“มองอะไรหรือลูก ?” เสียงหญิงชราเอ่ยถามข้นขณะยกชามข้าวต้มร้อนๆมาตั้งไว้ที่โต๊ะตัวเล็กๆหน้าโซฟาก่อนจะเดินไปที่ประตูแล้วดึงปิดเข้ามา สงสัยจะฝันไป มะนาวคิดก่อนรับยาจากมือผู้เป็นพ่อส่งเข้าปากแล้วดื่มน้ำตามก่อนจะวางแก้วแล้วค่อยๆตักข้าวต้มกินช้าๆผู้เป็นพ่อกับย่าก็นั่งร่วมวงกินข้าวกันอยู่เงียบๆ
“พ่อคะ ”มะนาวส่งเสียงเบาๆพลางวางชามข้าวต้มที่เหลือตั้งครึ่งชามลงบนโต๊ะ ชายวันกลางคนเงยหน้าจากจานข้าวมองลูกสาวด้วยสายตาตั้งคำถาม
“คืนนี้มะนาวขอนอนด้วยนะคะ” มะนาวพูดขึ้นผู่เป็นพ่อได้ยินก็วางช้อนลงแล้วเอามือหนาสากของคนที่ทำงานหนักมาตลอดลูบหัวลูกสาวช้าๆพร้อมกับยิ้มให้แทนคำตอบ
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จต่อด้วยการนั่งดูละครหลังข่าวอีกสักพักมะนาวก็เริ่มรู้สึกง่วงนอนขึ้นมาอาจจะด้วยพิษไข้หรือฤทธ์ยาไม่ทราบทำให้เธอหลับลงอย่างง่ายดายเมื่อผู้เป็นพ่อเห็นลูกสาวหลับลงตรงหน้าทีวีจึงอุ่มลูกสาวขึ้นห้องนอนที่ชั้นสองของบ้าน บรรจงวางเด็กสาวลงช้าๆที่เตียงห่มผ้าให้แล้วจูบเบาๆที่หน้าผากแล้วเอ่ยเบาๆ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หายนะลูก”ผู้เป็นพ่อกล่าวเบาๆกับลูกสาว จากนั้นเขาจึงเดินไปปิดไฟแล้วแทรกตัวเข้าไปนอนในผ้าห่มผืนเดียวกับลูกสาว
เช้าวันต่อมามะนาวรู้สึกตัวแต่เช้าตรู่ วันนี้เธอรู้สึกดีกว่าเมื่อวานขึ้นมากแล้ว อาการปวดหัวแบบนี้ใช่ว่าจะไม่เคยเป็น เธอคุ้นชินกับมันซะแล้ว แค่เมื่อวานกลับมีอาการไข้แทรกซ้อนขึ้นมาเท่านั้น มะนาวลุกขึ้นนั่งบนเตียงบิดขี้เกียจน้อยๆแล้วยิ้มออกมา เธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเรื่องที่เธอได้นอนกอดพ่อที่รักของเธอทั้งคืน นานเท่าไหร่แล้วนะที่เธอไม่ได้นอนกอดพ่อแบบนี้ ตั้งแต่ที่เธออยากมีห้องนอนเป็นของตัวเองเมื่อสองปีก่อนแล้วพ่อก็ตามใจเธอ อ้อมกอดของครอบครัวคงเป็นยาที่ดีที่สุดที่ทำให้วันนี้เธอรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก แล้วยิ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ไม่ต้องไปโรงเรียนด้วยแล้วมะนาวก็ยิ่งยิ้มขึ้นด้วยความสุข เธอลงมาข้างล่างด้วยสีหน้าดีขึ้นเห็นคุณย่ากำลังง่วนกับการเรียงขนมไปที่ทำเองใส่ตะกร้าวางขายไว้ที่นอกรั้วหน้าบ้านแสงแดดอ่อนๆของเวลาเจ็ดโมงเช้า ภาพผู้คนเดินไปมานอกรั้วหน้าบ้านทำให้มะนาวยิ่งรู้สึกสดชื่นขึ้น
“อ้าวหนูมะนาว วันนี้เป็นไงมั่งลูก” หญิงชราเอ่ยทักเมื่อเห็นมะนาวเดินออกมาที่หน้าบ้านพลางเดินเข้ามาลูบหัวจับคล่ำเนื้อตัวเธอไปด้วย
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะย่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงจะหาย”เธอตอบยิ้มๆ แล้วกอดคุณย่าไว้หลวมๆ
