ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว “นี่มันอะไรอ่ะพี่โชว์!” เฟียร์แทบจะตะโกนถามผม แต่ผมจะตอบอะไรล่ะเพราะผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น...ทำไม...หายไปไหน...จะเป็นยังไงตอนนี้ผมสับสนไปหมดนี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย! Lesson 31
( Show Part )
ตอนนี้ผม ไอ้วิน เฟียร์ ไอ้แป้ง ไอ้ส้ม ไอ้ฟ้า ไอ้เกียร์ ไอ้แสบ ไอ้ต้น มานั่งสุมหัวรวมกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านผมครับ ซึ่งแต่ละคนก็มีท่าทางที่ไม่เข้าใจกับการหายตัวไปของคิม อย่าแต่พวกมันเลยครับผมเองยังไม่เข้าใจเลยว่าคิมไปไหน
“มึงจะเอาไงต่อวะไอ้โชว์” ไอ้ฟ้าถามครับ
“กูก็ไม่รู้ว่ะ เดี๋ยวกูออกไปตามหาในดีกว่า”
“มึงจะไปหามันที่ไหน” ไอ้ฟ้าถามต่อ
“ไม่รู้....หาไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอ” ผมบอกมันแล้วก็กำลังจะลุกขึ้น
“เออ งั้นมึงนั่งลงเหมือนเดิมอ่ะดีแล้ว ทำ-เอี้ย-อะไรไม่เคยมีวางแผนก่อนเลย” หึ เออ มึงมันเป็นมันสมองของกลุ่มนี่มึงก็ช่วยกูคิดสิไอ้เพื่อนเวร!
“งั้นเอางี้แยกย้ายกันก็แล้วกัน จับไปกันเป็นคู่ ไอ้วิน-เฟียร์ แป้ง-แสบ ส้ม-เกียร์ ไอ้ต้นมึงมากับกู.....ไอ้โชว์มึงบุกเดี่ยวได้ใช่ไหมวะ” มันหันมาถามผมครับ
“ได้อยู่แล้วเว้ย” พูดจบผมก็แยกย้ายกันเลยครับ โดยที่ไอ้ฟ้าบอกให้ผมหาตามห้องพัก หอ หรือที่พักอะไรแบบเนี่ย แต่ผมก็แวะแม่งทุกที่อ่ะครับเผื่อจะเจอ แต่ไม่ว่าจะแวะกี่ที่ต่อกี่ที่ก็ไม่มีวี่แววของคิมมันเลยครับ
“เฮ้อ เป็นยังไงบ้างวะ” ไอ้ต้นถามครับ ตอนนี้พวกเรากลับมารวมกันที่บ้านผมอีกครั้งนึงแล้วครับ ซึ่งแต่ละคนที่นั่งอยู่ก็แสดงสีหน้าเครียดไม่ต่างกันเลยครับ หาทั่วกรุงเทพและปริมณฑลก็ไม่เจอครับ
“กูว่าพักผ่อนกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยหาต่อนี่มันก็จะตีสามแล้วนะมึง” ผมหันไปดูนาฬิกาก็จริงอย่างที่ไอ้ฟ้าว่าครับ นี่ผมออกไปตามหาคิมกันตั้งแต่ช่วงหกโมงเย็น เวลามันผ่านไปได้เร็วจริงๆเลย
“พักผ่อนอ่ะถูกต้อง....แต่ตอนนี้กูหิวมากเลยอ่ะมึง” ไอ้ส้มบ่นครับ เมื่อมีคนเปิดประเด็นคนอื่นมันก็คิดตามอ่ะดิครับแล้วมันก็บ่นว่าหิวกันเป็นแถว
“เดี๋ยวกูเรียกป้าน้อยมาทำให้” ผมบอกพวกมันแต่ก็โดนเบรกเอาไว้ก่อน
“ไปรบกวนป้าแกทำไมดึกดื่นเฟียร์อยู่ทั้งคน เดี๋ยวทำจานด่วนให้” พูดจบเฟียร์ก็ลุกเดินเข้าครัวไปเลยครับ โดยมีไอ้วินเดินตามตูดไปด้วยเหมือนเดิม เห็นภาพนี้แล้วก็พาลให้นึกถึงใครอีกคน...ป่านนี้จะเป็นไงบ้างนะ
( Kim Part )
ที่นี่มันที่ไหนแล้วผมมาทำอะไรที่นี่ ผมก้มมองตัวเองตอนนี้ก็ใส่ชุดนักศึกษาอยู่แต่รอบๆบริเวณที่ผมอยู่มันไม่คุ้นเอาซะเลย ถนนหนทางเป็นสีขาวไปหมดแถมมีแสงสว่างไสวไปทั่ว ผมเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายและแล้วอยู่ดีๆทางที่ผมกำลังจะเดินไปนั้น ทางมันก็กลายเป็นสีที่หม่นหมองขึ้นเรื่อยๆ แต่ขาผมก็ก้าวต่อไปไม่หยุดจนกระทั้งรอบๆตัวผมมืดมิดไปหมดและผมก็รู้สึกเหมือนตกลงจากที่สูง ที่นี่ที่ไหน!
