออะไร ชมพู่กล่าวว่า ไม่เรียกว่าข้อดี แต่ในแง่ของการทำงานวงการบันเทิงก็จำเป็นต้องใช้บ้าง สำหรับน้องๆ วัยรุ่นคงเป็นเรื่องของความสวยงาม เพราะใส่บิ๊กอายส์แล้วทำให้ตาแป๋วดูแบ๊วน่ารัก เท่าที่ทราบคนไทยนิยมใส่สีดำสนิท อย่างตอนนี้ก็มียี่ห้อหนึ่งที่โฆษณาว่าเป็นรุ่นที่ดงบังชินกิใส่ เห็นวัยรุ่นแห่ซื้อมาใส่เยอะมาก ส่วนที่ทางกระทรวงสาธารณสุขออกมาเตือนถึงอันตรายนั้น นางเอกสาวกล่าวว่า ปกติไม่ค่อยได้ใส่อยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่าเป็นภาระของชีวิตที่ต้องมานั่งล้างหลายขั้นตอน ทั้งน้ำยาล้างเลนส์ น้ำยาล้างโปรตีน เลนส์พวกนี้ถ้าทำความสะอาดไม่ดีมันจะสะสมคราบโปรตีนซึ่งมาจากการแต่งหน้าแล้วไปอุดตามขอบเลนส์ เป็นเหตุให้ตาบอดได้ นางเอกสาวฝากถึงน้องๆ วัยรุ่นว่า ถ้าอยากใส่บิ๊กอายส์ลองเลือกใส่เฉพาะโอกาสพิเศษจริงๆ ดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าอันตรายที่ตามมามีอะไรบ้าง หรือ ถ้าจะซื้อก็เลือกยี่ห้อที่มีอย. ซึ่งจะจำหน่ายอยู่ตามร้านแว่นตาที่เชื่อถือได้ ถ้าเลี่ยงได้อย่าไปซื้อตามตลาดนัด เพราะเคยเห็นแพ็กเกจแบบที่ใหญ่โตน่ากลัวมากๆ ด้านนางเอกสาวหน้าแบ๊ว "พีค"ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ กล่าวว่า รู้จักบิ๊กอายส์แต่ไม่เคยใส่ ไม่กล้ายุ่งกับดวงตาเท่าไร คิดว่าถ้าเอาอะไรมาใส่ตาคงรำคาญเหมือนกัน แต่ถึงไม่ใส่ก็มักจะมีคนมาถามบ่อยๆ ว่าใส่บิ๊กอายส์หรือเปล่า เพราะความที่เป็นคนตาโต และตาดำค่อนข้างใหญ่ ไม่คิดจะใส่เลย เพราะเวลาเห็นคนใส่แล้วรู้สึกว่าตามันหลอกๆ ดูน่ากลัวด้วย ส่วนที่ทางแพทย์เตือนว่ามีอันตรายกับดวงตาถึงขั้นตาบอดนั้น ยิ่งได้ยินแบบนี้ยิ่งน่ากลัว สำหรับคนที่อยากใส่น่าจะเลือกโอกาสที่เหมาะสม แต่ไม่ควรใส่ในชีวิตประจำวัน หรือถ้าไม่ใส่เลยก็ยิ่งดี คนเรามีดวงตาน่ารักและเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าใส่บิ๊กอายส์ อารมณ์ของตาที่สื่อออกมาก็จะเหมือนๆ กันหมดทุกคนคือแป๋วๆ แบ๊วๆ ดูไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่าไปดิ้นรนในสิ่งเหล่านี้เลย มันเป็นอันตรายกับตัวเองเปล่าๆ ด้านตัวแทนพนักงานขายร้านโชคดีการแว่น คอนแท็กต์เลนส์ ที่เดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน กล่าวว่า ที่ร้านมีบิ๊กอายส์หลากหลายรุ่น หลายสีให้ลูกค้าเลือก แบ่งเป็นรายวัน ราย 2 สัปดาห์ และรายเดือน บิ๊กอายส์จะมีทั้งแบบสายตาปกติและสายตาสั้น ราคาจะอยู่ที่ 450-550 บาท อย่าง ไรก็ตามส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อจะเป็นวัยรุ่นทั้งชายและหญิง แม้กระทั่งหนุ่มสาววัยทำงานก็มาเลือกซื้อเช่นกัน สำหรับข้อแนะนำ วิธีการใช้นั้นจะมีอยู่ในกล่องผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว โดยผู้ใช้จะต้องถอดออกมาแช่น้ำยาวันต่อวัน ห้ามใส่นอน เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ "ความจริงแล้วการใส่บิ๊กอายส์จะอันตรายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ถ้าผู้ใช้ทำตามคำแนะนำจะไม่เกิดปัญหา ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีลูกค้าคนใดเกิดการระคายเคืองตา หรือเกิดการติดเชื้อแต่อย่างใด" ขณะที่ร้านเพอร์เฟค อายแวร์ กล่าวว่า ที่ร้านจะมีบิ๊กอายส์ให้เลือกหลายยี่ห้อ มีทั้งสายตาปกติและสายตาสั้น การใส่บิ๊กอายส์นั้นจะทำให้ตาโตขึ้น สดใสขึ้น ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อจะเป็นวัยรุ่นทั้งชายและหญิง รวมทั้งหนุ่มสาววัยทำงานก็มาเลือกซื้อเช่นกัน นอกจากนี้สำหรับข้อแนะนำ วิธีการใช้นั้นจะมีอยู่ในกล่องผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว ผู้ที่ใช้จะต้องถอดออกมาแช่น้ำยาวันต่อวันห้ามใส่นอน เพราะหากใส่นอนจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ |