ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว “เฟียร์ไปอาบน้ำสิ” ผมบอกและนอนลงข้างๆเฟียร์
“หมับ..เฟียร์เล่นไรเนี่ย......เฮ้ย พี่โชว์! Lesson 29
( Show Part )
“ใช่พี่เอง”
“พี่เข้ามาได้ยังไง...แล้วเฟียร์ไปไหน” หึใช่สิถามหาแต่คนอื่น คนถูกทิ้งอย่างผมมันน่าน้อยใจนัก!
“เข้ามาตามหัวใจเรียกหา” แหวะเลี่ยนว่ะกูพูดไปได้ไงวะ
“…” คิมเงียบแล้วไม่ยอมพูดอะไรอีก
“คิมทำไมถึงต้องมานอนบ้านไอ้วินครับ” ผมเปิดฉากสนทนาต่อ
“ก็อยากมา”
“อย่าตอบพี่แบบกำปั้นทุบดิน” ผมดุเสียงเข้มเลยครับคิมนี่นิสัยเสียอย่างนึงเวลามีอะไรไม่ชอบพูด ชอบเก็บไว้คนเดียว
“ไม่ได้ทุบสักหน่อย ก็ผมอยากมาหาเฟียร์ผมผิดอะไร?” คิมตอบน้ำเสียงฮึดฮัดใส่ผมครับ
“คิมอย่ามาใส่อารมณ์กับพี่นะ พี่รู้มันได้มีแค่นั้น” ผมพยายามคาดคั้นสุดเลยครับเพื่อให้คิมยอมบอกเหตุผลที่มานอนบ้านไอ้วิน
“ว่ายังไงครับจะตอบพี่ได้หรือยัง” มันเงียบนานเกินไปแล้วครับผมเลยเร่งกดดันเพื่อจะเอาคำตอบ
“คิมเบื่อนี่” น้องพูดจบก็เบะหน้าเหมือนจะร้องไห้เลยครับอะไรวะผมยังไม่ทำอะไรเลย...หรือเปล่าวะ?
“โอ๋ๆ~ ไม่เอาอย่าร้องไห้นะที่พี่ถามเพราะพี่เป็นห่วงรู้ไหม” ผมพูดแล้วก็จับหัวคิมมาสบอกผม
“ที่หลังคิมมีอะไรต้องบอกพี่รู้ไหม พี่ทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งห่วงคิมเลยนะ” เอาละผมเริ่มหยอดใส่แล้วครับเหมือนเป็นการเตือนเจ้าตัวร่วงหน้าว่าผมกำลังจะบุก
“พี่โชว์พูดอะไรบ้าๆ จะมาห่วง มาหวงทำไม” น้องพูดเสียงอึกอักเลยครับ
“คิม”
“…”
“เป็นแฟนพี่นะครับ” พูดไปแล้ว ผมพูดไปแล้ว!
“…” ทำไมน้องเงียบใส่ผมวะ
“ว่าไงครับคิม...เป็นแฟนกับพี่ได้ไหม” ผมถามต่อ
“ก็...นะ..ไหนว่าเป็นพี่น้องกันไง” เฮ้อกูไม่น่าพูดตอนนั้นเลย
“แต่ก่อนใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วครับ” ผมพูดแล้วก็กอดคิมให้แน่นขึ้น
“พะ..พี่โชว์” น้องพูดเสียงแผ่วเลยครับ
“พี่รู้พี่เลวมากพี่ทำอะไรไม่ดีกับคิมไว้เยอะแยะมากมาย...แต่ขอร้องเถอะคิมคนเลวๆคนเนี่ยขอโอกาสได้ดูแลคิม....ได้ไหมครับ” ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
“พี่โชว์....”
“...” ผมลุ้นกับคำตอบน้องมากเลยครับ
“ผมยังไม่พร้อม...เราเป็นพี่น้องกันไปก่อนเถอะนะครับ” หว้า แดกแห้วเลยกู
“ไม่เป็นไรครับพี่จะรอคิมนะ...จะรอจนกว่าคิมจะพร้อมนะครับ” ถึงมันทำให้ผมไหววูบไปบ้างก็เถอะ แต่น้องต้องการแบบนั้นผมจะว่าอะไรได้..ใจน้องเค้านี่ครับผมบังคับไม่ได้หรอก....แต่ใจของน้องกูอยากได้โว้ย!