( Show Part )
“อาหารเสร็จแล้วมากินกันเถอะจะได้รีบไปนอนกัน” เฟียร์เดินออกมาเรียกพวกผมไปกินครับ ว่าแต่ทำไมไวจังหายเข้าไปสิบนาทีเอง พอพวกผมเดินตามกันเข้าไปก็เจอไอ้วินนั่งโซ้ยมาม่าผัดขี้เมาอยู่ที่โต๊ะครับ
“ไอ้สันดารแดกก่อนเพื่อนได้ยังไง” ไอ้แสบด่ามันครับแล้วก็รีบไปหยิบจานมาตักนั่งกินเหมือนกันไอ้วิน คนอื่นก็เริ่มกรูกันเข้าไปแล้วครับเพราะว่ามันยังไม่ได้กินอะไรกันเลยตั้งแต่เย็น ผมก็รีบกินครับพอเสร็จกันหมดแล้วผมก็บอกให้วางจานไว้เนี่ยแหละเดี๋ยวป้าน้อยมาเห็นตอนเช้าก็เก็บล้างเอง คราวนี้เฟียร์ไม่ปฏิเสธครับ คงเหนื่อยเหมือนกัน
เช้าวันต่อมาผมตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงครับหันไปดูพวกเพื่อนผมมันก็ยังไม่ตื่นกันหรอกครับ แต่เห็นเฟียร์กำลังบิด
ขี้เกียจอยู่ข้างๆไอ้วินที่กำลังนอนสลบไสลไม่รู้เรื่องอยู่
“ตื่นเช้าจังนะครับพี่โชว์” เฟียร์พูดแล้วยิ้มโชว์ฟันขาวให้ผม
“เหมือนกันแหละ” ผมตอบกลับแล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จพออกมาพวกมันก็ยังไม่ตื่นครับ มีแต่เฟียร์นั่งรออาบน้ำกับไอ้วินที่พึ่งงัวเงียตื่น แต่แม่งโคตรสุดยอดเลยพึ่งตื่นแท้ๆเสือกยังนัวเนียเฟียร์อีก
คน-เอี้ย-อะไรวะโคตรหื่นเลย(มึงด่าใครช่วยดูจากกระจกด้วยไอ้ควาย)
“แล้ววันนี้เอายังไง” ไอ้วินพูดครับ
“นั้นดิหากันทั่วเขตปริมณฑลหมดแล้วยังไม่เจอเลย” ต่อด้วยไอ้ต้น
“กูว่าคงต้องออกต่างจังหวัดแล้วล่ะ” ไอ้ส้มบอก
“เดี๋ยวก่อนนะ” เฟียร์พูดขัดขึ้นทำให้พวกเรามองตรงไปที่เฟียร์
“มีอะไรเหรอเฟียร์” ไอ้แป้งถามครับ
“ผมหากันแบบนี้ทั้งชาติก็ไม่เจอหรอก” เมื่อเฟียร์พูดทุกคนก็เห็นด้วย เพราะมันเป็นการหาตัวกันแบบสุ่มสี่
สุ่มห้า ไม่มีทิศไม่มีทาง
“แล้วจะทำยังไงละครับ” ไอ้สัดวินแม่งหื่น 24 ชั่วโมงเลยปากถามก็จริงแต่มึงถามแบบนี้มึงจูบน้องไปเลย
ไม่ดีกว่าเหรอ
“ก่อนอื่นเฟียร์ขอถามก่อนนะว่าคิมทำไมถึงต้องมาอยู่บ้านพี่”
“เห็นว่าแม่ป่วยอะไรทำนองเนี่ยแต่พี่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” ผมตอบตามข้อมูลที่รู้มาครับ