“เดี๋ยวมะนาวไปอาบน้ำแล้วก็ทานข้าวก่อนนะคะเดี๋ยวมะนาวออกมาช่วยย่าขายของนะคะ” มะนาวพูดพลางคลายอ้อมกอดออกจากหญิงขรา
“อย่าอาบน้ำเย็นนะลูกเดี๋ยวไข้จะกลับ” หญิงชรารีบพูดขึ้นก่อนจะลูบหัวมะนาวด้วยความเอ็นดู จากนั้นหลานสาวก็วิ่งกลับเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว
วันนี้ทั้งวันมะนาวช่วยย่าขายขนมอยู่หน้าบ้านจนหมด เธอยิ้มอย่างมีความสุขตลอดตั้งแต่เช้าจนเมื่อถึงเวลาประมาณบ่ายสามโมง
“มะนาว เข้าไปพักในบ้านมั่งนะลูก เพิ่งหาย เดี๋ยวก็ไข้กลับหรอกลูก”หญิงชรากล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“มะนาวหายแล้วค่ะ ย่านั่นแหละไปพักเถอะค่ะ”มะนาวพูดอย่างร่าเริงก่อนดันหลังคุณย่าให้เดินเข้ามาในบ้าน หญิงชราส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับหลานสาวแล้วก็ยิ้มออกมา เธอหันไปลูบหัวมะนาวอย่างรักแลเอ็นดู มะนาวยิ้มให้ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่หน้าบ้านอีกครั้ง
หลังจากขายขนมหมดมะนาวก็รับอาสาคุณย่าออกมาซื้อของสำหรับทำขนมวันพรุ่งนี้ให้ที่ตลาดระแวกบ้านระหว่างทางมะนาวก็เดินยิ้มและทักทายกับผู้คนละแวกบ้านอยู่ตลอดเวลา แต่แล้วจู่ๆเมฆดำใหญ่ก็เคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมพื้นที่บริเวณนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย สายลมแรงพัดพาทำให้ผู้คนต่างพากันแตกตื่นวิ่งหนีหาที่หลบ มีเพียงแค่มะนาวคนเดียวที่กำลังยืนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆคล้ายกับเวลาหัวค่ำทั้งๆที่เพิ่งจะสี่โมงเย็นเท่านั้น มะนาวมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองยืนอยู่เดียวดายท่ามกลางตลาดที่รกร้างไม่มีคนหรือสิ่งมีชีวิตให้เห็นเลยแม้แต่อย่างเดียว มะนาวเริ่มกลัวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตเธอหมุนตัวกวาดตามองไปรอบๆตัวแล้วก็ต้องตกใจสุดขีด ตัวเย็นวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อสายตาเธอพบกับชายคนหนึ่งยืนอยู่ไกลออกไปท่ามกลางความมืดสลัว ชายรูปร่างใหญ่โตเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวสีคล้ำจัด เรียกได้ว่าเกือบจะกลืนไปกลับความมืดสลัวรอบตัวเลยทีเดียว ชายผู้นั้นมีใบหน้าถมึงทึงเหมือนที่มะนาวเห็นเมื่อคืน ดวงตาใหญ่โตสีขาวขุ่นวาวโรจน์ท่ามกลางความมืด มะนาวรู้สึกปวดหัวจื๊ดขึ้นมาทันทีที่สบสายตากับชายผู้นั้น ทั้งความกลัวและความตกใจทำให้มะนาวหันหลังกลับแล้วจะวิ่งหนีแต่เธอไม่สามารถทำได้เพราะแรงดึงที่แขนของเธอ มะนาวหันกลับไปก็พบกับชายผู้นั้นกำลังจับที่ข้อมือของเธออยู่