เมื่อผมกับคิมเคลียร์ (หัวใจ) กันเรียบร้อยแล้ว (ถึงมันจะไม่โดนใจผมเท่าไรก็เถอะ)ผมก็พาคิมนอนครับแต่คิมไม่ยอมบอกว่าจะดูคนอวดผีผมก็เลยต้องพาคิมดูครับแต่อย่าเรียกว่าดูเลยครับแทบจะมุดอยู่ในผ้าห่มตลอดเวลา แล้วจะอยากดูเพื่อ?
“อื้อ...” ผมบิดขี้เกียจตอนตื่นขึ้มาในตอนเช้าของอีกวันครับหันไปมองคนข้างๆก็ยังไม่ตื่นเลย สงสัยเมื่อคืนจะผวาเพราะว่าคิมนอนแบบแทบจะสิงร่างผมเลยครับกระแซะแล้วกระแซะอีก...ดีเหมือนกันทีหลังจะไปเหมาแผ่นคนอวดผีมาทั้งแผงเลย
“ฟอด” หอมแก้มปลุกครับ...แต่ก็ยังไม่ยอมตื่น
“ฟอด...ฟอด” คราวนี้ซ้ายขวาเลยครับ
“…” แต่ก็ยังไม่ขยับงั้น...
“จุ๊บ” เฮ้อตายแน่ๆนอนแบบนี้มีโอกาสโดนลักหลับหลายรอบแล้วเนี่ย
“ไม่ตื่นใช่ไหม” ไซร้คอเลยครับขนาดตื่นเช้าๆตัวคิมก็ยังหอมอยู่เลยครับเหมือนเป็นกลิ่นประจำตัวของคิม อ่ะครับ
“อือๆ....พี่โชว์ทำอะไร!” ฮ่าๆถึงกับตาสว่างเลยนะ
“ปลุกไม่ยอมตื่นสักทีนิก็ต้องเจอแบบนี้” ผมบอกแบบไม่สนใจทั้งๆที่ในใจสนใจมาก!
“พี่โชว์แกล้งผมนิ ไปไกลๆเลย” พูดจบคิมก็หยิบหมอนมาเขวี้ยงใส่หน้าผมเลยครับ
“โอ้ย คิมพี่เจ็บนะครับ”
“ดี ตายไปเลยไป!” พูดจบคิมก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปครับหึหึ น่ารักจริงๆเลย
( KimPart) โอย ในที่สุดก็หมดเวลาเรียนช่วงบ่ายของวันนี้สักทีครับผมล่ะเมื่อยจริงๆเลย ผมรีบเดินลงมาจากห้องเรียนเลยครับวันนี้อยากกลับบ้านเร็วๆมากๆแต่ว่า... “คิม” ผมหันไปตามเสียงเรียก
“อ้าว เต้ว่าไง” ผมส่งยิ้มไปให้
“ไปกินข้าวกัน เต้มีเรื่องอยากจะคุยด้วย” เรื่องไรวะคุยเลยไม่ได้รึไง
“โอเคก็ได้ แต่อย่าดึกนะเราไม่อยากกลับบ้านมืดค่ำ” ผมบอกเต้ เต้ก็โอเคครับแล้วจากนั้นเต้ก็พาผมไปกินอาหารที่ห้างๆนึงครับร้านก็หรูหราพอสมควร
“คิมอยากกินอะไรสั่งเลยนะ” มันแน่นอนอยู่แล้วแหละเต้
“เอาทอดมันกุ้ง ข้าวผัดน้ำพริกลง เมี่ยงปลาทู แล้วก็น้ำผึ้งมะนาว”ผมสั่งของที่อยากกินทั้งนั้นเลยครับ
“ผมเอาข้าวคลุกกะปิก็พอครับ”
“เต้ทำไมสั่งอย่างเดียวเองล่ะ” ผมถามครับเต้เป็นเจ้ามือนี่น่าจะสั่งเยอะนี่นา
“มีเรื่องอยากบอกมากกว่าอยากกินน่ะ” เต้พูดแล้วยิ้ม
“แต่เอาไว้หลังกินข้าวเสร็จนะ”อ่ะโอเคผมไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ
แล้วสักพักอาหารก็มีเสิร์ฟตรงหน้าครับแต่ละอย่างจะบอกว่าอร่อยมากเลยครับผมกินได้เยอะเลยทีเดียวและมันก็ถึงตอนสำคัญครับ...เรื่องที่เต้จะบอกผม
“คิม...คือรู้ใช่ไหมว่าเราชอบคิม” ผมก็พยักหน้าเพราะเต้ก็เคยบอกว่าจะจีบผม
“มันอาจจะเร็วไปหน่อยแต่...”