“โอเค แล้วบ้านเดิมของคิมอยู่ที่ไหน”
“พี่ไม่รู้”
“อืม แล้วคิมเคยแนะนำเพื่อนให้พี่รู้จักบ้างไหม”
“ก็มีไอ้เต้คนเดียวอ่ะ”
“…” เฟียร์ก็นิ่งไปครับเหมือนกำลังใช้ความคิด
“ผมว่าพี่โทรถามแม่พี่ดีกว่าว่าบ้านคิมอยู่ที่ไหน”
“เออว่ะ จริงด้วย” เมื่อเฟียร์พูดเสนอพวกเราก็เฮเลยครับทำไมถึงคิดไม่ได้วะเนี่ย ผมก็รีบต่อสายหาคุณหญิง
ทันทีครับ
“ฮัลโหลคุณหญิงครับ”
(ว่าไงคุณลูกชาย ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหาแม่เลยนะ)
“แหม แม่อย่าน้อยใจไม่เลยครับ ขี้น้อยใจมากเดี๋ยวแก่นะ”
(ว้ายตายแล้ว แม่ก็พูดไปงั้นแหละลูกน้อยจงน้อยใจอะไรไม่มี๊) ฮ่าๆผมรู้ครับแม่ผมกลัวความแก่ยิ่งกว่ากิ้งกือ
ซะอีก
“ผมมีอะไรจะถามหน่อยครับแม่”
(มีอะไรล่ะลูก)
“บ้านของคิมอยู่ที่ไหนอ่ะแม่”
(ถามทำไมล่ะลูกมีอะไรหรือเปล่า) เอาล่ะสิเสียงแม่ผมเริ่มเข้มแล้วด้วย บ่งบอกได้เลยว่าคนขี้เล่นเมื่อกี้
หายไปแล้ว
“ก็ผมพาน้องมาบ้านน่ะแม่แต่น้องหลับเลยไม่อยากกวน” แถชัดๆ เวรเอ้ย ขอโทษละกันนะครับแม่
(แล้วไปแม่ก็นึกว่ามีอะไร อยู่ราชบุรีแล้วใช่ไหมลูก) โหไกลจังวะ
“ครับ” แล้วแม่ผมก็บอกที่อยู่น้องมาผมก็จดเอาไว้ครับเมื่อเสร็จธุระแล้วผมก็วางสายอย่างเร่งด่วน
“เป็นไงวะมึง” ไอ้วินถามครับ
“เรียบร้อย” พูดจบผมก็วิ่งออกจากบ้านเลยครับไม่ฟังเสียงท้วงของพวกมันด้วย มันก็โทรตามครับแต่ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจัดการเอง
ผมขับรถมาได้ประมาณสองชั่วโมงก็ถึงราชบุรีครับพอมาถึงผมก็ไปตามที่อยู่ของบ้านคิมที่จดเอาไว้ ไปถูกบ้างผิดบ้างต้องคอยถามทางคนแถวนั้นตลอดจนในที่สุดผมก็ถึงเป้าหมาย....สภาพบ้านเป็นแบบบ้านจัดสรรค์ขนาดกลางเหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัวเล็กๆไม่ได้ใหญ่มากเหมือนบ้านผมแต่มันก็หรูมากในระดับนึงเลยครับ แต่เอ๊ะนี่ก็มืดแล้วทำไมไฟมืดหมดบ้านแถมประตูหน้าบ้านก็เปิดอ้าอีกต่างหาก และเมื่อผมเดินเข้ามาในบ้านก็เปิดไฟทั่วบ้านเลยครับ และผมก็เห็นร่างของคนที่คุ้นเคยนอนอยู่บนโซฟาแต่....
“คิม!