“กรี๊ดดดดดด!!!”มะนาวตกใจร้องออกมาสุดเสียงพร้อมกับร่างกายที่ทรุดฮวบลงไปที่พื้น
“หนู หนู เป็นอะไรหรือเปล่า”มะนาวรู้สึกตัวอีกครั้งในท่านั่งอยู่กับพื้นท่ามกลางวงล้อมของผู้คนที่มุงล้อม บัดนี้ตลาดกลายเป็นตลาดดังเดิมแล้วถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะยังครึ้มและลมแรงอยู่บ้างแต่ก็ไม่มืดเท่ากับเมื่อกี้ มะนาวยันตัวลุกขึ้นอย่างยากลำบากทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างช่วยกันประคอง อาการปวดหัวของเธอกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว คราวนี้เป็นมาขึ้นกว่าเมื่อวานเสียอีก มะนาวเอามือกุมศีรษะแล้วเดินออกจากวงล้อมของผู้คนช้าๆ โดยไม่สนใจคำถามต่างๆที่คนเหล่านั้นถามมาด้วยความเป็นห่วงเลยแม้แต่น้อย มะนาวรีบเดินกลับบ้านที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยที่ยังไม่ได้ซื้อของอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว เนื่องจากบ้านอยู่ไม่ไกลนักมะนาวจึงใช้เวลาไม่นานในการเดิน เมื่อมาถึงบ้านก็พบคุณย่ากำลังรออยู่ที่บ้านอยู่แล้ว หญิงชรามองมะนาวที่เดินอย่างสโลสเลเต็มทีแล้วร่างของเธอก็ทรุดฮวบลงไปนั่งที่พื้นก่อนจะถึงหน้าบ้าน
“มะนาว!!”หญิงชราร้องเรียกเด็กสาวลั่นพพร้อมกับวิ่งไปประคองที่ร่างนั้นทันที
“คุณย่า มะนาวแค่สะดุดน่ะค่ะ” มะนาวพูดเสียงแหบแห้ง ใบหน้าเธอซีดขาวแทบไม่มีสีเลือด จากนั่นมะนาวก็พยายามยันตัวเองลุกขึ้น หญิงชราเห็นดังนั้นจึงได้แต่ช่วยประคองมะนาวให้ลุกขึ้นยืนและพาเข้ามาในบ้าน
“เห็นมั้ยมะนาว ย่าบอกแล้วว่าอย่าทำงานหนัก ไข้กลับอีกแล้วดูสิ”ผู้เป็นย่าบ่นเบาๆ ขณะพยุงมะนาวลงนอนที่โซฟาหน้าทีวี มะนาวไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มให้หญิงชราบางๆ ใบหน้าของเธอยังคงซีดเซียวลงเรื่อยๆ
“เดี๋ยวย่าไปเอายามาให้ หนูนอนอยู่ตรงนี้ก่อนนะ” หญิงชราบอกพร้อมกับลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวทันที มะนาวนอนหลับตานิ่งอาการปวดหัวของเธอหนักมากกว่าเมื่อวานหลายเท่า มันปวดจนเหมือนจะระเบิดเธออยากเอาอะไรสักอย่างมาทุบให้มันหายปวด หรือไม่ก็ไม่อยากมีหัวอีกต่อไปแล้ว มะนาวพยามกระดิกร่างกายอย่างยากลำบากเธอยกมือขึ้นปิดปาก
“แค๊กๆๆ!!” มะนาวไอออกมาสองสามครั้งเธอรู้สึกถึงของเหลวกระเด็นใส่ฝ่ามือ มะนาวยกมือขึ้นกังจะเช็ดลงบนเสื้อแต่ก็ต้องตกใจเพราะมันเป็นสีแดง
“เลือด!! ”มะนาวตกใจมากเมื่อพบว่าตัวเธอเองไอเป็นเลือดเธอกำมือแน่นล้วใช้หลังมือเช็ดปากแรงๆพร้อมกับที่ย่าของเธอเดินเข้ามาพร้อมแก้วน้ำและขวดยาแก้ปวด
