ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 564|ตอบกลับ: 1

ม่านราตรี = 3 - 4 =

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
รุ้งพรายเฝ้าจินตนาการถึงเรื่องสนุกต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้ด้วยรอยยิ้มแม้จะยังหนักใจอยู่บ้าง เกี่ยวกับสมาชิกอีกราย ที่แสนจะหัวแข็ง และไม่ยอมเปิดใจให้มนุษย์คนไหนอีกเลยนับตั้งแต่จอมเดชเจ้าของคนเก่า
ตายไป
บทที่ 3
    แสงแดดรำไรที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอน เสียงนกร้อง สายลมพัด และเสียงกุกกักจากชั้นล่างของคฤหาสน์ ทำให้ตุลาต้องค่อย ๆ ปรือตาตื่นขึ้น  เขาหรี่ตาเมื่อเห็นแสงสว่างจากทางระเบียง เพราะบานประตูกระจกและผ้าม่านผืนใหญ่ ตอนนี้ถูกเปิดกว้างรับลมและให้อากาศภายในถ่ายเท ซึ่งเขาจำได้ดีว่า เขาปิดมันหมดแล้วตอนก่อนเข้านอน
   “เกิดอะไรขึ้น...”
   ตุลาพึมพำ พยายามที่จะทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก่อนจะชะงัก เผลอกอดอกตัวเองอย่างลืมตัว
   ‘ความฝัน? ไม่ใช่สิ ...ความจริงแน่นอน’
   ชายหนุ่มคิด แล้วสิ่งที่ตอกย้ำความคิดนั้นก็เคาะประตูห้องเบา ๆ พร้อมกับร่างของชายหนุ่มวัยสามสิบที่เพิ่งได้เจอเมื่อคืนเปิดประตูห้องเข้ามา
   “ฉันเตรียมอาหารเช้าให้เธอแล้ว ล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยแล้วลงไปทานซะนะ”
   พอพาทิศบอกจบก็ปิดประตูห้องแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ตุลานั่งอึ้งมึนงงอยู่เช่นนั้นพักใหญ่ ก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาตามที่อีกฝ่ายบอก ทั้งที่ยังคงสับสนไม่หาย
   “แซนวิชทูน่า ไข่ดาว แล้วก็กาแฟ ...ถ้าอยากทานอย่างอื่นเพิ่มก็บอกได้นะ พอดีวัตถุดิบที่เธอเตรียมไว้มันไม่ค่อยจะมีของสดสักเท่าไหร่ ฉันเลยเลือกทำที่มันทำง่าย ๆ น่ะ”
   อาหารบนโต๊ะแม้จะดูเรียบง่าย แต่ก็น่ากิน แถมรสชาติยังอร่อยชนิดที่ตุลาไม่อยากเชื่อเลยว่า ผู้ทำจะไม่ใช่มนุษย์อย่างเขา
   “แล้วพวกคุณรุ้ง กับคุณปิ่นล่ะครับ?”
   ตุลาเอ่ยถาม เพราะเห็นพาทิศอยู่เพียงคนเดียว
   “หลับอยู่  แต่สักพักเดี๋ยวก็ตื่นแล้ว เห็นว่าจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับเวลาของเธอน่ะ”
   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แล้วจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ
   “จนถึงตอนนี้ผมยังไม่อยากเชื่อเลยครับ ว่าเรื่องของพวกคุณจะเป็นเรื่องจริง ...หรือว่าผมยังหลับฝันอยู่ ...
หรือว่าเมื่อคืนนี้ผมจริง ๆ แล้วตกบันไดสลบมา แล้วตอนนี้ก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาล...หือ?”
   ตุลาชะงักเมื่อเห็นพาทิศหัวเราะออกมาเบา ๆ ชายหนุ่มมองคนอายุน้อยกว่า แล้วยิ้มให้ ก่อนอธิบาย
   “เธอนี่นะ สมกับเป็นนักเขียนนิยายเลยจริง ๆ มีจินตนาการกว้างไกลดี แต่ถ้าหัดยอมรับความจริงสักหน่อย
ฉันว่าเธอคงจะเขียนเรื่องลึกลับได้ดีไม่แพ้อาของเธอเลยทีเดียว”
   คำตอบของพาทิศทำให้ตุลาตกตะลึงแล้วรีบถามกลับ
   “คุณรู้จักอากริชด้วยหรือครับ?”
   พาทิศยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงตอบกลับไป
   “ก็เขานั่นล่ะพาเธอตอนสิบกว่าขวบมาที่คฤหาสน์แห่งนี้ ... คุณจอมเดชเจ้าของคฤหาสน์ของเราน่ะ เขาเป็นแฟนนิยายของอาเธอยังไงล่ะ เขาจึงเชิญอาเธอมาที่นี่ แล้วอาเธอก็พาเธอมาด้วย ...พวกเราก็เลยได้เจอกัน”
   ตุลานิ่งเงียบ ยิ่งเห็นใบหน้าระลึกถึงความทรงจำอันแสนสุขของพาทิศ ก็ยิ่งทำให้เขาต้องก้มหน้ากำมืออย่างสำนึกผิด จนอีกฝ่ายสังเกตได้
   “ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกที่จำมันไม่ได้...แค่เห็นว่าเธอไม่รังเกียจพวกเราอีกครั้ง พวกเราก็ดีใจแล้ว”
   ตุลาเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย แล้วยิ้มตอบ น่าแปลกใจตัวเองอยู่เช่นกัน เพราะเมื่อคืนเขายังกลัวถึงขนาดนั้นอยู่แท้ ๆ
   “แล้วทำไมคุณถึงออกมาตอนกลางวันได้ล่ะครับ”
   พาทิศยิ้มแล้วแนะนำตัวเองอีกรอบ
   “ก็ฉันเป็นพวกซอมบี้ยังไงล่ะ เมื่อคืนเธอก็ได้เห็นแล้วไม่ใช่หรือ?”