“…” ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วสิครับ
“เป็นแฟนกับเราได้ไหม” พูดจบเต้ก็เอื้อมมือมาจับมือผมแล้วกุมไว้หลวมๆโอ้ยช่วงนี้ฟีโรโมนผมแรงใช่ย่อยตัวผู้ติดกระจาย - -
“เอ่อ...คือว่า” ผมกำลังจะตอบเต้แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“คิม!”
“พะ...พี่โชว์! Lesson 30
“เดี๋ยวก่อนพี่โชว์” ผมตะโกนเรียกพร้อมทั้งออกตัวลุกตามพี่โชว์ไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทันครับพี่โชว์เดินหนีผมหายไปแล้ว
“ทันไหมคิม” เต้พึ่งวิ่งตามผมมาครับคงพึ่งจ่ายค่าอาหารเสร็จ
“ไม่ทัน...เดี๋ยวค่อยไปคุยที่บ้านก็ได้ไม่เป็นไร” เฮ้อ อยากเป็นผีจังเลยตอนเนี่ย จะได้หายตัวกลับบ้านได้เลย
“แล้วเรื่องที่เราถามล่ะคิม” มาแล้วไงครับผมอุตส่าเลี่ยงไม่อยากตอบแล้วนะ แต่คิดอีกทีนึง...ถ้าเคลียร์กันไปให้จบเลยจะเป็นผลดีต่อผมและเต้ที่สุดเลยครับ
“…” ผมเอื้อมมือไปจับมือเต้ขึ้นมาเต้ก็มีสีหน้ายิ้มครับ
“เราขอบใจนะสำหรับความรู้สึกดีๆที่เต้มีให้กับเรา...แต่ว่าเป็นเพื่อนกันอ่ะดีแล้วเราไม่ได้รังเกียจนะแต่เราไม่พร้อมจะมีความรักในรูปแบบนี้”
“ไม่เป็นไรคิม เราเข้าใจเป็นเพื่อนกันก็ได้ แค่นี่ก็พอแล้ว” เต้พูดแล้วยิ้มออกมาทางสีหน้าแต่แววตากับเศร้าลงถนัดตา เฮ้อทำไมต้องมีแต่ตัวผู้มาหลงผมด้วยวะเนี่ย
“เป็นเพื่อนกันมั่นคงกว่าเยอะ” ผมบอกเต้แล้วยิ้มให้จากนั้นเต้ก็อาสาขับรถกลับมาส่งผมที่บ้านครับ ผมก็ไม่ขัดศรัทธาอะไร
“เต้ขอบคุณมากที่มาส่ง ขับรถดีๆล่ะ”
“โอเค แล้วเจอกัน” พูดจบเต้ก็ออกรถไปเลยครับส่วนผมก็เดินเข้าบ้านและมองไปทางโรงรถก็เห็นว่ารถพี่โชว์กลับมาแล้วผมเลยรีบขึ้นไปห้องเป้าหมายที่ผมมีเรื่องจะต้องเคลียร์ด้วย
“ก๊อก ก๊อก พี่โชว์” ผมเคาะเรียก
“พี่โชว์เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ หนีคิมมาทำไม” เอาวะไม่เปิดก็ตะโกนคุยเนี่ยแหละ
“มีอะไร” เสียงตอบกลับมาแล้วครับ
“พี่หนีคิมมาทำไม” ผมเลยครับประตงประตูไม่ต้องเปิดมันแล้ว
“ไม่ได้หนี” แค่เนี่ยนะกูพล่ามอารัมภบทไปสะมากมายตอบกูกลับมาแค่นี้นะฮึ่ย ยิ่งคิดยิ่งเดือด
“อย่ามางี่เง่าใส่คิมนะพี่โชว์ มีอะไรก็ออกมาพูดกันดิ” เอาละกูเริ่มไม่ไว้หน้ามึงแล้วนะ
“…” เงียบ
“พี่โชว์!” ผมตะโกนสุดเสียงเลยครับ
“พี่ว่าคิมกลับไปห้องตัวเถอะไป” นี่ใช่ไหมคือคำตอบผมตัวชาเลยครับและตามมาด้วยอาการสั่นของคนที่กำลังจะโกรธมาก น้ำตาก็พาลจะใหลเป็นอะไรวะเนี่ยจังหวะนี้เองโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล.....ครับ....มะ...ไม่มีจริง....เพล้ง!”