Lesson 32
( Show Part )
“คิมทำไมเป็นแบบนี้!” สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าตอนนี้ทำให้ผมใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลยครับกองขวดเบียร์ที่เยอะมากถ้าเอาไปขายคงได้หลายตังเลยครับ ปกติน้องไม่กินของพวกนี้นิ แถมน้องยังดูโทรมมากๆขอบตาดำปี๋ไม่สดใสเหมือนตอนที่ผมเจอครั้งล่าสุดเลย
“แม่ แม่กลับมาหาคิมเถอะนะแม่ แม่ไม่อยู่แล้วคิมจะอยู่กับใคร ฮือๆ ฮือๆ” น้องร้องไห้ใหญ่เลยครับ ผมว่าผมรู้สาเหตุที่น้องเป็นแบบนี้แล้วแหละครับ ผมรีบต่อโทรศัพท์หาแม่ทันทีครับ
“แม่ครับ”
(ว่าไงลูก)
“แม่คิม...เสียแล้วนะครับ”
(ว่าไงนะ! ตายแล้วทำไมพึ่งโทรบอกแม่ล่ะลูก) ผมจึงต้องเล่าให้แม่ฟังครับตั้งแต่ที่ผมงอนน้อง แล้วน้องก็หายไป
(นี่โกหกแม่เหรอโชว์)
“แม่ผมไม่ได้ตั้งใจ แค่นี้ก่อนนะแม่ผมดูน้องก่อน” ผมปล่อยให้น้องนอนตรงโซฟาเหมือนเดิมแหละครับส่วนผมก็เคลียร์ขวดเบียร์ที่กระจายอยู่เต็มบ้านนี้ให้มันหมดๆไป กว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปพอสมควรแต่มันทำให้บ้านโล่งขึ้นเยอะเลยครับ
“อึก...ฮึก...แม่ แม่จ๋า อึก อึก” ผมสงสารน้องจับใจเลยครับที่ผมรู้จากแม่คือน้องเหลือแม่ที่เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียว ถ้าแม่น้องจากไปแล้วก็เท่ากับความน้องต้องอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยวเลยน่ะสิ
“อึบ...ฮึบ” ผมอุ้มน้องแล้วพาขึ้นมาชั้นสองของบ้านครับมันมีห้องนอนอยู่สามห้องผมก็เปิดสุ่มๆเรื่อยจนเจอห้องที่คิดว่าน่าจะเป็นห้องของน้องเอง
“เฮ้อ~ ทำไมเป็นไปได้ขนาดนี้นะ” ผมนั่งมองร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง ตัวนี่แดงเถือกเลยครับเห็นแบบนี้
ผมว่าผมเช็ดตัวให้น้องดีกว่า
“อ่ะเดี๋ยวถอดเสื้อผ้าหน่อยนะคิม” ผมจัดน้องถอดเสื้อผ้าเลยครับผิวน้องจากขาวๆนี่กลายเป็นแดงไปทั้งตัว
เลยครับ แล้วอยู่ๆน้องก็สะดุ้งขึ้น
“แม่! แม่อย่าไป!” น้องแผดเสียงร้องจนผมตกใจ แต่น้องเกาะผมไว้แน่นมากๆเกาะเหมือนกลัวว่าจะหายไปไหน
“แม่อย่าทิ้งหนูไปสิ มีแม่คนเดียวที่รักหนู แม่จะทิ้งหนูไว้คนเดียวแม่ไม่รักหนูแล้วเหรอ ฮือๆ” ผมน้ำตาไหลตามเลยครับผมสงสารน้องมากๆ เห็นน้องเป็นแบบนี้ผมอยากเป็นแทนจัง
“ไม่เป็นไรนะครับ” ผมพูดปลอบแล้วก็กอดน้องเอาไว้แน่นจนน้องนิ่งไป สรุปคืนนั้นผมไม่ได้เช็ดตัวน้องเลยครับแถมน้องไม่ได้ใส่เสื้อผ้าด้วยแต่ผมก็เอาผ้านวมห่อตัวน้องไว้เพราะแอร์มันก็ค่อนข้างหนาว ไม่งั้นเดี๋ยวน้องจะไม่สบาย
ผมตื่นขึ้นมาก็ตอนเช้าอีกวันนึงผมหันไปดูคนที่ผมนอนกอดไว้ทั้งคืนก็พบว่ายังไม่ตื่นครับแถมน้องยังนอน
เกาะผมท่าเดิมเลยครับและเมื่อผมขยับตัวน้องก็รู้สึกตัวครับ
“…”
“…”
“เป็นยังไงบ้าง” ผมถามก่อนแล้วเอามือไปเกี่ยผมที่มันยุ่งจนปิดหน้าของน้อง
“พี่โชว์...ฮึก....พี่โชว์...ฮือๆ อึก.....ฮือๆ” น้องเข้ามากอดผมเองเลยครับแล้วก็ร้องไห้อย่างหนัก ขอย้ำว่าหนักมากๆคนอะไรร้องไห้นานติดต่อกันสามชั่วโมงไม่หยุดเลย ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้เลยต้องปล่อยแล้วคอยปลอบ คอยกอดเอาไว้
“อ้าว หลับซะละ” ผมวางนอนลงแบบค่อยๆเพราะกลัวว่าน้องจะตื่น
“นอนซะนะครับ” คงจะเพลียเลยหลับไป ผมจึงใช้จังหวะนี้ไปซื้อโจ๊กแถวนั้นพร้อมกับอาหารสำเร็จรูปอีกจำนวนมากเลยครับ จะได้ไม่ต้องออกมาอีก ดูท่าทางผมคงยังต้องอยู่ที่นี่อีกนานครับและในขณะที่ผมกำลังจอดรถอยู่นั้นผมก็เห็นเหมือนคนยืนอยู่ที่ระเบียงชั้นสองของบ้าน แต่เอ๊ะ ทั้งบ้านมีแค่คิมอยู่คนเดียวนิ แล้วห้องนั้นมันตรงกับห้องคิมด้วยหรือว่า!