   ตุลาชะงัก ไม่อยากจะคิดถึงความทรงจำอันน่ากลัวนั่นเท่าใดนัก แต่เจอแบบนั้นก็ใช่ว่าจะทำใจให้ลืมได้ง่ายอยู่
   “ง่า...ครับ”
   “หึ ๆ ไม่ต้องห่วงอะไรหรอกนะ ฉันยังไม่เข้าขั้นซอมบี้แบบหนังฝรั่งพวกนั้นหรอก ฉันรักษาร่างกายตัวเองอย่างดี ...แต่ก็นั่นล่ะ ก็มีหลุด ๆ ขาด ๆ บ้าง ของมันก็เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลานี่นะ”
   ตุลาพยายามจะยิ้มตาม แต่พอจินตนาการสภาพของพาทิศแบบนั้นเขาก็เผลออดสยองขึ้นมาไม่ได้
   “อีกอย่างที่ดินของบ้านหลังนี้น่ะ มันเป็นที่ดินพิเศษด้วย”
   “พิเศษ?”
   ตุลาทวนคำอย่างสงสัย พาทิศยิ้มให้ แล้วเล่าต่อ
   “ใช่ ...เป็นที่ดินซึ่งมีพลังอาถรรพ์แรงกล้า เหมาะจะเป็นที่อยู่ของพวกภูตผี ปีศาจยิ่งกว่ามนุษย์ ถ้าตามหลัก
ฮวงจุ้ย ที่นี่ก็ทางผีผ่านดี ๆ นี่เอง”
   ชายหนุ่มเงียบกริบ แล้วเผลอกอดอกตัวเองขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างลืมตัว
    “ละ...แล้ว...ทำไม ถึงปลูกบ้านในที่แบบนี้ล่ะครับ”
   “ก็เพราะเป็นความต้องการของนายท่านยังไงล่ะ”
   คำตอบนี้ดังมาจากใครบางคนที่ตุลาจำเสียงได้ แต่พอหันกลับไป เขาก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อเห็นแมวดำที่มี
สองหาง กระโดดแผล็วขึ้นมานั่งบนโต๊ะ ถัดจากที่เขานั่ง ส่วนพาทิศก็ไปหยิบชามใส่นม มาวางตรงหน้าแมว
ตัวนั้น แมวดำเลียนมไปสักพัก แล้วจึงหันมาทางตุลา ตัวมันสีดำขลับไปทั้งร่าง แต่นัยน์ตาประหลาดนั้นเป็นสีรุ้งอย่างไม่เคยพบในแมวชนิดไหนมาก่อน
     “ตอนที่ท่านมาดูที่ดินเพื่อจะซื้อปลูกบ้าน ท่านก็เห็นแล้วว่าสภาพที่แห่งนี้เป็นยังไง เพราะท่านเป็นคนที่มีประสาทสัมผัสที่หกแรงกล้ามาก ...อีกอย่างก็มีข่าวลือว่า คนซื้อก่อนหน้านั้น ยังไม่ทันสร้างอะไรก็โดนอาถรรพ์ที่ดินเล่นงานกันไปแทบทั้งนั้น ... ตอนนั้นฉันเองก็เป็นหนึ่งในพวกที่ขับไล่มนุษย์ไปเหมือนกัน ...ฉันน่ะ
เกลียดมนุษย์...แต่ฉันรักนายท่านมาก...หือ? มีอะไรหรือตุล ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”
   อีกฝ่ายเอียงคออย่างสงสัย พาทิศกลั้นหัวเราะ แล้วพยายามอธิบายกับแมวดำ
   “ก็เธอเล่นอยู่ในร่างนี้แล้วพูดจ้อไม่หยุด ตุลก็เลยแปลกใจยังไงล่ะรุ้ง”
   ตุลาหันขวับไปทางพาทิศ แล้วหันมามองแมวดำตรงหน้าอีกครั้งอย่างตื่นตระหนก
   “โอ๊ะ! ลืมไปเลย สวัสดีตุล ฉันเองรุ้งพราย ...ตอนกลางวันร่างของฉันเป็นแบบนี้ล่ะ ตอนกลางคืนถึงจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้”
   “ละ ....แล้วคุณปิ่นล่ะครับ ...เป็นแบบเดียวกันไหม?”
   ตุลาถามต่อ แม้จะตกใจแค่ไหน แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็มีแต่ต้องตั้งสติยอมรับให้ได้เท่านั้น
   “ปิ่นน่ะหรือ...ปิ่นยังหลับอยู่ใน ‘ห้องนอน’ ของเธออยู่เลย นายยังไม่เคยสำรวจคฤหาสน์หลังนี้จนทั่วไม่ใช่หรือตุล กินข้าวเช้าเสร็จแล้วจะไปกันไหม?”
   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แต่ก็อดสนใจคำชวนนั้นอยู่ไม่ได้ อีกอย่างเวลาเช้าแบบนี้ ความน่ากลัวต่าง ๆ มันก็พลอยลดลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว
   “ได้ครับ”
   “จะดีหรือรุ้ง ...ถ้าคนนั้นตื่นขึ้นมาล่ะ?”