( Show Part )
สิ่งที่ผมเห็นวันนี้มันคืออะไรกัน...ไอ้เด็กเต้นั่นกับคิมกินข้าวกันดูแล้วท่าทางจะมีความสุขมากมีกระหนุง กระหนิงกันดูแล้วเหมือน....คนรักกัน เหอะ ผมมันไม่น่าโง่เลยเค้าปฏิเสธตั้งแต่แรกแล้วก็น่าจะรู้ตัวแต่ผมก็ยังโง่โง่ที่คิดว่าสักวันนึงเค้าจะรับรักผมแต่ก็สมควรแล้วแหละกับสิ่งที่ผมทำกับเค้ามาก่อนหน้านี้ไม่เป็นไรในเมื่อน้องเค้าต้องการแบบนี้ผมจะเป็นคนที่ยอมถอยออกมาเองเจ็บแปปเดียวเดี๋ยวมันก็หายครับ คงไม่ถึงกับตายหรอกจริงไหม
“ฮัลโหล ไอ้วินอยู่ไหนวะ” ผมโทรหาเพื่อนดีกว่าครับอารมณ์แบบนี้อยู่เฉยๆไม่ได้เดี๋ยวจะพาลคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้มันวุ่นวายปวดหัวไปซะเปล่าๆ
“อยู่ผับกูเนี่ยแหละมึงมาเปล่า” ไอ้เพื่อนเวรไปกันไม่ชวนผมเลย
“เออ กูมันหมาหัวเน่าของแท้เลย ไปไหนกันไม่เคยมีใครชวนกูหรอก”ผมพูดแบบน้อยใจใส่มันครับ
“แหม ทำน้อยใจนะมึงก็เห็นว่าเดี๋ยวนี้เป็นพ่อพระกลับบ้านเร็วแต่ถ้าอยากมาก็มาสิวะ”
“เออ ครึ่งชั่วโมงถึง” วางสาย หยิบโทรศัพท์กุญแจรถ แล้วระเห็จออกจากห้องด้วยความไวล้านปีแสง วันนี้จะเมาแม่งให้หัวลาน้ำเลย
“อ้าวเฮ้ยๆ มาแล้วว่ะมาๆนั่งเลย” ไอ้วินเขยิบที่ให้ผมนั่งครับ
“ผสมไรวะ” รู้งานจริงมึงไอ้แสบ
“ไม่ต้องผสม...เอามาเพียวๆนั่นแหละ” พอผมบอกพวกมันก็ตาค้างกันครับเป็น-เอี้ย-ไรกันอีกล่ะ หมาบ้านมึง พ่นไฟได้หรือไง
“มึงเฮิร์ท-เอี้ย-อะไรมาล่ะ” คราวนี้ไอ้ฟ้าเป้นคนถามผมครับ
“…” ผมเงียบไม่ตอบครับแล้วรับแก้วเหล้ามาจากไอ้แสบ
“ไอ้สัด หยิ่งเหรอมึงอ่ะถามไม่ตอบ” คราวนี้ไอ้ส้มครับแม่งอยากรู้ทุกเรื่องจริงๆอีห่านี่
“เสือก....รู้เรื่องกูแล้วแม่มึงจะไม่มีชู้หรือไง” อารมณ์นี้ด่าแม่งหมดแหละครับและผมก็ยกเหล้าเพียวๆแก้วที่สองเข้าปากหมดไปรวดเดียวเลยครับ
“แม่ง ลามปามถึงแม่กูเลย ปล่อยให้แม่งบ้าไปเงี่ยแหละไอ้ก็อตซิลล่าหำหด!” เหอะๆ ด่า-เอี้ย-อะไรของมึงวะ แต่ชั่งแม่งมันเถอะตอนนี้อ่ะ
“เฮ้ยมึงแล้วคิมอ่ะ อยู่บ้านเหรอ” นั่งมาได้สักพักนึงไอ้วินก็ถามขึ้นครับ
“อยู่บ้านดิวะ...อยู่บนเตียงรอไอ้-เอี้ย-แหละ ฮิ้ว~” พวกแม่งแซวกันไม่รู้เวลาผมก็เงียบครับ
“หรือว่าน้องคิมมีแฟนใหม่วะมึง มันถึงได้มานั่งบ้าอยู่เนี่ย”
“เออใช่ว่ะมึงหรือว่า บลาๆ” ห่าเหวอะไรอีกหนักหนาก็ไม่รู้สารพัดที่พวกมันจะพูดกัน