“มะนาวลุกขึ้นมากินยาก่อนนะลูกเดี๋ยวจะได้นอนพัก”หยิงชรากล่าวขึ้นจากนั้นจึงวางแก้วน้ำกับขวดยาลงบนโต๊ะตัวเล็กแล้วมาช่วยพยุงมะนาวให้ลุกขึ้นนั่ง มะนาวกำมือแน่นเพื่อปกปิดรอยเลือดที่มือของเธอ เธอไม่อยากให้คุณย่าของเธอไม่สบายใจเรื่องอาการป่วยของเธอ ถ้าย่ารู้ต้องโทรตามพ่อให้พาไปโรงพยาบาลแน่ นี่ก็เย็นแล้วรถที่จะไปโรงพยาบาลในตัวอำเภอคงไกล้หมดแล้ว ทั้งพ่อและย่าคงต้องเสียเงินจ้างรถพาเธอไปซึ่งเธอไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น มะนาวรู้ดีกว่าสถานะทางการเงินที่บ้านเป็นแบบไหนเธอไม่อยากเพิ่มภาระทางการเงินให้ที่บ้านอีก “พรุ่งนี้คงดีขึ้นถ้าไม่ดีขึ้นค่อยบอกพ่อให้พาไปโรง’บาลวันหลังก็ได้“มะนาวบอกในใจกับตัวเอง เธอใช้มือข้างที่ไม่เลอะเลือดรับยาจากย่าแล้วส่งเข้าปากก่อนยกแก้วน้ำดื่มตามเข้าไปจากนั้นจึงเอนตัวลงนอนเหมือนเดิมโดยการช่วยประคองจากหญิงชรา ผู้เป็นย่าลูบหัวมะนาวที่นอนหลับตานิ่งเบาๆก่อนจะลุกขึ้นไปทำอาหารเย็นในครัวปล่อยให้มะนาวค่อยๆหลับลงอย่างสงบ
“มะนาว มะนาว ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนนะลูก จะได้เช็ดตัวแล้วก็นอน”เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบที่มะนาวนอนหลับอย่างไม่รู้สึกตัวอีกเลย เธอค่อยๆเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นช้าๆตามแรงเขย่าของหญิงชรา
“ย่าคะ...”มะนาวพึมพำเบาๆราวกับคนเพ้อ ภาพภายในบ้านที่มืดสลัวทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้บรรยากาศข้างนอกคงมืดสนิทเสียแล้ว
“อะไรหรอลูก รีบกินข้าวสิเดี๋ยวจะได้นอนพัก”หญิงชราพูดพลางลูบหัวหลานด้วยความรัก
“หยิบน้ำให้หนูหน่อยค่ะ”มะนาวบอกเสียงแห้ง หญิงชราได้ยินดังนั้นก็รีบลุกขึ้นเข้าไปในครัวทันที จังหวะนั้นเองมะนาวก็รีบใช้โอกาสที่หญิงชราเผลอเช็ดฝ่ามือที่เลอะเลือดกับชายเสื้อด้านในของตัวเองทันที
“แอ๊ดดด.....!!!!!”เสียงประตูเปิดทำให้มะนาวหันไปสนใจทันที ผู้ชายสองคนยืนเป็นเงาตะคุ่มๆอยู่หน้าบ้าน คนนหึ่งกำลังถอดรองเท้าผ้าใบเก่าๆออกแล้ววางลงหน้าบ้าน คนๆนั้นมะนาวจำได้ดีที่สุดนั่นคือพ่อของเธอนั่นเอง มะนาวละสายตาจากพ่อมองผ่านไปถึงชายอีกคนที่อยู่ด้านหลังชายร่างสูงใหญ่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ด้านหลังผู้เป็นพ่อของมะนาว
“พ่อคะ! คนนั้นเพื่อนพ่อหรอคะ? ” มะนาวถามด้วยเสียงแหบแห้งทำให้พ่อเป็นพ่อเงยหน้าขึ้นมาอย่างงงๆ
“ไม่มีนี่ลูก ”ผู้เป็นพ่อตอบแล้วก้าวเข้ามาในบ้าน มะนาวขนลุกวาบขึ้นมาทันทีร่างกายแบบนี้เธอเคยเห็นมาแล้วถึงสองครั้ง ใช่แน่ๆ ชายคนนั้นแน่ๆและในจังหวะนั้นเองมะนาวก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะร่างกำยำที่ยืนก้มหน้าอยู่นั้นจู่ๆก็เงยหน้าขึ้นมาดวงตาขาวขุ่นคู่นั้นวาวอยู่ท่ามกลางความมืด มะนาวถอยหนีเมื่อร่างนั้นมีท่าทีจะเดินเข้ามาในบ้านพร้อมส่งสียงกรี๊ด