   พาทิศเตือน แต่แมวดำสาวรีบแย้งกลับ
   “ไม่ต้องห่วง ฉันไปสำรวจมาแล้ว ‘คนนั้น’ น่ะยังหลับอยู่เลย อีกอย่างทางที่เขาอยู่กับปิ่นอยู่ก็อยู่กันคนละที่ ไม่เป็นไรหรอก”
   ตุลามองทั้งคู่สนทนากันเงียบ ๆ ใจนึกอยากจะแทรกถาม แต่อีกใจก็ต้องเตือนตัวเองให้มีมารยาท ถ้าพวกเขาต้องการเล่าให้ฟัง ก็คงจะเล่าให้เขาฟังไปแล้ว
   “เอ้า! ไปกันได้แล้ว ถ้าสายแดดแรง แล้วมันจะร้อน ถึงในคฤหาสน์หลังนี้และสวนราตรีนั่นจะร่มรื่นตลอดเวลาก็เหอะ แต่แสงข้างนอกมันทำให้ฉันไม่อยากออกไปเจอเสียเลย เพราะมันเล่นร้อนเอาร้อนเอาขึ้น
ทุกวัน ...มนุษย์เรียกว่าปรากฏการณ์โลกร้อนใช่ไหมแบบนี้”
   “อะ...อืม”
   ตุลาตอบรับคำ ยังคงไม่เคยชินกับร่างแมวพูดได้ จากนั้นเขาจึงหันไปเตรียมจะเก็บจานไปล้าง แต่ก็ยังช้ากว่า
พาทิศ
   “ทางนี้ฉันจัดการเอง ตุลไปเล่นกับรุ้งเถอะ... เผื่อจะได้มีไอเดียไว้แต่งนิยายเพิ่มไงล่ะ”
   ตุลาชะงักก่อนโค้งนิด ๆ พึมพำขอบคุณอีกฝ่าย คำพูดของพาทิศเองก็มีเหตุผลพอสมควร หรือว่าเพราะแบบนี้ อาของเขาจึงต้องการให้เขาเช่าอยู่ที่คฤหาสน์ม่านราตรีนี่กันแน่
   รุ้งพรายในร่างแมวดำ กระโดดลงจากโต๊ะ เดินนำชายหนุ่มไป เธอพาเขาไปยังประตูหลังบ้าน ที่ทะลุออกไปยังสวนกว้างด้านหลัง และนั่นยิ่งทำให้ตุลาตกตะลึง เพราะคิดว่าสวนหน้าบ้านนั้นกว้างมากแล้ว แต่สวนหลังบ้านยิ่งกว้างมากกว่า  ที่เขาสามารถเช่าคฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้ได้  ถ้าไม่ได้ข่าวลือเรื่องผีดุ และทรัพย์สมบัติที่อาทิ้งไว้ให้ เขาก็คงไม่มีโอกาสได้มาอาศัยอยู่ในที่สุดยอดแบบนี้แน่
   สวนด้านหลังนั้น นอกจากจะมีพุ่มราตรีปลูกไว้เต็มไปหมด ยังมีต้นปีบต้นใหญ่ ๆ หลายต้น ขึ้นแน่นขนัดแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมให้ร่มเงา จนแสงแดดแทบจะไม่ส่องลงมายังพื้นด้านล่าง มองไปไกล ๆ เห็นบ่อน้ำขนาดย่อมพอ ๆ กับสระว่ายน้ำส่วนตัว  และถัดไปอีกด้าน ยังมีซุ้มนั่งเล่นสีขาว ซึ่งตอนนี้รกทึบไปด้วยต้นราตรีที่พันเลื้อยเต็มไปหมด
   “ตามมาทางนี้ตุล ‘ห้องนอน’ ของปิ่นอยู่ทางนี้”
   แมวดำสาวบอกแล้วเดินนำไปจนถึงบ่อน้ำใหญ่ มันมีสีเขียวครึ้มไปด้วยตะไคร่ มองแทบไม่ออกเลยว่ามีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่บ้าง และลึกแค่ไหน
   “ระวังนะ ตกลงไปน่ะเผลอ ๆ จะไม่มีโอกาสลอยขึ้นมาด้วยซ้ำ เพราะข้างล่างน่ะสาหร่ายเพียบเลย มันจะพันแข้งพันขาจนนายว่ายขึ้นมาไม่ได้เลยทีเดียว”
   รุ้งพรายขู่ ทำเอาตุลาชะงักแล้วรีบถอยหลังออกห่างจากบ่อไปสองสามก้าว จนแมวดำสาวต้องหัวเราะออกมาอย่างขบขัน
   “รุ้งบ้า...เธอขู่ให้เขากลัวแล้วรู้ไหม”
   เสียงคุ้นหูดังขึ้น แต่มันเหมือนดังมาจากใต้น้ำนั้น ทว่ากลับได้ยินเสียงชัดเจนอย่างน่าประหลาด
   “อ้าว! ตื่นแล้วหรือปิ่น ตื่นมาแล้วก็โผล่ออกมาทักทายกันบ้างสิ ตุลอุตสาห์แวะมาเยี่ยมนะ”
   ปิ่นสุดาไม่ตอบ เสียงก็เงียบไป จนรุ้งพรายในร่างแมวถอนหายใจ แล้วเดินมาบอกเบา ๆ กับตุลาที่ยืนอยู่
แถวนั้น
   “ปิ่นเขากลัวว่าถ้าเธอเห็นร่างจริงเขา จะกลัวจนเผ่นหนีไปน่ะสิ”
   ตุลาชะงัก แล้วจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะตอนเขาเห็นรุ้งพรายในร่างแมวพูดได้ เขาก็ยอมรับว่าตกใจอยู่มากเหมือนกัน
   “ง่า...ถ้าไม่น่ากลัวอย่างที่คุณพาทิศทำเมื่อคืน ผมก็พอจะรับได้อยู่แล้วครับ...คุณปิ่นคงไม่ถึงขนาดนั้น
ใช่ไหมครับ”
   ตุลาทรุดนั่งชันเข่า แล้วบอกกับบางสิ่งในบ่อน้ำ ซึ่งสักพักก็มีพรายน้ำผุดขึ้นมา ก่อนที่ร่างของสาวน้อยผมยาวหยักศกสลวยถึงกลางหลัง ท่อนบนเปลือยเปล่า แต่ได้เส้นผมยาวปิดบังในบางสิ่งที่ชวนให้คนมองหน้าแดงไว้ ส่วนท่อนล่าง ที่เต็มไปด้วยเกล็ดคล้ายปลา ก็แหวกว่ายไหวไปมานิด ๆ
   “งะ...เงือก?”
   “อือ...ปิ่นเป็นเงือกน้ำจืดที่แทบจะสูญพันธุ์หมดแล้ว เพราะโดนมนุษย์ไล่ล่า ทั้งที่เผ่าเงือกเป็นเผ่ารักสงบ
และไม่เคยทำร้ายใครก่อนแท้ ๆ”
   รุ้งพรายอธิบายให้ตุลาฟัง แล้วยิ่งเห็นใบหน้าสลดของเด็กสาวขี้อายคนนั้น ก็ทำให้ตุลาต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วก็ยิ้มให้หล่อน
   “คุณปิ่นไม่ต้องกลัวนะครับ ...เพราะผมชอบทานเนื้อมากกว่าทานปลาอยู่แล้ว”
   ปิ่นสุดาชะงัก ก่อนจะหลุดยิ้มน้อย ๆ ออกมา
   “ปิ่นก็เหมือนฉัน กลางวันจะคืนร่างจริง แล้วนอนพักอยู่ที่ของตัวเอง แต่พอกลางคืนพวกเราก็จะออกมา
เที่ยวเล่น ในบริเวณคฤหาสน์แห่งนี้ได้อย่างอิสระ แต่บางทีก็มีพวกเซนส์ดีที่ผ่านมาเห็นเข้าเหมือนกัน ก็เลยเอาไปลือกันว่าที่นี่มีผี ...ก็นะ ถึงพวกฉันเป็นผีก็จริง แต่พวกฉันก็ไม่ได้ไปทำร้ายใครก่อนนี่ ...มีแต่มนุษย์นี่ล่ะ ที่ทำร้ายพวกเราก่อน เพียงแค่เพราะเราแปลกแตกต่างไปจากตัวเองเท่านั้น”
   รุ้งพรายบอกด้วยน้ำเสียงขมขื่นเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเนิ่นนานมาแล้ว
   “ก่อนที่ฉันจะมาเจอกับที่ดินผืนนี้ ก่อนที่นายท่านจะสร้างคฤหาสน์ม่านราตรีเพื่อพวกเราขึ้น  ฉันเคยเกือบถูกมนุษย์ควักลูกนัยน์ตาของฉันออกมา เพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นเพชร หรือของวิเศษอะไรสักอย่าง... พวกเขาทำเรื่องโหดร้าย โดยไม่คิดสนความรู้สึกและชีวิตของใครเลยแท้ ๆ”
   “รุ้ง...”
   ปิ่นสุดาเรียกชื่อเพื่อนของเธอเตือนสติ เพื่อไม่ให้ระบายความคับข้องแค้นใจอะไรออกไปมากกว่านั้น
เพราะตุลาเองก็ถือว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
   “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณปิ่น...ผมเข้าใจ ...ผมเองก็อยากฟังเรื่องของพวกคุณ และคฤหาสน์หลังนี้เหมือนกัน ...เพราะผมคิดว่า ผมคงจะเริ่มสนใจสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาแล้วก็ได้”
   ตุลาบอกออกไปอย่างที่ใจของตนคิด เพราะครั้งแรกที่มาเช่าอยู่ก็เพื่อทำตามคำสั่งเสียจากพินัยกรรมของอา สำหรับเขาพอเห็นที่นี่ครั้งแรก เขารู้สึกหวาดกลัวและไม่ชอบใจเอาเสียเลย ทว่าเพียงแค่ผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญชั่วข้ามคืน และได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่คนเหล่านี้ มันก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกสนใจ ในสถานที่อยู่อาศัยแห่งใหม่นี้ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
   “นายนี่เหมือนจะเปลี่ยนไปจากตอนเด็ก...แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่เลยนะ”
   รุ้งพรายบอกแล้วยิ้มให้ แม้จะไม่เห็นรอยยิ้มจากแมวดำตรงหน้า แต่ความรู้สึกที่ตุลาสัมผัสได้ มันบ่งบอกเขาเช่นนั้น
   “ก็ได้... ฉันจะเล่าให้ฟัง เรื่องของพวกฉัน และเรื่องของนายท่าน รวมไปถึงกำเนิดคฤหาสน์ม่านราตรีแห่งนี้...”
   ตุลาทรุดนั่งขัดสมาธิที่ริมบ่อน้ำ มีปิ่นสุดากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่แถวริมบ่อ ส่วนรุ้งพรายก็เล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ
ของจอมเดช เจ้าของคนก่อน ที่มีศักดิ์เป็นพ่อสามีของคุณนายแม้นศรี ผู้ให้ชายหนุ่มเช่าบ้านหลังนี้
   “นายท่านเป็นผู้ชายที่ใจดีมาก ทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าที่ดินผืนนี้มีอาถรรพ์ เขาจะจ้างหมอผีมาขับไล่ หรือเชิญพระมาทำพิธีไล่เราก็ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับเรา มาถามเราตรง ๆ  และพอรู้เรื่องที่พวกเรามารวมตัวกัน
เพราะถูกมนุษย์ไล่มาเรื่อย ๆ จนมาได้ที่ดินผืนนี้เป็นที่หลบอาศัย  นายท่านจึงตัดสินใจสร้างคฤหาสน์ขึ้น โดยไม่ยอมฟังคำทักท้วงของเพื่อนของท่านที่มีวิชาอาคมพอควร  ผู้ชายคนนั้นบอกท่านว่า ที่ดินผืนนี้นั้นอัปมงคล
ให้ทำพิธีปัดรังควานขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปเสีย  แต่นายท่านกลับยิ้มอ่อนโยนและบอกกับคนนั้นว่า  สำหรับท่านนั้นจะหาที่อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ แต่พวกนี้เขาไม่มีที่ไป แล้วจะให้ท่านใจร้ายขับไล่พวกเขาออกไปได้อย่างไร  ผู้ชายคนนั้นจึงเลิกคิดเตือน แล้วจึงช่วยแนะนำการวางผังบ้าน ให้เป็นที่อยู่ซึ่งปลอดภัยทั้งผู้อยู่อาศัย และภูตผีในนี้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้นายท่านได้รับผลกระทบของความอาถรรพ์จากที่ดินผืนนี้มากนัก”
   ตุลาฟังสิ่งที่รุ้งพรายเล่า ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกศรัทธาในตัวของจอมเดชมากขึ้น แม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ก็ตาม ว่าเคยได้พบชายผู้นี้มาก่อน
   “พวกเราทั้งหมดตัดสินใจแล้วว่า จะคอยดูแลที่ดินผืนนี้ จะปกป้องคุ้มครองนายท่านจากภูตผีร้ายอื่น ๆ ที่หวังจะมายึดครองที่ดินนี่ ...พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาตลอด นับตั้งแต่คฤหาสน์ม่านราตรีถูกสร้างขึ้น จนกระทั่งนายท่านจากไป...เกือบสิบปีมานี้ พวกเราไม่เคยได้เจอเจ้าของบ้านหลังใหม่ที่เหมือนนายท่านอีกเลย ...ไม่มีใครเห็นพวกเรา ...ไม่มีใครยิ้มให้พวกเรา...ไม่มีใครที่จะพูดคุยกับพวกเรา ได้เหมือนนายท่าน อีกต่อ
ไปแล้ว...”