“พวกหยุดพูดเรื่องนี้สักทีได้ไหม!” ผมตวาดพวกมันลั่นเลยครับดีที่ว่าตรงที่พวกเรานั่งจะมีคนนั่งน้อยมากเพราะเป็นโซน VIP ซึ่งอยู่บนชั้นสองมันจะไม่วุ่นวายเหมือนโซนข้างล่างครับ
“มึงเป็นอะไรของมึงวะ มีอะไรก็ระบายมาเถอะไม่งั้นจะมีเพื่อนไว้ทำ-เอี้ย-อะไร” โอเคครับมันมาแบบนี้แถม
สีหน้าจริงจังมาก ผมเลือกที่จะเงียบเอาไว้ครับ
“เออ ถ้ามึงเงียบมึงก็นั่งแดกเงียบๆไปเถอะ” ผมทำตามคำแนะนำ(ประชด)ของมันครับแล้วผมก็นั่งกระดกจนไม่ได้สติจริงๆ
ผ่านไปหลายๆวันผมพยายามหลบหน้าคิมตลอดแล้วมันก็ไม่เจอจริงๆครับไม่เจอเลยจริงๆแม้กระทั่งในบ้านบอกใครใครจะเชื่อว่าอยู่บ้านเดียวกันแต่ไม่เจอหน้ากันเลย
“พี่โชว์ คิมไปไหนอ่ะ” เฟียร์ถามผมครับ
“พี่ไม่รู้” ผมตอบแล้วเมินหน้าหนี
“เฟียร์ไม่เห็นมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ โทรไปก็ไม่ติดหลายวันแล้วนะเนี่ยอยู่บ้านเดียวกันไม่เจอกันบ้างเลยเหรอ” เห็นไหมมีแต่คนถามผมแบบเนี่ย
“อือ” ผมบอกแค่นั้นเฟียร์ก็จากไปครับแล้วสักพักเฟียร์ก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาหาผม ทำให้ไอ้วินมันตกใจมากๆ
“เดี๋ยวๆเฟียร์วิ่งทำไมเดี๋ยวหกล้ม” ไอ้ห่านี่มึงทำเหมือนเฟียร์เป็นเด็กสามขวบพึ่งหัดเดินเลยเนอะ
“ไว้ก่อนพี่วิน...พี่โชว์เพื่อนที่คณะเฟียร์บอกว่าคิมไม่ได้เข้าเรียนมาหนึ่งอาทิตย์แล้วนะพี่”ผมฟังแค่นั้นก็ลุกขึ้นแล้วขับรถกลับบ้านไปอย่างรวดเร็วและเหมือนเฟียร์จะรู้โดดขึ้นรถผมมาเลยครับ จุดหมายของเราคือ...บ้านนั้นแหละ
“พี่วินขับรถตามมาเลย” เฟียร์โทรบอกไอ้วินครับจากนั้นผมขับรถด้วยความเร็วที่เหนือกว่าจรวดที่เค้าส่งขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ซะอีก (เวอร์ชิบ!)แปปเดียวก็ถึงบ้านครับ
“ไปดูในห้อง” ผมบอกเฟียร์แล้วเราสองคนก็วิ่งไปที่ห้องเลยครับพอเปิดประตูก็เจอว่าหน้ากระจายไปหมดโทรศัพท์ก็แตกกระจายอยู่หน้ากระจกผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าดูก็พบว่าไม่เหลือเสื้อผ้าในตู้เลยสักตัวเดียว“นี่มันอะไรอ่ะพี่โชว์!” เฟียร์แทบจะตะโกนถามผมแต่ผมจะตอบอะไรล่ะเพราะผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น...ทำไม...หายไปไหน...จะเป็นยังไงตอนนี้ผมสับสนไปหมดนี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!
|