“กรี๊ดดด...!!!” มะนาวร้องกรี๊ดลั่นสองมือปิดหน้าซุกลงกับหัวเข่า ผู้เป็นพ่อเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปกอดลูกด้วยพร้อมกับเรียกชื่อถี่ๆความเป็นห่วง
“พ พะ พ่อ.. พ่อคะ!! ป ปิด... ปิดประตู ปิดประตู!!”มะนาวพูดเสียงสั่น ตัวทั้งตัวสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ผู้เป็นพ่อยังคงกอดเด็กหญิงอย่างงงๆและทำอะไรไม่ถูก ในขณะนั้นเองหญิงชราผู้เป็นย่าก็วิ่งออกจากครัวด้วยความตกใจที่ได้ยินเสียงร้องของหลานสาวเธอได้ยินหลานสาวร้องสั่งพ่อให้ปิดประตูเธอจึงรีบวิ่งไปปิดประตูทันที แล้วเข้าไปช่วยปลอบเด็กสาวซึ่งยังปิดตาและสั้นไม่หยุดด้วยความหวาดกลัวอะไรสักอย่าง เวลาผ่านไปนานพอสมควรกว่ามะนาวจะสงบลงได้หลังจากที่ร้องไห้และตัวสั่นไม่หยุดมะนาวก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
เช้าตรู่วันต่อมามะนาวรู้สึกตัวด้วยความมึนงงหัวของเธอปวดมากราวกับจะระเบิด มะนาวนอนนิ่งไม่สามารถขยับแขนขาได้เลยทำไม่ได้แม้แต่เปิดเปลือกตาแต่หูกลับได้ยิน
“อาการหนักขึ้นทุกทีนะ”เสียงหญิงชรากล่าวขึ้น
“ใช่ครับ ถ้าวันนี้อาการยังไม่ดีขึ้นพรุ่งนี้ผมคงต้องลางานแล้วพาลูกไปโรงพยาบาล”อีกเสียงกล่าวตอบ
“วันนี้ถ้ามะนาวอาการดีขึ้นแม่จะพาหลานไปวัดสักหน่อย ไม่รู้ว่าคนที่มะนาวเห็นนั่นเป็นใคร หวังว่าพระที่ห้อยคอไว้คงช่วยได้บ้าง”
“ครับแม่ แล้วอย่าบอกลูกนะครับผมไม่อยากให้มะนาวกลัว” สิ้นเสียงพูดก็เป็นเสียงทั้งสองเดินออกจากห้องและเสียงปิดประตู มะนาวพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก สิ่งแรกที่เห็นหลังจากลืมตาคือเพดานห้องนอนที่แสนคุ้นเคย แล้วสายตาก็กวาดมองไปที่นาฬิกาแขวนผนัง เวลาตอนนี้เข็มสั้นชี้ที่เลขห้าส่วนเข็มยาวกำลังจะขึ้นไปที่เลยเจ็ด มะนาวหลับตาลงครู่หนึ่งแล้วคิดทบทวบเรื่องราวของเมื่อคืน เธอจำได้ว่าได้เจอชายน่ากลัวคนนั้นอีกแล้วหลังจากวันแรกที่เจอหน้ารั้วบ้านจากนั้นก็เจอที่ตลาด และเมื่อคืนเค้าเขามาในรั้วบ้านแล้ว แล้วใครจะบอกได้มั้ยว่าต่อไปเค้าจะไม่เข้ามาในบ้าน เมื่อมะนาวคิดถึงตรงนี้ก็รู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันทีแล้วจู่ๆความกลัวบางอย่างก็แล่นเข้าสู้สมอง ส่งผลให้มันกลั่นตัวออกมาเป็นน้ำตา มะนาวนอนร้องไหลอยู่เงียบๆ เธอพยายามยกมืออันหนักอึ้งขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ของเหลวบางอย่างค่อยๆไหลออกมาทางจมูกอย่างช้าๆ มะนาวรีบใช้มือปาดออกพร้อมกันกลืนก้อนสะอึกลงคอเบาๆ ก่อนที่มะนาวจะให้หลังมือเช็ดลงบนเสื้อที่ใส่นอนเธอก็สังเกตเห็นของเหลวสีแดงคล้ำเปียกชุ่มอยู่บนหลังมือนั้น “เลือด!!” มะนาวพึมพำขึ้นเบาๆ อาการปวดหัวของเธอไม่ได้ลดละไปเลย ความกลัวเริ่มเกาะกุมที่จิตใจของเธออีกครั้งสิ่งที่เธอนึกได้ตอนนี้คืออยากเจอย่า มะนาวพยายามลุกจากเตียงอย่างช้าๆ ความปวดที่หัวรุนแรงขึ้นทันทีที่เธอลุกขึ้นนั่งได้ แต่เนื้อตัวกลับชาดิกแทบไม่รู้สึกอะไร เธอบีบนวดร่างกายอยู่หลายอึดใจก่อนที่ขาและแขนจะพอมีความรู้สึกขึ้นมาบ้าง มะนาวก้าวลงจากเตียงช้าๆ แล้วค่อยๆทิ้งตัวลงจากเตียงมาอยู่ในท่าคลานเพราะเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอไม่สามารถจะเดินได้ในขณะนี้ มะนาวค่อยๆคลานไปที่ประตูเอื้อมมือไปเปิดมันช้าๆ แล้วค่อยๆยันตัวเกาะผนังลุกขึ้นยืน มะนาวยืนเกาะผนังอยู่พักหนึ่งจนร่างกายเรื่มมีความรู้สึกมากขึ้นจนพอจะเดินได้ เธอค่อยๆเดินช้าๆออกจากห้องตรงไปที่บันไดจากนั้นมะนาวก็ค่อยๆก้าวลงบันไดช้าๆ มือเกาะแน่นอยู่ที่ราวบันไดแต่พอเธอเดินลงไปได้แค่สองสามขั้นเท่านั้นสายตาของเธอเหลือบไปเห็นร่างใหญ่กำยำของชายคนนั้นเดินเป็นเงาตะคุ่มผ่านห้องนั่งเล่นไปทางห้องครัว ถึงแม้ร่างนั้นจะยังไม่ได้หันมามองที่เธอแต่มะนาวก็เสียวหลังวาบเธอหันหลังกลับรีบวิ่งพาร่างกายอันไม่ปกติของเธอเข้าห้องให้เร็วที่สุด มือทั้งสองข้างกำพระที่ห้อยคอแน่น มะนาวนอนตัวสั่นไม่หยุดน้ำตาเริ่มไหลออกมาเพราะความหวาดกลัวในใจพยายามสวดมนต์แต่นึงยังไงก็นึกไม่ออกเลยสักบท
“เค้า เค้าเข้ามาแล้ว เค้าเข้ามาในบ้านแล้ว” มะนาวพึมพำซ้ำไปซ้ำมา สองตาหลับแน่นอาการปวดหัวเริ่มหนักขึ้นมาอีก พอๆกับเริ่มรู้สึกถึงของเหลวบางอย่างไหลออกมาทางจมูกช้าๆ แล้วร่างกายซีกขวาของเธอก็ค่อยๆชาดิกจนขยับไม่ได้ มะนาวให้มือข้างซ้ายปาดเช็ดของเหลวที่ไหลออกจากจมูกแล้วป้ายลงบนเสื้ออย่างลวกๆแต่ถึงอย่างนั้นคราบสีแดงสดก็ยังคงปรากฎให้เห็นชัดอยู่ที่หลังมือ มะนาวพยายามใช้หลังมือป้ายจมูกแรงๆอีกหลายครั้งแต่เลือดที่ไหลรินก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหลมันดูเหมือนจะไหลมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ บัดนี้ทั้งเลือดและน้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลเลอะหน้ามะนาวไปหมด อาการปวดหัวก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนมีใครมาบีบ
ตึง!! ตึง!! ตึง!! ตึง!! เสียงเท้าหนักๆที่ก้าวช้าๆขึ้นมาตามบันไดบ้านทำให้มะนาวถึงกับชะงักค้างตาเบิกกว้างมะนาว
ยกมือข้างซ้ายที่ยังขยับได้ขึ้นมาปิดปากและกัดฟันสะกดกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้แต่น้ำตากลับยิ่งไหลออกมาไม่หยุด
พร้อมกับร่างกายที่สั่นเทิ้ม เธอแน่ใจว่าต้องเป็นชายคนนั้นแน่ๆ