    รุ้งพรายเล่าไปสะอื้นไปในตอนท้าย ตุลามองร่างของแมวดำสาว แล้วจึงลูบศีรษะของอีกฝ่ายแผ่วเบา
   “ถึงผมจะไม่เหมือนกับเจ้าของคนเก่า ...และถึงผมจะมาอยู่แค่ชั่วคราว... แต่ผมก็จะพยายามนะครับ จะพยายามเป็นเพื่อนที่ดี กับทุกคนที่นี่ ...ผมสัญญา”
   รุ้งพรายกลืนก้อนสะอื้นลงคอ แล้วร่างของแมวสาวจึงเข้าไปไถขาของชายหนุ่ม ส่วนปิ่นสุดาก็จับมือของตุลาไปกุมไว้แล้วก็สะอื้นร้องไห้  ตุลานั้นไม่รู้จะทำยังไงดี จึงได้แต่ปล่อยให้สองสาวร้องอยู่เช่นนั้นสักพัก จากนั้นเขาจึงพยายามชวนคุยเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ  โดยไม่ทันได้รู้สึกว่า ณ อีกด้านหนึ่งของมุมสวนหลังบ้าน กำลังมีสายตาเย็นชาของใครบางคนจับจ้องมายังที่เขา แต่เมื่อชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวและหันมา ก็ต้องพบแต่เพียงความว่างเปล่าของซุ้มที่นั่ง ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มดอกราตรีเพียงแค่นั้นเอง...
บทที่ 4
    ตุลากับรุ้งพรายลาปิ่นสุดากลับเข้าบ้าน โดยชายหนุ่มให้สัญญากับเงือกสาวว่าคืนนี้เขาจะยังไม่รีบหลับ
และรอคุยกับเธออย่างแน่นอน
   “ปิ่นดีใจมากเลยนะ ที่ได้เจอตุลอีกครั้ง ตอนนายเป็นเด็ก เล่นซนจนพลัดตกน้ำลงไปในบ่อของเธอ เกือบจม
น้ำตาย ปิ่นช่วยนายไว้ได้ แต่อาของนายน่ะสิทำหน้าตาน่ากลัวมาก แล้วรีบพานายกลับบ้านทันที ทำให้ปิ่นคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง แล้วก็ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสเจอนายอีก”
    ตุลาหวนคิดถึงเรื่องเมื่อก่อน แล้วก็ต้องสั่นศีรษะไปมาเบา ๆ
   “ผมจำไม่ได้เลยครับ ...แต่ผมคิดว่าอากริชคงไม่มีเจตนาจะโทษคุณปิ่นหรอกครับ อาเป็นคนดีนะครับ แล้วก็เป็นสุภาพบุรุษมากด้วย ...ถ้าให้ผมเดาคงเพราะกลัวผมไม่สบายมากกว่า เพราะตอนเด็ก ๆ ผมป่วยบ่อยมากเลย เจอฝน เจอแดดแรงหน่อย ก็จับไข้ไปหลายวันแล้ว”
   ตุลาบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นสุขเมื่อหวนคิดถึงอาที่เขาเคารพรัก จนรุ้งพรายที่ลอบมองอยู่ถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินคำถามของชายหนุ่มตามมา
   “มีอะไรหรือครับคุณรุ้ง?”
   “มะ...ไม่มี  อ๊ะ! เข้าบ้านกันเถอะ ดูเหมือนพาทิศจะเรียกหานายอยู่นะ!”
   ตุลาชะงักแล้วมองไปยังในบ้าน ก่อนจะขมวดคิ้วน้อย ๆ
   “ผมไม่เห็นได้ยินเลยนี่ครับ”
   รุ้งพรายแกว่งไกวหางทั้งสองไปมา ก่อนจะเอ่ยตอบ
   “เคยได้ยินคำว่าหูผีไหม ของจริงเสียงจริงก็อยู่ตรงนี้ไง ...ไปเถอะ เขาไม่ได้เรียกนายตรง ๆ หรอก แต่บอกฉันให้พานายไปหาเขาต่างหาก”
   ตุลายิ้มแห้ง ๆ แล้วพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามแมวดำเข้าไปในคฤหาสน์ พอเห็นพาทิศแมวสาวก็กระโดดแผล็วไปอยู่บนโต๊ะหน้าอีกฝ่าย แล้วรีบพูดขึ้นทันที
   “ไง! พาทิศ ฉันพาตุลมาหานายแล้ว นายมีธุระจะพูดกับเขาใช่ไหมล่ะ! พูดเลยสิ!”
   ปีศาจแมวสาวจ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง พาทิศชะงัก ก่อนจะรีบเออออตามน้ำอย่างรวดเร็ว
   “อะ! จริงด้วยสิ อืม...ฉันจะปรึกษาเธอเรื่องกับข้าวของเธอพอดีเลยตุล  ฉันน่ะทำกับข้าวให้เธอกินได้ทุกมื้อ แต่ขาดวัตถุดิบพวกของสด ...หรือถ้าเธอชอบของแห้ง ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่มันจะไม่ดีกับสุขภาพเธอนะ”
   ตุลานิ่งอึ้งกับความห่วงใยเอาใจใส่นั่น แล้วจึงเกาท้ายทอยเขิน ๆ ตามมา
   “ง่า ...ความจริงผมก็ทานปกตินั่นล่ะครับ แต่ผมทำกับข้าวเองไม่ค่อยเป็น ถ้าอย่างนั้นผมจะไปซื้อมาตุนไว้แล้วกันครับ ...แล้วผมต้องซื้ออะไรบ้างล่ะครับ?”
   พาทิศยิ้มให้ ก่อนจะไปบอกให้ตุลาเตรียมกระดาษและปากกามาจด เขาตั้งใจให้ชายหนุ่มซื้อของสดมาตุน
เพื่อทำกินสัก 1 อาทิตย์ต่อครั้ง จะได้ไม่ต้องลำบากออกนอกบ้านไปบ่อย ๆ เพราะเดี๋ยวพวกชาวบ้านปากมากพวกนั้น จะเป่าหูชายหนุ่มมาอีก ก็วีรกรรมที่เพื่อนร่วมคฤหาสน์ ‘อีกราย’ ของเขาทำไว้ มันใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่กันล่ะ
   “อืม...แล้วของพวกคุณล่ะครับ จะสั่งอะไรเป็นพิเศษไหม?”