“คิม คิม!” ผมรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองเลยครับพอเข้าไปในห้องน้องกำลังปีนรั้วกั้นระเบียงผมก็รีบไปคว้าตัวกลับมา
“จะทำอะไร!” ผมตวาดถามน้องเสียงดังด้วยความตกใจ เพราะน้องเปรียบเสมือนกับเป็นดวงใจของผม
“คิมจะไปหาแม่”
“ไม่ได้นะคิม คิมต้องอยู่กับพี่สิ” ผมรีบปิดประตูเลื่อนออกระเบียงเลยครับแล้วก็ดึงม่านปิดไปด้วย
“ไม่เอา มีคนบอกว่าถ้าคิมเดินตามเค้าไปคิมจะเจอแม่” น้องเริ่มพูดไม่รู้เรื่องครับ นี่ใช่ไหมอาการของคนจิตตก จิตหลอนเนี่ย
“หยุด! แล้วฟังพี่แม่คิมไปสบายแล้วครับ คิมอยากให้แม่ต้องเป็นห่วงคิมเหรอ” ผมพยายามหว่านล้อมน้องไว้ครับกลัวน้องจะทำอีก
“แต่คิมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีแม่ ฮึก...ฮือ” แล้วน้องก็ร้องไห้ต่อครับ ผมก็ลูบหัวปลอบจนน้องนิ่งหลับไป ผมอยากโทรศัพท์จังแต่มันอยู่ในรถผมเลยต้องอุ้มน้องลงมาชั้นล่างเพื่อเอาโทรศัพท์ ถามว่าทำไมต้องอุ้มมาด้วย...
เพราะเดี๋ยวน้องจะทำอะไรบ้าๆแบบนั้นอีก
“ฮัลโหลไอ้วิน”
(เออว่าไงวะ)
“มึงมาหากูหน่อยดิ กูว่าไม่น่าไว้ใจว่ะ”
(มีอะไรวะ)
“มึงคิดดูกูออกไปซื้อของแปปเดียวกลับมาคิมจะฆ่าตัวตาย บอกว่ามีคนชวนให้ไปเจอแม่…กูเลยปล่อยห่างตัวไม่ได้เลยเนี่ย แถมตอนกูมาเห็นตอนแรกนะมึงขวดเบียร์กระจายเต็มบ้านไปหมด”
(เฮ้ย กูว่าชักไม่ดีแล้วว่ะเดี๋ยวกูตามไปบ่ายๆคงถึง แค่นี้แหละ) พูดจบมันก็วางสายไปครับ ส่วนผมก็นั่งมองคนหลับอยู่บนเตียงครับจนผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้แต่ผมก็ยังกอดน้องไว้แน่นเหมือนเดิมครับ
“พี่โชว์” น้องเรียกชื่อผมครับ
“ครับ” ถึงเสียงมันจะเบามากๆแต่ผมก็ได้ยินเพราะผมนอนระแวงตลอดเวลากลัวน้องจะหายไปจากอ้อมแขนของผม
“แม่คิมไปไหนครับ” น้องถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“…”
“ผมถามว่าแม่ผมไปไหนครับ...อ๋อ สงสัยจะไปธุระ” ผมมองหน้าน้อง น้องก็สงสัยครับ
“พี่โชว์มองหน้าคิมทำไม เดี๋ยวคิมฟ้องแม่นะ ฮ่าๆ”
“คิมครับ พอได้แล้ว”
“อะไรพี่โชว์นี่พูดแปลกๆ เดี๋ยวผมโทรหาแม่ก่อนนะ”
“คิม!” ผมตวาดใส่น้องอีกแล้วอ่ะครับแต่มันอดไม่ได้จริงๆ
“หยุดหลอกตัวเองซักทีแม่คิมน่ะไปสบายแล้วนะครับ!” ผมพูดชัดเจนเสียงดังฟังชัด น้องก้มหน้างิดเลยครับตัวก็เริ่มสั่นเทาด้วยแรงสะอื้น
“คิมครับ” ผมยื่นมือไปแตะตัวน้องครับ “ไม่จริง! ไม่จริง ฮือ....อึก....ม่าย!” น้องกรีดร้องจนผมปวดใจ ผมไม่อยากเห็นน้องทรมานแบบนี้เลยครับ
และน้องก็สลบไปน้องจะต้องทรมานแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน!
|