ตึง!! ตึง!! ตึง!! ตึง!! เสียงฝีเท้านั้นดังไกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่หน้าห้องของมะนาว อึดใจหนึ่งที่มะนาวนอน
มองไปที่ประตูเพื่อดูว่าคนนั้นจะเปิดเข้ามาในห้องหรือไปไม่ด้วยใจเต้นรัว
แกร๊ก!! เสียงลูกบิดประตูเปิดออกช้าๆ พร้อมกับบานประตูที่ค่อยๆอ้าออก
แอ๊ดดดดดด!!!!!!................. ประตูที่ปกติไม่เคยมีเสียงแบบนี้มาก่อนแต่วันนี้ ตอนนี้มันกลับมีเสียงเสียดสีกันของ
บานพับเสียงที่กรีดเข้าไปถึงจิตใจส่วนลึกของมะนาว พร้อมๆกับประตูที่เริ่มอ้ากว้าง ใบหน้าหนึ่งค่อยๆชะโงกหน้าเข้า
มา ใบหน้าใหญ่แต่ดูแห้งตอบโหนกแกมสูง จมูกเป็นสันตรง ปากหนา ดวงตาโตโบ๋ลึกแต่เห็นตาสีขาวขุ่นชัดเจนใน
ความืดสลัวของเวลาเช้าตรู่มะนาวนอนมองร่างใหญ่โตกำยำเจ้าของใบหน้านั้นเดินพ้นประตูเข้ามา ชายผิวคล้ำจัดไป
สวมเสื้อทั้งตัวมีแต่ผ้านุ่งสีแดงนุ่งเป็นโจงกระเบนแต่ตัวเดียวเท่านั้น ร่างนั้นค่อยๆก้าวเข้ามาชิดที่เตียงด้านขวาของ
มะนาวซึ่งนอนร้องไห้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวมือหนาใหญ่ค่อยๆคว้าแขนที่ชาดิกของมะนาวยกขึ้น คราวนี้มะนาว
ปล่อยโฮออกมาดังสั่นปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้อีกแล้ว เธอไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่สามารถ
จะร้องให้ใครช่วยได้เลย เธอทำได้เพียงแค่นอนร้องไห้เท่านั้น ร่างชายร่างกำยำเหลือบตามองมะนาวที่นอนร้องไห้อยู่
แวบหนึ่งจากนั้นมือหนาก็กำมือของมะนาวไว้ในอุ้งจนแน่นแล้วออกแรงกระชาก มะนาวรู้สึกว่าตัวเองปลิวตามแรงดึง
ของชายคนนั้นจนร่างของเธอลงมายืนเซอยู่ที่ปลายเตียงอย่างงงๆ และยังไม่ทันที่มะนาวจะได้คิดหรือทำอะไรทั้งสิ้นก็มี
เสียงหนึ่งดังขึ้น
“เพล้งงง!!” มะนาวรีบหันไปที่ต้นเสียงก็พบกับร่างบอบบางของหญิงชราแต่ว่ายังแข็งแรงกำลังวิ่งเข้ามาในห้องพลาง
ร้องไห้แก้วน้ำใบหนึ่งตกแตกกระจัดกระจายอยู่หน้าประตู หญิงชราวิ่งเข้าไปกอดร่างๆหนึ่งซึ่งนอนอยู่บนเตียงในห้อง
ร่างนั้นกำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส เลือดสีแดงฉานไหลทะลักออกมาตามรูจมูกและปาก ตาเหลือกค้าง
เบิกกว้าง หญิงชราได้แต่กอดร่างนั้นร้องไห้อย่างทำอะไรไม่ถูก เธอได้แต่ร้องไห้และเรียกชื่อเด็กคนนั้นซ้ำๆกัน
“มะนาว มะนาว มะนาว” ชื่อนี้เหมือนเพิ่งแทรกซึมเข้ามาในสมองของมะนาวได้ในขณะนี้ “มะนาว” นี่ชื่อเธอนี่ โดยที่ยัง
ไม่ทันได้ทำอะไรต่อไปมะนาวก็พบว่าร่างของตนที่นอนอยู่บนเตียงมีอาการชักกระตุกอยู่สองสามครั้งแล้วก็แน่นิ่งลง
น้ำตาสองสามหยดค่อยๆไหลออกจากหางตาหยดลงบนแขนของผู้เป็นย่าพร้อมกับลมหายใจออกเฮือกสุดท้าย...