   ตุลาถามขึ้นหลังจากจดรายการอาหารในส่วน 1 อาทิตย์ของตนหมดแล้ว
   “ฉันเอานม นมจืดด้วยนะ ฉันไม่ชอบนมหวาน”
   รุ้งพรายบอกพร้อมกับแกว่งหางทั้งสองของเธอไปมาอย่างอารมณ์ดี ตุลารีบจดรายการลงไป ในขณะที่พาทิศมองปีศาจสาวอย่างเอือมระอา ดูท่ารุ้งพรายจะติดใจตุลาเข้าให้แล้ว ดูจากการเอาแต่ใจที่เกิดขึ้น เหมือนลักษณะนิสัยของแมวที่แสดงต่อเจ้าของไม่มีผิด
   “ฉันน่ะหรือ? ไม่ต้องเผื่อหรอก ส่วนปิ่นก็ไม่ต้อง รายนั้นไม่เรื่องมากเหมือนรุ้งหรอก พวกเราน่ะหาอาหาร
เองได้อยู่ ...หรือถ้าอยากจะเผื่อ ก็พวกปลาอะไรก็ได้”
   พาทิศบอกเมื่อเห็นสายตาตั้งคำถามของตุลาเหลือบมองตน ตุลาฟังแล้วก็พยักหน้าพลางจดรายการปลาสดเพิ่มไปอีกหนึ่งอย่าง ก่อนจะชะงัก แล้วเงยหน้าถามพาทิศอีกครั้ง เมื่อหวนคิดถึงสมาชิกปริศนาที่เขายังไม่เคยพบ
   “แล้วอีกคนล่ะครับ ...เขามีอะไรอยากได้เป็นพิเศษไหม”
   พาทิศเงียบกริบ เช่นเดียวกับรุ้งพราย ก่อนที่ปีศาจแมวสาวจะสะบัดหางไปมาอย่างรำคาญ
   “ไม่ต้องเผื่อหรอก รายนั้นน่ะวิญญาณตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่พวกภูต หรือปีศาจจำแลงแบบพวกฉัน ไม่กินอะไรก็ไม่ตายหรอกน่า!”
   “อะ...ครับ”
   ตุลารับคำ แล้วจึงขอตัวไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวทั้งหมดก่อน และพอลับร่างเจ้าของบ้านชั่วคราวคนใหม่
รุ้งพรายก็ถอนหายใจออกมาดัง ๆ อีกครั้ง
   “เฮ้อ...ทำไมนะ ตุลก็ออกจะเป็นเด็กดีขนาดนี้ ทำไมถึงญาติดีด้วยไม่ได้ ...จริงอยู่ที่นายท่านน่ะสำคัญที่สุด
แต่นายท่านก็ไม่อยู่กับพวกเราแล้วนะ…”
   “ไม่เป็นไรหรอก เขาจะต้องเข้าใจและยอมรับในตัวของตุลเข้าสักวัน ...ก็เด็กคนนั้นน่ะ เป็นมนุษย์ที่ดีและเหมือนนายท่านขนาดนั้น”
   รุ้งพรายเหลือบมองเพื่อน แล้วตีหางไปมาก่อนตอบ
   “เหมือนแค่จิตใจดีเท่านั้นนะ แต่เรื่องความฉลาดยังห่างไกลนายท่านอีกเยอะ!”
     “แต่ฉันว่าเขาเป็นเด็กหัวอ่อนก็ดีแล้วนา ว่าแต่เธอเหอะ ระวังอย่าไปแกล้งเขามากนักล่ะ ...ระวังจะเจอ
‘คนนั้น’ เล่นงานกลับเข้าให้”
   พาทิศเตือนปีศาจสาวในท้ายประโยค อีกฝ่ายทำเสียงฮึในลำคอเบา ๆ แต่ก็อดหวั่น ๆ คำเตือนของเพื่อนชาย
อยู่นิด ๆ ก็ในเมื่อ ‘คนนั้น’ ที่พาทิศบอก แม้จะเป็นเพียงวิญญาณก็จริง แต่ก็ร้ายกาจมากอยู่เหมือนกัน
   “ฉันล่ะเบื่อพวกวิญญาณแต่ละตนนี่จริง  มีแต่พวกเข้าใจยากทั้งนั้น”
   ปีศาจแมวสาวบ่นก่อนอ้าปากหาว แล้วจึงขอตัวไปนอนพักต่อ เพราะความจริงเวลากลางวันคือเวลานอน
ของเธอ แต่ที่ตื่นมาแต่เช้าก็เพียงเพราะอยากพูดคุยกับตุลานั่นเอง
   ตุลาหอบข้าวของพะรุงพะรังกลับคฤหาสน์ ท่ามกลางสายตาสนอกสนใจของชาวบ้านที่มองมา แต่เพราะเห็นชายหนุ่มหิ้วของมากมายเดินกลับ จึงไม่มีใครกล้าทักแม้จะคันปากสักเพียงใดก็ตาม
   “สงสัยต้องซื้อจักรยาน ไม่ก็มอเตอร์ไซด์สักคัน”
   ตุลาพึมพำ แม้ระยะทางจะไม่ไกลมากจากย่านร้านค้า แต่ถ้าต้องหอบของหนักขนาดนี้บ่อย ๆ มีหวังแย่แน่ จากนั้นเขาจึงใช้ไหล่ดันประตูรั้วที่ไม่ได้ล็อกเอาไว้เข้าไป ก่อนจะเดินหิ้วของเข้าไปในบ้านตามปกติ แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้า เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนชั้นสอง เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตอาฆาต เกลียดชัง จากใครบางคนบนนั้น
   ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อไม่พบกับสิ่งใด เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะรีบจ้ำฝีเท้าเข้าไปในบ้าน เพื่อหาเพื่อนคุย เพราะถึงพาทิศกับรุ้งพราย จะเป็นจำพวกภูตผีปีศาจ แต่ก็มองออกว่ามาดี ผิดกับจิตมุ่งร้ายที่เขาสัมผัสได้เมื่อครู่ลิบลับ   
   “กลับมาแล้วครับ”
   ตุลาบอกแล้วเดินตรงไปที่ครัว แต่ก็ไม่เห็นพาทิศ เขาเรียกพาทิศ แล้วเรียกรุ้งพราย แต่ก็ไม่มีเสียงใดขานตอบ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ แล้วตัดสินใจเก็บของสดแช่ตู้เย็น ก่อนจะเดินหาสมาชิกในบ้านที่เขาเพิ่งได้รู้จัก
   “คุณพาทิศ?  คุณรุ้ง?”
   ตุลาเดินออกมาจากห้องครัว เขาเดินผ่านถังผงในครัว แต่ไม่ทันได้สังเกตเห็นเศษกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่ถูกขยำทิ้งลงในถังนั่น มันถูกเขียนไว้ด้วยลายมือหวัด ๆ ของพาทิศ ด้วยเนื้อความที่ว่าจะขอกลับไปพักผ่อนที่ห้องใต้ดินก่อน ทว่าคนที่ทำให้มันไปอยู่ในถังใบนั้นกลับหาใช่ชายหนุ่มเจ้าของลายมือแต่อย่างใด
    “แอ๊ด...!”
   เสียงเปิดประตูดังขึ้นจากชั้นบน ทำให้ตุลาชะงักแล้วเหลือบมองขึ้นไป เขาก็ได้เห็นบานประตูห้องหนึ่งแง้มอยู่
   “คุณพาทิศ?  คุณรุ้ง? อยู่บนนั้นหรือเปล่าครับ?”
   ตุลาตะโกนเรียก แต่ก็ยังเงียบ เขากลืนน้ำลายลงคอ แล้วตัดสินใจเดินขึ้นไปหาทั้งคู่ ที่คาดว่าน่าจะอยู่ใน
ห้องนั้น
   “อย่าแกล้งกันสิครับ ...ผมไม่ค่อยชอบแบบนี้เลยนะครับ”
   ชายหนุ่มที่เดินขึ้นไปชั้นบนบอกอุบอิบ เมื่อมายืนอยู่หน้าห้องที่บานประตูถูกเปิดแง้มออก เขาตัดสินใจเปิดเข้าไป แล้วก็ต้องพบกับความว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิตข้างในนั้น
   “เอ๋? ไม่อยู่หรอกหรือ แล้วทำไม...”
   พอตุลาจะหันกลับไปยังบานประตู เขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมันเกิดปิดเองดังปัง ชายหนุ่มรีบบิดลูกบิดพยายามเปิดออกไปแต่ไม่เป็นผล
   “อะไรกัน! เปิดเดี๋ยวนี้นะ! ไม่ตลกเลยนะ ผมไม่ชอบให้หลอกกันเล่นแบบนี้นะครับ!”
   ตุลาโวยวาย แต่ดูเหมือนจะไม่มีเสียงใครตอบรับกลับมา ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเสียวสันหลังวาบ ขนลุกซู่ เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลดังขึ้นมาจากในห้องน้ำ ซึ่งอยู่ภายในห้องนอนใหญ่ห้องนี้
   “โธ่โว้ย!”
   ชายหนุ่มสบถกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด ลำพังถูกขังอยู่ในห้องแบบนี้ เขาก็แทบจะประสาทเสียอยู่แล้ว
โชคดีที่เป็นตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิมแน่
   “ช่วยไม่ได้!”
   ตุลาพึมพำเพราะขืนปล่อยให้น้ำไหลต่อไป เขากลัวว่าค่าน้ำเดือนนี้คงต้องจ่ายหนักกว่าเดิมแน่ ชายหนุ่มตัดสินใจเดินไปที่ผ้าม่านเปิดมันออก ปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องให้เต็มที่ ห้องนี้ก็มีประตูบานกระจกติดระเบียงเช่นเดียวกับห้องเขา แต่วิวตรงระเบียงห้องนี้ จะเห็นบริเวณของสวนหลังบ้านแทบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนของซุ้มดอกราตรี และบ่อน้ำที่ปิ่นสุดาอาศัยอยู่  
    พอแสงสว่างเข้ามายังห้อง ตุลาก็เริ่มใจชื้น เขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปและพบกับความว่างเปล่า เจ้าตัวค่อย ๆ เหลือบไปมองอ่างล้างหน้า ที่มีน้ำไหลลงมาจากก๊อก ก่อนจะตัดสินใจหมุนปิดอย่างรวดเร็ว ทว่าเพราะเจ้าดอกราตรีที่ค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาจากบนเพดาน และตกลงมายังอ่างล้างหน้านั่น ก็ทำให้มือของชายหนุ่มที่ปิดน้ำเรียบร้อย ชะงักค้างจับก๊อกเอาไว้เช่นนั้น
   “มะ...ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะครับ ...ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบอะไรแบบนี้”
   ตุลาบอกเสียงตะกุกตะกัก มือเท้าสั่นไปด้วยความกลัว ก่อนจะร้องจ๊ากดังลั่น เพราะนอกจากดอกราตรีแล้ว
ยังมีเส้นผมยาวร่วงหล่นลงมาจากเพดาน ตกลงมายังอ่างล้างมือทีละกระจุก
   ชายหนุ่มไม่คิดจะแหงนหน้าขึ้นไปมองบนเพดาน เขารีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ล้มลุกคลุกคลาน หนีไปที่ระเบียง ก่อนจะตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นร่างของหญิงสาวผมยาวถึงกลางหลัง ในชุดกระโปรงวันพีชยาวคลุมเข่า
สีขาวทั้งชุด ใบหน้าซีดเผือด ลอยออกมาจากห้องน้ำ ตามเขามา
   “ไม่ยกให้ใครเด็ดขาด...คฤหาสน์หลังนี้ เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น...”
   น้ำเสียงเยียบเย็นดังขึ้น แสงแดดที่เคยส่องสว่างเริ่มหายไปเพราะเมฆมืดครึ้มที่ลอยมาบดบังดวงอาทิตย์ เสียจนบรรยากาศยามนี้ ราวกับกลายเป็นเวลายามเย็นแทน
   “คุณ...สมาชิกอีกคน ที่คุณพาทิศ กับคุณรุ้งพรายบอกสินะ...ที่ว่าเป็นวิญญาณ...”
   ตุลาพยายามทำใจดีสู้ผี ทั้งที่แข้งขายามนี้แค่ยืนก็จะไม่ไหว เขาถอยมาจนหลังพิงราวระเบียง ในขณะที่วิญญาณหญิงสาวลอยเข้ามาหาเขาช้า ๆ
   “ไม่ยอมรับ...ฉันไม่ยอมรับมนุษย์อย่างแก...นอกจากเขาแล้ว ฉันไม่ยอมรับใครทั้งนั้น!”
   นัยน์ตาดำขลับของหญิงสาวเบิกกว้างกลายเป็นตาขาวเหลือก ก่อนที่ร่างนั้นจะลอยพุ่งเข้ามาบีบคอของตุลาหมับ ตุลาพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้น  นึกถึงคำพูดของพาทิศขึ้นมา เรื่องที่ดินแสนอาถรรพ์ผืนนี้ แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงร่างวิญญาณก็ยังสามารถสำแดงฤทธิ์ทำร้ายเขาได้ทั้งที่เป็นเวลากลางวันแบบนี้ก็ตาม
   “หยุดนะราตรี! ห้ามทำร้ายเขานะ!”
   เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาจากหลังคาบ้าน รุ้งพรายในร่างแมวดำกระโจนพุ่งใส่กระแทกร่างวิญญาณของผีสาว
จนต้องผละมือออกจากลำคอของตุลา ชายหนุ่มไอคอกแคกทันทีที่เป็นอิสระ ส่วนวิญญาณในชุดขาวหันมาทางปีศาจแมวสาวขวับ พลางตะคอกใส่อย่างฉุนเฉียว
   “อย่ามาขวางฉันนะรุ้งพราย! ผู้ชายคนนี้จะมาแทนที่เขา ...ฉันไม่ยอมหรอก ...ฉันไม่มีวันยอมเด็ดขาด!”
   “เธอมันบ้าราตรี! ตุลไม่ได้คิดจะมาเป็นตัวแทนนายท่าน  เขาไม่ได้คิดจะมาเป็นตัวแทนของใคร เขาเป็นสมาชิกใหม่ของม่านราตรีเหมือนกับพวกเราต่างหาก!”
    รุ้งพรายตวาดกลับ แต่ดูเหมือนผีสาวจะไม่ยอมฟังที่หล่อนบอก เธอสะบัดมือเรียกสายลมวูบใหญ่ พัดร่าง
ของปีศาจแมวสาวลอยไปกระแทกกับรั้วระเบียงดังผลัก จนตุลาตกใจแล้วรีบวิ่งปราดเข้าไปห้ามขวางหน้า ก่อนที่ผีสาวจะลงมือซ้ำอีกครั้ง
   “อย่านะ! พวกคุณเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือครับ ทำไมต้องมาทะเลาะกันเองด้วย!”
   “เพราะแกไงล่ะ! เพราะแก จะมาแย่งที่ของเขาไป...แกจะล้างสมองทุกคนให้ลืมเขา แล้วยึดคฤหาสน์ม่านราตรีหลังนี้ไป ...ฉันไม่ยอม...ฉันไม่ยอมให้ทุกคนลืมเขาคนนั้นเด็ดขาด!”
   ผีสาวบอกแล้วกรีดร้องเสียงแหลม เสียงของเธอทำให้ปิ่นสุดาลืมตาตื่นจากก้นบ่อ แล้วพุ่งขึ้นมาด้วยความตกใจ ส่วนพาทิศที่หลับอยู่ในห้องใต้ดินก็เบิกตากว้าง แล้วรีบลุกขึ้นมายังต้นตอของเสียงนั้นทันที
   “อย่าทำเขานะราตรี! อย่าทำเขา!”
   ปิ่นสุดาตะโกนห้ามจากบ่อน้ำ เมื่อเห็นราตรีตรงเข้าไปบีบคอหิ้วร่างของตุลาลอยขึ้น เตรียมจะทิ้งลงไปจากระเบียงด้านล่าง
   “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะราตรี ปลดเขตแดนของเธอซะ!”
   เสียงทุบประตูดังตึงตังจากด้านนอก พาทิศกัดฟันกรอด แล้วจึงตัดสินใจปลดปล่อยพลังวิญญาณของตน พร้อมกับกระแทกบานประตูนั้นไปเต็มแรง จนมันหลุดกระเด็น
   “ปล่อยตุลเดี๋ยวนี้นะราตรี!”
   ราตรีชะงัก ก่อนจะค่อย ๆ หมุนคอของตัวเองมามองคนห้าม พลางแสยะยิ้มให้
   “ได้สิ...ฉันจะปล่อยเดี๋ยวนี้ล่ะ”
   พาทิศตาเบิกกว้าง พยายามพุ่งตรงไปยังร่างที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่กำลังตกลงไปยังชั้นสอง ปิ่นสุดาปิดตากรีดร้อง ส่วนรุ้งพรายพยายามฝืนลุกขึ้นไปช่วย แต่แค่จะขยับเธอก็ไม่ไหวเพราะความจุกจากการถูกเล่นงาน
   “ไม่นะตุล!”
   รุ้งพรายร้องตะโกนลั่น ก่อนจะชะงักเช่นเดียวกับวิญญาณและปีศาจตนอื่น เพราะสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณมหาศาลที่ถูกสร้างเป็นเบาะนุ่มหนุนรองให้ตุลาตกลงมาอย่างปลอดภัย
   “แก...เป็นใคร...”
   ราตรีมองร่างของก้อนพลังวิญญาณที่ก่อตัวกันขึ้นมาเป็นร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง อีกฝ่ายเงยหน้ามองราตรีแล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะสั่นศีรษะไปมา
   “ไม่ไหว ๆ ที่ดินนี่อาถรรพ์เกินไปจริง ๆ ขนาดวิญญาณอย่างเธอยังถูกมันครอบงำ จนจำฉันไม่ได้เสีย
อย่างนั้น”
   ตุลาพยุงกายขึ้นนั่งด้วยความมึนงง เขามองตามไปยังต้นเสียงที่ช่วยชีวิตเขา และแม้จะเห็นเพียงแค่แผ่นหลัง แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มน้ำตาซึม แล้วพึมพำเสียงแผ่ว
   “อากริช...นั่นอาใช่ไหมครับ...”
   ร่างสูงเพรียวของวิญญาณหนุ่มชะงักเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ หันมายังเสียงเรียกชื่อตนใบหน้าอ่อนเยาว์แย้มยิ้มปราณีส่งให้กับผู้เป็นหลาน ก่อนจะหันกลับไปมองวิญญาณสาวที่บัดนี้เริ่มปลดปล่อยพลังด้านลบอันชวนกดดันแผ่ซ่านไปทั่วคฤหาสน์นัยน์ตาเหลือกขาวจับจ้องมองตรงมายังร่างของตุลาเขม็ง
     “ไม่ยอมหรอก...ไม่ยอมให้ใครมาแทนที่เขาทั้งนั้น...ถ้าแกยังยืนกรานจะอยู่ที่นี่อีก ....ฉันจะฆ่าแกเอง!”


พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
19
พลังน้ำใจ
759
Zenny
26757
ออนไลน์
184 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%

โพสต์ 2013-7-15 15:16:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-12-22 15:59 , Processed in 0.078430 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้